ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    . Special one ♡ ( chanbaek )

    ลำดับตอนที่ #5 : . 04 .

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 58


    . 04 .

     

     

         ที่หน้าต่างบริเวณหน้าลิฟท์ของแต่ละชั้น ถ้ามายืนแล้วมองลงไปข้างล่าง จะทำให้เห็นคนที่เดินเข้าไปในฟิตเนสและคนที่เข้าออกตึกโดยใช้ประตูฝั่งฟิตเนส และเพราะเหตุผลนี้เลยทำให้ทั้งแบคฮยอนและเซฮุนมายืนมองอยู่ตรงหน้าต่างได้เกือบชั่วโมงแล้ว

     

    นี่มึงจะมายืนรอส่องเขาอีกนานมั้ย โคตรกะโหลกอ่ะ  "


              " แล้วกูทำอะไรได้มากกว่านี้เล่า ! "


              " ก็ไลน์จากพี่ลู่ไง ถ้าเชื่อกูนะ ป่านนี้ได้คุยละ "


              " มึงว่าดีหรอวะ "


              " แล้วทำไมจะไม่ดีวะ "


              " ไม่รู้ดิ "


              " เอาโทรศัพท์มาดิ้ จะแอดไลน์พี่ลู่ให้ "


              " หะ ! "


              " พี่ลู่หานจะคุยกับมึงอ่ะ " แบคฮยอนพยักหน้า เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งให้เซฮุน คนตัวสูงหลังจากได้รับโทรศัพท์แล้วก็กดแอดไลน์ของพี่รหัสตัวเองเข้าเครื่องแบคฮยอนทันที ก่อนจะส่งคืนให้เจ้าของเครื่อง

     

              ลูลู่ : อันยอง น้องแบคฮยอน :)


              แบคฮยอนนี่ : หวัดดีครับพี่ลู่หาน


              ลูลู่ : ตกลงน้องแบคชอบชานยอลหรอ


              แบคฮยอนนี่ : เอ่อ มั้งครับ 555


              ลูลู่ : 55555 พี่ไม่คิดเลยอ่ะว่าคนอย่างมันจะมีคนมาชอบด้วย


              แบคฮยอนนี่ : ทำไมอ่ะพี่ลู่ พี่เขาก็ดีไม่ใช่หรอ


              ลูลู่ : ดี ๆ รับประกันเลย แต่คนไม่ค่อยมาชอบมันหรอก ถึงมันจะหล่อแต่มันอึน ๆ เด็กเรียนอะไรงี้ไง


              แบคฮยอนนี่ : อ๋อ


              ลูลู่ : แล้วน้องแบคจะเอาไลน์มันจากพี่เลยมั้ย หรือว่าจะไปขอเอง


              แบคฮยอนนี่ : จริง ๆ แบคก็อยากขอเองนะ แต่ไม่กล้าอ่ะ


              ลูลู่ : พี่ว่าขอเองก็ดีนะ มันจะได้รู้ว่าเรา รู้สึกดีกับมัน 


              แบคฮยอนนี่ : แล้วถ้าอยู่ดี ๆ แบคไปขอ เขาจะไม่ตกใจหรอพี่ลู่


              ลูลู่ : ไม่ตกใจหรอก แบคเคยคุยกับมันบ้างหรือเปล่า ?


              แบคฮยอนนี่ : เคยแค่นิดนึงอ่ะ คุยเรื่องที่เรียน เรื่องสอบ 555


              ลูลู่ : อ๋อ งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก ไปขอเลย


              แบคฮยอนนี่ : โอเค แต่ถ้าสุดท้ายแบคไม่กล้า ก็คงมาขอจากพี่ลู่นะ


              ลูลู่ : 555 ได้เลย สู้สู้นะ พี่เอาใจช่วย


              แบคฮยอนนี่ : ขอบคุณครับ :)

     

         ผมเดินแชทไลน์กับพี่ลู่หานมาตามทางจนกระทั่งถึงห้อง ก็วางโทรศัพท์แล้วนึกถึงสิ่งที่คุยกับพี่เขาเมื่อกี้ ดีเหมือนกันนะที่ได้คุยกับพี่ลู่หาน เขาเพิ่มกำลังใจแล้วก็ความกล้าให้ผมเยอะเลย ลองดูซักหน่อยละกัน ถ้ามันจะเสียใจก็คงไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ถือว่าได้ลองให้โอกาสตัวเองละกันเนอะ


    .


         เวลามีเรื่องกังวลหรือไม่สบายใจ แบคฮยอนชอบลงมาเดินที่ลานจอดรถใกล้ ๆ กับประตูหนีไฟ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นตรงนี้ ทั้ง ๆ ที่บริเวณนี้ไม่ได้ไกลจากฟิตเนสหรือล็อบบี้เท่าไหร่ แต่มันทำให้เขารู้สึกสงบได้อย่างประหลาด ยิ่งวันไหนมีลมเย็น ๆ พัดผ่านมาแบบนี้ก็ยิ่งทำให้รู้สึกสบายใจมากขึ้น


         แต่ที่วันนี้แบคฮยอนลงมาเดินอยู่ข้างล่างไม่ใช่เพราะเขามีเรื่องกังวลอะไรหรอก เป็นเพราะเพื่อน ๆ ที่มานั่งอ่านหนังสือรวมกันที่ห้องของเขาตอนนี้มากกว่า อาทิตย์หน้าจะสอบมิดเทอมแล้ว เซฮุนก็เลยนัดเพื่อนมาติวด้วยกัน คนตัวเล็กพยายามอ่านไปพร้อม ๆ กับทุกคน จนสุดท้ายรู้ว่าไม่มีอะไรเข้าหัว เขาเลยตัดสินใจออกมาอ่านหนังสือคนเดียวดีกว่า


         ในระหว่างที่ก้มหน้าเดินวนไปวนมา มีบ้างบางครั้งที่แบคฮยอนเงยหน้าขี้นไปมองคนที่เดินเข้าล็อบบี้ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรกับคนพวกนั้นมากนัก จนกระทั่งบังเอิญเห็นคนตัวสูงใส่เสื้อยืดสีขาวล้วนคอวี กับกางเกงเรียนครัวลายตารางถี่ ๆ สีขาวสลับดำ สะพายกระเป๋าไนกี้สีน้ำเงินเดินเข้าล็อบบี้ เลยทำให้เขานึกอะไรออก แบคฮยอนรีบวิ่งไปตรงทางเข้าประตูฝั่งฟิตเนสซึ่งเป็นคนละฝั่งกับที่ปาร์คชานยอลเดินเข้าไปในล็อบบี้ แต่พอใกล้  ๆ จะถึงประตูเขาก็เปลี่ยนมาเป็นเดินธรรมดาแทน เพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกต


         ตอนนี้ชานยอลเดินไปกดลิฟท์และยืนรออยู่แล้ว แบคฮยอนตีหน้านิ่งเดินเข้าไปและกำลังจะตรงไปที่หน้าลิฟท์ แต่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นซะก่อน

     

              " แบคฮยอน ๆ " ผมหันไปตามเสียงเรียกแล้วเดินเข้าไปหา ก่อนจะเลิกคิ้วถามมินโฮที่เป็นเพื่อนร่วมคลาสวิชาการสื่อสาร


              " ตกลงวิชานี้ ข้อเขียนมีกี่ข้อหรอ "


              " อ๋อ มีสามข้อ "


              " แต่อาจารย์บอกพวกเรามาแค่สองข้อใช่ปะ "


              " ใช่ ๆ " ตอบไปผมก็พะวงไปด้วย กลัวว่าลิฟท์ที่พี่เขากดไว้จะมาซะก่อน หลังจากที่ตอบคำถามมินโฮแล้ว ผมกำลังจะเดินไปแต่มินโฮก็เรียกไว้อีกครั้ง โอ้ย เดี๋ยวลงมาให้ถามเลย สามชั่วโมงก็ยังได้ แต่ตอนนี้ขอไปก่อนได้มั้ยวะ !


              " แล้วแบคฮยอนอ่านหนังสือหรือยัง ? "


              " ยังอ่านไปไม่เท่าไหร่เลยอ่ะ "

     

         หลังจากที่ผมหันไปตอบคำถามมินโฮด้วยความหงุดหงิดนิดหน่อยแล้วก็รีบเดินหนีไปที่ลิฟท์ทันที แต่พอจะถึงลิฟท์ผมก็ค่อย ๆ ลดความเร็วลงเพราะใจเริ่มหวั่น ๆ รู้สึกไม่ค่อยกล้า พี่ชานยอลที่ยืนอยู่ในลิฟท์กดเปิดประตูค้างไว้ก่อนจะชะโงกหน้าออกมานิดหน่อยแล้วถามผม

     

              " ไปมั้ยครับ ? "


              " ไปครับ ๆ "


              " ชั้นไหน ? "


              " ชั้นหกครับ ขอบคุณครับ " พี่ชานยอลยืนพิงลิฟท์ฝั่งขวาที่ใกล้กลับปุ่มกดชั้นต่าง ๆ ส่วนผมยืนเอาหลังพิงกับลิฟท์แล้วมองเขา นี่พี่เขาจำไม่ได้หรือไงเนี้ยว่าเราเคยคุยกัน ไม่ทักเลยอ่ะ ! จะถึงชั้นสามแล้วด้วย ทำยังไงดี ในลิฟท์ก็มีกันอยู่แค่สองคน ขอไปเลยดีมั้ยวะ ในระหว่างที่ผมกำลังคิดวกไปวนมา ลิฟท์ก็เปิดออกที่ชั้นสาม


              " พี่ … ขอไลน์หน่อยดิ "


              " หื้อ ไลน์พี่อะนะ ? "


              " อื้อ " หลังจากที่ผมพูดประโยคนั้นออกไป พี่ชานยอลก็หันมามองผมด้วยแววตา งง ๆ เหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด


              " แล้วจะเอายังไงดีอ่ะ ตรงนี้มันไม่สัญญาณด้วย " คนตัวสูงพูดพร้อมกับเปิดกระเป๋าหยิบไอพอดออกมา แล้วเงยหน้าขึ้นมาถามผม


              " เอ่อ … ของผมก็ไม่มีอ่ะ อยู่ในลิฟท์แบบนี้ "


              " งั้นเอาไงดี ให้พี่แอดเราไปมั้ย หรือยังไง "


              " พี่รู้ไอดีผมหรอ ฮ่า ๆ … เอางี้ดีกว่า " ผมพูดแล้วส่งโทรศัพท์มือถือในมือให้เขาพิมพ์ไอดีไลน์ลงบนแอพที่เป็นโน้ตของไอโฟน ตอนนี้พี่ชานยอลยืนอยู่นอกลิฟท์ ส่วนผมยืนอยู่ในลิฟท์ เราสองคนต่างก็ช่วยกันใช้มือหนึ่งกั้นประตูลิฟท์ไว้ไม่ให้ปิด ซึ่งจริง ๆ แล้วมันมีปุ่ม hold แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเราไม่กด เลือกมายืนขวางประตูแบบนี้กันทำไม แต่ก็ชอบนะ J


              " นี่อ่านวิชาอะไรเนี่ย "


              " การสื่อสารอ่ะ สอบยากปะ "


              " ไม่ยากหรอก ๆ นี่พี่ยังไม่ได้อ่านอะไรเลยเนี่ย "

     

         ในระหว่างที่เขาพยายามยืนนึกไอดีไลน์ของตัวเอง ก็เหลือบมาเห็นกระดาษสรุปวิชาการสื่อสารที่ผมกำลังถืออยู่ เขาก็เลยถามขึ้นมาพร้อมกับก้มหน้าลงไปพิมไอดีลงโทรศัพท์ แล้วส่งโทรศัพท์คืนมาให้ผม ผมรับมาแล้วยิ้มให้ก่อนจะยกมือขึ้นมาบ้ายบาย เขามองผมด้วยสายตา งง ๆ อีกครั้งก่อนจะยิ้มนิดหน่อยแล้วหันหลังเดินกลับห้องไป แล้วผมจะทำยังไงได้นอกจากรีบกดปิดลิฟท์แล้วขึ้นไปอวดเซฮุน ฮิฮิ :D


    .


              " เพื่อนฮุนที่รัก แวร์อาร์ยู้ววววววว ? "


              "  อะไรวะ กูอยู่นี่ " เซฮุนตะโกนตอบผมกลับมาจากในห้องนอน ก่อนจะเดินออกมานั่งที่โซฟา


              " อ้าว แล้วไอพวกนั้นอ่ะ "


              " กูไล่กลับไปหมดแล้ว วุ่นวายชิบหาย … แล้วมึงมีไร "


              " กู … "


              " ว่า "


              " ได้ไลน์พี่เขามาแล้วนะ "


              " หะ ! ถามจริง "


              " จริงสิวะ เรื่องแบบนี้ใครเขาล้อเล่นกัน ! "


              " มึงนี่แม่.ง สุดยอดเลย ไปขอยังไงมาวะ "


              " ก็บังเอิญเจอ แล้วขึ้นลิฟท์มากันสองคนกูเลยขอไลน์เขาอ่ะ "


              " โอโห มึงนี่ไม่เบาเลยนะ "


              " น่ารักสัดอ่ะมึงงงงงงงงงงงง ! "


              " น่ารักอะไรอีกอ่ะ "


              " เขาใช้ไอพอดอ่ะ … ไอเหี้ย คนรุ่นเรากูไม่คิดว่ายังจะมีคนที่ไม่ใช้สมาร์ทโฟนหว่ะ แต่กูไม่ได้ดูถูกหรืออะไรนะ กูมองว่ามันน่ารักดียังไงบอกไม่ถูก ฮิฮิ "


              " พอมึงชอบเขาไปแล้ว เขาจะทำอะไรมึงก็มองว่าน่ารักหมดนั่นแหละ "


              " เออจริง "


              " เออ ดีใจด้วย กูไปนอนก่อนนะ ง่วงหวะ "


              " โอเค เพื่อนรัก จู้บบบบบ "

     

         พอผมบอกลาไอฮุนเรียบร้อยแล้ว มันก็ลุกขึ้นหันมาผลักหัวผมแรง ๆ ทีหนึ่งก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป แต่ไม่เป็นไร พี่ไม่โกรธเพราะตอนนี้พี่อารมณ์ดีมากเลย อิอิ


    .

     

              " ไอชาน มึงว่าคนมาจีบยังไงถึงจะดูน่ารักวะ "


              " ทำไมวะ "


              " กูแค่อยากถามความคิดเพื่อนเฉย ๆ "


              " แล้วไมไม่เห็นถามไอกัมจงเลยอ่ะ "


              " เออ ๆ แล้วไมเพื่อนลู่ไม่ถามกูบ้างล่ะครับ "


              " ก็ดูแล้วมึงไม่น่าจะมีคนมาจีบไง อิอิ "


              " เหี้ยลู่ - - "


              " ตอบมาเหอะหน่า "


              " ก็ … จีบแบบตรง ๆ มั้ง แสดงออกให้รู้แต่ไม่ใช่มาบอก "


              " อือหืม หล่อยันคำตอบเลยนะครับคุณปาร์คชาน "


              " แน่นอนหวะ "

     

         ที่ลู่หานมาถามแบบนี้ก็เพราะอยากจะช่วยรุ่นน้องน่ารัก ๆ อย่างบยอนแบคฮยอนน่ะสิ ลู่หานรู้ว่าความรักครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของชานยอลมันจบไม่ดีเท่าไหร่ เพื่อนของเขาต้องใช้เวลาทำใจอยู่นานมาก กว่าจะกลับมามีความสุขได้ แต่เรื่องนั้นมันก็ผ่านมาซักพักแล้ว ได้เวลาที่ชานยอลจะได้เจอคนรักดีดีซักที … ถ้าพูดกันตามตรง ลู่หานก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเชียร์รุ่นน้องตัวเล็กคนนั้นนักหนาทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรกัน แต่เขาแค่เชื่อเซนท์ของตัวเองก็เท่านั้น

    หรือคุณไม่คิดว่าสองคนนั้นเหมาะสมกัน ? J

    .


         ถึงวันนี้จะเป็นวันอาทิตย์ แต่นักศึกษาที่เป็นที่รู้จักของอาจารย์อย่างผมก็ยังโดนเรียกออกมาช่วยงานที่วิทยาลัยอยู่ดี วันหยุดอะไรไม่มีอย่างชาวบ้านชาวช่องเขาหรอก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เต็มใจออกมาช่วยนะ นอนอยู่ห้องเฉย ๆ มันก็น่าเบื่อ

     

              " ชานยอล เดี๋ยวเข็นพวกปลานี่ไปเก็บที่สโตร์แล้วก็กลับได้เลยนะ "


              " ครับ อาจารย์ "


              " ขอบใจมาก ๆ "

     

         หลังจากคุยกับอาจารย์จบ ผมก็เดินไปหยิบกระเป๋าไนกี้สีน้ำเงินของตัวเองขึ้นมาสะพาย แล้วเข็นรถเข็นจากห้องครัวที่อยู่ในสุดของชั้นไปห้องสโตร์ที่ใช้เก็บวัตถุดิบต่าง ๆ ของวิทยาลัย ซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เพราะบรรยากาศเงียบ ๆ เลยทำให้ผมยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้ประมาณทุ่มกว่า ๆ คนคงกลับกันหมดแล้ว ไม่แปลกที่รอบข้างผมถึงมีแต่ความเงียบกับแสงไฟจากห้องครัวแค่บางห้องเท่านั้น


    .


         ระหว่างทางที่เดินกลับคอนโด ผมมัวแต่นึกว่าวันนี้จะกินอะไรดีเลยไม่ค่อยได้สนใจสิ่งรอบข้างเท่าไหร่ จนกระทั่งเดินมาถึงประตูล็อบบี้ ผมดันเหลือบไปเห็นผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่ง ในมือถือกระดาษ ปากก็ขมุบขมิบเหมือนกำลังท่องอะไรซักอย่างอยู่ ส่วนขาก็เดินวนไปวนมา ถึงตอนนี้จะเริ่มมืดแล้วแต่ผมก็รู้อยู่ดีว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น คือ น้องตัวเล็ก ที่เรียนอยู่ในคลาสของอาจารย์แจซอก


         ผมเดินไปกดลิฟท์และยืนรออยู่ซักพัก ก็เห็นน้องคนนั้นเดินเข้ามาจากประตูฝั่งฟิตเนสและกำลังเดินตรงมาที่ลิฟท์ แต่ก็มีเสียงหนึ่งเรียกขึ้นก่อนน้องเขาเลยหันไปมองและเดินเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาแทน

     

              " แบคฮยอน ๆ " อ่า … ชื่อแบคฮยอนหรอเนี่ย คุยกันตั้งหลายครั้งไม่เคยรู้เลยแฮะ


              " ตกลงวิชานี้ ข้อเขียนมีกี่ข้อหรอ "


              " อ๋อ มีสามข้อ "


              " แต่อาจารย์บอกพวกเรามาแค่สองข้อใช่ปะ "


              " ใช่ ๆ "


              " แล้วแบคฮยอนอ่านหนังสือหรือยัง ? "


              " ยังอ่านไปไม่เท่าไหร่เลยอ่ะ "

     

         น้องแบคฮยอนยืนคุยกับเพื่อนที่โซฟาจนลิฟท์ที่ผมกดไว้ลงมาถึงล็อบบี้แล้ว ผมเลยก้าวเข้าไปข้างในแต่ยังกดเปิดประตูข้างไว้เผื่อว่าน้องเขาจะขึ้นไปด้วย ก็ท่าทางดูเหมือนกำลังจะเดินมาที่ลิฟท์หลายครั้งแล้วนี่นา ยืนอยู่ซักพักก็ไม่มีคนเข้ามาซักที ด้วยความสงสัยผมเลยชะโงกหน้าออกไปถาม

     

              " ไปมั้ยครับ ? "


              " ไปครับ ๆ "


              " ชั้นไหน ? "


              " ชั้นหกครับ ขอบคุณครับ " ผมยืนพิงลิฟท์อยู่ฝั่งขวาที่ใกล้กลับปุ่มกดชั้นต่าง ๆ ส่วนน้องแบคฮยอนยืนเอาหลังพิงกับลิฟท์ ตั้งแต่เข้ามาน้องเขาก็ไม่ได้ทักหรือชวนผมคุยอะไร ผมไม่รู้จะทำตัวยังไงดีก็เลยปล่อยให้บรรยากาศเงียบต่อไป จนลิฟท์เปิดออกที่ชั้นสาม


              " พี่ … ขอไลน์หน่อยดิ "


              " หื้อ ไลน์พี่อะนะ ? "


              " อื้อ " จากที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่ ผมก็หันมามองน้องเขาด้วยแววตา งง ๆ ก็มันไม่แน่ใจว่าเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ขอไลน์ผมเนี่ยนะ ?


              " แล้วจะเอายังไงดีอ่ะ ตรงนี้มันไม่สัญญาณด้วย " ผมถามออกไปพร้อมกับเปิดกระเป๋าหยิบไอพอดออกมา แล้วเงยหน้าขึ้นมาถามคนตัวเล็กตรงหน้า ก็ไอพอดนี่ครับไม่มีเน็ตแล้วจะแอดได้ยังไง


              " เอ่อ … ของผมก็ไม่มีอ่ะ อยู่ในลิฟท์แบบนี้ "


              " งั้นเอาไงดี ให้พี่แอดเราไปมั้ย หรือยังไง "


              " พี่รู้ไอดีผมหรอ ฮ่า ๆ … เอางี้ดีกว่า " เขาพูดแล้วส่งโทรศัพท์มือถือในมือให้ผมพิมพ์ไอดีไลน์ลงบนโน้ตของไอโฟน เป็นเพราะตอนที่เขาเรียกผมมันเป็นตอนที่กำลังจะเดินก้าวออกไปนอกลิฟท์ เลยทำให้ตอนนี้เราสองคนยืนอยู่กันคนละส่วน ผมอยู่ข้างนอก ส่วนน้องแบคฮยอนยังอยู่ในตัวลิฟท์


         น้องเขาคงกลัวว่าระหว่างที่ผมกำลังนึกไอดีไลน์อยู่นั้น ประตูมันจะเลื่อนปิดอัตโนมัติก็เลยใช้แขนซ้ายกั้นไว้ ส่วนผมก็ใช้แขนขวาช่วยกั้นไว้เหมือนกัน … จริง ๆ แล้วมันมีปุ่ม hold นะ ถ้ากดลิฟท์จะเปิดค้างไว้เลยแต่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเราสองคนถึงเลือกที่จะใช้แขนกั้นแทนที่จะหันไปกดปุ่มนั้นให้มันง่าย ๆ


              " นี่อ่านวิชาอะไรเนี่ย "


              " การสื่อสารอ่ะ สอบยากปะ "


              " ไม่ยากหรอก ๆ นี่พี่ยังไม่ได้อ่านอะไรเลยเนี่ย "

     

         ในระหว่างที่ผมกำลังพยายามยืนนึกไอดีไลน์ของตัวเองอยู่ กลัวว่าเขาจะเซ็งที่ผมโง่ลืมแม้กระทั่งไอดีไลน์ของตัวเอง ก็หันไปเห็นกระดาษอะไรซักอย่างอยู่ในมือ เลยถาม ชวนคุยไป พอนึกได้ก็พิมพ์ลงในโทรศัพท์น้องเขาทันทีก่อนจะส่งคืนให้เจ้าของ น้องแบคฮยอนยิ้มให้ผมก่อนจะยกมือขึ้นมาบ้ายบาย ผมยิ้มให้นิดหน่อยแล้วหันหลังเดินกลับห้องไป


         ในหัวผมก็คิดนะว่าน้องเขามาขอไลน์ไปทำไม ถึงความคิดส่วนใหญ่จะบอกว่า น้องเขาก็คงอยากมีรุ่นพี่ไว้ปรึกษาเรื่องเรียนนั่นแหละ แล้วพอดีอยู่คอนโดเดียวกัน ก็เลยขอไลน์ไว้ ' แต่มันก็มีบางจังหวะที่มันรู้สึกว่า น้องตัวเล็กเขาอาจจะสนใจผม มั้ง … ถึงจะดูหลงตัวเองไปหน่อย แต่เป็นใครก็ต้องคิดแบบนี้ทั้งนั้นไม่ใช่หรือไง !


    .

              แบคฮยอนนี่ : ฮัลโหล :D    


              แบคฮยอนนี่ : พี่ชื่อชานยอลหรอเนี่ย คุยกันตั้งหลายทีไม่เคยรู้เลย 555    


              ชานยอล : ชื่อโหลปะละ 5555      


              แบคฮยอนนี่ : เรายังไม่เคยมีคนรู้จักชื่อชานยอล งั้นถือว่าไม่โหลละกัน    


              ชานยอล : ตกลงวันนั้นสอบครัวเป็นยังไงบ้าง ?    


              แบคฮยอนนี่ : อ๋อ เออใช่วันนั้นเรายังเล่าไม่จบเลย เพื่อนพี่ชานยอลมาซะก่อน 555


              แบคฮยอนนี่ : เราตีมายองขึ้นนะเพราะพี่ทีเอมาช่วย ตอนเราเข้าไปอ่ะ กะว่าจะเอา bowl กับ whip แช่เย็นตามที่พี่ชานยอลบอกเลย แต่ตู้เย็นตรงสเตชั่นเราดันเสีย


              ชานยอล : อ้าว ซวยเลย


              แบคฮยอนนี่  : 5555 นั่นดิ


              ชานยอล : แต่ก็ดีแล้ว อย่างน้อยก็ตีขึ้นนะ


              แบคฮยอนนี่ : ช่ายยยยยยยยย


              แบคฮยอนนี่ : นี่พี่ชานยอลไปวิทยาลัยมาหรอ เห็นใส่ชุดครัว


              ชานยอล : ใช่ ๆ ไปช่วยอาจารย์จัดของมาอ่ะ


              แบคฮยอนนี่ : โห วันอาทิตย์เนี่ยนะ


              ชานยอล : อืม แต่ดีแล้วแหละ พี่อยู่ห้องก็ไม่รู้จะทำอะไร


              ชานยอล : พรุ่งนี้มีสอบหรือเปล่า ไม่นอนหรอ


              แบคฮยอนนี่ : มี ๆ ก็วิชาการสื่อสารนั่นแหละ สอบบ่าย ไม่ต้องรีบ 555


              ชานยอล : อ๋อ


              แบคฮยอนนี่ : พี่ชานยอลล่ะ พรุ่งนี้มีสอบมั้ย


              ชานยอล : มี ๆ ตอนเช้าเลย


              ชานยอล : งั้นเดี๋ยวพี่ไปนอนก่อนละกันนะ


              แบคฮยอนนี่ : บ้ายบาย ฝันดีนะพี่ชานยอล J


              ชานยอล : ฝันดี ๆ

     

         หลังจากปรึกษาเพื่อนฮุนและรุ่นพี่อย่างลู่หานแล้ว แบคฮยอนก็ตัดสินใจแอดไลน์ ทักคนตัวสูงไปทำความรู้จัก ชวนคุยทันที … เขาเพิ่งนึกได้ว่าคุยมาหลายครั้งแล้วแต่ดันไม่เคยถามชื่อเลยซักครั้ง เป็นเพราะรู้อยู่แล้วว่ารุ่นพี่ที่เขาชอบชื่อชานยอล ก็เลยไม่ได้ถาม ไม่รู้ว่ามันจะดูผิดปกติหรือเปล่า แต่โชคดีที่เขาตั้งชื่อไลน์เป็นชื่อของตัวเองพอดีเลยทำให้แบคฮยอนทำเนียนเหมือนเพิ่งรู้ไปได้










     

    _______________

     

    อยากได้ก็ต้องรุกค่ะ แบคฮยอนบอกมา อิอิ

    ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
    รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์ 

    O W E N TM.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×