ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    . Special one ♡ ( chanbaek )

    ลำดับตอนที่ #3 : . 02 .

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 58


     . 02 .

     

     







         ชานยอล ลู่หานและจงอินยืนอยู่หน้าตู้กดน้ำตรงบริเวณทางเดินแถวห้องปฏิบัติครัว ในเช้าวันจันทร์ ถึงตอนนี้จะเช้า แต่ลู่หานก็ยังยืนยันจะกดแป็ปซี่กระป๋องจากตู้นี้มาดื่มให้ได้ เพราะเขาคิดว่าถ้าได้กินน้ำอัดลมมันจะทำให้สดชื่น กระปี้กระเปร่า มีแรงทำงานในห้องครัวมากขึ้น

     

              " มึงบ้าหรือโง่ไอลู่ แดกน้ำอัดลมตอนนี้ "


              " เออ เดี๋ยวมึงก็ปวดท้องหรอก "


              " กูแดกข้าวมาแล้วเพื่อน ๆ ไม่ต้องซี "


              " ถ้ามึงปวดท้องตอนอยู่ในครัว กูตบนะ "


              " ดำแล้วยังชั่วอีกนะ มึงอ่ะ ! "


              " กินน้ำเปล่าเหอะ "


              " นี่ ดูพี่ปาร์คกูซะบ้าง หล่อแล้วยังรักสุขภาพด้วย "

     

         จงอินหันมาเบ้ปากใส่ชานยอล ก่อนจะตกลงกันทางสายตาว่าจะลากไอลู่กลับไปหน้าห้องครัว เพื่อเตรียมเข้าเรียน เด็กตัวสูงทั้งสองคนพยักหน้าให้กันนิดหน่อย หันหลังแล้วสอดแขนเข้าไปคล้องแขนของลู่หาน ออกแรงลากกลับมาที่หน้าห้องครัว โดยมีเสียงคนโดนลากโวยวายตลอดทาง

     

    " ไอลู่ เบาเบาดิ เสียงมันก้องนะเว้ย ! "


    " มึงก็ปล่อยกูดิ้ "


    " มึงดื้อเองนะ "


    " ไอเหี้ย พอแล้ว กูเดินเองได้ "

     

         ที่ยังลากลู่หานอยู่แบบนี้ไม่ใช่เพราะเหตุผลเดิมอีกต่อไป เพื่อนทั้งสองคนคงเริ่มสนุกกับการเล่นแบบนี้ไปแล้วมากกว่า แต่เพราะตอนนี้เป็นเวลาเช้า ยังไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ชานยอลกลัวว่าจะโดนดุที่ทำให้เพื่อนโวยวายเสียงดัง เขาจึงเงยหน้าขึ้นไปสำรวจตามชั้นต่าง ๆ ว่ามีคนออกมายืนตรงระเบียงหรือเปล่า ชานยอลมองไปทั่วก็ไม่เห็นใคร นอกจาก  คิ้วบางที่ขมวดเข้าหากันนิดหน่อยพร้อมกับตาเรียวเล็กคู่หนึ่ง ชานยอลยืนสบตากับดวงตาคู่นั้นไม่นาน เจ้าของสายตาคู่นั้นก็ถูกดึงหลบเข้าไป

             

    " อะไรวะ ไอชาน "


    " หื้อ เปล่า "


    " พวกมึงแม่.ง ! "


    " เลิกบ่นเหอะหน่า ไปเรียนได้แล้ว "

     

         ลู่หานทำหน้าบึ้งแล้วยกกำปั้นขึ้นมาต่อยชานยอลเบา ๆ ก่อนจะเดินไปที่กล่องอุปกรณ์ของตัวเองแล้วหยิบมาถือไว้ เดินไปต่อแถวเพื่อตรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าและอุปกรณ์ ก่อนเข้าห้องครัว ชานยอลกับจงอินก็เช่นกัน

        
         ชานยอลจำไม่ได้ว่าดวงตาเรียวเล็กคู่นั้นเป็นของใคร ถึงจะยืนสบตากันแต่มันก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เขารู้สึกเพียงว่าสายตาคู่นั้นมันคุ้นคุ้นก็เท่านั้น      

    .

     

              " เห้ย มาจับกูทำม้ายยยยยยยยย "


              " ปล่อยกู "


    " ไอลู่ เบาเบาดิ เสียงมันก้องนะเว้ย ! "


    " มึงก็ปล่อยกูดิ้ "


    " มึงดื้อเองนะ "


    " ไอเหี้ย พอแล้ว กูเดินเองได้ "

     

         แบคฮยอนเดินไปหลับตาไปตามทางชั้นเรียนที่สามของตึกเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงโวยวายดัง ๆ ที่มาจากชั้นล่าง ทำให้เขารู้สึกตัว สะบัดหัวไล่ความง่วงนิดหน่อย แล้วเดินไปเกาะระเบียงชะโงกหน้าลงไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น นี่ยังเช้าอยู่แท้ ๆ แต่ทำไมถึงมีเสียงดัง  แบคฮยอนก้มลงไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งไว้ผมหน้าม้าตรง ดวงตากลมโต จมูกโด่งเป็นสันกำลังมองขึ้นมาตรงที่เขายืนอยู่ แบคฮยอนยืนสบตากับตาคู่นั้นไม่นาน ก็ถูกดึงเข้ามาซะก่อน

     

              " เห้ย ตกใจหมดเลยไอ้ฮุน "


              " แหม ทำเป็นขวัญอ่อน  นี่ยืนรอกูหรอ "


              " เปล่า "


              " อ้าว แล้วยืนทำไรอ่ะ " เซฮุนพูดพร้อมกับเดินเข้ามา กำลังจะชะโงกลงไปมองข้างล่างแต่แบคฮยอนก็ขัดขึ้นก่อน


              " ยืนหลับ เข้าห้องเหอะ อาจารย์มาแล้ว "


              " อืม ๆ "

     

         แบคฮยอนจำไม่ได้ว่าดวงตากลมโตคู่นั้นเป็นของใคร ถึงจะยืนสบตากันแต่มันก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เขารู้สึกเพียงว่าสายตาคู่นั้นมันคุ้นคุ้นก็เท่านั้น

    .

     

    " อ่ะ  มาต้มพาสต้าให้อาจารย์ต่อที "


    " ครับ "

     

         พี่ทีเอเดินไปต้มเส้นพาสต้าต่อ เพราะตอนนี้อาจารย์จะออกมาอธิบายถึงเส้นที่มีความสุกระดับ Al dente พี่หน้านิ่งคนนั้นยืนต้มไปซักพักก็หันไปมองนาฬิกา แล้วใช้ส้อมจิ้มพาสต้าขึ้นมาหนึ่งชิ้นก่อนจะหันหลังไปชิมระดับความสุก อาจารย์หันไปถามพี่เขาว่าได้หรือยังพร้อมกับเดินเข้าไปลองชิมเอง ทั้งสองคนพยักหน้าหลังจากเห็นตรงกันว่าพาสต้าสุกได้ตามระดับที่ต้องการแล้ว

     

    " ตักไปให้น้องลองชิมด้วยนะ "


    " แล้วเดี๋ยวอันนี้เอาไปล้างเลย "


    " ปรับกล้องให้อาจารย์ด้วย "

     

    พี่ทีเอหน้านิ่งคนนั้นตักแบ่งพาสต้าออกมานิดหน่อยแล้วเดินมาส่งให้เพื่อนในห้องที่นั่งอยู่ข้างหน้าชิม ก่อนจะส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ จนวนครบรอบห้อง เขาเดินเอาหม้อเข้าไปล้างห้องข้างหลังและเดินกลับมายืนเช็ดตรงสเตชั่น ปรับกล้องให้อาจารย์  จากที่อาจารย์สั่งก็ดูเหมือนต้องทำเยอะอยู่แล้ว แต่ถ้ามานั่งมองจริง ๆ บางครั้งอาจารย์ไม่ต้องสั่งหรือพูดอะไร พี่เขาก็จัดการให้อาจารย์เรียบร้อยแล้ว พี่เขาไม่ยืนเฉย ๆ เหม่อหรือเล่นโทรศัพท์เลย สายตาเขามองที่อาจารย์ตลอดว่ากำลังจะต้องการอะไร

     

    " ไม่จดหรอวะ "


    " หื้อ "


    " มึงไม่จดหรอไง "


    " เออหวะ ! "


    " เป็นอะไรเนี่ย ? "


    " เปล่า ๆ กูเหม่อเฉย ๆ "

     

          ผมไม่รู้ตัวเลยว่านั่งจับปากกาเฉย ๆ แล้วมองพี่เขามานานแค่ไหนแล้ว จนกระทั่งเซฮุนทักขึ้นมานั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าเหม่อมานานเหมือนกัน ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปดูของไอ้ฮุนเอาละกัน


    .

    " ยิ้มอะไรวะ เขียน ๆ หยุด ๆ แล้วก็ยิ้มอยู่นั่นแหละ "


    " ห้ะ กู  ยิ้มหรอ "


    " เออดิ บ้าปะเนี้ย "


    " แฮ่ :D "


    " คิดอะไรอยู่วะ มีอะไรปิดบังกูปะ "


    " ทำ working plan ก็ต้องคิดถึงที่อาจารย์สอนในคาบเดโม่ดิ "


    " แล้วมันมีอะไรตลกวะ "


    " ก็อาจารย์ไงตลก ฮ่า ๆ "

     

         เซฮุนมองผมด้วยสายตาสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ แล้วนั่งทำการบ้าน working plan ต่อ working plan เป็นแผนงานที่อธิบายวิธีการทำเมนูต่าง ๆ อาจารย์ให้พวกผมทำเพื่อใช้ดู เป็นตัวช่วยตอนเข้าห้องปฏิบัติครัว ซึ่งทำให้งานเร็วและออกมาถูกต้องมากขึ้น  ในหัวผมคิดถึงเรื่องที่อาจารย์สอนในคาบเดโม่จริง ๆ แต่ไม่ได้ยิ้มเพราะตลกอาจารย์หรอก ยิ้มเพราะในหัวมันแว้บไปนึกถึงพี่ทีเอคนนั้นนิดหน่อยอ่ะ หรือไม่หน่อยวะ ?

     

              " มึง "


              " ว่า " เซฮุนตอบแล้วเงยหน้าจากงานขึ้นมามองผม


              " มึงว่า  พี่ทีเอคนนั้นเขา "


              " หื้อ "


              " เขาน่ารักปะ "


              " ห้ะ มึงชอบเขาหรอ "


              " ไม่รูหวะ เขาก็น่ารักดีอ่ะ ดูเป็นผู้ใหญ่ ดูมีความรับผิดชอบ ถูกชะตายังไงบอกไม่ถูก "


              " สนใจ ? "


              " เออ ประมาณนั้น  อยากลองคุยดู ว่านิสัยจริง ๆ เป็นยังไง "


              " เขาก็  หล่อดี แต่มีแฟนหรือยังเหอะ "


              " เออหวะ ลืมไปเลย ! "       

     

         เห้ย ผมลืมไปได้ยังไงว่าเขาอาจจะมีแฟนแล้ว Oh my god ! แต่มันก็ไม่เป็นไรนะ ยังไม่ได้ชอบเขาซักหน่อยหนิ แค่รู้สึกสนใจ เขาดูน่ารักดีก็แค่นั้น ถ้ามีแฟนแล้วจริง ๆ ก็จบ บ้ายบาย

     

              " แล้วมึงลืมแจฮยอนได้แล้วหรอไง "


              " หื้อ  ก็ไม่เชิง มันไม่มีใครลืมใครได้หรอก กูก็ยังคิดถึงแต่มันไม่ได้ต้องการ ไม่ได้เศร้าแล้ว "


              " อืม ก็ดีแล้วแหละ "


              " แล้วมึงไม่สนใจใครบ้างหรือไง คนคุยก็ตั้งเยอะตั้งแยะ "


              " เฉย ๆ หมดเลยหวะ "


              " งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนน้องเอง " ผมหันไปพูดแหย่ ๆ กับเซฮุนพร้อมกับพาดแขนไปบนช่วงไหล่ของมันด้วย


              " ไอ้หมาเอ้ยยยยยยย "


              " เห้ย ว่ากูทำไมอ่ะ "


              " ดูหนังกัน กูยืม walking dead จากจงแดมา "


              " เห้ย เยี่ยมเลย ! "

     

         เซฮุนหันมามองหน้าผมแล้วหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะลุกไปแกะกล่องซีดีหนังแล้วใส่แผ่นเข้าไปในเครื่องเล่น ส่วนผมก็จัดการเปิดทีวีรอแล้วตบที่นั่งข้าง ๆ บนโซฟาให้มันเดินมานั่งด้วยกัน


    .


         ผมกับเซฮุนเดินเข้ามาในวิทยาลัยพร้อมกับกล่องอุปกรณ์ในมือซ้ายและข้าวเหนียวหมูปิ้งกับน้ำเปล่าในมือขวา ไม่รู้ว่ามาเช้าเกินไปหรือยังไง บนโต๊ะสำหรับวางของถึงยังไม่มีกล่องอุปกรณ์ของเพื่อนในห้องคนไหนเลย

     

              " เรามาเร็วไปหรอวะ "


              " ก็กูบอกมึงแล้ววววววววว "


              " มาเช้าก็ดีแล้วไง ไม่ต้องยืนรอหมูปิ้งนะเว้ย ! "


              " มึงแม่.งอ้าง "

             

         นั่งกินหมูปิ้งไปซักพักเพื่อน ๆ ก็เริ่มทยอยกันมา ทุกคนแยกย้ายไปจัดระเบียบของตนเอง หยิบเสื้อมาใส่ ผูกผ้าพันคอ พันผ้ากันเปื้อนและใส่หมวก ยิ่งใกล้เวลาอาจารย์จะเรียกเข้าห้องทุกคนก็ยิ่งรีบตรวจเช็คตัวเอง บางคนเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ตัดเล็บ ก็วิ่งวุ่นหาที่ตัดเล็บใหญ่ เพราะถ้าจัดการตัวเองไม่เรียบร้อยก่อนจะให้อาจารย์ตรวจก็จะโดนหักคะแนน  ทั้ง ๆ ที่พวกผมไม่มีจะให้หักอยู่แล้วด้วยซ้ำ

     

              " เห้ย มึงสับ Shallot ยังวะ "


              " แล้ว ๆ วางอยู่หน้าเตา "


              " ไอแบคไม่เป็นไรเดี๋ยวกูผัดนี่เอง มึงไปล้างเขียงให้ที "


              " โอเคได้ " ผมหันไปหยิบเขียงเดินไปล้างที่ซิงค์ตามที่ซูโฮบอก ระหว่างเดินกลับไปที่สเตชั่นของตัวเอง ต้องผ่านประตูห้องผมเห็นอาจารย์เปิดประตูยืนคุยกับใครอยู่ เลยหันไปมองนิดหน่อย ก่อนจะรีบหันกลับมาแล้วเดินไปที่สเตชั่นตัวเอง


              " เป็นอะไรวะ ไอแบค "


              " มึง  กูเห็นพี่ทีเอคนนั้นหวะ ยืนคุยกับอาจารย์อยู่ตรงประตู "


              " กูเห็นละ เมื่อกี้เขาเดินผ่านหน้าต่างตรงเนี้ย "


              " มากับใครไม่รู้อ่ะ น่ารักด้วย หรือจะเป็นแฟนเขา "


              " นี่มึงจำไม่ได้จริงดิ "


              " จำอะไรวะ "


              " คนที่มากับพี่หน้านิ่งคนนั้นก็พี่ลู่ไง "


              " ห้ะ จริงอ่ะ "


              " เออดิ มึงจำพี่ลู่ไม่ได้จริง ๆ ใช่มั้ยเนี่ย "


              " เออดิวะ ! "


              " แสดงว่าไม่ใช่แฟนเขาหรอก "


              " รู้ได้ไง "


              " พี่ลู่มีคนคุยแล้ว เขาเคยเล่าให้กูฟังอยู่ "


              " เห้ย ไอ้ฮุน เอา onion มาดิ้ "

     

         เพราะจงแดหันมาบอกให้ช่วยงาน ผมกับเซฮุนก็เลยหยุดคุยเรื่องนี้กันไปก่อน แล้วกลับมาทำงานกลุ่มตามปกติ ยังไงเรื่องนี้ก็มีเวลาคุยกันอีกยาวอยู่แล้ว


    .

              " งั้นมึงคิดว่าเขาเป็นเพื่อนกันหรอ ? "


              " ก็น่าจะใช่ "


              " เขาอาจจะเป็นรุ่นพี่ของพี่ลู่ก็ได้ "


              " เป็นรุ่นพี่แล้วไงวะ "


              " ถ้าอยู่ปีสี่ ถึงจะยังไม่มีแฟน กูก็กะว่าจะไม่คุย "


              " ทำไมอ่ะ "


              " ก็ปีสี่จะจบอยู่แล้วอ่ะ กลัวคุยแล้วผูกพันต้องมาทำใจอีก "


    " งั้นเดี๋ยวกูถามพี่ลู่ให้ "


              " เห้ย อย่าเพิ่ง "


              " ทำไมเล่า ถามไปเลย มึงจะได้รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ "


              " จะดีหรอวะ แล้วเขาจะไม่ไปบอกเพื่อนเขาหรอ ว่ามีคนมาถามถึง "


              " พี่ลู่ไว้ใจได้ "


              " … " ผมนั่งกัดปาก คิ้วขมวดอยู่บนโซฟาในห้องเพราะไม่รู้จะตัดสินใจยังไงกับสถานการณ์นี้ดี อยากรู้มันก็อยากแต่ถ้าเกิดเขาไม่มีแฟน แล้วอยากจีบเขาขึ้นมา ก็กลัวว่าเพื่อนเขาจะไปบอกซะก่อน เอ้ย แต่ยังไงพี่เขาก็ต้องรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรอวะ !


              " เอาไง "


              " ถามเลยก็ได้ "


              " แปป " เซฮุนเงียบไปซักพัก แล้วก้มหน้าก้มตาพิมพ์แชทในโทรศัพท์อย่างเดียว ท่าทางมันคงจะขอข้อมูลพี่คนนั้นจากพี่ลู่อยู่ ผมนั่งมองมันด้วยใจจดจ่อ ถึงจะแค่รู้สึกสนใจ แต่มันก็ลุ้นอยู่เหมือนกันนะ


              " พี่ลู่บอกว่า  "


              "  "


              " ฮ่า ๆ หน้ามึงตลกหวะ ใจเย็นดิ "


              " ไอเหี้ยฮุน ! "


              " พี่เขาชื่อชานยอล อยู่ปีสาม เป็นเพื่อนสนิทกับพี่ลู่ นิสัยดี เป็นผู้นำ เป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ เป็นคนสนุก ๆ ตลก ๆ ที่สำคัญ ยังโสดนะครับคุณบยอน "


              " จริงดิ :D "


              " โอ้โห ปากมึงจะฉีกถึงหูแล้วหวะแบคฮยอน "


              " มึงว่าเอาไงต่อดีวะ "


              " ทำมาเป็นถาม ในใจมึงคิดไปแล้วอ่ะดิว่าจะจีบเขายังไง "


              " อุ้ย รู้ด้วยหรอ " ผมพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดปาก กระพริบตาปริบ ๆ


              " ไอสัด ให้กูขอไลน์จากพี่ลู่เลยปะ "


              " เห้ย เดี๋ยว ๆ ใจเย็น "


              " อ้าว ทำไมอ่ะ กูว่าทุกอย่างมันเข้าทางมึงมากเลยนะเว้ย "


              " ขอกูตัดสินใจก่อนดิ ว่าจะเอายังไงดี "


              " อืม  เอายังไงก็บอกละกัน "

     

         อยู่ ๆ ประโยค ' แต่ฉันไม่แน่ใจ ฉันยังจำเรื่องของสุนัขจิ้งจอกได้ เราเสี่ยงต่อการร้องไห้เมื่อเราปล่อยตัวให้สร้างความสัมพันธ์ขึ้นมา ' จากหนังสือเจ้าชายน้อยที่ผมเคยอ่านก็ลอยเข้ามาในหัว กว่าผมจะทำใจเรื่องอันแจฮยอนได้ก็ใช้เวลาไปเป็นปี ถ้าหากว่าต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง ผมก็อยากคิดทบทวนให้ดีซะก่อน  เผื่อว่าบางทีผมอาจจะแค่ชอบเขาแบบรุ่นพี่คนหนึ่งก็ได้


         บางทีถ้าผมไม่ได้คิดถึงเขาบ่อยขนาดนี้น่ะนะ .

    .

     

         วันนี้ผมมีเรียนตอนเช้าและไม่ได้เรียนปฏิบัติครัว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็กำลังเดินอยู่บริเวณห้องครัวทั้งหลายทั้งแหล่เพราะคุณลู่หานจะเอารองเท้าเซฟตี้ชูมาเก็บไว้ที่ล็อกเกอร์ เนื่องจากขี้เกียจเดินถือไปถือมา ปกติแล้วไอลู่จะเก็บรองเท้าไว้ที่ล็อกเกอร์ทุกครั้ง แต่เพราะครั้งที่แล้วรองเท้ามันกาวหลุดเอาไปซ่อมมา เลยทำให้รองเท้าที่ควรจะอยู่ในล็อกเกอร์ มาอยู่ในมือมันตอนนี้แทน

     

    " เดี๋ยวบ่ายก็เรียนเบเกอรี่แล้ว จะรีบเอามาเก็บทำไมวะ "


    " ขี้เกียจแบกไปแบกมานี่หว่า แวะมาเก็บแค่แปปเดียวเอง มึงจะบ่นทำไม "


    " ก็กูขี้เกียจไงงงงงงงงง "


    " นักศึกษา ๆ " ผมกับลู่หานหันไปตามเสียงเรียกของอาจารย์คนหนึ่ง แล้วเดินเข้าไปหา เลยรู้ว่าอาจารย์คนนั้นคืออาจารย์แจซอกคนที่ผมไปช่วยเป็นทีเอให้ทุกวันพุธ


    " สวัสดีครับอาจารย์ "


    " สวัสดีครับ "


    " อืม อาจารย์จะบอกเราว่าวันพุธหน้า ไม่ต้องเข้ามาช่วยคาบเดโม่ก็ได้นะ เพราะอาทิตย์หน้าอาจารย์สอนแต่ทฤษฏีแล้วล่ะ "


    " อ๋อ ครับ "


    " ขอบใจเรามาก " อาจารย์แจซอกพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาตบไหล่เบา ๆ


    " ไม่เป็นไรครับ " ผมโค้งให้อาจารย์นิดหน่อย แล้วเหลือบไปเห็นน้องคนหนึ่งยืนอยู่ในห้องครัว กำลังมองมาทางผมกับลู่หาน แต่พอสายตาของเราทั้งคู่ประสานกันเท่านั้นแหละน้องเขาก็รีบหันกลับ เดินไปทันที  หื้อ ใช่น้องตัวเล็กคนนั้นหรือเปล่าวะ ? แล้วหันหน้าหนีทำไมล่ะ ?


    .


             " ดีนะไอชานที่กูเอารองเท้าไปเก็บก่อน "


             " พี่ลู่นี่ฉลาดจริง ๆ เลยครับ ราวกับรู้ล่วงหน้าเลยครับว่าจะไม่ได้เรียน "


    " ทำไมอาจารย์เขาต้องไม่มาวันนี้วะ กูขี้เกียจเรียนเศรษฐศาสตร์ "


    " ดีมาก ให้มันรู้ซะบ้างนะชานยอลว่าใครเป็นใคร "


    " สนใจกูบ้างดิ  ยิ้มอะไรอยู่ได้ไอ้ลู่ คุยกับใครอ่ะ ! "


             " เห้ย ไม่เสือ.กนะดำ "

     

         ผมนั่งกรอกตาไปมาเพราะตั้งแต่เข้าเรียนมาเพื่อนทั้งสองคนก็ยังไม่หยุดแกล้งกันไปแกล้งกันมาซักที เดี๋ยวชะโงกหน้าไปหาบ้าง แกล้งหยิบโทรศัพท์ไปบ้าง ปิดหนังสือเรียนบ้าง แกล้งกันทั้ง ๆ ที่ผมนั่งคั่นกลางอยู่เนี่ย ! สาบานเถอะว่ามึงสองคนปีสามแล้ว เอาแต่เล่นกันเป็นเด็กอนุบาลไปได้

     

              " ไอชาน มึงดูดิ้ ไอลู่มันคุยกับใครวะ "


              " แล้วมึงจะไปยุ่งกับมันทำไมเล่า "


              " เดี๋ยวมันมีแฟนแล้วทิ้งเรานะเว้ย ! "


              " ไร้สาระหน่า "


              " เออ ไร้สาระ แต่อาจจะไม่ใช่กูก็ได้นะที่มีแฟนก่อน อิอิ "


              " มึงหมายความว่าไงวะ "


              " ไม่บอกเว้ย "


              " เจอกูแน่ไอลู่  อย่าเผลอนะมึง "


              " กูว่ามึงสองคนนั่นแหละจะเจออาจารย์ เขามองมาหลายรอบละ "


              " อุ่ย "

     

         หลังจากที่ผมพูดออกไปแบบนั้น ไอลู่ก็รีบเก็บโทรศัพท์ที่เล่นมาตั้งแต่ต้นคาบใส่กระเป๋า ส่วนไอจงอินก็รีบก้มหน้าก้มตา หยิบปากกามาขีด ๆ ในหนังสือไปมั่ว ๆ ผมส่ายหัวนิดหน่อยให้กับมันสองคน ก่อนจะฟังอาจารย์สอนต่อ เออ เพื่อนก็มีอยู่แค่สองคน ดีดีทั้งนั้นเลย.

     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    _______________
     
     
    ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
    รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์ 


    O W E N TM.

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×