คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : . 02 .
. 02 .
ชานยอล ลู่หานและจงอินยืนอยู่หน้าตู้กดน้ำตรงบริเวณทางเดินแถวห้องปฏิบัติครัว ในเช้าวันจันทร์ ถึงตอนนี้จะเช้า แต่ลู่หานก็ยังยืนยันจะกดแป็ปซี่กระป๋องจากตู้นี้มาดื่มให้ได้ เพราะเขาคิดว่าถ้าได้กินน้ำอัดลมมันจะทำให้สดชื่น กระปี้กระเปร่า มีแรงทำงานในห้องครัวมากขึ้น
" มึงบ้าหรือโง่ไอลู่ แดกน้ำอัดลมตอนนี้ "
" เออ เดี๋ยวมึงก็ปวดท้องหรอก "
" กูแดกข้าวมาแล้วเพื่อน ๆ ไม่ต้องซี "
" ถ้ามึงปวดท้องตอนอยู่ในครัว กูตบนะ "
" ดำแล้วยังชั่วอีกนะ มึงอ่ะ ! "
" กินน้ำเปล่าเหอะ "
" นี่ ดูพี่ปาร์คกูซะบ้าง หล่อแล้วยังรักสุขภาพด้วย "
จงอินหันมาเบ้ปากใส่ชานยอล ก่อนจะตกลงกันทางสายตาว่าจะลากไอลู่กลับไปหน้าห้องครัว เพื่อเตรียมเข้าเรียน เด็กตัวสูงทั้งสองคนพยักหน้าให้กันนิดหน่อย หันหลังแล้วสอดแขนเข้าไปคล้องแขนของลู่หาน ออกแรงลากกลับมาที่หน้าห้องครัว โดยมีเสียงคนโดนลากโวยวายตลอดทาง
" ไอลู่ เบาเบาดิ เสียงมันก้องนะเว้ย ! "
" มึงก็ปล่อยกูดิ้ "
" มึงดื้อเองนะ "
" ไอเหี้ย พอแล้ว กูเดินเองได้ "
ที่ยังลากลู่หานอยู่แบบนี้ไม่ใช่เพราะเหตุผลเดิมอีกต่อไป เพื่อนทั้งสองคนคงเริ่มสนุกกับการเล่นแบบนี้ไปแล้วมากกว่า แต่เพราะตอนนี้เป็นเวลาเช้า ยังไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ชานยอลกลัวว่าจะโดนดุที่ทำให้เพื่อนโวยวายเสียงดัง เขาจึงเงยหน้าขึ้นไปสำรวจตามชั้นต่าง ๆ ว่ามีคนออกมายืนตรงระเบียงหรือเปล่า ชานยอลมองไปทั่วก็ไม่เห็นใคร นอกจาก … คิ้วบางที่ขมวดเข้าหากันนิดหน่อยพร้อมกับตาเรียวเล็กคู่หนึ่ง ชานยอลยืนสบตากับดวงตาคู่นั้นไม่นาน เจ้าของสายตาคู่นั้นก็ถูกดึงหลบเข้าไป
" อะไรวะ ไอชาน "
" หื้อ เปล่า "
" พวกมึงแม่.ง ! "
" เลิกบ่นเหอะหน่า ไปเรียนได้แล้ว "
ลู่หานทำหน้าบึ้งแล้วยกกำปั้นขึ้นมาต่อยชานยอลเบา ๆ ก่อนจะเดินไปที่กล่องอุปกรณ์ของตัวเองแล้วหยิบมาถือไว้ เดินไปต่อแถวเพื่อตรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าและอุปกรณ์ ก่อนเข้าห้องครัว ชานยอลกับจงอินก็เช่นกัน
ชานยอลจำไม่ได้ว่าดวงตาเรียวเล็กคู่นั้นเป็นของใคร ถึงจะยืนสบตากันแต่มันก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เขารู้สึกเพียงว่าสายตาคู่นั้นมันคุ้นคุ้นก็เท่านั้น
.
" เห้ย มาจับกูทำม้ายยยยยยยยย "
" ปล่อยกู "
" ไอลู่ เบาเบาดิ เสียงมันก้องนะเว้ย ! "
" มึงก็ปล่อยกูดิ้ "
" มึงดื้อเองนะ "
" ไอเหี้ย พอแล้ว กูเดินเองได้ "
แบคฮยอนเดินไปหลับตาไปตามทางชั้นเรียนที่สามของตึกเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงโวยวายดัง ๆ ที่มาจากชั้นล่าง ทำให้เขารู้สึกตัว สะบัดหัวไล่ความง่วงนิดหน่อย แล้วเดินไปเกาะระเบียงชะโงกหน้าลงไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น นี่ยังเช้าอยู่แท้ ๆ แต่ทำไมถึงมีเสียงดัง … แบคฮยอนก้มลงไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งไว้ผมหน้าม้าตรง ดวงตากลมโต จมูกโด่งเป็นสันกำลังมองขึ้นมาตรงที่เขายืนอยู่ แบคฮยอนยืนสบตากับตาคู่นั้นไม่นาน ก็ถูกดึงเข้ามาซะก่อน
" เห้ย ตกใจหมดเลยไอ้ฮุน "
" แหม ทำเป็นขวัญอ่อน … นี่ยืนรอกูหรอ "
" เปล่า "
" อ้าว แล้วยืนทำไรอ่ะ " เซฮุนพูดพร้อมกับเดินเข้ามา กำลังจะชะโงกลงไปมองข้างล่างแต่แบคฮยอนก็ขัดขึ้นก่อน
" ยืนหลับ เข้าห้องเหอะ อาจารย์มาแล้ว "
" อืม ๆ "
แบคฮยอนจำไม่ได้ว่าดวงตากลมโตคู่นั้นเป็นของใคร ถึงจะยืนสบตากันแต่มันก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เขารู้สึกเพียงว่าสายตาคู่นั้นมันคุ้นคุ้นก็เท่านั้น
.
" อ่ะ … มาต้มพาสต้าให้อาจารย์ต่อที "
" ครับ "
พี่ทีเอเดินไปต้มเส้นพาสต้าต่อ เพราะตอนนี้อาจารย์จะออกมาอธิบายถึงเส้นที่มีความสุกระดับ Al dente พี่หน้านิ่งคนนั้นยืนต้มไปซักพักก็หันไปมองนาฬิกา แล้วใช้ส้อมจิ้มพาสต้าขึ้นมาหนึ่งชิ้นก่อนจะหันหลังไปชิมระดับความสุก อาจารย์หันไปถามพี่เขาว่าได้หรือยังพร้อมกับเดินเข้าไปลองชิมเอง ทั้งสองคนพยักหน้าหลังจากเห็นตรงกันว่าพาสต้าสุกได้ตามระดับที่ต้องการแล้ว
" ตักไปให้น้องลองชิมด้วยนะ "
" แล้วเดี๋ยวอันนี้เอาไปล้างเลย "
" ปรับกล้องให้อาจารย์ด้วย "
พี่ทีเอหน้านิ่งคนนั้นตักแบ่งพาสต้าออกมานิดหน่อยแล้วเดินมาส่งให้เพื่อนในห้องที่นั่งอยู่ข้างหน้าชิม ก่อนจะส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ จนวนครบรอบห้อง เขาเดินเอาหม้อเข้าไปล้างห้องข้างหลังและเดินกลับมายืนเช็ดตรงสเตชั่น ปรับกล้องให้อาจารย์ … จากที่อาจารย์สั่งก็ดูเหมือนต้องทำเยอะอยู่แล้ว แต่ถ้ามานั่งมองจริง ๆ บางครั้งอาจารย์ไม่ต้องสั่งหรือพูดอะไร พี่เขาก็จัดการให้อาจารย์เรียบร้อยแล้ว พี่เขาไม่ยืนเฉย ๆ เหม่อหรือเล่นโทรศัพท์เลย สายตาเขามองที่อาจารย์ตลอดว่ากำลังจะต้องการอะไร
" ไม่จดหรอวะ "
" หื้อ "
" มึงไม่จดหรอไง "
" เออหวะ ! "
" เป็นอะไรเนี่ย ? "
" เปล่า ๆ กูเหม่อเฉย ๆ "
ผมไม่รู้ตัวเลยว่านั่งจับปากกาเฉย ๆ แล้วมองพี่เขามานานแค่ไหนแล้ว จนกระทั่งเซฮุนทักขึ้นมานั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าเหม่อมานานเหมือนกัน ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปดูของไอ้ฮุนเอาละกัน
.
" ยิ้มอะไรวะ เขียน ๆ หยุด ๆ แล้วก็ยิ้มอยู่นั่นแหละ "
" ห้ะ กู … ยิ้มหรอ "
" เออดิ บ้าปะเนี้ย "
" แฮ่ :D "
" คิดอะไรอยู่วะ มีอะไรปิดบังกูปะ "
" ทำ working plan ก็ต้องคิดถึงที่อาจารย์สอนในคาบเดโม่ดิ "
" แล้วมันมีอะไรตลกวะ "
" ก็อาจารย์ไงตลก ฮ่า ๆ "
เซฮุนมองผมด้วยสายตาสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ แล้วนั่งทำการบ้าน working plan ต่อ working plan เป็นแผนงานที่อธิบายวิธีการทำเมนูต่าง ๆ อาจารย์ให้พวกผมทำเพื่อใช้ดู เป็นตัวช่วยตอนเข้าห้องปฏิบัติครัว ซึ่งทำให้งานเร็วและออกมาถูกต้องมากขึ้น … ในหัวผมคิดถึงเรื่องที่อาจารย์สอนในคาบเดโม่จริง ๆ แต่ไม่ได้ยิ้มเพราะตลกอาจารย์หรอก ยิ้มเพราะในหัวมันแว้บไปนึกถึงพี่ทีเอคนนั้นนิดหน่อยอ่ะ หรือไม่หน่อยวะ ?
" มึง "
" ว่า " เซฮุนตอบแล้วเงยหน้าจากงานขึ้นมามองผม
" มึงว่า … พี่ทีเอคนนั้นเขา "
" หื้อ "
" เขาน่ารักปะ "
" ห้ะ มึงชอบเขาหรอ "
" ไม่รูหวะ เขาก็น่ารักดีอ่ะ ดูเป็นผู้ใหญ่ ดูมีความรับผิดชอบ ถูกชะตายังไงบอกไม่ถูก "
" สนใจ ? "
" เออ ประมาณนั้น … อยากลองคุยดู ว่านิสัยจริง ๆ เป็นยังไง "
" เขาก็ … หล่อดี แต่มีแฟนหรือยังเหอะ "
" เออหวะ ลืมไปเลย ! "
เห้ย ผมลืมไปได้ยังไงว่าเขาอาจจะมีแฟนแล้ว Oh my god ! แต่มันก็ไม่เป็นไรนะ ยังไม่ได้ชอบเขาซักหน่อยหนิ แค่รู้สึกสนใจ เขาดูน่ารักดีก็แค่นั้น ถ้ามีแฟนแล้วจริง ๆ ก็จบ บ้ายบาย
" แล้วมึงลืมแจฮยอนได้แล้วหรอไง "
" หื้อ … ก็ไม่เชิง มันไม่มีใครลืมใครได้หรอก กูก็ยังคิดถึงแต่มันไม่ได้ต้องการ ไม่ได้เศร้าแล้ว "
" อืม ก็ดีแล้วแหละ "
" แล้วมึงไม่สนใจใครบ้างหรือไง คนคุยก็ตั้งเยอะตั้งแยะ "
" เฉย ๆ หมดเลยหวะ "
" งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนน้องเอง " ผมหันไปพูดแหย่ ๆ กับเซฮุนพร้อมกับพาดแขนไปบนช่วงไหล่ของมันด้วย
" ไอ้หมาเอ้ยยยยยยย "
" เห้ย ว่ากูทำไมอ่ะ "
" ดูหนังกัน กูยืม walking dead จากจงแดมา "
" เห้ย เยี่ยมเลย ! "
เซฮุนหันมามองหน้าผมแล้วหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะลุกไปแกะกล่องซีดีหนังแล้วใส่แผ่นเข้าไปในเครื่องเล่น ส่วนผมก็จัดการเปิดทีวีรอแล้วตบที่นั่งข้าง ๆ บนโซฟาให้มันเดินมานั่งด้วยกัน
.
ผมกับเซฮุนเดินเข้ามาในวิทยาลัยพร้อมกับกล่องอุปกรณ์ในมือซ้ายและข้าวเหนียวหมูปิ้งกับน้ำเปล่าในมือขวา ไม่รู้ว่ามาเช้าเกินไปหรือยังไง บนโต๊ะสำหรับวางของถึงยังไม่มีกล่องอุปกรณ์ของเพื่อนในห้องคนไหนเลย
" เรามาเร็วไปหรอวะ "
" ก็กูบอกมึงแล้ววววววววว "
" มาเช้าก็ดีแล้วไง ไม่ต้องยืนรอหมูปิ้งนะเว้ย ! "
" มึงแม่.งอ้าง "
นั่งกินหมูปิ้งไปซักพักเพื่อน ๆ ก็เริ่มทยอยกันมา ทุกคนแยกย้ายไปจัดระเบียบของตนเอง หยิบเสื้อมาใส่ ผูกผ้าพันคอ พันผ้ากันเปื้อนและใส่หมวก ยิ่งใกล้เวลาอาจารย์จะเรียกเข้าห้องทุกคนก็ยิ่งรีบตรวจเช็คตัวเอง บางคนเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ตัดเล็บ ก็วิ่งวุ่นหาที่ตัดเล็บใหญ่ เพราะถ้าจัดการตัวเองไม่เรียบร้อยก่อนจะให้อาจารย์ตรวจก็จะโดนหักคะแนน … ทั้ง ๆ ที่พวกผมไม่มีจะให้หักอยู่แล้วด้วยซ้ำ
" เห้ย มึงสับ Shallot ยังวะ "
" แล้ว ๆ วางอยู่หน้าเตา "
" ไอแบคไม่เป็นไรเดี๋ยวกูผัดนี่เอง มึงไปล้างเขียงให้ที "
" โอเคได้ " ผมหันไปหยิบเขียงเดินไปล้างที่ซิงค์ตามที่ซูโฮบอก ระหว่างเดินกลับไปที่สเตชั่นของตัวเอง ต้องผ่านประตูห้องผมเห็นอาจารย์เปิดประตูยืนคุยกับใครอยู่ เลยหันไปมองนิดหน่อย ก่อนจะรีบหันกลับมาแล้วเดินไปที่สเตชั่นตัวเอง
" เป็นอะไรวะ ไอแบค "
" มึง … กูเห็นพี่ทีเอคนนั้นหวะ ยืนคุยกับอาจารย์อยู่ตรงประตู "
" กูเห็นละ เมื่อกี้เขาเดินผ่านหน้าต่างตรงเนี้ย "
" มากับใครไม่รู้อ่ะ น่ารักด้วย หรือจะเป็นแฟนเขา "
" นี่มึงจำไม่ได้จริงดิ "
" จำอะไรวะ "
" คนที่มากับพี่หน้านิ่งคนนั้นก็พี่ลู่ไง "
" ห้ะ จริงอ่ะ "
" เออดิ มึงจำพี่ลู่ไม่ได้จริง ๆ ใช่มั้ยเนี่ย "
" เออดิวะ ! "
" แสดงว่าไม่ใช่แฟนเขาหรอก "
" รู้ได้ไง "
" พี่ลู่มีคนคุยแล้ว เขาเคยเล่าให้กูฟังอยู่ "
" เห้ย ไอ้ฮุน เอา onion มาดิ้ "
เพราะจงแดหันมาบอกให้ช่วยงาน ผมกับเซฮุนก็เลยหยุดคุยเรื่องนี้กันไปก่อน แล้วกลับมาทำงานกลุ่มตามปกติ ยังไงเรื่องนี้ก็มีเวลาคุยกันอีกยาวอยู่แล้ว
.
" งั้นมึงคิดว่าเขาเป็นเพื่อนกันหรอ ? "
" ก็น่าจะใช่ "
" เขาอาจจะเป็นรุ่นพี่ของพี่ลู่ก็ได้ "
" เป็นรุ่นพี่แล้วไงวะ "
" ถ้าอยู่ปีสี่ ถึงจะยังไม่มีแฟน กูก็กะว่าจะไม่คุย "
" ทำไมอ่ะ "
" ก็ปีสี่จะจบอยู่แล้วอ่ะ กลัวคุยแล้วผูกพันต้องมาทำใจอีก "
" งั้นเดี๋ยวกูถามพี่ลู่ให้ "
" เห้ย อย่าเพิ่ง "
" ทำไมเล่า ถามไปเลย มึงจะได้รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ "
" จะดีหรอวะ แล้วเขาจะไม่ไปบอกเพื่อนเขาหรอ ว่ามีคนมาถามถึง "
" พี่ลู่ไว้ใจได้ "
" … " ผมนั่งกัดปาก คิ้วขมวดอยู่บนโซฟาในห้องเพราะไม่รู้จะตัดสินใจยังไงกับสถานการณ์นี้ดี อยากรู้มันก็อยากแต่ถ้าเกิดเขาไม่มีแฟน แล้วอยากจีบเขาขึ้นมา ก็กลัวว่าเพื่อนเขาจะไปบอกซะก่อน เอ้ย แต่ยังไงพี่เขาก็ต้องรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรอวะ !
" เอาไง "
" ถามเลยก็ได้ "
" แปป " เซฮุนเงียบไปซักพัก แล้วก้มหน้าก้มตาพิมพ์แชทในโทรศัพท์อย่างเดียว ท่าทางมันคงจะขอข้อมูลพี่คนนั้นจากพี่ลู่อยู่ ผมนั่งมองมันด้วยใจจดจ่อ ถึงจะแค่รู้สึกสนใจ แต่มันก็ลุ้นอยู่เหมือนกันนะ
" พี่ลู่บอกว่า … "
" … "
" ฮ่า ๆ หน้ามึงตลกหวะ ใจเย็นดิ "
" ไอเหี้ยฮุน ! "
" พี่เขาชื่อชานยอล อยู่ปีสาม เป็นเพื่อนสนิทกับพี่ลู่ นิสัยดี เป็นผู้นำ เป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ เป็นคนสนุก ๆ ตลก ๆ ที่สำคัญ ยังโสดนะครับคุณบยอน "
" จริงดิ :D "
" โอ้โห ปากมึงจะฉีกถึงหูแล้วหวะแบคฮยอน "
" มึงว่าเอาไงต่อดีวะ "
" ทำมาเป็นถาม ในใจมึงคิดไปแล้วอ่ะดิว่าจะจีบเขายังไง "
" อุ้ย รู้ด้วยหรอ " ผมพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดปาก กระพริบตาปริบ ๆ
" ไอสัด ให้กูขอไลน์จากพี่ลู่เลยปะ "
" เห้ย เดี๋ยว ๆ ใจเย็น "
" อ้าว ทำไมอ่ะ กูว่าทุกอย่างมันเข้าทางมึงมากเลยนะเว้ย "
" ขอกูตัดสินใจก่อนดิ ว่าจะเอายังไงดี "
" อืม … เอายังไงก็บอกละกัน "
อยู่ ๆ ประโยค ' แต่ฉันไม่แน่ใจ ฉันยังจำเรื่องของสุนัขจิ้งจอกได้ เราเสี่ยงต่อการร้องไห้เมื่อเราปล่อยตัวให้สร้างความสัมพันธ์ขึ้นมา ' จากหนังสือเจ้าชายน้อยที่ผมเคยอ่านก็ลอยเข้ามาในหัว กว่าผมจะทำใจเรื่องอันแจฮยอนได้ก็ใช้เวลาไปเป็นปี ถ้าหากว่าต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง ผมก็อยากคิดทบทวนให้ดีซะก่อน … เผื่อว่าบางทีผมอาจจะแค่ชอบเขาแบบรุ่นพี่คนหนึ่งก็ได้
บางทีถ้าผมไม่ได้คิดถึงเขาบ่อยขนาดนี้น่ะนะ .
.
วันนี้ผมมีเรียนตอนเช้าและไม่ได้เรียนปฏิบัติครัว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็กำลังเดินอยู่บริเวณห้องครัวทั้งหลายทั้งแหล่เพราะคุณลู่หานจะเอารองเท้าเซฟตี้ชูมาเก็บไว้ที่ล็อกเกอร์ เนื่องจากขี้เกียจเดินถือไปถือมา ปกติแล้วไอลู่จะเก็บรองเท้าไว้ที่ล็อกเกอร์ทุกครั้ง แต่เพราะครั้งที่แล้วรองเท้ามันกาวหลุดเอาไปซ่อมมา เลยทำให้รองเท้าที่ควรจะอยู่ในล็อกเกอร์ มาอยู่ในมือมันตอนนี้แทน
" เดี๋ยวบ่ายก็เรียนเบเกอรี่แล้ว จะรีบเอามาเก็บทำไมวะ "
" ขี้เกียจแบกไปแบกมานี่หว่า แวะมาเก็บแค่แปปเดียวเอง มึงจะบ่นทำไม "
" ก็กูขี้เกียจไงงงงงงงงง "
" นักศึกษา ๆ " ผมกับลู่หานหันไปตามเสียงเรียกของอาจารย์คนหนึ่ง แล้วเดินเข้าไปหา เลยรู้ว่าอาจารย์คนนั้นคืออาจารย์แจซอกคนที่ผมไปช่วยเป็นทีเอให้ทุกวันพุธ
" สวัสดีครับอาจารย์ "
" สวัสดีครับ "
" อืม อาจารย์จะบอกเราว่าวันพุธหน้า ไม่ต้องเข้ามาช่วยคาบเดโม่ก็ได้นะ เพราะอาทิตย์หน้าอาจารย์สอนแต่ทฤษฏีแล้วล่ะ "
" อ๋อ ครับ "
" ขอบใจเรามาก " อาจารย์แจซอกพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาตบไหล่เบา ๆ
" ไม่เป็นไรครับ " ผมโค้งให้อาจารย์นิดหน่อย แล้วเหลือบไปเห็นน้องคนหนึ่งยืนอยู่ในห้องครัว กำลังมองมาทางผมกับลู่หาน แต่พอสายตาของเราทั้งคู่ประสานกันเท่านั้นแหละน้องเขาก็รีบหันกลับ เดินไปทันที … หื้อ ใช่น้องตัวเล็กคนนั้นหรือเปล่าวะ ? แล้วหันหน้าหนีทำไมล่ะ ?
.
" ดีนะไอชานที่กูเอารองเท้าไปเก็บก่อน "
" พี่ลู่นี่ฉลาดจริง ๆ เลยครับ ราวกับรู้ล่วงหน้าเลยครับว่าจะไม่ได้เรียน "
" ทำไมอาจารย์เขาต้องไม่มาวันนี้วะ กูขี้เกียจเรียนเศรษฐศาสตร์ "
" ดีมาก ให้มันรู้ซะบ้างนะชานยอลว่าใครเป็นใคร "
" สนใจกูบ้างดิ … ยิ้มอะไรอยู่ได้ไอ้ลู่ คุยกับใครอ่ะ ! "
" เห้ย ไม่เสือ.กนะดำ "
ผมนั่งกรอกตาไปมาเพราะตั้งแต่เข้าเรียนมาเพื่อนทั้งสองคนก็ยังไม่หยุดแกล้งกันไปแกล้งกันมาซักที เดี๋ยวชะโงกหน้าไปหาบ้าง แกล้งหยิบโทรศัพท์ไปบ้าง ปิดหนังสือเรียนบ้าง แกล้งกันทั้ง ๆ ที่ผมนั่งคั่นกลางอยู่เนี่ย ! สาบานเถอะว่ามึงสองคนปีสามแล้ว เอาแต่เล่นกันเป็นเด็กอนุบาลไปได้
" ไอชาน มึงดูดิ้ ไอลู่มันคุยกับใครวะ "
" แล้วมึงจะไปยุ่งกับมันทำไมเล่า "
" เดี๋ยวมันมีแฟนแล้วทิ้งเรานะเว้ย ! "
" ไร้สาระหน่า "
" เออ ไร้สาระ แต่อาจจะไม่ใช่กูก็ได้นะที่มีแฟนก่อน อิอิ "
" มึงหมายความว่าไงวะ "
" ไม่บอกเว้ย "
" เจอกูแน่ไอลู่ อย่าเผลอนะมึง "
" กูว่ามึงสองคนนั่นแหละจะเจออาจารย์ เขามองมาหลายรอบละ "
" อุ่ย "
หลังจากที่ผมพูดออกไปแบบนั้น ไอลู่ก็รีบเก็บโทรศัพท์ที่เล่นมาตั้งแต่ต้นคาบใส่กระเป๋า ส่วนไอจงอินก็รีบก้มหน้าก้มตา หยิบปากกามาขีด ๆ ในหนังสือไปมั่ว ๆ ผมส่ายหัวนิดหน่อยให้กับมันสองคน ก่อนจะฟังอาจารย์สอนต่อ เออ เพื่อนก็มีอยู่แค่สองคน ดีดีทั้งนั้นเลย.
ความคิดเห็น