คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 16 : ปีศาจทั้งหก [100%]
16
วันเสาร์เวลาแปดนาฬิกา ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียเพราะเสียงนาฬิกาปลุก มือขวาขยี้ตาพอให้หายง่วง แสงแดดอ่อนๆ ส่องกระทบลงมาในห้อง ทำให้ฉันนึกได้ว่าวันนี้มีเดทกับรุ่นพี่
ฉันรีบกระวีกระวาดลุกขึ้นพับผ้าปูที่นอนแทบจะทันที แล้วกระโดดผึงเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสื้อผ้าที่แอบเตรียมไว้ ถ้าไม่รีบเดี๋ยวจะสายเอา
น้ำจากฝักบัวค่อยๆ ไหลลงไปตามใบหน้าและร่างกายของฉัน แน่นอนว่ามันให้ความรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก หลังจากอาบเสร็จฉันก็แต่งตัว ตอนนี้ฉันอยู่ในชุดลำลองสบายๆ กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาว
น้ำดื่มเย็นเฉียบจากตู้เย็นไหลลงไปตามคอของฉัน การดื่มน้ำในตอนเช้าทำให้ฉันรู้สึกดีอีกเช่นกัน และในขณะที่ฉันกำลังดื่มอยู่นั้นเองก็ได้กลิ่นหอมๆ ของอะไรบางอย่างจึงตัดสินใจเดินไปดู
ไซเลนท์กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงโต๊ะกินข้าวที่ประจำของเขา ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปข้างในด้วยความรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก มือทั้งสองของฉันจับเก้าอี้เลื่อนออกมาและตัดสินใจนั่งลงตรงข้ามกับเขา แต่เขาก็ไม่มีท่าทีจะสนใจฉันเลยสักนิดเดียวและเขาก็ยังไม่ได้กินอาหารที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกัน
“นี่ ทำไมถึงไม่กินล่ะ” ฉันรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยถาม
เขาลดหนังสือพิมพ์ลงเล็กน้อยและเหล่ตามองฉัน “ก็รอเธออยู่”
“อ่า
อืม” ฉันพูดเสียงสั่นแล้วเอื้อมมือไปหยิบช้อนส้อมด้วยความประหม่า ไม่รู้สิ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ฉันจะไม่รู้สึกแบบนี้เลย แต่ทำไมตอนนี้ฉันถึงรู้สึกกับเขาดั่งคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ไซเลนท์พับหนังสือพิมพ์ลงและวางมันไว้ที่เก้าอี้ด้านข้าง เขาก้มหน้าลงมือกินอาหารโดยไม่หันมามองฉันเลยเหมือนกัน
และแน่นอนว่าฉันก็ก้มหน้าเช่นกัน พวกเราจึงไม่ได้พูดอะไรกัน ไม่ได้คุยอะไรกันเลยสักคำ มันเป็นมื้ออาหารที่กร่อยมาก ถึงอาหารจะอร่อยเพราะฝีมือของเขา แต่ถ้าไม่มีคนคุยด้วยมันก็สามารถทำให้อาหารรสชาติจืดจางไปเลยก็ได้
แก๊ง!
ฉันสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงช้อนส้อมวางกับจาน อาจเพราะกำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่ก็ได้ นัยน์ตาของฉันแอบเหลือบขึ้นข้างบนเพื่อมองเขา เห็นว่าเขากำลังดื่มน้ำอยู่ ฉันจึงตัดสินใจก้มหน้าก้มตาลงไปใหม่
“วันนี้เธอจะไปกี่โมง”
เขาเอ่ยถามขึ้นมาทำลายความเงียบ
เอาน่า บอกสักนิดคงไม่เป็นไรหรอก “สิบโมง”
“ให้ฉันไปส่งมั้ย”
“เอ่อ
ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวฉันไปเองนะ”
“
”
ตอนนั้นฉันก็กินเสร็จพอดีจึงตัดสินใจวางช้อนกับส้อมลงและลุกขึ้นยืน
“เดี๋ยวฉันกลับมาล้างจานนะ นายไม่ต้องล้างให้หรอก”
“
”
“ฉะ
ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวกลับมา”
“
”
ฉันรู้สึกมาจากเบื้องลึกเลยว่าไม่อาจสู้สายตาของเขาได้อีกต่อไป ถึงแม้ว่าเขาจะรั้งไว้ยังไงก็ตามที ฉันก็ไม่ยอมเชื่อฟังใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเหมือนเด็กดื้อที่คอยแหกกฎระเบียบ
ขาทั้งสองของฉันออกวิ่งมาโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองเขาอีก ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นเขาก็คือ ไซเลนท์มองหน้าฉันด้วยสีหน้าเฉยเมยมากจนฉันรู้สึกกลัว
ตอนนี้ฉันลงลิฟต์มาถึงล็อบบี้ข้างล่างและตัดสินใจเดินออกไปเรียกแท็กซี่ด้านนอก มีแท็กซี่คันหนึ่งขับผ่านมาพอดีฉันจึงโบกเรียก
“ไปหน้าสวนสนุกดรีมแลนด์ค่ะ”
“จ้า ขึ้นมาเลยหนู”
ฉันก้าวขาขึ้นไปในรถตามที่คุณลุงคนขับบอก ไม่นานนักก็ต้องได้ยินเสียงจากโทรศัพท์มือถือ ฉันจึงรีบควานหาด้วยความตกใจและในที่สุดก็หยิบมันขึ้นมาดู
เมล์จากยัยบลู
From : Blue
เชียร์ ขอให้แกสนุกนะ :)
แต่ก็ขอให้แกระวังตัวไว้ด้วยล่ะ
ยังไงฉันก็ไม่เชื่อใจไอ้รุ่นพี่นั่นจริงๆ
มีอะไรก็รีบโทรมาหาฉันเลยนะ
TC. <3
ฉันกดปุ่มออกไปที่หน้าจอและยกมือถือมากำไว้ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของฉันเล็กน้อย ขอบคุณนะที่อุตส่าห์เป็นห่วงกันถึงขนาดนี้
หลังจากนั้นฉันก็นั่งมองข้างทางไปตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น จนในที่สุดก็ได้ยินเสียงของลุงคนขับแท็กซี่เรียกขึ้น
“หนูๆ ถึงแล้วจ้ะ”
“เอ๋ ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์และยื่นให้คุณลุง
ตอนนี้ฉันกำลังอยู่หน้าสวนสนุกดรีมแลนด์ พยายามมองซ้ายมองขวาหารุ่นพี่ แต่ฉันก็ต้องพบกับคนจำนวนมหาศาลโดยเฉพาะคู่รักชายหญิงที่มากันอย่างล้นหลาม
และฉันก็ลืมขอเบอร์โทรศัพท์รุ่นพี่มาด้วย! จะติดต่อกันยังไงดีล่ะเนี่ย
ขณะที่ฉันกำลังเกิดอาการลุกลี้ลุกลนอยู่นั่นเอง ฝ่ามือหนาก็แตะเข้าที่ไหล่ของฉัน ทำให้ต้องรีบหันกลับไปมองและพบว่ารุ่นพี่กำลังยืนอยู่ด้านหลังของฉันแล้วในชุดลำลองเช่นเดียวกัน
“สวัสดีครับ”
“อ่า ค่ะ มานานแล้วเหรอคะ”
“สักพักเอง”
“ค่ะ”
“ไปหาอะไรดื่มกันก่อนมั้ย”
“ได้ค่ะ”
ฉันเดินตามรุ่นพี่ไปยังคอฟฟี่ช็อปแห่งหนึ่งในสวนสนุก ร้านนี้ประดับตกแต่งอย่างน่ารักสไตล์ยุโรป โต๊ะกลมในร้านถูกจองไปด้วยเหล่าคู่รักที่มาเดทกัน แต่ฉันกับรุ่นพี่ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนี่นา >O<
โต๊ะที่ฉันได้นั่งอยู่ติดกับกระจกของร้านซึ่งสามารถมองออกไปภายนอกได้ ตอนนี้เป็นช่วงเช้าเลยยังไม่มีการเปิดชิงช้าสวรรค์ แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนคงจะสวยงามมากเลยทีเดียว
“ดื่มอะไรดีครับ”
“อะไรก็ได้ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวพี่สั่งเลยนะ”
“อ่อ ค่ะ”
หลังจากที่รุ่นพี่เป็นคนสั่งเครื่องดื่มมาแล้ว พวกเราก็นั่งดื่มและคุยกันไปต่างๆ นานา พอเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงก็เดินออกมาจากร้านกาแฟแห่งนั้นและเข้าไปยังตัวสวนสนุก
ฉันพร้อมแล้ว! >[]<
เวลาผ่านไปสี่ชั่วโมงหลังจากที่ฉันกับรุ่นพี่เข้าไปเล่นเครื่องเล่นด้านใน ทั้งรถไฟเหาะ เฮอร์ริเคน รถบั๊ม ถ้วยแก้วหมุนปัญญาอ่อน และบ้านผีสิง =_= ตอนนี้ก็ได้ออกมายืนอยู่ด้านนอกด้วยความเหนื่อยอ่อน รุ่นพี่บอกกับฉันว่าจะเดินไปซื้อไอศกรีมมาให้ และให้ฉันนั่งรออยู่ที่ม้านั่งตรงนี้ก่อน ฉันก้มมองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าๆ เดี่ยวอีกสักพักฟ้าคงจะมืดแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้ยัยบลูจะเป็นห่วงฉันอยู่อีกรึเปล่า
บี๊บ บี๊บ
เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันดังขึ้นอีกรอบ นั่น! เป็นยัยบลูจริงๆ ด้วย -..-^
“ฮัลโหล มีอะไรแก ฉันเพิ่งนึกถึงแกไปหมาดๆ เอง ตายยากนะเรา”
“เปล่า ไม่มีอะไร แค่โทรมาถามสารทุกข์สุขดิบ”
“อ้อ ไม่เป็นอะไรเลย สบายมาก รุ่นพี่ก็เป็นคนดีนี่”
“อ่า งั้นเหรอ ค่อยโล่งใจหน่อย แล้วนี่แกจะกลับรึยัง”
“กำลังนั่งรอรุ่นพี่ไปซื้อไอศกรีมอ่ะ =_=”
“งั้นฉันคุยกับแกไปจนกว่าไอ้รุ่นพี่นั่นจะมาก็แล้วกัน”
“นี่แก! =..= ไปเรียกะพี่เขาว่าไอ้ได้ยังไง ไม่สุภาพเลยนะ”
“โหย อย่างกับแกสุภาพกว่าฉันนักล่ะเชียร์”
“อย่างน้อยๆ ฉันก็สุภาพกว่าแกแล้วกัน -..-“
“เหอะ นี่ฉันอุตส่าห์เปลืองเงินโทรมาให้แกด่าเหรอเนี่ย ไอ้เพื่อนบ้า”
“=..= ขอโทษๆ”
“เออ ทำไมมันไปนานจังวะไอ้รุ่นพี่นั่น แค่ซื้อไอศกรีมเอง”
“ไม่รู้สิ อ๊ะ! มาแล้ว
”
ฉันที่กำลังก้มหน้าก้มตาคุยโทรศัพท์กับบลูอยู่ก็เห็นรองเท้าของใครบางคนปรากฏขึ้นตรงหน้าจึงเงยขึ้นไปมอง และพบว่ารุ่นพี่อยู่ที่นั่นจริงๆ อยู่กับ
ผู้ชายอีกห้าถึงหกคน
พวกเขายืนแสยะยิ้มให้ฉันอย่างมารร้าย ฉันรู้สึกตกใจกำมือถือไว้แน่น
“ยัยนี่ล่ะ เป็นไง ฮ่าๆๆๆ” ฉันเห็นรุ่นพี่พูดขึ้นกับคนพวกนั้น หลังจากนั้นพวกเขาก็หัวเราะขึ้นและหันมาทางฉัน
“ตัวยังเป็นลูกเจี๊ยบอยู่เลย แต่ก็คงสนุกกันได้ไม่เบาล่ะ”
อะไรนะ
“ฮ่าๆๆ ฉันเลือกมาถูกใช่มั้ยล่ะ ใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้”
ฉันรู้สึกตกใจและใจหายมาก หัวใจฉันเต้นรัวไม่หยุด พวกเขาทั้งหกคนยืนจ้องฉันเป็นตาเดียวเหมือนเจอเหยื่ออันโอชะ
“อะไรกันคะรุ่นพี่! ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ด้วย” ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าของรุ่นพี่ที่เคยยิ้มให้ฉันแบบจริงใจ ตอนนี้ใบหน้าของเขากลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
ของปีศาจร้ายตนหนึ่ง
“หุบปากไปเลยยัยโง่”
ตุ้บ!
หนึ่งในนั้นยื่นกำปั้นมาชกเข้าที่หน้าของฉัน และแน่นอนว่าถึงฉันจะร้องเรียกความช่วยเหลือไปก็คงจะไม่มีใครได้ยิน เพราะที่ตรงนี้ไม่มีคนอยู่เลยนอกจากปีศาจทั้งหกกับฉัน
“เชียร์! เชียร์! เกิดอะไรขึ้น!”
เสียงของบลูดังเล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์มือถือของฉัน แต่ฉันก็ไม่อาจรับสายเธอได้เพราะผู้ชายอีกคนต่อยฉันเข้าที่ท้องและปัดมือถือของฉันทิ้งไป
ตาของฉันเริ่มพร่ามัว และรู้สึกได้ว่าหนึ่งในนั้นอุ้มฉันไป ฉันที่ได้สติขึ้นมาเล็กน้อยจึงกรีดร้องออกมาให้บลูที่อยู่ในสายได้ยิน แต่ฉันไม่รู้ว่าเธอจะได้ยินรึเปล่า แต่มันคงจะเป็นหนทางสุดท้ายของฉันที่จะรอดจากเงื้อมมือของปีศาจทั้งหก
ขอโทษที่มาลงช้านะจ๊ะ :(
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นที่เกินที่ตั้งไว้
ขอบคุณทุกคนมากจริงๆ จ้า
รอติดตามกิจกรรมต่อไปนะจ๊ะ :)
Loma_ p
ความคิดเห็น