คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 13 : นักเรียนใหม่ 'มิกิจัง' นางแบบชื่อดังนั่นน่ะเหรอ!? [100%]
13
ใช่แล้วล่ะ มันไม่ผิดหรอก ไม่ผิดเลยสักนิดที่นายจะไม่ฟังที่ฉันพูดที่ฉันสั่งแล้วนั่งรอ แต่มันไม่จำเป็นเลยที่นายจะต้องมานั่งรอฉันตั้งหลายชั่วโมงแบบนี้
“มันไม่ผิดที่นายจะรอฉัน แต่มันไม่นานไปหน่อยเหรอไง”
เขาส่ายหน้า
“ไม่เท่าไหร่”
“ไม่เท่าไหร่นี่ก็สองชั่วโมงกว่าแล้วนะ นี่ก็ใกล้มืดแล้วด้วย”
“ก็ฉันจะรอ”
“แน่นอน นายรอได้”
“รีบๆ ขึ้นรถมา”
ฉันทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่ายโดยการเดินไปอีกข้างหนึ่งและเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งอยู่ข้างใน
รถสปอร์ตสีดำค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปจากโรงเรียนอย่างช้าๆ โดยมีฉันที่กำลังนั่งคิดมากอยู่ข้างใน และเขาที่นั่งรออยู่ได้เป็นชั่วโมง
ตอนนี้ฉันกำลังคิดว่าฉันทำกับเขามากเกินไปรึเปล่า แต่มันก็ไม่ผิดเพราะว่าฉันบอกกับเขาไปแล้วว่าให้กลับบ้านไปก่อน แต่เขาเองน่ะแหละที่เลือกจะนั่งรอฉันอยู่ ฉะนั้นฉันต้องไม่ผิด
ไม่ผิด!
เสียงที่อยู่ในใจยังคงโต้เถียงกันไปมา และคำตอบสุดท้ายที่ได้คือ ‘ถามเขาเลยสิ!’ ฉันจึงตัดสินใจที่จะเอ่ยปากถามเพื่อทำลายความเงียบ
“ทำไมนายถึงต้องนั่งรอฉันนานขนาดนั้นด้วยล่ะ”
“ก็ฉันอยากรอ”
“แต่มันนานมากเลยนะ”
“
”
“แล้วนายก็ไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไหร่ฉันจะออกมา”
“
”
“นี่ ตอบสิ”
“
”
“เออ! ไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบ”
“ฉันคงไม่ได้ทำอะไรผิดถ้าจะนั่งรอคู่หมั้นของฉัน”
“หา!?”
“ไม่มีอะไร”
“อะไรน่ะ!”
“
”
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อแต่กลับจับพวงมาลัยรถและมองไปข้างหน้าด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง ฉันจึงอึดอัดและไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี เพราะรู้ว่าเขาก็คงไม่ตอบกลับมาอีกตามเคยน่ะแหละ
เช้าวันรุ่งขึ้นฉันตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนล้าและเมื่อบิดตัวไปมาก็ต้องพบว่ากล้ามเนื้อของฉันมันเกิดอาการปวดอย่างแสนสาหัสเพราะการทำความสะอาดเมื่อวานนี้จึงต้องเอายามาทาเพื่อให้หายจากอาการปวดระบม แต่ยังไงก็ช่าง! ฉันยอมปวดเพราะว่าเมื่อวานฉันได้เห็นหน้ารุ่นพี่คนนั้นตั้งเกือบสองชั่วโมง >O< มันเปรียบเสมือนอาหารตาอันโอชะน่ะแหละ!
กิจวัตรประจำวันในช่วงเช้ายังคงดำเนินไปเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ตอนเช้าฉันเป็นคนตื่นไปปลุกไซเลนท์ และเขาจะเป็นคนทำอาหารให้ฉันกิน มันผลัดเปลี่ยนวนเวียนไปแบบนี้ทุกวันด้วยความน่าเบื่อ
พอถึงโรงเรียนในตอนเช้าฉันก็จะเข้าไปนั่งในห้องเรียน และยัยบลูก็จะพุ่งเข้ามาหาฉันทุกๆ วันเหมือนอย่างเคย และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน
“โย่ว!” บลูเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกระเป๋าเป้สะพายข้างสีดำ เธอทำมือเป็นรูปตัววีส่งมาให้ฉันก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาหา “แกปวดตัวมั้ยวะ?” นั่นคือคำแรกที่เจ้าหล่อนถามขึ้น
ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้อยู่ กล้ามเนื้อในตัวของฉันมันกรีดร้องหาออกซิเจนกันเป็นการใหญ่
“ไม่ใช่แค่ปวดธรรมดา ปวดมากเลยด้วย”
“เออ ฉันก็ปวดมากเลยว่ะ กลับบ้านไปนี่แทบร้อง” ยัยบลูยืนบิดตัวไปข้างหลังสาธิตท่าให้ฉันดู ไม่นานก็ต้องร้องโอ๊ยออกมาเมื่อเอวเคล็ด
“เป็นไงล่ะ ทำตัวเองชัดๆ เลยแกเนี่ย”
“เชอะ”
บลูเดินย้อนกลับมานั่งเก้าอี้ข้างๆ ฉันพร้อมกับวางกระเป๋าลงและเอ่ยถาม “เออ ว่าแต่เมื่อวานแกคืนดีกับคนรู้จักแกรึยัง”
“บอกว่าไม่ได้ทะเลาะกัน -O-^”
“อ้าวแล้วเป็นอะไรกันวะ”
“แกไม่ต้องรู้สักอย่างเหอะ =_=”
“โธ่เอ๊ย ทำเป็นมีความลับนะ”
“เออ ก็รู้อยู่ว่าฉันมันความลับเยอะ”
“โฮ่ๆ~”
“อย่าให้แกมีความลับบ้างละกัน เดี๋ยวฉันแฉให้ดังเลย”
“ฮ่าๆ จะมีมั้ยเนี่ย” บลูหัวเราะแล้วตบโต๊ะดังป้าบๆ -_- ตอนนี้เพื่อนสนิทของฉันดูเหมือนคนจิตวิปริตที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบ้าสิ้นดี
“แล้วคนที่ชื่อเซนๆ อะไรนั่นของแกอ่ะบลู” เพราะฉันนึกอะไรออกเลยลองเอ่ยถามเพื่อนไป ทำให้ยัยบ้าที่กำลังนั่งตบโต๊ะฮากร๊ากอยู่เกิดอาการหยุดชะงักไปทันทีเหมือนได้ยาระงับประสาทมากิน -_-
“เห้ย
”
“อะไรๆ เฮ้ยอะไร แกแอบมีความลับเหรอไง” ถึงตาฉันเอาคืนบ้างล่ะ >O<!
“เปล่า ไม่มีอะไร๊”
“เห้! ฉันรู้นะว่าแกมีความลับ”
“บอกว่าเปล่าไงเล่า”
“บอกมาเถอะไอ้เพื่อนยาก -_-^ ฉันจะไม่บอกใครแน่นอน”
“ไม่”
“เออ เรื่องของแก ฉันไม่อยากรู้แล้ว”
“ดีมาก”
ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นโอกาสดี แต่ฉันกลับขว้างมันทิ้งไปเหมือนกับเป็นขยะสดที่ไม่มีใครต้องการแล้ว -_-^ ยัยบลูยิ่งเป็นคนคายความลับยากๆ อยู่ด้วย อยากจะรู้อะไรสักอย่างต้องตามง้อกันเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นออกไปเลย แบบนี้ยัยนี่ก็ไม่ยอมบอกฉันแล้วน่ะสิ T^T
“นะๆๆ ฉันอยากรู้อ่ะ”
“ไม่ เอาเรื่องพี่ต้าร์ๆ อะไรนั่นของแกให้รอดก่อนเถอะ”
“ชิชะ”
ฉันพ่นลมออกมาทางจมูดฟืดๆ ด้วยความไม่พอใจ ที่โมโหน่ะไม่ใช่ใครหรอก แต่โมโหตัวเองต่างหากที่เถียงยัยเพื่อนบ้าไม่ชนะทุกที -..-
จู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนจำนวนมากกำลังวิ่งแห่ลงไปทางบันไดหน้า ดดยเฉพาะพวกผู้ชายที่ตาไม่ดีหน่อยๆ น่ะ วิ่งกันเป็นกลุ่มเลยเชียว =_=^
“เกิดอะไรขึ้นวะ วิ่งอย่างกับหนีไฟไหม้” บลูเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันหน้าออกไปมองนอกห้อง
“ไม่รู้ ลองออกไปถามสิแก”
“แกก็ออกไปสิ =_=”
“ไม่เอา -_-“
ยัยบลูทำเป็นไม่อยากรู้ไม่อยากเห็นพร้อมกับก้มหน้าฟุบลงไปกับโต๊ะเรียน ปล่อยให้ฉันนั่งเอ๋อมองการกระทำของเพื่อนตัวเองอยู่
“โอ๊ย~ แกอ่ะ ลุกไปถามให้หน่อย~”
ฉันทำเสียงอ้อนวอนพร้อมกับยื่นมือไปเขย่าตัวเพื่อนสนิทที่กำลังทำเป็นนอนไม่รู้ไม่ชี้
“นะ~”
บลูลุกขึ้นด้วยความรำคาญ เธอสบถออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปนอกห้องแล้วเอ่ยถามกับคนที่อยู่ข้างนอกให้ฉัน
หึหึ~ เพื่อนที่ดีต้องเป็นแบบนี้!
ไม่นานนักบลูก็เดินกลับมาหาฉันแล้วทำนิ้วโป้งชี้ไปนอกห้อง “ไอ้คนที่ยืนอยู่หน้าห้องมันบอกว่ามีคนย้ายมาอยู่โรงเรียนเรา”
แล้วมันแปลกตรงไหนมิทราบยะ -_-^
“แล้วไง ก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน”
บลูทำตาโตแล้วใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างตบลงมาที่โต๊ะเรียนของฉันดังปัง ทำให้ฉันสะดุ้งโหยงถอยกรูดหนีเป็นการใหญ่
“มันคงจะไม่แปลก
ถ้าคนที่ย้ายมาใหม่ไม่ใช่นางแบบของนิตยสารชื่อดังของญี่ปุ่นที่ชื่อมิกินะแก!!!!!” บลูตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ห๊า!!! O[]O”
แน่นอนว่ามันทำให้ฉันตกใจเช่นเดียวกัน! นางแบบนิตยสารชื่อดังมีอายุเพียงสิบห้าปีของญี่ปุ่นที่เมื่อก่อนฉันมักจะซื้ออ่านอยู่เสมอเพื่ออัพเดทเทรนด์วัยรุ่นให้กับตัวเอง แต่ก็ต้องเลิกอ่านไปเมื่อฉันค้นพบว่าตัวเองไม่เหมาะกับการแต่งหน้าทำผมให้มันดูน่ารักคาวาอี้อย่างใครเขาเลย -_-;
“สุดๆ ไปเลยว่ะแก มิน่าพวกผู้ชายถึงวิ่งกรูลงไปดูกันขนาดนั้น”
“โอ้
O[]O”
ฉันยังคงอึ้งไม่หายเนื่องจากนางแบบคนนั้นถึงจะอายุน้อยกว่าฉันตั้งหนึ่งปี แต่เธอก็เป็นไอดอลของฉันเลยนะ! และเมื่อไอดอลมาอยู่โรงเรียนเดียวกับฉันแบบนี้
ฉันก็อยากจะเห็นหน้าค่าตาตัวจริงของเขาคนนั้นบ้าง! >O<
“แก! ฉันจะลงไปดูตัวจริงของมิกิ”
“หา?”
“เออ เอาเหอะน่า ตามฉันมาหน่อย”
มือขวาของฉันเอื้อมไปจับข้อมือของยัยบลูแล้วลากเธอลงไปข้างล่างเพื่อไปดูตัวจริงของไอดอลของฉันหรือมิกิจังนั่นเอง >w<
“ลัลล้า~ ฉันจะได้เห็นหน้ามิกิแล้ว”
“เป็นบ้าอะไรของแก -_-^”
“อ้าว! ก็แกไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้นิตยสารเล่มนั้นนี่นา ฉันน่ะเคยคลั่งมาก่อนเลยนะ มิกิจังน่ะเป็นไอดอลของฉันเลย >O<”
บลูถอนหายใจแล้วส่ายหน้า แต่เธอก็โดนฉันฉุดกระชากลากถูไปดูตัวจริงของมิกิจังอยู่ดี
พวกเราสองคนเดินตามกลุ่มผู้ชายไป ฉันหวังว่าจะได้เห็นมิกิแค่เสี้ยวหนึ่งก้ยังดี T_T และสถานที่ๆ พวกเรากำลังยืนอยู่ข้างหน้าตอนนี้ก็คือห้องรับรองแขกวีไอพีนั่นเอง! โอ้โห~ อะไรมันจะโอเวอร์ปานนั้นเนี่ย!
ปึก!
ตัวฉันชนเข้ากับใครบางคน จึงตัดสินใจหันหลังไปขอโทษ แต่ก็ต้องพบว่าคนที่ฉันชนน่ะคือน้องชายแท้ๆ ของฉันเอง
“อ้าว! ชาร์ป แกมาทำอะไรตรงนี้เนี่ย”
น้องชายของฉันก็ตกใจเช่นกันที่เห็นฉันลากเพื่อนสนิทมาถึงที่นี่
“แล้วพี่มาทำอะไร -_-^”
“พี่ก็มาดูนักเรียนเข้าใหม่น่ะสิแก ได้ข่าวว่าเป็นนางแบบชื่อดังด้วยนี่”
“เออ คงงั้นมั้ง” ชาร์ปพูด
“แหม อย่าบอกนะว่าแกสนใจมิกิจังด้วย แกรู้มั้ยว่ามิกิน่ะเป็นไอดอลของฉันเลยนะ!” ฉันพยายามพูดอวดให้ไอ้ชาร์ปน้องชายตัวแสบฟัง แต่เขากลับไม่มีท่าทีสนใจฉันเลยสักนิด น้องชายฉันกลับเขย่งกระโดดดึ๋งๆ เพื่อมองเข้าไปในห้องรับรองนั่น =_=
“อะไรกันแก ไม่ยอมฟังฉันเลยนะเนี่ยไอ้น้องบ้า!”
ชาร์ปยังคงเขย่งตัวมองโดยไม่สนใจฉันเหมือนเคย
“แก! ฟังพี่แกหน่อยเถอะ -_-^” ฉันตะโกนขึ้นแล้วใช้มือทั้งสองกดไหล่น้องชายตัวแสบลง เขาจึงหันหน้ามาทางฉัน
“อะไรพี่ -_-“
“ฉันกำลังโม้ให้แกฟังอยู่ แกนี่ก็มัวแต่มองอยู่นั่นแหละ เอ๊ะ~ หรือแกจะเป็นแฟนคลับมิกิจังเหมือนกับฉัน!”
น้องชายของฉันไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับทำหน้าลอยๆ แล้วพยายามเขย่งตัวมองห้องนั้นเหมือนเคย
“แกต้องเป็นแฟนคลับมิกิจังแน่ๆ ไอ้ชาร์ป! ตอบพี่แท้ๆ ของแกมาเดี๋ยวนี้”
ชาร์ปลดตัวลงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันหน้ามาทางฉัน
“เออ ผมเป็นแฟนคลับของมิกิจังเหมือนพี่น่ะแหละ”
“ห๊า! O[]O คนอย่างแกเนี่ยนะจะชอบมิกิจังด้วย!”
วันนี้สมองปลอดโปร่ง อัพไปเลยสองตอนรวด
อ่านกันให้ฉ่ำใจ~~~~
ตัวละครใหม่เริ่มออกมาแล้วนะจ๊ะ ^_______________^
Loma_ p
ความคิดเห็น