คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : บทที่ 14 กบฎรักไอยคุปต์...(ฟาโรห์ขา แอร๊ยยยย)
กบฏรักไอยคุปต์ ผู้เขียน: Alan R.
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=818932
จำได้ลาง ๆ เมื่อนานมาแล้วว่าเมื่อสมัย SD ยังเป็นนักอ่านเงามือหนึ่ง เริ่มเตาะแตะเล่นเว็บเด็กดี SD เคยอ่านเรื่องนี้แล้วก็แวะไปบ้างไรบ้าง แล้วก็ลืมไป จะตามหาอ่านก็นึกชื่อไม่ออกแล้ว พอนึกได้ก็ลบไปแล้ว ไม่น่าเชื่อว่ายังมีวาสนาวนมาให้ได้อ่านต่อจนได้ เหอ ๆ
สำนวนภาษาของคุณสละสลวยมาก อ่านไหลลื่นในขั้นดีเยี่ยมเลยล่ะ ยิ่งตอนที่ฟาโรห์ตั้งชื่อให้ลูกชู้ 555 SD กรี๊ดเลย สะใจแท้หลาว
แท่น แท๊นแท้น...
คุณเขียนแนวอียิปต์เหมือน SD ซะด้วย ฮึ ๆ ฟาโรห์ล่ำ ๆ น่ะส่งมาเถอะ SD กินเรียบ นิยายเรื่องนี้เกี่ยวกับรักสามเส้าเคล้ากลิ่นน้ำเน่า เรื่องราวระทึกใจเมื่อราชินีสาวสวยมีชู้รักตำแหน่งเป็นถึงวิเซียร์แห่งอียิปต์ล่าง และฟาโรห์หนุ่มรูปงาม ทำอะไรก็เก่ง หยิบจับอะไรก็เลิศ เสียอย่างเดียวคือมีเขาบนหัวทั้งเรื่องรักเรื่องลูกน้อง พระนางจำใจอภิเษกกับฟาโรห์ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายแท้ ๆ ทั้งที่ไม่ได้รัก ซ้ำยังเพ้อฝันหวานว่าอีกหน่อยประเดี๋ยวก็คงจะได้หนีไปอยู่กับชู้เองล่ะเธอว์ ช่วงนี้อย่าคิดอะไรมากเลยมันกลุ้ม ฝ่ายชู้ก็พร่ำ ๆ ว่าอีกสักพักจะจัดการฟาโรห์ล่ะนะตัวเอง อดทนอยู่กับมันอีกนิดนะจ๊ะ จุ๊บ ๆ ราชินีสาวก็ยังมีอาลัยในพี่ชาย วี้ดว้ายห้ามชู้ว่าอย่าทำอะไรพี่ชายกรูเชียวนะเมิง กรูจะโกรธจริง ๆ ด้วย
SD อ่านแล้วก็ “อะไรของสองตัวนี้วะ เพ้อกันอยู่นั่น ตัดพ้อกันอยู่ได้”
และแล้วก็งานเข้า สมัยโน้นยังไม่มีถุงยางอนามัย ราชินีจึงตั้งท้องกับชู้ จะไปหาหมอทำแท้งเถื่อนรีดเด็กออกก็ไม่ได้ จะบอกใครก็ไม่ดี บอกความจริงกับพี่ชายประเดี๋ยวก็โดนเตะ งงกับชีวิต SD ก็งงกับชีเพราะสมัยโน้นก็มีวิธีคุมกำเนิดนะเธอ แต่พลาดไปแล้วจะให้ทำไงได้ ดังนั้นพระนางจึงรีบจัดการถวายงานให้พระสวามีเป็นครั้งแรกเพื่อจะได้สวมรอยเด็กในท้องไปซะเลย ชะลาล่า
แต่แล้วความก็แตกดังโพละ เพราะความหึงหน้ามืดของท่านชู้ บุกเข้าวังไปชิงตัวราชินี บุ่มบ่ามจนครรภ์กระทบกระเทือนจึงทำให้ราชินีคลอดเด็กก่อนกำหนด ชู้ถูกจับ ฟาโรห์ตาสว่าง (ซะที) ปี๊ป่อปี๊ป่อ ต้องออกตัวก่อนว่า SD ไม่ใช่ผู้ชำนาญด้านอียิปต์ รวมทั้งอาจอ่านนิยายของท่านตกหล่น แย้งได้นะท่าน
SD อ่านบทแรกก็ขมวดคิ้วงงกับคำสัตย์สาบานของท่านชู้ ว่าจะรักแม่ยอดยาหยีจนวันตาย หากผิดคำจะขอให้ “หอกแห่งอามุน-รา (Amun-Ra, Amon-Ra, Amen-Ra, Ra-Harakhte)” ทิ่มตาย SD ไม่คุ้นเกี่ยวกับหอกของสุริยเทพสูงสุดเลยจริง ๆ หากให้คุ้นเกี่ยวกับฤทธิ์ของเทพรา ตำนานเล่าขานกันว่าดวงเนตรไฟของพระองค์มีฤทธิ์มาก และมักหนีออกไปจากกายของเทพราตามอำเภอใจ บางตำราก็ว่ากันว่าดวงเนตรนี้คือเทพีเตฟนุต เทพราเคยสั่งการให้ดวงเนตรลงไปแผดเผามนุษย์บนโลกให้หมดสิ้น บลา ๆๆๆๆๆ ดังนั้นคุณจึงสังเกตได้ว่าเครื่องรางที่ซึ่งฟาโรห์นิยมสวมใส่ นอกจากดวงเนตรแห่งฮอรัสแล้วก็จะมีดวงเนตรแห่งราเพื่อแสดงถึงอำนาจสูงสุด
ซึ่ง SD อ่านแล้วก็ไม่รู้ว่าคุณประชดหรือจงใจหรือไม่ ที่ให้ชู้สาบานว่าหากนอกใจเมียฟาโรห์ จะขอให้อำนาจของฟาโรห์ทิ่มตาย ยอกย้อนชีวิตดีแท้
อีกประการหนึ่งคือ การเสวยราชย์ของฟาโรห์ คุณบรรยายว่าฟาโรห์ทำพิธีโดยนักบวชที่สวมหน้ากากเทพฮอรัส... แป่ว ๆๆๆ ใครเป็นฮอรัสกันแน่ เท่าที่ SD รู้งู ๆ ปลา ๆ นักบวชทั้งชายหญิงจะห่มชุดหนังเสือดาวและมีตำแหน่งสูงกว่าวิเซียร์เสียอีก รวมทั้งสามารถแต่งงานมีครอบครัวได้
อันที่จริงแล้วการผลัดแผ่นดินด้วยการอ้างตำแหน่งครอบครัวเทพง่ายดายมาก นักบวชอัยย์เป็นผู้ทำพิธีให้แก่ฟาโรห์ตุทอังค์อามุน เพียงแค่ทำการจารึกว่ากระทำพิธีเปิดปากมัมมี่คิงตุทในฐานะบุตรฮอรัสแก่บิดาโอสิริส อัยย์ก็สามารถอ้างสิทธิ์นี้ขึ้นครองราชย์ต่อได้ทันที เสริมกับการอภิเษกกับราชินีสายเลือดราชวงศ์ชั้นสูง ตำแหน่งก็มั่นคงแล้ว ดังนั้น SD จึงรออ่านว่านายชู้กับแม่ยอดยาหยีจะวางแผนอะไรกัน
เอิ่ม เอ๋ อ่า เอ่อ
อุตส่าห์ปลอบ หว่านล้อม บอกให้คนรักของตัวเองยอมแต่งงานกับฟาโรห์เพราะมีแผนบางอย่างไว้แล้ว แต่วัน ๆ ไม่สิ คืน ๆ ไม่ทำอะไรนอกจาก งอนน พระนางจะทิ้งกระหม่อมแล้ววววว กระหม่อมมันแค่คนต่ำต้อยยยย ไม่รักกระหม่อมแล้วใช่มั้ยยยย แง ๆ อึดอัดโว้ยยยย ทำไมพระนางต้องแต่งกับฟาโรห์ด้วยยยย
ถ้า SD เป็นราชินีนาเฟอร์ คงจะเฮดบัดสักทีแล้วก็ไปซบอกฟาโรห์ดีกว่า เซ็งแท้ ได้สามีเป็นมนุษย์เคี้ยวเอื้องสองคน ราชินีเองก็ใช่ย่อย น่าตบแท้
SD ไม่สงสารหรือเอาใจช่วยท่านยอดชู้คู่นี้เลยสักติ๊ด ท่านชู้วางแผนให้เมียตัวเองแต่งงานกับคนอื่นแล้วก็มานั่งหึงทั้งวัน พอโดนจับได้ก็หนีไปแล้วขู่แฟร่ด ๆ ว่าวันหลังจะมาทวงแค้น จำไว้นะโอฬาร ซึ่งพออ่านมาถึงจุดนี้ปุ๊บ ก็ร้องอ้าว นิยายจบแล้วนี่หว่า
จนป่านนี้ SD ก็ขอเดาว่าคุณคงวางแผนอะไรไว้บางอย่างให้นาเฟอร์ต้องเลือกอีก แต่ SD ก็คง let’s be ความรักความผูกพันของทั้งสามคนนี้จัดว่ารวดเร็วมากสำหรับ SD เพราะเปิดบทแรกมา สองหนุ่มต่างก็หลงรักสาวงามผู้นี้หัวปักหัวปำ คนนึงเข้าวินไปนานแล้ว อีกคนก็ตามมา
แล้วไง?หล่อนมีอะไรดี
กุ๊กกิ๊กกันน่ารัก ๆ หรือให้คนอ่านรู้สึกว่ามันรักกันเพราะอะไรมีบ้างม้ายยยยย
แน่นอนว่าสาว ๆ ชอบหนุ่มหล่อ ๆ ล่ำ ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าต้องการอ่านแค่บทสวาทหรือบทตามตื้อ รวมทั้งการเล่นเกมจับไม่ได้ไล่ไม่ทันระหว่างชู้กับฟาโรห์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแสดงให้คนอ่านเห็นถึงความรักความผูกพันของทั้งคู่แต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของนางหญิงร้ายชายชู้ที่รอวันถูกเปิดโปง ภาพลบในใจคนอ่านก็ยิ่งติดลบหนักอีกเมื่อเหตุผลที่นางเพ้อแต่บทล้วนแล้วแต่รอเจอชู้ ได้แต่รอร้อรอ กลุ้มกลุ๊มกลุ้ม แล้วก็เฮ้อ ๆๆๆ ทำไงดีหนอชีวิต รักชู้แต่กลัวพี่เสียใจ
ตำแหน่งเจ้าหญิงสายตรงไม่ใช่ขี้ ๆ เนเฟอร์ไม่ตระหนักถึงตำแหน่งของตนเองซึ่งคาดว่าจะสำคัญต่อโครงเรื่อง SD คิดว่าการที่ฟาโรห์ยกให้เธอขึ้นเป็นราชินีย่อมไม่ใช่เพราะพิศวาสเพียงอย่างเดียว แต่ย่อมมีเหตุผลทางการเมืองแอบแฝงอยู่ หากเนเฟอร์ไม่เลือกพระองค์เป็นคู่ครองสิ ฟาโรห์จะลำบาก นั่งหนาว ๆ ร้อน ๆ และการที่ท่านยอดชู้กระซิบบอกให้เจ้าหญิงไปแต่งงาน ย่อมแสดงให้เห็นว่าท่านชู้พลาดโอกาสทั้งเรื่องเมียเรื่องอ้างสิทธิ์ขึ้นครองบัลลังก์หลังฟาโรห์สิ้นพระชนม์ไปง่าย ๆ SD อ่านบทแรกแล้วก็ได้แต่โอ้ละหนอทอเวต เอ็งเป็นอะไรมากมั้ยส่วนหล่อนจะโนเนะหน่อมแน้มไปไหน ไม่รู้ถึงอำนาจในมือบ้างเชียวหรือ ชู้บอกให้ทำอะไรก็เชื่อ เอ็ดชู้ ดุชู้บ้างเป็นพิธี แล้วนั่งเพ้อว่าจะเดี๋ยวชู้ก็พาหนีไปอยู่ด้วยกันไกล ๆ เอง ถ้าเขาจะเอ็งหนี ก็ไม่พาหนีไปตั้งแต่แรกล่ะวะคะ ให้เอ็งแต่งงานทำไม ไม่มีการถามความคืบหน้า ไม่มีการโต้แย้งไอเดีย ไม่ทำอะไรสักอย่างเลยแม่คุณ
นางเอกเป็นจั๋งซี่ SD หงุดหงิด จิ้นคู่ใหม่ให้ฟาโรห์วายกับชู้หล่อนยังแซ่บกว่าเลย
SD อ่านไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มรู้สึกว่านี่ตรูกำลังอ่านนิยายจักร ๆ วงศ์ ๆ ของสยามเมืองยิ้มอยู่หรือเปล่าเนี่ย SD คิดว่าสิ่งที่ขาดหายไปคือบรรยากาศและการให้ความรู้สึกถึงไอยคุปต์ วิถีชีวิตประจำวัน สิ่งเล็ก ๆ น้อยเกี่ยวกับการกินอยู่อาศัย การแต่งกาย เครื่องสำอาง เครื่องประดับ ประเพณีพิธีกรรม การใช้ชื่อเทพเจ้าสื่อแทนความหมาย สัญลักษณ์ของอียิปต์บนและล่างความเชื่อความศรัทธา รวมทั้งระบบการปกครอง เป็นต้น จะช่วยส่งเสริมให้นิยายของคุณสมบูรณ์ขึ้นนะคะ
ชายชุดดำ? SD ไม่อยากจุกจิกมาก SD ก็อยากฝากไว้สักติ๊ดว่าแม้วัตถุประสงค์การใช้งานสีดำของคุณคือเพื่อเร้นกายในความมืดได้สะดวก โดยชาวอียิปต์โบราณมีการให้ความหมายของการใช้สีแต่ละสีไว้ด้วย ดังนั้นถ้าศึกษาดี ๆ จะนำมาใส่ในเรื่องได้สนุกมากเลยล่ะคะ
เกร็ดรายละเอียดหลายอย่าง SD เองก็จงใจมองข้ามเวลาเขียนนิยายแนวนี้ เช่นการใช้อูฐใช้ม้า การใช้ล้อเกวียนในการก่อสร้าง การจูบปาก ทรงผม รสนิยมการแต่งกาย ช่วงอายุที่นิยมแต่งงาน เฟอร์นิเจอร์ในใช้ขณะมีชีวิต การพูดคำราชาศัพท์ เครื่องดื่มที่ฟาโรห์ชอบต้องเป็นเหล้า! เขียนว่าเป็นไวน์หรือเฮนเกตมันไม่แมนแท้หลาว รู้ว่าผิดแต่ก็ยังใส่ไว้
SD เองก็ไม่มั่นใจเรื่องตำแหน่งวิเซียร์ว่าเป็นสายบู๊หรือสายบุ๋นกันแน่ หากเป็นนายพลพ่วงด้วยตำแหน่งวิเซียร์แห่งอาณาจักรบน ดูแล 24 หัวเมือง ส่วนวิเซียร์อาณาจักรล่าง ดูแล 14 หัวเมือง ถ้ามีสงครามในช่วงจัดซื้อจัดจ้าง ท่านนายพลกับท่านชู้ก็งานเข้าเละเลยซิท่าน และชาวยิปซีที่ใส่ไว้ในเรื่อง แม้ว่าจะมีการสันนิษฐานที่มาที่ไปจากหลายทฤษฎี แต่หลักฐานช่วงเวลาที่มีการกล่าวถึงไม่น่าจะเป็นยุคสมัยเดียวกับเนื้อเรื่องของคุณ ถึงแม้ว่าคุณจะอ้างว่ายิปซีมีที่มาจากแถบอียิปต์ กำลังจะเคลื่อนย้ายถิ่นไปสู่ทวีปยุโรปในอนาคตตามประวัติศาสตร์แต่มันตะขิดตะขวงใจพิกล
อีกสิ่งหนึ่งที่ SD เอะใจคือราชินีตะเกียกตะกายไปหาสามีหลังคลอดลูกได้ห้าวัน กระบวนการในห้องคลอดเป็นอย่างไรไม่พูดถึงก็แล้วกัน เพราะคุณไม่ได้มุ่งรายละเอียดจุดนั้น สิ่งที่อยากจะแย้งไว้คือ จากหลักฐานที่พบในปาปิรัสกล่าวถึงหญิงหลังคลอดว่าได้ทำการ "cleansed herself in a purification of fourteen days" ซึ่งน่าจะสื่อถึงการเก็บตัวและพักผ่อนหลังจากการคลอดลูก ดังนั้นก็แสดงว่าเนเฟอร์มุ่งมั่นจะไปหาฟาโรห์มากเลยทีเดียว
และที่หลุดจากความรู้ที่ SD มีคือคัมภีร์โซเบคอัญเชิญสมุนของโซเบค (?) มาใช้ได้ตามใจไม่มีใครกำราบได้ วิธีเดียวคือผู้กำราบต้องเสียสละชีพ ร่ายเวทย์คัมภีร์อีกเล่มนึงให้สมุนของอนูบิส (?) มาจัดการซะ ดวงวิญญาณก็จะต้องตกเป็นของเทพอนูบิสเป็นของแลกเปลี่ยน
คัมภีร์ของเทพแห่งแม่น้ำไนล์และความอุดมสมบูรณ์กลายเป็นคัมภีร์เทพมรณะซะแล้ว นอกจากเป็นนิยายโรมานซ์ยังเจือแฟนตาซีอภินิหารและคุณไสยซะด้วย SD จึงงงไม่น้อยว่าท่านจะลุยไปทิศทางไหน และอึ้งเล็กน้อยแกมทึ่งว่าท่านนายพลผู้เก่งกล้า วางแผนไกลได้แค่ใช้คุณไสยเพื่อชิงบัลลังก์
SD ก็นึกไปนึกมา ถ้าแผนสำเร็จ ฟาโรห์เท่งทึง แล้วท่านนายพลจะเอาอะไรมาอ้างให้ตนขึ้นครองอำนาจล่ะ เดี๋ยวก็ต้องมาตีแย่งกับกลุ่มอื่นอีกอ่ะเปล่า ถ้าไม่มีก็ดีไปแต่ส่วนมากมักจะมี ดังนั้นท่านนายพลวางแผนรัดกุมหรือแอดวานซ์ยังไงต่อไป ซึ่งการก่อกบฏพบได้บ่อยครั้งอยู่แล้ว SD เคยอ่านเจอว่าในรัชสมัยฟาโรห์องค์หนึ่งมีการก่อกบฏถึง 27 ครั้งในระหว่างที่พระองค์ยกทัพไปรบไกลบ้านไกลเมือง การเดินทางต้องรอนแรมกินเวลานานเป็นปี ๆ ดังนั้นจึงมักมีพวกลักไก่ให้ฟาโรห์ต้องยกทัพกลับบ้านมาปราบ ดังนั้นไม่ว่ากบฏรักหรือกบฏหลวง พระองค์ก็จะต้องพิสูจน์ตนเองว่ายังมีความสามารถพอที่จะปกครองบ้านเมืองต่อไปได้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ฟาโรห์ที่อ่อนแอหรือไร้ความสามารถมักจะถูกฆ่าเพื่อผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน
นี่ก็อาจเป็นข้ออ้างให้ท่านนายพลมั่วนิ่มนั่งบัลลังก์ได้ ตามความรู้สึกส่วนตัวของ SD แล้วอยากให้นายพลร้ายแบบแมน ๆ แต่ระวังว่าหลุดจากวงโคจรมาก ๆ จะกลายเป็นนิยายต่อสู้นะเอย ประเดี๋ยวอีกสักพักก็อัญเชิญการ์ดมหาเทพ ขอสังเวยบลา ๆๆ จบการเทิร์น
อกหักมารักทางนี้นะเคอะฟาโรห์ รักนะ แอร๊ยยย
ปล. บทชิงนางที่สองหนุ่มสู้กัน โอ้ เท่จริง ๆ ฟาโรห์เจ้าขา ชะนีน้อยเพิ่งเบ่งลูกก็ได้แต่ร้องโหยหวนว่าอย่าฟัดกันเล้ย อย่าฟัดกัน ฮือ ๆ หนีไปซะ ไม่ต้องห่วงช้านนน SD ก็อยากจะบ้องหูชะนีสักที “โว๊ะ ใครเขาแย่งเอ็ง อินี่อย่าสำคัญตัวผิด เดี๋ยวบทหน้าสองคนนี้เค้าก็หนีไปซั่มกันแล้วยะ ฮ่วย”
แทงเข่าน้องมันด้วยความรักสักทีเถอะ รักมันแค่ไหนก็ต้องตบสักพลัวะ หมั่นไส้
ปล. 2 SD ยังเดาไม่ออกว่าใครเป็นพระเอก เพราะดูเหมือนว่าพร้อมจะพลิกกลับไปกลับมาได้ตลอดเวลา เพี้ยง! ขอให้ฟาโรห์เย็นชาร้ายลึก เลี้ยงลูกชู้ในบ่อสิงโต ไม่สิ เลี้ยงให้เกลียดพ่อแท้ ๆแล้วก็ถ่ายทอดสดรายการลูกชู้กระทืบชู้ให้น้องสาวดูสด ๆ ไปโล้ดดด พอความจริงกระจ่างก็ดราม่ากันอีก โหด ฮ่า ๆๆๆ
ความคิดเห็น