ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รับสับนิยาย By Sweet Dreamer

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 13 วิมานกลางใจ ...(ซื่อแท้หลาว)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 148
      0
      12 พ.ค. 55

    วิมานกลางใจ ผู้เขียน: Felicis

     

                โอ้ ว้าว แบนเนอร์กับชื่อเรื่องนี้หวานมาก น่าสนใจยิ่งนัก แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ทันทีที่ SD คลิกตามเข้าส่องดู คำโปรยแรกคือ “เมื่อพินัยกรรมหาย ความหวาดระแวงจึงเกิด ความขัดแย้งบั่นทอนทุกสายสัมพันธ์ให้สะบั้นลง ไม่เหลือความไว้วางใจใดๆ...ยามที่ชีวิตตกอยู่ในอันตรายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ได้ คนทั้งสองจะทำอย่างไร!? ”

     อืมมม เอาล่ะสิตรู หวังว่าคงจะไม่ใช่นิยายโรแมนซ์พระเอกหื่นนางเอกอ๊ะอ๊านะเอิงเอย

    โอเคว่าไม่ใช่ แต่ที่แน่ ๆ คำโปรยของคุณไม่ชวนติดตามเลยสิพับผ่า เติมพริกเติมเกลือ เหยาะน้ำตาลลงไปสักนิดสิท่าน รับรองอร่อยเหาะ เนื้อเรื่องกล่าวถึงนางเอกซึ่งเป็นบุตรสาวคหบดีผู้ร่ำรวย โชคร้ายที่บิดาเสียชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทิ้งมรดกพันล้านวอนไว้ให้ครอบครัวตีกันอิรุงตุงนัง เพราะมีทั้งพี่น้องจากเมียน้อยเมียหลวงของพ่อ ไหนจากญาติ ๆ ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้เข้ามารอเปิดพินัยกรรมตั้งแต่สวดศพคืนแรก นางเอกเองก็เป็นลูกสาวเมียคนปัจจุบัน พี่ชายติดพนันงอมแงม แล้วก็ยิ่งปวดหัวหนักเมื่อพินัยกรรมเจ้าปัญหาหายไปอย่างไร้ร่องรอย จับมือใครดมไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างชี้หน้ากันไปมาว่าหิวเงิน บลา ๆ

    เว่ากันตามตามตรง นิยายของคุณไม่ค่อยมีความสมเหตุสมผลในหลายจุดอย่างยิ่ง SD ตั้งใจอ่านได้เรื่อย ๆ ก็คิดว่าพอแล้ว ไม่มีอะไรให้ตามแล้ว สำนวนการเขียนของคุณไม่ได้ขี้เหร่หรือด้อยกว่าใคร เพียงแต่ทำให้คนอ่านงุนงงได้ง่ายด้วยใช้ประโยคขาดประธาน ประโยคบรรยายเวิ้นเว้อ ไม่ก็เปิดตัวละครใหม่ที่ทำให้คนอ่านไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ หรือไม่รู้ว่าคุณจะให้น้ำหนักตัวละครตัวใหม่ ๆ แต่ละตัวมากน้อยเพียงไหน ดังนั้นถ้าคุณต้องการให้เกิดสถานการณ์บีบคั้นอะไรบางอย่างในอนาคต ระวังว่าคนอ่านจะรู้สึกเฉย ๆ เพราะไม่ได้รู้สึกผูกพันอะไรกับตัวละคร คุณระบุว่าตัวละครตัวหนึ่งเป็นพระเอก ปูพื้นเพมาทุกอย่าง แต่อ่านไปแล้ว เขาก็เป็นเพียงตัวละครไม่ใช่ตัวเอก และตัวละครอื่นที่ไม่มีที่มาที่ไปกลับกลายเป็นตัวเอก การเล่นกับความกำกวมเช่นนี้ คนอ่านจะสนุกก็ต่อเมื่อคุณให้น้ำหนักตัวละครดีพอหรือคุมเนื้อหาให้น่าติดตามอยู่ตลอด ซึ่งมองในอีกทางหนึ่ง คุณก็อาจจะอุบเฉลยเอาไว้ปล่อยตูมช่วงไคลแม๊กซ์ก็ได้

    แต่เท่าที่อ่าน อืดอาดมาก

    คุณวางปมใหญ่หลวงเกี่ยวกับเรื่องพินัยกรรมที่หายไปไว้ รวมทั้งปริศนาว่าใครเป็นคนทำ เบาะแสที่ค่อย ๆ ปล่อยมาทีละนิดทีละติ๊ด แต่ให้ตายเถอะ.... นางเอกเอ๋ย น่าเบื่อมาก

    ตั้งแต่บทแรกเลยทีเดียวที่ SD อ่านแล้วขมวดคิ้วและวงคำถามตัวเบ้ง ๆ ว่า “เหรอ?”

    นางเอกนั่งซดกาแฟพลางอ่านข่าวอุบัติเหตุของพ่อในหนังสือพิมพ์กรอบเล็ก ๆ เหมือนอ่านข่าวอาชญากรรมทั่วไป ไม่ทุกข์ไม่ร้อนเท่าไหร่เพราะเธอไม่สนิทกับพ่อ และแล้วเพื่อนชายคนสนิทก็มาถึง ขอโทษขอโพยที่มาช้าเพราะมัวแต่ “เมาท์” กับคนอื่นเพลินไปหน่อย

    เมาท์? อืมมม ผู้ชายสีม่วง เอ๊ะ สีอะไรกันแน่

    ทั้งคู่ก็เมาท์กันไปหนึ่งบท ว่าด้วยเรื่องวุ่นวายของบ้านนางเอกที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้คนอ่านทราบคร่าว ๆ ว่าครอบครัวนางเอกค่อนข้างไม่กินเส้นกันอยู่ และนางเอกก็ไม่ค่อยจะสนใจด้วย ที่สำคัญคือเธอไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทอง และแล้วชีก็บอกแกมไหว้วานเพื่อนให้ช่วยไปส่งที่วัด

    เอิ่มมม อ่ะนะ เจ้าภาพค่ะ หลบมานั่งซดกาแฟรอเพื่อนได้ด้วย ธุระปะปังก็ไม่มีอะไรนอกจากนั่งบ่น ๆ ที่สำคัญดันพักอยู่ที่ห้องข้าง ๆ กันในคอนโดเดียวกัน แล้วจะนัดมาเพื่อ? ตามปกติแล้ว ถึงแม้ว่าจะจ้างบริษัทจัดงานศพให้ ถ้านึกตามจริงแล้ว วันแรก คืนแรก เจ้าภาพไม่ต้องอยู่ดูแลหรอกรึ? และหลังจากสวดคืนแรกแล้ว จบเลยไม่กล่าวถึงอีกเลย นางเอกก็ทำงานลัลลา ปาร์ตี้ ฝึกงาน ไปเยี่ยมแม่ แล้วคุณแม่นางเอกล่ะคะ ไม่มาร่วมงานบ้างเหรอ?    

    และที่ฮามากมาย สวดศพเสร็จ 5 ทุ่ม    

    แค่บทแรกก็รู้แล้วว่าเมา ตามซ้ำด้วยคุณแม่โทรมาหาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เดาว่าคุณแม่ตื่นเช้าไม่ก็ถูกใครบังคับให้โทรเพื่อถามเรื่องเงินใส่ซองช่วยงานศพ คุณลูกตอบว่าอยู่ที่คนของบริษัทช่วยจัดงานศพ คุณแม่ก็เชื่ออีก ซื่อแท้ คุณนายขา เรื่องเงินเรื่องทองไม่เชี่ยวเลย ไม่น่าเชื่อว่าเป็นเมียเศรษฐี

    และแล้ว พินัยกรรมก็หายไป! ทนายหน้ามึนบอกให้ญาติ ๆ ทั้งหลายยกพลฮูเลไปสถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ ว่าใครเป็นคนร้าย

    ฮ่วย! แล้วเอ็งนัดเค้าไปเจอกันที่บ้านทำไม ทำไมไม่นัดไปที่สน. ไม่ก็เชิญตำรวจมาที่บ้านเลย กว่าจะบอกทาง กว่าจะทะเลาะ กว่าจะพูดกันรู้เรื่องว่าให้ไปสน.นี้ ๆๆ SD อ่านแล้วก็อืมมมม ที่สำคัญเอ็งเป็นคนเก็บรักษาพินัยกรรม เอ็งนั่นแหละที่ต้องโดนสอยน่วมก่อนคนแรก  และที่สำคัญ พินัยกรรมฉบับสำคัญ ไม่มีการทำซ้ำเก็บแยกไว้หรือจ๊ะ ขนาดข้อมูลลูกค้าอย่างตาสีตาสา ธนาคารยังทำก๊อปปี้ไว้สามชุด แยกเก็บไว้โดยซื้อพื้นที่เก็บจากบริษัทรับจ้างเพื่อป้องกันการสูญหายหรือถูกทำลายเลยนะจ๊ะ  

            ที่ฮาหนักขึ้น เรื่องภายในครอบครัว กำลังจะคุยเรื่องพินัยกรรม เรื่องมรดก นางเอกยังจะหนีบเพื่อนสนิทซึ่งเป็นคนนอกไปเป็นเกราะอีก นอกจากจะแสดงว่าเธอหงิมแล้ว เธอยังไม่รู้จักกาลเทศะอีกด้วย

          เอิ่มมม ถ้า SD เป็นญาติของนางเอก ก็คงจะกระพริบตาถี่ ๆ และชัวร์แล้วว่าอินี่เอาแฟนมากร่างตอนมีเรื่องแห๋ง ๆ เอาล่ะ ถ้าไม่มีการทำก๊อปปี้พินัยกรรมไว้ ทางทนายไม่ชี้แจงอะไรหรือมีช้อยส์อะไรให้ทางญาติ ๆ เลยหรือ? นางเอกจะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวถามเองเดาเองเป็นนักสืบจิ๋วโคนัน แต่เธอก็สงสัยแค่นั้นแล้วก็จบ ไม่มีการสานต่อ ไม่มีการให้เบาะแสใด ๆ หรือวางผู้ต้องสงสัยให้คนอ่าน ได้แต่สงสัยว่าคนทำ ทำไปทำไม ทำไปเพื่ออะไร แต่ไม่สงสัยว่าใครทำ?

    นางเอกบรรยายตัวเองว่ามีอันจะกินอย่างนั้นอย่างนี้ ทุกหน้าเทศกาล ป๊ะป๋าก็แจกตังส์ นับ ๆ แล้วก็ได้มายี่สิบล้าน ทางบ้านก็ไม่ได้เดือดร้อนมีธุรกิจใหญ่ มีคอนโดในบทแรก บทถัดมามีเพนท์เฮาส์ แต่นั่งแท็กซี่ไม่ก็โหนรถเพื่อน การกินการอยู่ก็เป็นเหมือนนักศึกษาทั่ว ๆ ไปเหมือนอยู่หอพัก งงแท้

    เป็นคุณหนูติ๋ม ๆ ไม่มีอะไรน่าค้นหาเลย

    เมื่อเธอประกาศจุดยืนของตัวเองตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่แคร์ ไม่มายด์เรื่องมรดก ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ช่าง ดังนั้นเรื่องพินัยกรรมที่หายไป คนอ่านจึงรู้สึกว่า เจอก็ดี ไม่เจอก็ช่างเช่นเดียวกันนั่นเอยยย

     

     

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×