ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {fic :: exo} You're my Moon~☽ (KaiLu) [END]

    ลำดับตอนที่ #16 : You’re my Moon ☽ :: 10 :: Let's do it ~ Chu'

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 663
      5
      27 ม.ค. 57

              นี่ยังดีนะ

     

              ยังโคตรจะดีมากๆ นี่พูดเลย!

     

     

     

                ฆ่าเด็กฝึกหัดในค่ายเพลงของญาติ เสียค่าปรับเท่าไหร่ ?

     

              ติดคุกนานแค่ไหน ?

     

    ลู่หานยอม!!!!

     

     

     

               

     

                “ เพลง Chu~! เพลง Chu~! เพลง Chu~! เพลง Chu~!” เสียงดังจากโอ เซฮุนเพียงคนเดียวในตอนแรกกลับเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆพร้อมด้วยเสียงของเพื่อนร่วมคลาสเรียนเต้นอีก 3 คน มือกำยกขึ้นตามจังหวะการพูดและนั่นทำให้ดูเหมือนเกิดการประท้วงขนาดย่อมภายในคลาสเรียนในสายตาของลู่หาน แต่สำหรับจงอินกลับรู้สึกเหมือนจิตวิทยาว่าด้วยชักจูงจิตใจของผู้อื่นให้เห็นด้วย เซฮุนทำมันได้ดีตลอดไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ก็ตาม เพราะเห็นได้ชัดว่ายังไงๆ 4 เสียงใน 6 เสียงก็ชนะขาดลอยแบบหาข้อโต้แย้งใดๆไม่ได้

     

     

     

                “ เจสสิก้า~ คุณโปรดิวเซอร์~” น้ำเสียงอ้อนๆถูกส่งออกมาให้กับหญิงสาวและโปรดิวเซอร์รายการที่ยืนอยู่ข้างๆกล้องตัวใหญ่ที่ใช้ในการถ่ายทำ ทั้งสองคนหัวเราะเสียงใส่พลางสายหน้า บอกเป็นนัยน์ๆว่าไม่มีสิทธิ์ในการออกความคิดเห็นหรือจะสามารถเข้าไปช่วยแสดงความคิดเห็นได้ สุดท้ายลู่หานก็ต้องยอมรับมันไปโดยไม่สามารถที่จะคัดค้านได้

     

     

     

                หลังจากครบอาทิตย์ของการฝึกซ้อมรวมไปถึงการแข่งขัน แน่นอนว่าโซลเอฟซีชนะไปใสๆด้วยแต้ม 3 ต่อ 1 ลู่หานทำไป 2 ประตูและมินซอกอีก 1 ประตู จำได้ว่าเขาชวนครูจงอินไปดูการแข่งขันด้วย แต่อีกฝ่ายไม่ว่าง ลู่หานก็คิดว่าเป็นการดีเหมือนกันที่ครูจงอินไม่ได้มา ไม่อย่างนั้นอาจจะสลับกัน โซลเอฟซีอาจจะแพ้เพราะกองหน้าเอาแต่มองหาผู้ชม

     

     

     

                ลู่หานโทรคุยกับครูจงอินทุกวัน ตลอด 3 วันที่ผ่านมา พยายามโทรหาในช่วงเวลาที่แน่ใจว่าจะไม่รบกวนทั้งเวลาทำงานและเวลาพักผ่อนของจงอิน อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะไม่ได้คิดว่ามันเป็นปัญหา เพราะจงอินเต็มใจที่จะพูดคุยกับลู่หาน จาก 15 นาที เพิ่มเป็นครึ่งชั่วโมง จากครึ่งชั่วโมงเพิ่มเป็นหนึ่งชั่วโมง และจากหนึ่งชั่วโมงเพิ่มเป็นหนึ่งชั่วโมงสิบห้านาที

     

     

     

              ค่อยรู้จักกันมากขึ้น

     

              มากขึ้น

     

     

              มากขึ้นไปอีก...

     

     

     

                เสียงเพลงจังหวะน่ารักดังขึ้นให้ได้โยกตัวไปมาอีกครั้ง ลู่หานจำได้ว่าเขารู้จักเพลงนี้เพราะมินซอกชอบเปิดในห้องพัก แต่ก็ค่อนข้างจะนานมาแล้ว ดวงตาคมจ้องมองครูประจำคลาสที่กำลังนั่งหลับตาอมยิ้มน้อยๆโยกตัวไปมาอยู่ฝั่งตรงข้ามก็อดที่จะยกยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ เขาเคยบอกรึป่าวว่าครูจงอินน่ะน่ารัก อ๋า! เคยแล้วสินะ แต่เอาเถอะอยากจะบอกอีก เพราะครูจงอินน่ารัก น่ารักมาก น่ารักสุดๆ

     

     

     

                “ จริงๆแล้วเรามีอีกเรื่องที่อยากจะบอกนะคะ คือ... การแสดงในครั้งนี้เราจะให้คุณครูจงอินกับเด็กๆในคลาสร่วมขึ้นโชว์ด้วยค่ะ” เสียงที่เงียบลงไปหลังจากที่เพลงจบกลับดังขึ้นมาอีกครั้ง แบคฮยอนและเซฮุนยกมือขึ้นทั้งสองข้างไฮไฟว์กันพร้อมยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ในขณะที่จงแดและจื่อเทากำลังปรบมือแสดงความดีใจ

     

     

     

                “ เย้ๆๆๆ โทรบอกแม่ๆ ต้องโทรบอกแม่ก่อน” แบคฮยอนลุกพรวดวิ่งไปคว้ากระเป๋าตัวเอง ล้วงเข้าไปหามือถือ ลืมไปแล้วว่าเคยพูดเอาไว้ว่าที่บ้านไม่เคร่งเรื่องเดบิวต์ แต่มันก็อดจะดีใจไม่ได้ ตอนนี้ดูเหมือนทุกคนจะวุ่นวายจนควบคุมไม่ได้ ทางทีมงานและจงอินจึงสั่งพักก่อน 10 นาทีเพื่อให้ได้ตั้งสติกันใหม่ แล้วค่อยเข้าเรื่องในการคุยงานกันอีกที

     

     

     

                “ เจส... อาทิตย์นี้ไม่มีซ้อมบอลใช่มั๊ย ?” ลู่หานเอ่ยถามเมื่อพาตัวเองเดินเข้ามาหาผู้ดูแลด้านหลังกล้อง หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ

     

     

     

                “ ยังต้องซ้อมตอนเช้าเหมือนปกติ”

     

     

     

                “ ไม่ๆ แบบนั้นรู้แล้ว แต่หมายถึงว่าซ้อมทั้งวันเหมือนอาทิตย์ที่แล้ว”

     

     

     

    “ ไม่มีแล้ว มีอีกทีก็อาทิตย์หน้า มีอะไรรึป่าวลู่หาน?”

     

     

     

                “ อ่อ... โอเค...” ถามเสร็จก็รีบย้ายตัวเองเดินเข้าไปหาครูผิวสีแทนที่กำลังนั่งจ้องมือถืออยู่บนโซฟาอีกมุมหนึ่ง ดวงตาคู่สวยจ้องมองคนในการดูแลที่ค่อยๆทิ้งตัวนั่งลงข้างๆกับครูเจ้าของคลาส รอยยิ้มที่เธอแน่ใจว่ามันพิเศษยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่ถูกสร้างขึ้นบนริมฝีปากของลู่หาน ความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนเธอมั่นใจว่ามันมีอยู่จริง แต่มันติดอยู่ที่แววตาคนคู่นั้น

     

     

     

              แววตาของครูไค

     

              บางครั้งก็เหมือนมีประกาย

     

     

     

              และบางครั้งก็ว่างเปล่า...

     

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

     

     

                การซ้อมเป็นไปอย่างเชื่องช้าเมื่อลูกศิษย์เกินครึ่งของครูไคไม่ยอมที่มีอารมณ์ร่วมในเพลง ผิดกับอีก 2 คนที่ดูจะชอบใจและใส่อารมณ์การแสดงลงไปอย่างเต็มจนล้น แบคฮยอนที่ปกติเต้นได้ไม่ค่อยดีกลับกลายเป็นสนุกสนานเฮฮายิ่งกว่าใครๆ เซฮุนเองก็ดูหรรษามากกว่าปกติ จงแดทำหน้าแหยๆ และจื่อเทาที่เอาแต่เขินอาย

     

     

     

                “ จื่อเทา จงแด ขยับตัวให้น่ารักกว่านี้หน่อย”

     

     

     

                “ ดูพี่เป็นตัวอย่างนะน้อง ฮ่าๆๆ” เซฮุนเอ่ยตามหลังเมื่อครูไคพูดจบ ร่างขาวกระโดดโลดเต้นอย่างกับเด็ก 3 ขวบอยู่ตรงหน้าจื่อเทา รู้สึกสนุกมากกว่าที่ผ่านๆมาเมื่อเห็นว่าตัวเองทำได้ดีกว่าจื่อเทาที่ได้รับคำชมและเป็นที่หนึ่งของห้องเรียนนี้มาโดยตลอด

     

     

     

                “ ไม่อยากเต้นแล้ว...”

     

     

     

                “ ว่าไงนะ คุณลู่หาน?”

     

     

     

                “ ป่าวๆ ผมไม่ได้พูดอะไร”

     

     

     

                “ จำท่าได้แล้วใช่มั๊ย ?”

     

     

     

                “ แหะๆๆ คิดว่ายัง...”

     

     

     

                “ งั้นซ้อมท่ากันอีกรอบแบบไม่ต้องมีเพลงนะ” แล้วร่างสมส่วนก็เริ่มที่จะอธิบายท่าทางการเต้นอีกครั้ง มีคนเคยบอกว่าจงอินเป็นอัจฉริยะทางด้านการเต้น ตอนนี้ลู่หานเข้าใจแล้วและเห็นด้วยอย่างถึงที่สุด ครูจงอินสามารถคิดท่าเต้นได้เกือบทั้งเพลงโดยใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงในระดับพื้นฐาน แต่ถึงจะเป็นแค่ท่าพื้นฐานแต่เขากลับรู้สึกว่าเจ๋งสุดๆไปเลย

     

     

     

                เพราะตั้งใจในการซ้อมและต่อท่าเต้นเลยไม่ได้เห็นว่าลูกศิษย์คนอื่นๆได้อู้ไปแอบนั่งพักกันแล้ว ช่วงเวลาแห่งการจัดพิรุธเริ่มต้นขึ้นเมื่อเซฮุนชี้ให้ดูครูไคจับมือของพี่นักฟุตบอลเพื่อปรับท่าให้ และตามด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยประกายของลู่หาน

     

     

     

                เห็นๆกันอยู่ ว่าครูไคมองพี่ลู่หาน

     

     

     

                ‘ ก็ซ้อมกันอยู่ 2 คน จะให้มองใคร ?

     

     

     

                ‘ แล้วจะจับมือทำไม ?

     

     

     

                ‘ ก็ปรับท่า...

     

     

     

                ‘ มันมีอะไรมากกว่านั้น!’

     

     

     

                ‘ อย่ามโน ขอร้อง...

     

     

     

                พอจบบทสนทนาอันไร้เสียง มือบางก็ฟาดเข้าที่กลางหน้าผากของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ จื่อเทาร้องโอ๊ยเพราะความเจ็บแสบที่เริ่มแผ่ซ่านไปทั่วหน้าผากของตัวเอง หันขวับไปจ้องคนตัวขาวที่ตอนนี้ทำหน้าทำตากวนประสาทใส่พร้อมทั้งแลบลิ้นออกมายั่วโมโหอีก สงครามขนาดย่อมกำลังจะเริ่มอีกครั้งถ้าหากว่าจงอินไม่หันมาเห็นและสั่งลงโทษพวกเขาก่อน โทษฐานที่แอบอู้

     

     

     

              สะสมไว้ก่อน

     

              ถึงเวลาจื่อเทาจะเอาคืนเซฮุน

     

     

              ทบต้นทบดอก ไม่ให้ตกหล่นแม้แต่น้อยเลย

     

              คอยดูเถอะ!!!

     

     

     

     

                “ ลู่หาน... ฉันต้องกลับไปก่อนนะ” เจสสิก้าเดินเข้ามาในช่วงพักการถ่ายทำ ลู่หานยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่กำลังไหล หอบหายใจอย่างหนักหน่วงด้วยความเหนื่อยล้า ถึงจะบอกว่าเพลงนี้จะน่ารักใสๆ ดนตรีไม่ได้เร็วเกินไปแต่ก็สำหรับลู่หานถ้าไม่ใช่เพลงช๊า...ช้า เขาว่ามันก็ยังเร็วไปอยู่ดีสำหรับตัวเขา

     

     

     

                “ อ้าว... มีอะไรรึป่าวเจส ?”

     

     

     

                “ ต้องกลับไปดูแทคยอนน่ะ...”

     

     

     

                “ ฮันแน่! กลับไปดูกันด้วย... อะไรยังไงกันนะเจสกับแทคยอนเนี่ย” ลู่หานยักคิ้วหลิ่วตาแซวหญิงสาว แต่ดูเหมือนเจสสิก้าจะไม่ค่อยอยากเล่นด้วยเท่าไหร่ เขาเองก็รู้ดีว่ามันเป็นยังไง ตลอดที่ซ้อมอยู่ในสโมสร ช่วงหลังๆมานี้แทคยอนเจ็บป่วยบ่อยมาก มากจนเขาเองเริ่มคิดว่ามันเป็นการเรียกร้องความสนใจจากหญิงสาว และเธอเองก็คงจะรู้ถึงได้ทำหน้าเบื่อหน่าย

     

     

     

                ลู่หานไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องเลวร้ายเพราะแทคยอนไม่เคยทำให้การซ้อมเสียหาย เขามักจะทำแบบนั้นหลังจากที่ใกล้จะเลิกซ้อมแล้ว หรือว่าเวลาที่มีการพัก เดินเตะนั่น ชนนู่น สะดุดนี่ ร้องโอดครวญจนเพื่อนๆคนอื่นต่างพากันหัวเราะในความสำออย ลู่หานไม่รู้หรอกว่าทำไมแทคยอนต้องพยายามทำขนาดนั้นจนกระทั่งมาเจอกับตัวเอง พยายามทำให้เขาสนใจ เรียกร้องความสนใจได้ทางไหนก็จะทำ ความจำของลู่หานน่ะดี แต่ที่จำท่าไม่ได้ ก็นะ... คิดเอาแล้วกัน ^^

     

     

     

                “ ไม่มีอะไรทั้งนั้น...”

     

     

     

                “ แหนะๆ ไม่ใช่ว่าจีบกันอยู่หรอ ?”

     

     

     

                “ ป่าวซะหน่อย!

     

     

     

                “ ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องเขินๆเลิกแซวแล้ว รีบไปดูแทคยอนเถอะ” หญิงสาวพยักหน้ารับเอ่ยพึงพำกับตัวเองเบาๆที่ลู่หานไม่ได้ยินแล้วหันไปบอกลาทีมงานรวมถึงจงอินและเด็กฝึกหัดคนอื่นๆ เจสสิก้าเดินออกจากห้องไปแล้วและเป็นจังหวะเดียวกับที่หมดเวลาพักพอดี การซ้อมเต้นเพลง Chu~ จึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง

     

     

     

                การซ้อมล่วงเลยไปหลายชั่วโมง จนต้องนี้เป็นเวลาเกือบ 1 ทุ่มแล้ว ทีมงานลากลับไปก่อนเมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงก่อน เพราะหมดเวลาการถ่ายทำที่เขียนมาในตารางแล้ว อันที่จริงลู่หานก็จำเป็นต้องกลับแล้วเหมือนกัน แต่อยากซ้อมต่อเพราะยังจำท่าบางท่าไม่ค่อยได้ เขาทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นก่อนจะนอนแผ่หลาลงไป หยาดเหงื่อหายไปเนื่องจากแขนขาวยกขึ้นปาดมันออก

     

     

     

     

                “ พี่ลู่หานกลับยังไงฮะ พี่คนสวยก็กลับไปแล้วด้วย” แบคฮยอนทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเอ่ยถามเลยไปถึงผู้ดูแลของคนที่กำลังนอนอยู่ ลู่หานส่งยิ้มบางๆพลางส่ายหน้าเป็นการบอกว่ายังไม่รู้หนทางของตัวเองเหมือนกัน ขามาเขาก็นั่งรถของสโมสรมา เจสสิก้ากลับไปแล้วและก็คงจะนั่งรถของสโมสรกลับไปด้วยเช่นกัน มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ตอนแรกๆเจสสิก้าก็บอกว่าเธอจะนั่งรถแท็กซี่กลับไปเอง แต่เขาห้ามไว้ เป็นผู้หญิงจะให้นั่งแท็กซี่คนเดียวก็ไม่ค่อยจะดี เขาเป็นผู้ชายนั่งคนเดียวน่าจะดีกว่า

     

     

     

                “ แล้วพี่ลู่หานรีบกลับรึป่าวฮะ ?”

     

     

     

                “ ก็ไม่เท่าไหร่นะ”

     

     

     

                “ งั้นไปทานข้าวกันก่อนกลับนะฮะ... นะๆๆๆ” คนที่เด็กกว่าเกาะแขนของคนที่นอนเขย่าๆเป็นการอ้อนขอให้ลู่หานไปทานข้าวก่อนจะแยกย้ายกันกลับ

     

     

     

                “ ไปนะๆๆพี่ลู่หาน เดี๋ยวมื้อที่ครูไคเลี้ยง!” บุคคลที่สามอันไม่ได้ตกลงอะไรไว้ก่อนหน้านี้ทำท่าจะปฎิเสธแต่เสียงร้องอย่างดีใจของคนอื่นๆก็ทำให้เขาไม่สามารถจะทำมันได้ ลู่หานเหลือบตาไปมองยังจงอินที่ทำท่าเหมือนจะเดินเข้ามาทำโทษนักเรียนในการดูแล แล้วพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้าง เอ่ยเสียงดังฟังชัดว่าจะไปได้ ทำเอาจงอินถึงกับต้องยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก

     

     

     

              ยุขึ้นซะยิ่งกว่าเด็กๆอีกนะ

     

     

              คุณนักฟุตบอล!!!!

     

     

     

     

                หลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าจะไปกินที่ร้านใกล้ๆกับค่ายเพลงแล้ว เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่มาถึงร้าน ทุกคนก็นั่งประจำที่ตัวเองทันที โดยมีครูจงอินและลู่หานนั่งอยู่ด้านในสุดแต่ว่าฝั่งตรงข้ามกัน พนักงานสาวของร้านเดินมารับออเดอร์หลังจากที่ทิ้งเมนูไว้แล้วประมาณ 5 นาที อาหารหลากหลายเมนูถูกสั่งจากแบคฮยอนและเซฮุนเป็นส่วนใหญ่

     

     

     

                “ เอาโซจู 4 ขวดด้วยนะฮะ”

     

     

     

                “ แบคฮยอน ครูไม่อนุญาตนะ...”

     

     

     

                “ โถ่... นะฮะครูไค ถือว่าเป็นการฉลองที่เซฮุนสอบผ่านคณิตศาสตร์นะฮะ”

     

     

     

                “ แล้วมันเกี่ยวกันตรงไหน ?”

     

     

     

                “ ก็ฉลองไงฮะ ฉลองๆๆๆๆๆๆ”

     

     

     

                “ เฮ้อ... อย่าเมาแล้วกัน” สุดท้ายจงอินก็ต้องยอมให้คนตัวเล็กสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาจนได้ อันที่จริงแบคฮยอนและจงแดนั้นอายุเกินแล้วก็สามารถดื่มได้ แต่เซฮุนกับจื่อเทายังไม่ได้รับสิทธิ์นั้น เด็กตัวขาวโวยวายใหญ่ว่าเขาสมควรจะได้ดื่มด้วยเพราะมันเป็นการฉลองให้กับตัวเขาเอง แต่เพราะเหลือบไปเห็นสายตาดุๆของคนเป็นครูก็ต้องสงบปากสงบคำ

     

     

     

              ไว้ตอนเผลอๆ

     

              สักกรึบ สองกรึบก็คงไม่มีใครรู้~

     

     

     

                ลู่หานมองโต๊ะอาหารที่ตอนนี้เต็มไปด้วยจานอาหารน่าตารับประมานมากมาย ในใจคิดว่าคงจะทานกันไม่หมดแน่ๆ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้นเมื่อทันทีที่ต่างคนต่างลงมือรับประทาน มันรวดเร็วจนลู่หานเองยังตกใจไม่ใช่น้อย

     

     

     

                อาหารในจานพร่องไปจนแทบจะไม่เหลือ บางจนถูกยกกลับไปเก็บแล้วเนื่องจากหมดไป แบคฮยอนนั้นคอแข็งกว่าที่ลู่หานคิดเอาไว้เยอะ เพราะตอนนี้โซจูเซ็ต 2 อีกจำนวน 4 ขวดได้ถูกนำมาเสิร์ฟอีกครั้ง จงอินไม่สามารถต้านทานแบคฮยอนได้ ข้อนี้ลู่หานเองก็เพิ่งจะรู้ จงอินตามใจแบคฮยอนมากหรือจริงๆแล้วน่าจะตามลูกอ้อนกับดวงตาใสซื่อคู่นั้นไม่ทันเสียมากกว่า

     

     

     

                “ ครูไคหมดแก้ว! หมดแก้ว!! หมดแก้ว!!” มือหนากระดกแก้วใสในมือ ของเหลวไร้สีแต่มีกลิ่นและรสชาติขมปร่าไหลผ่านลำคอสร้างความร้อนไปตลอดทางจนตกลงไปสู่ด้านในร่างกาย ใบหน้าหล่อเหยเกเพราะฤทธิ์ของมัน

     

     

     

                “ พี่ลู่หานๆ หมดแก้วเลยนะฮะๆๆๆ” ลู่หานอาจจะลืมบอกไปอีกอย่างหนึ่ง ไม่ใช่แค่จงอินหรอกที่แพ้ลูกอ้อนของแบคฮยอน เพราะเขาเองก็ดูเหมือนว่าจะเป็นไปด้วย มือเรียวกระดกแก้วใสที่บรรจุโซจูเอาไว้ทีเดียวหมดแก้วเรียกเสียเฮจากผู้ร่วมโต๊ะได้ไม่ต่างจากจงอิน

     

     

     

                “ เล่นเกมส์ๆๆ มาเล่นเกมส์กันเถอะ!!!” เสียงนี้เรียกให้ทุกคนบนโต๊ะละความสนใจกับทุกสิ่งอย่างให้หันไปมองเด็กฝึกหัดตัวขาวจอมกวนประจำคลาส เซฮุนนั่งหน้าแดง ดวงตาเยิ้ม บวกกับรอยยิ้มขี้เล่น ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วล่ะว่าเจ้าตัวทำอะไรกับชวดสีเขียวในมือ

     

     

     

                “ ครูจะฟ้องแม่นายแน่!

     

     

     

                “ ครูจงอินอย่าโหดกับผมเลยน๊ะ...”

     

     

     

                “ ตีซักทีดีมั๊ยเนี่ย!?”

     

     

     

                “ เล่นเกมส์ก่อนค่อยตี โอเคน๊ะ... จัดไป๊~!!” เมื่อดูแล้วว่าไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ จงอินเลยต้องปล่อยเลยตามเลย แต่เขาก็ห้ามไม่ให้เซฮุนดื่มเข้าไปอีก มีหวังถ้าผู้ปกครองรู้เขาเองจะถูกด่าโทษฐานที่ไม่ยอมดูแลลูกศิษย์ให้ดี เผลอๆเรื่องจะไปถึงคุณจุนมยอน ทีนี้แหละเขาได้โดนเล่นงานหลายทางแน่ๆ

     

     

     

                เกมส์ 20 คำถามถูกนำขึ้นมาเล่นในวงเหล้าเกือบทุกๆที่และแน่นอนที่นี่เช่นกัน แบคฮยอนวางขวดสีเขียวในแนวนอน ออกแรงเพียงเล็กน้อยขวดก็หมุนไปเรื่อยๆตรงกล้าโต๊ะและค่อยๆช้าลง ช้าลงจนหยุดนิ่งสนิท ปากขวดชี้อยู่ที่เซฮุน เจ้าตัวหัวเราะร่าปรบมือแปะๆอย่างอารมณ์ดี ตั้งหน้าตั้งตาฟังคำถามที่แบคฮยอนกำลังจะถาม

     

     

     

                “ อืมมมม... ถามว่าอะไรดีนะ ?”

     

     

     

                “ ตื่นเต้นๆๆๆ รีบๆถามซักทีเถอะพี่แบคฮยอน”

     

     

     

                “ อืมมม... งั้นจะถามละนะ”

     

     

     

                “.....................”

     

     

     

                “ นายเคยขโมยเงินคุณแม่ไปเล่นเกมส์ใช่มั๊ย ?”

     

     

     

                “ โหหหหหหห... ดูคำถามดิ๊ น้องเซฮุนคนดี๊...คนดีขนาดนี้อะ”

     

     

     

                “ สรุปคือไม่เคย ?”

     

     

     

                “ ไม่เคยๆๆ... ไม่เคยจิ๊กน้อย อย่าต่ำก็หมื่นวอน 555” ดูเหมือนว่าคำตอบที่แสนจะกวนของเซฮุนจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนบนโต๊ะ มือหนาของจงอินเอื้อมไปตีเข้าที่แขนขาวของลูกศิษย์เบาๆแล้วบ่นเสียยืดยาวว่ามันไม่ดี ไม่ควรจะทำ เซฮุนก็ยกมือขึ้นชูสามนี้สัญญากับจงอินว่าจะเลิกทำแบบนั้นอีก

     

     

     

                เกมส์เริ่มขึ้นอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ปากขวดทำหน้าที่ชี้ได้เป็นอย่างดีไม่บกพร่อง จนเมื่อครบทุกคนในวงแล้วที่ถูกถาม เกมส์เดิมแต่รอบใหม่ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นความซวยของคนหมุนขวดเอง แบคฮยอนร้องอ๊าก เอามือทุบโต๊ะเบาๆอย่างไม่พอใจเมื่องานเข้าตัวเอง ผิดกับลู่หานที่หัวเราะร่าอย่างชอบใจ จงอินเหลือบไปมองก็พบว่าใบหน้าของนักฟุตบอลกำลังแดง ดวงตาเยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างไม่มีกั๊ก แค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่าลู่หานกรึ่มๆแล้วไม่น้อย

     

     

     

                “ ผมจะถามๆๆๆ”

     

     

     

                “ พี่จะถามๆๆๆๆ”

     

     

     

                “ ไม่มีใครถาม ตั้งกติกาใหม่ๆๆๆ ถ้าเจอโดนตัวเองหมุนอีกรอบๆๆๆ” แบคฮยอนไม่รอคำปฏิเสธของใครทั้งนั้น เขาหมุนขวดให้เคลื่อนไหวอีกครั้ง ไม่แคร์สายตาไม่พอใจรวมไปถึงมือขาวของเซฮุนที่ตีลงมาที่ไหล่ จงแดยังคงนั่งยิ้ม ยิ้ม ยิ้มแล้วก็ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ก็เป็นอันรู้กันว่ากรึ่มได้ที่ ปากขวดหยุดลงที่ลู่หานอย่างไม่น่าเชื่อ

     

     

     

                “ พี่แบคฮยอนจัดว่าเจ๋งมาก!” เซฮุนตะโกนออกมาแล้วหัวเราะชอบใจ ถึงสติจะมาๆหายๆเหมือนทีวีสัญญาณกำลังจะพัง แต่เขาเองก็พอจะรู้แล้วก็รอให้ปากขวดนั้นหยุดลงที่ลู่หานหรือไม่ก็ครูไค แล้วผลที่ออกมาหลังจากการโกงของพี่ชายตัวเล็กข้างๆก็บังเกิดผล

     

     

     

                “ ให้ผมถามๆๆๆ”

     

     

     

                “ อ่ะๆๆ... เซฮุนถามพี่ลู่หานเลยแล้วกัน”

     

     

     

                “ หน้าตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นหมายความว่าไงน่ะ!” ลู่หานพูดไปหัวเราะไป ก็ดูเอาเถอะ เซฮุนทำหน้าตาเจ้าเล่ห์แบบอัพเลเวลมากกว่าเวลาอยู่ในห้องซ้อมซัก 100 เท่าได้ล่ะมั้ง

     

     

     

              “ พี่ลู่หานแอบชอบใครอยู่ ?”

     

     

     

                “ นี่เป็นคำถามหรือประโยคบอกเล่ากันแน่เนี่ย!

     

     

     

                “ หือ ?”

     

     

     

                “ พูดออกมาแบบนั้นครูไคก็ลำบากใจน่ะสิ”

     

     

     

                “ หือออ???”

     

     

     

                “ พี่กระดกเลยดีกว่า ไม่อยากตอบอะไรมากไปกว่านี้” ว่าแล้วก็จับแก้วเหล้ากระดกเข้าไปรวดเดียวหมด ส่งยิ้มหวานเรี่ยราดไปให้ทุกคนในโต๊ะแล้วก็มาหยุดลงที่คนฝั่งตรงข้าม จงอินได้แต่นึกขำอยู่ในใจกับการตีความหมายคำพูดของลู่หาน

     

     

     

     เซฮุนถามว่าแอบชอบใคร

     

     

    ไม่ได้พูดว่าแอบชอบครูไค...

     

     

     

    ขวดเริ่มหมุนอีกครั้งหลังจากที่หลังจากที่เสียงแซวหยุดลงพร้อมๆกับใบหน้าของลู่หานที่แดงก่ำยิ่งกว่าเดิม ปากขวดมาสงบนิ่งตรงหน้าจงอิน เสียงดังเซ็งแซ่อีกครั้งเมื่อทุกคนต่างพากันพยายามจะบอกว่าตัวเองจะเป็นคนถาม จงอินได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกโต ดูเหมือนว่าทุกคนกำลังพยายามจะรุมเขา แต่แล้วทุกเสียงก็ต้องเงียบลงเมื่อคำถามที่ดังขึ้นของจงแดจบประโยค

     

     

     

    “ ครูไครุกหรือรับ?”

     

     

     

    “ หือ ?”

     

     

     

    “ แบบว่าเมะหรือเคะ ?”

     

     

     

    “ ......................”

     

     

     

    “ เอ่ออออ ถ้าครูไคไม่อยากตอบจะกระดกเหล้าแทนก็ได้นะครับ” จงแดรู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างที่กำลังจะครอบงำตัวเขาแล้ว แน่นอนว่าพรุ่งนี้อาจจะได้ทักทายกับพนังห้องซ้อมตลอดทั้งวัน แทนการลงไปซ้อมเต้นกับคนอื่นๆอย่างแน่นอน แต่เอาเถอะ... อยากรู้จริงๆ ติดใจมานานแล้ว อยากมั่นใจว่าจะไม่เสียตังค์ให้แบคฮยอนและเซฮุน

     

     

     

    “ ตอบสิ่...”

     

     

     

    “ ................”

     

     

     

    “ ครูเมะ...”

     

     

     

    ถ้าถามว่าหน้าของแต่ละคนเป็นยังไงไม่ขออธิบายจะดีกว่า แค่มองลู่หานคนเดียวก็พอ ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะสร่างเมาไปแล้ว ดวงตากลมเบิกกว้างตามมาด้วยริมฝีปากปากเรียวที่อ้าออกอย่างไม่เชื่อในคำพูดเมื่อครู่ จื่อเทากับจงแดแอบหัวเราะคิกคัก แท็กมือกันอย่างพอใจกับผลที่ได้ แน่ล่ะ... ตอนนี้แบคฮยอนกับเซฮุนก็อึ้งไปแล้วด้วย

     

     

     

    5000 วอนมาม๊ะ...

     

    มาเข้ากระเป๋าเฮียแทน!

     

     

     

    “ ครูจงอิน...” เสียงหวานนั้นดูแหบพร่ากว่าที่เคยเป็น หลังจากที่ได้ฟังคำตอบโซจูอีกหลายขวดก็ถูกสั่งมาและแน่นอนว่าคนดื่มก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นักฟุตบอลข้างๆตัวที่ตอนนี้เมาจนเดินโซเซไปมา ผิดวิสัยนักกีฬาที่เขาบอกว่าคอแข็งซะจริง

     

     

     

    ตอนแรกเขาตั้งใจจะไปส่งเด็กๆทุกคนที่บ้าน แต่เพราะทุกคนตัดสินใจโทรไปขอพ่อและแม่ว่าจะไปนอนที่บ้านของแบคฮยอนที่อยู่ถัดไปไม่ไกล จงอินก็เลยวางใจ เขาเหลือก็แค่นักฟุตบอลที่กอดคอเขาอยู่ในตอนนี้เท่านั้น ลู่หานดื่มหนักจนลมหายใจเจือด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์ จงอินคิดมาตลอดว่านักกีฬาน่าจะตัวหนัก ถึงแม้ว่าจะตัวเล็กก็เถอะ แต่ลู่หานเบากว่าที่เขาคิดเยอะ

     

     

     

    เบาเหมือนใครบางคน...

     

     

     

    “ ลู่หานจะให้ผมไปส่งที่ไหน ?”

     

     

     

    “ ...............”

     

     

     

    “ ลู่หาน...”

     

     

     

    “ .................”

     

     

     

    “ .....................”

     

     

     

    “ จริงหรอ...”

     

     

     

    “ หือ ?”

     

     

     

    “ ครูจงอินเมะจริงๆหรอ ?”

     

     

     

    จงอินเกือบจะหลุดหัวเราะออกมาแล้วถ้าไม่ติดว่าอีกคนที่เขากำลังพยุงอยู่ในตอนแรกสะบัดตัวออกแล้ว หันหน้ามายืนจ้องกันแม้จะมีเซๆไปบ้าง ดวงตากลมคู่นี้กำลังบอกอะไรกับเขามากมายทำไมจะไม่รู้ การกระทำของลู่หานยิ่งยืนยันต่อเขามากเข้าไปอีก แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเขา ลู่หานเองก็แมนแล้วก็ดูออกว่าคิดว่าเขาเคะ เวลาคิดถึงเรื่องนี้ทีไรจงอินประสาทจะกินทุกที

     

     

     

    คิม จงอินเนี่ยนะเคะ!!

     

    โปรดหันมาดูใหม่อีกครั้งเถอะ!!!!

     

     

     

    “ ตอบผมมาสิ!

     

     

     

    “ อือ...”

     

     

     

    “ ไม่เอาอะ! ให้ตอบใหม่!

     

     

     

    “ อืม...”

     

     

     

    “ อือๆ อืมๆ ไม่เอาๆๆ!! ตอบมาดีๆ!” ดวงตาคมจ้องมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังหน้าคว่ำ เขาไม่รู้ว่าทำไมลู่หานถึงทำท่างอนใส่เขา ขอพูดใหม่อีกรอบได้มั๊ยว่านักฟุตบอลตรงหน้านี่จริงๆแล้วก็ไม่ได้ดูแมนเท่าไหร่นักหรอก แล้วไอ้การมาพูดจาเอาแต่ใจแล้วส่งสายตาตัดพ้อมาให้เขานี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย

     

     

     

    “ กลับเถอะ ผมจะไปส่งที่สโมสร”

     

     

     

    “ ครูจงอินตอบผมมาก่อนสิ”

     

     

     

    “ .....................”

     

     

     

    “ ผมกำลังจะบ้าเพราะคุณอยู่แล้วนะ...” น้ำเสียงตัดพ้อนั้น ใช่!ลู่หานกำลังจะบ้าเพราะครูจงอินอยู่แล้ว สับสนไปหมด... ครูจงอินกำลังจะบอกว่าเป็นเมะ แล้วถ้าเป็นเมะแล้วเขาล่ะ ความรู้สึกของเขาล่ะ ไม่ใช่ว่ารังเกียจกับการจะเป็นเคะอะไรหรอกนะ แต่เพราะลู่หานแมนไง แมนจริงๆไม่ได้โม้เลยด้วยซ้ำ อาชีพก็เป็นถึงนักฟุตบอลพ่วงตำแหน่งดาวรุ่งจากแฟนลูกหนังทั่วประเทศ

     

     

     

    ความเงียบเริ่มปกคลุมไปทั่วบริเวณอีกครั้ง จงอินถอนหายใจออกมาเฮือกโตเมื่อเขาพยายามจะรั้งให้คนที่ตัวเล็กกว่าก้าวตามมาอย่างว่าง่าย แต่ก็นะ... คนเมานึกอยากจะดื้อก็ดื้อขึ้นมาซะอย่างนั้น ต่อต้านแทบจะทุกทางเพื่อหยุดยืนรอคำตอบ ร่างสูงหันหลังทำท่าจะเดินจากไปแต่ลู่หานก็ยังยืนอยู่แบบนั้น

     

     

     

    ครูจงอินไม่มีทางทิ้งเขาเอาไว้คนเดียว

     

    ต่อให้ไม่ใช่คนพิเศษ

     

    แต่ในฐานะลูกศิษย์

     

     

    แค่ในฐานะนั้น...

     

     

     

    สุดท้ายแล้วจงอินก็เดินกลับมายืนอยู่ที่เดิม ตรงหน้าใครอีกคนที่กำลังจ้องมองมายังเขา แววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก คำถามเกิดขึ้นมาในหัวว่าเขาเองควรจะทำยังไงดี หลายต่อหลายครั้งที่เขาจมดิ่งลงไปในความมืด แต่ลู่หานกลับคอยส่องแสงแม้ไม่ได้มากมายเท่าดวงดาว แต่สีเหลืองนวลๆสบายตาคล้ายพระจันทร์กลับทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองสว่างได้อีกครั้ง

     

     

     

    “ ลู่หาน...”

     

     

     

    “ ตอบผมเถอะ ผมอยากรู้จริงๆ”

     

     

     

    “ ผมไม่ค่อยแน่ใจว่ามันจะสำคัญขนาดนั้น”

     

     

     

    “ ความรู้สึกของผมมันสำคัญนะ! ต่อให้ครูจงอินจะมองไม่เห็นมันก็ตาม...” ลู่หานไม่ได้หมายถึงความรู้สึกเชิงความรัก แต่เขาหมายถึงทุกความรู้สึกของคนๆนึงที่จะมีให้กับคนอีกคนนึงได้ มันทั้งมีความหวัง ทั้งปลื้ม ทั้งมีความสุข และอีกมากมายที่เขาบอกไม่ถูก

     

     

     

    “ ผมเป็นเมะ...”

     

     

     

    ยังไม่ทันที่ประโยคนั้นจะสมบูรณ์ครบถ้วน ริมฝีปากของครูนักเต้นก็ถูกครอบครองทันที ดวงตาคมเบิกกว้างอย่างห้ามไม่ได้ เขากำลังตกใจ มันเกิดขึ้นเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว มือบางทั้งสองข้างของนักฟุตบอลดาวรุ่งกำลังประคองใบหน้าของเขาเอาไว้ มันเป็นเพียงแค่การทาบริมฝีปากลงไปก็เท่านั้น ลู่หานหลับตาพริ้มในขณะที่เขากำลังเบิกตากว้าง

     

     

     

    Do it chu~

     

     

     

    เนิ่นนานจนเมื่อรู้สึกได้ถึงเสียงเรียกเข้าของมือถือเครื่องหรูที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง ลู่หานจำต้องผละริมฝีปากออกมาจากกัน มือบางยกขึ้นเสยผมลวกๆพลางหันมองออกไปทางด้านขวามือ จงอินดึงสติของตัวเองกลับมาได้ คว้าเอามือถือขึ้นมามอง แต่แล้วเรื่องที่ทำให้ต้องเบิกตากว้างกว่าเมื่อครู่ก็เกิดขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นไปมองลู่หานที่กำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่ สายตาคู่นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก

     

     

     

    ลู่หานกำลังรู้สึกดีกับเขา

     

     

    และเขาเองก็เริ่มจะรู้สึกนิดๆเหมือนกัน...

     

     

     

    มือหนาลากนิ้วผ่านจอมือถือ ค่อยๆยกขึ้นแนบหู ปลายสายเอ่ยทักทายด้วยเสียงสั่นๆ เสียงที่จงอินจำได้ดีและไม่เคยลืม จงอินเงียบและคนที่อยู่ปลายสายก็เงียบเช่นกัน ลู่หานยืนมองครูจงอินยังคงไม่ได้หายไปไหน แต่ไม่รู้ทำไมกันนะ... เขาถึงได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังห่างไกลออกไปเรื่อยๆ คนที่โทรเข้ามาแม้ไม่ได้ยินเสียงแต่ลู่หานรู้สึกว่าคนๆนั้นสำคัญกับครูจงอิน

     

     

     

    จงอิน... ฮึก... จงอิน... คิดถึง ฮึก... ฮืออออ...

     

     

     

              ลู่หานเกลียดความเงียบ

     

              เพราะมันทำให้เขาได้ยินเสียงหวานๆจากปลายสาย

     

              ผสมปนเปมากับเสียงสะอื้น

     

     

     

              และคำพูดว่าคิดถึงที่ทำให้ครูจงอินของเขากำลังพยายามกลั้นน้ำตา

     

     

     

     

              จูบของเขาเมื่อครู่ไร้ค่า เมื่อเทียบกับคำว่าคิดถึงจากคนในสาย...

     

     

     

     

    ::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::~::

     

    เกือบดี รีดเดอร์อย่าเพิ่งทำร้ายเค้า ไม่รับบริจาคมีดและรองเท้าน๊ะ TT

    ตอนนี้มาช้าหน่อย ไรท์กำลังวุ่นวายกับการบ้าน

     

    จริงๆตอนแรกตั้งใจไว้ว่าตอนนี้จะใสๆนะ

    แต่ไม่รู้ทำไมกลายเป็นขุ่นๆไปซะงั้น

    สงสัยจะเป็นอิทธิพลจากเพลงเศร้าที่ฟังไปด้วยตอนแต่ง แหะๆ ^^

    ตอนนี้ต้องเอาใจช่วยให้พี่ลู่เลิกสับสนนะ

    เพราะคงสับสนน่าดู สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองแมนสุดๆ

    แต่กลับไปหลงรักคนที่แมนเหมือนกันแบบนั้น

    บอกเลยว่าจงอินเริ่มรู้สึกดีๆนะคะ แต่จะมากพอรึป่าวต้องรอดูอีกทีคะ ^^

     

    ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจและยังคอยติดตาม

    หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะ ^^

     

     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×