รัฐประหารจะไม่มีที่สิ้นสุด หากมองประชาชนแค่ไม้ประดับ

เนื้อเรื่อง

รัฐประหารจะไม่มีที่สิ้นสุด หากมองประชาชนแค่ไม้ประดับ

          วานนี้ (5 พ.ย.) มีการจัดประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 8 ในหัวข้อเรื่อง การปฏิรูปรัฐธรรมนูญ : มุมมองเชิงเปรียบเทียบ โดยนายปรีชา หงษ์ไกรเลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันพระปกเกล้า กล่าวในการประชุมเรื่องพรรคการเมือง การเลือกตั้ง และการใช้อำนาจนิติบัญญัติ ว่า ประเทศไทยพลาดโอกาสที่จะมีระบบพรรคการเมืองแบบ 2 พรรค ตั้งแต่หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อปี พ.ศ.2475 ซึ่งถ้ามีใจกว้างพอก็สามารถเกิดระบบ 2 พรรคได้ แต่เมื่อใจกว้างไม่พอและมีระบบเจ้าขุนมูลนาย มีระบบเจ้านายกับลูกน้องเข้ามาแทรกแซง

          “พรรคการเมืองไทย เป็นที่รวมของนักการเมืองบวกกับข้าราชการประจำ และนักธุรกิจชั้นนำ โดยไม่มีประชาชนเลย ประชาชนที่เห็นว่ามี 16 ล้านเสียงนั้น เป็นเพียงไม้ประดับเท่านั้น นักการเมืองตามคำแปลของผมนั้น หมายถึง นักต่อสู้เพื่อที่จะเข้ามาสู่อำนาจรัฐ ไม่ใช่ต่อสู้เพื่อประชาชน บวกกับข้าราชการประจำ นอกจากนั้นยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เข้าร่วมด้วย โดยเป็นตัวหลัก คือ นักธุรกิจชั้นนำที่เข้าร่วมเองหรือส่งคนของตัวเองเข้ามาอยู่เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ผมคิดว่า การปฏิวัติรัฐประหารจะไม่มีที่สิ้นสุด ต้องเกิดขึ้นอีก มันเป็นวังวน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และประชาชนไทยต้องนำมาคิด” นายปรีชา กล่าว

          นายปรีชา กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยยังขาดการพัฒนาชาติอย่างมีสมดุล เราไม่สามารถพูดถึงสภาพัฒนาการเมืองได้โดยปราศจากแผน ต้องมีแผนก่อนจึงจะเป็นสภาได้ และต้องมีนโยบายที่ครอบคลุมอย่างมีสมดุล แต่ที่ผ่านมาเรามีเฉพาะแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเท่านั้น ไม่เคยมีแผนพัฒนาทางการเมืองเลย จึงไม่เกิดความสมดุล ทำให้พรรคการเมืองไม่มีความเข้มแข็งและทำให้การเมืองมีเสถียรภาพได้ลำบากมาก

          ทางด้านนายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับ นายปรีชา ที่ระบุว่าการปฏิวัติจะยังไม่สิ้นสุด รวมทั้งอยากเห็นรัฐธรรมนูญแบบไทยๆ ด้วย อย่างไรก็ตามทุกอาชีพจะมีธรรมชาติของตัวเอง ไม่ว่านักการเมือง นักธุรกิจ ทหาร ตำรวจ หรือนักกฎหมาย ทั้งนี้หากมีใครล้ำเส้นอาชีพของตนจะเกิดปัญหาขึ้น ดูอย่างกรณีรัฐบาลรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้ได้เสียง ส.ส.จำนวนมาก แต่เมื่อไปล้ำเส้นด้านธุรกิจ และผลประโยชน์ทับซ้อนมากเกินไป จึงอยู่ไม่ได้

ข้อมูลและภาพประกอบจาก