++ ปลายทางโพคารา 27 ++ - ++ ปลายทางโพคารา 27 ++ นิยาย ++ ปลายทางโพคารา 27 ++ : Dek-D.com - Writer

    ++ ปลายทางโพคารา 27 ++

    ++ ปลายทางโพคารา ตอนที่ 27 ++

    ผู้เข้าชมรวม

    426

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    426

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 พ.ย. 49 / 19:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



                                                     ปลายทางโพคารา ตอนที่ 27
          
                   
      ตอนเช้ามันอาบน้ำ  แต่งตัว  เก็บแค่กระเป๋าใบเล็ก  เพราะเป้ใบหญ่มันไม่ได้รื้อออกมาเลยสักชิ้นเดียว...กลับบ้าน....กลับบ้านแล้วนะมึง   ถึงจะไม่มีบ้าน  แต่เมืองไทยบ้านเรา  มันลงมา คุณนิสิตทำหน้าบูด
         "จะตามมาทำHereอะไรก็ไม่รู้"  มันสบถดัง  ๆ  พลางมารับกระเป๋าใบโตจากเพื่อน
         นัทหันไปยิ้มกับมาเรีย
         "เอ้า...ก็เมียมึงมาคุม  ก็ต้องตามมาดิ  เอาน่า  เพิ่งแต่งงานกันทำอารมณ์เสียไปได้"  มันเดินไปนั่งด้านหลังของรถ  ปล่อยให้คนเพิ่งแต่งงานนั่งคู่กันไป
         อีกราว 30 นาทีมันมาถึงสนามบินโพคารา  คุณนิสิตมันเอาตั๋วไปเช็คอินน์  มาเรียถามมันเป็นภาษาอังกฤษที่มันพอจับใจความได้
         "ทำไมรีบกลับจัง  น่าจะอยู่เที่ยวต่อ"
         "ต้องไปสมทบกับคณะที่กาฐมัณฑุ  ต้องไปลุมพินีต่อ"  มันบอกเหมือนที่บอกกับคุณนิสิต
         "เสียดายน่าจะอยู่เที่ยวก่อน"
         "ไว้มาเรียไปเมืองไทยนะ  จะพาเที่ยว" 
         มาเรียยิ้มกว้างให้มันอีกครั้ง  มันไม่มีวันให้คนที่มันรักต้องหมองมัวหรอก  มันยินดีที่จะไปเอง   บอยเดินกลับมาพร้อมตั๋ว  มันหาที่นั่ง แปลกมันเงียบไม่มีคำพุดใด ๆ  อีกเลย  ส่วนคุณบอยก็เอาแต่นั่งนิ่ง
         เสียง ประกาศขึ้นเครื่อง  มันลุกขึ้นคว้าเป้ใบเล้กของมัน
         "ไปแล้วนะ...อย่าลืมเอาลูกไปด้วยนะมึง..."  มันยิ้มแต่เพื่อนมันทำหน้าแปลก  ๆ   "...ขอชายคนหญิงคนนะมาเรีย"  ประโยคหลังมันหันไปพูดกับเมียเพื่อน  ถ้ามันสังเกตจะเห็น  มาเรียทำหน้ากระอักกระอ่วน
         "ลา.."  มันพูดยังไม่ทันจบ  เพื่อนเอามือมาปิดปากมันเสียก่อน
         "อย่า..มึงอย่าพูด  เพราะกูจะไม่ให้มึงไปจากใจกูหรอก เก็บคำนั้นไว้ใช้กับคนอื่นไม่ใช่กู"
         บอยรู้  "ลาก่อน"  มันหมายถึงอะไร
         นัทเลยได้แค่บอก  "ไปก่อนนะ...ไปบ้านแล้วล่ะ"มันหันหลังกับน้ำตาร่วงริน  สับสนกับหัวใจตัวเองเหลือเกิน
         มันเดินเข้าประตูไปแล้ว....บอยมองตามตาละห้อย
         เครื่องใบพัดครางกระหึ่ม  ก่อนที่จะค่อย ๆ  ไต่ระดับขึ้นไป  ร่างมันเหมือนโดนเขย่าจากการใต่ระดับ  แต่หัวใจมันโดนเขย่าเสียเละไปแล้วกระมัง
         บอยมองเครื่องที่ค่อย ๆ  เล็กลง ๆ   เครื่องจากไปแล้ว  กระชากหัวใจมันไปด้วยสิ  มันมั่นใจ  มันกลับมาที่รถขับกลับกันโดยไม่พูดไรกันสักคำ  มันนึกถึงเเรื่องที่ผ่านมา....หลังจากกลับจาก Trekking  Poon Hill   ยายมันลากเข้ากาฐมัณฑุเพื่อทำธุระร่วมเดือน ไม่มีแม้เวลาที่จะเขียนจดหมายหาเพื่อนมัน  พอมันกลับมาหน้าด้านด้าน  มาเรียบอก
         "สงสัยท้อง  เม็นไม่มา"
         มันค่อย ๆ  ทรุดลงกับโต๊ะ  สันดานชายหรือ ความเหงากันแน่  ที่มันปล่อยให้มาเรียเข้ามาครอบงำมันได้  มันรู้เพียงแต่ว่า มันไม่ได้รักมาเรียเลย  ก็มาเรียเองไม่ใช่หรือที่บอกสนุก ๆ  กัน ไม่มีไรหรอก  แต่นี่..
         ท้องเหรอ...ลูกมันทั้งคนมันจะไม่รับผิดชอบอย่างนั้นหรือ?
         มันเป็นคนไม่ใช่สัตว์....มันยอมแต่งงานเพื่อรักษาหน้าของฝ่ายหญิง  แต่มันกลับไม่บอกเรื่องนี้กับคนที่เมืองไทยเลย  แม้แต่ที่บ้านมัน มันคิด  เอาน่า เดี๋ยวค่อยหาทางแก้เอาภายหลัง
         "จอดมินิมาร์ทด้วย....แวะซื้อของหน่อย"
         มันค่อย ๆ  ชะลอรถ  มันขับรถใจลอยมาเกือบถึงบ้านเลยหรือ  มาเรียเดินเข้าไปในร้าน  มันนั่งมองโบสถ์...จริงสินะ  ไอ้นัทไปทำไรที่ป่าช้าหลังโบสถ์  มันค่อย ๆ  นึก  แล้วมันก็ลิ่วไปบนโบสถ์  มันรู้  ถ้ามาเรียมาไม่เจอมัน ก็ขับรถกลับไปเองแหละ  มันยืนตรงที่มันทักเพื่อน  พยายามนึก
         "ไอ้นัทมันทำห่าไรของมันหว่า"
         มันกวาดสายตาไปรอบ ๆ  ดอกไม้ที่ไอ้นัทเอาวางไว้  แล้วก้อนหินที่เรียงชื่อ  "นวนัท"  มันขมวดคิ้วแปลกใจ  มันค่อย ๆ  ทรุดลงกับพื้น  ค่อย ๆ  เอาสองมือโกยดินออก  หลุมเพิ่งกลบดินไม่แน่น  ขุดไม่ยากเลย มือมันสัมผัสกับอะไรบ้างอย่าง  สายตามันเห็น
         "จดหมายมันทั้งนั้น"
         โอ.....ไอ้คนหน้าทะเล้นคิ้วเข้ม  ตาเศร้า  ฝังมันแล้ว  มันฝังหัวใจของมันไว้ที่นี่  บอยเสียววาบไปจดปลายเท้า  เอาจดหมายมากอดไว้  น้ำตามันไหล
         "ไอ้นัท...ไอ้นัท"    บอยรู้แล้วไอ้คนใจเด็ดฝังความรักมันไว้ที่นี่
         "ไอ้บอย...ไอ้ควาย  ไอ้หน้าโง่เอ้ย  มันไปแล้ว...มันไปแล้ว"   บอยตะโกนออกมาลั่น มันไม่อายถ้าใครจะมาเจอว่ามันนั่งกอดจดหมายร้องไห้
         ไอ้คนใจเด็ดมันกลับไปแล้ว  มันมาทันงานแต่งงานของเขา  มันยิ้ม  มันหัวเราะ  ซ่อนความทุกข์ของตัวเองไว้มิดชิด  มันเหยียบไปบนหัวใจตัวเองที่ขาดวิ่น    เขาเองที่ฉีกหัวใจมันเป็นชิ้น ๆ   มันซมซานกลับไปแล้ว   บอยฆ่าเพื่อนรักมันแล้ว  ไม่ใช่สิ  ฆ่าคนที่มันรักยิ่งชีวิตด้วยมือมันเอง   บอยซบหน้าลงกับ  "หลุมศพหัวใจ"  ที่บัดนี้มันขุดศพมาไว้แนบอก 
         "ไปตามันสิ...ที่กาฐมัณฑุไง"  เสียกเรียกร้องจากหัวใจมันคอยสั่ง  แต่มันก็หัวเสีย   ".....แม่งเอ้ย  ดันไม่ขอโปรแกรมของมันไว้"  งั้นคอยสักอาทิตย์คราวนี้ไปตามมันที่เมืองไทย
      มันตั้งใจแน่แน่วที่จะกลับเมืองไทย  แต่ปัญหาที่มันก่อขึ้นละ  "ลูก"  สัตว์มันยังรักลูก  มันเป็นคนไม่ใช่สัตว์จะทิ้งลูกที่ยังไม่ได้เกิดหรอกหรือ  มันค่อย ๆ  พยุงร่างที่คล้ายสัตว์บาดเจ็บเหมือนที่นัทเคยเป็น  แววตามันรวดร้าว  มันเดินช้า ๆ  ลงจากโบสถ์   มันเอาหลังมือปาดหยาดน้ำตาทิ้ง  มันต้องกลับบ้าน  "บ้านที่เมืองไทย"  ไม่ใช่ที่นี่  มันต้องไปให้เร็วที่สุด
         มันจะตามไอ้นัทให้เจอ....จับมือมันเอาไว้  แล้วบอกมัน...ยกโทษให้บอยได้ไหม....เรามาเดินด้วยกันใหม่นะ
         มันรู้  ไอ้นัทไม่มีวันโกรธมันเด็ดขาด  เพราะ  มันคือหัวใจของกันและกัน  มันอาจจะผิด  อาจจะพลาดพลั้ง  นั่นเพราะความเหงา  ไม่ใช่ความรัก  มันแน่ใจ
         แล้วเรื่อง...ลูก....เรื่องนี้มันคิดหนัก  เพราะงานแต่งงานมันทางนี้รับรู้  แต่พ่อกับแม่มันที่เมืองไทยยังไม่รู้  แต่ยายคงส่งข่าวไปแน่  มันเดินเรื่อยมาจนถึงบ้าน  แล้วมันก็ขังตัวเองอยู่กับบ้าน.....ไม่สิต้องในห้อง...ห้องที่แม้แต่มาเรียก็ก้าวเข้ามาไม่ได้
         มันค่อย ๆ  อ่านจดหมายที่มันเขียนทีละฉบับ  ตั้งแต่บนเครื่อง....จนถึงฉบับล่าสุด....ไอ้นัทเก็บไว้ทุกฉบับเลยนี่หว่า......แล้วนี่...."ลายแทงหัวใจ"  ไอ้นัทมันถอดออกมาจากจดหมาย  เป็นแผนการเดินทางคร่าว ๆ  จากกรุงเทพฯ มาหน้าด้าน ๆ  นี่แหละ....มันคิดผิดเองที่คิดว่านัทมันไม่สนใจ    มันน่าจะรู้จักนัทมากกว่าใครทั้งหมด  ตอนนั้นอะไรมันบังตาหว่า  แต่ตอนนี้มันรู้แล้วล่ะ.....มันจะเก็บหัวใจที่ขาดวิ่นมาหลอมละลายใหม่  คราวนี้มันจะใส่ความรักเพิ่มเข้าไปอีก  มันเฝ้าคิดวนไปวนมาจนหลับไป    มันหลับไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้  เพราะเมื่อมันตื่นขึ้นมา  ภายในห้องมืดสนิท  มองลอดไปนอกหน้าต่างแสงจันทร์สว่าง  มันค่อย ๆ  เดินไปเปิดหน้าต่างสายลมพรูเข้ามากระทบหน้ามัน  เย็นวาบ...มันสูดอากาศเข้าเต็มปอด  ชะเง้อหน้าไปฝั่งตะวันออก  ราวกับว่ามันจะเห็นคนที่เดินจากมันไปอย่างนั้นแหละ
         ถ้า....มันขอจันทร์ได้...มันจะขอ
         ขอแค่...ให้นัทยกโทษให้มันเท่านั้นจริง ๆ
         แล้วมันก็เผลอหลับไปอีก คราวนี้มันหลับไปนาน  ตื่นมาอีกครั้งก็บ่าย มันหิวมั้งเพราะมันไม่ได้กินอะไรเลย  ตั้งแต่มันไปส่งนัทที่สนามบิน  มันเปิดประตูออกมา  นั่นมาเรียกำลังออกจากห้องน้ำ ในมือมีห่อกระดาษ  มันตรงไปจับข้อมือมาเรียไว้
         มันมองของในมือ  แล้วหันมามองหน้าเมียมันราวกับสัตว์ที่พร้อมตะครุบเหยื่อ   มาเรียตัวสั่นเทิ้ม
         "เพิ่งมา...เมื่อเช้า"
         มันปล่อยมือ....มันโล่ง  เหมือนยกภูเขาออกจากอก  เรื่องลูกหมดปัญหาไปแล้วสำหรับมัน มาเรียไม่ได้ท้อง  มันมีอิสระพอที่จะกลับไปหานัทได้อย่างสะดวก  เรื่องงานแต่งที่นี่ไม่มีใครรับรู้  มันยังไม่ได้จดทะเบียน  มันง่ายมากถ้ามันจะไปมันโลดแล่นออกไปราวนกที่โดนปล่อยจากกรง  มันลิ่วไปเรื่อย ๆ  ไปถึงโพคารา  มันไปติดต่อเอเย่นต์
         "มีที่ว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค่ะ"  เอเย่นต์บอกมันเป็นภาษาเนปาลี   
         อีก 2 วัน   มันคิด...เฮ้ย...วันเกิดไอ้นัท....ดีเลยคราวนี้มันจะไปให้ทันวันเกิดไอ้นัท มันลงเครื่องราวทุ่มที่ดอนเมืองจะแวะไปหาไอ้นัทที่บ้านไอ้เปี๊ยก  มันต้องอยู่ที่นั่นแน่  เพราะมันบอก  "เปี๊ยกจองตัวเครื่องมาสองต่อแล้วนะเนี่ย"  มันโลดแล่นดีใจ หัวใจมันบินกลับมาเมืองไทยแล้ว  อีกสองวันร่างกายมันจะตามมา

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×