ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิ๊กหัวใจให้ลงล๊อก (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #36 : สองคนสองคม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.54K
      15
      15 พ.ย. 53

    ขออภัยที่ให้แฟนๆรอนานไปนิสสสสนุงนะจ้ะ ไรเตอร์กำกับคิวบู้มันส์ไปหน่อย แฮ่ๆๆๆ




               งานฉลองรอบห้าสิบปีของการก่อตั้งโรงแรมใหญ่ของสกุลจางดำเนินไปอย่างราบรื่น จะมีก็แต่แขกที่ไม่ได้รับเชิญที่เดินกร่างเข้ามาในงานเลี้ยง สร้างความประหลาดใจให้กับแขกคนอื่นไม่น้อย
    โจวจ้าวสื่อเดินกระหยิ่มมานั่งที่โต๊ะซึ่งทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้สำหรับจางมินจูอย่างจงใจ โดยมีเหล่าชายชุดดำยืนอารักษ์ขาอยู่รอบโต๊ะ ท่ามกลางสายตาของแขกที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โจวจ้าวสื่อตั้งใจมาป่วนงานเลี้ยงของมินจูแต่ลึกๆแล้วเขายังมีของขวัญชิ้นพิเศษเก็บเอาไว้เป็นไฮไลท์ของงาน เฉินลองมองพวกสกุลโจวอย่างไม่พอใจเมื่อเจ้านายใหญ่ของพวกชุดดำ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการมาข่มรัศมีของจางมินจู

    ร่างสูงสง่าที่เดินควงกับหญิงสาวสองคนเข้ามาภายในงานดึงสายตาทุกคู่ให้หันไปมองอย่างสนใจ จางมินจูผู้ที่ไม่ค่อยชื่นชอบการออกงานสังคม ในวันนี้เธอควงสาวสวยออกมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกถึงสองคน ซึ่งก็เป็นที่อิจฉาแก่บรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เป็นอย่างมาก ในสายตาของพวกเค้าสาวชุดแดงสวยเซ็กซี่ ส่วนสาวชุดสีชมพูก็สวยหวานซ่อนเปรี้ยวน่าค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน แต่เพียงแค่ถูกสายตาคมกริบตวัดมอง พวกหนุ่มๆทั้งหลายก็รีบหลบสายตาของมังกรสาวพัลวัน มินจูเริ่มไม่พอใจที่ตนให้รัตเกล้ามางานเลี้ยงเพราะสายตาของผู้ชายส่วนมาก ชอบมองไปทางร่างอวบในชุดโชว์อึ๋มตาเป็นมัน รัตเกล้าหันไปสบตากับแววตาที่ขุ่นมัวของเธออย่างไม่เข้าใจ

    “นายหญิงครับ เชิญทางด้านนี้ดีกว่าครับ”ผู้จัดการโรงแรมเห็นว่าโต๊ะที่ตนจัดเตรียมไว้ถูกพวกสกุลโจวแย่งไป ก็รีบจัดที่ใหม่ให้เจ้านายสาวทันที

    “โอ๊ะ! คุณจาง มานั่งด้วยกันสิครับ ที่ก็ออกจะเยอะแยะ มานั่งแยกกันแบบนี้เดี๋ยวใครๆเค้าก็คิดว่าพวกเรายังขัดแย้งกันอยู่นะครับ”จ้าวสื่อออกตัวเชื้อเชิญมินจู แล้วสายตาทุกคู่ก็จับจ้องไปที่พวกเค้าอย่างสนใจ

    ดวงตาเล็กเรียวของมินจูมองไปที่หนุ่มใหญ่สกุลโจวอย่างเฉยชา ก่อนที่จะตัดสินใจพาสองสาวไปนั่งร่วมโต๊ะตามคำเชิญ โดยมีเฉินลองตามไปประกบแต่มินจูก็หันไปส่งสายตาเป็นเชิงบอกเขาว่าไม่เป็นไร บอดี้การ์ดหนุ่มโค้งให้ก่อนที่จะเดินออกไปสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ มินจูจัดที่ให้ทั้งสองสาวนั่งด้วยกันส่วนตัวเองก็นั่งกั้นกลางหนุ่มใหญ่ไว้ จ้าวสื่อแสยะยิ้มที่มุมปากนึกหมั่นไส้ที่หญิงสาวออกอาการห่วงก้าง

    “น่าอิจฉาคุณจางมินจูจริงๆ สาวสวยของคุณจางสวยถูกใจผมจนอยากจะขอแบ่งมาแนบกายสักคนจะได้มั้ยครับ”จ้าวสื่อเริ่มเล่นสงครามประสาท ส่งสายตามองไปยังร่างสองสาวที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง

    สายตาของหนุ่มใหญ่ทำให้หนี่วาเริ่มขลาดกลัว จนรัตเกล้าต้องจับมือเธอเพื่อปลอบใจ ร่างบางหันไปมองใบหน้าที่นิ่งสนิทของรัตเกล้าและมินจู

    “ของแบบนี้มันต้องหามาด้วยความสามารถของตัวเองจะดีกว่านะคุณโจว มาขอแบ่งกันแบบนี้คนอื่นเขาก็อาจจะมองว่าสกุลโจวมีแต่พวกไร้ความสามารถ”มินจูตอกกลับด้วยท่าทางที่สงบนิ่ง แต่คำพูดนั้นแสบเข้าไปถึงทรวงจ้าวสื่อ

    “ผมอาจจะไม่มีความสามารถเทียบเท่าคุณจาง แต่อย่างน้อยครั้งนึงผมก็ได้มีโอกาสสัมผัสมาบ้าง มันช่างหอมหวานนุ่มลิ้นจนอดใจไม่ไหว ใช่มั้ยครับคุณจาง”

    มินจูกัดกรามแน่นเพื่อข่มความโกรธไว้เมื่อถูกฝ่ายตรงข้ามยั่วยุ รัตเกล้าเองก็รู้สึกโกรธไม่ต่างจากมินจูเหมือนกัน จนเธออยากจะลุกขึ้นมากระทืบๆๆๆปากคนพูดให้มันจมดิน แต่เพราะที่นี่มีคนอยู่มากมายเธอจึงรักษามารยาทเอาไว้ สงครามประสาทหยุดพักรบชั่วคราวเมื่อโฆษกบนเวทีช่วยดึงความสนใจของโจวจ้าวสื่อไว้ พิธีกรบนเวทีประกาศต้อนรับแขกเมื่อบริกรเข็นเอาเค้กสองชั้นขนาด10ปอนออกมาโชว์หน้าเวที และการแสดงบนเวทีก็เริ่มขึ้น

    นักร้องสาวสุดเซ็กซี่ขึ้นมาขับกล่อมเสียงเพลงให้กับแขกในงาน ช่วยให้บรรยากาศลดความตึงเครียดลง จ้าวสื่อมองสาวสวยเสียงทองบนเวทีตาเป็นประกาย รัตเกล้าเหลือบไปเห็นเข้าความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้น

    “เอ่อ...คุณมินจูค่ะ ฉันอยากไปเข้าห้องน้ำ”รัตเกล้ากระซิบบอก

    “งั้นฉันจะพาเธอไปเอง”

    “เอะ!อย่าเลยค่ะ ทิ้งคุณหนี่วาไว้ที่นี่คนเดียวฉันเป็นห่วง อีกอย่างคุณก็เป็นเจ้าภาพคงไม่เหมาะถ้าจะออกไปกับฉัน เดี๋ยวฉันจะให้คุณจิงสงไปเป็นเพื่อนก็ได้”ข้อเสนอของรัตเกล้ามีเหตุผลเพียงพอ มินจูจึงอนุญาตให้เธอลุกออกไปได้

     

    รัตเกล้าออกจากห้องจัดเลี้ยงพร้อมกับจิงสงที่ออกมาคุ้มกันเธอ จนกระทั้งบอดี้การ์ดหนุ่มพาเธอมาถึงหน้าห้องน้ำหญิง รัตเกล้าหันซ้ายแลขวาสำรวจรอบๆบริเวณหน้าห้องน้ำหญิง จนจิงสงต้องมองตามหญิงสาวอย่างสงสัย

    “นายหญิงน้อยไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ มีผมอยู่รักษาความปลอดภัย ไม่มีใครกล้ามาทำร้ายนายหญิงน้อยได้หรอกครับ”

    “ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอก คุณจิงสง”เธอมองหน้าบอดี้การ์ดหนุ่มที่ขมวดคิ้วมองมาอย่างสงสัย ก่อนที่จะตัดสินใจเอ่ยออกไป “คุณจิงสง ฉันมีเรื่องอยากจะขอให้คุณช่วย”

    จิงสงมองหน้าหญิงสาวอย่างอึ้งๆเมื่อได้ยินคำขอร้องของเธอ

     

    บรรยากาศภายในงานเลี้ยงกำลังดำเนินไปอย่างคึกคักอาหารมากมายถูกเสริฟจนเต็มโต๊ะ หนี่วาอาศัยจังหวะที่รัตเกล้าไม่อยู่เอาใจมินจูด้วยการตักนั้นตักนี่ใส่ถ้วยให้เธอ จนจ้าวสื่ออดใจที่จะหาเรื่องจีบปากจีบคำกับพวกเธอไม่ได้

    “คุณผู้หญิง ไม่คิดจะตักให้ผมสักหน่อยหรือครับ”หนี่วารู้สึกอึดอัดใจเมื่อถูกหนุ่มใหญ่ใช่ฐานะของแขกบังคับกรายๆ

    “งั้นถ้าคุณโจวไม่รังเกียจ ฉันก็ขอยกถ้วยนี้ให้ก็แล้วกัน”มินจูยกถ้วยที่หนี่วาตั้งใจตักให้เพื่อตัดปัญหา แต่ในสายตาจองจ้าวสื่อกลับมองว่าเขากำลังถูกจางมินจูดูถูกว่ารับของเหลือเดนจากหญิงสาว

    “คุณจางทำแบบนี้เหมือนดูถูกผมชัดๆ”จ้าวสื่อขึ้นเสียงใส่เธอจนทุกคนในงานหันไปมองอย่างตกใจ

    “นายจะเอาหรือไม่เอามันก็เรื่องของนาย”จางมินจูเริ่มหมดความอดทนตอกกลับหนุ่มใหญ่ด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

    “คุณจาง คุณกล้าพูดจาแบบนี้กับผมต่อหน้าทุกคนแบบนี้ไม่กลัวว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียงรึไง”จ้าวสื่อชี้หน้าอย่างไม่พอใจ

    มินจูกระตุกยิ้มเหลือบไปมองหนุ่มใหญ่สกุลโจวด้วยแววตาแข็งกร้าว พวกต้าอี้ที่ยืนอารักษ์ขาเจ้านายเริ่มขยับเข้ามา ทำให้พวกของเฉินลองที่คอยซุ่มอยู่ออกมายืนล้อมโต๊ะประจันหน้ากับพวกสกุลโจว แขกในงานเริ่มส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เมื่อสองตระกูลใหญ่กำลังจะมีเรื่องวิวาท หนี่วากลัวจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่เกาะแขนเรียวแน่น หนุ่มใหญ่สกุลโจวรู้สึกพอใจที่สามารถยั่วยุจางมินจูได้สำเร็จ

    “คนอย่างฉัน จางมินจู ไม่เคยกลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง ก็มีแต่พวกที่คิดไม่ซื่อเท่านั้น ที่คอยพาลหาเรื่อง”มินจูเอ่ยโดยไม่หลบสายตาของศัตรูที่มองโต้ตอบอย่างท้าทาย

    จ้าวสื่อทุบโต๊ะดังปังอย่างหัวเสีย ก่อนที่จะลุกขึ้นมาโวยวายจนนักข่าวที่อยู่ข้างนอกวิ่งเข้ามาออที่หน้าประตูห้องจัดเลี้ยง

    “พูดแบบนี้เหมือนจะหาเรื่องกันชัดๆ พวกสุกลจางคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มากนักรึไง ถึงได้คอยแต่จะแย่งเขตและอำนาจการปกครองของสกุลโจว”

    มินจูลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สายตายังคงมองไปที่พวกสกุลโจวนิ่ง

    “นั้นมันก็เป็นเรื่องของการลงทุนทางธุรกิจ ในเมื่อฉันมีเครดิตเหนือกว่า ก็ไม่แปลกที่จะได้มาเป็นเจ้าของ”

    “ดี! วันนี้ผมตั้งใจมาเพื่อแสดงความยินดีกับคุณจาง แต่ในเมื่อคุณไม่ให้เกียรติผม ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ผมจะให้เกียรติคุณอีกต่อไป”โจวจ้าวสื่อคำรามลั่น

    ขณะที่การโต้คารมของทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินมาถึงขีดสุด ทันใดนั้นเอง!ไฟในห้องจัดเลี้ยงก็ดังพรึบ ทั่วทั้งห้องมีแต่ความมืดสนิทและเสียงกรีดร้อง กลุ่มคนทั้งสองฝ่ายต่างก็ชะงักเพราะไม่รู้ว่าฝ่ายใดจะลงมือก่อน และทันใดนั้นแสงไฟจากสปอตไลท์ก็สว่างจ้า สำแสงสาดไปยังร่างที่ยืนอยู่หลังม่านตะข่ายบนเวที

    หญิงสาวในชุดเกาะอกมินิสเกิร์ตสีดำกางเกงรัดรูปลายเสือ เดินแหวกม่านตะข่ายออกมาท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่หันไปมองเธออย่างตกตะลึง ใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยหน้ากากขนนกโปรยรอยยิ้มที่ฉาบไว้ด้วยสีแดงสดไปทั่วห้อง

    “จุ๊ๆ ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบ ขณะนี้พวกเราได้ล้อมพวกท่านไว้หมดแล้ว”สิ้นเสียงหวานๆของหญิงสาวบนเวที ทั่วทั้งห้องก็สว่างด้วยแสงสปอตไลท์หลากสี ที่สาดแสงใส่ร่างสาวๆในชุดรัดรูปลายเสือสวมหน้ากากขนนกพรางใบหน้าอีกสี่คน

    “โปรดยุติการกระทำใดๆที่รุนแรงต่อกัน และมาสนุกกับค่ำคืนนี้ด้วยกันซะ”สิ้นเสียงของสาวสวยบนเวที เสียงดนตรีก็บรรเลงในจังหวะที่เร้าใจ สาวๆที่อยู่ด้านล่างก็เริ่มโยกย้ายตามจังหวะเพลงดึงความสนใจจากสายตาทุกคู่ไม่น้อย มินจูหรี่ตามองร่างที่พรางหน้าตัวเองด้วยหน้ากากขนนกสีดำรู้สึกสะดุดในใจอย่างประหลาด การแสดงของกลุ่มสาวปริศนาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่แขกที่มาร่วมงาน จนทุกคนคิดว่านี่เป็นหนึ่งในการแสดงที่ทางเจ้าภาพจัดเตรียมไว้ จ้าวสื่อมองสาวๆที่กำลังเดินโยกย้ายส่ายสะโพกเขยิบเข้ามาหาเขา และในจังหวะนั้นเอง สาวหน้ากากขนนกสีดำก็หยิบเอาแส้หนังที่เหน็บไว้กับเข็มขัดออกมา ตวัดปลายแส้ตีใส่โต๊ะไปมาตามเสียงเพลงด้วยท่วงท่าที่เย้ายวน โดยมีสาวๆมาเต้นสร้างฟิวให้ร้อนแรงมากยิ่งขึ้น จ้าวสื่อหลงกลในเสน่ห์มารยาของสาวๆจนเผลอเดินออกมาจากกลุ่มของตัวเอง สาวที่ถือแส้หนังได้โอกาสก็ตวัดแส้ตีแสกหน้าหนุ่มใหญ่สกุลโจวเต็มๆ

    “โอ็ย!จ้าวสื่อร้องเสียงหลง แต่สาวหน้ากากขนนกสีดำยังไม่หยุดมือ เธอกระหน่ำฟาดปลายแส้ใส่ร่างใหญ่ไม่ยั้งด้วยท่วงท่าดุจนางพญา

    “เฮ้ย! นายท่าน”ต้าอี้ตกใจไม่คาดคิดว่าเจ้านายจะถูกทำร้ายได้ง่ายๆต่อหน้าตนเองแบบนี้

    พวกสกุลโจวรีบตรงเข้าไปช่วยเจ้านายของตนแต่ก็ถูกจิงสงที่เข้ามาพร้อมกับลูกน้องอีกจำนวนขวางไว้ พวกสกุลจางที่เหลือก็ตรงเข้ามาล้อมกรอบพวกนั้นไว้ เสียงดนตรีหยุดแต่เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจดังขึ้นมาแทน แขกที่มาร่วมงานวิ่งหนีออกจากห้องจัดเลี้ยงอย่างโกลาหล สาวๆนักเต้นคนอื่นๆก็วิ่งแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง คงเหลือไว้แต่นางพญาสาวมือหวดที่ยังคงกระหน่ำตีร่างใหญ่ไม่ยอมหยุดมือ ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปล็อกคอร่างใหญ่แล้วกดลงให้นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น

    “เป็นยังไงบ้าง รสชาติที่ถูกผู้หญิงกดขี่ สนุกมั้ยจ้ะ”เธอเอ่ยเสียงเหี้ยม ริมฝีปากอิ่มที่เคลือบด้วยสีแดงสดยิ้มหวาน

    จ้าวสื่อหันไปมองเธอคนนั้นดวงตาเบิกกว้าง เมื่อน้ำเสียงที่เย้ยหยันออกมานั้นฟังแล้วคุ้นหูไม่น้อย

    “จางมินจู นังจิ้งจอกลอบกัด ใช้วิธีสกปรกแบบนี้ไม่อายฟ้าดินรึยังไง”ต้าอี้ตะโกนด่าทอจนพวกนักข่าวที่อยู่ด้านนอกฮือฮาด้วยความสนใจ

    “ฉันจะอายทำไม ในเมื่อพวกแกยังไม่อายเลย แต่ในเมื่อพวกแกกล้ามาเหยียบจมูกฉันถึงที่นี่ บัญชีเก่าที่ค้างไว้ในวันก่อนก็ขอคืนเลยก็แล้วกัน”มินจูล้วงเข้าไปในเสื้อสูทหยิบอาวุธคู่กายออกมา

    “ต้าอี้ ส่งของขวัญให้มันเดี๋ยวนี้เลย”จ้าวสื่อที่ยังคงถูกหญิงสาวจับให้คุกเข่าอยู่ตะโกนสั่งลูกน้องตยสนิท

    ต้าอี้หยิบรีโมทขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋ากางเกง ทุกคนมองรีโมทที่อยู่ในมือของเขาอย่างระวังตัว แต่ทันทีที่ต้าอี้กดสวิตท์ เสียงระเบิดก็ดังสนั่นจากด้านหลังของพวกสกุลจาง

    ตู้ม! ระเบิดขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ในก้อนขนมเค้กเริ่มทำงาน ขนมเค้กถูกแรงระเบิดอัดจนกระจายเละไปทั่วห้อง และในช่วงนาทีระทึกนั้น มินจูก็พุ่งตัวไปหาหญิงสาวในชุดเสือดาวกดเธอให้หมอบลงกับพื้น เฉินลองก็เอาตัวเอากันร่างลูกสาวไว้ และในจังหวะที่มินจูโผเข้ากันร่างของหญิงสาวหน้ากากที่เธอสวมไว้ก็หลุดออกเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ

    “ยัยตัวแสบ! เธอนี่เอง”มินจูส่งสายตาใส่รัตเกล้าอย่างคาดโทษ แต่ในเวลานี้ยังไม่ใช่เวลาที่เธอจะต่อว่าหญิงสาว

    “พวกเราลุยมันเลย!ต้าอี้ส่งลูกน้อง เมื่อเห็นว่าพวกสกุลจางเผลอ การตะลุมบอนของทั้งสองฝ่ายจึงเกิดขึ้น ต้าอี้ถลาเข้าไปช่วยเจ้านาย ในขณะที่มินจูกำลังฉุดรัตเกล้าให้ลุกขึ้น

    “ที่แท้ก็เป็นเธอนี่เอง”จ้าวสื่อหันไปมองรัตเกล้าด้วยสายตาอาฆาตแค้น ใบหน้าของเขามีแต่รอยแดงยาวๆของแส้เต็มหน้า

    “ไอ้บ้ากามอย่างแก โดนแค่นี้มันยังน้อยไป”รัตเกล้าตอกกลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน จ้าวสื่อขบไรฟันอย่างแค้นเคืองล้วงเอาปืนที่ซ่อนอยู่ในเสื้อสูทของตัวเองออกมาเล็งที่ร่างเธอ

    แต่มินจูก็ไวกว่า เธอขว้างมีดสั้นออกไปปัดปลายกระบอกปืนจนกระเด็นหลุดจากมือหนาได้ ก่อนที่จ้าวสื่อจะทันได้เหนี่ยวไกปืน มีดสั้นกลับสู่มือของเจ้าของอย่างรวดเร็วสายตาคมกริบมองไปยังศัตรูคู่อาฆาตอย่างเอาเรื่อง

    “เธออยู่เฉยๆตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง”มินจูสั่งร่างหนาที่อยู่ข้างหลัง ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปชำระแค้นกับพวกศัตรู

    ต้าอี้ชักอาวุธของตัวเองออกมาคุ้มกันเจ้านาย เสียงกระทบกันของๆมีคมดังบาดหูเมื่อผู้มีวิชากำลังประฝีมือกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เฉินลองกับจิงสงก็กำลังประฝีมือกับลูกน้องของจ้าวสื่ออย่างดุเดือดไม่แพ้กัน โดยที่ทิ้งหนี่วาไว้เบื้องหลัง ร่างบางได้แต่ยืนหลบมุมห้องอย่างหวาดกลัว จ้าวสื่อเห็นว่าเป็นจังหวะเหมาะที่อาจจะใช้เธอเป็นเครื่องต่อรองได้ จึงพุ่งตัวเข้าไปหาร่างบางโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว แต่รัตเกล้าก็เข้าไปขวางไว้ได้ทันเพราะเธอตั้งใจจะเล่นงานหนุ่มใหญ่เพื่อแก้แค้นอยู่แล้ว

    “ฉันรู้หรอกนะ ว่าน้ำหน้าอย่างแกดีแต่รังแกผู้หญิง”รัตเกล้าส่งสายตาดุร้ายไปยังหนุ่มใหญ่สกุลโจว

    “หือ!เธอนี่มันฤทธิ์เยอะจริงๆ วันนั้นก็เล่นฉันเสียเกือบแย่ วันนี้ก็ทำให้ฉันต้องอับอายต่อหน้าสาธารณชน ผู้หญิงอย่างเธอถ้าไม่สั่งสอนให้รู้สำนึกเสียบ้าง ก็คงไม่มีใครเกรงกลัวฉันอีกแน่”

    “พูดอย่างกับว่าตัวเองเนี่ย ดีตายล่ะ งั้นเรื่องอับอายที่แกเคยทำกับฉันไว้ทั้งหมด ขอคืนวันนี้ไปเลยก็แล้วกัน”รัตเกล้าตั้งกาดกำหมัดแน่น จ้าวสื่อมองร่างอวบอย่างเอาเรื่องด้วยเช่นกัน เขาแสยะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่เปลี่ยนท่าทีเป็นสงบนิ่ง รัตเกล้ามองหนุ่มใหญ่ตรงหน้าอย่างระแวดระวังภัยรู้สึกถึงบางอย่างที่มันแปลกไปจากเดิม

    จ้าวสื่อพุ่งตัวเข้าหาร่างอวบอย่างรวดเร็วแต่เพียงแค่พรึบตาร่างใหญ่ก็หายแวบไป รัตเกล้าตกใจไม่น้อยกับการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นของจ้าวสื่อ รัตเกล้าเหวี่ยงศอกกลับด้านหลังพอจะรู้ทันเกมของเขาบ้างแต่ก็ช้าไปเพียงนิดเดียว เธอถูกมือใหญ่ของจ้าวสื่อล็อคเอาไว้ได้

    “อ่อนหัดจริงๆ”ดวงตาของโจวจ้าวสื่อที่รัตเกล้าเห็นในตอนนี้ช่างดุร้ายเหมือนดั่งราชสีห์ตรุบเหยื่อจนเธอตกใจ

    ท่าทางที่เปลี่ยนไปของจ้าวสื่อทำให้เธอเริ่มตระหนักว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนมีวิชาเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยใช้มันเลยหรือเธอไม่เคยรู้กันแน่นะ รัตเกล้าพยายามดิ้นเพื่อที่จะได้หลุดจากพันธนการของชายหนุ่ม แต่ก็ไม่อาจจะต้านทานแรงอันมหาศาลของเขาได้ เธอถูกจ้าวสื่อเหวี่ยงออกไปจนตัวลอยไปกระแทกกับโต๊ะพังยับเยิน

    “กรี๊ด!~ คุณโรส”เสียงกรีดร้องของหนี่วาทำให้มินจูต้องละสายตาจากคู่ต่อสู้หัดไปมอง

    รัตเกล้าถึงกับมึนเพราะถูกเหวี่ยงจนตัวลอยมากระแทกกับโต๊ะอย่างแรง แต่ก็ต้องรีบฟื้นตัวเองเพื่อหลบหลีกการจู่โจมของหนุ่มใหญ่ที่กำลังสนุกอยู่กับการไล่ต้อนเธอ มินจูที่หันไปเห็นว่าจ้าวสื่อกำลังจะทำมิดีมิร้ายกับเธอ ความโกธาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้ดวงตาของมินจูเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงพิโรธ!

    “อย่ามาแตะต้องผู้หญิงของฉันนะ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×