True Love บ้านไร่สายน้ำและความแค้น 2
ภาคสองของบ้านไร่สายน้ำและความแค้น ที่จะเล่าถึงความรักของผู้ชายอีกคนที่เคยมีความสัมพันธ์กับพลอยพิมพ์ และพลอยพิมพ์จะใช่ลูกของปราณหรือเปล่า
ผู้เข้าชมรวม
480
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตอนที่1
วันนี้ชัชชาติเฝ้าติดตามข่าวอุบัติเหตุทางเครื่องบินเล็กที่ทำให้บุคคลคนหนึ่งเสียชีวิตทั้งทางทีวีและอินเตอร์เน็ทมาตั้งแต่เช้า เขารู้สึกใจหายแม้จะเคยพบท่านมาเพียงครั้งเดียวเพราะไปขออนุญาติพาภรรยาท่านออกไปฟังเพลง แต่เขาก็จำบุรุษท่านนี้ได้ดี เมื่อ5ปีก่อนท่านเป็นชายวัยสี่สิบกว่าที่งามสง่า บุคคลิกอบอุ่นดูภูมิฐาน และดูอ่อนกว่าวัย ขณะที่ภรรยาของท่านขณะนั้นมีวัยเพียง27 สวย ผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียน รูปร่างสูงโปร่ง เครื่องหน้าเหมาะเจาะไปหมดทั้งปากคอคิ้วคางโดยเฉพาะจมูกและนัยตาที่สวยจนเขาแอบหลงใหล
เขาจ้องมองภาพของเธอที่กอดลูกน้อยวัยเพียงสองขวบเศษร่ำไห้ปานใจจะขาดด้วยความรู้สึกที่สงสารจับใจ เธออายุเท่าไรแล้วนะตอนนี้คงประมาณ32 ยังสาวยังสวยกลับต้องมาเป็นหม้าย แม้ไม่ได้เจอกันอีกหลังจากคืนวันนั้น วันที่เขารู้สึกผิดจนไม่อยากให้อภัยตัวเอง แต่เขาก็ยังติดตามข่าวคราวของเธอจากเพื่อนบางคนที่ไปฝึกงานด้วยกันว่า เธอออกจากบริษัทนั้นไปแล้วเพราะสูญเสียบิดาที่เป็นเศรษฐีอยู่ทางเหนือหลังจากคืนนั้นไม่นานซินะ หลังจากนั้นอีกเกือบสองปีเขาได้ข่าวว่าสามีของเธอไปรับตำแหน่งทูตอยู่ที่อังกฤษ แล้วช่วงเวลาอีกไม่กี่เดือนที่เธอไปอยู่อังกฤษเธอก็อุ้มลูกน้อยวัยแบเบาะกลับมาเพราะมารดาเสียชีวิต ภาพที่เขาเห็นในโซเชียลมีเดียที่ส่งต่อๆกันมาเขายังจำได้ติดตาว่าเธอดูเศร้าโศกนัก แล้วเพียงแค่สองปีเธอก็มาสูญเสียสามีไปอีก เขาอยากรู้ว่าจิตใจอันบอบบางนั้นจะทนทานได้เพียงใดหนอ ก็แค่คืนนั้นเธอมีปัญหากับคนในบ้านสามีเธอยังทนทานไม่ได้ เขายังจำตาบวมช้ำและใบหน้าที่นองน้ำตาแล้วโผเข้ามากอดเขาทันทีที่เปิดประตูให้เขาเข้าไปในห้องชุดนั้นได้ดี ความสงสารทำให้ความยับยั้งชั่งใจของหนุ่มน้อยวัย21ขาดลงไปทันที
ในข่าวบอกว่าร่างของสามีเธอจะถูกนำกลับมาบำเพ็ญกุศลที่เมืองไทยเขาควรไปร่วมงานดีไหมนะ ตายังคงจ้องมองภาพสตรีสาวสวยที่กอดลูกน้อยไว้แนบอกอย่างเลื่อนลอยครุ่นคิด เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเขาหันไปมองชื่อที่ปรากฎบนจอ เขาถอนใจอย่างเบื่อหน่ายแล้วก็ปล่อยให้มันดังจนเงียบไป หลังจากนั้นมันก็ดังขึ้นมาอีกครั้งหากเขาไม่รับมันก็คงดังอยู่อย่างนั้นจนไม่เป็นอันทำอะไร พอรับสายยังไม่ทันกรอกเสียงลงไปเสียงปลายสายก็ดังขึ้นมาก่อน
“ชัชมัวทำอะไรอยู่คะกว่าจะรับสาย หรือลืมไปแล้วว่าสายที่โทรเข้ามาเป็นคู่หมั้นของคุณ” เสียงทางนั้นแสดงอำนาจเต็มที่
“คุณมีธุระอะไรก็พูดมาเถอะผมกำลังทำงาน” เสียงเขาเย็นสนิท
“แขโทรมาต้องมีธุระด้วยหรือ..เย็นนี้ทำตัวให้ว่างนะแขจะมารับไปพบ คุณพ่อ ท่านอยากคุยเรื่องแต่งงานนี่เราหมั้นกันมาสองปีแล้วนะคะ”
“นี่เป็นคำสั่งซินะ” เขาตอบกลับไปพร้อมถอนใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะวางหู แต่ทางนั้นก็ได้ยินจนได้เธอปรี๊ดแตกแล้วพูดกลับมาอีก
“อย่ามาทำถอนใจใส่แขอย่างนี้นะคะ”
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความผิดพลาดในชีวิตของเขา เขาพบแขนภาที่อเมริกาขณะไปเรียนต่อปริญญาโทและพำนักอยู่กับมารดาชาวอเมริกันที่ได้เลิกรากับบิดาไปตั้งแต่เขาเพิ่งขึ้นมัธยม ขณะนั้นเขาจบและใกล้จะกลับเมืองไทยแล้ว แขนภาเป็นลูกรัฐมนตรีที่ทรงอำนาจเธอไปอยู่ที่นั่นนานเท่าไรแล้วเขาไม่ได้ใส่ใจรู้แต่ว่าเธอดังในหมู่นักเรียนไทยและต่างชาติด้วยความเฟริทของธอ เขาไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้จึงไม่เคยพาตัวเข้าไปใกล้ แต่แล้วเขาก็พลาดเข้าจนได้ในงานเลี้ยงจบการศึกษาในหมู่เพื่อนๆ เธอมาร่วมงานทางสายไหนก็ไม่รู้
“สวัสดีค่ะคุณชัช แหมเราก็เห็นกันผ่านๆมาตั้งนานแล้วคุณไม่คิดอยากรู้จักกันบ้างเลยหรือคะ ขอแนะนำอย่างเป็นทางการนะคะ แขค่ะ แขนนภา สุภาพงศ์”
เธอเดินเข้ามาหาเขามือซ้ายถือแก้วคอกเทลแล้วยื่นมือขวามาให้เขาสัมผัส แต่ชัชชาติเพียงแค่โค้งให้อย่างสุภาพ
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ เชิญตามสบายนะครับ”
เขาทำท่าจะเลี่ยงไป แต่ผู้ชายแบบนี้ซิท้าทายดีไม่เคยมีใครปฏิเสธคนอย่างแขนภา
“คุยกันก่อนซิคะ หรือรังเกียจไม่อยากเป็นเพื่อนกับแข”
เธอเบียดร่างเข้ามาจนใกล้เขาเกือบจะไปชนกับอ่างพั้นซ์จึงต้องหยุดตัวเองไว้รู้สึกรำคาญและอึดอัด ทำไมสังคมต้องสอนให้เราเก็บความขุ่นไว้ข้างไหนเขาให้สงสัย เธอชวนคุยต่อ
“คุณจะกลับเมืองไทยหรืออยู่ที่นี่ต่อคะ น่าจะอยู่ต่อนะคะบ้านช่องคุณก็มีที่นี่ เราจะได้เป็นเพื่อนกันไงคะเพราะแขยังต้องอยู่ต่ออีกตั้งปี”
“ผมคงต้องกลับครับบ้านผมอยู่เมืองไทย”เขาตอบเรียบๆ อยากบอกว่ายิ่งตอนนี้เขายิ่งอยากกลับที่สุด
“ว้าเสียดายจัง งั้นให้แขเลี้ยงส่งคุณก่อนกลับได้ไหมคะ”
เขากำลังจะปฏิเสธแต่เพื่อนๆที่เดินมาสมทบกลับพากันส่งเสียงสนับสนุนในที่สุดเขาก็ต้องเลยตามเลย
เธอจัดงานเลี้ยงให้เขาในอพาตเม้นท์ที่หรูหราของเธอในย่านที่แพงที่สุดของมหานครนั้น การแสดงออกที่เธอมีต่อเขาแม้เด็กสิบขวบก็คงรู้ว่าเธอต้องการอะไร ผู้หญิงรักสนุก ในที่สุดเพื่อนๆจึงพากันปลีกตัวกลับบางคนแอบกระซิบ
“เฮ้ยอย่าทำเป็นฤษีไปเลยว่ะผู้หญิงเขาทอดสะพานให้ขนาดนี้ ไหนๆก็จะกลับแล้วสนองศรัทธาหล่อนสักหน่อยเถอะ”
เขาไม่เคยคิดแบบนั้นไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้เป็นเพียงเกม แต่เขาก็พลาดจนได้ เพราะเหล้าหรืออะไรไม่รู้ที่เขาโดนคนโน้นคนนี้ยัดเยียดให้ เพื่อนกลับกันไปหมดแล้วขณะที่เขาโดนลากเข้าไปในห้องนอน เธอบอกเขาก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นว่า
“แขชอบคุณม๊ากมากเราแค่สนุกกันนะคะอย่ากลัวว่าแขจะผูกมัด”
วันก่อนที่เขาจะเดินทางกลับก็ได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากบิดาโวยวายมาตามสาย
“แกไปทำอะไรไว้รู้ตัวไม๊ตาชัช”
“มีอะไรครับพ่อ คงด่วนมากซินะพ่อถึงขนาดต้องโทรมา วันนี้ผมก็จะกลับแล้ว ไฟลท์บ่ายนี้แหละ”
เขาตอบบิดาไปแต่คำที่นายชลิตผู้บิดาตอบกลับมาทำให้เขารู้สึกว่าโลกกำลังถล่ม
“ยังไม่ต้องกลับแคนเซิลไฟท์ไปก่อนพ่อกับท่านรัฐมนตรีสุขุมเจ้านายพ่อจะไปถึงที่นั่นอีกไม่เกินสามวันบอกแม่แกด้วยนะ..เลี้ยงลูกยังไง”ปลายเสียงบิดาตำหนิมารดาของเขา แม่เกี่ยวอะไรด้วย
“มัม ผมจะทำอย่างไรดีครับผมยังไม่อยากแต่งงาน แล้วผมก็ไม่ได้รักเธอ”
เขาปรึกษามารดา นางลอร่ามองเขาด้วยความเห็นใจทำไมนางจะไม่รู้ว่าลูกชายต้องมีใครอยู่ในใจ คนนั้นคงเป็นนางในฝัน
“ลูกเชื่อเรื่อง destinyไหมละ ถ้าเชื่อก็อย่ากังวลไปเลยถ้ายังไม่อยากแต่งก็แค่ขอเป็นหมั้นไว้ก่อน แม่จะช่วยพูดกับพ่อให้นะ” แม่ถอนใจก่อนพูดต่อ “แม่ก็ไม่เข้าใจประเพณีไทยทำไมต้องเอาตำแหน่งมาบีบบังคับ”
นั่นซินะก็เธอพูดเองว่าเราแค่สนุกด้วยกันแต่แล้วเธอกลับโทรไปฟ้องท่านรัฐมนตรีบิดาของเธอให้มาบังคับพ่อของเขา แล้วเราจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไรถ้าชีวิตคู่จะเริ่มต้นแบบนี้ ในที่สุดเขาก็จำใจต้องหมั้นกับเธอและกลับเมืองไทยโดยไม่อยู่รอให้เธอจบการศึกษา
“หมั้นกันมาสองปีแล้วยัยแขก็กลับมาเป็นปีแล้วคุณยังไม่พร้อมจะแต่งอีกหรือคุณชัช”
บิดาของหล่อนเปิดฉากขึ้นทันทีบนโต๊ะอาหาร“ผมเคยบอกคุณแขแล้วผมยังไม่มีอะไรเลยบ้านก็ยังต้องอยู่กับพ่อ ผมเป็นแค่ข้าราชการจนๆนะครับ”
“ก็คุณมันหยิ่งนักนี่จะช่วยวิ่งเต้นก็ไม่เอา จะเปิดบริษัทให้ออกมาทำธุรกิจส่วนตัวก็ไม่เอา” นายสุขุมตำหนิอย่างไม่ไว้หน้า “แต่ผมก็ได้แคร์หรอกนะว่าคุณจะไม่มีอะไรขอให้ลูกผมรัก แล้วผมเองก็มีพอ”
ในที่สุดชัชชาติก็บ่ายเบี่ยงไม่ได้นายสุขุมบอกว่าเขาจะต้องแต่งภายในปีนี้หรือไม่เกินต้นปีหน้า ก่อนที่ท่านจะหมดวาระการเป็นรัฐมนตรี ก็อีกไม่ถึงสี่เดือนแล้ว เขาควรทำอย่างไรแล้วภาพผู้หญิงที่มีน้ำตาเต็มตาโผเข้ามากอดเขาก็กลับมารบกวนจิตใจอีก เมื่อไรนะที่เขาจะลืมเธอผู้นั้นลืมความสุขผสมกับความรู้สึกผิดในคืนนั้นได้... กลับถึงบ้านคืนนั้นเขาก็ยังเปิดอินเตอร์เน็ทอ่านข่าวของสามีเธออีกและมองรูปที่เธอกอดลูกน้อยร้องไห้ด้วยความสงสารจับใจ
ร่างที่ไร้วิญญาณของท่านทูตพิธาน ดิลกรัตน์มาถึงเมืองไทย เขาเฝ้ามองข่าวนั้นด้วยหัวใจที่หดหู่ ลูกชายหญิงวัยรุ่นคู่หนึ่ง บิดามารดาที่แก่ชรา ภรรยาสาวสวยกอดธิดาคนเล็กที่ไร้เดียงสา ทุกคนต่างร่ำไห้กันปานจะขาดใจ ไมค์หลายตัวจ่อไปที่ปากของเธอจนเขารู้สึกสงสาร นี่มันอะไรกันหนักหนาคนกำลังโศกเศร้ากลับมาถามความรู้สึก เขาปิดทีวีรู้สึกทนเห็นภาพนั้นไม่ได้ แล้วก็มาอ่านข่าวในอินเตอร์เน็ทต่อ ได้ทราบว่าศพของท่านจะไว้ที่วัดไหน เขายังคงลังเลจะไปหรือไม่ไปดี หรืออย่างน้อยก็ควรไปสักคืนอย่างไรเสียเขาก็เคยรู้จักกับท่าน
พลอยพิมพ์กลับมาถึงเมืองไทยพร้อมลูกน้อยและร่างที่ไร้วิญญาณของสามีอันเป็นที่รัก ตั้งแต่เธอตัดสินใจกลับไปอยู่กับเขาที่กรุงเทพจนไปอยู่อังกฤษชีวิตก็เต็มไปด้วยความสุข ลูกสองคนของเขาไปอยู่กับปู่ย่าไม่เคยมายุ่งเกี่ยวอีก ขณะท้องลูกสาวได้สี่เดือนก็ย้ายไปอังกฤษ ชีวิตที่นั่นก็เต็มไปด้วยความสุขชดเชยกับเวลาสองปีที่แทบจะไม่ได้อยู่ด้วยกันเลยแล้วเธอยังกลับไปอยู่กับมารดาอีกปีกว่าที่แยกจากกัน แต่ระยะเวลาแห่งความสุขหลังจากตัดสินใจลืมเรื่องต่างๆแล้วมาอยู่ด้วยกันเพียงสามปีกว่าเขาก็จากไป ชีวิตแต่งงาน7ปีจบลง
ด้วยการตายจาก โดยมีพยานรักคือเด็กหญิงทิวารีที่เขาฝากไว้ให้
พี่ชายพี่สะใภ้ทั้งสองรวมทั้งน้าชิดญาติคนเดียวที่เหลือเดินทางจากไร่มารับ ก๋งจากไปแล้วหลังจากที่แม่จากไปเพียงไม่ถึงปี เธอเพิ่งอายุ32แต่ทำไมชีวิตจึงมีแต่ความสูญเสีย พ่อแม่ปู่ย่าตายายรวมทั้งสามีล้วนจากไปหมด พี่ชายทั้งสองกอดน้องสาวคนเดียวด้วยความสงสาร มธุรสพี่สะใภ้รับลูกสาวตัวน้อยไปอุ้ม ไมค์จากสำนักข่าวต่างๆจ่อมาที่ปาก จนเพชรแท้เหลืออด
“เลิกสัมภาษย์สักทีได้ไหม อยากรู้ความรู้สึกนักก็รอให้สามีคุณตายก่อนดีไม๊”
แล้วทั้งหมดก็ตามรถที่นำร่างของพิธานไปที่วัด พลอยพิมพ์ไม่ทำอะไรเลยเธอได้แต่นั่งเลื่อนลอยเหมือนคนไร้วิญญาณอยู่ในศาลา ลูกน้อยช่างไร้เดียงสานักได้แต่วิ่งเล่นกับพี่ชายและพี่สาวซึ่งเป็นลูกของเพชรแท้และเพิ่มทอง
ในคืนสวดคืนที่สองคนที่เธอไม่คาดคิดก็มาปรากฏตัว จากหนุ่มน้อยในวันนั้นบัดนี้เขาดูเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวผิวขาวจัดบวกกับความสูงของเขาทำให้ดูโดดเด่นกว่าใคร 5ปีแล้วซินะที่เธอไม่เคยได้รับข่าวคราวของเขา หลังเข้าไปเคารพศพสามีของเธอ เขาก็เดินเข้ามาหา
“ผมเสียใจด้วยนะครับพี่พลอย”
พลอยพิมพ์รับไหว้แล้วกล่าวขอบคุณ น้ำเสียงและสีหน้าที่จริงใจและอาทรไม่เปลี่ยนแปลงจนพลอยอยากร้องไห้โฮออกมา ทำไมนะทำไมคุณต้องมาอาทรฉันด้วย
ผลงานอื่นๆ ของ เบธานี ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เบธานี
ความคิดเห็น