ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    องค์หญิงเพี้ยน กับ เหล่านายสนม

    ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 13 น้องสาวคนเล็ก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.91K
      870
      19 พ.ค. 64

    บทที่ 13

    น้องสาวคนเล็ก


                     หลังจากที่คุยกับจิ้นอันเกี่ยวกับกำหนดการในวันพรุ่งนี้คนสนิทของเธอก็ขอตัวไปจัดการเตรียมห้องครัวเอาไว้ให้ แต่ก่อนที่จะไปหนิงหลงได้กำชับเอาไว้ว่าจะต้องไม่บอกว่าเธอจะใช้หากมีใครรู้ว่าองค์หญิงจะทำงานครัวมันคงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ


                    “แค่องค์หญิงคิดอยากเข้าครัวแค่นั้นก็น่าตกใจแล้วเพคะ แต่นานๆทีได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำบ้างข้าก็คิดว่ามันคือการคลายความเครียดอย่างหนึ่งเพคะ”จิ้นอันบอกทั้งรอยยิ้ม


                    ตั้งแต่มาอยู่ที่โลกใบนี้สิ่งที่หนิงหลงรู้สึกว่าโชคดีที่สุดก็คงเป็นการมีผู้ช่วยเป็นจิ้นอันนี่แหละ ทั้งรู้ใจทำงานก็รวดเร็ว เป็นคนรอบคอบหากมีเหรียญตราพนักงานดีเด่นที่นี่ล่ะก็เธอก็อยากจะยกมันให้จิ้นอันเลยด้วยซ้ำไป


                    เพียงไม่กี่อึดใจจิ้นอันก็กลับมาและพาเธอไปยันห้องครัวของตำหนัก ปกติที่นี่จะต้องมีแต่ผู้คนเดินทำงานไปมาไม่หยุดหย่อนแท้ๆ ไม่รู้เลยว่าจิ้นอันใช้วิธีอะไรถึงทำให้ที่นี่ปลอดคนได้ถึงขนาดนี้


                    ทว่าวิธีการมันไม่สำคัญเท่าผลลัพธ์หากมีผลที่น่าพอใจจะได้ซักไซ้หาวิธีการทำไมกันเล่า? ของที่ต้องการก็มาอยู่ตรงหน้าหมดแล้วหนิงหลงจึงไม่รอช้ารีบจัดของมาวางรวมกันเพื่อที่จะเริ่มทำอาหาร


                    “เช่นนั้นแล้วข้าจะไปดูต้นทางให้นะเพคะ เผื่อจะมีใครเดินผ่านมาที่นี่”จิ้นอันคิดอย่างรอบคอบ ถึงการที่เชื้อพระวงศ์มาทำงานครัวจะไม่ใช่เรื่องผิดแต่มันก็แปลกในสายตาคนอื่น เพื่อไม่ให้เกิดเสียงซุบซิบขึ้นเธอจะต้องมั่นใจว่าจะไม่มีใครเห็น


                    “ขอบใจมากจิ้นอัน”


                    เมื่อกล่าวคำขอบคุณจิ้นอันก็หันกลับไป ความจริงเธออยากอยากให้จิ้นอันอยู่ต่ออีกสักหน่อยมาเป็นผู้ช่วยของเธอ แต่หากไม่มีคนดูต้นทางก็คงแย่หากมีใครสักคนมาช่วยตีไข่ขาวให้ฟูก็คงจะดีไม่น้อยทีเดียวเชียว


                    ....ถ้าพูดถึงใครสักคนที่พร้อมช่วย ในหัวของหนิงหลงนึกถึงใครสักคนที่บอกว่าจะช่วยเธอทุกครั้งที่เธอเรียก จะว่าไปเดี๋ยวนี้เธอไม่ได้พาออกมายืดเส้นยืดสายข้างนอกป่านนี้จะเป็นเช่นไรบ้างนะ?


                    “มังกรฟ้า...”


                    เมื่อเธอเรียกชื่อออกมามังกรฟ้าตัวใหญ่ขนาดพอดีห้องครัวก็ปรากฏขึ้น ดวงตาเรียวคมดั่งสัตว์ป่าค่อยๆลืมตาและเอ่ยถาม


                    “...มีอะไรให้ข้าช่วยงั้นรึ?”


                    ท่าทางตัวของเขาจะใหญ่คับห้องไปเสียหน่อยมังกรฟ้าจึงใช้พลังย่อขนาดตนเองให้เล็กลงมาเล็กน้อย แม้จะยังไงประหลาดใจว่าเหตุใดคู่พันธะสัญญาขอตนจึงเรียกมายังห้องครัวแบบนี้ก็ตาม


                    ทว่าหนิงหลงก็ยื่นชามที่ตอกไข่ลงไปและแยกไข่แดงออกมาแล้วให้แต่มังกรฟ้า...


                    “อาจจะดูไร้สาระไปหน่อย แต่ช่วยตีไข่ขาวในชามให้ขึ้นฟองที”


                    “ตีไขขาว?”


                    “ใช่...แบบ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ”หญิงสาวสาธิตวิธีคนไข่ขาวให้แก่มังกรตัวใหญ่ มังกรฟ้าจ้องมองการสอนของเธออย่างตั้งใจก่อนจะเลื่อนสายตาไปจับจ้องที่สีหน้าของหนิงหลง หากสีหน้าของเธอไม่ได้ล้อเล่นล่ะก็...


                    “...ได้ ข้าเข้าใจแล้ว”


                    การตอบรับความปรารถนาของคู่สัญญาคือหน้าที่ของสัตว์เทพ มังกรฟ้าใช้มือกรงเล็บของเขาจับส้อมและอีกข้างก็โอบชามเอาไว้ละดับลำตัว แต่ความจริงนั้นไม่ได้ใช้มือตนเองแต่ใช้พลังปราณในการจับต่างหาก ยังไงมือที่มีแต่กรงเล็บก็คงจับส้อมเล็กๆไม่ได้อยู่แล้ว


                    “นึกว่าจะไม่อยากทำเสียอีก...”หนิงหลงแอบพูดขึ้นมาเบาๆ ความจริงก็ไม่ได้คิดว่าจะยอมทำแต่โดยดีขนาดนี้หรอก แต่เหมือนเจ้าตัวก็มีดูสนุกดีอีกต่างหาก


                    “..การตอบรับคำขอของคู่สัญญาคือหน้าที่สำคัญ”มังกรฟ้ากล่าวขึ้นเรียบๆในขณะที่มือยังตีไข่ขาวอย่างตั้งอกตั้งใจ


                    “แต่ฉันว่าทำครัวทำหลายๆคนก็ดีกว่าทำคนเดียวนั่นแหละนะ เหมือนกับครอบครัวไงล่ะ”


                    “....”


                    “..มังกรฟ้า?”


                    จู่ๆคำพูดของเธอก็ทำให้มังกรฟ้านิ่งเงียบไป ถึงจะเป็นร่างมังกรตัวใหญ่ในแวบหนึ่งหนิงหลงสังเกตเห็นที่มุมปากนั้นราวกับว่า...กำลังยิ้ม?


                    “มือของข้าใช้ต่อสู้มานาน...ไม่คิดว่าจะเอามาทำอาหารได้เหมือนกัน”


                    “...เมื่อก่อนที่นี่สู้รบกันด้วยงั้นเหรอ?”


                    “ตอนนี้ก็ยังมีการสู้รบกันอยู่ที่ชายแดนหลายๆแห่ง...ภายในวังอาจจะสงบสุขแต่ด้านนอกเต็มไปด้วยการนองเลือด”

     

                    “ขอฟังอย่างละเอียดได้รึเปล่า?”


                    “....เจ้าจะเหนื่อยโดยใช่เหตุ”


                    “ไม่เป็นไร ดูดพลังไปได้เท่าที่ต้องการเลย”


                    หนิงหลงผสมแป้งสาลี นมวัว และน้ำตาลไปรวมกับไข่แดงพร้อมกับรอฟังเรื่องราวจากมังกรฟ้าไปด้วย เธออยากรู้..ในสิ่งที่หนังสือไม่ได้บอก อยากรู้ทุกอย่างในดินแดนแห่งนี้ บางทีมันอาจจะทำให้เธอเข้าใจได้ว่าเหตุใด องค์หญิงหนิงหลงตัวจริงถึงได้เรียกเธอมายังที่แห่งนี้และเหตุใด...ที่ทำให้เธอต้องตาย


                    “อาณาจักรแห่งนี้มีความขัดแย้งกับอาณาประเทศทิศใต้และทิศตะวันออก มีการสู้รบกันเพื่อชิงดินแดนและปกป้องเขตแดนตนเอง ในตอนนี้ความขัดแย้งยังไม่สงบแต่ก็ไม่รุนแรงมากนัก”


                    “เกี่ยวข้องกับการวางยารึเปล่า?”


                    “ข้าคิดว่าไม่...”


         “หากไม่ใช่ความขัดแย่งจากประเทศนอก...แสดงว่าเป็นฝีมือของคนในสินะ?”


         หนิงหลงตั้งข้อประเด็นที่เธอสนใจอย่างมากในตอนนี้ไปก่อน หากเธอสามารถรู้ชื่อของตัวตนของคนร้ายอะไรๆก็คงง่ายมากขึ้นและยิ่งมังกรฟ้าเป็นผู้หยั่งรู้อนาคตอยู่แล้วไม่แน่เขาอาจจะให้คำตอบที่ชัดเจนมาก็ได้


         “น่าจะเป็นเช่นนั้น...”


         "เป็นผู้หยั่งรู้อนาคตก็บอกไม่ได้ว่าเป็นใครงั้นสินะ?”


         “หากมีพลังเช่นนั้นคงสูงเกินพระเจ้า..”


         “พูดอีกก็ถูกอีก”


         ต่อให้เป็นมังกรฟ้าแต่การจะให้ชี้ตัวว่าใครเป็นคนร้ายได้เลยมันก็จะเกินไปหน่อย โลกยังมีสิ่งที่เรียกว่าสมดุลอยู่หากมีพลังที่จะรู้การเคลื่อนไหวของทุกคนแบบนั้นมันก็คงเกินไปจริงๆนั่นแหละ แต่อย่างน้อยก็รู้ได้ว่านี่ไม่ใช่แผนของคนนอกอย่างแน่นอน


         เดี๋ยวนี้จะเดินไปไหมก็ต้องระวังเป็นเท่าตัวเสียงแล้ว...


         ถึงจะพูดแบบนั้นแต่กับการแค่เดินไประยะสั้นๆก็ต้องพบผู้ติดตามไปด้วยยังไงก็ยังไม่ชินเสียที


         “มันขึ้นฟองแล้วเจ้าจักให้ข้าเช่นไรต่อ?”มังกรฟ้ายกชามไข่ขาวที่ถูกตีจนเป็นฟองฟูให้หนิงหลงดู แต่ทว่าเท่านี้ยังไม่พอ มันต้องฟูมากกว่านี้อีก


         “ยังน้อยไปหน่อยนะ..”


         “เข้าใจแล้ว”


         มังกรฟ้ากลับไปตีไข่ขาวเช่นเดิมในตอนนั้นเองที่จิ้นอันรู้สึกว่าได้ยินเสียงองค์หญิงกำลังพูดคุยกับใครบางคนจึงละหน้าที่เฝ้าต้นทางแวะมาดูในครัวก่อน


         แต่ภาพที่เธอเห็นเกือบทำให้เธอต้องหยุดลมหายใจ!! มังกรสัตว์เทพผู้ยิ่งใหญ่กำลังถือชามตีไข่!! โลกนี้ต้องถึงกาลอวสานเป็นแน่ยังไม่พอเพียงเท่านั้น...มังกรฟ้ายังตีไข่ขาวเหมือนไม่มีอะไรผิดแปลกเลยสักนิดซ้ำยังดูตั้งอกตั้งใจมากอีกต่างหาก!! แต่แล้วทำไมองค์หญิงถึงตั้งกระทะราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นนั้นล่ะ!!?


         “อะ...องค์หญิง นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นเพคะ?”จิ้นอันถามและมองหนิงหลงกับมังกรฟ้าสลับกัน


         “...อา ข้าอยากได้ลูกมือน่ะก็เลยให้มาช่วย”


         “...มังกรฟ้า? ช่วยทำอาหาร?”


         “ใช่ เก่งกว่าที่คิดอีกนะ”


         อยากจะเป็นลม...


         เป็นคำแรงที่เข้ามาในหัวของจิ้นอัน เธอรู้สึกว่าหลังจากองค์หญิงหายจากอาการป่วยจะดูแปลกๆไปบ้างแต่นี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแล้วล่ะ การที่ตัวตนศักดิ์สิทธิ์เช่นมังกรฟ้ามาเข้าครัวทำอาหาร โอ้...เธอกำลังหลับฝันอยู่หรืออย่างไร?


         “องค์หญิง ข้าจะช่วยท่านเองแต่ได้โปรด...อย่าให้ท่านมังกรฟ้าทำเลยนะเพคะ”


         “ทำไมล่ะ...เขาเต็มใจนะ”


         “ถ้าคนอื่นมาเห็นจะไม่จบที่แต่ข่าวลือแน่นอนเพคะ”


         แต่จะกลายเป็นข่าวโลกพิสดารไปเลยต่างหาก...!!


                    เพราะว่าเรียกมังกรออกมานานหนิงหลงก็เริ่มรู้สึกปวดหัวเล็กน้อยเธอจึงส่งมังกรฟ้ากลับไปและได้ลูกมือคนใหม่เป็นจิ้นอันแทน ในที่สุดแพนเค้กแสนอร่อยที่เธอตั้งใจทำก็เสร็จสิ้นพร้อมรับประทาน เธอราดน้ำผึ้งลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความอร่อยอีกไม่นานก็จะถึงเวลาบ่ายแล้วเธอจึงเดินกลับไปเตรียมตัวที่ตำหนักหลัก


                    เมื่อครู่นี้ก็เพิ่งให้จิ้นอันลองชิมไปบ้างเธอบอกว่าอร่อยและดูแปลกตามาก หากจินหลันชอบเหมือนกันก็คงจะดีไม่น้อย

                   


                    เมื่อถึงเวลาน้ำชายามบ่ายจินหลันเดินมายังตำหนักของหนิงหลงพร้อมกับนายกำนัลรับใช้จำนวน 4 คน นี่เป็นครั้งแรกในรอบปีที่องค์หญิงเชิญเขามาดื่มชาด้วยกัน เขาตื่นเต้นจนกลัวว่าจะเผลอตำตัวไม่ถูกต่อหน้าองค์หญิงจริง แถมยังมีนายกำนัลในตำหนักองค์หญิงอีกพลาดถึงไหนรู้ไปถึงนั่น


                    “จินหลัน มาเร็วกว่าที่ข้าคิดเอาไว้เสียอีก”หนิงหลงเดินออกมาต้อนรับที่หน้าตำหนักพร้อมกับจิ้นอัน


                    “ข้าไม่อยากให้ท่านต้องรอนาน..”


                    “รออะไรกัน ข้าเป็นคนเชิญเจ้ามาเองนะ เข้ามาสิวันนี้ข้าลองเข้าครัวทำของว่างเองด้วย แต่อย่าเอาไปบอกใครล่ะ”หนิงหลงพูดเบาๆให้ได้ยินแค่เขาทั้งสองก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเปล่งประกาย


                    “...อะ...องค์หญิง ไม่ต้องทำถึงเพียงนั้น”


                    อาหารฝีมือราชวงศ์แค่คิดก็เป็นเกียติแก่ตระกูลมากแล้ว แถมยังเป็นฝีมือขององค์หญิงรัชทายาทลำดับที่หนึ่งอีกต่างหาก! เขาจะกล้ากินของว่างสำรับนี้ไหมนี่!!?


                    เมื่อมาถึงศาลากลางน้ำเหล่าผู้ติดตามทั้งหมดก็แยกย้ายไปอยู่ด้านนอกตำหนักกันหมดเพื่อให้ทั้งคู่ได้มีเวลาอยู่กันสองต่อสอง และเมื่อนำแพนเค้กฟูนุ่มที่หนิงหลงตั้งใจร่วมกับจิ้นอันและมังกรฟ้าเล็กน้อย ดวงตาของจินหลันก็เป็นประกายเมื่อมองก้อนฟูนุ่มเหมือนก้อมเมฆสีเหลืองทองที่ราดน้ำผึ้งระยิบระยับ


                    “มันงดงามมากเลยขอรับองค์หญิง”


                    “แค่ของว่างแบบง่ายๆน่ะ ลองทานดูสิ”


                    “ทะ...ท่านต้องลำบากทำมาให้ข้าแบบนี้ ข้าทำใจทานหมดเพียงอย่างเดียวไม่ลงหรอกขอรับ..”


                    “ถ้าเจ้าไม่กินล่ะก็..ข้าจะเสียใจนะ..”


                    และถ้าเขารู้ว่ามีมังกรฟ้าร่วมด้วยช่วยกันในการทำคงจะไม่กล้าแต่แต่หยิบช้อนแน่ๆ


                    “องค์หญิง...ขอรับ ข้าจะทานแล้วนะขอรับ”จินหลันยกช้อนขึ้นมาตักชิ้นแพนเค้กชิ้นเล็กๆเข้าปาก เมื่อรสชาติหวานละมุนแผ่กระจายที่ลิ้นใยหน้าของเขาก็แดงระเรื่อด้วยความสุข


                    “เป็นยังไงบ้าง? อร่อยรึเปล่า?”หนิงหลงถามพร้อมกับยกชาขึ้นจิบเบาๆ


                    “อะ.อร่อยมากเลยขอรับ!!


                    “เจ้าชอบก็ดีแล้วล่ะ”


                    “ข้ากินหมดเลยจะดีหรือขอรับ?”


                    “ดีสิ ทำไมจะไม่ดีล่ะ”


                     เวลาน้ำชายามบ่ายผ่านพ้นไปได้ด้วยดีทั้งสองต่างพูดคุยเรื่องของกันและกันเกี่ยวกับทั้งเรื่องของจินหลันเองแต่การอ่านหนังสืออย่างหนักหน่วงของหนิงหลงที่เธอเล่าให้เข้าได้รับรู้ ราวกับว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในโลกของพวกเขาเป็นเวลาหลายต่อหลายนาที


                    พึ่บ พึ่บ...


                    “เสียงอะไรน่ะ?”หนิงหลงได้ยินเสียงว่ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆนี้


                    “...นั่นสิขอรับ? ข้าเองก็ได้ยินเหมือนกัน”


                    ที่พุ่มไม้ข้างศาลามีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหว หนิงหลงคิดว่าคงเป็นแมลงไม่ก็สัตว์ตัวเล็กๆแต่ว่าที่ตำหนักแห่งนี้ไม่เคยมีสิ่งแปลกปลอมแม้แต่แมลงเข้ามาได้ด้วยการดูแลของจิ้นอัน มันเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับเธอมากเลยที่เดียวที่ได้เห็นแมลงที่นี่...


                    “ทะ...ท่านพี่หนิงหลง!! ท่านพี่หนิงหลง!! ท่านอยู่รึไม่!!?”


                    “เสียงนี่...”


                    จู่ๆเสียงของเด็กสาวคนหนึ่งก็ตะโกนเรียกชื่อของเธอมาจากหน้าตำหนัก เธอวิ่งหน้าตาตื่นมาเพียงคนเดียวท่าทางจะวิ่งมาสุดฝีเท้าเลยทีเดียวจึงได้หอบเหนื่อยมาหยุดอยู่ตรงศาลากลางน้ำที่หนิงหลงและจินหลันอยู่


                    เด็กคนนี้...


                    หนิงหลงมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เด็กคนนี้อายุราวๆ 14 ปี เส้นผมสีดำสนิทถึงมัดรวบเป็นเปียสองข้างและม้วนขึ้นเป็นรูปวงกลมอย่างสวยงาม หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเหมือนตุ๊กตา ดวงตาสีดำก็กลมโตน่ารักสมวัย ผิวพรรณก็ขาวผุดผ่องดั่งผู้ดีมีตระกูล เธอแต่งกายด้วยชุดสีดำม่วงที่พลิ้วไหวแม้จะเป็นสีหม่นๆแต่ก็ขับความสว่างของผิวออกมาได้อย่างชัดเจน


                    เธอคือน้องสาวคนเล็กของเธอ องค์หญิงลำดับที่สี่ อิงหลิว


                    “อิงหลิว? เหตุใดน้องจึงวิ่งมาเช่นนี้ เกิดเรื่องอะไรงั้นหรือ?”หนิงหลงหันไปหาน้องสาวคนเล็กอย่างเกร็งๆ ในความทรงจำเธอรับรู้ได้ว่าน้องสาวคนเล็กคนนี้ไม่ค่อยได้ออกมาพบผู้คนมากนัก แม้แต่เธอก็ไม่ได้เห็นหน้าค่าตาเว้นแต่ในงานสำคัญเท่านั้น


          “...ท่านพี่หนิงหลง ข้า..ข้าทำสัตว์เลี้ยงของข้าหลุดออกมา”อิงหลิวตอบทั้งๆที่ยังหอบหายใจอยู่


         “สัตว์เลี้ยง?”


         “เพคะ ข้าเห็นว่ามันมาทางนี้เลยคิดว่ามันคงหลบอยู่ที่นี่”


         “เช่นนั้นสัตว์เลี้ยงของเจ้าเป็นเช่นไรล่ะ พี่จะให้คนช่วยตามหา”


         ด้วยความหวังดีต่อน้องสาวหนิงหลงจึงหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ทันที...


         แต่เธอหารู้ไม่ว่า...


         “เอ่อ...คือ...สัตว์เลี้ยงข้า...”น้องสาวคนเล็กทำสีหน้าลำบากใจแล้วเอาแต่ก้มมองพื้น


         “..ขนของมันเป็นสีอะไร ตัวขนาดเท่าไหร่ เป็นสัตว์ประเทศไหนกันล่ะ?”หนิงหลงเร่งรัดให้น้องสาวตนตอบเพราะหากช้าไม่แน่ว่าสัตว์เลี้ยงอาจจะหนีไปก็ได้


         “เป็น....สีขาวเพคะ”


         “หา? อะไรสีขาวนะ?”


         เสียงของอิงหลิวขาดหายไปช่วยหนึ่ง...


         “งะ...งู...”


         “...หะ?”


         “เป็นงูสีขาวเพคะ!!!


         “....!!!


         เพียงได้ยินคำว่างูใบหน้าของหนิงหลงก็ซีดราวกับไก่ถูกต้ม


         อย่าบอกนะว่า...มันคือสิ่งที่อยู่ในพุ่มไม้นี้!!


    ==========================================================

    กลับมาแล้วนะเอออ

    มาพร้อมกับภาพปกที่เสร็จแล้ววววว



    เพื่อนบอกว่านางเอกนี่เหมือนนางเสือมากๆเลย ล่ะค่ะ

    โอ้ ไม่นะ //แต่เราชอบบบบบบบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×