ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [NU'EST BAEKRON] รวมฟิคเรื่องสั้นของแบคร่อน

    ลำดับตอนที่ #9 : [SF] One-Piece.. ch.5 (จบ)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 97
      5
      22 พ.ค. 61

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     
     

    หลังจากแบคโฮผ่านออกไปได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูห้องของอารอนก็ดังขึ้นอีกรอบ

     

     

    โว๊ะ อะไรอีกว่ะ อะ ไอ้....  อ่าว...นายเองหรอนึกว่าแบคโฮกลับมาอีกรอบถ้าใช่จะด่าให้ แต่ว่ามันกลับไม่ใช่..

     

    อารอนเปิดประตูออกไปโดยที่คิดว่าคนที่มาเคาะประตูนั้นจะเป็นแบคโฮ แต่เมื่อประตูเปิดออกก็ได้พบกับคนที่ยืนอยู่นั่นไม่ใช่แบคโฮแต่อย่างใด หากแต่เป็นเร็นต่างหากที่อยู่หน้าห้องเค้าตอนนี้     
              

    อืมฉันเอง ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม

     

    ได้ดิ

     

    ขอบใจนะ ว่าแต่นายไม่กลัวฉันหรอ

     

    ทำไมฉันต้องกลัวนายด้วยล่ะเร็น

     

    แบคโฮน่าจะบอกนายหมดแล้วนี่

     

    ถ้าถามว่ากลัวไหมอารอนไม่กลัวเร็นหรอก เพราะถ้าหากเร็นคิดจะทำอะไรจริง ๆ คงทำตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วแหล่ะ แต่ถ้าเร็นคิดจะทำอะไรอารอนคงไม่ยอมหรอก งานนี้สู้ตายบอกเลย

     

    ก็ใช่บอกแล้ว แต่ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย เราเพื่อนกันนี่นา เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้นะ

     

    ไม่ต้องหรอก แค่จะแวะมาคุยแค่แปบเดียว

     

    เอางั้นหรอ ว่าแต่นายมาที่นี่มีธุระอะไรหรอ

     

    ฉันก็แค่อยากจะมาคุยกับนาย มาบอกเหตุผลว่าทำไมฉันถึงต้องทำแบบนั้น

     

    ก็ดีเลยฉันก็สงสัยอยู่ว่าทำไมนายต้องทำแบบนี้ คือฉันกับนายพึ่งจะรู้จักกันได้แค่ไม่นานเองนะ ตั้งแต่นายย้ายมาที่นี่ก็แค่สามเดือนเอง

     

    ไม่ใช่ ฉันไม่ได้พึ่งจะรู้จักนายหรอกนะ แต่ฉันหน่ะรู้จักนายมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เรายังเด็กนายคงจำฉันไม่ได้สินะ

     

    เอ๋..รู้จักตั้งแต่เด็ก หมายความว่าไง?” หมายความว่ายังไงกันที่บอกว่ารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ตอนเด็ก ๆ เราเคยรู้จักเร็นด้วยหรอเนี่ย

     

    ก็หมายความตามนั้นแหล่ะ ฉันจะไม่ย้อนกลับไปเล่าเรื่องพวกนั้นหรอกนะ ในเมื่อเล่าไปมันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไมได้อยู่แล้ว เพราะนายก็ไม่ได้รักฉันแถมยังจำฉันไม่ได้เลยอีกต่างหาก แต่ว่าฉันก็ดีใจที่ฉันได้กลับมาที่เกาหลีอีกครั้งแล้วก็ตามหานายจนเจอ ทีแรกฉันก็คิดว่าถ้านายยังไม่ได้ชอบใครหรือมีคนรักอยู่แล้ว ฉันก็จะขอนายเป็นแฟนจะทำให้นายรักฉัน แต่ว่าตั้งแต่เจอนายตอนแรก ฉันก็เหมือนจะอกหักตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะนะใช่ ผมกับอารอนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ผมไม่คิดจะย้อนเรื่องราวและเล่าให้อารอนฟังในเมื่ออารอนจำผมไม่ได้ มันก็ไม่มีความหมายอะไรที่จะไปพูดถึงมันอีก

     

    แล้วทำไมนายต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ

     

    ในเมื่อเร็นไม่อยากเล่าก็จะไม่ถามให้มันวุ่นวาย เพราะถ้าเกิดเร็นเล่าเรื่องนั้นออกมา ถ้าหากว่าผมยังจำมันไม่ได้อีกเร็นคงเจ็บปวดกว่าเดิมแน่ ๆ แต่ที่อยากรู้ตอนนี้คือ ทำไมเร็นต้องโกหกด้วย

     

    แบบไหน

     

    ก็เมื่อวาน.. ที่นาย...จะให้พูดออกไปก็กลัวเร็นจะรู้สึกแย่

     

    ถ้าฉันไม่ทำฉันจะได้รู้ความจริงไหมล่ะว่าพวกนายสองคนรักกัน สามเดือนเลยนะที่ฉันลองมองพวกนายมา สิ่งที่ฉันทำถ้าพวกนายสองคนไม่ได้รักกันคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คือฉันเอง แต่ถ้าพวกนายสองคนรักกันจริงฉันก็จะปล่อยนายไป"

     

    "ขอบใจนะ"

     

    "ขอบคุณเรื่องอะไรล่ะ" เร็นพูดพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ กับสายตาซุกซนส่งไปให้อารอน ก็รู้ว่าเรื่องอะไร แต่แค่อยากแกล้งอารอนดูว่าจะยอมพูดไหม

     

    "ก็..เรื่องที่นาย..." เร็นนี่ก็ถนัดแกล้งกันซะจริง ๆ เลยนะ ก็รู้ว่ามันพูดยากยังจะแกล้งกันให้พูดอีก

     

    "เรื่องที่ทำให้นายสองคนยอมสารภาพรักกันได้หน่ะหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า" เร็นพูดพร้อมกับหัวเราะ ท่าทางของอารอนดูจะเขินมาก เร็นเลยพูดออกมาแทน

     

    "ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย แต่ก็ขอบใจเรื่องนั้นด้วยแหล่ะ"

     

    "มันคงต้องเป็นอย่างนั้นแหล่ะ ก็นายสองคนนี่ปากแข็งทั้งคู่ แถมยังให้ฉันเกือบเข้าใจผิดไปจริง ๆ ว่านายสองคนไม่ได้รักกัน ไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ"

     

    "จะกลับแล้วหรอ" หืมมาเพื่อจะพูดแค่นี้เองหน่ะหรอ อะไรกัน

     

    "ใช่ ก็เรื่องที่ฉันอยากพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว ก็กลับได้แล้วล่ะ"

     

    เร็นขอลาอารอนกลับ เพราะเรื่องที่อยากจะพูดอยากจะบอกก็ได้บอกไปหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่นานไปกว่านี้แล้ว หากถ้าอยู่นานกว่านี้สิ่งที่เค้าตั้งใจจะทำอาจจะไม่ได้ทำมันก็ได้ นั่นคือตัดใจจากอารอน

     

    "เดี๋ยวไปส่งนะ"

     

    "อืม"

     

    เมื่อเร็นลุกไปอารอนก็ขออาสาไปส่งเร็นกลับ แต่ก็ไปส่งได้แค่เพียงแค่หน้าประตูห้องของตัวเขาเองเท่านั้น

     

    "ส่งแค่นี้ก็พอ"

     

    "เอางั้นหรอ" 
     

    "อารอน"

     

    "หืมมีอะไรอีกหรอ"

     

    "ขอกอดหน่อยได้ไหม"

     

    "ว่าไงนะ" หืมกอด ทำไมอยู่ ๆ ก็มาขอกอดกันแบบนี้ล่ะเนี่ย

     

    "ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ"

     

    "ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ" ก็เพื่อนกันกอดกันทำไมจะได้ล่ะ

     

    อารอนพูดจบก็เป็นฝ่ายเข้าไปกอดเร็นก่อน กอดกันในฐานะเพื่อนแค่นี้ทำไมจะไม่ได้ คำขอของเร็นไม่ได้ยากเลยสักนิด เพียงแต่แค่สงสัยในตอนแรกเท่านั้นเอง

     

    "อารอนดูแลความรักของนายให้ดีนะ ขอให้นายโชคดี"
     

    กอดนี้คงเป็นกอดแรกและกอดสุดท้ายแล้วสินะ ที่จะได้ทำกับอารอนจากนี้ต่อไปจะมีโอกาสได้เจอกันอีกรึเปล่าก็ไม่รู้ หวังเพียงว่าการตัดสินใจทำเรื่องทั้งหมดนี้จะทำให้อารอนมีความสุข และเค้าจะจากไปพร้อมกับความสุขเช่นเดียวกัน

     

    "ได้สิ ขอบคุณนายจริงนะ"

     

    "ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะไปแล้วจริง ๆ นะ"

     

    "โชคดีนะเร็น พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียน" หลังจากผละจากกอดแล้วอารอนก็โบกมือลาเร็นอีกครั้ง

     

    "อืม นายเข้าห้องไปได้แล้วล่ะ แล้วอย่าเผลอปล่อยให้ใครเข้าไปห้องตัวเองได้อีกล่ะ" เร็นแกล้งแซวอารอนก่อนจะไป

     

    "โอเคไม่มีแล้วหน่า นายคนเดียวก็เกินพอ"

     

    "ไปเลยเข้าไปเลย ฉันจะได้ไปซักที" เร็นพูดพร้อมดันอารอนให้กลับเข้าห้องของตัวเองไป

     

    "อืม" อารอนเองก็ทำตามอย่างว่าง่ายเข้าห้องตัวเองไป


     

    "วันนี้เร็นพูดจาแปลก ๆ ทำตัวแปลก ๆ นะเนี่ยแต่ช่างเถอะคงไม่มีอะไรหรอก" เมื่อปิดประตูห้องลง อารอนก็พลางคิดถึงทั้งคำพูดและกระทำของเร็นที่มันทำให้อารอนรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก




     

    "อารอนพรุ่งนี้เราอาจจะไม่ได้เจอกันแล้วนะ ลาก่อน"

     

    เร็นยืนรอจนประตูของห้องปิดลง และทันทีที่ประตูห้องปิดประโยคสุดท้ายจากปากของเร็นก็เอ่ยออกมาเพื่อบอกลาคนด้านใน เป็นประโยคที่ต้องการจะบอก แต่ไม่กล้าที่จะให้อีกคนรู้ว่าตัวเองกำลังจะไปและคงจะไม่ได้เจอกันอีก ได้แต่บอกอยู่ตรงนี้และเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ

     


     

    ------------------------------------------



     

    "อะไรกันเนี่ย ทำไมวันนี้คนมองแปลก ๆ ตั้งแต่เดินเข้ามาล่ะมองกันอยู่ได้ ชิปล่ะรึตูไม่ได้รูดซิป" ว่าแล้วอารอนก็ทำการก้มไปสำเร็จดูความเรียบร้อยของตัวทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่เหมือนว่าอารอนจะลืมไปไอ้ที่ยืนสำรวจตัวเองอยู่เนี่ยคนมองอยู่เพียบเลย

     

    "เฮ้ย ไอ้ร่อนทำไรว่ะ มายืนยึกยัก ก้มๆเงยๆอะไรตรงนี้" เมื่อเจอาร์มาถึงก็เอ่ยทัก เพื่อนสนิทตัวเองที่ตอนนี้ยืนก้ม ๆ เงยมองตัวเองอยู่ตรงทางเดินด้านในโรงเรียน นี่ก็ทำบ้าอะไรกลางทางคนมองก็ไม่มีจะอาย วู้!

     

    "มาแล้วหรอไอ้เจอาร์ กูดูความเรียบร้อยของตัวเองอยู่ ตั้งแต่เดินเข้ามาทำไมคนในโรงเรียนมองแปลก ๆ แถมยังซุปซิบแล้วก็หัวเราะคิก ๆ อะไรกันก็ไม่รู้ จะว่าไม่ได้รูดซิปก็ไม่ใช่" เนี่ยเท่าที่ดูก็ไม่มีลืมอะไรนะปกติดี แต่แม่งมองกันทำไมไม่เจ้าใจ

     

    "กูว่านะอาจเป็นเรื่องนี้ว่ะ" อย่าบอกนะไอ้ตัวคนที่เป็นข่าวแม่งไม่รู้เรื่องว่าเค้าซุบซิบอะไรกัน

     

    "อะไรว่ะ" อารอนมองเจอาร์อย่างสงสัย ทำไมหรอมันมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับตัวกูเองแล้วกูไม่รู้เรื่องด้วยหรอว่ะเนี่ย

     

    "นี่ไงดูซะนะ รู้สึกเหมือนเค้าจะรู้กันทั้งโรงเรียนแล้วล่ะ กูฟันธง" เจอาร์พูดพร้อมทำการควักโทรศัพท์ตัวเองจากในกระเป๋าแล้วเปิดรูปภาพที่อยู่ในเฟสบุ๊คที่พวกเด็กในโรงเรียนตั้งขึ้น พร้อมยื่นไปให้อารอนดู ดูซะเมื่อวานทำอะไรไว้จะได้รู้ตัว
     

    "เฮ้ย นี่มัน" ทันทีที่เห็นอารอนก็ต้องตกใจ เพราะรูปที่โชว์หราอยู่บนเฟสบุ๊คคือรูปที่แบคโฮจูบเค้าเมื่อวาน
     

    "เมื่อวานไงที่มึงกับไอ้แบคโฮจูบกัน"

     

    "กูรู้แล้ว กูเห็นแล้วมึงจะย้ำเพื่อ แล้วตอนนี้เค้ารู้กันทั้งโรงเรียนเลยหรอ ใครแม่งเสือกถ่ายรูปเอาไปลงว่ะ" อย่าให้รู้นะว่าใครถ่ายไปลงจะด่าแม่งให้หาทางกลับบ้านไม่ถูกเลย มันจะไม่มีปัญหาอะไรถ้าเมื่อวานโดนจูบแล้วกูไม่สลบไปเลยเนี่ย น่าอายชะมัด

     

    "ถูกต้องแล้วคร้าบคุณเพื่อน มึงเล่นจูบกันไม่แคร์สื่อกลางทางเดินเลยนี่เมื่อวาน จะมีคนเห็นแล้วถ่ายรูปเอาไปลงแม่งไม่แปลกเลย" ยังมีหน้ามาถามคนเค้าเห็นกันทั่วว่าทำอะไรกัน ต่อให้ไม่มีภาพคนก็รู้กันทั่วอยู่ดีไอ้เวร ปากคนแม่งไปไวกันจะตาย

     

    "เวรกำจริงกูแล้วงี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ย เพราะไอ้แบคโฮคนเดียวเลย"

     

    "เอาไว้ที่เดิมนั่นแหล่ะ คนเค้าลุ้นคู่มึงกันทั้งโรงเรียน กว่าจะได้กันรอไปจนจะเรียนจบอยู่ล่ะ"

     

    "ได้กันพ่องสิ มึงพูดจบยัง กูจะไปห้องล่ะอยู่ตรงนี้กูรู้สึกเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้เนี่ย มองกันอยู่ได้" ไอ้บ้านี่แค่จูบกันยังไม่ได้มีอะไรสักหน่อยนึง พูดไปเรื่อยกูเสียหายนะเนี่ย ส่วนไอ้พวกคนอื่นแม่งก็มองอยู่ได้ จากที่ปกติคนก็รู้จักกูเยอะอยู่แล้ว คราวนี้คงรู้จักกันทั้งโรงเรียนล่ะ จบกันมารู้จักเพราะเรื่องแบบนี้โธ่



    "ไอ้เชี่ยใครว่ะ ขับรถภาษาอะไรจะชนคนอยู่แล้วเนี่ย งี้ต้องมีเรื่องเถอะ" อารอนด่าไล่หลังรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่อยู่ ๆ ก็มาขับปาดหน้าเค้าไป ไม่รู้ล่ะวันนี้ต้องมีเรื่องไอ้บ้านี่ใคร ขับรถได้แย่จริง ๆ

     

    ทันที่อารอนก้าวเท้ากำลังจะเดินไปที่ตึกเรียนก็มีรถมอเตอร์ไซค์คันนึงขับปาดหน้าอารอนไปอย่างเฉียดชิว ดีที่รถคันนี้วิ่งไปได้ไวมากมายอารอนจึงหยุดได้ทัน จึงไม่ซุ่มซ่ามไปเดินชนรถเข้า? ห๊ะเดี๋ยวนะรถมันปาดหน้าถ้าคนเดินไปชนรถนี่คือซุ่มซ่าม บ้าไปแล้ว

     

    "โอ้ยไอ้เวร ไหนบอกว่าจะรีบขึ้นห้องยังจะไปมีเรื่องอีก" เจอาร์สบถออกมาทันทีที่เพื่อนรักสาวเท้าอย่างไวไปหาเจ้าของรถมอร์เตอร์ไซที่พึ่งขับปาดหน้าไปเมื่อกี้

     

    "นี่ลงมาเลยนะ ขับรถมาโรงเรียนแล้วยังไม่รู้จักระวังเกือบชนคนแล้วรู้ไหมเนี่ย แล้วว่าแต่แกเป็นใครว่ะเนี่ยเรียนมาตั้งนานยังไม่เคยเจอใครขับไอ้มอไซค์นี่มาโรงเรียนซักกะคน แต่พูดก็พูดเถอะรูปร่างแกนี่มันคุ้น ๆ อยู่นะ"  ทันทีที่ตรงมาถึงมอไซค์อารอนก็ต่อว่าพร้อมพิจารณาดูคนขับแต่รถคันนี้ทันที ไอ้รถเนี่ยไม่คุ้นเลยไม่เคยเห็น แต่ไอ้คนขับนี่แม่งโคตรคุ้นใครว่ะ

     

    "ขอโทษนะ"

     

    "แบคโฮแกเองหรอ"

     

    ทันทีที่คนขับถอดหมวกกันน็อคออกมาอารอนก็ถึงกับบางอ๋อ ไอ้ที่คุ้น ๆ นี่คือไอ้แบคโฮเองหน่ะหรอ แล้วมันไปมีไอ้มอไซค์นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่คบกันมาตั้งนานไม่เคยเห็นจะบอกกันเลย


    "กรี๊ดพี่แบคโฮ" "พี่แบคโฮโคตรเท่ห์เลยอ่ะ" "อืมใช่ ๆ" "อิจฉาพี่อารอนจังเลยเนอะ" เหล่ารุ่นพี่รุ่นน้องสาว ๆ ที่ทั้งยืนทั้งนั่งเล่นกันอยู่ในบริเวณนั่น ต่างส่งเสียงฮือฮา อื้ออึงกันทันทีที่รู้ว่าคนที่นั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์นี้คือใคร

    "แล้วทำบ้าอะไรเนี่ย มาขับรถปาดหน้าทำไม แล้วทำไมอยู่ ๆ ก็ขับมอไซค์มาเรียน แล้วมีไอ้มอไซค์ใหญ่ ๆ นี่ตั้งแต่ตอนไหนทำไมกูไม่รู้ว่ะ" แล้วไอ้ที่กรี๊ด ๆ กันนี่คือไร อิจฉากูคือไร แหมอิจฉาพี่ได้แต่ห้ามยุ่งคนนี้ของพี่บอกเลย

     

    "โอ้ยยาวชิป เอาเป็นว่าถ้ากูไม่ขับปาดหน้ามึงก็หนีกูขึ้นห้องไปก่อนดิไอ้หมี แล้วมอไซค์นี่กูมีมานานแล้วก็แล้วกัน แล้ววันนี้ก็แค่อยากพาแฟนนั่งรถไปเดทก็เลยขับมา"

     

    "ไอ้บ้าใครแฟนแก" ไอ้บ้าพูดอะไรตรงนี้เขินนะโว้ย

     

    "แล้วจะเขิลทำไมก็ไม่ได้บอกซะหน่อยว่าเป็นแก" แล้วดูมันจะเขิลบ้าอะไรเนี่ย แกล้งแม่งเลย อยากน่ารักนักหมั่นไส้

     

    "ไอ้บ้าแบคโฮ ไม่ยุ่งด้วยแล้ว ไอ้เจอาร์ไปเรียนกันเถอะ" เอ๊อไม่ใช่ก็ไม่ใช่ไอ้แบคโฮบ้า ไม่ต้องมายุ่งเลยนะ

     

    "นึกว่าลืมไปแล้วว่ามีกูอยู่ด้วยนะเนี่ย"

     

    "เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนเล่าไม่รอกันเลย" งอนอีกแล้ว คนเริ่มก่อนเมื่อกี้มันไม่ใช่ไงว่ะเนี่ย  แกล้งเล่นนิดเดียวก็งอน

     

    "ไม่ต้องตามมาเลย" อารอนหันไปพูดใส่แบคโฮที่กำลังวิ่งตามมา

     

    "อารอนอย่างอนสิ ไม่รู้รึไงว่าเวลาแกงอนมันโคตรน่ารักเลยนะ" โธ่เริ่มก่อนแท้ ๆ ดันมางอนกันได้ นี่ต้องลำบากวิ่งตามอีกอุตส่าห์ขับรถปาดหน้าให้หยุดรอกันแล้วนะ แล้วนี่อะไรเนี่ย

     

    "ไอ้บ้าแบคโฮ" ไม่ต้องมายุ่งเลย คนบ้าอะไรไม่รู้เดี๋ยวก็ทำให้โมโห เดี๋ยวก็ทำให้เขิน โอ้ยพอเป็นแฟนกันแล้วทำไมมันลำบากงี้ว่ะ




    "มาแล้วหรออารอน"

     

    "อืมใช่ ถ้ายังไม่มาคงก็คงไม่เห็นหรอกไอ้ห่า"  อารอนตอบคำถามของคนที่ถามเค้าไป ไอ้บ้านี่ถ้ายังไม่มาคงจะมายืนอยู่ตรงนี้หรอกเนอะ ถามมาได้ 
     

    "ทำไมแกทำอย่างนี้"

     

    ทันทีที่อารอนมาถึง เพื่อนคนหนึ่งในชั้นก็เอ่ยทักขึ้น พร้อมพุ่งตรงเข้ามาหาอารอนทันที

     

    "เฮ้ย! ถอยไปเลยแล้วฉันไปทำอะไรให้แก"

     

    "ทำฉันอกหักไง อะไรเผลอแปบเดียวไปจูบกับไอ้แบคโฮซะแล้ว"

     

    "นี่พวกแกก็รู้หรอ" อารอนพูดพร้อมมองไปยังเพื่อนคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ในห้องด้วยแล้วทั้งหมดก็เหมือนจะพร้อมใจกันพยักหน้าตอบรับกันเป็นเสียงเดียว
     

    "ก็ใช่สิรู้ แกทำฉันเสียใจนะ"

     

    "เล่นบ้าอะไรเนี่ย ไอ้โดยุน"

     

    โดยุนพูดพร้อมกับซบลงไปที่ไหล่ของอารอนพร้อมทำท่าว่าตนเองนั้นกำลังร้องไห้เสียใจ

     

    "ใช่เล่นอะไร เกรงใจกันบ้าง" แบคโฮที่ตามมาถึงทีหลัง พอดห็นว่าโดยุนกำลังซบไหล่แฟนตัวเองอยู่ก็เลยจัดการขู่ไปนิดหน่อย หึหึ ไอ้นี่เผลอไม่ได้ เผลอทีไรเป็นต้องมายุ่มย่ามกับอารอนทุกที ไม่ชอบบอกเลย

     

    "โหไรว่ะ แค่นี้ต้องมีแฟนมาคุม"

     

    "เออรู้แล้วก็ดี คนนี้แฟนกู" แบคโฮพูดพร้อมกับดึงร่างบาง ๆ ของอารอนเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง
     

    "แบคโฮปล่อยอายชาวบ้านเค้านี่มันห้องเรียนนะ" อารอนพยายามขยับเพื่อให้แบคโฮปล่อยตัวเค้าให้เป็นอิสระ ไอ้บ้านี่มากอดอะไรตรงนี้อายชาวบ้านเค้าเนี่ย

     

    "ไม่เห็นต้องอาย เค้ารู้กันทั้งห้อง ใช่ไหมพวกมึง" แบคโฮพูดกับอารอนที่พยายามดิ้นให้เค้าปล่อย พร้อมกับหันไปขอเสียงเชียร์จากคนอื่น ๆ ในห้องด้วย

     

    "หิ้ววววว" ทันทีที่แบคโฮเอ่ยขึ้น เสียงโห่ร้องตอบรับจากเหล่าบรรดาคนที่อยู่ในห้องก็ดังขึ้นแทบจะทันที

     

    "ไอ้พวกบ้าเงียบไปเลยนะโว้ย" ไอ้พวกบ้าเนี่ยทีเรื่องแบบนี้ลีะสามัคคีกันดีจริง ๆ ไม่มีใครคิดจะช่วยกูเล้ยย
     

    "ฮึ่ยเจ็บใจ อุตส่าห์มองมาตั้งนานโดนไอ้แบคโฮคาบไปจนได้"

     

    "เฮ้ย ๆ พวกมึงมีข่าวใหญ่ข่าวด่วนมาว่ะ"

    ในระหว่างที่คู่รักใหม่กำลังจู๋จี๋(?)ท่ามกลางสายตาเพื่อนในห้อง ก็มีเพื่อนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับความตื่นตระหนก

     

    "ข่าวห่าไรจะด่วนจะใหญ่กว่าข่าวไอ้สองตัวนี้คบกันอีกหรอว่ะ" โดยุนหันไปพูดกับเพื่อนที่พึ่งมาใหม่ ข่าวไอ้สองตัวนี่คบกันยังไม่ใหญ่พออีกหรอว่ะ ยังจะมีอะไรอีก

     

    "ก็ข่าวที่เร็นย้ายไปกลับไปต่างประเทศแล้วไง ใหญ่และด่วนพอไหมไอ้โดยุน ว่าแต่พวกมึงรู้กันยัง"

    ทันทีที่พูดจบทุกคนในห้องต่างพากันส่ายหน้า เพราะไม่มีใครในห้องรู้เรื่องนี้แม้แต่คนเดียว แม้กระทั่งอารอนก็ไม่รู้เรื่องนี้เช่นกัน

     

    "ว่าไรนะแกว่าอะไรนะ ไอ้ซึงชอล" อารอนหันไปถามซึงชอลทันทีที่ได้ยิน เป็นไปหรอที่เร็นจะไปแล้ว เมื่อวานที่มาหาก็ไม่เห็นพูดอะไรเลยนี่

     

    "ก็เนี่ย เมื่อกี้ทางบ้านเร็นพึ่งจะมายื่นจดหมายลาออกเมื่อกี้เอง"

     

    "แล้วเร็นล่ะ"
     

    "เหมือนจะไปที่สนามบินแล้วนะ"

     

    "นี่มันเรื่องจริงหรอเนี่ย งั้นตอนนี้เร็นอยู่สนามบินหรอ แบคโฮ" อารอนพูดพร้อมหันไปเรียกแบคโฮที่ยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ

     

    "อะไร ทำไม" จะเรียกทำไม จะเรียกเพื่ออะไร ทำไมรู้สึกเหมือนมีลางไม่ดีกำลังมาเยือน

     

    "พาฉันไปสนามบินทีนะ"

     

    "ทำไมต้องเป็นฉัน" อะไรอยู่จะให้พาไปสนามบินบ้าป่าวใครจะพาไปไม่มีทาง ไม่มีทางที่จะพาอารอนไปหาศัตรูของตัวเองที่สนามยินได้หรอก

     

    "ก็วันนี้แกเอารถมานี่"

     

    "ใช่ แต่จะไปทำไมเล่า" เอ้อนี่ก็รู้ว่าเค้าหลอกแล้วยังจะไปหา ให้มันไป ๆ ซะให้พ้นก็ดีอยู่แล้วนี่

     

    "พาฉันไปเถอะนะขอร้อง"

     

    "ไม่! นี่ไม่ใช่เวลาไปหาใคร นี่มันเวลาเรียน" ไม่มีทางยังไงก็ไม่พาไป จริงก็ไม่ได้อยากนั่งเรียนอะไรมากหรอก แต่จะให้พาอารอนไปหาคนคนนั้นอ่ะนะ ยอมนั่งเรียนยังดีกว่า

     

    "คังแบคโฮ จะพาไปดี ๆ ไหม"

     

    "เออก็ได้ พาไปก็ได้"

     

    อารอนพูดพร้อมกดเสียงต่ำ พร้อมกับใบหน้านิ่งที่มีสีหน้าเรียบเฉย แต่นั่นแหล่ะที่ทำให้แบคโฮยอมพาอารอนไป เพราะอาการแบบนี้น้อยครั้งที่อารอนจะเป็น และถ้าเกิดไม่ทำตามมีหวังระเบิดลูกใหญ่พร้อมพายุที่รุนแรงจากอารอนต้องมาหาแบคโฮแน่ ๆ สำหรับแบคโฮถ้าให้เจอหน้านิ่ง ๆ แบบนี้ยอมให้อารอนโกรธโวยวายแล้วไล่เตะเค้าซะยังดีกว่า


    ทำไมนะ ทำไมอยู่ ๆ เร็นถึงตัดสินใจไปแบบไม่ลากันอย่างนี้ รึว่าเมื่อนั่นเร็นตั้งใจจะมาลาเรา ความรู้สึกแปลก ๆ ตอนนั้นคืออย่างนี้เองสินะ อารอนทำไมแกโง่อย่างนี้ทำไมตอนนั้นถึงคิดไม่ได้ หวังว่าที่เร็นจะไปคราวนี้คงไม่ใช่เพราะตัวเค้าและแบคโฮหรอกนะ ไม่งั้นคงรู้สึกผิดไปตลอดแน่ ๆ





    "แบคโฮขับเร็ว ๆ หน่อยสิ" อารอนบอกแบคโฮที่ตอนนี้ขับรถได้แบบช้ามากช้าได้อีก เกิดมาก็พึ่งรู้ไอ้รถมอไซค์คันใหญ่นี่แม่งก็ขับช้าได้ด้วย = =

     

    "เนี่ยเร็วสุดล่ะเร็วกว่านี้เดี๋ยวตำรวจเรียก" พอดีเป็นคนรักษากฎหมาย ไม่อยากขับเร็วเดี๋ยวตำรวจจับ

     

    "ย๊า! นี่นะถ้าไปไม่ทันฉันจะฆ่านาย" ขับงี้เร็วสุดพ่อง คนปั่นจักรยานยังปั่นแซงนี่คือคือกวนประสาทกันใช่ไหมเนี่ย ทำเป็นมาอ้างตำรวจเดี๋ยวพ่อจับเหวี่ยงซะนี่ แต่ไม่ได้ซ้อนท้ายรถมันอยู่ เดี๋ยวตายคู่ไม่ดี

     

    "นี่ก็ไม่รู้จะไปทำไม รู้ว่าเค้าหลอกยังจะไปอีก"
     

    "เงียบไปเลย ไม่รู้อะไรอย่าพูด ขับไปเลยรถหน่ะรีบ ๆ ด้วย"

     

    "เฮ๊อะ!" อยากให้เร็วนักใช่ไหม ด้ายยยย

     

    "ว๊ากกกก เฮ้ยช้ากว่านี้ก็ได้" บอกให้ขับเร็ว แต่ไม่ใช่เร็วขนาดนี้ ฮือๆๆ อารอนกลัว

     

    "ก็บอกให้เร็วเองนะ ถ้ากลัวก็กอดแน่น ๆ"
     

    อารอนตอนนี้กอดเอวของแบคโฮไว้แน่น เพราะตอนนี้แบคโฮบิดคันเร่งสุดแรง ก็อยากให้เร็วก็เร็วให้แล้วยังจะโวยวายให้ช้าอีก วู้! ว่าแต่ขับแบบนี้ก็ฟินดีนะ ไอ้หมีกอดเอวแน่นเชียว


    "แบคโฮนี่แกแกล้งฉันใช่ไหมเนี่ย" ขับมาซะเร็วขนาดนี้นี่จงใจแกล้วกันชัดเลย

     

    "ป่าวไม่ได้แกล้ง อยากรีบไม่ใช่หรอก็รีบให้ไง" ก็ไม่ได้แกล้งยากรีบก็เลยรีบให้แค่นั้นจริง ๆ

     

    "ฝากไว้ก่อนเถอะ"

     

    ทันทีที่มาถึงอารอนก็โดดลงจากรถแบคโฮพร้อมหันไปคาดโทษอีกคนเอาไว้ ก่อนที่อารอนจะรีบวิ่งเข้าไปยังด้านใน เพื่อตามหาเร็น

     
     

    "เร็นอยู่ไหนนะ ทำไม่เจอเลยเนี่ย รึว่าจะมาไม่ทัน" อารอนวิ่งเข้ามาด้านในและพยายามตามหาเร็น แต่ก็ไม่เจอ

     

    "ก็ดีแล้วนี่กลับกันดีกว่า" แบคโฮพูดพร้อมจับมือและดึงแขนอารอนให้กลับ ก็ถ้าหาไม่เจอแสดงว่ามาไม่ทันแล้วก็กลับกันสักที แหมรู้สึกโชดดีจริง ๆ ที่มาไม่ทัน

     

    "เดี๋ยวสิ ฉันยังไม่บอกลาเร็นเลยนะ" อารอนยื้อแขนของตัวเองเอาไว้จากแรงดึงของแบคโฮ จะกลับได้ยังไงกันล่ะยังไม่ได้บอกลาเร็นเลย 
     

    "ก็แล้วจะทำไมอีกเล่า ไอ้บ้านั่นมันทำอะไรเอาไว้ก็เล่าให้ฟังแล้วไม่ใช่รึไง"

     

    "ก็ใช่ แต่นายรู้ไหมถ้าไม่มีเร็น เราก็คงยังไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกนะ"

     

    "อะไรหมายความว่าไง"

     

    "เออหน่าเดี๋ยวเล่าให้ฟัง ช่วยหาเร็นก่อนนะ"

     

    "เออ ๆ ก็ได้" ก็ได้ก็ได้อยาก้จอขนาดนั้นก็ได้ยอมช่วยหาก็ได้

     

    "อารอน"

     

    ยังไม่ทันที่อารอนกับแบคโฮจะได้ออกไปเดินตามหาเร็นอีกรอบก็มีเสียงเรียกเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลังของพวกเขา

     

    "หืม เสียงเร็นนี่"

     

    "ใช่ฉันเอง"

     

    "นายยังไม่ได้ไปหรอเนี่ย ทีแรกฉันนึกว่านายไปแล้ว คิดว่าจะมาไม่ทันซะอีก"

     

    "ยังหรอกพอดีรอดูอยู่ว่าจะมีใครมาส่งบ้างรึเปล่า แต่ตอนนี้ก็เห็นล่ะว่ามีมาตั้งคนนึง เป็นคนสำคัญซะด้วย" ประโยคแรกเร็นพูดกับอารอน แต่ประโยคที่สองเร็นเห็นคนที่ตามอารอนมาด้วยจึงพูดยั่วโมโหไป เพราะเท่าที่สังเกตุจากสีหน้าแบคโฮคงไม่ได้อยากมาส่งตัวเค้าหรอก คงจะโดนบังคับให้มารึไม่ก็ตามมาเพราะหึง

     

    "อื้ม อื้ม" นึกว่าจะไปพ้นแล้วซะอีก ดันจะมาเจอแล้วดูพูดจาวอนจริง ๆ

     

    "อะไรติดคอหรอ" อารอนหันไปพูดกับแบคโฮที่กระแอมเรียกร้องความสนใจให้ตัวเอง

     

    "อ้าววว มาด้วยหรอเนี่ย ทำไมเมื่อกี้ไม่เห็นเลยนะ"

     

    "สาบานว่าแกไม่เห็นฉันจริง ๆ" ดูมันพูดคนตัวเบ่อเริ่มบอกมองไม่เห็น มันน่าไหมเนี่ย

     

    "จำเป็นด้วยหรอ"

     

    "ไอ้.."

     

    "แบคโฮพอเลย" อารอนพูดพร้อมยกมือปรามแบคโฮที่กำลังจะพุ่งเข้าไปหาเร็น

     

    "ชิ" เพราะอารอนห้ามหรอกนะถึงยอม ไม่งั้นมันโดนแน่ ๆ

     

    อารอนห้ามทับทั้งสองคนเอาไว้ก่อนที่จะตีกันมากไปกว่านี้ ปกติก็ไม่ค่อยจะสนิทกันเท่าไหร่ ยิ่งพอมีเรื่องเห็นหน้ากันก็จะตีกันให้ได้ นี่มันนิสัยของพวกเด็ก ๆ จริง ๆ สินะเนี่ย แกล้งกันไปแกล้งกันมา เฮ้อ! ไม่ใช่ไม่รู้หรอกนะว่าเร็นเองพยายามจะแกล้งแบคโฮ แต่ก็นะอย่างแบคโฮนี่ก็หน้ายั่วโมโหอยู่หรอก ยืนทำหน้าหงิกหน้างอเป็นอะไรเลยก็ไม่รู้

     

    "เร็นทำไมจะไปแล้วไม่บอกฉันเลย"
     

    "ก็ไปลาแล้วเมื่อวานไม่ใช่หรอ ที่บ้านนาย" เร็นพูดพร้อมเน้นหนักกับคำว่าที่บ้าน เพราะอยากจะแกล้งแบคโฮที่ตอนนี้ยืนหน้ายับเป็นอะไรแล้วก็ไม่รู้

     

    "อะไรที่บ้านหรอ อารอนหมายความว่าไง" ที่บ้านอะไรยังไง หมายความว่าไงอีกแล้วไอ้บ้านี่แอบไปหาอารอนอีกแล้วหรอ

     

    "เงียบก่อน แบคโฮ" เฮ้อนี่ก็คนเค้าจะคุยกันจะมาหึงอะไรนักหนา

     

    "แต่ว่า..."  ยังไม่ทันจะได้พูดจบแบคโฮก็ได้รับสายตาอำมหิตมาจากอารอนซะก่อน เลยทำให้ต้องหยุดพูด

     

    "ก็ใช่นายไปหาฉันมาแต่นายไม่ยอมบอกนี่ว่าจะกลับไปอยู่ต่างประเทศแล้ว"

     

    "ขอโทษนะ ก็คนอกหักจะให้ทนอยู่ได้ยังไงกัน"

     

    "ที่ไปนี่เพราะฉันหรอ" พูดแบบนี้คือที่เร็นจะไปนี่คือเพราะตัวเขาหรอ
     

    "ไม่หรอก ฉันล้อเล่นฉันต้องกลับไปดูแลพ่อแม่หน่ะ"

                 เมื่อเห็นสีหน้าของอีกคน ที่ดูไม่ดีเพราะกำลังรู้สึกผิด ว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าต้องไปแล้วนั้น เร็นก็รู้สึกผิดขึ้นมาเหมือนกันที่เมื่อกี้พูดอะไรออกไปแบบนั้น 

     

    "จริง ๆ นะ ไม่ใช่เพราะฉันแน่นะ"

     

    "อืม ได้เวลาแล้วล่ะฉันต้องไปแล้ว"

     

    "โชคดีนะ"

     

    "เออไอ้แบคโฮฉันมีอะไรจะพูดกับแกนะ"

     

    "มีอะไร"

     

    "ฉันยอมให้แกแล้ว ดูแลอารอนให้ดีอย่าทำให้อารอนเสียใจ ถ้าฉันรู้ว่าเมื่อไหร่แกทำอารอนเสียใจฉันจะกลับมาแย่งอารอนไปจากแกแน่นอน"

     

    "ไม่มีทางหรอก" 
     

    "ก็ดี"
     

    "สองคนนี้นี่จะไปอยู่แล้วพูดดี ๆ กันบ้างไม่ได้รึไง เร็นก็เลิกแกล้งแบคโฮซะที"

     

    "ไม่มีทาง"
     

    "สมน้ำหน้า"

     

    "แกด้วยแบคโฮ"

     

    "อารอนอ่า"

     

    "ปัญญาอ่อน!  อารอนไปแล้วจริง ๆ นะ"

     

    "โชคดีนะ อย่าลืมกลับมาหากันบ้างนะ"

     

    "อืม ถ้ามีโอกาสจะกลับมา บาย"

     

    "บาย"

     

    "ไปแล้วนะไอ้แบคโฮ"

     

    "รีบไปเลยไปไม่ต้องกลับมาเลยยิ่งดี"

     

    "อารอน" เร็นเรียกอารอนอีกครั้ง ไล่นักใข่ไหมไอ้แบคโฮก่อนไปขออีกสักทีเถอะ หึหึ

     

    "หืม"

     

    "จุ๊บ" 
     

    ทันทีที่อารอนหันไปตามเสียงเรียกของเร็น เร็นก็จุ๊บที่แก้มของอารอนทันที โดยที่อารอนเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว แบคโฮเองก็ไม่ได้ตั้งตัวเช่นกัน

     

    "เฮ้ย! ไอ้เวร" ไอ้บ้านี่จะไปอยู่แล้วยังไม่วาย แบคโฮตั้งท่าจะไปเล่นงานมินกิแต่เหมือนจะไม่ทัน

     

    "ฮ่า ๆๆๆ ไปแล้วนะโว้ยไอ้แบคโฮ ขอบใจนะทั้งสองคนที่อุตส่าห์มาส่ง" หลังจากที่เร็นจุ๊บแก้มอารอนทิ้งระเบิดลูกใหญ่เพื่อแกล้งแบคโฮเสร็จแล้วนั้น ก็เดินจากไปทันที

     

    "ย๊านี่อารอนยอมให้มันจุ๊บแก้มได้ไง"

     

    "เอ้าก็ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย" ก็คนไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นี่นา

     

    "เรื่องที่มันบอกว่าไปหาที่บ้านมาเมื่อวานก็ยังไม่ได้เคลียเลยนะ"
     

    "ไม่มีอะไรหรอกหน่า กลับกันเถอะ"
     

    "เฮ้ยอย่างี้ดิ บอกมาว่ามันไปหาที่บ้านทำไม"

     

    "ก็คุยอะไรนิดหน่อยแล้วก็บอกลาไง พูดไปแล้วไม่ฟังบ้างเล่า"

     

    "ก็รู้แต่มีอะไรมากกว่านั้นใช่ไหม"

     

    "ไม่มี"

     

    "ไม่มีจริง ๆ หรอ"

     

    "เอ๊ะ จะอะไรนักหนาเนี่ย เมื่อก่อนไม่เห็นวุ่นวายขนาดนี้"

     

    "ก็ตอนนี้แกเป็นแฟนฉันแล้วป่ะ มีผู้ชายคนอื่นมายุ่งกับแฟนตัวเอง มาหาแฟนตัวเองถึงห้องจะนิ่งอยู่ได้หรอ"

     

    "อืมก็เป็นแฟนกันไง เป็นแฟนกันแล้วดังนั้นไม่ต้องกังวลอะไรหรอก ฉันก็มีแค่แกคนเดียวเนี่ย เข้าใจนะ เชื่อใจฉันนะ"

     

    "โอเคเชื่อก็ได้"

     

    "กลับกันได้ยัง"

     

    "ไปสิ"



    "แบคโฮจะไปไหนเนี่ยมันไม่ใช่ทางไปโรงเรียนนะ" อารอนเอ่ยถามแบคโฮ เพราะทันทีที่อารอนเห็นเส้นทางที่อีกคนกำลังมุ่งหน้าไป ก็รู้ทันทีว่าเส้นทางนี้ไม่ใช่เส้นทางสำหรับการกลับไปที่โรงเรียน

     

    "แล้วใครว่าจะพากลับโรงเรียน"

     

    "อ่าวแล้วจะพาไปไหนเนี่ย" 
     

    "เดี๋ยวก็รู้"

     

    "ถ้าพรุ่งนี้ไปเรียนแล้วโดนจารย์ด่านะ ฉันฆ่าแกแน่"

     

    "ใช่ว่ากลับไปแล้วจะไม่โดนนี่มันเกินเวลาไปนานล่ะ นั่งนิ่ง ๆ ไปเถอะหน่า อยากหลวมตัวชวนฉันออกมาเอง แล้วอีกอย่างนะพรุ่งนี้หยุด" อันนี้ช่วยไม่ได้อยากบังคับให้ออกมาเอง ทีนี้จะพาไปไหนก็ว่ากันไม่ได้แล้วนะ

     

    "ไอ้บ้านี่" โอ้ยไอ้บ้าแบคโฮ จะไม่ยอมก็ไม่ได้ เพราะนั่งซ้อนมอไซค์อยู่ ขืนโดดลงได้มีตาย ไม่รู้ว่าจะพาไปทำไม่ดีไม่ร้ายรึเปล่า อ้ายควักอารอนคิดผิดจริง ๆ ใช่ไหมที่ตกลงเป็นแฟนกับไอ้หมอนี่เนี่ย

     

    "ถึงแล้ว" แบคโฮหันไปบอกอารอนทันทีที่ขับรถมาถึงจุดหมายที่เค้าต้องการจะพาอารอนมา 
     

    "นี่มัน... พาฉันมาทำไมเนี่ย"

    อารอนมองไปตรงหน้า ก็พบว่าเป็นร้านเสื้อร้านนั้น ร้านเดียวกับที่อารอนเคยยืนมองชุด ๆ หนึ่งที่ชอบ และเป็นร้านเดียวกับที่เจอาร์เคยถาม แล้วแบคโฮบอกว่าชอบคนน่ารักที่เข้ากับชุดที่เค้าชอบ อย่าบอกนะว่าแบคโฮรู้..

     

    "จะซื้อให้"

     

    "ซื้ออะไร"

     

    "ก็ชุดนั้นไงอยากได้ไม่ใช่หรอ" แบคโฮพูดพร้อมมองไปที่ชุด ๆ หนึ่งที่โชว์อยู่หน้าร้าน

     

    "ชุด!? นายรู้หรอ" ชุดนี้ ชุดนี้จริง ๆ ด้วย แบคโฮรู้ รู้จริง ๆ ด้วย
     

    "รู้สิ ก็วันนั้นฉันเห็นนายยืนมองอยู่"
     

    "ก็แค่มอง ฉันไม่กล้าใส่หรอกมันไม่เข้ากับฉันหรอก"

     

    "เคยลองใส่แล้วรึไงถึงได้รู้ว่าไม่เข้ากับตัวเอง"

     

    "ไม่เคย แต่ว่าฉันไม่กล้าใส่หรอก"

     

    "พูดมากจัง มานี่เลย"  แบคโฮพูดพร้อมกับคว้ามือบางของอีกคนแล้วพาเดินไปที่ร้าน

     

    "ไปไหน ไม่เอา ไม่ไปนะ" อารอนส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับพยายามยื้อ แต่ก็เหมือนจะไม่เป็นผล ก็แรงแบคโฮเยอะขนาดนี้จะไปทำอะไรได้ จึงต้องจำใจเดินตามแบคโฮไป

     

    "มาเถอะหน่า วู้" นี่ก็ไม่เคยมีความมั่นใจอะไรในตัวเองเลย ถ้าไม่บังคับกันแบบนี้ก็คงไม่มีทางกล้าที่จะใส่หรอก ชอบคิดว่าตัวเองไม่น่ารัก ทั้งที่จริง ๆ แล้วตัวเองน่ารักไม่ได้แพ้ใครเลย ยังไงวันนี้อารอนก็ต้องใส่ชุดนี้ให้ได้

     

    "น้าครับผมอยากได้ชุดนั้นอ่ะ ผมจะซื้อให้แฟนผม" ทันทีที่แบคโฮเดินเข้ามาในร้าน ก็บอกพร้อมชี้ไปยังชุดที่ต้องการกับคนขายทันที

     

    "โอ้ชุดนั้นหรอ ตาถึงมากเลยนะเนี่ย แฟนเธอคนนี้หรอถ้าใส่แล้วต้องน่ารักมากแน่ ๆ เลยนะเนี่ย" คนขายก็ตอบรับเป็นอย่าง กระตือรือร้นในการขายเป็นอย่างมาก นีบจัดการเดินไปหยิบชุดที่ลูกค้าบอก มาให้แฟนของลูกค้าได้ลองทันที
     

    "นี่จ้า จะลองเลยไหม" 
     

    "ลองเลยคับ"

     

    "แบคโฮไม่เอา"

     

    "เอาไปลองเถอะนะ ใส่ให้ฉันดูหน่อยนะ"

     

    "แต่ว่า"

     

    "นะอารอนนะ"

     

    "เอาไปลองเถอะ ถ้าเธอใส่จะต้องน่ารักมากแน่ ๆ"

     

    แบคโฮพูดพร้อมทำน้ำเสียงอ้อนใส่อารอน และแม่ค้าก็รู้น่าที่เป็นอย่างดีช่วยกันพูดให้อารอนยอมลองชุดแต่โดยดี

     

    "ก็ได้คับ ผมจะลองดู" ก็เล่นพูดกันซะขนาดนี้ จะไม่ยอมเห็นทีจะไม่ได้แล้วล่ะ

     

    อารอนยอมลองชุดที่ตัวเองก็อยากได้ แต่ไม่มีความมั่นใจที่จะใส่ เพราะเสียงสนับสนุนจากเจ้าของร้านและเสียงอ้อนของแฟน?ตัวเอง

     

    "ต้องอย่างนี้สิ" ให้ทันได้อย่างนี้สิ แฟนใครเนี่ยน่ารักจริง ๆ
     

    "อารอนเสร็จรึยังเนี่ย"

     

    "เสร็จแล้ว" 
     

    "แล้วทำไมไม่ออกมาสักทีเล่า" 
     

    "ก็ไม่กล้านี่หว่า"

     

    "ออกมาเถอะ ถ้าไม่ออกจะเข้าไปลากออกมานะ"

     

    "ไม่ต้อง ไม่ต้อง ไม่ต้อง ออกเองได้"

     

    "ก็รีบออกมาสิ"

     

    "น่ารัก"

     

    หลังจากเวลาผ่านไปร่างบางที่เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องลองก็ไม่ยอมออกมาสักที ร่างสูงจึงต้องเอ่ยปากเรียก พร้อมกับบังคับให้อีกคนออกมา  ก่อนที่สองเท้าของร่างบางจะค่อย ๆ ก้าวออกมาจากห้องลองเสื้ออย่างเก้ ๆ กัง ๆ ก่อนที่จะออกมายืนอยู่ตรงหน้าของแบคโฮในที่สุด ซึ่งทันทีที่ได้เห็นคำเดียวที่แบคโฮนึกออก แล้วพูดได้อย่างไม่อายเลยคือน่ารัก เมื่ออารอนใส่ชุดนี้แล้วมันน่ารักมากจริง ๆ รวมกับท่ายืนที่ยุกยิกเขินอายของอารอนที่ไม่มั่นใจกับชุดที่ตัวเองใส่อยู่ตอนมันยิ่งทำให้ร่างบางตรงหน้าเขานั้นน่ารักไปอีกหลายเท่าเลยทีเดียว

     

    "ว่าอะไรนะ"
     

    "ก็น่ารักไง"

     

    "บ้าชมกันแบบนี้ก็เขินเป็นนะ แล้วเดี๋ยวแกก็เปลี่ยนด้วยหรอ"

     

    "ก็ใช่สิ เพราะฉันจะพานายไปเที่ยว"

     

    "ไปเที่ยว!?"
     

    "อืม ไปเที่ยว คุณน้าคับผมฝากชุดนักเรียนไว้ที่นี่ก่อนได้ไหมคับ เดี๋ยวผมจะกลับมาเอา"
     

    "ได้สิ ตามสบายเลยนะ จะไปไหนก็ไปเลย เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะแบคโฮ กลับก็มีหลานมาฝากน้าด้วยเลยแล้วกัน"

     

    "เร็วไปคับคุณน้า แค่จะเที่ยวกันเฉย ๆ คนนี้รักจริงหวังแต่งไม่มีล่วงเกินอะไรแน่นอนครับ"

     

    "จ้า ๆ ไปเถอะ"

     

    "เดี๋ยว ๆ แบคโฮที่พูดกันเนี่ยหมายความว่าไง" เอิ่มคือทำไมพูดเหมือนสนิทกันจัง แล้วอะไรคือมีหลานมาฝาก ยังมีอะไรในตัวแบคโฮที่กรูไม่รู้อีกแล้วใช่ไหม แหมตั้งแต่เปิดตัวคบกันในฐานะมากกว่าเพื่อนนี่มีเรื่องมาให้เซอร์ไพรส์เยอะจริง ๆ

     

    "ก็เนี่ยร้านน้าฉันเอง ไปกันเถอะ" พูดจบแบคโฮก็ลากอารอนออกจากร้านเลย ไม่ถงไม่ถามสุขภาพอารอนสักคำ

     

    "เอ๊ะ ๆ" โอ้ยนี่ก็ลากอยู่ได้ ห้ามก็ไม่ฟัง ตั้งแต่ตกลงคบกันนี่วันนี้โดนแบคโฮลากไปทำนู่นทำนี่กี่รอบแล้วเนี่ย ห้ามก็ไม่ฟังเอาแต่ใจชะมัด ตกลงคิดถูกรึคิดผิดที่ยอมตกลงเป็นแฟนกันเนี่ยโอ้ย แล้วเดี๋ยวนะถ้าคบกันไปนาน ๆ จะโดนลากขึ้นเตียงด้วยไหมเนี่ย เอ้ย! คิดไกลไปไหนแล้วเนี่ยกรู






    "ว้าว ที่นี่ที่ไหนอ่ะแบคโฮบ้านใครอ่ะ"

    หลังจากการเดินทางที่ยาวนาน แบคโฮก็ขับพารถพาอารอนมาหยุดมาหยุด ๆ อยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านที่หลังไม่ใหญ่ แต่ว่าตกแต่งอย่างสวยงาม แถมยังเป็นบ้านที่อยู่ติดทะเลอีกต่างหาก บ้านหลังนี้สวยมากจริง ๆ เรียกว่าเป็นบ้านในฝันของใครหลาย ๆ คนเลยล่ะ

     

    "สวยใช่ไหมล่ะ บ้านฉันเอง"
     

    "อืมสวยมากเลย ว่าแต่ไม่เคยยักจะรู้ว่านายจะรวยขนาดนี้นะ" หลังจากพิจารณาดูบ้านหลังนี้แล้ว เป็นบ้านที่หลังไม่ได้ใหญ่มากแต่การตกแต่งภายนอกนั้นดูสวยงาม แถมด้านหน้าของบ้านยังติดทะเลอีกต่างหาก ราคาคงไม่ใช่น้อยแน่ ๆ

     

    "ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องบอกใคร แล้วชอบไหม"

     

    "ชอบ ชอบมากเลยล่ะ" มันแน่อยู่แล้วที่ต้องชอบ บ้านหลังนี้มันเรียกได้ว่าเป็นบ้านในฝันของใครหลาย ๆ คน รวมถึงอารอนเองก็เช่นกัน ถ้าจะบอกว่าไม่ชอบก็คงจะแปลกไปหน่อย

     

    "ฉันดีใจนะที่แกชอบ กว่าฉันจะเจอที่นี่นะรู้ไหมว่ายากแค่ไหน"

     

    "ไม่รู้"

     

    "ก็แน่อยู่แล้วล่ะ แต่ทีหลังไม่ต้องตอบก็ได้นะ คนจะโรแมนติก" 
     

    "อ้าวหรอไม่รู้นี่"   อารอนตอบไปด้วยความที่เป็นคนซื่อ ๆ ตรง ๆ ก็ถามมาก็ต้องตอบสิ เดี๋ยวไม่ตอบก็กลัวว่าจะว่ากันอีกนี่นา

     

    "ช่างเถอะ แต่อารอน"

     

    "ขออะไรอย่างได้ไหม"

     

    "ขออะไรล่ะบอกมาก่อน" จะให้รับปากเลยทันทีนี่ไม่น่าไว้ใจ เพราะตั้งแต่ตกลงคบกันเป็นแฟนนี่รู้ลึกจะเสียรู้ตลอด ๆ ครั้งนี่ไม่ยอมแล้วบอกเลย โฮ๊ะ ๆๆๆ
     

    "ถอดแว่นหน่อยได้ไหม"

     

    "ถอดทำไมเล่า ถ้าถอดก็มองไม่เห็นสิ" จะบ้าปะเนี่ยอยู่ ๆ ก็มาบอกให้ถอดแว่น ถอดแล้วจะมองเห็นได้ไงกันเล่า

     

    "นี่ก็เรื่องมากจริง" โอเคในเมื่อเรื่องมากนักก็ถอดให้เลยแล้วกันนะ

     

    "เอ้ย เอาคืนมานะ" อารอนพยายามแย่งเอาแว่นของตัวเองที่อยู่ในมือแบคโฮกลับมา แต่ก็เหมือนจะไม่ได้เพราะความสูงที่ต่างกัน = =

     

    "ไม่ให้ ว่าแต่ทำไมพอถอดแว่นแล้วไม่เหมือนในละครเลยเนี่ย"

     

    "อะไรไม่เหมือน" อะไรคือไม่เหมือนในละคร หมายถึงอะไรเนี่ย มาแกล้งคนอื่นแล้วยังจะพูดอะไรแบบนี้อีกหรอ

     

    "ก็เวลาในละครพอนางเอกถอดแว่นแล้วน่ารักขึ้นใช่ป่ะ แต่นี่ทำไมถอดแล้วแย่กว่าเดิม"

     

    "ไอ้บ้าแบคโฮ เอาคืนมาเลยนะ" ย๊าไอ้บ้านี่ มาแกล้งคนอื่นแล้วยังจะพูดจาแบบนี้อีกมันน่าทืบจริง ๆ เลย

     

    "ไม่คืน"

     

    "ก็บอกว่าไม่น่ารักไม่ใช่รึไง"

     

    "ล้อเล่นหน่า ก็แค่อยากให้โมโหเวลาโมโหแล้วน่ารักจะตาย"  แบคโฮพูดพร้อมกับใช้สองมือหนาดึงเอวบางของอารอนเข้ามากอดไว้

     

    "ปล่อยนะ โรคจิตอ๋อชอบเวลาโมโหเนี่ย ทำไมชอบฉวยโอกาสอยู่เรื่อยเนี่ย แล้วก็เอาแว่นคืนมาได้แล้ว" 

    "ไม่คืนได้ไหม" 
     

    เอาคืนมา ฉันมองไม่เห็น

     

    ก็ถ้ามองไม่เห็นฉันจะยืนอยู่ใกล้ๆนายแบบนี้ กอดนายไว้แบบนี้ นายจะได้เห็นฉันชัด ๆ ไง

     

    เอ้ยไม่เกี่ยวกันสักหน่อย ฉันหมายความว่าฉันจะมองไม่เห็นทางอะไรอย่างงี้ไม่ได้อะไรกับนายสักหน่อยแก้มใส ๆ ของอารอนเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ เพราะความเขินจากที่อีกคนพูดมาเมื่อ บ้า แบคโฮบ้ามาพูดอะไรแบบนี้เนี่ย เขินนะ

     

    ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ถ้านายมองไม่เห็นฉันจะพานายไปเองทุกที่ที่นายต้องการ ฉันจะอยู่ข้างๆนายตลอด

     

    แบคโฮ ถ้าหากวันนึงนายเกิดทิ้งฉันไปแล้ว แล้วฉันจะเดินต่อไปยังไง ฉันจะใช้ชีวิตแบบเดิมได้ยังไง ในเมื่อนายทำให้ฉันมองไม่เห็นมันแล้วอารอนพูดพร้อมกับมองเข้าไปในดวงตาของอีกคน เพื่อถามหาคำตอบ

     

    ก็ไม่ยากนี่แกก็ไปตัดแว่นใหม่ หรือไม่ก็ซื้อคอนแทคเลนส์มาใส่สิง่ายจะตาย เห็นไหมล่ะ

     

    ไอ้แบคโฮ ไอ้บ้าแกมันมักง่ายจริงๆเลยนะ เอาแว่นฉันคืนมาเลยไอ้บ้านี่จะเอาไงแน่จะเอาบทซึ้งรึยังไง ทำไมชอบแกล้งกวนประสาทกันอยู่เรื่อยเลยเนี่ย

     

    ใจร้อนจริงๆเลยนะอารอน

     

    ปล่อยฉันเลยนะไม่ต้องมากอด

     

    อารอน

     

    อะไร

     

    ฉันหน่ะไม่มีทางทิ้งนายไปหรอกนะ ฉันจะอยู่ข้างๆนายตรงนี้ ฉันจะดูแลนายให้ดีที่สุด จะอยู่กับนายตลอดไป

     

    "สัญญา?"
     

    "ฉันสัญญา ฉันรักนายนะอารอน"  แบคโฮพูดพร้อมกับค่อยโน้มตัวลงมาหาคนที่อยู่ในอ้อมกอด

     

    "จะทำอะไร อย่านะ" อารอนร้องห้ามทันที ที่อีกคนเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้น และทันทีที่รู้สึกว่าลมหายใจของอีกคนใกล้เข้ามาจนเกือบที่สัมผัสกัน อารอนก็หลับตาปี๋ด้วยความกลัวบวกกับตื่นเต้น กับการโดนจูบบอกเลยว่าอารอนยังไม่ชินน้าาา แต่ว่า....

     

    "อ่ะอ่าวไม่ได้จะจูบหรอกหรอ" เวลาผ่านไปสักพักอารอนก็ไม่ได้รู้สึกถึงสัมผัสของคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย อารอนเลยลืมตาขึ้นมาก็พบว่าอีกคนกำลังมองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มอยู่

     

    "ฮ่าๆ ก็เห็นหลับตาปี๋คิดว่ากลัว"

     

    "อ่าวก็คนมันตื่นเต้นนี่หว่า"

     

    "งั้นถ้าสอนให้ทำบ่อย ๆ คงไม่ตื่นเต้นแล้วสินะ"

     

    "อุ๊ปส์"

     

    คราวนี้แบคโฮไม่รอให้อีกคนได้ตั้งตัว กดจูบลงไปบนฝีปากบางของอีกคน จูบที่แผ่วเบาเพื่อให้อีกคนได้ตั้งตัว ก่อนที่จะค่อยชิมความหวานจากริมฝีปากบางทีละน้อย อารอนค่อย ๆ ตอบรับกับจูบที่แบคโฮมอบให้อย่างเก้ๆ กังๆ เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ได้เป็นแบบครั้งแรก แบคโฮจึงจัดการค่อย ๆ แทรกลิ้นร้อนเข้าไปกวาดชิมความหวานจากด้านใน ลิ้นเล็กก็ตอบรับสัมผัสนั้นเช่นกัน และทั้งสองก็จ่มดิ่งอยู่ในสัมผัสของกันและกันอย่างยาวนาน ท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นของท้องฟ้าที่กำลังจะลับขอบฟ้าอันแสนสวยงามที่สามารถพาทั้งสองให้จมลึกไปในสัมผัสของกันและกันได้มากขึ้นไปอีก

     

     

    "คราวนี้ไม่สลบอีกหรอ"

     

    "จะพูดถึงทำไมเนี่ย อายนะ"

     

    "ว้ากะว่าถ้าสลบไปอีกรอบ จะพาได้พาไปนอนบนเตียงทดสอบความนุ่มซะหน่อย"

     

    "ทะลึ่ง"

     

    "คิดอะไรเนี่ย แค่จะพาไปนอนเฉย ๆ คิดอะไรทะลึ่งนะเรา"

     

    "ไอ้บ้าแบคโฮ ทำไมชอบแกล้งกันอยู่เรื่อยเลยนะ"
     

    "ถึงจะชอบแกล้ง แต่ก็รักใช่ไหม"

     

    "ก็รู้นี่" 
     

    "อีกรอบได้ม่ะ"

     

    "อืม"
     

    "ใจง่ายจริงขออีกรอบก็ให้"

     

    "ไอ้บ้าแบคโฮ งั้นก็ปล่อยเลย ไม่ต้องมายุ่งแล้ว"

     

    "โอ๋ อย่างอนดิแค่ล้อเล่นหน่า"

     

    "แล้วดูพูดดิมันน่าไหม ไม่ต้องมาจับเลยนะ"

     

    "ขอโทษนะ ๆ ดีกันนะ จุ๊บ จุ๊บ" แบคโฮพูดชอบกับจุ๊บลงไปบนแก้มใสของอีกคนในอ้อมแขน
     

    "เอ้ย ๆ พอแล้วแก้มช้ำพอดี"

     

    "ก็อยากน่ารักเองทำไมเล่า"

     

    "ก็ช่วยไม่ได้คนมันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิด" เกิดมาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้แต่ว่าวันนี้ขอสักรอบเป็นไรไป ไม่ใช่ไหมเขินนะ แต่ดขินม๊ากมากบอกเลย

     

    "ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับคนน่ารักก็ไม่รู้ด้วยแล้วนะ คืนนี้ค้างที่นี่กันเลยแล้วกัน"

     

    "ว๊าก! ปล่อยฉันลงนะ"

     

    ว่าแล้วแบคโฮก็จัดการช้อนตัวอุ้มคนตัวเล็กกว่าขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะทำการวิ่งลงทะเล

     

    "มาเล่นน้ำกันเถอะ!"

     

     

    .......อ้าว! นึกว่าจะพาเข้าบ้านซะอีก


    ถึงแม้ตอนนี้สถานะของเราสองคนก็เป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อนกันแล้ว แต่ทุกอย่างยังดำเนินไปเหมือนปกติ แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือความรู้สึกของเราที่มีเพิ่มมากขึ้นมากกว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วนี่นา ^^



     


    -จบแล้วจ้า-


    ถ้ามีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×