[Ultraman x Keroro gunso] แสงแห่งความหวังทั้งห้า อัลฟ่าสควอต - นิยาย [Ultraman x Keroro gunso] แสงแห่งความหวังทั้งห้า อัลฟ่าสควอต : Dek-D.com - Writer
×

    [Ultraman x Keroro gunso] แสงแห่งความหวังทั้งห้า อัลฟ่าสควอต

    โดย namphudit

    จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเหล่ากองร้องเคโรโระได้รับพลังจากมนุษย์ยักษ์โบราณ ที่ถูกสร้างโดยชาวเคโรนโบราณ

    ผู้เข้าชมรวม

    3,400

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    3.4K

    ความคิดเห็น


    31

    คนติดตาม


    66
    จำนวนตอน :  8 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  30 ส.ค. 64 / 01:56 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     บทนำ

     

     

    ณ ห้วงจักรวาลแห่งหนึ่ง 

     

    จักรวาลที่มีดาวเคราะห์มากมายหลายขนาดล่องลอยอยู่เต็มไปหมด ดาวเคราะห์แต่ละดวงนั้นต่างมีสิ่งมีชีวิตถือกำเนิดคือมากมาย บางดาวก็มีสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการจากแมลง บางดาวก็มีสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการมาจากงู บางดาวก็มีสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการมาจากสุนัข แต่มีอยู่บางดาวเคราะห์ที่แตกต่างออกไป ดาวดวงนั้นก็ได้ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตที่อันตรายที่สุดและเป็นภัยต่อจักรวาลที่สุด ชื่อของดาวดวงนั้นก็คือ....ดาวเคโรน

     

    ชาวดาวเคโรนนั้นได้มีการวิวัฒนาการมาจากกบ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งบกครึ่งน้ำและดูแล้วน่าจะอ่อนแอที่สุด แต่ชาวดาวเคโรนไม่ได้เป็นแบบนั้น พวกเขานั้นมีความฉลาดมากและอันตรายกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นเสียอีก และนั้นทำให้พวกเขาสามารถพัฒนาตัวเองได้เรื่อยๆ จนพวกเขาสามารถสร้างยานอวกาศที่ล้ำหน้าที่สุดออกมาได้สำเร็จ และหลังจากที่พวกเขาได้สร้างยานอวกาศนั้น พวกเขาก็ได้พัฒนายานอวกาศโดยติดตั้งยุปโทปกรณ์ที่ล้ำหน้าที่สุดไว้และทยานสู่ทะเลแห่งอวกาศ

     

    เพียงไม่นานพวกเขาก็ได้สร้างกองยานรบขึ้นมามากมายและด้วยความคึกคะนองของพวกเขานี้เอง ชาวเคโรนจึงตัดสินใจที่จะประกาศศักดาของตนออกมาว่า 'พวกจะทำการรุกรานเต็มตัว' และในไม่ช้าพวกเขาก็ได้นำกองยานรบมากมายออกโจมตีดาวเคราะห์อื่นๆ ทันที การรุกรานล่าอาณานิคมตามดาวเคราะห์ต่างๆ นั้น เป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งนัก เพราะชาวเคโรนนั้นมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด จากเครื่องบินรบก็สามารถเปลี่ยนร่างเป็นหุ่นยนต์รบติดตั้งอาวุธได้หลากหลายขึ้น จากรถถังที่ขับได้เฉพาะบนดินก็สามารถเปลี่ยนเป็นเรือดำน้ำได้ด้วยเช่นกัน ในช่วงเวลาเหล่านั้นช่างเป็นช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ยิ่งนัก

        

    จนกระทั่งวันนึง ณ ดาวอาเทเมี่ยน ดวงดาวที่อุดสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ แต่ก็ไม่วายที่จะถูกพวกเราบุกรุกราน ในขณะที่ชาวดาวเคโรนกำลังรุกรานอยู่นั้น ก็ได้มีการโต้กลับของลำแสงประหลาดที่สามารถทำลายยานรบขนาดใหญ่ได้ เพียงไม่นานก็มีร่างของมนุษยักษ์สีแดงผู้หนึ่งบินมาปรากฏตัวต่อหน้ากองยานรบอันเกรียงไกรของพวกเขาและเขาก็ได้เอ่ยนามของตัวเองออกว่า......

     

    ฉันคือนักรบจากดินแดนแห่งแสง! อุลตร้าแมนมาเอล! จงหยุดการรุกรานดาวดวงเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นข้าจะจัดการพวกแกให้หมดเดี๋ยวนี้

     

    มนุษย์ยักษ์สีแดงตนนั้นได้กล่าวออกมาอย่างไม่หวั่นเกรงต่อพวกเขาเลยแม้แต่นิด แต่มีงั้นหรือที่พวกเขาจะยอมหยุด..พวกชาวเคโรนไม่ตอบกลับและทำการเล็งปืนใหญ่ทุกกระบอกโจมตีไปที่มนุษย์ยักษ์หรืออุลตร้าแมนมาเอลทันที 

     

    ส่วนเจ้ามนุษย์ยักษ์หรืออุลตร้าแมนมาเอลได้บินหลบลำแสงจากกระบอกปืนใหญ่ที่พุ่งมาหาตนพร้อมกับยิงลำแสงโต้กลับ เขาเพียงคนเดียวก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับกองยานรบของพวกเขาจนเสียหายมากกว่าครึ่ง.....แต่ท้ายที่สุดมนุษย์ยักษ์ผู้นั้นก็ได้ถูกสังหารโดยทหารชาวเคโรนเพียงห้านายเท่านั้น

     

    หลังจากนั้นทางเบื้องบนเล็งเห็นประโยชน์ในพลังอำนาจของมนุษย์ยักษ์ผู้นั้น พวกเขาจึงได้สั่งให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ของพวกเขาสกัดพลังของมนุษย์ยักษ์ผู้นั้นออกมาเพื่อสร้างทหารและเหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ได้สกัดพลังทั้งหมดออกมาและนำเนื้อเยื่อของมนุษย์ออกมาสร้างร่างต่อสู้ โดยมีทหารห้านายที่เป็นผู้สังหารมนุษย์ผู้นั้นเป็นตัวทดลอง 

     

    จนพวกเขาได้สร้างทหารมนุษยักษ์ห้าตัวแรกออกมาโดยมี ซิกฟรีด บามอท ยามิคาเกะ เอนเวียสและซาโบลท์

     

    บามอท คือมนุษย์ยักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้มีความสามารถในการใช้อาวุธโจมตีระยะไกลได้ทุกชนิด เป็นมนุษย์ยักษ์ที่เน้นสู้ด้วยการโจมตีระยะไกลเป็นหลัก

     

    ยามิคาเกะ คือมนุษย์ยักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเน้นความสามารถในโจมตีไปที่ความรวดเร็วเป็นหลัก รวมถึงทักษะใช้ดาบนินจาในการฟาดฟันกับศัตรู และยังสามารถใช้วิชาของหน่วยแอซซาซินได้อย่างชำนาญ

     

    ซาโบลท์ คือมนุษย์ยักษ์ที่มีความสามารถรอบด้าน ทั้งความฉลาดและแข็งแกร่งที่สมดุลกันอย่างมาก แต่พลังที่แท้จริงคือการใช้คลื่นเสียงและปล่อยพลังงานสายฟ้าในการโจมตีเป็นวงกว้าง

     

    เอนเวียส คือมนุษย์ยักษ์ที่มีความแข็งแกร่งทางด้านกายภาพมากกว่ามนุษยักษ์ทั้งสี่ และยังมีความสามารถในการปล่อยพลังงานที่สะสมในร่างออกทางปากในรูปแบบลำแสงโจมตีและสามารถดัดแปลงรูปแบบการยิงลำแสงได้ตามความสามารถของผู้ใช้

     

    มนุษย์ยักคนสุดท้าย ซิกฟรีด คือมนุษย์ยักษ์ที่มีความสมดุลทางกายภาพและความเร็ว แม้พลังของเขาอาจจะด้อยกว่ายามิคาเกะกับเอนเวียส แต่ก็ทดแทนด้วยทักษะศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าและทักษะการใช้อาวุธสู้ระยะประชิด และนั้นจึงทำให้ซิกฟรีดนั้นเป็นมนุษย์ยักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม 

     

    ส่วนการเปลี่ยนร่างเป็นทหารมนุษย์ยักษ์ของทั้งห้านั้น ทางทีมหน่วยพัฒนาอาวุธได้สร้างอุปกรณ์กระตุ้นการกลายร่างเป็นมนุษย์ยักษ์ออกมาห้าอัน ส่วนแต่ละอุปกรณ์ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป

     

    หลังจากที่การสร้างมนุษย์ยักษ์เทียมทั้งห้าสำเร็จ ทางเบื้องบนของกองทัพเคโรนจึงให้พวกเขาทั้งห้าไปเป็นแนวหน้าในการรุกรานรุกรานดวงดาวต่างๆ และผลที่ออกมานั้นเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก การรุกรานโดยใช้มนุษย์ยักษ์เทียมทั้งห้าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพียงแค่คนเดียวก็สามารถทลายทัพศัตรูให้ราบคาบภายในไม่กี่อึดใจ

     

    แต่นี้มีถึงห้าคนทำให้การรุกรานนั้นเป็นเรื่องง่ายดายมาก จนกระทั่งทางเบื้องบนได้มีการออกคำสั่งให้มีการสร้างกองทหารมนุษย์ยักเทียมขึ้นมาอีกร้อยตัว แต่น่าเสียดายที่ไม่อาจทำอย่างนั้นได้เพราะการสร้างมนุษย์เทียมนั้น จำเป็นต้องสกัดพลังจากแกนพลังงานหรือสิ่งที่พวกเราเรียกคือคัลเลอร์ ไทม์เมอร์

     

    ซึ่งทางทีมวิจัยได้สกัดจากศพของอุลตร้าแมนมาเอลออกมาหมดแล้ว จากนั้นโครงการผลิตอุลตร้าแมนเทียมจึงถูกระงับไว้ชั่วคราวจนกว่าจะได้ศพของมนุษย์ยักษ์เพิ่ม และในการรุกรานครั้งล่าสุดนั้น กองทัพเคโรนได้บุกไปยังกลุ่มดาวคิเมร่า ณ ดาวที่ชื่อว่า ดาวซาราซ่า ระบบดาวที่มีแต่ทะเลทรายซะส่วนใหญ่ ในการรุกรานครั้งนี้ 

     

    กองทัพเคโรนได้พบกับมนุษย์ยักษ์สองคนมาขวาง พวกเราจึงได้ถามพวกเขาว่า 'พวกท่านทั้งสองเป็นใครกัน?' มนุษยักษ์คนแรกที่มีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉกนั้นได้กล่าวออกมาว่า ‘ข้ามาจากดาว U-40 (ยูโฟตี้) อุลตร้าแมน ไครอส’  ส่วนมนุษย์ยักษ์ร่างกายสีฟ้าแทบสีดำคนก็ได้กล่าวตอบกลับอีกคนว่า ‘ส่วนข้ามาจากดาว O-50 (โอฟิฟตี้) อุลตร้าแมน ไดมอนต์

     

    มนุษย์ยักษ์ทั้งสองนั้นเตรียมตั้งท่าจู่โจมใส่พวกเขา แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาทั้งสองจะเริ่มสู้ พวกเขาทั้งสองก็ต้องพบกับทหารที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพ เหล่ามนุษย์ยักษ์เทียมทั้งห้าหรืออัลฟ่าสควอต ทั้งห้าพุ่งเข้าโจมตีใส่ทั้งสองอย่างไม่ปราณี ไครอสและไดมอนต์ทำได้แต่ตั้งรับเท่านั้น แต่ท้ายสุดแล้วทั้งสองก็หนีไม่พ้นความตาย 

     

    ไครอสถูกบามอทยิงลำแสงจากอาวุธประจำตัวพุ่งเข้าใส่ที่ขาทั้งสอง และตามด้วยยามิคาเกะที่ทำการใช้ดาบนินจาพุ่งฟันร่างของไครอสขาดเป็นสองท่อน ส่วนไดมอนต์ก็ถูกซาโบลใช้กระแสไฟฟ้าช็อตใส่ร่างจนอ่อนแรงลงไป จากนั้นเอนเวียสได้ใช้โอกาสนี้ พุ่งหมัดต่อยใส่เข้ากลางอกใต้คัลเลอร์ไทม์เมอร์และคงทำแบบนี้ไม่ได้ หากไม่ใช่เพราะการวางแผนของซิกฟรีดที่เป็นหัวหน้า

     

    หลังจากที่ทั้งห้าได้สังหารมนุษยักษ์ทั้งสองลงแล้ว ยานเก็บกู้ซากก็ได้บินมาและทำการเก็บซากร่างของทั้งสอง และเตรียมขับยานกลับไปยังยานแม่ แต่ไม่ทันที่จะได้ไปตัวยานก็ถูกลำแสงปริศนายิงใส่จนระเบิดเป็นจุล ทำให้ทั้งกองทัพมองไปยังจุดที่ลำแสงปริศนาพุ่งมา 

     

    และแล้วพวกเขาก็ได้พบกับกองทัพมนุษย์ยักษ์ที่มีสัญลักษ์เหมือนกับอุลตร้าแมนทั้งสามที่พวกเขาได้สังหาร รวมกันราวๆ ร้อยกว่าคน ที่กำลังบินมาและมาหยุดต่อหน้าพวกเรา มนุษย์ยักษ์เหล่านี้มากจากที่เดียวกับที่อุลตร้าแมนทั้งสามมา (ในฉากนี้พวกอุลตร้าแมนจาก O-50 อาจจะมาแค่สิบหรือน้อยกว่านั้น) และครั้งนี้ก็นำมาโดยมนุษย์ยักษ์ที่เรียกตัวเองว่า เจ้าพ่ออุลตร้าและเหล่าพี่น้องอุลตร้าทั้งหก

     

    ซิกฟรีดและเหล่ามนุษยักษ์ทั้งสี่ไม่รอช้าทะยานขึ้นสู่ฟ้าและเปิดฉากสงครามกับกองทัพมนุษย์ยักษ์ทันที กองทัพชาวเคโรนเองก็ทำการระดมยิงใส่เช่นกันพร้อมกับปล่อยหุ่นรบเข้าประจัญบานเช่นกัน การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายก็ได้เปลี่ยนท้องนภาสีครามกลายเป็นสีแดงฉานทันที การรบของทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินต่อไป

     

    แต่สิ่งที่เด่นที่สุดในสงครามนี้ก็คงจะไม่พ้นการต่อสู้ของมนุษย์ยักษ์เทียมทั้งห้าตนที่กำลังไล่สังหารเหล่ามนุษย์ยักษ์ฝ่ายข้าศึกอย่างไม่ปราณี ร่างของมนุษย์ยักษ์มากมายพร้อมกับยานรบของชาวเคโรนก็ร่วงหล่นสู่พื้นทรายไม่หยุดไม่หย่อน

     

    เจ้าพ่ออุลตร้าหรืออุลตร้าแมนเคนและเหล่าหกพี่น้องอุลตร้าก็ได้ทำการพุ่งเข้าปะทะกับพวกมนุษย์ยักษ์เทียมทั้งห้าทันที ฝีมือของพวกเขาทั้งสองฝ่ายนั้นถือสูสีเป็นอย่างมาก แต่ท้ายสุดแล้วพวกเขาก็ต้องสิโรราบต่อพลังของพวกเขาทั้งห้าคน 

     

    ซิกฟรีดที่ยืนมองเจ้าพ่ออุลตร้าที่กำลังพยายามลุกขึ้นมาสู้กับเขาด้วยสายตาเย้ยหยัน เขาได้กระชากเขาของเจ้าพ่ออุลตร้า และบินขึ้นมาชูขึ้นเพื่อเตรียมปลิดชีพ เพื่อแสดงถึงชัยชนะที่กำลังจะมาถึง แต่ยังไม่ทันที่จะได้เริ่มลงมือ แขนของซิกฟรีดก็ถูกลำแสงบางอย่างตัดขาดออกไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เหล่ามนุษย์ยักษ์เทียมทั้งห้าและทหารชาวเคโรนต่างพากันตกตะลึง 

     

    ทุกคนในสนามรบทั้งหมดหันไปยังจุดที่มีลำแสงเกิดขึ้น แสงเหล่านั้นรวมตัวกันจนเกิดเป็นร่างมนุษยักษ์ตนหนึ่ง ที่น่าเกรงขามที่สุดเท่าที่พวกชาวเคโรนได้เห็น และนามของมนุษยักษ์ตนนั้นคือ ‘อุลตร้าแมนคิง’ ซิกฟรีดและมนุษย์ยักษ์เทียมทั้งสี่ ได้พุ่งเข้าโจมตีใส่มนุษย์ยักษ์ผู้นั้นด้วยความโกรธ 

     

    แต่ภายในชั่วพริบตาทั้งห้าก็ถูกสังหารลงอย่างง่ายดาย อุลตร้าแมนคิงได้ขอเปิดการเจรจาขอสงบศึกและยุติการรุกรานกับกองทัพชาวเคโรน เบื้องบนที่ได้ดูผลการรบในศึกนี้จึงเต็มใจที่จะทำข้อตกลง ทำให้กองทัพชาวเคโรนนั้นต้องยอมทยอยทัพกลัลพร้อมกับศพของเหล่าทหารที่ตายในสนามรบกลับไปยังดาวบ้านเกิด เหล่ามนุษย์ยักษ์ก็พาช่วยห่ามศพพรรคพวกของตนกลับไปยังดาวบ้านเกิดเช่นกัน

     

    ส่วนร่างของพวกซิกฟรีดนั้นได้หายไปอย่างไร่ร่องรอย ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง บางคนก็ว่าพวกเขาทั้งห้าได้สลายหายไปเพราะพลังของอุลต้าแมนคิงที่สังหาร บ้างก็ว่าพวกเขายังรอดและหนีไปอยู่ดาวเคราะห์ที่ห่างไกลเพื่อหนีความอัปยศ 

     

    แต่ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตาม มีแต่ข้าเท่านั้น.....ที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้งห้า ทำไมเหรอ?......เพราะข้าคือผู้สร้างทั้งห้าไง

     

     

                                                                                                                     บันทึกการรุกรานของชาวเคโรน 

     

                                                                                                                     ลงชื่อผู้เขียน บุรูรุ

                                                                                                                                        

                                                                                                                     หัวหน้าโครงการ อัลฟ่าสควอต

             

     

              

     

     

     

     

     

    ปี 2020

     

    “กองร้อยเคโรโระมุ่งหน้าสู่กลุ่มดาวคิเมร่าไปยังโบราณสถานแห่งดาวซาราซ่าและนำอาวุธของชาวเคโรนโบราณกลับยึดดาวเพโคปอง!

     

    “โอ้วววว!!!x6



    (อันนี้เพลงเปิดเรื่องนะครับ5555) 

     

     

     ........................................................................................................................................................................

    อะแฮ่มๆๆๆ.....กราบสวัสดีเหล่ารีดเดอร์ทุกท่าน นี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ความบ้าของไรท์ที่ก่อตัวขึ้น จนหยุดมือไม่ได้เท่านั้นเอง ไม่ต้องห่วง อีกสามเรื่องไม่ทิ้้งให้ค้างแน่นอน แต่ขอเวลาแต่งหน่อยนะ เรื่องไรท์ก็จะแต่งด้ว แต่ขอเวลาก่อนนะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันครับ และขอต้อนรับแฟนๆ อุลตร้าแมนมารับชมความบ้าของผม5555

                                                      New Generation Wallpaper for the New Year [@aZurE_PuMPKiN on ...                      
                                     x                      




                                                  My.iD ของ จอมซ่า [ V2.0 ]

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น