คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ ๑ แรกพบสบตา (๑)
ปัง!
ปัง!
เสียงอาวุธสีเงินวาวถูกลั่นไกดังสนั่นรอบๆ
อาณาเขตบริเวณเกาะบริเตนใหญ่ในอ่าวบิสเคย์ของยุโรปตะวันตก
ซึ่งเป็นดินแดนอิทธิพลของตระกูลคาร์มิโอผู้ควบคุมอำนาจมืด
แต่บัดนี้มีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยี่ยมชมและสาดกระสุนเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง
คนของทั้งสองฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บจากวิถีกระสุนที่พุ่งลงมาราวกับสายฝน
ห่างไกลจากพายุกระสุนเยื้องไปทางทิศตะวันออกเพียงเล็กน้อย
ด้านท้ายรถคลาสสิกอย่างซีตรอง ดีเอช 21 มีชายหนุ่มวัยสามสิบปีเต็ม
เจ้าของใบหน้าคมสัน รูปร่างหล่อเหลายิ่งกว่าดาราดัง
ผู้มีดวงตาสีเพอร์ริดอตคล้ายอัญมณีในท้องทะเลลึก เส้นผมนุ่มสีน้ำตาลยาวเคลียต้นคอ
จมูกโด่งได้รูป ผิวขาวเนียนยิ่งกว่าสตรี
เจ้าของรูปร่างเทพบุตรนี้สูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร น้ำหนักแปดสิบกิโลกรัม
แต่งกายด้วยสูทจิออร์จิโอ อาร์มานีสีดำสนิท ราคาเสนอตัวเลขหกหลัก
ในมือข้างขวากระชับปืนดีเสิร์ท อีเกิล[1] จุดสามห้าเจ็ด แม็กนั่ม
มือข้างซ้ายกำลังอัดนิโคตินเข้าปอดด้วยซิการ์ยี่ห้อดัง ริมฝีปากได้รูปเหยียดยิ้ม
ไม่อนาทรร้อนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยสักนิด
ไม่ไกลนักแว่วเสียงฝีเท้าของใครบางคนย่างก้าวเข้ามาด้วยความรีบร้อนและระแวงภัย
ซึ่งก็คือเจ้าของรูปร่างสูงใหญ่ ผมสั้นเกรียน ส่วนสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร
น้ำหนักแปดสิบเจ็ดกิโลกรัม ระบุตำแหน่งเป็นมือซ้ายของฟาบริช คาร์มิโอ
หนุ่มไซซ์บิ๊กคนนี้ผ่านการฝึกงานจากหน่วยเอฟบีไอของอเมริกา
ความเฉียบคมด้านการต่อสู้และเอาชีวิตรอดระดับพระกาฬ มีนามว่าจอห์น มาร์ดิ
ชายหนุ่มค่อยๆ เดินเลียบจากด้านหน้ารถ
ก้าวเท้ามาใกล้คนเป็นนายด้วยสายตากระหายการต่อสู้
“เจ้านายครับ”
พอมาประชิดตัวก็ส่งเสียงร้องเรียกก่อนจะเอ่ยต่อ
“ไอ้พวกสารเลวนั่นควรไปใช้ชีวิตในยมบาลสักที”
คนเป็นนายเลิกคิ้วขึ้นสูงพลางพยักหน้า ทำเสียงอืออาในลำคอ
ก่อนจะกวาดสายตาชะเง้อมองคนของอีกฝ่ายที่เริ่มล้มระเนระนาดเพราะเอาชีวิตไม่รอด
สายตาสีเพอร์ริดอตหันมามองหน้าจอห์นแล้วยกยิ้ม
“นายสั่งการไปแล้วนี่จอห์น ไอ้พวกนั้นกำลังถูกปิดบัญชี”
คนฟังทำหน้าเหวอคล้ายไม่อยากเชื่อก่อนจะหันมองโดยรอบ
“ผมเปล่าครับนาย”
สิ้นเสียงปฏิเสธจากจอห์น
สองหนุ่มก็หันมามองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย คนเป็นนายอมยิ้มในสีหน้า
“ฝีมือไอ้ดอม เคิร์ท” จอห์นบอกออกมาด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน
ก่อนจะพึมพำแผ่วเบาในลำคอ “ฉันไม่ปล่อยให้แกได้หน้าคนเดียวหรอกไอ้ดอม ไอ้เพื่อนยาก
กล้าลุยก่อนที่ฉันจะลงมือ ไอ้นี่มันบ้าสุดขั้วจริงๆ”
จบประโยคก็กระชับปืนในมือแน่น
พุ่งแหวกวิถีกระสุนเข้ากราดยิงศัตรูของคนเป็นนายอย่างบ้าคลั่ง
ในขณะที่หนุ่มฝรั่งเศสเจ้าของธุรกิจค้าเพชรพ่นควันสีเทาขุ่นออกจากปาก
แล้วเฝ้ามองไอ้พวกเดนมนุษย์ล้มตายอย่างไม่ยี่หระใดๆ ทั้งสิ้น ซิการ์ในมือหมดไปเกือบครึ่งถึงได้ก้าวขายาวๆ
ออกจากท้ายรถคันโปรด
พ้นออกจากมุมนั้นก็เจอเข้ากับสมุนของอีกฝ่ายที่วิ่งหนีกระเจิงมาด้วยท่าทางตื่นกลัว
ปืนในมือชี้กราดไปตรงหน้าศัตรู
ใช้สายตาเพ่งมองราวกับจะเฉือนเนื้อออกเป็นชิ้นๆ ในขณะที่อีกฝ่ายหันมาแสยะยิ้มให้
ท่าทางยียวนแต่หวาดหวั่นอยู่ในที
ปืนในมือของมันก็ชี้ตรงมุ่งเป้ามาที่ใบหน้าของชายหนุ่มเช่นกัน
ฟาบริช คาร์มิโอยกยิ้ม วางปืนในมือลงราวกับยอมแพ้
อัดซิการ์ที่เหลืออีกครึ่งเข้าปอดอย่างใจเย็น
“ทิ้งปืนแล้วมาคุยกันดีๆ หน่อยสิ”
เอ่ยออกไปแล้วรอผลตอบรับ หากฝ่ายนั้นยังคงนิ่งเงียบ
มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ฉายแววขลาดกลัว
“ฉันแค่อยากรู้ว่าใครส่งพวกนายมา ท่าทางก็แค่พวกมือสมัครเล่น
ไม่ต่างจากทหารฝึกหัดพึ่งปลดประจำการ เท่าที่ฉันประเมิน
ความรู้สึกมันบอกว่าตัวนายเองคงอยากมีชีวิตรอด”
ในขณะที่พูดออกมา ดวงตาสีเพอร์ริดอตก็จับจ้องเขม็ง
“นายมีลูกมีเมียที่ต้องดูแล ฉันพูดถูกหรือเปล่า
ฉันว่าเราน่าจะตกลงกันได้ ขอแค่บอกชื่อไอ้เดนตายที่มันสั่งการ
แล้วนายจะรอดกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวได้อย่างมีความสุข แต่ถ้าไม่!
ทางเลือกทางเดียวของนายก็คือ...ความตาย”
ปืนในมือของศัตรูค่อยๆ ลดลง ดวงตาทั้งสองข้างสั่นระริก
เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายและชวนให้เนื้อตัวเหนียวเหนอะหนะ
ริมฝีปากนั้นเม้มสนิทคล้ายเส้นตรง ก่อนจะโพล่งออกมาเสียงดัง
“ถ้าฉันบอกแก...แกสัญญาได้ไหมว่าจะคุ้มครองให้ฉันกลับบราซิลได้อย่างปลอดภัย”
“แน่นอน” ฟาบริชให้คำมั่น ชั่วอึดใจก็ได้คำตอบที่ต้องการ
“คนที่จ้างวานพวกเราคือ...ไรอัน เคจน์”
ดวงตาของประมุขแห่งยุโรปตะวันตกกร้าวขึ้นชั่วครู่
ไม่นานก็เขวี้ยงซิการ์ที่จวนจะหมดลงบนพื้น แล้วเหยียบจนจมดิน
ในขณะที่อีกฝ่ายถึงกับผงะในทีท่าที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อนจะเริ่มลนลานและหาทางหนี
ไม่ถึงหนึ่งนาทีลูกน้องนับสิบก็กรูกันเข้ามาพร้อมควบคุมตัวไอ้เดนตายที่มีโอกาสใช้ออกซิเจนในโลกยาวนานกว่าคนอื่น
ฟาบริชจ้องมองด้วยสายตาราบเรียบ
ก่อนจอห์นและดอมจะเดินมาประจำตำแหน่งขนาบข้างทั้งซ้ายและขวา
ส่งสายตาบางอย่างให้กับคนเป็นนาย
“เจ้านายจะปล่อยไอ้บ้านั่นเหรอครับ”
สิ้นเสียงกระซิบถามของดอม เจ้าพ่ออาณาจักรค้าเพชรก็พยักหน้ารับ
“ฉันเพิ่งสัญญาว่าจะส่งมันกลับบ้านอย่างปลอดภัย”
“ผมว่าเราควรส่งมันลงนรกให้ยมบาลพิพากษาไปพร้อมๆ
กับไอ้สามคนที่เราคุมตัวมันได้ ตีงูมันต้องตีให้ตาย”
สิ้นเสียงจอห์นที่ดังแทรกขึ้น
เพื่อนคู่หูอย่างดอมก็ถลึงตาใส่พร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะแอบเหน็บเพื่อนสนิท
“นายอย่าโหดนักเลยน่าไอ้บิ๊ก”
เจ้าของฉายาอย่างจอห์นตีสีหน้าเยือกเย็น ก่อนจะยกปืนในมือเล็งเป้า
ปล่อยกระสุนเจาะกลางกบาลของนักโทษทั้งสามชีวิต เมื่อใช้งานปืนคู่ใจเสร็จ
ก็เป่าเขม่าควันอย่างใจเย็น หันไปมองหน้าดอม เคิร์ทด้วยสายตาท้าทาย
“ไอ้หมอนั่น ฉันยกให้แกว่ะดอม”
มือข้างขวาของฟาบริชยกขึ้นสูงเป็นการห้ามปรามคนทั้งคู่
เพราะขืนปล่อยไว้นานกว่านี้ดอมและจอห์นคงต้องห้ำหั่นกันไม่รู้จบ
หลังจากนั้นก็กวาดสายตามองลูกน้องทุกคน แล้วออกคำสั่ง
“ปล่อยมันไป”
จบประโยคนั้นก็หมุนกายก้าวหันหลังออกจากพื้นที่เพื่อมุ่งตรงสู่รถคันโปรด
พอถึงเป้าหมายก็จัดการเปิดประตูออกกว้างก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นนั่งประจำที่
จากนั้นจึงเหยียบคันเร่งพายานพาหนะแล่นออกไป ทว่าพ้นออกมาเพียงร้อยกว่าเมตร
เสียงปืนหนึ่งนัดก็ดังสนั่น คิ้วเข้มทั้งสองข้างเลิกขึ้นสูง
สุดท้ายก็ทำได้แค่ส่ายหน้าไปมาพร้อมพึมพำแผ่วเบา
“ให้ตายสิไอ้ดอม แกไม่เคยฟังฉันเลย”
สบถด่าลูกน้องมือขวาคนสนิทแค่นั้นก็เหยียดยิ้ม เพราะรู้ดีว่าดอม
เคิร์ทเป็นคนเช่นไร หมอนี่มักเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เขาเสมอ
คงเห็นว่าผู้ชายคนนั้นสมควรตาย ถึงได้กล้าขัดคำสั่ง
นาทีนี้คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากทอดสายตามองเบื้องหลังผ่านกระจกรถและเฝ้าบอกตัวเองอย่างเงียบๆ
ว่า ไม่เคยผิดสัญญาต่อใคร!
[1] ดีเสิร์ท อีเกิล
เป็นปืนที่ถูกผลิตขึ้นในประเทศอิสราเอล โดยบริษัท I.M.I (Israle
Millitary Industries) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงทางปืนกล
สร้างตำนานปืนไปทั่วโลก แรกเริ่มผลิตขึ้นมารองรับกระสุนแม็กนั่มไว้หลายขนาด
ไม่ว่าจะเป็น .357 หรือ .41 หรือ .44
ความคิดเห็น