ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพลิงรักมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ ๑ แรกพบสบตา (๒)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 830
      5
      4 ส.ค. 59

    องชั่วโมงต่อมา รถซีตรอง ดีเอช 21 สีบลอนด์ก็ค่อยๆ ชะลอจอดหน้าประตูรั้วอัลลอยที่สูงราวสามเมตร บริเวณนั้นมีการ์ดหนุ่มสองนายก้มหัวทำความเคารพ เมื่อกดปุ่มนิรภัยเปิดประตูรั้วขนาดใหญ่ปล่อยให้รถผู้เป็นนายเข้ามา ไม่ถึงยี่สิบเมตรบอดี้การ์ดอีกสองนายก็ค้อมตัวให้ คาร์มิโอยกยิ้มให้นิดๆ จัดการเหยียบคันเร่งอย่างช้าๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่คฤหาสน์คาร์มิโอหลังโอ่อ่าที่กินอาณาเขตกว้างใหญ่ ด้านหน้านั้นตกแต่งด้วยน้ำพุรูปปั้นเจ้าหญิงของฝรั่งเศสผู้งามล้ำ รอบๆ ฐานประดับด้วยหินสีแดงซึ่งนำเข้าจากอินเดีย ปลูกแซมด้วยดอกลาเวนเดอร์ที่ให้กลิ่นหอมหวานราวกับจำแลงจากสรวงสวรรค์

    ชายหนุ่มขับรถวนรอบตัวน้ำพุ พลางเปิดกระจกรถออกเพื่อรับกลิ่นอายดอกไม้ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มารดาชื่นชอบ ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งก็ทำให้นึกถึงผู้เป็นแม่ได้เสมอ เมื่ออิ่มเอมเต็มความรู้สึกถึงได้เคลื่อนรถไปจอดสนิทบริเวณหน้าคฤหาสน์ ผลักประตูลงมาได้ก็ยื่นกุญแจให้กับการ์ดหนุ่มเพื่อนำรถไปเก็บเช่นเคย หลังจากนั้นร่างสูงใหญ่ก็ก้าวเท้าเข้ามาในตัวคฤหาสน์ราคาหลายล้านยูโรแล้วต้องผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหนักอก อาณาจักรของคาร์มิโอช่างหรูหราและงดงาม เครื่องตกแต่งประดับประดาราคาหลายล้านเหรียญแต่ไร้ซึ่งความอบอุ่น

    นั่นเพราะเด็กชายฟาบริช คาร์มิโอได้สูญเสียผู้เป็นมารดาไปตั้งแต่อายุเพียงขวบเศษ สาเหตุการตายนั้น ผู้เป็นพ่อบอกแค่เพียงมันเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่แม้แต่น้อย แม่ของชายหนุ่มถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของศัตรูคู่แข่งทางด้านธุรกิจ แต่นั่นก็ไม่สำคัญเพราะเด็กชายฟาบริช คาร์มิโอนั้นได้แก้แค้นฆ่าศัตรูด้วยสองมือคู่นี้ มือที่ต้องเปื้อนเลือดตั้งแต่อายุเพียงสิบเจ็ดปี เลือดคนแรกของไอ้เดนตายที่มันกล้าพรากผู้เป็นแม่ไป

    ขายาวๆ ก้าวเท้าตรงดิ่งไปยังห้องโถงกว้าง กวาดสายตาจ้องมองภาพถ่ายของมารดาด้วยความคิดถึง มุมปากได้รูปยิ้มน้อยๆ มือทั้งสองข้างสอดเข้ากระเป๋ากางเกง จับจ้องภาพนั้นตาแทบไม่กะพริบ มารดาของเขามีดวงตาสีฟ้าสดใส ผมของท่านยาวเคลียต้นคอ ภาพนี้ท่านสวมชุดแบรนด์ดังของฝรั่งเศส เป็นกระโปรงยาวสีชมพูหวานปักเลื่อมลายคริสตัลหรู ดูท่านอ่อนโยน นัยน์ตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความอารี ป้าเรซานเคยเล่าให้ฟังเสมอว่า มาดามคาร์มิโอท่านเปรียบเสมือนดั่งเพชรเม็ดงามที่สวยเปล่งประกายและแข็งแกร่ง

    “คุณฟาบี้”

    เสียงร้องเรียกดังอยู่เบื้องหลัง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเพดาน ควบคุมความอ่อนแอไม่ให้แสดงออก ก่อนจะเอี้ยวตัวหันกลับมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นใคร มุมปากได้รูปก็ยิ้มน้อยๆ เรซานแม่บ้านวัยห้าสิบสี่ปีซอยเท้าถี่ๆ ตรงดิ่งมาหา คุณแม่บ้านยิ้มกว้าง ท่าทีเต็มไปด้วยความรักเพราะเลี้ยงดูชายหนุ่มมาตั้งแต่เด็ก

    “มาถึงเหนื่อยๆ ทานอะไรสักหน่อยดีไหมคะ เรซานจะตั้งโต๊ะให้” ทันทีที่มาประชิดตัวก็รีบเอ่ยถาม น้ำเสียงและท่าทีเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ดวงตาผู้ชรามองร่างสูงใหญ่ของคาร์มิโอน้อยด้วยสายตาชื่นชม ในขณะที่ชายหนุ่มเลือกหมุนกายหันหลังให้ กวาดสายตาไปยังภาพมารดาอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยตอบออกมา

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่หิว ขอตัวก่อนนะครับป้าเรซาน”

    บอกแค่นั้นก็ก้าวขายาวๆ ขึ้นบันไดวน ตรงดิ่งไปยังชั้นสองของคฤหาสน์ ปล่อยให้ผู้สูงวัยลอบถอนหายใจ ทุกครั้งที่ชายหนุ่มก้าวเข้ามาในบ้าน สิ่งแรกที่ต้องทำคือจ้องมองภาพของมาดามคาร์มิโอจนคลายความคิดถึง หลังจากนั้นก็เดินตรงดิ่งขึ้นไปขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่พบเจอใครอีก ภาพแบบนี้แม่บ้านอย่างเรซานเห็นจนชินตา คนเก่าแก่ทำได้แค่มองตามไปอย่างเงียบๆ แล้วถอนหายใจทิ้งคล้ายเหนื่อยอก หลังจากนั้นก็หมุนกายกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×