ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Colorful Review รับวิจารณ์นิยายหลากแนว

    ลำดับตอนที่ #12 : SEND.093: อาถรรพ์โรงเรียนไม่มีปิดเทอม :เมรี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 106
      0
      14 ม.ค. 57

    ผู้วิจารณ์Beatrice

    ชื่อเรื่อง: My school : โรงเรียนนี้ที่ฉันตาย

    นามปากกา: เมรี

    สวัสดีค่ะคุณเมรี วันนี้บีจะมาวิจารณ์นิยายเรื่องนี้นะคะ จริงๆแล้วก่อนหน้านี้บีเคยอ่านเรื่องนี้มาแล้วแหละรู้สึกว่าจะส่งประกวดโครงการเรื่องสั้นสยองขวัญของดาร์คเวิลด์ด้วย ตอนแรกบีก็คิดไว้แล้วแหละค่ะว่าจะวิจารณ์ให้เพราะพออ่านจบก็ค่อนข้างจะจับข้อผิดพลาดที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เรื่องนี้ไม่เข้ารอบการประกวดได้ แต่พอคุณเมรีมาแจ้งว่าจะดัดแปลงเรื่องนี้เป็นเรื่องยาว บีก็ขอวิจารณ์แบบทั้งเรื่องสั้นและเรื่องยาวผสมกันแล้วกันนะคะ เพราะบีเองก็ได้อ่านแบบยาวคราวๆมาบ้างแล้ว ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัย ณ ที่นี้เลยนะคะ

    ชื่อเรื่อง (3/5)

    ขอวิจารณ์ตั้งแต่ชื่อเรื่องเก่าเลยนะคะ ชื่อเรื่องเก่าคืออาถรรพ์โรงเรียนไม่มีปิดเทอมบีเข้าใจค่ะว่าทางโครงการเขาบังคับว่าให้ใช้ชื่อเรื่องตามที่เขากำหนดหัวข้อมาให้แต่หัวข้อที่เขากำหนดมาให้กับเมนหลักในเนื้อเรื่องของคุณเมรีดันไม่ตรงกันเลยสักนิดเพราะเมนหลักของคุณเมรีคือ แดนสนธยา ที่เป็นสาเหตุหลักและทำให้เกิดอาถรรพ์โรงเรียนไม่มีปิดเทอม ถ้าจะให้เลือกระหว่างเปลี่ยนชื่อเรื่องกับเปลี่ยนเมนหลักของเรื่องแน่นอนว่าการเปลี่ยนชื่อเรื่องย่อมง่ายกว่าอยู่แล้ว ซึ่งคุณเมรีก็เปลี่ยนชื่อเรื่องเรียบร้อยเป็น My school : โรงเรียนนี้ที่ฉันตาย ถามว่ามันตรงกับเมนหลักรึยัง ตอบได้เลยว่า ดีขึ้นกว่าชื่อเรื่องที่แล้วแต่ก็ยังสื่อถึงเมนหลักได้ไม่ดี

    ถ้าคุณเมรียืนยันว่าเมนหลักของเรื่องยังเป็น แดนสนธยาเหมือนเดิม บีก็จะชี้แจงเพิ่มเติมให้ว่าทำไม My school : โรงเรียนนี้ที่ฉันตาย ยังสื่อถึงเมนหลักได้ไม่ดีเพราะว่า คำว่า School กับ โรงเรียน มันยังเป็นคำที่ไม่เฉพาะเจาะจงพอ พูดง่ายๆคือยังเป็นคำที่มีความหมายกว้างเกินไป คำว่าโรงเรียนเฉยๆอาจจะหมายถึง ส่วนไหนของโรงเรียนก็ได้แต่ทว่าเหตุน่ะมันเกิดขึ้นที่ตรงดาดฟ้าโรงเรียนไม่ใช่หรอ แดนสนธยาที่เป็นเมนหลักของเรื่องน่ะมันเกิดที่ดาดาฟ้าไม่ใช่หรอ บีถึงได้บอกไงคำว่าโรงเรียนมันยังค่อนข้างกว้างเกินไป ถ้าให้แนะนำบีว่าน่าจะเปลี่ยนเป็นอะไรที่เจาะจงกว่านี้ เช่น ณ ตรงนี้ที่...ฉันตาย ทำไมถึงใช้คำว่า ณ เพราะบีคิดว่ามันเป็นการเจาะจงว่า เนี่ย ตรงนี้นะ ที่ๆฉันตายน่ะมันมีบางอย่าง(ซึ่งก็คือแดนสนธยาที่เป็นเมนหลัก)อยู่

    ความสวยงาม+หน้าบทความ (8.5/10)

    ความสวยงามนั้นเอาไปเต็มเลยค่ะ สำหรับบีแค่มีธีมก็โอแล้วแหละ(ฮา) แต่หน้าบทความนั้นอยากให้มีคำโปรยบ้าง ไม่ใช่บอกแต่แดนสนธยาซึ่งเป็นกุญแจที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดขึ้น(จริงๆแล้วถ้าไม่จำเป็น ไม่อยากให้ใส่กุญแจเข้าไปในคำโปรยนะคะ มันเหมือนเฉลยให้รีดเดอร์รู้เลย อยากให้ใส่สิ่งที่บ่งบอกถึงกุญแจมากกว่า) ถ้าเป็นนิยายรักแค่ใส่คำพูดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องไปนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้วล่ะ แต่นี่เป็นนิยายสยองขวัญค่ะ ฉะนั้นบีเลยแนะนำให้ใส่คำโปรยไปบ้าง เพื่อให้รีดเดอร์ที่เข้ามาอ่านดูและพิจารณาว่า นี่เป็นแนวที่เขาชอบมั้ย? เนื้อเรื่องมันน่าสนใจสำหรับเขามั้ยนะ? ถ้าใช่เขาก็จะเลื่อนลงมาอ่านเองค่ะ

    พล็อตเรื่อง (5/10)

    พล็อตหรอ...พอดีว่าบีไม่ใช่FCนิยายแนวสยองขวัญอ่ะ แต่ก็รู้จักนะพวก ภาคินัย ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่าบีจะตัดสินว่าพล็อตเรื่องนี้ไม่ตลาดมากแต่ก็ค่อนข้างมีคนแต่งแนวนี้พอสมควรแล้วกัน แบบเกี่ยวกับการแก้แค้นของผีอะไรแบบนี้ ส่วนเรื่องการวางพล็อตนั้น บีขอคอมเม้นแต่เรื่องสั้นนะเพราะแบบเรื่องสั้นบีอ่านจบแล้ว ส่วนเรื่องยาวก็คงยังอีกยาวตามชื่อ แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะจบโดยเร็วเลยยังไม่กล้าตัดสิน ฉะนั้นจะขอพูดแค่เรื่องสั้นก่อนนะคะ

    -ว่าด้วยการวางพล็อต พล็อตของคุณเมรีค่อนข้างว่ามาได้ดีในส่วนของปมค่ะ(แต่ก็ยังมีตินิดๆ อ่านคำติของปมได้ในส่วนของเนื้อเรื่องนะคะ)แต่ที่จะพูดถึงคือการจัดวางและการเปิด-ปิดเผยของผมนะคะ ในส่วนของเรื่องสั้นนั้น บีคิดว่าคุณเมรีต้องการที่จะปิดเรื่องเกินไปในช่วงแรกๆ ปิดแบบปิดเลย ไม่เขียนให้รีดเดอร์คิดตามหรือมีข้อสงสัยใดๆเพื่อความน่าติดตามเอาสะเลย อีกทั้งยังมีการเขียนตรง แดนสนธยาเป็นคำโปรยอีก มันเหมือนเป็นการยื่นกุญแจให้รีดเดอร์ตั้งแต่หน้าประตูแล้วยังไงยังงั้นเลยล่ะค่ะ อาจเป็นเพราะแบบนี้เนื้อเรื่องของคุณเมรีเลยออกมาเป็นทำนองว่าเป็นทางผ่านที่จะเฉลยอย่างเดียวว่าแดนสนธยาจริงๆแล้วมันคืออะไร ไม่ได้มีส่วนน่าติดตามอย่างอื่นเลย เช่น พวกความลับของผีดวงพลอย หรือ เกิดอะไรขึ้นกับบรรจงเลย พูดง่ายๆคือตัวพล็อตและปมของเรื่อง มีเยอะ วางไว้เยอะแต่แค่ยังจัดลำดับและวิธีการเขียนให้น่าสนใจไม่ถูกเท่านั้นเอง

    -ส่วนการเชื่อมไปจุดไคลม์แมกซ์ จุดไคลน์แมกซ์ในที่นี้บีของตีความว่าเป็นตอนที่ ทุกอย่างคเลียร์หมดแล้วนะคะ พูดง่ายๆคือตอนเฉลยปมนั่นเอง บีบอกแล้วว่าพล็อตของคุณเมรีออกแนวว่า จะปิดก็ปิดเลยทิ้งท้ายให้น่าสงสัยอย่างเดียว(แต่มันก็ไม่สงสัยเท่าที่ควร เพราะเราดันไปยื่นกุญแจปริศนาให้รีดเดอร์แล้ว พูดง่ายๆคือบีว่ารีดเดอร์น่าจะจับจุดได้ตั้งแต่อ่านคำโปรยแล้วแหละว่าเมนหลักมันคือแดนสนธยา) ส่วนจะเปิดก็เปิดเลยนั้นบีหมายถึงตอน เฉลยปม ของเรื่องน่ะค่ะ คือตอนนั้นเป็นอะไรที่อ่านแล้วเคลียร์หมดจริงๆ ฉะนั้นบีเลยไม่เข้าใจว่าจะนั่งอ่านไปตอนก่อนหน้าทั้งหมดนั่นให้เมื่อยตุ้มทำไม สู้อ่านตอนเฉลยปมอย่างเดียวไม่ดีกว่าหรอ เพราะมันเปิดหมดจริงๆ ฉะนั้นการเชื่อมไปยังจุดไคลม์แมกซ์ของคุณเมรีซึ่งก็คือตอน เฉลยปม ก็ยังทำได้ไม่มีเท่าที่ควรนะคะ จุดนี้หัก 3 คะแนนค่ะ สำคัญมากสำหรับจุดไคลน์แมกซ์

    การดำเนินเรื่อง+เนื้อเรื่อง (5/10)

    การดำเนินเรื่องในเรื่องสั้นต้องขอชมเลยว่าค่อนข้างดำเนินเรื่องได้ดี ไม่ช้าและไม่เร็วจนเกินไป การตัดฉากก็ทำออกมาได้โอเค ไม่ดูว่าตัดห้วนๆหรืออยู่ๆก็ตัดไปแบบทื่อๆ และคุณเมรีก็ยังรักษาการดำเนินเรื่องที่ดีแบบนี้ต่อไปในเรื่องยาว ถือว่าโอเคเลยค่ะในส่วนนี้

    -ส่วนเนื้อเรื่องขอเน้นตรงปมเป็นส่วนใหญ่แล้วกันเนอะ เอาเป็นว่าขอพูในการวางปมในเรื่องหน่อยแล้วกัน การวางปมของคุณเมรี จริงอยู่ที่ว่ามีการเขียนแล้วให้ย้อนกลับไปเพื่อให้รีดเดอร์ได้งงกันเล่นๆหรือการเข้าไปในความฝันหรือนิมิตของตัวเอก แบบนี้ถือว่าเป็นสีสันอย่างหนึ่งของเนื้อเรื่องก็จริงแต่ว่า...การเขียนแบบนี้ก็มีจุดที่ค่อนข้างยากคือต้องเขียนให้รีดเดอร์ไม่งง ซึ่งคุณเมรีก็ทำให้บีงงแล้วต้องกลับไปอ่านหลายๆรอบในบางตอน ยกตัวอย่างเช่น ตอนบทนำน่ะค่ะ บทนำเกี่ยวกับที่อาแทนตายใช่มั้ยแต่พอมาบทที่1 อาแทนโพล่มาได้ไง อันนี้คือยังเล่นปมได้ไม่เนียนนะคะ ต้องกลับไปอ่านซ้ำหลายรอบแหนะกว่าจะเข้าใจ เป็นต้น

    -แล้วก็ความสมเหตุสมผล ความสมเหตุสมผลของเรื่องนี้มีแต่...ความเห็นของบีคือ มันค่อนข้างที่จะ จะว่ายังไงดีล่ะ บีค่อนข้างที่จะไม่เห็นด้วยในระดับหนึ่งนะ อันนี้บีพูดในฐานะที่เคยอ่านเรื่องนี้จบแล้วรู้ปมหมดแล้วนะแต่บีก็ไม่รู้ว่าคุณเมรีจะเปลี่ยนปมหรือเปล่าในเรื่องยาว คือผีดวงพลอยอ่ะ เธอรักโรงเรียนถูกมั้ยเพราะเธออยู่บ้านแล้วรู้สึกว่าแบบไม่ดี(จำได้ว่ามีเรื่องกับครอบครัวสักอย่าง) ฉะนั้นเธอก็ต้องชอบครูที่ดีมีเหตุผลแบบจอมขวัญสิ บีเข้าใจนะว่าพ่อของขวัญเคยทำมิดีมิร้ายดวงพลอยแต่ถ้าขวัญเป็นคนดี ชอบความเป็นครู รักเด็ก มีเมตตาจริงๆ มันไม่ถือว่าเป็นการเจ๊ากันหรอ ถ้าดวงพลอยรักโรงเรียนจริงๆเธอต้องปล่อยให้โรงเรียนมีครูดีๆกับเขาบ้างสิ บีรู้ค่ะว่าเรื่องผีส่วนใหญ่มักจะเริ่มด้วยการแค้นหรือกรรมตามสนองแต่อันนี้พ่อเป็นคนทำผิด ดันมาลงกับลูกแทน แถมลูกดันเป็นคนดีซะด้วยนะ ถ้าจะแก้แค้นจริงทำไมไม่แก้ที่ตัวคนทำไปเลยอ่ะแบบนี้มันเหมือนแก้แค้นผิดคน

    การบรรยาย (6/10)

    -ก่อนที่จะติเรื่องการบรรยาย บีขอติเรื่องการจัดหน้ากระดาษเป็นอันดับแรกเลยนะคะ การจัดหน้ากระดาษถือว่าเป็นอะไรที่สำคัญมากๆในระดับหนึ่งและเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามด้วยเพราะการจัดหน้ากระดาษเป็นการจัดบทบรรยายและบทพูดของนิยายให้เรียบร้อย ดูเป็นระเบียบ อ่านแล้วไม่ปวดตาหรือปวดหัว มันส่งผลดีทั้งต่อสายตาของรีดเดอร์ ตัวรีดเดอร์เองและไรท์เตอร์ด้วยนะคะ เพราะหากคุณเมรีไม่จัดหน้ากระดาษให้เรียบร้อย รีดเดอร์ที่อ่านอยู่เขาก็อาจจะปวดตาหรือรู้สึกงงๆกับบทพูดและบทบรรยายซึ่งสองเหตุผลนี้จะทำให้รีดเดอร์เลิกอ่านนิยายของคุณเมรีไปโดยปริยายค่ะ การจัดหน้ากระดาษที่บีจะแนะนำคุณเมรีคือการเว้นบรรทัดและการจัดย่อหน้าให้เรียบร้อยนะคะ โดยเฉพาะบทสนทนา บีจะยกตัวอย่างเลยนะคะ เช่น การจัดหน้ากระดาษของคุณเมรีเป็นแบบนี้ค่ะ

    บทสนทนา1”

    บทบรรยายของบทสนทนา1

    บทสนทนา2

    บทบรรยายของบทสนทนา2

    บทบรรยาย1

    ซึ่งแบบนี้เวลาอ่านผ่านจอคอมมันเป็นอะไรที่ปวดหัวและงงมากเพราะมันติดกันเป็นพรืดค่ะ ควรจัดใหม่แบบนี้นะคะ

    บทสนทนา1” บทบรรยายของบทสนทนา1

    บทสนทนา2 บทบรรยายของบทสนทนา2

    บทบรรยาย1

    ในส่วนนี้คุณเมรีมองข้ามความสำคัญของการจัดหน้าบทความฉะนั้นบีจะขออนุญาตหัก 2.5 คะแนนค่ะ

    -เอาล่ะค่ะ ส่วนการบรรยายนั้นคุณเมรีเองก็ทำได้ค่อนข้างดีในระดับหนึ่งแล้ว มีก็แต่บางประโยคที่ดูแล้วค่อนข้างที่จะไม่สมบูรณ์สักเท่าไร พูดง่ายๆคือยังห้วนอยู่ ยกตัวอย่างเช่น

    บทพูดของเด็กชายเด็กชายคนนั้นหอบหิ้ว...

    ประโยคนี้บีว่าน่าจะเติมคำว่า พูดจบลงสักนิดนะคะ แล้วก็ใช้คำว่า ก็ในการเชื่อมประโยค มันจะได้ดูไม่ห้วนๆ ก็จะกลายเป็น

    บทพูดของเด็กชายพูดจบเด็กชายคนนั้นก็หอบหิ้ว... เป็นต้นค่ะ จุดนี้บีขอหัก 1.5 คะแนนนะคะ

    ตัวละคร (5.5/10)

    ตัวละครยังไม่สมบูรณ์แบบมากค่ะ คนที่มองเห็นลักษณะนิสัยได้ชัดที่สุดแน่นอนว่าคือจอมขวัญแต่บีไม่ได้มองเห็นจอมขวัญได้ชัดเจนเพราะคุณเมรีสร้างให้เธอมีเอกลักษณ์หรอกนะคะแต่บีเห็นชัดเพราะว่าคุณเมรีย้ำบ่อยต่างหากว่าจอมขวัญเป็นคนมีลักษณะ นิสัยยังไง ซึ่งถามว่าแบบนี้ดีมั้ย? สำหรับบี บีบอกเลยค่ะว่ายังไม่ดีพอเพราะการที่เราจะสร้างตัวละครให้รีดเดอร์สัมผัสถึงหรือเข้าถึงพวกเขาได้ต้องสร้างด้วยการถ่ายทอดออกมาทางคำพูด ความคิดและการกระทำของตัวละคร ไม่ใช่ด้วยการที่ให้ไรท์เตอร์มานั่งบรรยายว่าเธอเป็นคนดีนะ ถามว่าบอกได้มั้ยว่าเธอเป็นคนดี บอกน่ะ บอกได้ค่ะแต่อย่าย้ำมาก ไม่อย่างนั้นตัวละครจะถูกเอ่อ...จะว่ายังดีล่ะ คือถ้าคนดีเกินไป ตัวละครจะถูกรีดเดอร์หมั่นไส้ได้ง่ายและทำให้ไม่เป็นที่จดจำ แล้วก็อย่างที่บอกไปค่ะ ถ้าเราถ่ายทอดโดยการให้ไรท์เตอร์มานั่งบรรยายรีดเดอร์จะเข้าถึงได้ยากกว่าการที่เราเขียนให้รีดเดอร์อ่านและให้พวกเขาเป็นคนตัดสินเอง ส่วนตัวละครอื่นๆคุณเมรียังไม่สามารสร้างเอกลักษณ์ให้เขาได้นะคะ ยังมองเห็นไม่ชัดเท่าไร เอกลักษณ์สำคัญมากค่ะฉะนั้นขออนุญาตหัก 2 คะแนนนะคะ

    -อีกจุดหนึ่งคือตัวละครของคุณเมรียังไม่มีมิตินะคะ ตัวละครยังไม่มีมิติคือ คุณเมรียังเขียนให้เห็นพวกเขาได้แค่ด้านเดียวค่ะคือ เขียนให้เห็นแต่ด้านดีของพวกเขา ซึ่งสำหรับบี นิยายสยองขวัญสมควรอย่างยิ่งค่ะที่จะต้องให้ตัวละครในนิยายของเรามีความคิดและนิสัยหลายแง่หลายมุม ชั่วบ้าง ดีบ้าง ใส่มุมมองของมนุษย์ธรรมดาเข้าไปเยอะๆค่ะ ยกตัวอย่างเช่น จอมขวัญ(ก็นางเป็นตัวเอกนิ) เท่าที่บีอ่านและสังเกตเธอมีแต่ด้านดีอย่างเดียว จิตใจดีมีเมตตา ซึ่งถามว่าครูจริงๆแบบนี้น่ะมีมั้ย ตอบได้เต็มปากเลยว่า ไม่ บีเข้าใจค่ะว่าคุณเมรีสร้างเธอให้เป็นคุณสาวสุดสวย รวยเพอร์เฟ็กต์แบบนี้เพราะเป็นครูที่หากยากในปัจจุบันและอยากให้เป็นเหตุผลที่เธอมีเด็กๆรักแต่อย่าลืมค่ะ นี่ไม่ใช่นิยายรัก มันเป็นนิยายแนวสยองขวัญที่บีอ่านแล้วพอจับใจความได้ว่าแอบจะมีเรื่องการแก้แค้นแทรกมาด้วย ฉะนั้นสำหรับนิยายสยองขวัญคุณเมรียังตีโจทย์ไม่แตกสำหรับเรื่องตัวละครนะคะ ยิ่งเป็นเรื่องยาวแล้ว ยิ่งต้องแทรกลักษณะ มุมมองและนิสัยหลายแง่ของตัวละครเข้าไป ค่อยเผยให้รีดเดอร์เห็นแต่ละด้านของตัวละครนั้นๆค่ะ อย่าเผยอออกมาทีเดียวนะคะเดี๋ยวมันจะไม่เซอร์ไพรซ์ ในจุดนี้จะหัก 2.5 คะแนนนะคะ

    อ่อใช่ บีนึกขึ้นมาได้ ถ้าถามว่า แล้วที่พ่อของนางเอกนั่นมีความหลังที่ร้ายกาจนั่นไม่ใช่อีกแง่ของตัวละครหรอ? สำหรับเรื่องสั้น บีว่ามันเป็นความหลังมากกว่านิสัยอีกมุมของตัวละครนะเพราะในเรื่องสั้นบีจำได้ว่าคุณเมรีไม่ได้กล่าวถึงพ่อนางเอกเลย แต่ถ้าเป็นเรื่องยาว เอาเข้าจริงก็ใช่ค่ะ แต่มีข้อแม้ว่าแรกๆ คุณเมรีต้องเขียนให้พ่อนางเอกมีนิสัยแบบ เป็นคนดีแต่เจ้าชู้ หรือจะเป็นพวกที่ชอบช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกข่มขื่น(เพราะตัวเคยไปทำเขาไว้สุดท้ายสำนึกได้)บลาๆๆอะไรก็ว่าไปนะคะ เพราะเมื่อย้อนความหลังนางเอกจะได้รู้ว่าทำไมพ่อของเธอถึงมีนิสัยแบบนี้ ลองเอาคำแนะนำบีไปปรับใช้แล้วกัน

    บทสนทนา (9/10)

    อันนี้ไม่มีอะไรค่ะ เขียนได้เหมาะกับตัวละครดี ลื่นไหลแต่ก็มีบางประโยคที่ไม่ลื่นไหลนะ อย่างประโยคที่คุณเมรีเหมือนจะเน้นภาษาสวยมากไปหน่อยจนเขียนจากภาษาพูดเป็นภาษาเขียน เลยทำให้อ่านแล้วดูไม่ลื่นไหลบ้างเล็กน้อย ดูตัวอย่างได้ในการใช้ภาษานะคะ

    การใช้ภาษา (8/10)

    การใช้ภาษาใช่ได้ค่ะ ไม่มีวิบัติ ไม่มีคำผิดแต่ก็ยังมีบางคำที่อ่านแล้วไม่เหมาะสมทำให้ไม่รู้สึกลื่นไหล ทั้งยังติดขัดอีกด้วย เช่น(ตัวอย่างอันนี้แหละที่บีบอก) ศพถูกของแข็งทุบทั้งร่าง ประโยคนี้เป็นประโยคพูดค่ะ ดังนั้นเราจึงต้องแยกภาษาที่คนพูดและภาษาเขียนบรรยายให้ออก ลองคิดถึงเหตุการณ์จริง ถ้าคนที่เขากำลังตกใจเพราะเพื่อนตายสภาพน่าเวทนาแบบนี้คงไม่มัวมาพูดภาษาสละสลวยแบบนี้หรอกค่ะ แถมยังบรรยายซะละเอียดยิบ เอ่อ...บีว่ามันเป็นการตอกย้ำตัวเองนะนั้น แล้วก็มีการใช้คำซ้ำเยอะอยู่ เช่น ดูแล้วน่าจะเป็นครูที่หน้าเด็กแถมน่ารักที่สุด  บีว่าน่าจะแก้เป็น ดูแล้วน่าจะเป็นครูหน้าเด็กแถมน่ารักที่สุดในโรงเรียน ลบที่ออกไปตัวหนึ่งความหมายก็ยังไม่เปลี่ยนค่ะ แถมยังอ่านแล้วไม่ติดขัดด้วย

    ความน่าติดตาม (7/10)

    อาจจะเป็นเพราะเหตุผลที่บีบอกไปในส่วนของพล็อตนั่นแหละค่ะที่ทำให้ความน่าติดตามน้อย ขออธิบายอีกรอบแล้วกันคือ พล็อตของคุณเมรีเนี่ยเป็นทำนองว่า จะปิดก็ปิดซะมิดเวลาจะเปิดทีก็เปิดแบบเปิดเลยยยย ซึ่งอย่างที่บีบอกไปการดำเนินเรื่องแบบนี้มันทำให้ ตอนก่อนหน้าตอนเฉลยปมหรือเนื้อเรื่องก่อนหน้าจุดไคลน์แม็กซ์เป็นแค่เส้นทางที่จะไปสู่การเฉลยปมเท่านั้น ไม่ได้สร้างสีสันให้แก่เรื่องเลย พูดง่ายๆคือข้ามก็ได้ค่ะ จะอ่านแค่ตอนแรกแล้วไปอ่านอีกทีตอนเฉลยปมเลยก็ยังไม่สายแถมรู้เรื่องอีก ซึ่งจริงๆแล้วการทำแบบนี้นอกจากมันจะดูเป็นเส้นตรง(คือดูง่ายๆ)ไปอีกทั้งมันยังสามารถสร้างความน่าเบื่อให้รีดเดอร์ได้อีกนะคะ เพราะจริงๆแล้วถ้าเราต้องการจะสร้างให้ปมดูมีอะไรๆและน่าติดตามมากขึ้น เราก็ควรปิดบ้าง เปิดบ้าง เฉลยนิด ปิดหน่อย พูดง่ายๆคือสร้างให้เนื้อเรื่องให้ดูมีสีสันและมิติทำให้รีดเดอร์ได้คิดตามและอยากเปิดหน้าต่อไปอ่านค่ะ จริงๆแล้วมันทำได้หลายวิธีนะแต่วิธีนี้มันง่ายที่สุดสำหรับบีแล้วแหละ ฮ่าๆ

    ความประทับใจโดยรวม (10/15)

    นี่คือภาพรวมของเรื่องนี้นะคะ ไม่ใช่ความเห็นส่วนตัวแต่อย่างใด โอเคค่ะ สรุปรวบยอดให้นะคะ ส่วนที่บีคิดว่าแย่ที่สุดคือการจัดหน้าบทความค่ะ อันนี้จริงใจและจริงจังนะ แบบไม่ไหวจริงๆ บีอยากให้ลองศึกษาการจัดหน้าบทความในเด็กดีแล้วนำมาจัดใหม่เพื่อให้รีดเดอร์อ่านง่ายกว่านี้ รองลงมาคือพล็อตค่ะ อย่างที่บอกว่ายังวางปมไม่ค่อยดีแล้วก็เชื่อมไปจุดไคลม์แมกซ์ง่ายเกินไปทำไม่ให้มีความน่าติดตาม ต่อมาคือส่วนเนื้อเรื่องค่ะ...ความสมเหตุสมผลก็อย่างที่บอกไปนะแต่นั่นมันก็ความเห็นส่วนตัวบีอีกแหละ ตัวไรท์เตอร์เองจะเก็บไว้พิจารณาหรือไม่แล้วแต่เธอแล้วนะ ส่วนบทสนทนากับการบรรยายไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไรนะคะมีนิดๆหน่อยๆอย่างที่แจ้งไป จะมีปัญหาอีกทีตรงคาร์แร็ตเตอร์ อย่างที่บอกมันไม่ค่อยมีมิติเท่าไรแต่อันนี้ปัญหาเล็กค่ะ เขียนให้คนเลวน่ะไม่ยากหรอก *หัวเราะ*

    คะแนนรวม (68/100)

    อุ๊ย! เกือบเลข 7 แล้ว วิจารณ์กับบีต้องทำใจค่ะ กดคะแนนแต่ก็วิจารณ์ตามเนื้อผ้าที่ได้อ่านและเห็นนะคะ ไม่แน่ใจว่าครั้งนี้บีวิจารณ์ออกมาได้ดีหรือเปล่าเพราะนี่เพิ่งกลับมาจากขุมนรกการบ้านและอ่านหนังสือค่ะ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยอีกรอบนะคะ สู้ๆค่ะ บ๊ายบาย

    ส่งท้าย ขอบคุณที่มาใช้บริการนะ^^ ไม่พอใจก็บอกได้  ถ้าพอใจไว้มาใหม่นะคะ โชคดีค่ะ เขียนให้จบล่ะ!!! 

     **นี่เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลนะคะ บีได้ให้คำแนะนำไปแล้วว่าควรแก้ไขตรงไหนถ้าจะเลือกปฏิบัติตามหรือไม่ก็แล้วแต่จะเลือกนะ แต่ขอให้เอาเก็บไปพิจารณาด้วย นักวิจารณ์เหนื่อยอ่อ...ถ้าไม่พอใจตรงไหนก็ขออภัยนะคะ ขอบคุณ 
     

    เซ็นรับทางนี้เลยขอรับ

     

    นามปากกา:
    ชื่อบทความ:
    มาเซ็นรับวันไหนเอ่ย:
    พอใจกับคำวิจารณ์มากน้อยแค่ไหน:
    บรรยายมาเลยจ้าร้านนี้หรือนักวิจารณ์เป็นยังไง:
    ช่วยแปะแบนเนอร์ของทางร้านด้วยนะจ๊ะ :
    ถ้าพอใจไว้มาอีกนะคะ ขอบคุณจ้าา:

    THE★FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×