[saint seiya ] The Story Of Siberia
ชีวิตเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ณ แดนไซบีเรียตะวันออก เมื่อคามิวเกิดไม่สบายขึ้นมา เฮียวกะและไอแซคต้องคอยเฝ้าไข้อาจารย์สุดรัก และต้องเจอกับฝูงหมาป่าตอนไปเอายาในตัวเมือง เพื่อช่วยอาจารย์ที่อาการทรุดหนัก
ผู้เข้าชมรวม
1,676
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ในเช้าวันหนึ่งที่สดใส ไซบีเรียตะวันออก
เด็กชายผมทองสั้นดูยุ่งๆนามเฮียวกะ กับเพื่อนผมเขียว ไอแซค ทั้งสองคนได้มาฝึกวิชาการเป็นเซนท์ที่นี่ โดยที่มีคามิว เป็นอาจารย์ ทุกวัน ต้องตื่นแต่เช้ามือ มาฝึกวิชา จนสายแล้วจึงกลับมากินข้าว แล้วทั้งวันก็ทุ่มเทให้กับการฝึกๆๆแล้วก็ฝึก แต่วันนี้ต่างออกไปเมื่อ...
"อาจารย์ อาจารย์คามิวฮะ"เฮียวกะวิ่งเข้าไปในห้องของคามิวพร้อมเพื่อนของตน ก็พบว่า ร่างของอาจารย์นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง ทั้งๆที่ทุกวัน คามิวจะต้องตื่นก่อนทั้งสองเสมอ
"เฮียวกะ อาจารย์เป็นอะไรไปอะ"ไอแซคหันไปถาม
"ถามชั้นแล้วชั้นจะรู้มั้ยเนี่ย ไปดูกันเถอะ"
"อย่าทำให้อาจารย์ตื่นนะ เงียบๆละ"เด็กทั้งสองย่องตอดเข้าไปหาเตียงในห้อง
พลางชะโงกหน้าไปมองใบหน้าของอาจารย์อย่างไร้เดียงสา
ก็พบว่า ใบหน้านั้นแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อเล็กๆไหลซึมประปราย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ไอแซคยื่นมือไปแตะที่หน้าผาก
"หวา ร้อนจี๋เลย เฮียวกะ อาจารย์ไม่สบายแน่ๆเลย"ไอแซครีบชักมือกลับทันที
"อาจารย์คามิวเนี่ยนะป่วย"
"เฮ้ย อาจารย์ก็เป็นคนนะ ไม่ใช่เทพเจ้า ว่าแต่เราจะทำยังไงดี"ไอแซคว้ากใส่
"อ๊ะ จริงสิ ชั้นเคยอ่านเจอนะ เค้าบอกว่า ต้องทำให้ตัวเย็นลง เอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้ไง"เมื่อเด็กชายพุดจบ ไอแซคก็เห็นดีด้วย ทั้งคู่ก็วิ่งตื๋อไปยังห้องน้ำ แล้วคว้ากะละมังไม้ กับผ้าขนหนูคนละผืน พร้อมรินน้ำอุ่นลงไป (ไซบีเรียหนาวจะตาย เอาน้ำเย็นเดี๋ยวหนาวตายพอดี)
เด็กทั้งสองยืนอยู่ตรงขอบเตียง พลางจ้องหน้าแดงๆของคามิว แล้วลงมือเช็ดหน้าให้เบาๆ ไอแซคเช็ดหน้าและคอร้อนๆของอาจารย์ไปเรื่อย ขณะที่เฮียวกะวิ่งไปเปลี่ยนน้ำในถัง
ทำแบบนี้อยู่ตั้งนานสองนาน ไข้ก็ไม่มีทีท่าวาจะลดลงเลย
"ทำมาตั้งนาน ทำไมไข้ยังไม่ลดเลยอะ"เฮียวกะปาดเหงื่อ ไอแซคบ่นอุบ
"คงต้องเช็ดทั้งตัวเลยมั้ง"ไอแซคหันมามองเพื่อนที่จุ้มปุกอยู่กับพื้นกระท่อม
"นั่นสิงั้น ชั้นไปเอาน้ำกับผ้ามาเพิ่มนะ"เฮียวกะโพล่งขึ้นมา แล้วรีบวิ่งกลับไปเอาน้ำกับผ้ามาอีก
หลังจากที่ทั้งสองชุบผ้าและบิดผ้าจนแห้งหมาดๆแล้ว ก็ยื่นหน้าสลอนไปหาคามิวอีกครั้ง
"ชั้นเช็ดข้างบนนะ นายเช็ดขาแล้วกัน เช็ดตามข้อพับด้วยนะ ตรงนั้นจะร้อน"ไอแซคตกลงกับเฮียวกะเรียบร้อย เด็กทั้งสองก็ลงมือเปิดผ้าห่ม ทำให้คามิวขดตัวด้วยความหนาวพลางพยายามกระตุกผ้าห่มกลับ
"อาจารย์คามิว อดทนหน่อยนะ"
"อือออ"คามิวครางเบาๆ ดวงตาปรือๆมองไปยังลูกศิษย์ทั้งสองที่วิ่งวุ่นอยู่รอบตัวเขา
"อาจารย์ ตื่นแล้วหรอฮะ"เด็กทั้งสองวิ่งเข้าไปหาอาจารย์ที่หัวเตียง
"เฮียวกะ กับ ไอแซค เองเหรอ"เสียงคามิวแหบแห้งเป็นผง เสียงหายใจก็ดังฟืดฟาด คามิวพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่เด็กทั้งสองกลับจับอาจารย์นอนโครมลงกับเตียงทันที
"อาจารย์อย่าเพิ่งลุกสิครับ อาจารย์ไม่สบายอยู่นะครับ นอนไปก่อน เดี๋ยวพวกเราเช็ดตัวให้นะ"ไอแซคที่นอนทับอยู่กล่าวกับอาจารย์ เฮียวกะก็ดึงตัวคามิวให้นอนราบไปกับเตียงอย่างที่ควรจะเป็น
"อือ ชั้นไม่เป็นไร เจ็บหน้าอกนิดหน่อย"คามิวดันร่างของสองแสบที่นอนทับตนอยู่ แต่แรงก็พลอยเกลี้ยงไปด้วย เลยต้องล้มลงนอนกับเตียงตามระเบียบ
"บอกแล้ว งานทั้งหลายปล่อยพวกเราทำเองเถอะ"เฮียวกะกล่าวยิ้มๆ
"ก็ได้"คามิวหลับตาลงอย่างอ่อนล้า พิษไข้เล่นงานชายหนุ่มเข้าแล้วสิ
เด็กหัวเขียวเช็ดตามคอไล่มาตามแขนทั้งสองข้าง ขณะที่เด็กหัวทองเช็ดตามขาและข้อพับที่ร้อน ใต้ขาที่แดงเพราะแทบจะไม่ได้ขยับตัว เด็กหนุ่มก็บีบนวดเพื่อให้เลือดไหลเวียน(นี่อาการจริงๆของเวลาป่วยนะคะ เคยเช็ดให้พี่สาวตอนไม่สบายเหมือนกัน)
ไอแซคเลิกเสื้อแขนสั้นของอาจารย์ขึ้น แล้วเช็ดตามตัวของคามิว เฮียวกะก็ยกขายาวๆของคามิวขึ้น แล้วเอาผ้าวางไว้ข้างใต้ข้อพับเข่าเบาๆเพื่อให้เย็นลง
"อาจารย์ พลิกตัวหน่อย"เฮียวกะลุกขึ้นมายืน ทั้งสองก็จับร่างคามิวพลิกอย่างทุลักทุเล (คามิวมันตัวเล็กๆซะที่ไหนละ เมื่อเทียบกะเด็กหกขวบสองคน)
แล้วเด็กทั้งสองก็จัดการเช็ดหลังที่ร้อนพอๆกับหน้าและคอของอาจารย์ไปเรื่อยๆ ไอแซคก็ผลัดเวรวิ่งไปเปลี่ยนน้ำให้เฮียวกะที่นั่งอยู่บนเตียงข้างๆอาจารย์ที่นอนหมดสภาพ
"เสร็จแล้วละ"ทั้งคู่ถอนใจ กับผลงาน ร่างของคามิวเย็นลงนิดหน่อย แต่ก็ยังคงมีไข้อยู่ดี
"แล้ว จากนี้ทำไงต่อละ"เฮียวกะหันไปถามไบก้อนหัวเขียว
"ไข้ยังไม่ลด แต่นี่มันก็เวลากินข้าวแล้วนะ เอางี้ นายเช็ดตัวอาจารย์ไป ชั้นจะออกไปหาของกินมาให้"
"แต่พวกเราเพิ่งจับปลาเป็นเองนะ"
"ไม่เป็นไรหรอก นายดูแลอาจารย์ดีๆก็แล้วกัน ชั้นจะเอาเจ้าคอนราร์ดไปด้วยนะ"ไอแซคคว้าปลอกคอหนังพร้อมแหลนแล้วรีบวิ่งออกจากกระท่อมทันที
ตั้งแต่มาที่นี่ก็มีคนเอาลูกหมาพันธ์ไซบีเรียนฮัสกี้ 3 ตัวมาทิ้งไว้ที่ชายป่าแถวกระท่อม เฮียวกะและไอแซคก็ขอร้องจนคามิวอณุญาติให้เลี้ยงได้ แต่ทั้งสองต้องดูแลกันเอง ชื่อแจ้กกี้ คอนราร์ด และ ไมนัส เป็นลุกหมาตัวผู้ทั้งหมด อาจารย์คามิวเลยหาเลื่อนไม้มาไว้ เผื่อเวลาเดินทางข้ามเขาไปหมู่บ้านจะได้เทียมเจ้าสามตัวนี้ลากไป
"คอนราร์ด ปลาอยู่ตรงไหนหรอ"ไอแซคที่เดินตามเจ้าไซบีเรียนฮัสกี้ตัวโตดุ่ยๆ
มันหยุดอยู่ตรงจุดที่น้ำแข็งบางแล้วกระดิกหาง พร้อมเห่าเป็นสัญญาณ
"ตรงนี้ใช่มั้ย ฮึบบ"ไอแซคแทงสวบลงไป แต่ที่ติดมา คืความว่างปล่าว
"โธ่ หนีไปได้ เอาใหม่"ไอแซคหาปลาอยู่อย่างนั้นจนพระอาทิตย์เริ่มเคลื่อนที่
"เฮ้อ ได้มาสองตัวเอง เฮียวกะกับอาจารย์คงไส้แห้งแล้วมั้งเนี่ย คอนราร์ด รีบกลับกันเถอะ"
"โฮ่งง"เจ้าตัวโตเห่ารับ แล้วรีบวิ่งนำลิ่วกลับไปทันที
"คอนราร์ด จะไปไหนเนี่ย"ไอแซครีบเร่งฝีเท้าตาม เมื่อคอนราร์ดวิ่งลิ่วแล้วโจนพรวดเขาไปในพุ่มไม้ที่ชายป่า
"กี๊ กี๊"เสียงๆหนึ่งลอดออกมาจากพุ่มไม้ เมื่อเด็กชายวิ่งมาถึง
เจ้าหมาก็เดินออกมาพร้อมกระต่ายตัวโตในปาก พลางกระดิกหางไปมา
"ดีมากเลย ได้อาหารเพิ่มแล้ว"เด้กชายลูบหัวของเจ้าหมาสุดที่รักไปมาอย่างเอ็นดู แล้วทั้งคู่ก้วิ่งกลับเข้าไปในกระท่อม
"ไอแซคคคค ช้านจะตายแล้ววว"เฮียวกะที่เปิดประตูรับ เอามือกุมท้องที่ร้องครวญครางมารับหน้า ทำเอาเด็กชายสะดุ้งโหยง
"อะ จะ จะรีบไปทำให้กินละนะ"ไอแซครีบวิ่งเข้าไปในครัวทันที ตอนนี้ท้องของเจ้าเป็ดร้องเป็นวงบรรเลงซิมโฟนี่เป็นระยะๆ ขณะที่ไอแซคเริ่มลงมือปรุงอาหาร
"แต่นแต๊น สตูวเนื้อ"เด็กหนุ่มยื่นสตูวสีข้นในชามไม้ให้เฮียวกะ
เด็กชายกลืนน้ำลาย ก่อนฉวยชามวิ่งไปยังห้องของคามิวทันที
ไอแซคยืนงงอยู่พักใหญ่ เลยกลับไปทำปลาที่จับมาได้ต่อ
ภายในห้องของคามิว
สีหน้าของคามิวตอนนี้ เรียกว่าแย่สุดๆ
เพราะหายใจแรงชนิดที่ว่าอ้าปากหอบ ใบหน้าแดงขนาดตูดลิงยังอาย ริมฝีปากก็แห้ง ดวงตาปรือๆพยายามฝืนลืมอย่างยากลำบาก
"อาจารย์ครับ"เฮียวกะลูบหน้าผากร้อนๆของอาจารย์ตนเบาๆ คิ้วเล็กขมวดเป็นปม
"ผมจะทำแบบที่แม่เคยทำตอนผมไม่สบายนะฮะ"เด็กน้อยพูดพลางอมยิ้ม
เฮียวกะเอาหน้าผากของตนแตะกับหน้าผากคามิวเบาๆ ปากก็พึมพำอะไรบางอย่าง
"ขอให้อาจารย์หายดี อย่าให้โรคภัยมารบกวน ขอให้แข็งแรงหายไวๆ"เสียงเบาๆเล็ดออกจากปากเล็กๆ ก่อนจะวางชามสตูวลงกับโต๊ะข้างเตียงที่มีแก้วน้ำอุ่นควันฉุยวางไว้ก่อน
"อาจารย์ ทานอาหารก่อนนะ จะได้มีแรง"เฮียวกะช้อนหัวของคามิว แล้วเสริมหมอนให้สูงขึ้น ก่อนวางลงเบาๆด้วยมือเล็กๆของตน
แล้วหยิบชามสตูวมาไว้บนตัก
เด็กชายตักน้ำซุปสีน้ำตาลข้นขึ้นมาเป่าให้หายร้อน แล้วป้อนให้อาจารย์ ทันทีที่ช้อนเข้าปาก
"แค่กๆ แค่ก"คามิวตาแทบถลน ก่อนไอออกมาทันที เฮียวกะแทบจะทำช้อนหลุดมือ
"อาจารย์เป็นอะไรไปฮะ"เฮียวกะรีบคว้าน้ำมาให้คามิวดื่ม
"ช้าๆนะฮะ เดี๋ยวสำลัก"เด็กน้อยประคองแก้วน้ำในมืออาจารย์
ก่อนจะลองตักสตูวเจ้าปัญหาเข้าปากตัวเอง
ทันทีที่แตะลิ้น ก็รีบคว้าน้ำจากโต๊ะต่อจากคามิวมากระดกต่อทันที
"ไอ้ไอแซคคคคคคคค"เสียงตะโกนลั่นมาจากห้อง ดังมาถึงครัว
เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยง พลางเสียวสันหลังวาบ
เสียงลงส้นหนักๆอย่างรวดเร็วมาตามทางเดิน ก่อนประตูครัวจะเปิดปึ้ง
"ทำไมสตูวนายมันเค็มอย่างงี้ เดี๋ยวอาจารย์คามิวก็โรคไตรับประทานกันพอดี"เฮียวกะโชว์สตูวเจ้าปัญหาให้ดู
ไอแซคก็ตักเข้าปาก ก่อนจะจบลงอย่างเดียวกับอีกสองคน
"ท่าทางชั้นจะดับคาวด้วยเกลือมากไปหน่อย งั้นเพิ่มนมกับน้ำหน่อยแล้วกัน จะได้มีมากขึ้นด้วยไงละ"เจ้าตัวยุ่งพูดพลางหยิบสตุวในมือเฮียวกะเทกลับลงหม้อ พร้อมเติมนมลงไปหนึ่งกล่องเต็มๆ
ทันทีที่ยกตั้งไฟ กลิ่นหอมก็ลอยมาเตะจมูกเด็กหนุ่ม
"เอาไปให้อาจารย์ก่อนนะ แล้วเดี๋ยวค่อยมาแบ่งกัน ชั้นจะเก็บของก่อนนายดูแลอาจารย์ด้วยนะ"
"ได้เล้ย ไม่ต้องห่วง"เฮียวกะรีบวิ่งกลับไปยังห้องนอนทันที
ทันทีที่หย่อนก้นลงกับเก้าอี้ข้างเตียง ก็จัดการชิมสตูวจอมก่อเรื่องเสียก่อน เป็นอุทาหรณ์ให้สองแสบ ว่า อะไรจะเข้าปากคนป่วย ต้องชิมก่อน
แล้วค่อยๆป้อนให้คามิวทีละคำๆ มือเล็กๆส่งแก้วน้ำใส่มืออุ่นๆของคนป่วยให้ดื่มช้าๆ(สภาพเหมือนนอนหยอดน้ำข้าวต้มเลยแฮะ มิวจังหมดสภาพเลยงานนี้)
พอเอาหมอนรองออก แล้วดึงผ้าห่มให้ปิดมิดถึงคอ ลมจากปากเล็กๆเป่าไฟในตะเกียงให้ดับ แล้วปิดประตูอย่างเงียบกริบที่สุด
"นี่ไอแซค สรุปว่า อาจารย์ป่วยเป็นโรคอะไร"เฮียวกะที่เคี้ยวปลาปิ้งตุ้ยถามเพื่อนร่วมห้อง
"คงเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดามั้ง ชั้นก็เคยเป็น แต่ไม่แรงขนาดนี้"ไอแซคยกนมร้อนขึ้นดื่ม
"แล้วยาละ มีรึปล่าว ถ้าเป็นสมุนไพรคงพอหาได้แถวนี้แหละ"เฮียวกะงับเนื้อปลานิ่มเข้าปาก
"ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน ลองไปดูที่ชั้นหนังสือกันดีกว่า"ไอแซคเก้บจานลงอ่าง แลวเดินดุ่ยๆไปยังชั้นไม้ขนาดใหญ่ ที่ตั้งติดผนัง แถมไม่ได้รับการดูแลรักษาเท่าที่ควร ฝุ่นเลยจับเครอะหนาเตอะเหมือนเวลาอีตี้โบ๊ะหน้า(อีตี้:กรี้ดดดดดดดด หนอย นังนามิ)
หลังจากที่เด็กชายรื้อหนังสือลงมา พลางพลิกดุหน้าปก ความเงียบก็เข้าปกคลุม
"อะไรหรอไอแซค"เฮียวกะละสายตาจากปลาที่กะลังกินอยู่ไปยังเพื่อนที่ยืนนิ่ง
"โว้ยย นี้มันภาษาไซบีเรียชั้นจะอ่านออกมั้ยนี่"ไอแซคแทบโยนหนังสือลอยข้ามห้อง ก็ทั้งชั้น ทุกเล่มเป้นหนังสือภาษาไซบีเรียทั้งนั้นเลยนี่นา แล้วคนฟินแลนด์อย่างตรูจะอ่านออกมั้ยเนี่ยยย
"อา อั้นอ่านไอ้"(มา ชั้นอ่านให้)เฮียวกะพูดทั้งๆที่ในปากยังมีปลาตัวเบ้งยัดอยู่แทบทั้งตัว พลางคว้าหนังสือที่แทบจะหล่นทับตัวเล็กๆของตนมาอ่าน
"อำอา อำอาอ๋าน"(ตำราทำอาหาร)
เฮียวกะโยนไปกองไว้ข้างๆตู้ ขณะที่อีกคนหยิบอีกเล่มมาให้
"เอ็ดอับอานอุงอาอ๋านอะเอ"(เคล็ดลับการปรุงอาหารทะเล)
"อกอักไอ้อำไอ"(อกหักให้ทำไง)(คามิวมันอ่านอะไรอย่างงี้เรอะ)
"อ้อยอานอากแอวอ้าม"(ร้อยจานจากแมวน้ำ)
"ไอ๋อันอาอานอำอุงอิ๋ว"(ไขมันปลาวาฬบำรุงผิว)
อ่านจบแต่ละเล่มก็โยนไปกองๆรวมกันกับไอ้เล่มที่ผ่านมา
หลังจากที่ดูปกมาไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเล่ม ทำให้เด็กทั้งสองเริ่มตะหงิดๆแล้วว่า อาจารย์อ่านหนังสืออะไรกันแน่นี่
มีทั้งตำราแก้จน วิธีการล้างห้องน้ำให้หอม การจีบสาวให้ติด เล่นหวยไงให้รวย เคล็ดไม่ลับทำใจเมื่อโดนทิ้ง เยอะแยะมากมาย แต่ไม่เห็นเจออะไรอย่างเช่น ตำรานู่นนี่เลยซักกะเล่มเดียว
"เฮ้อ ทำไงดี ไม่มีซักอย่างเดียว"ไอแซคทิ้งลงนั่งจ้ำเบ้ากับพื้น เมื่อเฮียวกะลงไปนอนปากมันอยู่บนกองหนังสือ ในมือมีก้างปลาที่ถูกแทะจนเกลี้ยง
"ชั้นจะรู้ม้ายเนี่ย"เฮียวกะเช็ดปากตัวเอง ก่อนลุกขึ้นโยนก้างปลาลงถังขยะ
"เอางี้ เราสองคนก็ออกไปหามาสิ นายเคยป่วยเป็นโรคนี้มาก่อนนี่นา น่าจะพอรู้บ้าง"เด้กชายเสนอความคิด
"นั่นสิ"ไบก้อนไอแซค(ไม่ใช่คราเก้นแล้วเรอะ)โดดขึ้นมาจากพื้นแล้วเด็กทั้งสองก้วิ่งออกไปนอกกรุท่อมไปหาหมาแสนรู้อีกสองตัว
"แจกกี้ ไมนัส ไปช่วยเฝ้าอาจารย์ให้ทีนะ ถ้าเกิดอะไรเรียกพวกเราดังๆเลยนะ"ไอแซคลูบหัวของเจ้าไซบีเรียนฮัสกี้สีเทาไปมา
"ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลยนะ"เฮียวกะลูบเจ้าตัวสีน้ำตาลอีกตัวอย่างเอ็นดู ทั้งสองกระดิกหาง แล้วรีบโจนพรวดเข้าบ้านตามคำสั่งนายน้อยทันที
ภายในป่าโปร่งโล่งโจ้ง ที่แทบจะไม่มีอะไร นอกจาก ต้นไม้โกร๋นๆ ชนิดไร้ใบ กะหิมะขาวๆที่ปกคลุมไปทั่ว เด็กทั้งสองกำลังควานหาสิ่งที่เรียกว่าหญ้าอยู่ หญ้าอะไรก็ได้ พอหาเจอก็เอามาให้ไอแซคดู หามานานเท่าไหร่ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอไอ้หญ้าที่ไบก้อนไอแซคพูดถึงเลยแม้แต่น้อย
"ว่าแต่ไอ้หญ้าที่นายว่าเนี่ย มันอยู่ที่ไหนเรอะ ที่แม่นายเคยเอามาให้"เฮียวกะที่คุ้ยๆกองหิมะหวังจะหาไอ้พืชที่เดินหามาร่วมชั่วโมง
"เป็นพืชเขตร้อนนะ"ไอแซคชี้นิ้วเป็นเชิงรู้
แต่บรรยากาศเงียบก็ปกคลุมอีกครั้ง
"ไอ้บ้าไอแซค พืชเขตร้อนที่ไหนมันจะขึ้นในทุ่งหิมะขาวจั๊วะอย่าไซบีเรียนี่ได้ฟระ สมองนายมันมีแต่ขี้เลื่อยรึไงฟร้า"เฮียวกะเข้าเขย่าคอเพื่อนสุดเบ๊อะของตนไปมา ตาของเด็กชายหมุนติ้วๆเป็นก้นหอย
"เฮ้อ ถ้างั้น คงต้องเข้าเมืองแล้วสิ"เฮียวกะปล่อยร่างไบก้อนลงพื้น พลางถอนใจเฮือกใหญ่
"นายจะไปคนเดียวเหรอ"คนที่เพิ่งจะหายตาลายโพล่งถาม
"ก้ ต้องข้ามเขาไปโดยใช้เลื่อนไม้อะ แล้วไกลขนาดนั้นต้องมีคนอยู่ดูแลอาจารย์ แล้วนายก็ใช้เลื่อนยังไม่คล่องด้วย ชั้นจะไปเอง"เฮียวกะเฉลยข้อสงสัยให้เพื่อนร่วมบ้าน
"อะ อืม งั้นก็ได้ อย่าไปนานนะ รีบกลับมาด้วยละ"เฮียวกะฉุดไอแซคให้ยืนขึ้น แล้วทั้งสองก้วิ่งลัดป่ากลับไปยังกระท่อมไม้ของตนทันที
ไอแซคจัดแจงช่วยเฮียวกะเทียมเลื่อนจนเรียบร้อยดี ก็หยิบเสื้อกันหนาว หมวกขนแกะ และถุงมือให้
"เอาไว้ใส่เวลาลมแรงๆนะ"
เฮียวกะรับมาสวมพลางยิ้มแป้น
"น่า ชั้นไม่เป็นไรหรอก ฝากดูอาจารย์ด้วยนะ"เด็กน้อยกล่าวพลางกระโดดขึ้นยืนบนเลื่อน มือจับสายหนังที่เทียมสุนัขทั้งสามเอาไว้
"อื้อ รีบไปรีบมานะ"
"ได้เล้ย แล้วจะเอายามาให้นะ"เฮียวกะสะบัดเชือก เร่งให้เจ้าไซบีเรียนฮัสกี้ทั้งสามออกวิ่ง
ไอแซคปิดประตูบ้าน แล้วเดินไปยังครัว ตักซุปที่ควันลอยขโมงใส่ชามไม้ แล้วเดินไปยังห้องนอนของคามิว
ขณะนี้ อาจารย์ของเด็กทั้งสอง ยังหลับสนิท แพขนตาปิดลงเบาๆ ทั้งหน้าและคอก็แดงแถมร้อนอีกต่างหาก ลมหายใจก็อุ่น ถึงไข้จะลดลงบ้าง ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ซ้ำร้ายอาการยังทรุดหนักลงอีก
เด็กน้อยไม่อยากปลุกอาจารย์จากการพักผ่อน เลยตัดสินใจหาผ้าห่ม และผ้าพันคอมาสวมให้เพื่อป้องกันอากาศหนาว
ขณะที่เดินหาผ้าพันคอยู่นั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห้นตู้ไม้ใบใหญ่ เด็กชายหมายตาว่าคงเป็นที่เก็บเสื้อผ้าของอาจารย์ จึงดึงประตูให้เปิดออก ทันใดนั้น วัตถุสีทองก็หล่นโครมลงทับร่างของเด้กน้อยจนมิด
"โอย อะไรเนี่ย อ๊ะ นี่มัน"ไอแซคคลานกระดื๊บๆออกมาจากกองเหล็กสีทอง
"โกลด์คลอธ"มือเล็กๆลูบคลำชุดเกราะทองคำอย่างหลงใหล ความงดงามและประกายทองที่ระยิบระยับ
"สวยจังเลย อาจารย์เป็นโกลด์เซนท์เหรอเนี่ย อ๊ะ จริงสิ ผ้าพันคอๆ"หลังจากชื่นชมกับความสวยงามและสง่างามของโกลด์คลอธจพอใจ จึงรีบคว้าผ้าพันคอมาโปะไว้บนคออุ่นๆของคามิว
"เฮียวกะจะเป็นไงบ้างน้า นี่ก็ใกล้มืดแล้วด้วย ยิ่งมืดแล้วจะอันตรายมาก กลับมาเร็วๆนะ"ไอแซคจ้องมองหน้าสีสุกก่ำของคามิว
ขณะที่สุนัขทั้งสามห้อตะบึงข้ามเขาที่ถูกปกคลุมด้วยป่าโปร่งไร้ใบ หิมะขาวโพลนเต็มไปหมด แว่นตากันลมก็ปกป้องดวงตาจากลมแรงได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ ดวงตะวันเริ่มลับขอบฟ้า ความมืดเริ่มโรยตัว และสัตว์ร้ายกำลังคืบคลานเข้ามา
ขณะที่เลื่อนกำลังวิ่งผ่านป่าไปด้วยความเร็ว เงาทะมึนนับสิบวิ่งโอบกระหนาบข้างเลื่อนไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
ร่างๆหนึ่งในฝูงเงามืดโจนเข้าหาเด็กหนุ่ม คมเขี้ยวขาวสะท้อนแสงจันทร์ หมาป่าสีเทานับสิบๆตัวกำลังออกล่าเหยื่อ
เหยื่อที่กำลังมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านในตัวเมือง
"เร็ว วิ่งเร็วเข้า"เด็กน้อยตะโกนสู้ลมแรง เพื่อเร่งให้สุนัขเทียมเลื่อนสามตัวหนีให้พ้นจากคมเขี้ยวและกรงเล็บของนักล่ายามราตรี
เสียงเห่ากรรโชกของหมาป่าที่วิ่งรายล้อมเลื่อนเอาไว้ มันแยกเขี้ยวสีขาวที่คมกริบเหมือนมีดโกน
"เร็วอีก อีกนิดเดียว จะพ้นป่าแล้ว"เด็กชายร้องเมื่อเห็นแสงสว่างจากชายป่า แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้า กลับกลายเป็นผาสูง เบื้องล่างของยอดผา ก็คือหมู่บ้านที่อยู่ตรงตีนเขา
เจ้าไซบีเรียนฮัสกี้ทั้งสามรีบหยุดอย่างกะทันหัน แต่พื้นหิมะลื่นไถล ทำให้เลื่อนถูกเหวี่ยงกระชาก จนห้อยต่องแต่งอยู่ตรงเชิงเขาที่เป็นผาสูง มีเนินลาดชันที่ถุกปกคลุมด้วยหิมะอยู่เบื้องล่าง
"หวา"เฮียวกะพยายามดึงตัวขึ้นไป แต่ความเย็นทำให้พื้นลื่น เด็กน้อยไม่สามารถดึงตัวขึ้นมาอย่างที่ต้องการได้
เสียงคำรามขู่ดังจากฝูงหมาป่าเป็นระยะๆ สุนัขเทียมเลื่อนทั้งสามก็พยายามออกแรงดึงเลื่อนขึ้นจากผา แต่ก็ต้องคอยระวังฝูงนักล่าไม่ให้ทำร้ายนายน้อยได้
"แจกกี้ ไมนัส คอนราร์ด"
ทันทีที่สิ้นเสียงเด็กน้อย หมาป่านับสิบก็โจนพรวดเข้าหมายขย้ำเนื้อนุ่มๆของเด้กชายวัย 6 ขวบที่จะหล่นอยู่รอมร่อ
ทันใดนั้นพื้นน้ำแข็งที่อยู่เบื้องล่างก็แตกหัก ทำให้ทั้งคนและหมาร่วงลงไปเบื้องล่าง
เฮียวกะกลิ้งลงไปตามเขาลาดชัน เด็กชายถูกเหวี่ยงจนตกจากเลื่อน และฝูงหมาป่าก็ร่วงตามลงมา
หลังจากที่กลิ้งลงมาไกลแค่ไหนไม่รู้ เฮียวกะก็นอนแผ่ราบไปกับพื้นหิมะขาวโพลน โดยมีเลื่อนที่เอียงกะเท่เร่พร้อมสุนัขเทียมอีกสามตัวที่หลุดจากสายหนัง
ลิ้นเย็นๆเลียแก้มนิ่มๆของเด็กน้อย
ทันใดนั้นเหล่านักล่ากระหายเลือดก็วิ่งตามลงมา
มันกระโจนเข้าเด็กชาย หมายขย้ำเหยื่อร่างเล็กให้จมเขี้ยว
"โฮ่กกก กรรร"ไมนัสกระโจนเข้ากระแทกร่างของหมาป่าร่างยักษ์จนกระเด็นไปทั้งคู่ หมาป่าอีกสามตัวก็วิ่งเข้ารุมทึ้งร่างของสุนัขตัวนั้น แจกกี้วิ่งเข้าไปผสมโรง ส่วนคอนราร์ดยืนปกป้องนายน้อย เผชิญกับหมาป่าอีกนับสิบตัวที่ส่งสายตากระหายเลือดมายังเหยื่อ
นัยน์ตาวาวโรจน์พร้อมเขี้ยวที่ยาวขาวน่ากลัวจับขั้วหัวใจแสยะแยกออกอย่างน่าสยดสยอง
วินาทีชีวิตและความตายที่เหลื่อมกันแทบไม่กี่วินาทีที่หมาป่าอีกหลายสิบกระโจนเข้าหาเด็กหนุ่มและองครักษ์สี่ขา
"เปรี้ยงงงงง"เสียงราวกับฟ้าผ่าดังกัมปนาทกึกก้องไปทั่วบริเวณ
ร่างโชกเลือดไร้ชีวิตของหมาป่าสีเทาตัวเขื่องที่ถุกกระสุนลูกซองฝังเข้าร่างทับอยู่บนตัวเด็กน้อย
ดวงตาสีฟ้าที่ดุตื่นตระหนกมองไปยังต้นเสียง
ชายร่างสูงที่ดูล่ำสันบึกบึนอยู่บนหลังม้าพันธ์ดีที่ตัวโตเอาเรื่อง กีบใหญ่ๆของมันกระทืบลงบนพื้นหิมะ ลมหายใจร้อนๆของมันพ่นเป็นไอ
ในมือมีปืนลูกซองกระบอกคู่ที่ควันลอยออกมาจากลำกล้องสดๆ
เหล่าหมาป่าถอยกรูดทันที หางที่ลู่ตก ก่อนจากมันแยกเขี้ยวคำรามลั่น ก่อนวิ่งหายไปทั้งกลุ่ม
ชายร่างสูงลงจากหลังม้า ลากซากหมาป่าโยนลงข้างๆ แล้วพยุงตัวเด็กน้อยขึ้นมา
"นี่เจ้าหนู มาทำอะไรในที่ๆอันตรายขนาดนี้กัน ถ้าชั้นไม่มาเจอป่านนี้นายกลายเป็นอาหารเจ้าพวกเดรัจฉานนั่นไปแล้วนะ"ใบหน้าที่มีหนวดเคราจ้องมายังใบหน้ากลมเกลี้ยงของเด็กน้อย
"อะ อีกไกลมั้ยครับกว่าจะถึงเมือง"เฮียวกะโพล่งขึ้นมาทันที
"ไม่ไกลหรอก ทำไมรึ"
"อาจารย์ของผมไม่สบายมาก ผมต้องมาเอายาไปให้"เฮียวกะรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปยังเลื่อนทันที
พอจับเลื่อนตั้งขึ้น เฮียวกะรีบวิ่งไปยังร่างของไมนัสที่นอนหอบอยู่ มีบาดแผลที่ได้รับจากหมาป่ามาหลายจุด แจกกี้ยืนหางลู่อยู่ข้างๆ
"ไมนัส ไม่เป็นไรนะ จะรีบไปเอายาแล้วกลับกัน"เด็กชายอุ้มร่างของสุนัขสุดรักวางไว้บนเลื่อน ที่เทียมด้วยสุนัขอีกสองตัวที่เหลือ
"คุณลุงครับ ช่วยนำทางไปเมืองให้ผมทีครับ"เฮียวกะขึ้นยืนบนเลื่อนทันที
"ได้สิ ตามมาให้ทันนะ"ชายหนุ่มปีนขึ้นหลังม้า ก่อนชักให้มันวิ่งห้อไปยังตัวเมืองทันที
เฮียวกะก็สะบัดสายหนัง ให้แจกกี้กับคอนราร์ดออกวิ่งโดยมีไมนัสนอนมีผ้าห่อให้ความอบอุ่นอยู่บนเลื่อน
ทันทีที่ถึงตัวเมือง เฮียวกะชักเลื่อนเข้าหาบ้านไม้หลังหนึ่งที่มีป้ายภาษาไซบีเรียเขียนว่า โรงพยาบาล(นี่ถ้าไอแซคมามันจะหาโรงพยาบาลเจอมั้ยวะ)
"เปิดประตูหน่อยครับ เปิดประตูหน่อย"เฮียวกะทุบประตูไม้อย่างร้อนรน ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว แต่ขอร้องละ เปิดประตูทีเถอะ
"อะไรรึ อ้าวเจ้าหนู มีอะไร"คุณหมอที่ดูแก่หงำเหงือก ผมสีขาวสั้นชี้ทรงชูร่า ดวงตาเล็กๆหลังแว่นมองยังเด้กน้อย ก่อนขยับแว่นให้เข้าที่ ในมือมีตะเกียงน้ำมันอยู่
"คุณหมอครับ ผมต้องการยา อาจารย์ผมป่วยหนักอยู่ที่ทางอีกฟากของเขาลูกนั้น ขอร้องละครับ"
"อาการเป็นไงละ"คุณหมอย่อตัวลงให้ตาประสานกับเด็กน้อย
"ก็ ตัวร้อน มีไข้สูง หนาวสั่น แล้วก็บอกว่าเจ็บหน้าอกครับ"หลังจากเฮียวกะกล่าวอาการจนจบ คุณหมอก้รีบลุกขึ้นทันที
"แย่แล้ว ขอเวลาชั้นสัก 3 นาทีนะพ่อหนูน้อย"คุณหมอรีบวิ่งกลับเข้าไป อีกไม่นานก็วิ่งออกมาทั้งๆชุดนอน ในมือมีกระเป๋าเครื่องมือครบครัน
"นี่คุณนายพราน ช่วยพาชั้นไปหาอาจารย์ของเจ้าหนูนี่ทีนะ"คุณหมอหันไปหานายพรานร่างยักษ์
"ไม่มีปัญหา ไอ้พวกหมาป่านั่นไม่กล้าแหยมหรอก ขึ้นมาเลยหมอ"ชายหนุ่มดึงร่างของหมอชราขึ้นซ้อนท้าย
"นำไปเลยเจ้าหนู"ชายหนุ่มหันมามองเด็กน้อย
"ครับ"เฮียวกะสะบัดสายหนัง สุนัขทั้งสองก็ออกวิ่ง ก่อนนายพรานจะชักม้าตีวงกลับแล้วควบตามไปทันที
เฮียวกะจ้องมองเจ้าม้าสีน้ำตาลที่แสนสง่างามไม่วางตา
กล้ามเนื้อคอที่หนาเป็นมัด คอที่ยาวระหง กล้ามเนื้อที่ขาอันทรงพลังกีบรูปใบบัวกำลังกระแทกลงพื้นอย่างรุนแรง พร้อมตะกุยหิมะขึ้นมาเป็นจังหวะ ขนแผงคอสีขาวสะบัดตามแรงลม ยามก้าวย่างช่างสง่างาม
ก่อนเหลียวกลับมายังเจ้าไมนัส
"ไมนัส รอก่อนนะ จะถึงบ้านแล้ว ทนอีกนิด เดี๋ยวคุณหมอรักษาอาจารย์แล้วจะช่วยเจ้าต่อนะ"
อาจารย์ คอยก่อนนะครับ ยามาถึงแล้ว อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะครับ
ขากลับนั้น ต้องอ้อมเขาเข้าทางลัดที่เป็นถ้ำอันเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย เพราะไม่อาจไต่ทางลาดชันที่เขาตกลงมาขึ้นไปได้
หลังจากที่พ้นปากทางเข้าถ้ำ ภาพกระท่อมไม้ที่ตั้งอย่างโดดเดี่ยวก็ปรากฏต่อสายตาทุคน
"นั่นไงครับ"เด็กหนุ่มชี้นิ้วไปยังกระท่อมหลังดังกล่าว
สุนัขทั้งสองชะลอฝีเท้าก่อนหยุดกึกที่หน้าประตูไม้ พรานป่าก็ชักม้าให้หยุดวิ่ง เฮียวกะจูงมือคุณหมอวิ่งนำเข้าไปทันที ส่วนนายพรานก็ช่วยแบกเจ้าไมนัสเข้าไปยังบ้าน โดยคอนราร์ดและแจกกี้ที่วิ่งตามเข้าไป
ทันที่เฮียวกะมาถึง ประตูก็เปิดผางออก ใบหน้าของไอแซคตอนนี้ซีดเผือด
"เฮียวกะ ดีจัง นายกลับมาแล้ว ตอนนี้แย่แล้วละ อาการของอาจารย์ทรุดหนักมากเลย บ่นว่าเจ็บหน้าอกเอามากๆเลยด้วย"
"แย่แล้ว"คิ้วของเด้กชายขมวดเข้าหากันทันที
"ไม่ต้องห่วงหรอกเด็กน้อย เดี๋ยวหมอจะช่วยดูให้นะ"คุณหมอเฒ่ากล่าวเนิบๆแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในห้องพร้อมกระเป๋าอุปกรณ์
คุณหมอนั่งลงข้างๆเตียงที่มีร่างของคามิวนอนหายใจถี่กระชั้น ใบหน้าแดงก่ำ ลมหายใจร้อนผ่าว
มือเรียวๆของคุณหมอจับข้อมือของคามิวขึ้นมาจับชีพจร ก่อนจะดึงเข็มฉีดยาขึ้นมาจากกระเป่าเครื่องมือพร้อมขวดยา แล้วแทงลงไปบนฝาขวด
นิ้วทั้งสองดึงตัวก้านให้ดูดตัวยาขึ้นมาเล็กน้อย แล้วส่องหลอดยากับแสงตะเกียง
นิ้วมือที่มีรอยเหี่ยวย่นคลำหาเส้นเลือดที่ข้อมือ ลูบตรงจุดนั้นเบาๆ แล้วค่อยๆแทงเข็มลง
"อะ โอ๊ย"นิ้วของร่างบางกระตุกนิดหน่อย
ไอแซคเอาผ้ามาห่มให้เฮียวกะที่มีหิมะเต็มหัว ทั้งสองนั่งอยู่ท้ายเตียงอย่างเป็นห่วง
"เฮียวกะ อาจารย์จะเป็นอะไรมั้ย"ไอแซคถามอย่างกังวล
"อาจารย์ต้องไม่เป็นไรสิ ต้องหายดีแน่ๆ"
คุณหมอดึงเข็มออกจากแขนของคามิว แล้วเอาสำลีลูบเบาๆ
"เอาละ ไม่เป็นไร ตอนนี้หายห่วงแล้วละนะเจ้าหนู"คุณหมอหันมายิ้มให้เด็กทั้งสอง ที่ตอนนี้หน้าบานด้วยความดีใจ
"แต่ว่าต้องทานยานี้ด้วยนะ อีกสักสามสี่วันก็คงหายเป็นปรกติแล้วละ"คุณหมอยื่นขวดที่มียาเม็ดกลมๆให้เฮียวกะ
"จริงสิ หมอ ถึงจะเป็นหมอคนแต่ช่วยรักษาเจ้านี่ทีสิ"นายพรานที่เดินอุ้มไมนัสมายืนที่หน้าห้อง
"ถึงจะเป็นหมอคนก็เถอะ เดี๋ยวจะช่วยรักษาให้นะ ไม่ต้องห่วงนะ พ่อหนู"คุณหมอยิ้มอย่างใจดี แล้วเดินไปทำแผลให้เจ้าสุนัขสุดรักของเด็กทั้งสอง
หลังจากที่คุณหมอรักษาอาการป่วยหนักของคามิว และอาการบาดเจ็บของไมนัส เด็กทั้งสองก็รู้ทีหลังว่า อาการของคามิวไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่ แต่เป็นปอดบวม ซึ่งถ้าปล่อยไว้นาน ก็อันตรายถึงชีวิต
"คุณหมอครับ ขอบคุณมากนะครับ แต่ว่า ค่ารักษา พวกเราไม่มีเงิน"เฮียวกะกับไอแซคหน้าซีดลงทันที มัวแต่คิดเรื่องช่วยคามิว แต่ดันลืมนึกถึงค่ายาค่ารักษาพยาบาลเสียสนิทเลย
"ไม่เป็นไรหรอก หน้าที่ของหมอก็คือการช่วยเหลือคนจากโรคภัยอยู่แล้ว ไม่ต้องคิดมากหรอก ใช่มั้ยคุณนายพราน"คุณหมอหันไปถามพรานป่า
"หมอก็มีหน้าที่ของหมอ นายพรานก็มีหน้าที่ของพราน พวกเธอเองก็ทำหน้าที่เป็นเพื่อนที่ดีของกันและกัน และเป็นลูกศิษย์ที่ดีของอาจารย์ก็แล้วกัน"นายพรานหันมายิ้มให้ ก่อนคุณหมอจะขึ้นซ้อนท้ายม้าอีกครั้ง แล้ววิ่งกลับไปยังตัวเมือง
"ขอบคุณมากเลยนะครับบ"เฮียวกะกับไอแซคตะโกนพร้อมโบกมือลา แล้วรีบวิ่งกลับไปหาคามิว
7 ปีต่อมา
"คามิวว้อยย กลับไปนอนดีๆไม่ได้รึไง(วะ)"เสียงของมิโร่ที่กำลังออกแรงลากเจ้าตัวดีที่ไม่ยอมทำตัวเป็นคนไข้ที่ดีกลับเข้าห้อง
"ชะ ชั้นไม่เป็นไรหรอกน่า"ร่างบางตอนนี้พยายามตะเกียกตะกายออกมานอกวิหาร
"เฮียวกะ มาช่วยกันหน่อยดี้ เจ้านี้มันดื้อชะมัดเลย"มิโร่หันไปเรียกลูกศิษย์คามิวที่วิ่งเอากะละมังน้ำมาให้
"หวา อาจ้านน ทำตัวเป็นคนป่วยที่ดีบ้างไม่ได้รึไงฮะ"เป็ดเฮียวกะวางกะละมังและผ้าคนหนูทันที แล้วช่วยกันลากขาคามิวที่เอานิ้วจิกพื้นกลับขึ้นเตียง
โถๆๆ คามิวดันป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ที่แย่กว่านั้น คือเจ้าบ้านี่ดันทำตัวเหมือนไม่ได้เป็นอะไร ลำบากสองพระหน่อต้องมาช่วยกันลากมันกลับขึ้นเตียง ที่มันตะเกียกตะกายออกมาด้วยเหตุที่ฟังไม่ขึ้นว่าจะเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำมันอยู่อีกทางนึงว้อย
สุดท้ายทั้งสองก็หามคามิวจับโยนขึ้นเตียงจนได้ เฮียวกะจึงตัดสินใจใช้วงแหวนน้ำแข็งล๊อคคามิวไว้กับเตียง
"แงงง เฮียวกะ ปล่อยเค้าไปเถอะ นะๆๆ เค้าจะเป็นคนไข้ที่ดี ไม่หนีไปไหนแล้ว"คามิวคร่ำครวญอยู่บนเตียง พยายามกระเด้งขึ้นมา บนหน้าผากมีผ้าขนหนูชุบน้ำช่วยลดไข้วางอยู่
"ไม่!"เฮียวกะตอบเสียงแข็งก่อนสะบัดหน้าหนี
"ทำมายอ่า แอ๊"คามิวโหมดเมาพิษไข้
"คราวที่แล้วก็ทีนึง ประโยคเดียวกันเด๊ะเลย หายไปไหนไม่รู้ เจออีกทีนอนแผ่สองสลึงอยู่หน้าวิหารแมงป่งสวรรค์โน่น คราวนี้ไม่ใจอ่อนหรอกน่ะ"เฮียวกะเริ่มยัวะกับอาการเอาแต่ใจของอาจารย์สุดแสบ
"เอาเหอะ นอนๆไปเถอะน่าคามิว เดี๋ยวชั้นกับเฮียวกะอยู่เป็นเพื่อน"มิโร่เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง
"แง้ว ก็ดะ"เจ้าตัวยุ่งยอมนอนแต่โดยดี
เฮ้อ อาจารย์
ผลงานอื่นๆ ของ Leoris Gracier ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Leoris Gracier
ความคิดเห็น