Diary Love บันทึกรักวัยใส - นิยาย Diary Love บันทึกรักวัยใส : Dek-D.com - Writer
×

    Diary Love บันทึกรักวัยใส

    แรกพบ สบตา ใบหน้าละมุน รอยยิ้มน่ารักดั่งเทวดาตัวน้อยเป็นต้นเหตุที่พาให้หัวใจหวั่นไหว♥

    ผู้เข้าชมรวม

    3,132

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    13

    ผู้เข้าชมรวม


    3.13K

    ความคิดเห็น


    175

    คนติดตาม


    86
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  13 พ.ค. 60 / 21:20 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    ในภาพอาจจะมี 2 คน


    เคยมั้ยคะ...
    ที่แค่เห็นรอยยิ้มของเขาใจก็เต้นระห่ำ
    ที่แค่ได้เดินผ่านใจก็เต้นแรงรัว
    ที่แค่ได้สบตาหัวใจก็ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
    ฉันคิดว่า...ฉันกำลัง 'ตกหลุกรัก' ใครบางคนอยู่ค่ะ♥





    Character








    Talks

    นี่เป็นแบบรีไรท์นะคะ จะเห็นได้ว่าตัวละครมีคาแรคเตอร์เปลี่ยนไปบ้าง
    และไรท์ก็ได้ปรับเนื้อเรื่องไปนิดหนึ่งด้วย เพิ่มบางอย่าง ตัดบางอย่างไป
    ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ หวังว่าจะชอบกันน้า




    แลกแบนเนอร์ได้น้า

    My Banner

    Friend's Banner

      119908782 (250×75)

    Theme & Review














    ?SYDNEY? Tiny Grey Pointer

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "จาก SM Sweet Review รับวิจารณ์นิยายแนวรักหวานแหวว"

    (แจ้งลบ)

    Diary Love บันทึกรักวัยใส นักวิจารณ์ S เค้าขอโทษนะตัวที่มาส่งงานช้ามากกกกก เอางานมาส่งแล้ววว คือพอดีเพิ่งสอบเสร็จสดๆ ร้อนๆ เลยได้มีโอกาสมาอ่านเสียที ได้รับงานแล้วก็ช่วยมาเม้นต์ยาวๆ ให้เค้านิดนะตัว ฮ่าๆๆๆ มาๆ เข้าเรื่องกันเถอะ ชื่อเรื่อง (6/10) อืม...มันดูไม่ค่อยบอกอะไรเท่าไหร่อ่า แบบว่า เท่าที่อ่านก็ยังไม่เจอว่านางเอกเขียนไดอารี่ไรงี้ ฮ่าๆๆ ... อ่านเพิ่มเติม

    Diary Love บันทึกรักวัยใส นักวิจารณ์ S เค้าขอโทษนะตัวที่มาส่งงานช้ามากกกกก เอางานมาส่งแล้ววว คือพอดีเพิ่งสอบเสร็จสดๆ ร้อนๆ เลยได้มีโอกาสมาอ่านเสียที ได้รับงานแล้วก็ช่วยมาเม้นต์ยาวๆ ให้เค้านิดนะตัว ฮ่าๆๆๆ มาๆ เข้าเรื่องกันเถอะ ชื่อเรื่อง (6/10) อืม...มันดูไม่ค่อยบอกอะไรเท่าไหร่อ่า แบบว่า เท่าที่อ่านก็ยังไม่เจอว่านางเอกเขียนไดอารี่ไรงี้ ฮ่าๆๆ อยากให้ใส่ความเป็นโครงเรื่องของเรื่องนี้ลงไปหน่อยอ่ะค่ะ เท่าที่อ่านก็จะเป็นพวก ชีวิตแอบรักรุ่นพี่ ใสๆ อะไรงี้อ่า แต่คือชื่อภาษาไทยก็โอเคนะคะ เพราะแบบ วัยนี้มันวันใสจริงๆ คืออ่านแล้วแบบ เออ...ใสมากจริงอ่ะ ฮ่าๆ การตกแต่งบทความ (2/5) หน้าแรกดูน่ารักมากเลยค่ะ ดูใสๆ งุงิๆ แนวนิยายรักกุ๊กกิ๊กเลยจริงๆ แต่ตอนย่อยนั้น เปิดมาบทนำเราก็ต้องเพ่งหนักนิดนึง รู้สึกว่าธีมที่นำมาใช้นั้นเหมาะแก่การใส่หน้าแรก แต่ไม่เหมาะแก่การใส่ในเนื้อหา เพราะทำให้ตัวหนังสือสีจาง และแบคกราวด์สว่างจนทำให้แสบตาเล็กน้อย อันนี้เป็นแค่บางบทอย่างเช่นบทนำ และบทที่สองนอกจากนั้นตัวหนังสือยังมีขนาดเล็ก ทำให้อ่านยาก ควรปรับขนาดตัวอักษรให้พอเหมาะ เราแนะนำปรับเป็น font 18 แล้วก็เปลี่ยนธีมให้สีเข้มกว่านี้นิดนึงเนอะ เพราะนักอ่านบางคนหากเปิดมาเจอตัวหนังสืออ่านยากก็จะปิดหน้าต่างไปเลยก็มี เพื่อป้องกันก็ทำให้อ่านสบายตาหน่อย บทบรรยาย (17/20) งั้นขอไล่ไปเป็นบทๆ เนอะ ทั้งนี้ไรต์ควรดูด้วยว่าสิ่งที่เราแนะนำนั้นสมควรที่จะแก้ไขไหม หรือตรงไหนเราเข้าใจผิดไปเองที่ไรต์เห็นว่าควรเก็บไว้ดังเดิม เพราะเราวิจารณ์ตามฟีลเราเอง บทนำ เปิดบทมา ควรมี ‘ณ’ แล้วค่อยตามด้วยสถานที่ค่ะ เพื่อบอกว่ามันคือสถานที่ที่ตัวละครอยู่ เบิกตาโพร่ง > โพลง เราว่าบทนี้ไรต์ยังไม่ต้องพูดถึงบีมและกิ๊งก็ได้ค่ะ เพราะตัวละครยังไม่มีบทบาทอะไรเลย หรือถ้าอยากใส่ควรอธิบายหรือใส่บทสนทนาของพวกเขาเข้าไป จะทำให้นักอ่านเห็นนิสัยคร่าวๆ ของตัวละครด้วย บทนี้ส่วนตัวเราคิดว่า เนื่องจากเป็น ม.1 แล้วเข้าโรงเรียนมาปีแรก ควรบรรยายสภาพแวดล้อม บรรยากาศในโรงเรียนที่แปลกใหม่สำหรับพวกเขานิดนึง ให้คนอ่านเห็นภาพมากขึ้นด้วย เนื่องจากบทต่อไปบอกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป ควรอธิบายให้เข้าใจว่าเปลี่ยนจากแบบไหนเป็นแบบไหนด้วยจ้า บทหนึ่ง อ่านบทนี้แล้วรู้สึกว่าวงเล็บมันเยอะไปนิด อารมณ์เลยไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าไหร่ หากเอาออกมาเป็นบทบรรยายได้เลยก็จะทำให้อารมณ์ต่อมากกว่านี้ค่ะ อย่างเช่น “ม.ภู” (ม. ย่อมาจากมาสเตอร์...) สามารถเขียนว่า เพื่อนหมายถึงมาสเจอร์ภูซึ่งเป็นการเรียกย่อกันของที่นี่ ไรงี้อ่ะค่ะ เพราะวงเล็บเกี่ยวกับโรงเรียนนั้นเยอะมาก อย่างการพักเบรคด้วย เรื่องนี้สามารถใส่เข้าไปในเนื้อเรื่องเลยแทนที่จะบอกได้ ให้คนอ่านรู้เองอ่ะค่ะ เพราะบางทีมันอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องบอกก็ได้ นี่คือการลดความเยิ่นเย้อในบทบรรยายด้วยจ้า ปล. ส่วนใหญ่เราคิดว่าครูผู้ชายจะเรียกว่า มิสเตอร์ มากกว่า มาสเตอร์ หรือเปล่าเอ่ย...อันนี้เท่าที่เคยเจอมานะคะ จะมีเรื่องคำซ้ำในประโยคเดียวกัน หรือใกล้ๆ กันอยู่ค่ะ อย่างเช่น เพราะแถวนี้จะมีที่นั่งสามที่นั่ง คำซ้ำจึงทำให้อ่านแล้วเกิดความรู้สึกไม่ลื่นไหล สามารถตัดคำว่า นั่ง ที่สองออกได้เลยค่ะ ฉันตอบกิ๊ง กิ๊งพยักหน้า... เปลี่ยนกิ๊งที่สองเป็น เธอ ได้ค่ะ แอบเอามือเคาะหัวตัวเองโทษฐานทำตัวเองขายขี้หน้า ตัด ตัวเอง แรกออกก็ได้จ้า แบบนี้ โดยเฉพาะสรรพนามที่ใช้ซ้ำๆ กันเป็นค่อนข้างบ่อยและเป็นแทบทุกบท ยังไงไรต์ลองเปลี่ยนเป็น คนตรงหน้า เธอ เขา อีกฝ่าย อะไรแบบนี้เพื่อให้อ่านไม่ติดขัดได้ค่ะ “เจอกันคราบหน้า...” > คาบ “...เข้าใจ๋” > ใจ๊ ฉันเดินมาที่ล็อกเกอร์... คิดว่าใช้คำว่า เดินไป น่าจะเหมาะกว่าหรือเปล่าเอ่ย หนูจะเป็นลมกลางหน้าห้อง...กลางหน้าห้อง...ทำไมเราว่ามันแปลกๆ ฮ่าๆๆๆ เราว่าตัดคำว่า หน้า ออกดีกว่าอ่า กลางหน้าห้องอ่านอีกทีก็เข้าใจแหละว่าอยู่หน้าห้องและตรงกลาง แต่แบบ...มันแปลกๆ ฮ่าๆ บทที่สอง บทนี้เปิดมาบอกเลยว่า เห็นตัวหนังสือแล้ว เฮือกฮาก...มันจางและสีขาวแสบตามาก แง่ ไปปรับสีตัวหนังสือให้เข้มหน่อยนะค้า TOT หรือาจจะเรียกว่าห้อนหิน > หรือ “ลิฟต์เสีย โชคร้ายหน่อยนะเพื่อน” บางทีฉันก็คิดว่าถ้ากิ๊งปากเสียน้อยกว่านี้ก็คงดี อืมมม เราอ่านแล้วเรารู้สึกว่ากิ๊งแสดงความสงสารมากกว่าทำปากเสียใส่เพื่อนอ่ะค่ะ แบบ ถ้าเป็นเราเจอเพื่อนพูดงี้เราไม่ได้รู้สึกไม่ดีอ่ะ คงจะแบบขำๆ เออ ใช่มะๆ มากกว่าอ่ะ แต่ต่อไปที่บีมปลอบใจทำให้เราคิดว่า คำพูดของกิ๊งมันทำให้เสียความรู้สึก ซึ่งเราไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่อะไรอ่ะค่ะ ฮ่าๆๆ อันนี้ก็ความคิดเห็นส่วนตัวเราเนอะ เขาผงักหัวเชิงขอโทษ ควรใส่คำว่า เป็น ตรงก่อน เชิง จ้า ตอนนี้หลังจาก 50% แล้ว เราว่าไรต์ใช้คำว่า น่ารัก เยอะไปอ่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆ คือไม่รู้ว่าต้องการเน้นหรือเปล่า แต่คือหาคำอื่นมาพูดได้อ่า ให้มันดูแบบ มีคำธิบายเยอะๆ ให้เกิดผลกระทบต่อคนอ่านมากขึ้น “ดูถ้าจะหนักมากเลยนะเนี่ย” ตอนที่พี่เกมส์บอกว่า เรายังไม่ตอบคำถามพี่เลยนะ เรารู้สึกว่า...ไอ้ประโยคนี้มันเป็นคำถามตรงไหน ฮ่าๆๆๆๆ ถ้าจะเป็นคำถาม น่าจะบอกว่า หนักไหมน้อง ไรงี้มากกว่าอ่ะ “เอมไม่สบายหรือเปล่า แต่ตัวก็ไม่ร้อนแฮะ” อืม...เราค่อนข้างงงว่าทำไมพี่เกมส์ถึงพูดมาแบบนั้นทั้งๆ ที่ไม่ได้แตะหน้าผากหรือโดนตัวอะไรเอมเลยอ่ะค่ะ เรื่อง ม.แมนอ่ะค่ะ หากจะเรียกลับหลังอะไรแบบนี้ เราว่าปกติมันจะเป็นมุกลับของคนชั้นเดียวกัน หรือกลุ่มเดียวกันอะไรแบบนี้มากกว่าหรือเปล่า เลยรู้สึกเฮ้ย ไม่สนิทกันเลยแถมห่างกันตั้งสามปี ทำไมมี inside joke เดียวกันไรงี้ ต่อจากนี้เราว่ามันก็ค่อนข้างซ้ำๆ กับที่บอกไปแล้วล่ะค่ะ ต้องขอชมจริงๆ ว่าบทบรรยายดีเลยทีเดียว ไม่มีอะไรให้ติมากนัก มีแต่ชมมมม คืออ่านได้เพลินมากค่ะ งั้นสรุปแล้วก็มีพวกคำซ้ำในประโยคเดียวกันเป็นหลัก และเรื่องของการอธิบายให้เห็นภาพ แต่บางอย่างนั้นสามารถตัดออกได้เพื่อทำให้เนื้อความกระชับขึ้น จะพูดถึงเรื่องนี้ในเรื่องของการดำเนินเรื่องด้วยนะ โครงเรื่อง/ความน่าสนใจ (10/20) อืม....คือนิยายแนวๆ นี้เราสามารถหาได้ทั่วไปอ่ะค่ะ เป็นแนวรักกุ๊กกิ๊กสุดๆ นอกจากนี้เราว่ามันไม่ค่อยมีอะไรหวือหวาสักเท่าไหร่ อยากให้ไรต์ใส่ปม หรืออะไรน่าดึงดูดสักนิดให้มีความน่าค้นหา และให้ผู้อ่านอยากอ่านต่อมากขึ้น คือตอนอ่านแรกๆ เรามีความรู้สึกว่าพล็อตยังไม่ชัดหรือเปล่า เหมือนไปเรื่อยๆ ให้เขาหวานกันไปจนรักกันในที่สุด คือเดาทางเรื่องได้ค่อนข้างง่าย แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่เราเดามันถูกหรือเปล่านะ แต่คือมันให้ความรู้สึกแบบนั้นอ่ะค่ะ จนกระทั่งมีต้าร์โผล่มาก็เออ ดีขึ้น วิธีแก้เรื่องนี้คือการเขียนพล็อต หรือ treatment ไปเลยก็ได้ค่ะว่าเราแพลนจะมีกี่บท แต่ละบทจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพื่อให้คนเขียนเห็นภาพรวมของนิยายตัวเอง และจำกัดได้ว่าควรมีเหตุการณ์อะไรที่สำคัญ และดึงไปอีกจุดได้อย่างลื่นไหล เหตุการณ์ไหนที่ไม่สำคัญและตัดออกได้เพื่อให้ไม่เกิดความยืดยาว และทำให้พล็อตไม่เป็นรูปทรง จะได้กระชับๆ เนอะ อันนี้ก็ความคิดเห็นของเราน้า ผิดพลาดยังไงขออภัยจริงๆ ตัวละคร (13/20) ต้องบอกว่าไรต์ทำได้ดีในด้านของตัวละครหลักอย่างเอม เพราะเราเห็นคาแร็คเตอร์ของเอมชัดเจนทีเดียว ติดใจอยู่ประโยคนึง...คือ “แล้วนี่พี่ไปต้องไปซ้อมรึไงเนี่ย” ในบทสอง รู้สึกมันไม่เข้ากับคาแร็คเตอร์เอมเท่าไหร่อ่ะ ปกติเอมแบบ พูดเพราะๆ เขินๆ อายๆ จากการอ่าน เราว่าตัวละครบางคนที่ถูกกล่าวถึงนั้น ไม่มีบทบาทอะไรเลยทั้งเรื่อง หรือในช่วงเวลาใกล้ๆ กับตอนที่พูดถึง ทำให้ข้อมูลที่ให้นักอ่านมามัน...เรียกว่ายังไงดี มันค่อนข้างสูญเปล่าอ่ะค่ะ สามารถเปลี่ยนไปแนะนำตัวละครนี้ในบทต่อไปได้ หรือไม่ก็ตัดออกไปเลย ที่เราเห็นก็จะมีพวกครูเยอะหน่อย ส่วนพี่ต้าร์ อืม...คนนี้เราว่า เนื่องจากเอมได้พูดไว้ว่า ไม่มีใครในโรงเรียนไม่รู้จัก แม้ต้าร์จะโผล่มาในบทหลังจากนี้ แต่การที่มีชื่อเสียงในโรงเรียน ทำให้เราว่าควรจะกล่าวถึงหน่อยในบทแรกๆ อ่ะค่ะ แต่ก็ต้องทำให้เหมาะสมด้วย เราว่าตัวละครเอมกับเกมส์ ความสนิทสนมมันไม่น่าจะก้าวกระโดดขนาดนี้อ่า คือควรมีเหตุการณ์บังคับหรืออะไรบางอย่างให้เขามาอยู่ด้วยกันดีกว่า แบบให้มันค่อยๆ พัฒนา ที่หักคะแนนไปเป็นเพราะเห็นว่าตัวละครมีคาแร็คเตอร์ทับซ้อนกันอยู่ อย่างเช่นกิ๊งกับบีม และเกมส์กับต้าร์ เรากว่าคล้ายๆ กันเลย สมมุติว่าพวกเขาพูดอะไรมาโดนที่ไรต์ไม่บอกว่าใครเป็นคนพูด เราจะเดาไม่ออกเลยค่ะว่าเป็นใครในสองคนนั้น อยากให้ใส่ความเป็นเอกลักษณ์ หรือคำพูดประจำตัว บุคลิกที่มีอยู่แค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่จะทำอะไรแบบนี้หน่อยเนอะ การดำเนินเรื่อง (14/20) ต้องยอมรับเลยว่าเราอ่านเพลินมาก การดำเนินเรื่องของไรต์ไม่ทำให้เราเบื่อ แต่ก็มีเจอบางประโยคที่ไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง สามารถตัดออกได้ค่ะ อย่างเช่นในบทแรกเลย ฉันหย่อนสมุดลงกระเป๋าเหมือนเดิม...ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าทำไมไม่ยัดไว้ใต้โต๊ะ... หรือตอนพูดถึงต้นไม้ที่ให้ออกซิเจนในบทสาม...นะคะคิดว่า ฮ่าๆ ไม่รู้สามหรือสี่นี่แหละตอนต้นเลย คือมันไม่ต้องก็ได้อ่ะค่ะ อ่านแล้วรู้สึกแอบทำให้เนื้อหามีความยาวโดยไม่จำเป็นไรงี้ ฮ่าๆ ยังไงไรต์ลองดูเอานะคะว่าประโยคไหนควรเก็บ ประโยคไหนควรตัด นอกจากนี้หลายครั้งที่เรารู้สึกงงๆ ค่ะ อาจเป็นเพราะไรต์อธิบายเร็วไปการใช้ภาษาแต่ละประโยคทำให้งง คืออาจเป็นที่เราเองเนี่ยแหละนะ เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ตัดฉึบฉับอะไรมากอ่ะ แต่อ่านแล้ว เออ...อะไรนะเมื่อกี้? นิดนึง กลับมาอ่านซ้ำก็เข้าใจแหละ แต่อ่านรอบเดียวแล้วยังประติดประต่อไม่ได้ ฮ่าๆ อย่างบทแรกเลย ตอนที่กิ๊งบอกว่าต้องส่งงานเพราะจะมีคนมาเอา เราค่อนข้างงง...ใช้เวลานิดนึงคิดว่า อ่อ ต้องส่งงาน แต่ก็สงสัยนิดๆ ว่าทำไมต้องส่งก่อน จะมีคนมาเอา...มาเอา...คือครูต้องการตรวจก่อนที่จะเข้าคาบ เลยให้คนมาเอาก่อนจะได้ไม่ต้องรอถึงตอนมีคาบเรียน ไรงี้ใช่ไหม อ่ะค่ะ อาจจะต้องอธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อย...คืออันนี้เราบอกว่าเลยมันอาจจะเป็นที่เราเองนะคะ แต่ก็มีหลายจุดเหมือนกันที่มันงงๆ สำหรับเรา แบบตอนบทนำก็ได้ค่ะ ที่มีลูกบาสฯ มาแล้วมีคนมาช่วย เราว่าไรต์อธิบายได้มากกว่านี้ ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นอ่ะค่ะ ความประทับใจจากนักวิจารณ์ (4/5) เราชื่นชมการบรรยายของไรต์ที่ทำให้เราฟินกับพี่เกมส์พี่ต้าร์มากอ่ะบอกเลย ฮ่าๆๆๆ รวมคะแนน (66/100) โอเคเลยน้า เราให้กำลังใจไรต์เพราะอยากบอกมากว่าคะแนนบทบรรยาย เราให้ไรต์นี่ค่อนข้างสูงเลยเท่าที่อ่านมาที่เป็นนิยายแนวนี้ สู้ๆ ปรับปรุงเรื่องการวางเนื้อหาจะทำให้นิยายไรต์สุดยอดเลยค่ะ   อ่านน้อยลง

    -S&M- | 30 ก.ย. 58

    • 3

    • 0

    คำนิยมล่าสุด

    "จาก SM Sweet Review รับวิจารณ์นิยายแนวรักหวานแหวว"

    (แจ้งลบ)

    Diary Love บันทึกรักวัยใส นักวิจารณ์ S เค้าขอโทษนะตัวที่มาส่งงานช้ามากกกกก เอางานมาส่งแล้ววว คือพอดีเพิ่งสอบเสร็จสดๆ ร้อนๆ เลยได้มีโอกาสมาอ่านเสียที ได้รับงานแล้วก็ช่วยมาเม้นต์ยาวๆ ให้เค้านิดนะตัว ฮ่าๆๆๆ มาๆ เข้าเรื่องกันเถอะ ชื่อเรื่อง (6/10) อืม...มันดูไม่ค่อยบอกอะไรเท่าไหร่อ่า แบบว่า เท่าที่อ่านก็ยังไม่เจอว่านางเอกเขียนไดอารี่ไรงี้ ฮ่าๆๆ ... อ่านเพิ่มเติม

    Diary Love บันทึกรักวัยใส นักวิจารณ์ S เค้าขอโทษนะตัวที่มาส่งงานช้ามากกกกก เอางานมาส่งแล้ววว คือพอดีเพิ่งสอบเสร็จสดๆ ร้อนๆ เลยได้มีโอกาสมาอ่านเสียที ได้รับงานแล้วก็ช่วยมาเม้นต์ยาวๆ ให้เค้านิดนะตัว ฮ่าๆๆๆ มาๆ เข้าเรื่องกันเถอะ ชื่อเรื่อง (6/10) อืม...มันดูไม่ค่อยบอกอะไรเท่าไหร่อ่า แบบว่า เท่าที่อ่านก็ยังไม่เจอว่านางเอกเขียนไดอารี่ไรงี้ ฮ่าๆๆ อยากให้ใส่ความเป็นโครงเรื่องของเรื่องนี้ลงไปหน่อยอ่ะค่ะ เท่าที่อ่านก็จะเป็นพวก ชีวิตแอบรักรุ่นพี่ ใสๆ อะไรงี้อ่า แต่คือชื่อภาษาไทยก็โอเคนะคะ เพราะแบบ วัยนี้มันวันใสจริงๆ คืออ่านแล้วแบบ เออ...ใสมากจริงอ่ะ ฮ่าๆ การตกแต่งบทความ (2/5) หน้าแรกดูน่ารักมากเลยค่ะ ดูใสๆ งุงิๆ แนวนิยายรักกุ๊กกิ๊กเลยจริงๆ แต่ตอนย่อยนั้น เปิดมาบทนำเราก็ต้องเพ่งหนักนิดนึง รู้สึกว่าธีมที่นำมาใช้นั้นเหมาะแก่การใส่หน้าแรก แต่ไม่เหมาะแก่การใส่ในเนื้อหา เพราะทำให้ตัวหนังสือสีจาง และแบคกราวด์สว่างจนทำให้แสบตาเล็กน้อย อันนี้เป็นแค่บางบทอย่างเช่นบทนำ และบทที่สองนอกจากนั้นตัวหนังสือยังมีขนาดเล็ก ทำให้อ่านยาก ควรปรับขนาดตัวอักษรให้พอเหมาะ เราแนะนำปรับเป็น font 18 แล้วก็เปลี่ยนธีมให้สีเข้มกว่านี้นิดนึงเนอะ เพราะนักอ่านบางคนหากเปิดมาเจอตัวหนังสืออ่านยากก็จะปิดหน้าต่างไปเลยก็มี เพื่อป้องกันก็ทำให้อ่านสบายตาหน่อย บทบรรยาย (17/20) งั้นขอไล่ไปเป็นบทๆ เนอะ ทั้งนี้ไรต์ควรดูด้วยว่าสิ่งที่เราแนะนำนั้นสมควรที่จะแก้ไขไหม หรือตรงไหนเราเข้าใจผิดไปเองที่ไรต์เห็นว่าควรเก็บไว้ดังเดิม เพราะเราวิจารณ์ตามฟีลเราเอง บทนำ เปิดบทมา ควรมี ‘ณ’ แล้วค่อยตามด้วยสถานที่ค่ะ เพื่อบอกว่ามันคือสถานที่ที่ตัวละครอยู่ เบิกตาโพร่ง > โพลง เราว่าบทนี้ไรต์ยังไม่ต้องพูดถึงบีมและกิ๊งก็ได้ค่ะ เพราะตัวละครยังไม่มีบทบาทอะไรเลย หรือถ้าอยากใส่ควรอธิบายหรือใส่บทสนทนาของพวกเขาเข้าไป จะทำให้นักอ่านเห็นนิสัยคร่าวๆ ของตัวละครด้วย บทนี้ส่วนตัวเราคิดว่า เนื่องจากเป็น ม.1 แล้วเข้าโรงเรียนมาปีแรก ควรบรรยายสภาพแวดล้อม บรรยากาศในโรงเรียนที่แปลกใหม่สำหรับพวกเขานิดนึง ให้คนอ่านเห็นภาพมากขึ้นด้วย เนื่องจากบทต่อไปบอกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป ควรอธิบายให้เข้าใจว่าเปลี่ยนจากแบบไหนเป็นแบบไหนด้วยจ้า บทหนึ่ง อ่านบทนี้แล้วรู้สึกว่าวงเล็บมันเยอะไปนิด อารมณ์เลยไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าไหร่ หากเอาออกมาเป็นบทบรรยายได้เลยก็จะทำให้อารมณ์ต่อมากกว่านี้ค่ะ อย่างเช่น “ม.ภู” (ม. ย่อมาจากมาสเตอร์...) สามารถเขียนว่า เพื่อนหมายถึงมาสเจอร์ภูซึ่งเป็นการเรียกย่อกันของที่นี่ ไรงี้อ่ะค่ะ เพราะวงเล็บเกี่ยวกับโรงเรียนนั้นเยอะมาก อย่างการพักเบรคด้วย เรื่องนี้สามารถใส่เข้าไปในเนื้อเรื่องเลยแทนที่จะบอกได้ ให้คนอ่านรู้เองอ่ะค่ะ เพราะบางทีมันอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องบอกก็ได้ นี่คือการลดความเยิ่นเย้อในบทบรรยายด้วยจ้า ปล. ส่วนใหญ่เราคิดว่าครูผู้ชายจะเรียกว่า มิสเตอร์ มากกว่า มาสเตอร์ หรือเปล่าเอ่ย...อันนี้เท่าที่เคยเจอมานะคะ จะมีเรื่องคำซ้ำในประโยคเดียวกัน หรือใกล้ๆ กันอยู่ค่ะ อย่างเช่น เพราะแถวนี้จะมีที่นั่งสามที่นั่ง คำซ้ำจึงทำให้อ่านแล้วเกิดความรู้สึกไม่ลื่นไหล สามารถตัดคำว่า นั่ง ที่สองออกได้เลยค่ะ ฉันตอบกิ๊ง กิ๊งพยักหน้า... เปลี่ยนกิ๊งที่สองเป็น เธอ ได้ค่ะ แอบเอามือเคาะหัวตัวเองโทษฐานทำตัวเองขายขี้หน้า ตัด ตัวเอง แรกออกก็ได้จ้า แบบนี้ โดยเฉพาะสรรพนามที่ใช้ซ้ำๆ กันเป็นค่อนข้างบ่อยและเป็นแทบทุกบท ยังไงไรต์ลองเปลี่ยนเป็น คนตรงหน้า เธอ เขา อีกฝ่าย อะไรแบบนี้เพื่อให้อ่านไม่ติดขัดได้ค่ะ “เจอกันคราบหน้า...” > คาบ “...เข้าใจ๋” > ใจ๊ ฉันเดินมาที่ล็อกเกอร์... คิดว่าใช้คำว่า เดินไป น่าจะเหมาะกว่าหรือเปล่าเอ่ย หนูจะเป็นลมกลางหน้าห้อง...กลางหน้าห้อง...ทำไมเราว่ามันแปลกๆ ฮ่าๆๆๆ เราว่าตัดคำว่า หน้า ออกดีกว่าอ่า กลางหน้าห้องอ่านอีกทีก็เข้าใจแหละว่าอยู่หน้าห้องและตรงกลาง แต่แบบ...มันแปลกๆ ฮ่าๆ บทที่สอง บทนี้เปิดมาบอกเลยว่า เห็นตัวหนังสือแล้ว เฮือกฮาก...มันจางและสีขาวแสบตามาก แง่ ไปปรับสีตัวหนังสือให้เข้มหน่อยนะค้า TOT หรือาจจะเรียกว่าห้อนหิน > หรือ “ลิฟต์เสีย โชคร้ายหน่อยนะเพื่อน” บางทีฉันก็คิดว่าถ้ากิ๊งปากเสียน้อยกว่านี้ก็คงดี อืมมม เราอ่านแล้วเรารู้สึกว่ากิ๊งแสดงความสงสารมากกว่าทำปากเสียใส่เพื่อนอ่ะค่ะ แบบ ถ้าเป็นเราเจอเพื่อนพูดงี้เราไม่ได้รู้สึกไม่ดีอ่ะ คงจะแบบขำๆ เออ ใช่มะๆ มากกว่าอ่ะ แต่ต่อไปที่บีมปลอบใจทำให้เราคิดว่า คำพูดของกิ๊งมันทำให้เสียความรู้สึก ซึ่งเราไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่อะไรอ่ะค่ะ ฮ่าๆๆ อันนี้ก็ความคิดเห็นส่วนตัวเราเนอะ เขาผงักหัวเชิงขอโทษ ควรใส่คำว่า เป็น ตรงก่อน เชิง จ้า ตอนนี้หลังจาก 50% แล้ว เราว่าไรต์ใช้คำว่า น่ารัก เยอะไปอ่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆ คือไม่รู้ว่าต้องการเน้นหรือเปล่า แต่คือหาคำอื่นมาพูดได้อ่า ให้มันดูแบบ มีคำธิบายเยอะๆ ให้เกิดผลกระทบต่อคนอ่านมากขึ้น “ดูถ้าจะหนักมากเลยนะเนี่ย” ตอนที่พี่เกมส์บอกว่า เรายังไม่ตอบคำถามพี่เลยนะ เรารู้สึกว่า...ไอ้ประโยคนี้มันเป็นคำถามตรงไหน ฮ่าๆๆๆๆ ถ้าจะเป็นคำถาม น่าจะบอกว่า หนักไหมน้อง ไรงี้มากกว่าอ่ะ “เอมไม่สบายหรือเปล่า แต่ตัวก็ไม่ร้อนแฮะ” อืม...เราค่อนข้างงงว่าทำไมพี่เกมส์ถึงพูดมาแบบนั้นทั้งๆ ที่ไม่ได้แตะหน้าผากหรือโดนตัวอะไรเอมเลยอ่ะค่ะ เรื่อง ม.แมนอ่ะค่ะ หากจะเรียกลับหลังอะไรแบบนี้ เราว่าปกติมันจะเป็นมุกลับของคนชั้นเดียวกัน หรือกลุ่มเดียวกันอะไรแบบนี้มากกว่าหรือเปล่า เลยรู้สึกเฮ้ย ไม่สนิทกันเลยแถมห่างกันตั้งสามปี ทำไมมี inside joke เดียวกันไรงี้ ต่อจากนี้เราว่ามันก็ค่อนข้างซ้ำๆ กับที่บอกไปแล้วล่ะค่ะ ต้องขอชมจริงๆ ว่าบทบรรยายดีเลยทีเดียว ไม่มีอะไรให้ติมากนัก มีแต่ชมมมม คืออ่านได้เพลินมากค่ะ งั้นสรุปแล้วก็มีพวกคำซ้ำในประโยคเดียวกันเป็นหลัก และเรื่องของการอธิบายให้เห็นภาพ แต่บางอย่างนั้นสามารถตัดออกได้เพื่อทำให้เนื้อความกระชับขึ้น จะพูดถึงเรื่องนี้ในเรื่องของการดำเนินเรื่องด้วยนะ โครงเรื่อง/ความน่าสนใจ (10/20) อืม....คือนิยายแนวๆ นี้เราสามารถหาได้ทั่วไปอ่ะค่ะ เป็นแนวรักกุ๊กกิ๊กสุดๆ นอกจากนี้เราว่ามันไม่ค่อยมีอะไรหวือหวาสักเท่าไหร่ อยากให้ไรต์ใส่ปม หรืออะไรน่าดึงดูดสักนิดให้มีความน่าค้นหา และให้ผู้อ่านอยากอ่านต่อมากขึ้น คือตอนอ่านแรกๆ เรามีความรู้สึกว่าพล็อตยังไม่ชัดหรือเปล่า เหมือนไปเรื่อยๆ ให้เขาหวานกันไปจนรักกันในที่สุด คือเดาทางเรื่องได้ค่อนข้างง่าย แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่เราเดามันถูกหรือเปล่านะ แต่คือมันให้ความรู้สึกแบบนั้นอ่ะค่ะ จนกระทั่งมีต้าร์โผล่มาก็เออ ดีขึ้น วิธีแก้เรื่องนี้คือการเขียนพล็อต หรือ treatment ไปเลยก็ได้ค่ะว่าเราแพลนจะมีกี่บท แต่ละบทจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพื่อให้คนเขียนเห็นภาพรวมของนิยายตัวเอง และจำกัดได้ว่าควรมีเหตุการณ์อะไรที่สำคัญ และดึงไปอีกจุดได้อย่างลื่นไหล เหตุการณ์ไหนที่ไม่สำคัญและตัดออกได้เพื่อให้ไม่เกิดความยืดยาว และทำให้พล็อตไม่เป็นรูปทรง จะได้กระชับๆ เนอะ อันนี้ก็ความคิดเห็นของเราน้า ผิดพลาดยังไงขออภัยจริงๆ ตัวละคร (13/20) ต้องบอกว่าไรต์ทำได้ดีในด้านของตัวละครหลักอย่างเอม เพราะเราเห็นคาแร็คเตอร์ของเอมชัดเจนทีเดียว ติดใจอยู่ประโยคนึง...คือ “แล้วนี่พี่ไปต้องไปซ้อมรึไงเนี่ย” ในบทสอง รู้สึกมันไม่เข้ากับคาแร็คเตอร์เอมเท่าไหร่อ่ะ ปกติเอมแบบ พูดเพราะๆ เขินๆ อายๆ จากการอ่าน เราว่าตัวละครบางคนที่ถูกกล่าวถึงนั้น ไม่มีบทบาทอะไรเลยทั้งเรื่อง หรือในช่วงเวลาใกล้ๆ กับตอนที่พูดถึง ทำให้ข้อมูลที่ให้นักอ่านมามัน...เรียกว่ายังไงดี มันค่อนข้างสูญเปล่าอ่ะค่ะ สามารถเปลี่ยนไปแนะนำตัวละครนี้ในบทต่อไปได้ หรือไม่ก็ตัดออกไปเลย ที่เราเห็นก็จะมีพวกครูเยอะหน่อย ส่วนพี่ต้าร์ อืม...คนนี้เราว่า เนื่องจากเอมได้พูดไว้ว่า ไม่มีใครในโรงเรียนไม่รู้จัก แม้ต้าร์จะโผล่มาในบทหลังจากนี้ แต่การที่มีชื่อเสียงในโรงเรียน ทำให้เราว่าควรจะกล่าวถึงหน่อยในบทแรกๆ อ่ะค่ะ แต่ก็ต้องทำให้เหมาะสมด้วย เราว่าตัวละครเอมกับเกมส์ ความสนิทสนมมันไม่น่าจะก้าวกระโดดขนาดนี้อ่า คือควรมีเหตุการณ์บังคับหรืออะไรบางอย่างให้เขามาอยู่ด้วยกันดีกว่า แบบให้มันค่อยๆ พัฒนา ที่หักคะแนนไปเป็นเพราะเห็นว่าตัวละครมีคาแร็คเตอร์ทับซ้อนกันอยู่ อย่างเช่นกิ๊งกับบีม และเกมส์กับต้าร์ เรากว่าคล้ายๆ กันเลย สมมุติว่าพวกเขาพูดอะไรมาโดนที่ไรต์ไม่บอกว่าใครเป็นคนพูด เราจะเดาไม่ออกเลยค่ะว่าเป็นใครในสองคนนั้น อยากให้ใส่ความเป็นเอกลักษณ์ หรือคำพูดประจำตัว บุคลิกที่มีอยู่แค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่จะทำอะไรแบบนี้หน่อยเนอะ การดำเนินเรื่อง (14/20) ต้องยอมรับเลยว่าเราอ่านเพลินมาก การดำเนินเรื่องของไรต์ไม่ทำให้เราเบื่อ แต่ก็มีเจอบางประโยคที่ไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง สามารถตัดออกได้ค่ะ อย่างเช่นในบทแรกเลย ฉันหย่อนสมุดลงกระเป๋าเหมือนเดิม...ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าทำไมไม่ยัดไว้ใต้โต๊ะ... หรือตอนพูดถึงต้นไม้ที่ให้ออกซิเจนในบทสาม...นะคะคิดว่า ฮ่าๆ ไม่รู้สามหรือสี่นี่แหละตอนต้นเลย คือมันไม่ต้องก็ได้อ่ะค่ะ อ่านแล้วรู้สึกแอบทำให้เนื้อหามีความยาวโดยไม่จำเป็นไรงี้ ฮ่าๆ ยังไงไรต์ลองดูเอานะคะว่าประโยคไหนควรเก็บ ประโยคไหนควรตัด นอกจากนี้หลายครั้งที่เรารู้สึกงงๆ ค่ะ อาจเป็นเพราะไรต์อธิบายเร็วไปการใช้ภาษาแต่ละประโยคทำให้งง คืออาจเป็นที่เราเองเนี่ยแหละนะ เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ตัดฉึบฉับอะไรมากอ่ะ แต่อ่านแล้ว เออ...อะไรนะเมื่อกี้? นิดนึง กลับมาอ่านซ้ำก็เข้าใจแหละ แต่อ่านรอบเดียวแล้วยังประติดประต่อไม่ได้ ฮ่าๆ อย่างบทแรกเลย ตอนที่กิ๊งบอกว่าต้องส่งงานเพราะจะมีคนมาเอา เราค่อนข้างงง...ใช้เวลานิดนึงคิดว่า อ่อ ต้องส่งงาน แต่ก็สงสัยนิดๆ ว่าทำไมต้องส่งก่อน จะมีคนมาเอา...มาเอา...คือครูต้องการตรวจก่อนที่จะเข้าคาบ เลยให้คนมาเอาก่อนจะได้ไม่ต้องรอถึงตอนมีคาบเรียน ไรงี้ใช่ไหม อ่ะค่ะ อาจจะต้องอธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อย...คืออันนี้เราบอกว่าเลยมันอาจจะเป็นที่เราเองนะคะ แต่ก็มีหลายจุดเหมือนกันที่มันงงๆ สำหรับเรา แบบตอนบทนำก็ได้ค่ะ ที่มีลูกบาสฯ มาแล้วมีคนมาช่วย เราว่าไรต์อธิบายได้มากกว่านี้ ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นอ่ะค่ะ ความประทับใจจากนักวิจารณ์ (4/5) เราชื่นชมการบรรยายของไรต์ที่ทำให้เราฟินกับพี่เกมส์พี่ต้าร์มากอ่ะบอกเลย ฮ่าๆๆๆ รวมคะแนน (66/100) โอเคเลยน้า เราให้กำลังใจไรต์เพราะอยากบอกมากว่าคะแนนบทบรรยาย เราให้ไรต์นี่ค่อนข้างสูงเลยเท่าที่อ่านมาที่เป็นนิยายแนวนี้ สู้ๆ ปรับปรุงเรื่องการวางเนื้อหาจะทำให้นิยายไรต์สุดยอดเลยค่ะ   อ่านน้อยลง

    -S&M- | 30 ก.ย. 58

    • 3

    • 0

    ความคิดเห็น