ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์ร้าย กลายรัก (ตอนจบแล้วจ้า)

    ลำดับตอนที่ #58 : เมื่อ(รัก)เกิดปัญหา 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.71K
      6
      28 ก.ค. 53

                   สองเดือนต่อมา ชีวิตคู่ของธัญวลัยและภีมภัทรเป็นไปอย่างปกติและมีท่าทีจะสุขขึ้นทุกวัน ตลอดเวลาที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแทบจะไม่มีการทะเลาะกันเลย ภีมภัทรตามรับ-ส่งธัญวลัยถึงที่ร้านทั้งคู่ช่วยกันเปิดร้าน เมื่อเสร็จภีมภัทรก็จะขับรถมาทำงานที่บริษัทตามปกติ บางครั้งในตอนกลางวัน ภีมภัทรก็มักจะมาฝากท้องที่ร้านกาแฟเป็นประจำ บางทีก็ถือโอกาสนัดพบกับลูกค้าเพื่อคุยถึงเรื่องธุรกิจที่ร้านธัญวลัยเสียเลย
     
                    ในตอนเย็นของ ขณะที่ธัญวลัยและการ์ตูนกำลังช่วยกันเก็บร้านให้เสร็จก่อนที่ภีมภัทรจะมา เสียงประตูที่ร้านดังขึ้น ธัญวลัยเผยยิ้มเข้าใจว่าภีมภัทรมารับ แต่เมื่อหันมาเห็นสีหน้าของเธอดูแปลกไป เพราะคนที่เข้ามาไม่ใช่คนที่เธอรอคอย แฮมเข้ามาที่ร้านด้วยอาการหมดอาลัยตายยากในชีวิต        

                    เธอผละไปดูแฮมทันที “อ้าว..ไอ้แฮม เป็นไรว่ะ”
     
                    “ธัญ...ฉันกำลังจะบ้าว่ะ หึ หึ” แฮมเค้นหัวเราะ ธัญวลัยไม่เข้าใจที่เพื่อนพูด “แก...เป็นไร มีปัญหาอะไร ฉันเห็นแกเป็นอย่างนี้ฉันไม่สบายใจเลยว่ะ” ธัญวลัยเตะไปที่ไหล่ของแฮมเบา ๆ
     
                    แฮมปล่อยโฮโผเข้ากอดเอวธัญวลัยไว้แน่น ต้องการหาที่พักพิง ฟูมฟายจนฟังไม่ได้ภาษา ธัญวลัยถอนหายใจ นึกสงสารเพื่อน “เฮ้อ..ใจร่ม ๆ เว้ยเพื่อน” เธอโอบแฮมช้า ๆ พลางตบหลังเขาเบา ๆ อย่างปลอบโยน หารู้ไม่ว่าพฤติกรรมของคนทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาของภีมภัทรที่ตั้งใจจะมารับธัญวลัยไปทานข้าวเย็นอย่างที่เคยทำทุกวัน
     
                       ชายหนุ่มหน้าเสีย เบือนหน้าไม่อยากจะเห็นภาพนั้น เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ลังเลว่าจะเข้าไปเดินหาดีหรือไม่ สุดท้ายเขาเลือกที่จะเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ การ์ตูนที่หิ้วถุงขยะเพื่อนำมาทิ้ง มองมาเห็นภีมภัทร ที่หันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
     
                     “พี่ภี...อ้าว...ไม่ทันเสียแล้ว” การ์ตูนงง ไม่สนใจ เดินหน้าทำงานให้เสร็จ แล้วตรงกลับบ้านเลย ปล่อยให้ชายหนุ่มกับหญิงสาวอยู่ตามลำพัง
     
                    เวลาผ่านไปสักพัก เมื่ออาการของแฮมเริ่มสงบลง ภายในร้านกาแฟของธัญวลัย เมื่ออยู่กันตามลำพัง แฮมจึงตัดสินใจที่จะเล่าปัญหาที่เขาเจอให้กับหญิงสาวฟัง ซึ่งเป็นปัญหาเดิมระหว่างพริมรตากับเขานั่นก็คือ เรื่องของความหึงหวงที่พริมรตามีขึ้นทุกวัน คราวนี้หญิงสาวอาละวาดหนักต่อว่าเลขาของลูกค้าที่จะขอสั่งสินค้าเพิ่มเพื่อไปจำหน่ายที่ญี่ปุ่น คราวนี้แฮมสุดทนต่อว่าพริมรตาไปหลายคำก่อนผลุนผลันออกมาแต่ก็ไม่รู้จะไปหาใครจึงตัดสินใจมาเจอธัญวลัยที่ร้าน แฮมคร่ำครวญด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมนับวันพริมรตาถึงทำกับเขาแบบนี้ เขานึกไปไกลจนอดคิดถึงทางตันระหว่างชีวิตคู่ของเขา เมื่อแฮมนึกถึงตรงนี้ทีไร น้ำตาลูกผู้ชายพาลจะไหล

                       ธัญวลัยเอ่ยประโยคแรกที่นั่งฟังมานาน “แฮม ฉันว่านะ พริมเขาคงจะจิตตก เฮ้ย...ไม่ใช่ เอ่อ....ตามประสาผู้หญิงมั้ง ที่มักจะน้อยใจ ที่ว่า หุ่นไม่ดี ไม่สวย เหมือนเมื่อก่อนไง น้ำหนักก็ขึ้น พุงก็ยื่น จะนั่ง จะยืนก็ลำบาก ก็เลยเกิดความกังวลว่า คิดการตั้งท้องคงเป็นภาระที่ให้สามีต้องคอยดูแลตัวเอง โน่น นี่ สารพัดก็พาลนึกไปกลัวว่าสามีจะรำคาญ น่ะ และไอ้ที่ว่ากลัวสามีจะรำคาญ ก็เลยเข้าใจไปไกลว่า สามีคงจะปันใจให้ไปหาคนใหม่ มั้งนะ” ธัญวลัยพยายามจะหาเหตุผลมาให้แฮมเข้าใจ

                    แฮมนิ่งคิดตามที่ธัญวลัยพูด “เออ จริงว่ะ..ถูกของแกว่ะไอ้ธัญ” แฮมยกแขนขึ้นมากอดคอหญิงสาวขอบคุณที่ทำให้เขา เข้าใจใจปัญหามากขึ้น ซึ่งเหตุผลที่ธัญวลัยกล่าวอ้างขึ้นมา เมื่อฟังแล้วก็มีความน่าจะเป็นไปได้มากทีเดียว

                    “ขอบใจแกมากว่ะ แกทำให้ฉันตาสว่างขึ้นเยอะเลย” แฮมเผยให้เห็นรอยยิ้มหลังจากนั่งฟูมฟายมาหลายนาที แฮมโผเข้ากอดหญิงสาวอีกครั้ง อย่างลืมตัว ภีมภัทรที่มองเห็นทั้งคู่จากด้านนอกหลังตัดสินใจว่าจะสังเกตทั้งคู่ด้วยความรู้สึกอยากรู้ แต่สิ่งที่เห็นก็พอจะให้คำตอบเขาได้มากทีเดียว ชายหนุ่มไม่สามารถทนดูได้ต่อไป เขาตัดสินใจขับรถออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว

                    ธัญวลัยและแฮมตัดสินใจกลับบ้านทันที ตลอดทางหญิงสาวพยายามติดต่อหาชายหนุ่มด้วยความว้าวุ่นในหัวใจ “เป็นไรหรือเปล่าน้า” ส่วนแฮมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สนใจแต่เรื่องของตัวเอง เร่งความเร็วให้กลับบ้านเพื่อไปหาภรรยาแสนงอน

                    เมื่อทั้งคู่กลับมาถึงบ้าน แฮมขอตัวผละไปหาพริมรตาในห้องนอนทันที ส่วนธัญวลัยก็ขอเข้าไปหาอะไรกินในครัว สิ่งที่หญิงสาวเห็นคือ ภีมภัทรนั่งกินเหล้าอยู่ที่ห้องครัว ธัญวลัยที่นึกโมโหภีมภัทรนั่งกินเหล้าอยู่ที่บ้านอย่างสบายใจ ไม่ยอมโทรหาเธอ ปล่อยให้เธอรอเก้อ แถมตัวเธอก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้อีก

                    “โทรบอกกันสักคำก็ไม่มี ฉันติดต่อหานายก็ไม่ได้” ธัญวลัยน้อยใจ คนนึกเป็นห่วงที่ไหนได้กลับมานั่งกินเหล้าสบายใจเฉิบ ไม่รู้เล้ย มีคนเป็นห่วง

                    “ก็ไม่อยากขัดความสุขใคร” ภีมภัทรพูดหน้านิ่ง ๆ ประชดหญิงสาว

                    “ความสุข ความสุข อะไร?” ธัญวลัยงง เกาหัว อย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด

                    ภีมภัทรยิ้มเยาะ เข้าใจว่าธัญวลัยแสร้งทำ เขาผละออกไปจากตรงนั้นขึ้นไปยังห้องนอน ธัญวลัยที่ยังสงสัยไม่เข้าใจ จึงตามชายหนุ่มไปติด ๆ เพื่อต้องการความกระจ่าง

                    “หมายความว่าอย่างไง” ธัญวลัยคว้าแขนให้ภีมภัทรหันมาเผชิญหน้าเมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องนอน

                    “หมายความอย่างที่พูดไง” ภีมภัทรหันมาตีรวน

                    “คุณภีม!! คุณพูดมาชัด ๆ เลยดีกว่า ฉันไม่ฉลาดพอที่จะเข้าใจหรอกนะ” ธัญวลัยเริ่มฉุนที่ภีมภัทรโกธรเธอแบบไม่มีเหตุผล

                    “หึ หึ คุณกับไอ้แฮมไง”

                    “ทำไม? ฉันกับมันก็เพื่อนกันแล้วไง” หญิงสาวทั้งหงุดหงิด ทั้งไม่เข้าใจ

                    “หึ หึ เพื่อน เพื่อนกันต้องกอดกันขนาดนั้นเลยเหรอ ? เพื่อนกันมันก็ต้องมีระยะ ต้องมีช่องว่างบ้างสิ” ภีมภัทรอารมณ์ขึ้น ตะคอกใส่หญิงสาว  

                     ธัญวลัยที่ยังงงกับสิ่งที่ภีมภัทรพูด ก็เจอความกระจ่าง "งั้นนายก็เห็นน่ะสิ" ธัญวลัยพึมพำเบา ๆ 

                    “ผมเห็นคุณกอดกับมันน่ะ แล้วจะให้ผมคิดยังไง ทีผมกอดคุณ คุณทำอิดออด หมางเมิน ทีกับมัน...คุณ” ภีมภัทรเบือนหน้าหนี กลืนน้ำลายไม่อยากจะกล่าวอะไรออกมาแรง ๆ เพราะจะยิ่งทำร้ายหัวใจตัวเองมากกว่าและทำร้ายหญิงสาว

                    ธัญวลัยหลับตาพยักหน้าช้า ๆ อย่างเข้าใจในเรื่องราว “แล้วจะให้ฉันทำยังไง คนมันทุกข์ จะให้ฉัน....ฉัน ฉันปิดประตูใส่เขา แล้วไล่เขาไปน่ะเหรอ? ฉันทำไม่ได้” ธัญวลัยส่ายหัว

                    ภีมภัทรหลับตา อย่างเหนื่อยอ่อน พูดกับธัญวลัยเบา ๆ “คุณไม่เข้าใจความรู้สึกผมเลย ธัญ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเศร้า ๆ  เขาเดินออกจากห้อง ปิดประตูเสียงดังปัง ทำเอาหญิงสาวยืนทื่อเหมือนต้องสาป สับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ที่เกิดขึ้นเธออยากจะง้อ อยากจะพูดให้เขาเข้าใจ ว่าทั้งหมดที่ทำไปเพราะเป็นห่วงเพื่อนเท่านั้นจริง ๆ ไม่มีอะไรแอบแฝงอย่างที่เขาเข้าใจ แต่อีกใจนึงก็คือ ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้นแหละ คงยากหากจะไปอธิบายอะไรตอนนี้ นึกทบทวนตัวเองด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจ “คุณนั่นแหละที่ไม่เคยเข้าใจฉันเลย คุณภีม” ธัญวลัยครางทรุดนั่งที่พื้นอย่างหมดแรง ไม่นานเสียงรถยนต์ก็สตาร์ทเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว
     
                     ส่วนแฮมที่เข้ามาที่ห้องก็เห็นภรรยาแสนงอนนั่งกุมท้องด้วยความเจ็บปวด ร้องโอดโอย เขาดิ่งตรงด้วยความตื่นตระหนก “พริม..คุณเป็นไร”

                    “พริม...พริมเจ็บท้อง สะ สงสัยจะคลอดแล้ว” พริมบอกอย่างกระท่อนกระแท่น พลางหายใจหอบถี่ ๆ  แฮมกระวนกระวายหันซ้ายขวา คว้าตะกร้าข้าวของ พลางส่งเสียงเอะอะลั่นบ้านถึงอาการใกล้คลอดของภรรยา

                    ธัญวลัยตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ผลุนผลันออกมาดูด้วยความตกใจปนห่วง เห็นแฮมประคองพริมรตาด้วยความทุลักทุเล สีหน้าพริมรตาซีดเซียวมีเหงื่อซึมตามหน้าผากและขมับ มือกุมท้องร้องโอดโอย อย่างเจ็บปวดทรมาน ธัญวลัยรีบช่วยแฮมประคองพริมรตา ไม่นานนัก เสียงเป็นใหญ่และภรณ์พรรณก็ออกมาดูด้วยความเป็นห่วง เห็นอาการพริมรตาจึงพากันไปที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

                    หน้าห้องคลอด แฮมเดินไปมาด้วยความกระสับกระส่าย เป็นใหญ่และภรณ์พรรณนั่งลุ้นกับการเกิดสมาชิกใหม่อย่างตื่นเต้น นึกตั้งชื่อเล่น-ชื่อจริงให้กับตัวน้อย ๆ ที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาบนโลกในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ส่วนธัญวลัยกระวนกระวาย พยายามติดต่อหาภีมภัทร

    -------------------------------------------------------------------------------
    จบไปอีกตอนแล้วนะจ๊ะ งานเข้านางเอกของเราซะแล้ว จะทำยังไงดีล่ะ? เม้นต์โหวตกันด้วยนะ รักคนอ่านทุกคนจ้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×