ระหว่างทางที่ภีมภัทรขับรถเพื่อจะกลับบ้านก็คิดทบทวน ถึงสิ่งที่ทำกระทำกับธัญวลัยแม้จะรู้สึกผิด แต่คงมีวิธีนี้วิธีเดียวที่จะทำให้เค้าคอยจับตาพฤติกรรมของทั้งสองว่าเป็นไปอย่างที่เค้าคิดหรือไม่ แม้ว่าจะมีข้อเสียและเสี่ยงอยู่บ้าง แต่มันก็น่าลองอีกทั้งการกระทำดังกล่าวเป็นการยิงนกทีเดียวได้ถึงสอง เพราะจะทำให้น้องสาวเค้าสบายใจได้ว่า เมื่อธัญวลัยมีแฟนเมื่อไร แฮมซึ่งเป็นน้องเขยของเค้าคงไม่กล้าไปยุ่งวุ่นวายกับธัญวลัยอีก หนำซ้ำบุคคลที่เป็นแฟนธัญวลัยก็คือเค้า นายแฮมคงไม่กล้าแหยมเป็นแน่
ด้านธัญวลัยเมื่อกลับเข้าบ้านก็หนีขึ้นห้อง เก็บตัวอยู่อย่างนั้น แม้เฮียกับมาม้าจะเรียกก็ไม่ยอมขานรับ ไม่พูดไม่จา สร้างความเป็นห่วงให้แก่มาม้าและเฮียอ๋องเป็นอย่างมาก มาม้าตัดสินใจจะไปพูดอีกครั้งกับสามีให้ยอมเปลี่ยนใจ เพื่อเห็นแก่ลูก แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ “อั้วบอกแล้วไง ว่าจะให้มันแต่งงาน เกิดเรื่องขนาดนี้รู้ถึงไหน อายถึงนั่นนี่แล้วลื้ออย่าพูดเรื่องนี้กับอั้วอีกนะ” เตี่ยพูดด้วยความโมโห แล้วเดินหนีออกจากห้องไปเลย ทิ้งให้มาม้านั่งกลุ้มใจอยู่ตรงนั้น หัวอกของคนเป็นแม่เห็นลูกทุกข์ แม่ทุกข์ยิ่งกว่า แต่จะให้ทำอย่างไร ในเมื่อสามีหัวรั้น ไม่ยอมใคร พูดคำไหนต้องเป็นคำนั้นเสียด้วยซิ มาม้าคิดได้แต่ปลง ส่วนเฮียอ๋องเมื่อดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ ก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี นอกจากจะรอให้สถานการณ์สงบลงกว่านี้ค่อยว่ากัน จากนั้นก็เข้าไปที่โรงงานเพื่อคุมคนงานที่โรงงานผลิตเส้นก๋วยเตียว
เมื่อภีมภัทรขับรถเข้าถึงบ้านก็พบกับภรณ์พรรณแม่ของเค้าซึ่งนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกของบ้าน เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ภีมภัทรหายตัวไปทั้งวันตั้งแต่เมื่อวาน “เมื่อวานไปไหนมาน่ะลูก กลับซะเช้าเชียว” ภีมภัทรยิ้มอย่างเอาใจผู้เป็นแม่และบอกกับแม่ว่า “ที่ผมหายไปเมื่อวาน ผมไปหาลูกสะใภ้มาให้แม่ไงครับ” ภีมภัทรพูดอย่างติดตลกและก็หอมแก้มแม่อย่างเอาใจ แล้วก็ขอตัวไปเตรียมตัวทำงาน เพราะนี้ก็สายมากแล้ว
“ห๊ะ..ภีมลูกว่าไปหาสะใภ้มาให้แม่เหรอลูก” ภรณ์พรรณตะโกนถามลูกชายเพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินจากปากลูกชายคนเดียวของเธอ
“ครับ แม่ แม่กับพ่อก็ต้องเตรียมตัวไว้นะครับ” ภีมภัทรส่งเสียงกลับมา
ภรณ์พรรณเมื่อได้ยินที่ลูกชายพูดก็แปลกใจปนดีใจ ที่ร้อยวันพันปีไม่เห็นมีทีท่าว่าจะคบใครจริงจังสักราย เพราะตั้งแต่เรียนจบก็ช่วยธุรกิจเรื่อยมา ไม่มีข่าวคราวว่าจะสนใจสาวคนไหน บางครั้งก็นึกแปลกใจว่าลูกจะมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนหรือเปล่า แต่สิ่งที่ได้ยินมาในวันนี้สร้างความดีใจให้กับภรณ์พรรณเป็นอย่างมาก และรู้สึกสนใจผู้หญิงที่จะมาเป็นสะใภ้ จนนั่งยิ้มอย่างนั้นอยู่คนเดียว
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ด้านพริมรตาเมื่อแฮมต้องไปห้องประชุม ก็อาศัยจังหวะที่แฮมไม่อยู่เข้าไปที่ห้องทำงานหยิบมือถือที่แฮมวางไว้ที่โต๊ะทำงาน เพราะจากเหตุการณ์เมื่อวานยังคงความสงสัยใจพฤติกรรมของสามี จึงแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเช็กดูว่าเมื่อวานสามีของเธอนั้นติดต่อหาใคร และเมื่อเจอก็ทำให้เกิดความน้อยใจน้ำตาซึม ว่าทำไมสามีเธอจึงไม่บอกความจริงให้เธอรู้ เกิดความสงสัยว่าสามีจะนอกใจ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อการแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ของเค้าทั้งสองดูไม่ปกตินัก หากไม่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้น วันนั้นเป็นวันที่ทางบริษัทได้จัดโปรแกรมพาพนักงานในบริษัทเที่ยวซึ่งเป็นประจำทุกปี และขณะนั้นหลังจากเสร็จกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางบริษัทจัดขึ้น พริมรตาก็นึกอยากเล่นน้ำทะเล ซึ่งในวันนั้นมีคลื่นแรงมาก จนเธอถูกกระแสน้ำพัดออกไปไกลเรื่อย ๆ เธอร้องขอความช่วยเหลือและจมน้ำ ซึ่งแฮมก็เป็นพนักงานในบริษัทด้วยเหมือนกันและทำกิจกรรมอยู่บริเวณใกล้ ๆ ที่ตรงนั้น จึงว่ายน้ำพาเธอเข้าฝั่งและทำการผายปอดช่วยเธอได้จนสำเร็จ แต่ โชคไม่ดี ที่มีพนักงานบางส่วนบันทึกภาพสวย ๆ ของธรรมชาติและเผอิญมีรูปของเธอซึ่งนอนหมดสติกับการจมน้ำ และแฮมก้มลงผายปอดเพื่อทำการปฐมพยาบาลให้กับเธอ จนเธอฟื้นได้สติก็ขอบคุณแฮม ทั้งสองจึงได้รู้จักกันตั้งแต่คราวนั้น พริมรตาก็ประทับใจในตัวของแฮมตั้งแต่บัดนั้น แต่เรื่องราวของเธอและแฮมคงไม่บานปลายเมื่อ มีพนักงานในจำนวนที่ได้ไปทำกิจกรรมในวันนั้น นำรูปมาลงและทำการ Forward mail ไปทั่วบริษัท จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ทำให้เรื่องนี้แดงขึ้นมา เจ้าของบริษัทซึ่งเป็นพ่อของเธอเอง และ พี่ชาย ถึงกับต้องเรียกประชุม ตั้งแต่ผู้จัดการยัน หัวหน้าทุกแผนกกำชับให้พนักงานทุกคนหยุดการส่งเมล์ และให้หุบปากเรื่องนี้ให้สนิทและแจ้งให้พนักงานทั้งบริษัททราบว่า อีกไม่นานจะจัดงานแต่งระหว่างพริมรตากับแฮม เพื่อเป็นการหยุดคำครหาต่าง ๆ ให้เร็วที่สุด โดยที่ไม่ฟังคำทัดทานหรือคำอธิบายถึงที่มาที่ไปของภาพเหล่านั้นเลย นี่คือเหตุที่ทำให้ทั้งสองแต่งงานกันโดยที่พริมรตาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า แฮมนั้นรักเธอหรือไม่ หรือเพราะต้องการรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น
ณ ห้องประชุมแฮมเป็นผู้พรีเซ็นต์งานและความคาดการณ์ หรือ แนวโน้มทางการตลาดหากจะนำผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกสู่ตลาด โดยกลุ่มเป้าหมายโดยจะเจาะไปที่แถบเอเชียก่อน ซึ่งจะมีการจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นที่package จะเป็นภาพของวัฒนธรรมไทยต่าง ๆ เพื่อสื่อให้เห็นเอกลักษณ์ของไทยซึ่งเป็น concept ของบริษัท โดยแฮมเชื่อว่าสินค้าที่ดี ก็ต้องมี package ที่ดีสวยงามสามารถสร้างแรงกระตุ้นหรือจูงใจให้กับผู้บริโภคได้ไม่ยาก ซึ่งจะมีสำรวจตลาดหลังนำสินค้าไปทดลองตลาดว่าผู้บริโภคมีความพึงพอใจ ในด้านผลิตภัณฑ์หรือไม่ จะได้นำมาพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น นายภีมภัทรกับนายเป็นใหญ่ บิดาของนายภีมภัทร ประธานบริษัท และผู้จัดการแผนกต่าง ๆ ก็เข้าร่วมกันฟังการประชุมในครั้งนี้ด้วย หลังจากแฮมเสนองานเสร็จ ต่างก็ได้รับเสียงปรบมือ เป็นที่ยอมรับว่าผลงานของเค้าเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน นายแฮมรู้สึกภูมิใจเป็นที่สุดที่ผลงานของเค้าได้รับความชื่นชอบและเป็นที่ยอมรับของคนในบริษัท ซึ่งผลงานนี้แหละที่จะลบคำครหาทั้งหมดทั้งมวลเสียที เพราะหลายเดือนผ่านมาเค้าทุ่มเทกับงานชิ้นนี้อย่างมาก โดยไม่ค่อยมีเวลาใส่ใจให้กับภรรยาเท่าที่ควรเย็นนี้จะต้องฉลองกับภรรยาขี้น้อยใจของเค้าเสียหน่อย
เมื่อเสร็จจากห้องประชุมแฮมรีบไปหาพริมรตาที่ห้องทำงานพริมรตาเพื่อรายงานถึงความสำเร็จของเค้าและจะชวนไปดินเนอร์ตอนเย็นสร้างเซอร์ไพรส์และถือโอกาสไถ่โทษ ตลอดเวลาที่ผ่านมามัวแต่ทุ่มเทกับงานจนละเลยภรรยา แต่สิ่งที่พบคือความว่างเปล่า แฮมจึงเอาโทรศัพท์ในห้องทำงานกดโทรศัพท์หาพริมรตา
“หมายเลขที่ท่านเรียกอยู่ขณะนี้ ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว”
แฮมจึงเดินไปสอบถามพนักงานในแผนกก็ไม่พบคำตอบ แฮมจึงไม่คิดอะไรเพราะอย่างไรเสียเย็นนี้คงได้พบกับภรรยาที่บ้าน ถึงเวลานั้นค่อยว่ากัน
เมื่อตกเย็นที่บ้านของธัญวลัย ธัญวลัยคิดทบทวนหลายอย่างกับสิ่งที่นายภีมภัทร ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้กับเธอ และตั้งใจจะอดอาหารประท้วงประมุขของบ้าน
แต่ทว่า "โครก คร๊าก"
"โอ๊ยจะมาร้องอะไรตอนนี้นะ ไม่ได้เราตั้งใจจะประท้วงเตี่ยต้องทำให้ได้ เราต้องไม่หิว ไม่หิว อิ่มทิพย์ อิ่มทิพย์" ธัญวลัยพยายามสะกดจิตตัวเองไม่ให้หิว
แต่ว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้องเพราะตั้งแต่บ่ายจนเย็นป่านนี้แล้วยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเธอเลย ทำให้ระบบย่อยส่งเสียงครวญครางอยู่อย่างนั้น
"ไม่ไหว ไม่ได้ผล โอ๊ย! จะทำอย่างไงดีว่ะเนี่ย"
"เฮ้อ! เอาว่ะ" ทำให้ทิฐินั้นกินไม่ได้ ธัญวลัยตัดสินใจลุกจากห้องไปยังห้องครัว พอธัญวลัยมาถึงห้องครัว ก็พบว่าทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตาลงมือกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่สนใจเธอเลยซะนิด
“อ้าว ไง เลิกงอนแล้วก็นั่งลงกินข้าวได้แล้ว หัดโตเป็นผู้ใหญ่ซักที” เตี่ยต่อว่าธัญวลัย ธัญวลัยได้ยินอย่างนั้น แม้จะน้อยใจแต่ทำไงได้
ตอนนี้ ความหิวมันมีมากกว่าความน้อยใจ ธัญวลัยจึงตัดสินใจนั่งลงกินข้าว อย่างลืมตาย
ด้านแฮมตกเย็นหลังเลิกงานก็ไปหาดอกไม้สวย ๆ เพื่อหวังจะเอาใจภรรยาของเค้าและจะบอกข่าวดีเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ที่เค้าเป็นผู้เสนองานและถือโอกาสนี้ขอโทษ ที่ตลอดเวลานั้นไม่ได้เอาใจใส่ภรรยาเท่าที่ควร แต่พบมาถึงบ้านก็ไม่พบร่างของพริมรตาเลย สร้างความแปลกใจให้กับแฮมอยู่ไม่น้อยเพราะคาดว่าป่านนี้ภรรยาน่าจะถึงบ้านนานแล้ว โดยไม่แฮมไม่รู้เลยว่าตอนนี้พริมรตาไปสงบจิตสงบใจที่ทะเลแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพนัก เมื่อเห็นเวลาเย็นมากแล้วสมควรที่จะเดินทางกลับ พริมรตาจึงรีบขับรถกลับบ้านโดยเร็ว โดยไม่ทันระวังมีเด็กแว้นขี่มอเตอร์ไซค์วิ่งด้วยความเร็วขับตัดหน้ารถพริมรตาอย่างกระชั้นชิด พริมรตาตกใจหักหลบทันที รถของพริมรตาพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ข้างทางเสียงดัง ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นต่างออกมามุ่งดูด้วยความสนใจ
ความคิดเห็น