คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : กักตัว
บ้านพักริมทะเล จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อตะกี้ ธัญวลัยตาเหลือก หน้าซีด เพราะงานเข้าเสียแล้ว สีหน้าของภีมภัทรตอนนี้ทำเหมือนอยากจะฆ่าเธอเสียด้วยซ้ำ ภีมภัทรปิดมือถือของธัญวลัยและจัดการถอดแบตเตอรี่มือถือพร้อมยึดไว้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ธัญวลัยและคนอื่นติดต่อได้
“นี่นาย เอาโทรศัพท์ฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ” ธัญวลัยส่งเสียงด้วยความโกธรจัด
ภีมภัทรจับที่ต้นแขนธัญวลัยด้วยความโกธร “มานี่เลย ยัยตัวแสบ ไหนบอกว่าเป็นเพื่อนกับแฮมไง แล้วนี่อะไร ห่างกันได้ไม่เท่าไรโทรหากันแล้วเหรอเนี่ย ผมไม่เชื่อเด็ดขาดว่าคุณกับนายแฮมเนี่ยเป็นแค่เพื่อนกัน” ภีทภัทรพูดน้ำเสียงโมโห และรู้สึกเหมือนตนเองโดนหลอก เพราะสิ่งที่เห็นไม่เหมือนกับสิ่งที่ได้ยิน แฝงความรู้สึกหึงเล็กน้อย
“ฉันเจ็บนะ ปล่อยฉันซิ” ธัญวลัยพยายามดิ้นให้หลุดจากการถูกบีบที่แขนเพราะตอนนี้เธอเจ็บทั้งแขนและข้อมือที่ถูกภีมภัทรทำร้ายแบบนี้
ภีมภัทรปล่อยมือเพราะเห็นน้ำตาเริ่มคลอที่ดวงตาเรียวเล็กของธัญวลัย ภีมภัทรเกิดความสงสาร จึงปล่อยมือที่บีบทีต้นแขนของธัญวลัย
“นี่นายภีม แค่นี้นายก็คิดอย่างนี้แล้วเนี่ยนะ ไร้สาระ ทุเรศที่สุด ไม่มีเหตุผล เป็นถึงผู้จัดการสมองคิดได้แค่นี้เนี่ยะนะ” ธัญวลัยต่อว่าภีมภัทรอย่างโกธรจัด
“ขนาดโดนมัดอย่างนี้ยังจะปากดีอีกนะ คุณนี่ อืม..แต่จริง ๆ หากพิจารณาอีกที ดู ดู ไป น่าตาคุณก็ไม่เลวนะ แถมยังโสดเสียด้วย ผมว่า ผมจะขอเป็นฝ่ายเสียสละยอมเป็นสามีคุณก็แล้วกัน เพื่อจะได้ไม่ต้องให้นายแฮมมาวุ่นวายกับคุณอีก” ภีมภัทรพูดแล้วเดินเข้าหาธัญวลัยช้า ๆ ที่นั่งขยับหนีจากการถูกรุกของภีมภัทรจนสุดหัวเตียง ธัญวลัยได้แต่คดอยู่ที่หัวเตียงนอน ใบหน้าของภีมภัทรตอนนี้เข้ามาใกล้จนจะชิดใบหน้าของธัญวลัย ธัญวลัยเบี่ยงหน้าหนีสุดฤทธิ์ ภีมภัทรได้ทีแกล้งดมบริเวณซอกคอ และแก้ม แสร้งทำลวนลามธัญวลัย“นี่นายจะทำอะไรน่ะ อย่ามาทำบ้า ๆ นะ คุณนี่เฮี้ยนได้ตลอดเวลาเลยนะ จะบ้าหรือไง” ธัญวลัยตะโกน โวยวาย ทั้งที่ในใจนั้นก็กลัวว่าภีมภัทรจะทำอะไรบ้า ๆ
“ไม่หรอก ผมไม่ได้บ้า แต่ ตอนนี้ ตัวคุณ
“ฉันจะไปอาบน้ำได้อย่างไงเล่า ถูกมัดไว้อย่างนี้และไหนจะเสื้อผ้าอีกล่ะ”
ภีมภัทรก็ลุกจากเตียงแล้วเดินไปเปิดตู้เสี้อผ้าและโยนไปที่เตียงตรงหน้าของธัญวลัย
“ใส่เสื้อผ้าพวกนี้ไปก่อนก็แล้วกัน อ้อ! อย่าคิดหนีล่ะ เพราะผมจะรอคุณอยู่ตรงนี้ที่ห้องนี้ให้เวลาคุณอาบน้ำ 5 นาที เสร็จแล้วจะได้ลงไปทานข้าวเพราะนี่ก็เย็นมากแล้ว และผมหิวแล้วด้วย เร็ว ๆ นะ ไม่ฉะนั้นผมจะเข้าไปช่วยคุณอาบน้ำแน่ ๆ” ภีมภัทรขู่ธัญวลัย
“แก้มัดให้ฉันด้วยซิ ไม่งั้นฉันจะอาบน้ำอย่างไงเล่า” ธัญวลัยพูดด้วยความไม่พอใจ
ภีมภัทรจึงเดินมาที่เตียงนั่งลงข้าง ๆ จับตัวธัญวลัยเบี่ยงไปเล็กน้อยเพื่อทำการแก้มัดที่ข้อมือของธัญวลัย เมื่อแก้เสร็จ ก็พบว่าข้อมือของธัญวลัยเป็นรอยแดงช้ำ จนน่าสงสาร ภีมภัทรเกิดความรู้สึกผิดในใจแต่จะต้องดำเนินการต่อไปเพราะในเมื่อเหตุการณ์มาถึงขึ้นนี้แล้ว ก็ต้องเลยตามเลย
เมื่อธัญวลัยอาบน้ำเสร็จก็พบว่าภีมภัทรยังคงนั่งรออยู่ที่เดิมที่เค้าได้เอ่ยปาก เมื่อภีมภัทรเห็นว่าธัญวลัยเสร็จเรียบร้อยจึงดึงมือของธัญวลัย
“นี่นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย” ธัญวลัยสงสัยและเริ่มระแวงในตัวภีมภัทร
“ผมไม่พาคุณไปฆ่าหรอกน่าตามผมมาเร็วเข้า จะพาไปกินข้าวที่ห้องครัวข้างล่างจะไปไหม ผมเตรียมไว้ตั้งแต่บ่ายแล้ว” ภีมภัทรถามด้วยความมีอารมณ์
“นี่บอกกันดี ๆ ก็ได้น่า ไม่เห็นต้องฉุดกระชากกันเลย”
เมื่อมาถึงที่ห้องครัว ธัญวลัยก็พบว่ามีอาหารอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว
“เอ้า!! คุณมองแล้วมันจะอิ่มไหม กินข้าวได้แล้ว แล้วก็ตักข้าวให้ผมด้วย” ภีมภัทรออกคำสั่งแล้วนั่งลงที่โต๊ะรอธัญวลัยบริการให้
ธัญวลัยเบะหน้าหมั่นไส้ภีมภัทร แต่ก็ไม่ปฏิเสธเพราะตอนนี้เธอก็หิวแล้วเหมือนกัน
“นี่คุณเมื่อไร จะพาฉันกลับบ้านล่ะ ป่านนี่ เตี่ยกับม้าฉันคงห่วงฉันแล้วล่ะ” ธัญวลัยถามภีมภัทรเพราะเธอไม่เคยออกจากบ้านไปไหนไกล ๆ หรือค้างที่ไหนเลย ไม่ว่าเธอจะทำอะไรจะไปไหนเธอก็จะรายงานให้ที่บ้านทราบก่อนทุกครั้ง ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“พรุ่งนี้ ผมจะไปส่งคุณ” ภีมภัทรกล่าวพร้อมกับเอากับข้าวเข้าปากกินอย่างเอร็ดอร่อย
“นี่คุณ ฉันขอมือถือได้ป่าวล่ะ ฉันจะโทรบอกที่บ้านหน่อยน่ะ” ธัญวลัยขอร้องภีมภัทรและแบมือเหมือนเด็กขอตังค์กินขนม
“ไม่ได้ เพราะผมไม่ไว้ใจ เผื่อคุณโทรหานายแฮมหรือใครคนอื่นฟ้องว่าผมพาคุณมาอยู่ที่นี่” ภีมภัทรส่ายหน้าปฏิเสธ
“คุณ” ธัญวลัยจะทักท้วงแต่พูดไม่ออกเพราะเค้ารู้ใจเธอได้อย่างไร
“คุณคงไม่เข้าใจหรอกนะว่าลูกสาวสวยพ่อแม่เป็นห่วงน่ะเป็นอย่างไร คิดดูสิ หากคุณมีลูกสาวนะ และลูกสาวของคุณมาเจอสถานการณ์แบบนี้เข้าคุณจะรู้สึกอย่างไร” ธัญวลัยพยายามเกลี้ยกล่อม ตะล่อมให้ภีมภัทร ยกเหตุผลต่าง ๆ นานา หวังให้ภีมภัทรใจอ่อน แต่ภีมภัทรกลับไม่สนใจในคำพูดธัญวลัยเลย ซ้ำยังขู่ธัญวลัยอีก
“คุณธัญ หากคุณไม่หยุดพูดผมจะกักตัวคุณไว้จนกว่าผมจะพอใจ”
“ปัดโธ่ โว๊ย” ธัญวลัยสบถออกมา อย่างไม่ค่อยพอใจ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ธัญวลัยเป็นรองภีมภัทรอยู่มาก ทำอะไรภีมภัทรไม่ได้เลย ธัญวลัยได้แต่เก็บความแค้นนี้ไว้ในใจ
ที่บ้านของธัญวลัย
“วันนี้ธัญมันไปไหนของมันเนี่ยมีใครเห็นบ้างไหม วันนี้ก็ไม่ไปเปิดร้าน ไม่รู้คิดผิดหรือถูกกันแน่ให้ทุนมันไปเปิดร้าน” เตี่ยของธัญวลัยโวยวายและโมโห เพราะวันนี้ทั้งวันไม่เห็นแม้แต่เงาของลูกสาวเลย อีกทั้งยังไม่ไปเปิดร้านกาแฟอีกด้วย ถามใครก็บอกไม่รู้ ไม่เห็น เตี่ยธัญวลัยจึงโมโหสุด ๆ เพราะไม่ได้ดั่งใจ
“เตี่ย เดี๋ยวมันก็กลับมาเองล่ะ” เฮียอ๋อง พี่ชายคนโตของธัญวลัยกล่าว บอกให้เตี่ยใจเย็น ๆ
“หรือไม่ก็โทรหามันสิเตี่ย” เฮียอ๋อง เสนอทางออกเพราะเบื่อเสียเหลือเกิน เพราะน้องสาวของเค้าก็โต และมีวุฒิภาวะพอที่จะทำอะไรได้ด้วยตนเองแล้ว ไม่รู้เตี่ยจะหวงอะไรนักหนา
“เออ ดี งั้นไอ้อ๋อง โทรเลย โทรหาน้องสิ ดึกป่านนี้แล้วไม่เห็นหัว ร้านก็ไม่ไป จะโทรมาบอกสักคำก็ไม่มี พอถามมาม้าลื้อก็บอกว่ามันโตแล้ว โอ๊ย! ปวดหัว เก็กซิม” เตี่ยโวยวาย หัวเสียอย่างหนัก
“โอเค เตี่ย เดี๋ยวผมโทรให้” อ๋องตัดความรำคาญผู้เป็นบิดารีบเอาโทรศัพท์บ้านมาติดต่อหาน้องสาวทันที
“ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก Sorry the number you call....”
“เตี่ย ติดต่อธัญไม่ได้ สงสัยแบตมันหมดน่ะเตี่ย เตี่ยไปนอนเถอะ เดี๋ยวผมรอน้องมันเองไปเถอะ มาม้าก็ด้วย” อ๋องรีบตัดบท และเร่งให้ทั้งสองไปนอน
“เออ ๆ ถ้ามันกลับมานะ เรียกให้มันมาหาเตี่ยด้วยนะ อย่าลืมนะ” เตี่ยกำกับอ๋อง อย่างดีแล้วขึ้นบ้านนอน ปล่อยให้อ๋อง ลูกชายคนโตนั่งรอลูกสาวคนสุดท้อง อยู่ที่ห้องรับแขกของบ้าน
“เออ น๊ะ เดี๋ยวถ้ามันกลับมานะ ผมจะให้ธัญมัน รีบไปหาเตี่ยเลย” อ๋องย้ำคำพูดอีกครั้ง เพราะรำคาญส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย
“เออ แล้ววันนี้ไอ้ธัญมันไปไหนของมันว่ะเนี่ย เฮ้อ หาเรื่องให้เฮียอีกแล้วไอ้ธัญ” อ๋องบ่นพึมพำอยู่คนเดียวอย่างเอือม ๆ แล้วก็นั่งรอจนกลายเป็นนอนหลับอยู่ตรงนั้น
ด้านบ้านพักริมทะเล หลังจากทั้ง 2 ทานอาหารเสร็จ
ภีมภัทรก็บังคับใช้ให้ธัญวลัยทันที
“นี่คุณเดี๋ยวคุณก็ทำความสะอาดห้องครัว และล้างจานให้เรียบร้อยให้เสร็จภายในครึ่งชั่วโมงด้วยนะมิฉะนั้นคุณจะต้องเจอดีแน่ และอาจจะไม่ได้กลับบ้านด้วย คุณคงเข้าใจที่ผมพูดนะคุณ ธัญ” ภีมภัทรพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องครัวไปเลย ทิ้งให้ธัญวลัยนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารอยู่คนเดียว ทำให้ธัญวลัยอารมณ์เสียอย่างแรง แต่ก็ขัดภีมภัทรไม่ได้จึงลุกขึ้นทำตามที่ภีมภัทรสั่ง โดยบ่นพึมพำตลอด “นายภีม วันพระไม่ได้มีหนเดียวนายเผลอเมื่อไร นายเสร็จฉันแน่” เมื่อธัญวลัยทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยก็พบว่าภีมภัทรมานอนอยู่ตรงที่เตียงนอนเดิม
“นี่ คุณ คุณจะนอนตรงนี้เนี่ยนะ” ธัญวลัยเริ่มโวยวายเพราะมีความกังวล หากต้องนอนเตียงเดียวกันในห้องเดียวกัน ปรื้อ คิดแล้วสยิวกิ้ว
“ใช่ ผมจะนอนตรงนี้ ส่วนคุณก็ต้องมานอนตรงนี้นี่” ภีมภัทรตบไปเตียงที่ยังมีที่ว่างอยู่
“ไม่ง่ะ ฉันไม่นอนตรงนั้นเด็ดขาด” ธัญวลัยส่ายหัวหงิก ๆ “ฉันว่า คุณไปนอนห้องอื่นก็ได้นี่ บ้านคุณห้องก็ออกจะเยอะแยะคุณก็เลือกเอาสักห้องซิทำไมต้องนอนด้วยกันด้วยล่ะ ฉันไม่เอาเด็ดขาด”
“ไม่ได้ เพราะผมไปนอนห้องอื่น เดี๋ยวคุณก็หนีไปน่ะซิ ผมไม่โง่หรอกนะคุณ” ว่าแล้วภีมภัทรก็ลุกจากเตียงดึงแขนของธัญวลัยที่ยืนเหวออยู่กลางห้อง ให้มานอนที่เตียงร่วมกับภีมภัทร
“ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกน่ะ หน้าหลังของคุณเท่ากัน” ภีมภัทรจับตัวธัญวลัยหมุนไปมา สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าของธัญวลัยอย่างพินิจพิจารณา และพูดว่า “ผมไม่เกิดอารมณ์หรอกนอนเถอะ ผมง่วงแล้ว” ภีมภัทรพูดจาดูถูกพร้อมส่งสายตาเมินเฉยพินิจพิเคราะห์รูปร่างของธัญวลัยเสร็จ ภีมภัทรล้มตัวลงนอนทันที ทิ้งให้ธัญวลัยนั่งหน้าง้ำหน้างออยู่อย่างนั้น แถมยังโดนภีมภัทรดูถูกเสียอีก ธัญวลัยโมโหสุดขีดกลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่จึงปะทุสะร้ายภีมภัทรทันที
“นี่แน่ะ นายภีม นาย ตายแน่ หนอยมาว่าฉัน นายตายยยยยยย!!!!!” ธัญวลัยคล่อมตัวภีมภัทรแล้วก็เอาหมอนมาปิดหน้าปิดตาของภีมภัทร พอภีมภัทรปัดหมอนออก ธัญวลัยเอามือทั้งสองทั้งจิก ทั้งทึ้ง กัด ข่วนไปตามใบหน้าของภีมภัทร เพราะโกธรแค้นภีมภัทรที่มาพูดจาดูถูกรูปร่างของเธอ
ทั้งสองฉุดกระชากกันไปมาจน ภีมภัทรเริ่มเป็นฝ่ายได้เปรียบคร่อมธัญวลัยบ้าง ใบหน้าทั้งสองแนบชิดกัน ใบหน้าของภีมภัทรโน้มใกล้เข้าหาธัญวลัย ธัญวลัยมองหน้าภีมภัทรด้วยความหวั่น ๆ ในใจ จึงเอาศีรษะของเธอโขกกับศีรษะของภีมภัทร จนภีมภัทรร้องโอดโอย
“โอ๊ย!!! ฉันเจ็บนะยัยบ้า” ภีมภัทรผละออกจากร่างของธัญวลัยแล้วไปนั่งอยู่ข้างเตียง มือลูบหัวที่โดนโขกจนเจ็บ
ธัญวลัยเด้งตัวลุกขึ้นมามองหน้าภีมภัทรอย่างเอาเรื่อง และต่อว่าภีมภัทร “นายว่าฉันบ้า ฉันว่านาย
ธัญวลัยจะเอ่ยปากด่าภีมภัทรต่อแต่ต้องหยุดชะงักเพราะ ภีมภัทรมานั่งข้าง ๆ เธอพร้อมทั้งพูดว่า
“ถ้าเธอว่าฉันอีกคำล่ะก็ ฉันจะทำอย่างที่เธอกล่าวหาฉันแน่”
ธัญวลัยได้แต่ฮึดฮัดอยู่อย่างนั้น ภีมภัทรถอนหายใจเฮือกใหญ่และเอ่ยอย่างรำคาญกับธัญวลัยว่า “ผมง่วงและก็เหนื่อยแล้วด้วย ไม่อยากรบกับคุณ
ธัญวลัยดูพฤติกรรมดังกล่าวของภีมภัทร แต่ก็ไม่ไว้ใจ ชะโงกหน้าไปดูก็พบว่าภีมภัทรหลับตานอนแล้ว เธอจึงล้มตัวลงนอนบ้าง ไม่นานทั้งคู่ก็เข้าสู่ห้วงนิทราเพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
มีการรีไรท์ไหม่เพิ่มบทและดัดแปลงบทนิดหน่อยค่ะ ช่วยคอมเม้นต์ด้วยนะจ๊ะ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น