คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : หาฤกษ์
ตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น แฮมตื่นมาพบว่าภรรยาคนสวยยังนอนอยู่ จึงไม่อยากจะรบกวนจึงค่อย ๆ ลุกเพื่อจะอาบน้ำทำการเตรียมตัวเพื่อที่จะไปทำงาน โดยไม่ลืมโน้ตกระดาษไว้ที่หน้ากระจก เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จก็เดินลงมาที่โต๊ะอาหาร เพื่อทานอาหารเช้าซึ่งเป็นกิจวัตรอย่างนี้ทุก ๆ วัน แฮมจึงบอกกับภีมภัทรว่า
“พี่ภีม ครับ วันนี้ผมอยากให้พริมเขาหยุดงาน 1 วันนะครับ”
“ทำไมล่ะ ยัยพริมไม่สบายเหรอ” แฮมถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ....ก็ไม่เชิงหรอกครับ คือ....คือว่าพริมเขาพักผ่อนน้อยไปน่ะครับ” แฮมพูดแบบอ้อมแอ้ม
เป็นใหญ่ดูสถานการณ์ออกทันที เพราะอาบน้ำร้อนมาก่อน จึงตัดบทไปว่า “แกไม่ต้องไปถามมากถึงน้องให้มากหรอกภีม รีบกินข้าวแล้วก็ไปทำงานซะ เอ่อ...ถ้าหากว่าง ๆ นะ ก็ชวนหนูธัญมาทานข้าวเย็นที่บ้านเราสิ”
“ครับ พ่อ” ภีมภัทรรับปาก
“เอ่อ..นี่แกก็อย่าให้น้องมันตัดหน้าไปก่อนก็แล้วกัน555” เป็นใหญ่พูดแบบมีเลศนัย
“คุณนี่ เซี้ยวใหญ่แล้ว ทำอย่างกับวัยรุ่นไปได้” ภรณ์พรรณเหน็บเพราะหมั่นไส้ในตัวสามี
“เอ้า! คุณผู้ชายทั้งหลาย รีบกินข้าวแล้วก็ไปทำงานได้แล้วค่ะ” ภรณ์พรรณรีบเร่งให้ไปทำงานเพราะนี่ก็ใกล้เวลาทำงานแล้ว
เมื่อถึงที่บริษัท แฮมรีบเคลียร์งานของตนเองแล้วรีบเข้าไปพบภีมภัทรที่ห้องทำงานทันที
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” ภีมภัทรส่งเสียงออกไป ทั้งที่ยังก้มหน้าดูเอกสารที่อยู่ตรงหน้า
“พี่ภีมครับ ผมมีเรื่องอยากถาม” แฮมกล่าว
“ว่ามา” ภีมภัทรกล่าวด้วยน้ำเสียงฉุน ๆ เพราะยังเคืองกับเหตุการณ์เมื่อวานอยู่
“เมื่อวานพี่พาคุณพ่อกับคุณแม่ไปเจรจาสู่ขอธัญใช่ไหมครับ”
“ใช่ แล้วนายจะทำไม”
“ที่บ้านเขาว่ายังไงครับพี่”
“ก็ไม่ว่าอะไรดี ยินดีเสียด้วยซ้ำนะ อีกไม่นานก็จะไปดูฤกษ์แต่งงานแล้ว นายไม่ต้องห่วงหรอก” ภีมภัทรพูดโดยไม่เงยหน้ามองน้องเขยตัวดีด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามกลับให้ความสำคัญกับเอกสารที่อยู่ตรงหน้าเสียมากกว่า
“พี่ครับ ผมว่า...ถ้าพี่ไม่คิดจะรักธัญก็ปล่อยไปดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะเสียใจทั้งสองฝ่ายนะครับ” แฮมกล่าวอย่างขอร้อง เพราะไม่อยากให้เพื่อนเจ็บ ไม่ใช่ว่าภีมภัทรเป็นคนไม่ดี แต่แฮมก็พอจะดูออกว่าภีมภัทรมีแผนอะไร
ภีมภัทรได้ยินดังนั้นก็ปิดเอกสารที่อยู่ตรงหน้า แล้วเงยหน้ามาคุยกับน้องเขยตัวดีด้วยน้ำเสียงฉุน ๆ “นี่ ท่าทางนายจะห่วงธัญเขามากนะ พูดจาคล้ายกันเลยรู้ไหม แต่ฉันไม่สนว่ะ นายกลับไปได้แล้ว ทำงานของนายให้ดี และอย่าให้พริมเสียใจอีก” ภีมภัทรออกปากไล่แฮมทันที
“หมดธุระก็ออกไปได้แล้ว อ้อ! ทำใจไว้ด้วยล่ะกันว่าอีกไม่นานธัญก็จะมาเป็นครอบครัวเดียวกับฉัน นายไม่ต้องเป็นห่วง”
แฮมยังยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
“ฉันบอกให้ออกไปไง ไม่ได้ยินเหรอ ฉันยังไม่ได้ทำโทษนายนะ ที่ทำให้น้องฉันเสียใจ ระวังไว้ก่อน และหากน้องฉันไม่สบายหรือเป็นอะไรไปนะนายตายแน่” ภีมภัทรขู่
“พี่ครับ ผมกับพริมเราเข้าใจกันดีแล้วครับ แต่....”
“ออกไป ฉันจะทำงาน” ภีมภัทรตะคอกใส่แฮม แล้วเดินไปเปิดประตูห้องทำงานค้างไว้ และผลักให้แฮมออกไปนอกห้องโดยเร็ว
เมื่อแฮมเดินออกไปจากห้องทำงานภีทภัทร
ภีมภัทรก็นึกโกธรธัญวลัย คำรามออกมา “ฉันจะทำอย่างไรกับเธอดี ทำไมมีแต่คนถึงได้รักและเป็นห่วงเธอนักนะ”
ด้านธัญวลัยที่กำลังชงกาแฟอยู่ถึงกับจามออกมาเสียงดัง
“ฮัดเช่ย!! โอ๊ย!! ใครกำลังคิดถึงว่ะ” ธัญวลัยบ่นออกมาคนเดียว
“พี่ธัญ ไม่บายหรือเปล่า พักก่อนไหม” การ์ตูนถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ขอบใจมาก” ธัญวลัยไม่ต้องการให้เด็กสาวต้องเป็นห่วง แต่กับการที่เธอจามเมื่อตะกี้ก็อดที่จะทำให้นึกถึงภีมภัทรไม่ได้ เพราะเห็นเหตุการณ์เริ่มบานปลายไปใหญ่ก็เพราะเขาคนเดียว นายภีมภัทร เมื่อนึกถึงทีไรก็อดที่จะอารมณ์เสียไม่ได้ซะที
“เฮ้อ! เซ็งโว๊ย” ธัญวลัยสถบออกมาเบา ๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ต้องไปเจอวันอาทิตย์ที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่วัน
------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อวันอาทิตย์มาถึง ธัญวลัยต้องหงุดหงิดแต่เช้าเพราะมาม้าเรียกเธอตั้งแต่เช้า เพื่อมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไปดูฤกษ์แต่งงานที่ได้นัดไว้กับภรณ์พรรณ์และภีมภัทร
“โห่!! ม้า ไม่ต้องรีบก็ได้ นัดตั้ง 10 โมง นี่เพิ่งจะ 9 โมงเองนะ” ธัญวลัยบ่น
“ไม่ได้ ต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ เผื่อทางนั้นเขามาเร็วจะได้รีบไปเลย ไม่ต้องรอให้เสียเวลา” มาม้าบอกถึงเหตุผล
“แหม ม้า ดูท่าทางมาม้าจะเห่อว่าที่ลูกเขยมากกว่ามั้ง” เฮียอ๋องเอ่ย แซวมารดาตนเอง
“เดี๋ยวเหอะ” มาม้าทำท่าจะเขกมะเหงกใส่บุตรชาย แต่เฮียอ๋องรีบยกมือขึ้นมากันทันทีตามสัญชาตญาณ
เตี่ยก็เดินเข้ามาพร้อมกับพูดว่า “เตี่ยเห็นด้วยกับมาม้านะ เตรียมตัวไว้ก่อนนั่นแหละดี ไม่ใช่ว่าเขามาแล้วต้องมารอเราอีก มันดูไม่มี เสียมารยาท” เตี่ยพูดอย่างมีเหตุผลตามประสาคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน
“ครับ/ค่ะ” สองพี่น้องขานรับพร้อมกัน
เมื่อถึงเวลา 10 โมง ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ทั้งเง็กจูมาม้าของธัญวลัยและภรณ์พรรณแม่ของภีมภัทรต่างก็ดีด๊าสุด ๆ ผิดกับธัญวลัยที่หน้าง้ำไม่พอใจ แถมยังถูกบังคับให้นั่งหน้าคู่ไปกับภีมภัทร ส่วนผู้เป็นแม่ทั้งสองนั่งข้างหลังคนขับ ต่างก็พูดคุยด้วยความชื่นมื่น ที่ต่างเห็นบุตรของตนจะเป็นฝั่งเป็นฝา
“แม่ธัญ...เราจะไปไหนกันก่อนดีล่ะ” ภรณ์พรรณถามความเห็น
“เอ่อคุณพรรณ ดิฉันว่าเราไปหาพระท่านก่อน พระที่คุณพรรณว่าดูแม่นน่ะค่ะ” เง็กจู แสดงความเห็น
“ก็ดีนะคะ จะได้แวะไปทำบุญกันด้วย ว่าไหมธัญ” มาม้าถามความเห็นของลูกสาวที่ตลอดทางไม่พูดไม่จาเลยสักคำ
“ก็ค่ะม้า หนูเห็นด้วย” ธัญวลัยรับคำ พลางคิดในใจ “ดีจะได้ทำบุญล้างซวยไปด้วยในตัวเลย”
เมื่อไม่มีข้อขัดแย้งใด ๆ ภรณ์พรรณจึงบอกลูกชาย “ภีม เดี๋ยวเราไปที่วัดXXXX ก่อนก็แล้วกันนะลูก”
“ครับแม่”
จนเมื่อมาถึงวัด ภรณ์พรรณเดินนำบุคคลทั้งสามขึ้นไปที่ศาลาวัด เพื่อไปพบพระอาจารย์เพื่อมาทำการดูฤกษ์แต่งงานให้กับบุตรของทั้งสอง ขณะกำลังขึ้นบันไดธัญวลัยจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “เอ่อ...คุณป้าคะ มาม้าคะ เดี๋ยวหนูขอตัวไปไหว้พระตรงโน่นสักหน่อยนะคะ เผื่อได้แวะไปทำบุญอย่างอื่นด้วยนะคะ” นั่นก็เพราะเธอไม่อยากรับรู้เรื่องราวใด ๆ จึงปล่อยให้เป็นไปตามผู้ใหญ่จะจัดการก็แล้วกัน
“ก็ได้จ๊ะ ตามใจ” มาม้ากล่าว
“งั้นหนูไปก่อนนะคะ” ธัญวลัยยิ้มรับเพราะจะได้ไม่ต้องทนฝืนใจอยู่กับภีมภัทรซึ่งตัวการเรื่องราวทั้งหมด จึงรีบเดินไปอีกด้านหนึ่งของวัดเพื่อให้ไปจากตรงนี้โดยเร็วที่สุด
ภีมภัทรเห็นดังนั้นจึงรีบกล่าวขึ้นมาบ้าง “เอ่อ..แม่ครับ งั้นเดี๋ยวผมขอตามธัญเขาไปด้วยแล้วกัน ธัญจะได้มีเพื่อน แม่เสร็จธุระแล้วก็โทรหาผมนะครับ”
“จ๊ะลูก ไปอยู่เป็นเพื่อนน้องเถอะ” ภรณ์พรรณกล่าวอย่างอ่อนโยน
“ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ภีมภัทรรับปากอย่างแข็งขันแล้วรีบเดินตามธัญวลัยไปโดยเร็ว
ช่วยเม้นต์และโหวตด้วยนะคะ คนเขียนจะหมดใจแล้ว ToT
ความคิดเห็น