คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : จับผิด
ระหว่างทางที่ภีมภัทรพาธัญวลัยกลับบ้านก็สืบสวนธัญวลัยเป็นการใหญ่ถึงเหตุการณ์ที่อยู่บนโต๊ะอาหารเมื่อกลางวัน
“ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่า คุณ
“นี่คุณปวดร้าวอะไรมิทราบ” ธัญวลัยรำคาญภีมภัทรเพราะมัวแต่จ้องจับผิด อีกทั้งวกวนอยู่กับเรื่องเดิม ๆ ทั้ง ๆ ที่ผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้ว
“ถามอยู่นั่นแหละ เรื่องเดิม ๆ จะรื้อฟื้อทำไมอีกเนี่ย ถามแล้วถามอีก เป็นอันไซด์เมอร์หรือเปล่าเนี่ย ฉันก็บอกไปแล้วไง ว่าฉันกับแฮมน่ะเพื่อนกัน รู้จักมันมาก็นาน รู้จักมันก่อนจะรู้จักคุณเสียอีก มันก็ไม่ผิดหรอกที่คุณจะไม่รู้เกี่ยวกับอะไรตัวฉันเลย อ้อ! อีกอย่างนั้นหากจะเทียบความสำคัญล่ะก็ คุณน่ะไม่ถึงครึ่งของแฮมเสียด้วยซ้ำ” ธัญวลัยอธิบายและย้อนภีมภัทร
“ถ่านไฟเก่ามันคงคุขึ้นมาอีกล่ะซิ” ภีมภัทรพูดประชดกึ่งหึง
“มันก็ไม่แน่นะ ของอย่างนี้” ธัญวลัยยั่วภีมภัทร
“นี่คุณ ผมขอสั่งห้ามคุณเด็ดขาดนะ รู้บ้างไหมว่าเขานะมีคู่อยู่แล้ว อีกทั้งคุณก็มีผมอยู่ทั้งคนอย่างนี้” ภีมภัทรตะคอกใส่ธัญวลัยเพื่อเตือนสติ ด้วยความหึงโดยไม่รู้ตัว
“โห....นี่นายน้อย ๆ หน่อย ”ธัญวลัยตบที่ศรีษะของภีมภัทรเบาๆ
“โอ๊ะ..นี่คุณ” ภีมภัทรเริ่มโมโหจ้องหน้าธัญวลัยอย่างเอาเรื่อง
“ทำไม ที่ฉันตบที่หัวคุณน่ะ ก็เพราะเตือนสติคุณ ตบให้สมองด้านความจำมันทำงานคุณจะได้ไม่ต้องมาถามคำถามเดิม ๆ เรื่องเดิม ๆ อยู่นั่นแหละ ฉันรำคาญ” ธัญวลัยแผดเสียงใส่
“เอ๊ะ...หรือว่า...คุณหึงฉันใช่ป่ะ” ธัญวลัยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ภีมภัทร เค้นหาความจริง
“หลงตัวเอง” ภีมภัทรว่าธัญวลัย
“หรือว่าไม่จริง ฟังคุณพูดแต่ละอย่าง โอ๊ย!!! อารมณ์เสีย” ธัญวลัยหงุดหงิด “นี่คุณพอเหอะเลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า ขี้เกียจเถียงกับคุณแล้ว เราทั้งสองต่างก็รู้ดีว่าที่เรื่องมันเลยเถิดแบบนี้ก็เพราะคุณนั่นแหละ คุณระแวงฉันกับแฮม คุณถึงยอมเอาตัวเข้าแลก และจะบอกอะไรให้นะ ฉันน่ะไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณแม้แต่นิ้ดเดียว รำคาญก็รำคาญ อีกทั้งคุณก็ไม่-มี-สิทธิ์อะไรในตัวฉันด้วย เข้าใจไหม ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณรู้ไว้ซะด้วย เข้าไจ๋” ธัญวลัยเน้นเสียงย้ำกับภีมภัทรเพื่อเป็นการเตือนสติทั้งตัวเธอและภีมภัทร ไม่ให้หลงไปกับกระแสของเหตุการณ์
เมื่อธัญวลัยพูดจบก็หันหน้าหนีภีมภัทรมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไม่ได้สนใจสีหน้าของภีมภัทรตอนนี้เลย ภีมภัทรคำรามในใจ “อึม ไม่มีสิทธิ์ได้ธัญวลัย ฉันนี่แหละจะพิสูจน์ว่าฉันมีสิทธิ์ในตัวเธอ”
เมื่อส่งธัญวลัยเสร็จภีมภัทรก็กลับบ้านทันที เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เขาจึงดำเนินการแผนต่อทันที เมื่อกลับมาถึงบ้าน ภีมภัทรก็เข้าไปพูดคุยกับพ่อและแม่ของเขา
“พ่อครับ แม่ครับ มีความเห็นอย่างไรกับธัญบ้างครับ” ภีมภัทรต้องการทราบความรู้สึกของทั้งสองว่าคิดอย่างไรกับธัญวลัย
“พ่อกับแม่ ไม่ขัดข้องนะ” นายเป็นใหญ่ให้คำตอบ เพราะระหว่างที่ภีมภัทรไปส่งธัญวลัยก็ปรึกษาความคิดเห็นถึงว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้เหมือนกัน
“ส่วนแม่ก็รู้สึกว่า อยู่ใกล้หนูธัญแล้ว สนุกดี คุยเก่ง มารยาทก็ดี ก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายตรงไหนนี่นะ คุณนะ” ภรณ์พรรณบอกความรู้สึกส่วนตัว และก็ถามเสียงสนับสนุนของผู้เป็นสามี นายเป็นใหญ่พยักหน้าตอบรับ
เมื่อได้คำตอบจากพ่อและแม่ว่าท่านทั้งสองพึงพอใจธัญวลัยอยู่ไม่น้อย
“พ่อดีใจนะ ที่เราหาคนได้ไม่ผิดตาแหลมจริง ๆ ได้เชื้อพ่อมาเต็ม ๆ ลูกเอ๋ย” เป็นใหญ่ยกยอตนเอง จนผู้เป็นภรรยาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เก็บอาการหมั่นไส้ไว้ไม่อยู่จริงตีที่แขนสามี “หมั่นไส้”
“ตัวแม่เองก็กังวลกลัวแกจะเบี่ยงเบน แต่สิ่งที่แม่เห็นในตัวหนูธัญวันนี้นะ แม่ก็ดีใจมาก หนูธัญดู ๆ ก็เป็นเด็กดีนะ น่ารัก แต่แกตาภีม ห้ามทำให้เขาเสียใจเด็ดขาดรู้ไหม”
“เอ่อ...จริงสิ ไหน ๆ แล้วแม่มีความเห็นว่าน่าจะนัดทางครอบครัวหนูธัญไปกินข้าวกันมั่งก็ดีนะ ว่าไงคะคุณ”
“ดีจ๊ะที่รัก ผมเห็นด้วยนะ” นายเป็นใหญ่ไม่คัดค้านภรรยาเพราะตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา ทำให้ได้คิดว่า เบื้องหลังความสำเร็จที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะภรรยาผู้นี้นี่เอง
ภีมภัทรได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีใจ ที่พ่อกับแม่ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบในตัวธัญวลัย อีกทั้งไม่ว่าจะผ่านไปนานเพียงไร พ่อและแม่ของเขาก็ยังคงรักกันเหมือนเดิม จนหลาย ๆ คนอิจฉาถึงความรักของพ่อที่มีแต่แม่ และภีมภัทรก็เชื่อว่าหากเขาได้แต่งงานไปจริง ๆ เขาจะพยายามประคองความรักให้มั่นคงและยั่งยืนเหมือนพ่อกับแม่ของเขา
ภีมภัทรเห็นว่าพ่อและแม่ไม่ขัดข้องในเรื่องของเขากับธัญวลัยจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวของเค้ากับธัญวลัย
“พ่อครับ แม่ครับ ผมมีเรื่องจะบอกครับ คือ......ผม...ผม...เอ่อ..” ภีมภัทรเกิดอาการตะกุกตะกักขึ้นมาเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเรื่องอย่างไรดี ถึงเหตุการณ์ที่เค้ากักตัวธัญวลัยไว้ที่บ้านริมทะเลของครอบครัว
“อะไรล่ะลูก เล่ามาซิ พ่อกับแม่อยากฟัง” ภรณ์พรรณกล่าวเพราะเห็นลูกชายที่ทุกครั้งเวลาพูดจาจะฉะฉานชัดเจน แต่นี่เกิดอะไรอยู่ ๆ ก็มาพาดชักกะตุกซะงั้น
“คือ..พ่อกับแม่จำวันที่ผมไม่กลับบ้านได้ไหมครับ” ภีมภัทรหยั่งเชิง เพราะไม่รู้ว่าหากพูดไปแล้วจะเป็นอย่างไร
“จำได้ซิ พอรุ่งเช้าภีมก็มาบอกแม่ว่าไปหาลูกสะใภ้มาให้แม่” ภรณ์พรรณกล่าว
“ครับนั่นแหละครับ ที่ผมจะเล่าให้ฟังคือ ที่ผมหายไป....ผมพาธัญเขาไปกับผม ที่บ้านริมทะเลน่ะครับ เราทั้งสองอยู่ด้วยกันทั้งคืน และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ผมอยากให้พ่อและแม่เป็นผู้ใหญ่ไปสู่ขอธัญวลัยให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะผมได้รับปากไว้กับครอบครัวของธัญว่าจะรับผิดชอบในตัวลูกสาวเขาให้เร็วที่สุด ผมขอโทษนะครับ พ่อ แม่”
“ภีม....พ่อกับแม่ไม่เคยสอนให้ลูกทำตัวอย่างนี้เลยนะ ทำไมไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลย มันน่าโมโหนัก พาลูกของเขาหายไปทั้งคืน ดีเท่าไรแล้วที่เขาไม่แจ้งความจับแกเข้าคุกน่ะ ข้อหาลักพาตัว” แม่ของภีมภัทรโกธรจัดจึงต่อว่าภีมภัทรแถมหยิกที่แขนลูกชายเพื่อเป็นการลงโทษ
“โอ๊ย!!! แม่ครับผมเจ็บ” ภีมภัทรร้องโอดโอยที่ถูกผู้เป็นแม่ทำโทษ
ส่วนนายเป็นใหญ่ก็ไม่เอ่ยอะไรออกมา แต่มีสีหน้าที่เคร่งเครียด และเอื้อมมือไปตีที่บ่าภีมภัทรอย่างแรง ตีหลายทีด้วย จนภีมภัทรร้องโอดโอย “พ่อ ผมรู้ว่าผมผิด แต่ผมก็พร้อมที่จะรับผิดชอบนะครับพ่อ” ภีมภัทรพยายามชี้แจง
“ดีมาก ไอ้เสือลูกพ่อ ให้มันได้อย่างนี้ คนดี ๆ อย่างหนูธัญ ถ้าไม่รีบเดี๋ยวหมามันจะคาบไปแด๊กซะก่อน ได้ใจพ่อจริง ๆ ดีมากไอ้ลูกชาย กล้าทำมันก็ต้องกล้ารับ” นายเป็นใหญ่ชื่นชมภีมภัทรอยู่ไม่น้อย ตรงกันข้ามกับภรรยาที่นั่งหน้าตึง ฮึดฮัดไม่พอใจอยู่อย่างนั้น และอดที่จะเหน็บแหนมไม่ได้ “แหมพ่อลูก เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนักนะ”
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ.....อืม...เจ้าภีม 1 2 วันนี้ แกต้องเคลียร์งานให้เสร็จ ทำตัวให้ว่าง แล้วเดี๋ยวนัดกับทางผู้ใหญ่ฝ่ายหนูธัญให้เรียบร้อย พ่อกับแม่จะไปเจรจาสู่ขอหนูธัญให้แกเอง แหมมีความสุขจริง ๆ ๆ” นายเป็นใหญ่สั่งการเสร็จก็อารมณ์ดียิ้มออก ผิดกับตอนแรกอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ
“ครับ พ่อ” ภีมภัทรรับปาก
“พ่อกับแม่มีเรื่องสงสัยน่ะนะ ว่าหนูธัญกับแฮมดูเขาทั้งสองสนิทกันจริง ๆ นะ คงอย่างที่เขาว่ากันว่าโลกมันกลมนะ ว่าแต่เหอะแกน่ะต้องเรียนรู้หนูธัญเขาให้มาก ๆ อย่าให้เกิดปัญหาก็แล้วกัน”
“ครับพ่อ” ภีมภัทรยิ้มรับ และพอเข้าใจในสิ่งที่พ่อบอก
“แต่ก็ช่างเหอะ เอ่อ..แกก็อย่าลืมนะไปจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ให้เรียบร้อยซะนะ แล้วก็รีบเข้านอนซะนะ” นายเป็นใหญ่กำชับกับภีมภัทรอีกครั้ง
“ครับพ่อ ผมไม่ลืม งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ พ่อกับแม่จะได้พักผ่อน”
หลังจากคุยเสร็จแล้ว ภีมภัทรก็โทรศัพท์บอกธัญวลัยให้ธัญวลัยเตรียมตัว บอกกล่าวพ่อแม่ของเธอให้พร้อม ด้านธัญวลัยได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือ ถึงกับแปลกใจ เพราะหน้าจอดันโชว์ชื่อที่เธอไม่คุ้นเลย ชื่อที่โชว์ขึ้นหน้าจอบนมือถือของธัญวลัยคือ “สุดที่รัก”
“ฮัลโหลค่ะ ไม่ทราบว่านั่นใครคะ” ธัญวลัยถามด้วยความแปลกใจ
“ไงครับ ที่รักจำว่าที่สามีไม่ได้แล้วเหรอ” ภีมภัทรตอบแบบกวน ๆ
“นี่นาย กล้าดียังไงมาถือวิสาสะเอามือถือฉันไป... แล้วยังชื่อบนหน้าจออีกทุเรศคิดได้ไงเนี่ย” ธัญวลัยพูดด้วยอารมณ์โกธรสุด ๆ ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นที่ภีมภัทรจับตัวเธอไปที่บ้านริมทะเล แล้วยึดโทรศัพท์ของเธอไป
“โถ่ ๆ อย่างอนซิจ๊ะคนดี ใช่ชื่อนั้นนั่นแหละถูกแล้ว ใครเห็นจะได้ไม่มีใครมายุ่งไง ผมก็หวงของผมนะ” ภีมภัทรยั่วโมโหธัญวลัย
“ประสาท มีอะไรก็พูดมาไม่งั้นฉันจะวางแล้วนะ” ธัญวลัยขู่
“คุณช่วยบอกพ่อกับแม่คุณให้เรียบร้อยด้วยว่าอีกประมาณ 1-2 วัน พ่อกับแม่ของผมจะไปเจรจาสู่ขอคุณ
“อี๋..อี๋ แหวะ ทุเรศ ไอ้โรคจิต” ธัญวลัยสบถ วางสายภีมภัทรและปิดมือถือทันที
ส่วนทางด้านภีมภัทรก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ เพราะเขารู้สึกว่าการได้แกล้งธัญวลัยเป็นความสุขอย่างหนึ่ง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น