ฟิคสั้น SAD SONG [GTOP] อัพจบแล้ว - ฟิคสั้น SAD SONG [GTOP] อัพจบแล้ว นิยาย ฟิคสั้น SAD SONG [GTOP] อัพจบแล้ว : Dek-D.com - Writer

    ฟิคสั้น SAD SONG [GTOP] อัพจบแล้ว

    ความคิดถึงมันช่างน่ากลัว

    ผู้เข้าชมรวม

    809

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    809

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    18
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ส.ค. 60 / 22:05 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ระหว่างอ่าน ก็ฟังเพลง SAD SONG ไปด้วยนะคะ











    SAD SONG

    [GTOP]

     

    You and I
    We’re like fireworks and symphonies exploding in the sky.
    With you, I’m alive
    Like all the missing pieces of my heart, they finally collide.

     

                   เสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดดังขึ้นจากเหล่าเพื่อนๆ และทีมงานทุกคน เจ้าของวันเกิดยิ้มรับอย่างซาบซึ้ง ภายในใจตอนนี้กลับรู้สึกต่างออกไป ในวันเกิดอายุครบ 28 ปีนี้ เขารู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก ควอน จียง กำลังเหงา

                   “มีความสุขมากๆ นะจียง” เสียงนุ่มคุ้นหูพูดขึ้น จียงยิ้มรับพร้อมอ้อมกอดแสนอบอุ่นเหมือนเคย

                   “ขอบคุณสำหรับของขวัญนะยองเบ” เพื่อนรักที่เข้าใจเขาในทุกๆ เรื่อง

                   “ฮยอง มีความสุขมากๆ นะครับ ขอให้ฮยองแข็งแรงนะ” ซึงรีน้องเล็กของวงเข้ามากอด ก่อนที่จียงจะรับของขวัญมาไว้ในมือ

                   “ขอบคุณนะซึงรี”

                   “ผมไม่รู้จะให้อะไรฮยองดี มันเล็กน้อยมาก ฮยองมีทุกอย่างแล้ว จากนี้ขอให้ฮยองมีแต่ความสุขนะ” แดซองพูดขึ้น จียงยิ้มรับ

                   “ของขวัญที่พวกนายให้ฉันทุกปี มันมีความหมายนะ ขอบคุณมาก” จียงยิ้ม น้ำตาเริ่มคลอ

                   “จียงอ่า จียงอ่า จียงอ่า จียงอ่า” ยองเบ ซึงรี และแดซอง เข้ามากอดจียงพร้อมกัน เหมือนทุกครั้งที่พวกเขาทำกัน มันเป็นกำลังใจที่ดีเลยทีเดียว อบอุ่นนะ...แต่มัน...ยังอุ่นไม่พอ เพราะอีกคนหายไป

    ชเว ซึงฮยอน...อูรี ฮยอง

    .

    .

    .

    .

     

                   ปาร์ตี้วันเกิดที่จัดขึ้นเล็กๆ จบลงแล้ว วันเกิดปีนี้ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ความอบอุ่นจากคนที่รักเขายังคงอยู่ จริงๆ มันพิเศษมากสำหรับเขาแล้วล่ะ

    ช่วงนี้ไม่มีใครว่างนักหรอก รวมถึงตัวเขาด้วย มีแต่งาน งาน แล้วก็งาน ร่างบอบบางอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวโอเวอร์ไซส์ นั่งชันเข่าบนโซฟาตัวใหญ่ราคาแพงที่หันออกไปทางหน้าต่าง ดาวที่ถูกประดับอยู่บนท้องฟ้านั้น กำลังทำให้คนที่กำลังมองอยู่รู้สึกเหงา มือเล็กหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดดูด ควันเล็กๆ ค่อยๆ พ่นออกมา ตากลมยังคงจับจ้องที่ท้องฟ้ากว้างใหญ่ ไวน์ที่อยู่ในแก้วสวย พลางทำให้นึกถึงอีกคน...อีกคนที่ก็ชอบมันไม่แพ้กัน ริมฝีปากบางแตะลงที่ปากแก้ว ก่อนยกขึ้นดื่มมันจนหมดในคราวเดียว

                   “อีกหนึ่งชั่วโมงสินะ” ค่ำคืนนี้กำลังจะผ่านไปในไม่ช้า ดวงจันทร์กำลังสว่างไสวอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวบนท้องฟ้า..ควอน จียง แม้จะดูเข้มแข็ง แต่ภายในใจช่างอ่อนแอ ขี้เหงา ขี้กลัว และกังวนไม่เสียทุกเรื่อง

                   ทำไมเหงาได้ขนาดนี้นะ ควอน จียง

     

                   “มักเน่ จียง”

                   เมาแล้วสินะ

                คิดถึงเสียงนี้จัง

                มักเน่เหรอ? หึหึ

                   “ฮยอง!” เมื่อรับรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องนี้คนเดียว เขาไม่ได้เมาจนเพ้อไปเอง ชเว ซึงฮยอน กำลังยืนอยู่ข้างเขา...ตอนนี้

                   “ว่าไง มักเน่จียง” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น ย้ำให้แน่ชัดว่าเขามีตัวตนอยู่ตรงนี้จริงๆ

                   “ฮึก...ก็บอกว่าอย่าเรียกแบบนี้ไง” ชอบเรียกเขาแบบนี้อยู่เรื่อย ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ดูโตกว่าเขาสักเท่าไร...ตัวน่ะใช่ แต่ใจไม่ใช่แน่ๆ

                   คนตัวสูงใหญ่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ภายในเป็นเสื้อเชิ้ตสีดำ ปกปิดในทุกๆ ส่วน...เหมือนที่เป็นอยู่ทุกครั้ง...ลึกลับ ชวนค้นหา...เขาเหมือนรูปั้น เหมือนงานศิลป์ที่เขาชอบ...ไร้ที่ติ

     

    So stop time right here in the moonlight,
    Cause I don’t ever wanna close my eyes.

     

                   มือใหญ่ฉุดดึงข้อมือเล็กเบาๆ ให้ร่างบอบบางลุกขึ้นจากโซฟา ทั้งคู่กำลังเผชิญหน้ากัน ไม่มีคำพูดใดๆ เกิดขึ้น คล้ายกับว่า ทุกอย่างมันเอ่อล้น...ไม่มีคำพูด...แต่ดวงตาบอกทุกอย่างได้ดี ไม่รู้ว่าผ่านช่วงเวลายากลำบากมาได้มากแค่ไหน แต่ครั้งนี้มันมากเกินไปจริงๆ มือเล็กทั้งสองข้างค่อยๆ ยกขึ้นทาบลงที่แก้มของคนตัวสูง...เป็นห่วงคนนี้จริงๆ

                   “มือนายสั่นนะ” ซึงฮยอนทาบมือของตัวเองลงบนมือเล็กที่ทาบแก้มทั้งสองข้างเขาอยู่

                   “อื้ม” เสียงก็สั่นไม่แพ้กัน

                   “ร้องไห้เพราะฮยองอีกแล้ว” นับครั้งไม่ถ้วนจริงๆ ที่จียงร้องไห้ให้กับซึงฮยอน

                   “มา” ซึงฮยอนดึงร่างบอบบางเข้ามาในอ้อมกอด

                   “ฮึกๆ...เป็นห่วงจังเลย” เสียงอู้อี้เพราะใบหน้าซุกอยู่ที่ไหล่กว้าง

                   “คิดถึง” ซึงฮยอนพูดขึ้น เสียงสั่นเครือไม่แพ้กัน

                   “รู้ไหมทำไมฉันถึงมา” ซึงฮยอนพูดขึ้นขณะที่ยังกอดร่างบอบบางไว้แน่น

                   “เพราะวันเกิดผม” ตอบเสียงสั่น

                   “ฉันอยากให้มันพิเศษสำหรับนาย” ซึงฮยอนกระซิบข้างใบหูเล็กเบาๆ

                   “ฮึก...อื้ม พิเศษมากแล้ว ขอบคุณนะ” หลับตาแน่น ปล่อยน้ำตาทั้งหมดให้ไหลออกมา ซึงฮยอนฟังจบก็จูบซับที่ใบหูเล็ก สูดดมกลิ่นหอมหวานทั้งหมด...โหยหาเหลือเกิน

                   “ขอโทษนะ” คนตัวสูงใหญ่ผละจากอ้อมกอด นิ้วโป้งคอยเกลี่ยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเนียนตลอดเวลา

                   “ผมไม่เคยโกรธฮยองเลย” สบตาคมด้วยสายตาที่สั่นไหวเหลือเกิน

                   มือใหญ่ประคองใบหน้าเล็ก ก่อนจะกดจูบแสนหวานลงที่ริมฝีปากบาง จูบซับเบาๆ ก่อนที่ความโหยหาจะเข้ามาแทนที่ จียงตอบรับจูบที่ซึงฮยอนมอบให้ได้ดี แขนเล็กยกขึ้นโอบรอบลำคอของอีกคน ทุกอย่างกำลังเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ทุกอย่างเงียบสนิท เสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังขึ้นเรื่อยๆ และก่อนที่ร่างบอบบางจะขาดอากาศหายใจ คนตัวสูงก็ยอมผละออก

                   “คิดถึงจูบของฉันใช่ไหม?”

                   “ฮะ”

                   “สัมผัสของฉันล่ะ...คิดถึงไหม??”

                   “ฮะ”

                   “ฉันคิดถึงรอยยิ้มของนาย คิดถึงทุกอย่างที่เป็นนาย...จียง” ลูบหัวเล็กอย่างเอ็นดู รู้สึกผิดกับคนๆ นี้ไม่แพ้กับครอบครัวเลย คนขี้ขลาด โง่เขลาอย่างเขา ทำอะไรไม่ได้จริงๆ

                   “ฮยอง” จียงเอ่ยเรียก ก่อนคลี่ยิ้มออกมา ยิ้มอย่างที่เคยยิ้ม ยิ้มที่ซึงฮยอนชอบ...รอยยิ้มของ ควอน จียง

                   “แค่ยิ้มของนายก็จะทำฉันคลั่งแล้ว...รู้ตัวไหมจียง” พูดจบก็ฝังจมูกลงที่ซอกคอขาว ใบหน้าเล็กเงยขึ้นรับสัมผัสของคนตัวสูง กระดุมเสื้อเชิ้ตถูกปลดออกสองเม็ด มือใหญ่ปัดคอเสื้อเบาๆ พลางลูบไหล่เล็กอย่างเบามือ จมูกและปากยังคงทำหน้าที่ได้ดีตรงซอกคอขาว

                   “อื้มมม” เสียงเล็กครางออกมาจากลำคออย่างห้ามไม่ได้

                   “อยากอุ้มนายไปที่เตียงจัง” ซึงฮยอนเอ่ยเสียงต่ำ ใบหน้าน่ารักขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันไม่ใช่เพราะฤทธิ์ไวน์แน่ๆ

                   “แต่บรรยากาศตรงนี้ดีกว่า...ว่าไหม?” แสงจันทร์ที่สาดเข้ามาผ่านกระจกหน้าต่างบานใหญ่ มันทำให้ร่างบอบบางที่อยู่ในชุดหมิ่นเหม่นี้ดูเหมือลูกกวางน้อยที่กำลังจะถูกเจ้าป่าขย้ำ...มือใหญ่ลูบแก้มเนียนเบาๆ พร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก

                   “ชอบยิ้มเจ้าเล่ห์ของฮยองจัง” เขย่งตัวเล็กน้อย ก่อนจูบซับที่มุมปากคนตัวสูง

     

    Without you, I feel broke.
    Like I’m half of a whole.
    Without you, I’ve got no hand to hold.
    Without you, I feel torn.
    Like a sail in a storm.
    Without you, I’m just a sad song.
    I’m just a sad song.

     

                   ร่างสูงใหญ่ไร้อาภรณ์นั่งลงที่โซฟาราคาแพง ร่างบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าเขา จียงสะท้อนกับแสงจันทร์ ร่างบอบบางช่างน่าทะนุถนอม...ก่อนที่มือเล็กจะถอดชั้นในของตัวเองออกไปให้พ้นทาง เสื้อเชิ้ตหมิ่นเหม่นั้นยังคงอยู่บนร่างของจียงเหมือนเดิม ขาเล็กก้าวขึ้นไปนั่งทับอยู่บนตัวแกร่ง แขนเล็กโอบรอบคออีกคนอย่างรู้หน้าที่

                   “ฮยองต้องชดเชยให้ผม” เสียงหวานเอ่ยขึ้น

                   “จะไม่ทำให้ผิดหวังเลย ควอน จียง”

     

    With you I fall.
    It’s like I’m leaving all my past in silhouettes up on the wall.
    With you I’m a beautiful mess.
    It’s like we’re standing hand in hand with all our fears up on the edge.

     

    เธอนั้นเป็นบทเพลงที่แสนเพอร์เฟคท์
    เป็นเพียงเสียงประสานเพียงหนึ่งเดียว
    ที่ฉันต้องการจะฟัง
    เธอคือส่วนที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน
    เมื่อมีเธอยืนเคียงข้างกาย
    ก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกเลย


      



    ขอบคุณที่ติดตาม

    ว่างๆ จะมาอัพฟิคสั้นจีท็อปอีกนะคะ

    นานิม.


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×