(shortfic) One more day - KrisLay
ผู้เข้าชมรวม
2,092
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ONE MORE DAY STORY ONE
ตั้งแต่ กลับมาจากจีน เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่คริสไม่กลับมาด้วย พวกเขาคิดว่าคริสคงอยากฉลองวันแม่อยู่กับแม่ก็ได้ แต่ทำไมพอผ่านไปหลายๆวันเข้า ถึงได้มีข่าวลือมากมายออกมาเต็มบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คว่าคริสจะออกจากวง คริสจะยื่นฟ้องบริษัท คริสจะไม่กลับมาอีกแล้ว
อี้ชิงไม่เชื่อข่าวลือพวกนี้หรอก ไม่เชื่อสักนิด แต่ตอนที่เขากำลังเลื่อนอ่านข้อความในเว่ยป๋อ ทำไมน้ำตาเขาถึงไหลออกมามากมายขนาดนี้กันล่ะ ?
ลู่หานแอบนั่งชำเลืองมองน้องชายที่กำลังนอนอ่านข้อความบางอย่างอยู่ในมือถือ ดูเหมือนเจ้าตัวกำลังเล่นเว่ยป๋ออยู่นะ เอ๊ะ ทำไมมีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นล่ะ เกิดอะไรขึ้นอี้ชิง?
ฟากทางด้านพวกเมเนเจอร์ต่างพากันกุมขมับอย่างจนปัญญา ตั้งแต่ทำงานกับเด็กพวกนี้มา ไม่มีครั้งไหนที่พวกเขารู้สึกเครียดจนหัวสมองจะระเบิดเท่าตอนนี้ นี้พวกเขาจะบอกพวกเด็กๆยังไงดีว่าคริสจะไม่กลับมาแล้ว
ซูโฮผู้ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งลีดเดอร์ของเอ็กโซกำลังนั่งกุมขมับอยู่ข้างๆพี่ ยองมิน เมื่อพี่ยองมินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง ตอนนี้เมมเบอร์คนอื่นยังไม่รู้เรื่อง ถึงรู้เรื่องแต่ก็คงไม่มีใครรู้รายละเอียดดีเท่าเขาในตอนนี้อีกแล้ว คริส ทำไมนายถึงไม่บอกฉันล่วงหน้าสักนิด?
วันนี้เอ็กโซเคมีขึ้นโชว์ไลฟ์เพลง Overdose เป็นรายการสุดท้าย เมมเบอร์ฝั่งเคที่หลังจากรู้ข่าวคริสแล้ว ต่างพากันนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ชานยอลนั่งร้องไห้เงียบๆ คิดถึงพี่ชายตัวสูงที่มักจะยืนอยู่ข้างๆเขาบนเวทีเสมอ เซฮุนนั่งเหมื่อลอยนึกถึงตอนที่เขาเล่นกับคริส เขาไม่รู้เลยว่าตอนนั้นมันสนุกแค่ไหน แบคฮยอนซบหน้าตัวเองกับไหล่ชานยอลมีเพียงเสียงสะอื้นเบาๆหลุดออกมา จงอินนอนบนโซฟาเอามือปิดหน้า ดีโอนั่งมองหน้าเมมเบอร์แต่ละคนสลับไปมาไม่พูดอะไร และซูโฮที่กำลังท่องบทพูดที่จะขึ้นไปพูดบนเวทีเพียงคนเดียวตามลำพัง
ฟากเอ็กโซเอ็มก็ไม่ต่างกัน เทานั่งพิมพ์ระบายความในใจของตัวเองลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์คที่เขาเล่น ลู่หานนั่งมองข้อความที่แฟนๆแสดงความคิดเห็นและพูดถึงเรื่องนี้บนเว๋ยป๋อ เงียบๆ จงแดและซิ่วหมินที่พากันคอยดูเมมเบอร์ว่าเป็นยังไงกันบ้าง ส่วนทางด้านอี้ชิงได้แต่นั่งกุมเข่าเงียบๆมีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย เมื่อนึกถึงผู้ที่เป็นทั้งพี่ชาย เพื่อนร่วมวง ตุ้ยจาง และคนที่เขาหลงปลื้ม
แล้วทางคริส... เขาเป็นอย่างไงบ้าง? เขากำลังอยู่ที่ไหนในตอนนี้...ไม่มีใครรู้เลย
ผ่านมาเดือนนึงแล้วนับตั้งแต่วันที่มีข่าวคริสยื่นฟ้องร้องบริษัท ในแต่ละวันเมมเบอร์ก็ทำงาน เที่ยวเล่น กิน นอน เข้าตึก สลับกันไปมาอยู่แบบนี้ อีกไม่กี่ัวันเอ็กโซมีงานที่จีน ที่ฉางซาบ้านเกิดอี้ชิงเอง เขาจะได้กลับไปถ่ายรายการแฮปปี้ แคมป์อีกครั้ง แต่อี้ชิงกลับรู้สึกไม่มีความสุขเลย คงเป็นเพราะไม่มีใครอีกคนไปด้วย
ลู่หานและเมมเบอร์พากันเดินอย่างรวดเร็วระหว่างเดินทางอยู่สนามบินเพื่อบิน ไปฉางซา แฟนคลับพากันเบียดเสียดพวกเขา ทางเดินที่กว้างกลับแคบลงถนัดตา อี้ชิงเผลอหยุดเดินและมองหาร่างสูงที่คุ้นเคยที่มักจะเดินข้างๆเขาหรือไม่ก็ เดินตามหลัง แต่วันนี้ไม่มีแล้ว คริส นายอยู่ไหน? ฉันโดนเเฟนคลับเบียดจนเจ็บไปหมดแล้วนะ มาปกป้องฉันสิ คริส!! เงียบ ไร้วี่เเววคนตัวสูงคนนั้น แล้วจะมีเขาได้ยังไงในเมื่อวันนี้เอ็กโซเดินทางมากันเพียงแค่ 11 คนไม่ใช่ 12 คนแบบทุกที
หลังจากเดินทางมาหลายชั่วโมงพวกเขาก็เดินทางมาถึงฉางซาโดยสวัส ดิภาพ เมมเบอร์ต่างพากันพักผ่อนและทีมเมเนเจอร์กับสต๊าฟก็เช่นกัน อี้ชิงขออนุญาติเมเนเจอร์ออกไปหาครอบครัวของเขาและเมเนเจอร์ก็อนุญาติ อี้ชิงรีบโทรหาหม่าม๊าทันทีและบอกข่าวดีให้รู้ว่าเขาจะไปหาที่บ้าน อี้ชิงใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมงกับครอบครัวของเขา จนกระทั่งตกเย็นอี้ชิงจึงพากันคุณตาและคุณยายออกไปหาอะไรกินและพาไปส่งที่ บ้าน ระหว่างที่เดินทางโทรศัพท์มือถือของอี้ชิงดังขึ้น เจ้าตัวกดรับโดยที่ไม่ทันดูเสียก่อนว่าใครโทรมา
“ฮัลโหล อี้ชิงพูดครับ” อี้ชิงกรอกเสียงลงไป
“อี้ชิง...” เสียงของคนคุ้นเคยตอบกลับมา อี้ชิงยกมือข้างที่ว่างอยู่ปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้หลุดเสียงร้องออกมา คริส คริสโทรหาเขา!
“คริส นายอยู่ไหน นายทำอะไรอยู่ นายเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันสบายดี นายเองก็สบายดีนะ ได้กลับบ้านแล้วดีใจไหม”
“สบายดี ฉันสบายดีมากๆเลย ดีใจมากๆด้วยแต่ฉันอยากให้นายมาด้วยกันมากกว่าแบบเมื่อก่อนไง” อี้ชิงพูดเสียงเจื้อยแจ้วอย่างมีความสุข จนคุณตากับคุณยายอดหันมามองไม่ได้
“อื้ม ถ้านายสบายดีฉันก็หมดห่วงแล้วล่ะ” คริสตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ใครจะรู้บ้างว่าเขาเองก็อยากมาที่นี้กับทุกคน เหมือนกัน แต่เขามาไม่ได้ เขาไม่สามารถทำได้อีกแล้ว
“ฮึก คริส ฉันคิดถึงนาย คิดถึงจริงๆนะ ฉันนอนคนเดียวตลอดเลยนะในห้องที่เราเคยนอนด้วยกัน นายไม่สงสารฉันบ้างหรอ”
“อย่าร้องสิ นายต้องเข้มแข็งนะ ไม่มีฉันอยู่แล้วนายต้องดูแลตัวเองดีๆสิ”
“ฮืออ ไม่เอา ฉันดูแลตัวเองไม่ได้ดีเท่านายคอยดูแลฉันหรอก ตุ้ยจาง”
“ฉันไม่ใช่ตุ้ยจางของนายอีกแล้ว...อี้ชิง”
“......................”
เกิดความเงียบระหว่างคนทั้งคู่ อี้ชิงสะกดกลั้นเสียงร้องไห้เอาไว้ไม่ให้คุณตาคุณยายรู้ ทำไมคริสใจร้ายแบบนี้ ทิ้งเขาไปไม่ลากันสักคำแล้วยังไม่ให้เขาเรียกแบบนี้อีก คนใจร้าย คนนิสัยไม่ดี ถ้าเจอตัวเมื่อไรนะอี้ชิงจะตีให้หนักๆเลยแล้วจะกอดแรงๆให้หายคิดถึงด้วย
“ตอนนี้ฉันเป็นเพียงแค่อี้ฝาน อู๋อี้ฝาน ของ นายเมื่อห้าปีก่อนไง”
คริสเฉลยออกมาเมื่อเห็นอี้ชิงเงียบไปนานมาก เขาก็แค่หยอกเล่นเท่าแหละ แต่จริงๆอี้ชิงก็ไม่ควรเรียกเขาว่าตุ้ยจางอีกแล้วนะ เพราะเขาไม่ใช่ลีดเดอร์แล้ว
“ไอ้คนนิสัยไม่ดี สนุกมากไหมแกล้งกันแบบนี้” อี้ชิงโวยวายใส่โทรศัพท์เสียงดังลั่นจนลืมตัวไปว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว เมื่อคิดได้อี้ชิงก็หันไปโค้งหัวขอโทษคุณตา คุณยายที่ทำให้พวกท่านตกใจ
“ฮ่าๆ รีบไปส่งคุณตา คุณยายได้แล้ว เดินอืดอาดแบบนี้เมื่อไรจะถึงบ้านละ” เอ๊ะ คริสรู้ได้ยังไงว่าเขาอยู่ข้างนอกกับคุณตา คุณยาย อย่าบอกนะว่าคริสแอบตามมา ตลกแล้ว นี้มันฉางซานะ ถิ่นอี้ชิง คริสกล้ามาคนเดียวหรอ?
“รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่กับคุณตา คุณยายอ่ะ” อี้ชิงถามด้วยความสงสัย
“ก็ฉันเก่งไง รีบๆเดินสิ ฉันเดินจะนำนายได้อยู่แล้วนะ”
“ฮึ๊ยยย แค่นี้นะ ฉันไม่คุยด้วยแล้ว” อี้ชิงกดวางสายทันทีแล้วรีบเดินตามคุณตาคุณยายไป
ทันทีที่มาส่งคุณตา คุณยายถึงบ้านอี้ชิงก็ลากลับทันทีเพราะนี้ก็ดึกแล้ว เขาต้องเดินกลับโรงแรมคนเดียวอีก สองข้าก้าวไปอย่างเลื่อนลอย อดคิดถึงคนที่คุยโทรศัพท์เมื่อกี้ไม่ได้ มีคำพูดมากมายที่อยากบอก มีคำถามมากมายที่อยากถามแต่บางครั้งเราก็ควรแกล้งโง่เพื่อความสบายใจ
อี้ชิงเดินมาถึงหัวถนน เขาเห็นผู้ชายร่างสูงคนนึงยืนพิงเสาไฟฟ้าอยู่ สูงเท่าคริสเลย แต่ผู้ชายคนนี้ดูผอมกว่าคริสมาก อ่า จะใช่คริสไหมนะ อี้ชิงขอให้เป็นคริสได้หรือเปล่า
ตึกตัก ตึกตัก
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ หัวใจของอี้ชิงก็ยิ่งเต้นแรงขึ้น อีกแค่ก้าวเดียวเขาก็จะถึงตัวผู้ชายคนนี้แล้ว
หมับ!!
อี้ชิงถูกผู้ชายตรงหน้าดึงเข้าไปกอดไว้แน่น เสียงหัวใจสองดวงที่เต้นดังโครมครามท่ามกลางความเงียบงันของถนนเส้นนี้ มือน้อยๆยกขึ้นลูบใบหน้าที่สมบูรณ์แบบอย่างแผ่วเบา อ่า เป็นคริสจริงๆด้วย
พระเจ้าได้ยินคำขอของผมใช่ไหมครับ ขอบคุณนะครับ
คริสกอดอี้ชิงไว้แน่น เขายืนรอคนตัวเล็กนี้มาสักพักนึงแล้วหลังที่เดินตามอี้ชิงมา พอรู้ข่าวว่าอี้ชิงจะมาที่ฉางซาคริสก็บินตามมาที่นี้ทันที เขาจองโรงแรมไว้ใกล้ๆกับที่พักของพวกเมมเบอร์ เฝ้าคอยดูว่าอี้ชิงจะแยกตัวออกมาคนเดียวตอนไหน และในที่สุดคริสก็ได้โอกาสเมื่ออี้ชิงออกมาข้างนอกคนเดียวโดยไม่มีเมเนเจอร์ ติดตามมาด้วยเหมือนทุกครั้ง คริสโทรหาคนตัวเล็กระหว่างที่เดินอยู่อีกฝากนึงของถนน อี้ชิงนี้ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ เขาเดินอยู่ฝั่งตรงข้ามแท้ยังไม่หันมามองเลย สู้คุณตาและคุณยายก็ไม่ได้ พวกท่านเห็นคริสตั้งแต่เดินออกจากร้านอาหารแล้ว
“ตามมาทำไม ว่างนักหรือไง” อี้ชิงโวยวายใส่ แต่ข้างในเจ้าตัวกลับดีใจมากจนอดคิดไม่ได้ว่านี้ความฝันหรือเรื่องจริง
“แอบมาดูคนขี้แย นายอ้วนขึ้นหรือเปล่านี้ ทำไมดูอวบๆแบบนี้ละ”
“อ้วนที่ไหนล่ะ ก็เหมือนเดิมนะ นายไม่เห็นฉันมานานแล้วมากกว่า”
“ใครบอกล่ะ ฉันเข้าเว่ยป๋อส่องรูปนายทุกวันเลย ในคอนเสิร์ตนายเต้นน่ารักมากเลยนะตอนเต้นเพลงของรุ่นพี่โซชิอ่ะ”
“โรคจิต ทำตัวเป็นสโตกเกอร์ตั้งแต่เมื่อไร” อี้ชิงว่าค่อนขอดคริส แต่ก็ดีใจที่รู้ว่าคริสยังติดตามพวกเขาอยู่
“ก็ทำไงได้ตอนนี้ฉันอยู่ข้างนอกแล้วนี้ ก็ต้องกลายมาเป็นแฟนบอยนายแทน ไหนขอลายเซ็นด้วยสิ จะเอาไปอวดแม่ว่าเจอเลย์ เอ็กโซมา”
อี้ชิงตีป้าปเข้าให้ที่หัวไหล่เมื่อคริสแกล้งเขาไม่หยุด คนขี้แกล้ง!
“อ่า นั้นโรงเรียนเก่าฉันนี้” อี้ชิงไม่สนใจที่คริสพูดรีบวิ่งมาเกาะหน้าประตูโรงเรียนตัวเองแล้วชะเง้อมอง เข้าไปข้างใน คิดถึงจังเลย นานแล้วที่ไม่ได้กลับมา
“คริส ถ่ายรูปให้หน่อยสิ จะเอาลงไอจีอ่ะ” อี้ชิงว่าก่อนหยิบไอโฟนขึ้นมาแล้วส่งให้คริสถ่ายรูปให้ คริสถ่ายรูปให้อี้ชิงไม่ต่ำกว่ายี่สิบรูป ถ่ายจนเจ้าตัวเขาพอใจ
“พอแล้วมั้ง เยอะแล้วนะ นี้นายเก็บไว้ดูได้ยันแก่เลยมั้งเนี่ย” คริสบ่น
“ถ่ายเป็นวิดีโอด้วยเอาลงเว่ยป๋อ นี้แอปนี้ๆ เหม่ยพ่ายอ่ะ ถ่ายฉันออกมาดูดีๆด้วยนะ”
เจ้าตัวบอกเสร็จสรรพก็วิ่งไปทำท่านั้น ท่านี้โดยมีคริสเป็นคนยืนถ่ายให้ คริสแต่งวิดีโอ ใส่เอฟเฟ็คให้เรียบร้อยเพราะรู้ว่าอี้ชิงคงทำไม่เป็น นี้ถ้าเจ้าตัวถ่ายเองคงอัดเสร็จอัพลงเลยไม่แต่งอะไร ถึงจะยังแปลกใจอยู่ว่าอี้ชิงรู้จักแอปแบบนี้ได้ยังไง ขนาดคริสยังไม่ใช้เลย
พอแต่งวิดีโอเสร็จ คริสก็ยื่นมือถือให้อี้ชิงอัพข้อความเองก่อนจะกดแชร์ให้แฟนคลับได้ดู และทั้งคู่ก็พากันเดินคุยกันกลับโรงแรมไป
แค่วันเดียว แค่ชั่วโมงเดียว ที่ได้เจอกัน อี้ชิงก็มีความสุขมากจนไม่รู้จะบรรยายยังไงแล้ว
พรุ่งนี้เธอจะลาฉัน วันเวลาได้พาเธอไป และไม่เคยรู้เลย ว่าฉันจะต้องรอ ไปนานเท่าไร
ได้พบกันแค่วันนี้ มีเพียงความเงียบงัน ในใจ อยากให้เราสองคน ร่วมกันจดจำ เวลานี้ไป
แววตาที่มองฉัน แค่เห็นก็เข้าใจ ว่ามีคำมากมาย อยู่ในนั้น
ฉันจะจำเธอไปในแบบนี้ จำความรู้สึกนี้ เก็บอยู่ในหัวใจ เมื่อยามที่ไกลกัน
ฉันจะมองเธอเป็นครั้งสุดท้าย จะจำทุกอย่างไว้ และจะมีหัวใจ เก็บไว้ให้เธอคนเดียว ฉันสัญญา
ONE MORE DAY STORY TWO
วันนี้ อี้ชิงมีตารางงานเดี่ยวที่จีน เค้าต้องเดินทางไปกับผู้จัดการและทีมงานอีกสองสามคนเท่านั้น ในขณะที่เมมเบอร์คนอื่นต่างเดินทางกลับเกาหลีไปก่อนหน้านี้แล้ว
อี้ชิงยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจกก่อนจะสำรวจดูว่าเค้าลืมของอะไรอีกไหม หลังจากนั้นก็เดินออกจากพักของโรงแรมหรูแห่งนี้เพื่อไปที่สนามบิน
วันนี้ที่สนามบินไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไรอาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยมีคนรู้มากนัก ว่าวันนี้อี้ชิงจะบินมาที่นี้ หลังจากจยคอนเสิร์ตเมื่อคืนไปแล้ว แฟนคลับบางคนก็บินตามเมมเบอร์คนอื่นกลับเกาหลีไป บางคนก็อยู่ตามอี้ชิงต่อที่จีน และบางคนก็ไปตามผู้ชายอีกหนึ่งคนที่กำลังจะเดินทางมาที่สนามบินเหมือนกัน จะใครละ? ก็อู๋อี้ฝานไง :)
ชิ คนนิสัยไม่ดี เลียนแบบกันนี้ อี้ชิงบ่นในใจเมื่อเข้าเช็คเว่ยปั๋อก่อนจะเห็นว่าแฟนคลับเริ่มลงรูปตัวเอง และอีกคนนึงเต็มไปหมด อี้ชิงแลบลิ้นใส่หน้าจอมือถือราวกับเค้ากำลังแลบลิ้นให้คนในรูปที่ใส่ผ้าปิด ปากเหมือนกัน
อี้ชิงเดินไปพลางผงกหัวทักทายแฟนๆที่ตามเค้าอยู่ พอเข้ามาถึงข้างในเกต อี้ชิงวางกระเป๋าเป้ไว้กับผู้จัดการก่อนจะเดินไปห้องน้ำ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อหรูสั่นแจ้งเตือนว่ามีคนส่งข้อความมา อี้ชิงกดเปิดอ่านก่อนจะยิ้มตาแทบปิด
(อี้ชิง เห็นรูปพี่แล้วใช่ไหม วันนี้เราใส่ผ้าปิดปากเหมือนกันเลยเนอะ บังเอิญจัง
จาก ฝานเก่อ)
บังเอิญที่ไหน เค้าใส่ของเค้ามาตั้งนานแล้วเห่อะ คนแถวนี้ต่างหากที่มาใส่ตาม
ขณะที่อี้ชิงกำลังล้างมือหลังจากที่ทำธุระเสร็จ เสียงเรียกเข้ามือถือก็ดังขึ้น อี้ชิงหยิบมาดูก่อนจะเห็นว่าเป็นคนเดียวกับที่ส่งข้อความาเมื่อกี้ อ่า ลืมตอบข้อความเลยแฮะ
“ทำไมไม่ตอบข้อความพี่ละ หรือว่าชิงยังไม่ได้อ่าน” คริสถามทันทีที่อี้ชิงรับสาย
“งื้อ ลืมอะ พอดีเข้าห้องน้ำอยู่ แต่ชิงอ่านแล้วนะ” อี้ชิงรีบพูดอธิบายเพราะกลัวจะโดนคนตัวโตงอนเอา
“วันนี้ชิงมาทำงานอะไรคนเดียวครับ”
“มาอัดรายการทำทำอาหารไงฮะที่เป็นเชฟอ่ะ ไม่ได้ดูหรอ” อี้ชิงถามเสียงเศร้าๆเมื่อคิดว่าอีกคนไม่ได้ดูรายการที่เค้าไปออก
“ป่าวนะป่าว พี่ดูอยู่แล้ว พี่แค่ถามดูเฉยๆนะเผื่อชิงมีงานอื่นอีกไง ไม่งอนพี่นะครับ” คริสรีบแก้ตัวทันที
“อื้อ ไม่งอนก็ได้ แล้วพี่คริส...เอ่อ ฝานเก่อไปไหนอ่ะ” อี้ชิงเกือบหลุดเรียกคริสออกไปแล้วสิ ดีนะนึกขึ้นได้ก่อน เฮ้อ
“พี่กำลังไปเสิ้นเจิ้นครับ อีกเดี๋ยวพี่ต้องบินแล้ว ไว้คุยกันนะ ชิงตั้งใจทำงานนะครับ เดี๋ยวพี่จะรอดูรายการที่ชิงไปอัดนะ” คริสรีบล่ำลาน้อง
“อื้ม ฝานเก่อก็เดินทางดีๆน้า ไว้คุยกันใหม่นะครับ บ๊ายบาย”
เมื่อทั้งคู่ล่ำลากันเสร็จ อี้ชิงก็เดินออกจากห้องน้ำมาหาผู้จัดการที่กำลังยืนรออยู่พอดี
ผ่านไปไม่นานอี้ชิงก็มาถึงสตูดิโอที่ใช้ถ่ายรายการ วันนี้รุ่นพี่ทุกคนเอ็นดูเค้ามาก เข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปเค้าเต็มไปหมด จนเค้ามึนไปแล้ว พอเริ่มถึงเวลาจะใกล้ถ่ายทำ อี้ชิงนั่งรออยู่ในห้องยืนดูเสื้อผ้าที่จะใช้เปลี่ยนเพื่ออัดรายการ งืม ใส่แบบไหนดีน้า ตัวสีฟ้าหรือจะสีขาวดี เอ๊ะ พี่คริสบอกว่าจะรอดูรายการที่เราอัดนิ งั้นใส่เสื้อสีขาวกับกางเกงสีดำดีกว่า จะได้เหมือนกัน
พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ อี้ชิงก็เดินออกจากห้องมาที่ถ่ายทำรายการ เค้าทำอาหาร เลือกวัตถุดิบ พูดคุยกับรุ่นพี่ ตอบคำถามกรรมการ จนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมงการอัดรายการในวันนี้ก็จบลง อี้ชิงโค้งขอบคุณสต๊าฟทุกคนและกล่าวล่ำลารุ่นพี่ก่อนจะกลับไปที่ห้องพัก เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและกลับโรงแรม
คริสเมื่อเครื่องลงจอดก็พบว่ามีแฟนคลับมาดักรอเจอเค้าเต็มไปหมด เค้ารีบเดินเพื่อที่แฟนๆจะได้ไม่พากันออตรงทางเข้าและจะถูกตำหนิเอาได้ เค้าถอดแว่นตาออกและหยิบผ้าปิดปากขึ้นมาคาดไว้ มีแฟนคลับคนนึงยิ้มให้เค้าก่อนจะบอกเค้าเบาๆว่า วันนี้เค้าดูเหมือนอี้ชิงเลย เนื่องจากว่าเค้าคาดผ้าปิดปากไว้เลยไม่มีใครรู้ว่าเค้ากำลังยิ้มอยู่เมื่อ ฟังที่แฟนคลับคนนั้นพูดจบ
เมื่อใกล้จะถึงทางไปขึ้นรถที่จอดรอรับเค้าอยู่ คริสเลยถอดผ้าปิดปากออกแล้วเปลี่ยนเป็นสวมแว่นตาสีดำสุดเท่แทนก่อนจะกวาดสาย ตามองไปที่แฟนคลับที่ยืนรอบตัวเค้า เค้าพยายามจะมองกล้องแฟนคลับให้ครบทุกกล้องแต่มันมีกล้องเยอะมากและเค้าก็ อาจจะมองไม่ทันบางกล้อง เค้าก็รู้สึกแย่เหมือนกันเพราะรู้ว่าแฟนคลับตั้งใจมาเจอเค้าแค่ไหน คริสมองไปรอบๆเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินขึ้นรถไป
วันนี้อี้ชิงเดินทางกลับเกาหลีแล้ว ตั้งแต่ลงจากเครื่องบินมา พอเอาของเอากระเป๋าอะไรเสร็จแล้ว เค้าก็หยิบมือถือมาโทรหาใครบางคน
หลังจารอสายไม่นาน เสียงงัวเงียของใครบางคนคนนั้นก็ขานรับ....
“หื้อ ชิงโทรมาเช้าจังครับ” คริสตอบด้วยเสียงงัวเงียเพราะเค้ายังนอนอยู่บนเตียงอยู่เลย
“ถึงเกาหลีแล้วนะ ฝานเก่อขี้เซา” อี้ชิงพูดเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน
“ครับผม กลับถึงหอแล้วรีบพักผ่อนนะ”
“ฮะ ฝานเก่ออย่าลืมดูรายการที่ชิงไปอัดน้า” อี้ชิงรีบเตือนเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเค้าต้องการให้คริสดูอะไร
เซอร์ไพรส์เล็กๆน้อยๆจากเค้าไง :D
“ครับ ไว้พี่ตื่นเต็มตาก่อนนะจะรีบดูทันทีเลย แต่ตอนนี้พี่ขอนอนก่อนนะครับ พี่ง่วง” คริสบอกน้องก่อนจะหลับคามือถือไป
“ฝานเก่อ... ฝาน... อี้ฝาน...”
เมื่อไม่ได้ยินเสียงอีกคนขานรับ อี้ชิงก็เลยรีบพูดด้วยเสียงเบาๆแต่รวดเร็วเพราะกลัวจะถูกได้ยินและตัวเค้า เองก็อายที่ต้องพูดไป
“ฝานเก่อ...”
“ชิงคิดถึงนะ”
พูดจบอี้ชิงก็รีบวางสายทันที แล้วยิ้มตาปิดด้วยความเขินอาย แต่ไม่มีใครสังเกตุทันหรอกมั้งเพราะเค้าใส่ผ้าปิดปากอยู่นี้หน่า
แต่อี้ชิงจะรู้ไหม คนที่อี้ชิงคิดว่าหลับไปแล้วกลับนอนมองมือถือแล้วยิ้มกว้างอย่างมีความสุขขนาดไหน
“พี่ก็คิดถึงชิงนะครับ”
คริสพูดตอบกลับไปแม้อีกคนจะวางสายไปแล้วก็ตาม ก็ช่างสิ ถึงจะไม่ได้ยินแต่ก็อ่านได้ไม่ใช่หรอ ในเมื่อเค้าเองก็ส่งข้อความกลับไปด้วยไง
ฉันเคยคิดว่าฉันมีทุกอย่างพร้อมแล้ว
ฉันไม่รู้เลย ว่าชีวิตฉันต้องการอะไร
แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจทุกอย่างชัดเจนแล้ว
เธอคือสิ่งเดียวที่ฉันต้องการ
เพียงคนเดียวที่ฉันยอมให้เข้ามาในหัวใจ
ตอนนี้ที่ฉันยังหายใจต่อไปได้
ก็เพราะตอนนี้
ฉันมีเธอที่อยู่ข้างๆกัน
ONE MORE DAY STORY THREE
ง่วงนอนจังแต่วันนี้อี้ ชิงมีถ่ายเอ็มวีแต่เช้า อี้ชิงสะบัดหัวให้หายมึนก่อนจะลุกไปล้างหน้าล้างตา อาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมสำหรับการทำงานในเช้าวันนี้ กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จเวลาก็ล่วงไปเกือบๆหนึ่งชั่วโมง เพราะอี้ชิงดันไปเผลอหลับต่อในห้องน้ำนะสิ แต่โชคดีที่พี่ซิ่วหมินเกิดอยากเข้าห้องน้ำต่อเลยมาปลุกเค้าตื่น ไม่งั้นอี้ชิงก็คงนอนอยู่ในนั้นทั้งวันแน่ๆ
“สวัสดีครับ ผมอี้ชิงนะครับ ฝากตัวด้วยนะครับ” อี้ชิงพูดทักทายทีมงานทันที่เค้ามาถึงกองถ่ายเอ็มวี วันนี้อี้ชิงต้องถ่ายเอ็มวีของรุ่นพี่ Fly to the Sky ส่วนเพลงนั้นอี้ชิงคิดเอาไว้แล้วละว่าจะถ่ายเพลงอะไร เพราะก่อนหน้านี้เค้าได้ติดต่อกับทีมงานไปแล้วว่าอยากจะถ่ายเอ็มวีเพลงนี้ และทีมงานก็ได้ช่วยเค้าคิดเอ็มวีด้วย
อี้ชิงบอกใบ้ให้ก็ได้ อี้ชิงถ่ายเอ็มวีเพลง Missing You
“รุ่นพี่ครับ มาแต่เช้าเลยนะครับ” แทยงน้องชายร่วมค่ายทักขึ้นเมื่อมาถึง
“อ่า แทยง สวัสดีนะ วันนี้พี่ขอฝากตัวด้วยนะ”
“ฝากหัวใจไว้ด้วยก็ได้นะครับ ฮ่าๆ” แทยงเอ่ยแซวรุ่นพี่ตัวขาว จนคนตัวขาวเกิดอาการเขินหน้าแดงเลยแก้เขินด้วยการตีแขนรุ่นน้องไปเบาๆ
“บ้าหรอ นายพูดอะไรออกมาเนี่ย”
“แหม รุ่นพี่ก็ เขินหรอครับ ผมหยอกเล่นเฉยๆน้า ฮ่าๆ”
แทยงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปทักทายทีมงานคนอื่นๆต่อ ทิ้งให้อี้ชิงยืนเขินอยู่ตรงนั้นต่อไป
หลังจากทุกคนมากันครบหน้าแล้ว ผู้กำกับก็ได้เรียกคุยเพื่อพูดถึงฉากและรายละเอียดต่างๆของเอ็มวีนี้ เอ็มวีก็จะแบ่งเป็น2พาร์ท พาร์ทแรกเป็นซีนของอี้ชิงที่คิดถึงแฟนที่ตายจากไป และก็วันนี้ก็คือวันครบรอบวันตายของแฟนเค้าเลยจะไปเยี่ยมเธอ โดยอี้ชิงก็ตื่นนอนมาแล้วจะเห็นว่ามีโพสอิทที่แฟนของเขาแปะเอาไว้รอบๆคอยย้ำ เตือนเค้าตลอดว่าต้องทำอะไร ใส่เสื้อผ้าแบบไหน ส่วนซีนที่สองเป็นของแทยงที่เล่นเป็นอี้ชิงตอนเด็กที่พอรู้ข่าวว่าแฟนเข้า ห้องฉุกเฉินก็รีบวิ่งไปหาแฟนที่โรงพยาบาลแต่ก็ดูเหมือนทุกอย่างจะสายไปเพราะ เเฟนได้ตายจากเค้าไปแล้ว เอ็มวีก็เป็นคร่าวๆประมาณนี้
หลังจากที่ได้พูดคุยเสร็จทั้งคู่ก็มาซักซ้อมเอ็มวีในส่วนของตน จนถึงเวลาถ่ายจริงทั้งสองคนเล่นเอ็มวีได้เข้าถึงอารมณ์และทำให้คนดูรู้สึก อินมากจนผู้กำกับถึงกับออกปากชมไม่หยุด
“ทำไมรุ่นพี่ถึงได้เลือกเสื้อตัวนั้นล่ะครับ” แทยงถามเมื่อทั้งคู่มานั่งดูเอ็มวีที่เพิ่งถ่ายเสร็จไปเมื่อกี้
“ก็กำลังคิดถึงคนที่เคยใส่เสื้อตัวนี้อยู่น่ะ” อี้ชิงตอบยิ้มๆ
“หื้ม ใครกันครับ” แทยงถามอย่างสงสัย
“สักคนเถอะหน่า ไว้ถึงเวลาเดี๋ยวนายก็รู้เองแหละ อ่ะ ดูฉากนี้สินายเท่จังน้า” อี้ชิงเปลี่ยนเรื่องทันที แล้วรีบชี้ให้แทยงดูฉากของแทยงเองที่ถ่ายตอนกำลังรอแฟนหน้าห้องฉุกเฉิน
เหมือนคนนั้นเลย ใบหน้าของแทยงในฉากนี้ทับซ้อนกับใบหน้าของคนนั้นจริงๆ
พี่คริส... ตุ้ยจ่าง... อู๋อี้ฝาน...
ชิงคิดถึงพี่คริสจังเลยฮะ พี่คริสจะคิดถึงชิงบ้างไหม
“แทยง ฉากนี้นายเหมือนคริสเลยนะเนี่ย ฉันก็นึกอยู่นานว่านายหน้าคล้ายๆใคร” ผู้กำกับที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ เดินเข้ามาหาพวกเค้าแล้วก็พูดขึ้น แทยงที่นั่งดูอยู่พอได้ยินก็คิดตามประโยคที่ผู้กำกับพูด พลางนึกถึงบทสนทนาก่อนหน้าที่คุยกับรุ่นพี่อี้ชิงเมื่อสักครู่
“ทำไมรุ่นพี่ถึงได้เลือกเสื้อตัวนั้นล่ะครับ” แทยงถามเมื่อทั้งคู่มานั่งดูเอ็มวีที่เพิ่งถ่ายเสร็จไปเมื่อกี้
“ก็กำลังคิดถึงคนที่เคยใส่เสื้อตัวนี้อยู่น่ะ” อี้ชิงตอบยิ้มๆ
“หื้ม ใครกันครับ” แทยงถามอย่างสงสัย
“สักคนเถอะหน่า ไว้ถึงเวลาเดี๋ยวนายก็รู้เองแหละ อ่ะ ดูฉากนี้สินายเท่จังน้า”
เค้าว่าเค้ารู้แล้ว ว่าใครกันคือคนที่รุ่นพี่ตัวขาวร่วมค่ายของเค้ากำลังคิดถึงอยู่
ร้ายนักนะ เอาเค้ามาเล่นเอ็มวีด้วยแล้วไม่ยอมบอกว่าให้เค้าเป็นตัวแทนของใคร
“ผมเหมือนรุ่นพี่คริสหรอครับ ผู้กำกับ” แทยงถามขึ้นเมื่อคิดได้ถึงแผนการเอาคืนรุ่นพี่ตัวขาวที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ก็ใช่นะสิ เนี่ยฉากนี้นายเหมือนเอามากๆเลยนะ ถ้าไม่บอกมองเผินๆนี้นึกว่าเป็นคริสมาเล่นเลยนะ ดูสิการแต่งตัวก็คล้ายๆกันอีก คริสก็ชอบแต่งตัวแบบนี้แหละ”
“ถึงผมจะเหมือนขนาดไหนก็ไม่ใช่พี่คริสหรอกครับ เพราะคนแบบพี่คริสนั้นมีคนเดียวในโลก ใช่ไหมครับรุ่นพี่อี้ชิง ฮ่าๆ”
แทยงพูดก่อนเหลือบมองรุ่นพี่ตัวขาวที่ตอนนี้เหมือนจะกำลังเขินอยู่
คงรู้แล้วสินะว่าผมอ่านใจพี่ออกแล้ว รุ่นพี่อี้ชิงเนี่ยน้า ซื่อซะจริงๆ
“ก็นั้นนะสิ นี้ฉันก็ยังแปลกใจอยู่เลยที่จู่ๆอี้ชิงก็บอกเอานายมาเล่นเอ็มวีนี้ด้วยกัน”
“สงสัยรุ่นพี่คงเห็นผมเหมือนพี่คริสมั้งครับเลยชวนมาเล่นด้วยกัน เอ็มวีนี้ชื่ออะไรนะครับ Missing You ใช่ไหม อ่า กำลังคิดถึงใครบางคนอยู่ละสินะครับถึงได้เล่นเอ็มวีซะอินเข้าถึงอารมณ์ขนาด นั้น” แทยงว่าแล้วหันไปยิ้มเหมือนรู้ทันใส่รุ่นพี่อี้ชิง
“ฮื้ออ ไม่รู้เรื่องด้วยแล้ว ผมไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า หิวแล้ว” อี้ชิงพูดเสร็จก็วิ่งหน้าแดงหนีออกจากตรงนี้ทันที
“อ้าว ไปหาของกินก็ไม่รอผมด้วยละครับรุ่นพี่ ผมก็หิวน้า”
แทยงตะโกนไล่หลังก่อนนจะวิ่งตามอีกคนไป
หวังว่าคนที่กำลังถูกพูดถึงในบทสนทนานี้เค้าคงกำลังดูเอ็มวีเพลงนี้และได้ รับรู้ถึงความรู้สึกของอีกคนนะว่าเค้ากำลังคิดถึงคุณอยู่
คริส... อู๋อี้ฝาน...
ฉันไม่ได้คาดหวังจริงๆหรอกว่าเธอจะกลับมาหากัน
แต่หัวใจฉันเหมือนติดกับดักของเธอ
ได้โปรดเถอะนะ .. รับฟังหัวใจของฉันที
(ฉันคนที่ไม่อาจเจอเธอได้อีกแล้ว)
ทุกวันทุกคืน ฉันเฝ้าแต่คิดถึงเธอ
ถึงเธอจะไม่ได้อยู่ข้างๆกันแล้วในตอนนี้
ถึงแม้ฉันจะเจอเธอไม่ได้อีกแล้ว
แต่หัวใจของฉันยังจะ ..
เพราะว่าฉันรักและคิดถึงเธอเหลือเกิน
ONE MORE DAY STORY FOUR
00.00 a.m. 5 november 2014.
ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่หอพักของเมมเบอร์วง EXO เวลานี้เป็นเวลาที่ควรจะเข้าสู่ห้วงนิทราแล้วแต่อี้ชิงกลับยังไม่นอน คนตัวเล็กนั่งมองโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเองไปมา อ่า...จะโทรหาดีไหมนะ จะอวยพรว่าอะไรดีล่ะ นี้มันก็ใกล้วันเกิดของเขาแล้วนะ แต่โอ๊ยย คนตัวเล็กคิดไปมาจนในที่สุดก็ยอมแพ้วางมือถือลงแล้วล้มตัวนอน
พอตกบ่ายอี้ชิงก็กดเข้าเว่ยปั๋วของตัวเองเพื่อเช็คข่าวสารต่างๆ รูปภาพงานวันเกิดของพี่อี้ฝานถูกอัพลงเต็มไปหมดเลยแฮะ เพื่งรู้เหมือนกันนะเนี่ยว่าพี่อี้ฝานจัดงานวัดเกิดแล้วเชิญแฟนๆมาด้วย น่ารักจัง อยากรู้จังงานจะเป็นแบบไหนนะ
ตึ๊งง
เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นอี้ชิงกดเข้าไปเช็คดูก็ยิ้มกว้างทันทีที่เห็น จากพี่อี้ฝาน
(有一个地方。只有你和我知道。
ฝานเก่อ)
ถามว่าอี้ชิงงงไหม นี้ตอบเลยว่ามาก มีสถานที่หนึ่งที่มีแค่นายกับพี่เท่านั้นที่รู้? หื้ม? มันคืออะไร? นี้เล่นตลกอะไรกับอี้ชิงอีกละเนี่ยคนบ้า!
อี้ชิงไม่รอช้ารีบพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็วก่อนจะกดส่งไปหาอีกคนนึง
(พี่เล่นอะไรเนี่ย? มันคืออะไร? ชิงสงสัยนะ บอกมาเลย!
ชิงชิง)
ตึ๊งงง
รอไม่นานมือถือของอี้ชิงก็มีแจ้งเตือนเข้ามาอีกครั้ง
(เพลงของพี่เองที่พี่ร้องประกอบหนังที่พี่เล่นไง ชิงอย่าลืมฟังนะคะ
ฝานเก่อ)
อี้ชิงเบ้ปากเมื่อเห็นข้อความที่ตอบกลับมา ทำไมอี้ชิงต้องฟังด้วย...
ไม่ฟังเด็ดขาด...
สักที่ไหนล่ะ...
ทันทีที่เพลงของอี้ฝานถูกปล่อยออกมา อี้ชิงก็กดฟังทันที... ทำไมเสียงพี่ฝานหวานขนาดนี้ล่ะ ทำไมเพลงมันเศร้าขนาดนี้ล่ะ ทำไมเนื้อเพลงมันเหมือนพี่ฝานจะร้องให้อี้ชิงเลยล่ะ คนตัวเล็กกดฟังไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบโดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่า อีกไม่นานเพลงที่เจ้าตัวกำลังฟังจะขึ้นโชว์ว่า ‘จางอี้ชิงได้เข้าฟังแล้ว’ และโดยไม่คาดคิดว่าจะมีคนตาดีเห็นและแคปออกมาได้ทัน
หลังจากที่เพลงถูกปล่อยออกมาไม่นานอู๋อี้ฝานก็ต้องยิ้มแก้มปริอยู่คนเดียวในห้องสี่เหลี่ยมในคอนโดหรูใจกลางเมืองเมื่อเพลงที่เขาร้องเองนั้นได้กลายเป็นเพลงที่ฮอตติดชาร์ตและมียอดกดฟังมากกว่า 2 ล้านครั้งแล้ว
ใน 2 ล้านครั้งที่ฟังนั้นจะมีสักครั้งไหมที่คนที่เขาอยากให้ฟังที่สุดฟังอยู่ด้วย
อี้ชิง...
พี่อยากให้เราฟังนะ เพราะเพลงนี้เพลงที่พี่ร้องเอง จากความรู้สึกของพี่เอง ที่ต้องการสื่อถึงเรานะ
อี้ชิงจะฟังเพลงของพี่หรือยังนะ...
My heart is beating, your gentle smile is secretly supporting me
Only you and I know,I know, that only we know.
12:46 pm - 6 Nov 2014
มีแฟนคลับคนหนึ่งสามารถแคปภาพได้ทันที่อี้ชิงได้กดฟังเพลงของอู๋อี้ฝานในเว่ยปั๋ว หลังจากนั้นเธอจึงโพสภาพดังกล่าวลงแอคเค้าท์ส่วนตัวของเธอ และภาพนี้ก็ถูกแชร์ไปอย่างรวดเร็วและแน่นอนว่าอี้ฝานดีใจมากที่เห็นภาพนี้
อี้ชิงฟังเพลงของพี่แล้วสินะ
จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าหัวใจของอี้ฝานนั้นเต้นแรงแค่ไหน
ขอบคุณนะครับ...นางฟ้าของพี่
วันนี้ตอนสองทุ่ม อี้ฝานมีงานเบิร์ดเดย์ปาร์ตี้ของตัวเองที่เขาจัดเพื่อแฟนคลับของเขาทุกคน เพื่อเหม่ยเก้อหนี่ของอู๋อี้ฝาน วันนี้เขาตื่นเต้นมากเพราะนี้เรียกได้ว่าเขาต้องมาพบกับแฟนๆเพียงลำพัง ถึงแม้ตอนท้ายงานจะมีเพื่อนสนิทอย่าง เรย์ ซงปิงหยางและเควิน ชินขึ้นมาแจมด้วยก็เถอะ ยังไงก็ตื่นเต้นอยู่ดีละนะ
บรรยากาศงานเป็นไปอย่างเรียบร้อยและสนุกสนาน อี้ฝานพูดคุยและตอบคำถาอย่างสบายๆและเป็นกันเอง จากตอนแรกที่แอบมีกังวลอยู่บ้างแต่พอได้เห็นหน้าแฟนคลับที่มาร่วมงานแล้วเขาก็ดีใจจนลืมความตื่นเต้นเหล่านั้นไปจนหมดสิ้น พอถึงช่วงที่ต้องเล่นเกมส์กับแฟนคลับนั้นอี้ฝานก็ได้วาดรูปและให้แฟนคลับทายรูปที่เขาวาด คนไหนทายถูกก็ได้โปสการ์ดประกอบเพลงของเขาไปโดยอี้ฝานเป็นมอบให้ด้วยมือของเขาเอง อี้ฝานวาดไปหลายภาพจนมาถึงภาพนางฟ้าและภาพของคุณแม่ของเขา ที่กินใจทุกคนถึงแม้ภาพของเขาจะไม่สวย อาจจะมีคนหัวเราะเยาะใส่มันแต่มันก็เป็นภาพที่เขาวาดออกมาจากใจของเขา เขาวาดอย่างสุดฝีมือ อี้ฝานรู้ดีว่าเขาวาดรูปไม่สวยแต่ก็นั้นล่ะ เขาชอบที่จะวาดรูปนี้หน่าและทุกครั้งที่เขาวาดรูปก็จะมีคนๆนึงคอยชมและให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ ถึงวันนี้จะไม่มีน้องมาให้กำลังใจและชมภาพของเขาแต่อี้ฝานเชื่อว่าน้องต้องดูการถ่ายทอดงานวันเกิดของเขาอยู่แน่ๆ
ในหนึ่งล้านคนที่กำลังดูอยู่นั้นต้องมีคนดูสักคนหนึ่งแหละที่ชื่อจางอี้ชิง
หลังจากที่กิจกกรมต่างๆผ่านไปได้ด้วยดีแล้วก็ถึงคราวที่ต้องเป่าเค้กอวยพรวันเกิดให้อี้ฝาน เพื่อนๆทั้งสามคนนำเค้กขึ้นมาบนเวทีและช่วยกันตกแต่งเค้กอย่างน่ารัก ของประดับตกแต่งที่นอกจากจะเป็นลูกบาสที่สะดุดตาแล้วก็ยังมีรูปม้าและยูนิคอร์นที่ทำเอาหลายคนต่างพากันคิดไปต่างๆนานาว่าอี้ฝานต้องการสื่ออะไรหรือเปล่า? หลังจากแฟนคลับและเพื่อนๆช่วยกันร้องเพลงวันเกิดให้อี้ฝานแล้ว เจ้าตัวก็หลับตาและขอพรให้แก่ตัวเอง เพื่อน แฟนคลับและคนที่เขารัก
HAPPY BIRTHDAY MR. GALAXY WU YIFAN.
Your wishes will come true in the right time, we will be here for you to support you .
“Don’t forget,I’m a dragon,I can fly,in the shortest amount of time,I’ll come to your side."-Kris
#HappyWuYiFanDay
*ไว้มีโมเม้นฟินๆคริสเลย์ ค่อยมาเจอกันใหม่ค่ะ*
7.11.14
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ milkteaismylife ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ milkteaismylife
ความคิดเห็น