คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #64 : CHAPTER 50
หลังจากที่ฮยอนจุงได้อ่านโน้ตที่ยองแซงทิ้งไว้เจ้าตัวก็ไม่ยอมขยับเยื้องร่างกายไปไหนเลยแมแต่นิด หิวก็สั่งให้พนักงานเอาอาหารขึ้นมาให้ อยากจะลงไปเล่นฟิตเนตก็ยังต้องวิ่งจ๊อกกิ้งในห้องเอา ชีวิตของเขาไม่เคยต้องนั่งทนรออะไรขนาดนี้มาก่อน ฮยอนจุงไม่อยากจะปฏิเสธว่าตัวเองนั้นหลงรักเลขาคนสวยของเขาเข้าแล้ว แต่ว่าเหมือนกับมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ตัวเขาเองรู้สึกไม่กล้าที่จะลงมือหรือบอกความในใจออกไป เขารู้ว่ายองแซงเองก็คงไม่ได้รังเกียจเขามากมายสักเท่าไหร่ เพราะต่างคนต่างเริ่มปรับตัวเข้าหากันได้ และเขาก็รักษาสัญญานั้นได้แล้วด้วย ไม่มีเหตุผลอะไรที่ยองแซงจะเกลียดเขา ยกเว้นแต่เรื่องนี้ที่ทแอบโกหกว่าจะมาทำงานแต่กลับพามาเที่ยว ในความคิดของเขามันไม่น่าจะมีอะไรมาก ยองแซงไม่น่าจะโกรธมากสักเท่าไหร่สำหรับเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเขาเลยตัดสินใจว่าหลังจากที่เคลียร์เรื่องนี้เสร็จเขาจะบอกรักและขอยองแซงคบแบบจริงๆจังๆเสียที
“เมื่อไหร่นายจะกลับมานะยองแซง ฉันตื่นเต้นนะเนี่ย” ฮยอนจุงบ่นกับตัวเองเบา ๆ
“รอแค่นี้ก็ไม่ได้หรอครับ” จู่ๆร่างบางที่เขานั่งรอมาตลอดทั้งวันก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้า ทำให้เขาดีใจไม่น้อย เพราะอย่างน้อยยองแซงก็ยังให้โอกาสเขาตามที่บอกไว้จริงๆ
“ไปไหนมาหรอยองแซง” ฮยอนจุงพูดแล้วเดินเข้าไปหาร่างบาง แต่ปฏิกิริยาที่ตอบกลับมานั้นกลับทำให้เจ้าตัวชะงักไปทันที
“เกี่ยวอะไรกับคุณหรอครับ คุณฮยอนจุง” ยองแซงพูดแล้วถอยออกมาจากตรงนั้นเล็กน้อย เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างตนเองและร่างสูง
“ยองแซง ฟังฉันก่อนนะ ที่ฉันทำไปทั้งหมดก็เพื่อง้อนายทั้งนั้นอ่ะ ฉันไม่ได้อยากจะโกหกนายเลยนะยองแซง ฉัน...” ฮยอนจุงพยายามอธิบายเหตุผลของตนให้ยองแซงฟัง ร่างบางที่ยืนฟังอยู่นิ่งๆในตอนแรกก็ขัดขึ้นมาเสียดื้อๆ
“ผมเข้าใจ ว่าคนอย่างคุณน่ะมันไม่เคยคิดจะทำอะไรจริงจังอยู่แล้ว พูดกันตรงๆเลยนะครับ ถ้าคุณพูดว่าคุณเป็นคนหลอกผมมาแบบตรงๆ ยังจะดีกว่าที่คุณมาบอกว่าคุณไม่ได้ตั้งใจหลอกผม คุณไม่ได้ทำ คุณไม่ได้เจตนาไม่ดี ผมไม่ชอบที่คุณทำแบบนี้ เพราะงั้น มีอะไรก็พูดมาตรงๆเถอะครับ มันจะดีกว่าจริงๆ” ยองแซงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำเอาคนที่ยืนฟังอยู่นั้นนิ่งเงียบ และไปไม่เป็นทันที
“ว่าไงครับ คุณจะพูดไหม ไม่พูดผมจะได้ไปนอน” ยองแซงกล่าวก่อนจะหันตัวหนีเพื่อที่จะเดินเข้าห้องนอนของตนเอง แต่ว่าด้วยแรงกอดจากด้านหลังทำให้ยองแซงไม่สามารถขยับตัวหนีไปไหนได้ นอกจากยืนเป็นตุ๊กตาให้ร่างสูงได้กอดเท่านั้น
“โอเค ฉันยอมรับแล้ว ฉันขอโทษละกันนะที่ผิดสัญญา ฉันสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก” ร่างโปร่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“คุณพูดว่าสัญญามากี่ครั้งแล้วนะ ผมถามจริงๆคุณไม่เบื่อรึไงที่ต้องพูดว่าสัญญาทุกครั้งแต่คุรก็ไม่เคยที่จะทำตาม คุณพูดเพื่ออะไร!” ร่างบางเริ่มขึ้นเสียงหนักขึ้นเมื่อได้ยินคำที่ฮยอนจุงพูด คำว่าสัญยาสำหรับร่างบางนั้นเป็นคำที่บาดลึกในจิตใจขอตัวเองมานานแล้ว พูดว่าสัญญา แต่ไม่เคยทำตาม เขาเกลียดเป็นที่สุด
“ยองแซง ฟังผมนะ คุณคิดว่าจะมีใครที่ไหนมานั่งง้อเลขาตัวเองอย่างนี้บ้าง จะมีใครที่ไหนที่มานั่งคิดแผนบ้าๆบอๆเพื่อให้คนๆหนึ่งหันหน้ามาคุยกัน จะมีใครที่ไหนบ้างที่จะทำแบบนี้ให้คนอื่น ถ้าไม่ใช่คนที่เขา....รัก” ร่างสูงโปร่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นราวกับว่ากลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไป
ยองแซงได้ยินคำพูดที่ไม่คิดว่าจะได้ยินเอ่ยออกมาจากปากของร่างสูงก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก ที่คิดว่าจะดิ้นให้หลุดแล้วด่ากราด กลับทำได้แค่ยืนนิ่งเป็นหุ่น และแน่นอนเมื่อได้ยินคำบอกรักหวานๆแบบนี้ เจ้าตัวยิ่งมีสีหน้าแดงระเรื่อขั้นมาเสียดื้อๆ
“ไปดินเนอร์กันข้างล่างนะ ผมสั่งอาหารไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้ว” ฮยอนจุงคลายอ้อมกอดแล้วกุมมือเลขาสุดสวยของตนเองเดินลงไปที่ล็อบบี้ข้างล่างเพื่อทานอาหารที่ได้สั่งไว้เพื่อเป็นการขอโทษแกคนตรงหน้าโดยเฉพาะ ระหว่างทางที่จะไปโต๊ะอาหารนั้น ริมฝีปากเรียวบางนั้นขบเม้มมันอยู่ตลอดทาง แถมยังมีสีหน้าลำบางใจอยู่ตลอดเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
“นี่ยองแซง ผมสั่งอาหารที่คิดว่าคุณน่าจะชอบไว้เยอะแยะเลยนะ ลองทานดูสิ อร่อยนะจะบอกให้” เมื่อฮยอนจุงเห็นยองแซงนิ่งไปก็พยายามจะพูดเอาใจร่างบางไว้ให้มากที่สุด ยองแซงพยักหน้ารับเบาๆ แต่ใบหน้าหวานนั้นกลับไม่มีวี่แววที่จะอารมณ์ดีขั้นมาเลยแม้แต่นิด
“คุณยังโกรธผมอยู่หรอ” ฮยอนจุงถามด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
“ไม่หรอก ผมไม่โกรธคุณแล้ว” ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ยออกมา พร้อมกับยิ้มหวานไปให้คนตรงหน้า ยองแซงรู้ดีว่าตอนนี้ฮยอนจุงรู้สึกเช่นไร แต่ว่าเขาเองก็ยังคงสับสนอยู่เหมือนกัน ถ้าฮยอนจุงคิดจะให้เขาบอกคำตอบภายในวันนี้เขาคงให้ไม่ได้จริงๆ
“อื้ม ขอบคุณนะ นี่ยองแซง มันเป็นของคุณนะ” ร่างสูงยิ้มร่าเมื่อใบหน้าหวานบอกมาแล้ววว่าไม่โกรธ เขาจึงดำเนินการขั้นต่อไป ดอกกุหลาบสีแดงสดจำนวนมากถูกจัดเรียงอย่างสวยงามด้วยกระดาษสีครีมอ่อนๆ ผูกริบบิ้นสีชมพูถูกผูกเป็นโบว์ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม รือเรียวยื่นไปรับดอกไม้ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มมากกว่าเดิม
“ขอบคุณนะ ฉันไม่คิดว่าคุณจะทำได้ถึงขนาดนี้นะเนี่ย” ยองแซงรับมาแล้วพูดแซวร่างสูงพร่อมกับส่งรอยยิ้มที่ดูร่างเริงที่สุดตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาร่วมหลายเดือน
“ดีแล้วที่คุณชอบ กินกันต่อเถอะ ผมหิวแล้ว” ฮยอนจุงพูดแล้วก้มหน้ากินนู่นนั่นนี่ไปเรื่อยๆ เหมือนกับว่าวันทั้งวันไม่ได้กินอะไรมา เมื่อร่างบางเห็นดังนั้นก็อดแซวขึ้นมาอีกไม่ได้
“ทำอย่างกับไม่เคยกินไปได้” ส่ายหัวให้กับพฤติกรรมของร่างสูง ทีตอนอยู่ต่อหน้าลูกน้องน่ะทำเป็นขรึม แต่พออยู่ต่อหน้าเพื่อนๆหรื่อคนที่สนิทๆนั้น เขาจะกลายเป็นคนพูดมากทันที
“คุณรู้ไหม ผมนั่งลุ้นทั้งวันเลยนะว่าคุณจะยอมรับคำขอโทษผมไหม หิวก็หิวนะแต่กินไม่ลงจริงๆอ่ะ” ร่างสูงพูดความจริงที่วันนี้เขาสั่งอาหารขึ้นมาก็ตักเข้าปากได้เพียงคำสองคำเท่านั้น
“จริงๆ ผมกะว่าจะด่าคุณแล้วเดินหนีคุณแล้วด้วยซ้ำ แต่พอเห็นท่าทางที่เหมือนหมาหงอยอย่างนั้นก็อดสงสารไม่ได้ล่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ” ยองแซงพูดตามที่คิด เพราะจริงๆแล้วตนเองคิดคำด่าไว้เยอะแยะมากมาย แต่มันกลับกลืนหายไปในลำคอเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นออกจากปากของร่างสูง
“ยองแซง” ฮยอนจุงเรียกชื่อร่างบางเบาๆเหมือนกับกำลังจะเรียกกำลังใจให้ตนเอง
“หืม ว่าไง” ยองแซงตอบรับแต่ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวของตนเอง
“คบกะ...” ไม่ทันที่ฮยอนจุงจะพูดจบร่างบางก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับตนเอง แต่ก็ต้องกลืนคำพูดทุกอย่างลงไปในลำคอเมื่อเห็นยองแซงทำหน้าตกใจ
“...!...”
-------------------------------------------------------------------------------
TALK
อันยองอีกครั้งคร้าาาาาเพื่อนๆ
วันนี้วันอาทิตย์แล้ว
แอบเบี้ยวนัดเพื่อนมานั่งแต่งฟิคด้วยแหละ 555
ฟิคตอนนี้แอบบอกว่าตอนแรกตันมากจริงๆนะ
เลยแอบไปกระซิบถามหมูน้อยตัวนึง(เพื่อนโบเองค่ะ)
ว่าง้อคนทำไงดีวะ มันก็บอกว่ามีของที่ชอบ แล้วก็ดอกไม้อะไรอย่างนี้
โบก็เลยจัดมาให้เพื่อนๆอ่านนี่แหละค่ะ
แต่ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไปก็ขอให้ลุ้นกันต่อนะนคะ
ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้คร่ะ
ความคิดเห็น