คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 ชีวิตเรื่อยเปื่อยในโลกจริง (จบ)
บทที่ 7
ชีวิตเรื่อยเปื่อยในโลกจริง (จบ)
ตอนนี้ผมมาหยุดยืนอยู่ที่โต๊ะตัวใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าหมายของไอเพนมันพอดี
“อ่าว ทิว หวัสดี ไม่เจอกันนานเป็นไง สบายดีเปล่า” ฟ้า...ใช่ครับ หญิงสาวผมดำที่นั่งทำตัวสวยอยู่ตรงน่าผมเป็นคนทักผมเองแหละครับ
“อืม...ก็สบายดีนะ แล้วฟ้าล่ะ เรื่องร้านดอกไม้ของป้าจวง ได้ข่าวว่าติดอันดับร้านดอกไม้ประจำชาติไทยเลยนี่ เก่งโน้ะฟ้าอะ แถมยังหน้ารักอีกต่างหาก” ผมพูดแต่ก็...แหมก็มันอดใจไม่ได้นี่ ที่จะไม่ทิ้งปลายประโยคแบบนั้น อิๆ สันดานเก่ามันกำเริบน่ะ
“แหมพูดแบบนี้ฟ้าก็เขินเป็นนะ” เธอยิ้มอายๆ
“เฮิ้ยไอทิว เจอสาวก็คุยอยู่กับสาว ไม่สนใจมาทักผมหน่อยเหลอฟะคุณสุดหล่อ” ผมหันไปตามเสียง
“ไอหนวดไ ผมวิ่งเข้าไปกอดมันทันที แหมก็ไอหน้าโจรย์ที่ผมกอดอยู่นี่มันเป็นเก...เอ้ยยยเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่อนุบาล ผมกับมันตายแทนกันได้เลยแหละ
“เฮ้ยยยย...เดี๋ยวคนอื่นเขาเข้าใจผิดกันหมด ...ปล่อยนะเฟิ่ยยย” ผมแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ก็อาการโมโหของมัน ดูยังไงก็คิงคองหิวน้ำดีดีนี่เองแหละ
“แล้วอีกอย่าง ฉันไม่ใช่ไอหนวด ฉันคือ...เทพบุตรเครางาม” โป๊ก อย่าถามว่าเสียวอะไร ก็กำปั้นผมนี่แหละที่เขกหัวมันไปทีหนึ่ง
“ทีหลังไม่ต้องทำเสียงหล่อนะเฟิ่ย...มันหยะแหยงว่ะ” ผมผลักมันออก ตอนนี้ผมเริ่มสำรวจรอบบริเวณอย่างละเอียด
“ไอคม...” ผมวิ่งเข้าไปหาเพื่อนอีกคนหนึ่ง
“หยุด”
“อ่าวทำไมต้องยกเท้าให้ฉันด้วยวะ” ผมหยุดอย่างที่มันบอก
“ห้ามเข้ามาใกล้ฉันอีก แม้แต่ก้าวเดียว ฉัน...อายยยยว่ะ” มันร้องไห้ก่อนจะเป็นฝ่ายวิ่งร้องไห้เข้าหาผมเอง ผมกอดมันเบาๆ
“สี่ปีเลยนะพี่... เราสามพี่น้องร่วมสาบานไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งสี่ปีแล้ว” ไอหนวดก็พลอยน้ำตาคลอ...ฝั่งคุณเพนน่ะหรือ ก็กำลังนั่งวุ่นวายอยู่กับสาวที่ไหนไม่รู้อยู่ที่โต๊ะตัวข้างๆ
ขอไขข้อค่องใจก่อนนะครับ คือ ผม ไอคม กับไอเอ็ม หรือไอหนวดนั่นแหละ
เป็นพี่น้องร่วมสาบาน เพราะแม่ผมเป็นคนเก็บพวกมันมาเลี้ยงโดยมีผมแก่เดือนที่สุด ไอเอ็ม และไอคมน้องเล็ก พวกมันกำพร้าไม่มีทั้งพ่อและแม่ ผมเลยได้เป็นเพื่อนกับพวกมันมาตั้งแต่อนุบาลหนึ่งเลยแหละ และที่ผมไม่ได้เจอกันสี่ปีก็เพราะว่าผมไปเรียนต่อกันคนละที่ โดยผมเองไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น...ด้วยความหลงใหลส่วนตัวอิๆ (ซี้ดดดดด)
ไอเอ็มเองก็ไปเรียนต่อที่จีน มันบอกว่าจีนมีคนเยอะดี จะได้เกิดการแข่งขันที่หน้าตื่นเต้น
ส่วนไอคม มันไปเรียนที่เกาหลีใต้ คือมันชอบของมันอะครับ ผมเคยถามว่าเหตุผลเดียวกันหรือเปล่า แต่มันก็ไม่ตอบผม แถมยังยิ้มแปลกๆให้ผมอีกต่างหาก
วนมาที่งานเลี้ยง คือผมเองก็ไม่รู้ว่าพวกมันกลับมาเมืองไทยกันแล้วนะ
“ไม่เห็นบอกเลยวะว่าจะกลับบ้าน” ผมถามออกไป
“ก็พึ่งจะมาถึงนี่แหละ กลับจากไปเที่ยวกับแม่ดาที่อังกฤษก่อนมานี่ไง” ไอเอ็มตอบก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ตัวหนึ่งออกแล้วทิ้งตัวลงนั่ง
“อ่าว...” ผมนิ่ง
“แล้วทำไมพวกเองไม่ชวนฉันเลยฟะ เขาว่ากันว่า สาวอังกฤษ น่ะ...” ผมมั่นใจว่ากริยาของผมมันต้องออกไปในทางหื่นสุดๆอยู่แน่เลยจนไอเอ็มกับไอคมหลุดหัวเราะพลืดออกมา
“ก็เพราะแม่ดาเขารู้ว่าเองจะเป็นอย่างนี้ไงก็เลยสั่งห้ามไม่ให้ใครชวน” ผมจ้องตาไอเอ็มอย่างไม่พอใจ
“แล้วแกก็ไม่คิดจะบอกฉันจริงๆ” มันพยักหน้า
“เฮ้ยคิดก่อนก็ได้นะ แหมตอบซะเร็วเชียว” จากนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรนอกจากผมที่มองฟ้าบ่อยๆ แต่เธอก็ไม่ว่าอะไรแถมยังส่งยิ้มหวานให้ผมอีกต่างหาก
...
...
ผมก้มดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะอุทานเบาๆ
“ตีสอง” ในใจผมกำลังคิดเรื่องเกมส์อยู่ ถ้าเข้าเกมส์จะไปไหนดี ผมคิดหลายเรื่อง แต่ทุกเรื่องเกี่ยวกับเกมส์ทั้งหมดเลย
‘เหมือนผมจะเริ่มติดแล้วเปล่าวะ’ แต่ไม่ทันจะทำอะไรเพื่อนคนหนึ่งก็ขอตัวกลับทำให้เพื่อนที่เหลือพากันค่อยๆทยอยกลับบ้านจนเหลือผม ฟ้า เพน กับสุนัขน่าบ้านที่เห่าเสียงดังอยู่หลังไมโครโฟนอย่างหน้าโดนกระโดดเข่าคู่สักที ก็จะใครล่ะ ไอเอ็มกับไอคมอะดิ เมาแล้วชอบแหกปาก
“ทิว...” ผมหันไปตามเสียงเรียก
“ว่าไงฟ้า” ผมยิ้มหล่อ
“ตามฟ้ามาหน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย” เธอลุกขึ้นจากโต๊ะเดินออกไปหน้าร้านทำให้ผมต้องเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้
...
...
“มีอะไรหรือฟ้า” ผมเดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหลังของเธอ รอบๆเต็มไปด้วยราณจอดรถที่เกือบจะว่างเปล่า เธอค่อยๆหันมาหาผมช้าๆ เอาแล้วสิ น้ำตานั้น...ผมแพ้มันซะด้วย
“ฟ้ารักทิวนะ เรากลับมาคบกันได้ไหม ฟ้ารู้นะว่าทิวก็รักฟ้า” เสียงเธอสั่นเคลือ ตอนแรกผมก็งง
“ทิวไม่ได้รักฟ้าแล้ว ขอโทษนะ” ผมยิ้มก่อนจะหันหลังกลับ
“ถ้าจะคุยแค่นี้ทิวเข้าไปข้างในนะ เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิด” เสียงที่พูดเปล่งออกไปหน้าจะเย็นชาเกินฟ้าเลยร้องไห้นักกว่าเดิม ผมหันขวับกลับไป
“เลิกทำให้ผมดูเป็นคนเลวได้แล้ว ผมไม่ใช่คนโง่เชื่อคนง่ายให้คุณมาล้อเล่นเหมือนแต่ก่อนได้อีกต่อไป ตอนนี้ผมรู้ดีว่าอันไหนจริง...อันไหนลวง ผมแยกแยะเป็น และก็ไม่เห็นความจริงในตัวคุณเลย” ผมตะโกนออกไปอย่างเดือดดานสายตาที่ผมจ้องมองเธอมันนิ่งมาก ก็ผมไม่รักเธอแล้วนิ่
“แล้วก็นะ เลิกคิดเองเออเองได้แล้ว อย่ามาเหมารวมผมกับหนุ่มๆ ของคุณ เพราะผมเกลียจที่สุด ไอพวกหลอกลวง พวกที่ชอบทำให้คนอื่นเห็นใจ แต่จริงๆ แล้ว ตัวเองนั่นแหละที่คนอื่นสมควรจะระวัง พูดก็พูดผมน่ะไม่ได้รักคุณเลย แค่เห็นว่าคุณหน้ารักดีก็เท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลยทั้งนั้น ดังนั้นที่ผมกับคุณทำก็แค่การกระทำสำหรับผู้หญิงทุกคน อย่าเก็บไปคิดมากสิ เพราะผมไม่มีวันรักฟ้าได้อีกแล้ว เรื่องของคุณกับผมมันจบไปตั้งแต่วันนั้น และมันไม่มีวันที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป มันจบตั้งแต่วันที่คุณเลือกเขา แล้วจำไว้นะ ถ้ายังต้องการเป็นเพื่อนกับผมอยู่ อย่าพูดคำนี้อีก...” ในสายตาของผมฟ้าเธอกำลังอึ้ง...เอ ผมพูดแรงเกินไปหรือเปล่า คงไม่หรอก
“เจอกันข้างในนะฟ้า” ผมส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินกลับเข้าไปข้างในร้านอีกครั้งแต่จนงานเลิกผมก็ยังไม่เห็นหน้าเธอเลย
ผมบอกลาเพื่อนก่อนจะลากไอสองตัวขึ้นรถอย่างทุลักทุเล...
“เมา...เมา...” ไอเอ็มโวยวาย
“กรูรู้แล้วเวิ่ย...” ผมตะโกนกลับไปอย่างเหลื่ออด
“พี่ครับขอ...(สุ่มเสี่ยงไม่สามารถออกอากาศได้)หน่อยได้ไหมครับ” เสียงอ้อแอ้อ้อแอ้ของไอคมดังขึ้น
“เฮิ่ย...ไม่เบานี่หว่าไอคม ถ้าจะมันอยู่เลยอะดิ” ผมพึมพำ
“หุบปากให้หมด...” ผมปิดประตูด้านหลังที่ไอเข้สองตัวอาบแดดกันอยู่
“เฮ่อออ...” ผมเริ่มจะรู้สึกถึงความวุ่นวายในชีวิตได้ลางๆจากนั้นรถหรูก็แล้นออกจากราณไป
(ติชมตามสบาย)
ตอนหน้าช่วงท้ายคงได้เข้าเกมส์แล้วแหละครับ...ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะนิยายเรื่องนี้กัน ส่วนผมเองก็จะพยายามแต่งให้ดีขึ้นเรื่อยๆเท่าที่ความสามารถของผมจะไปถึง ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของผู้อ่านด้วย ดังนั้นหากนิยายเรื่องนี้มีส่วนไหนที่ขัดใจอ่านแล้วไม่สนุกช่วยติชมด้วยนะครับเพราะผมพึ่งจะแต่งนิยายจริงๆ จังๆ เป็นเรื่องแรก ยังไงก็ขอขอบคุณล่วงหน้าเลยแล้วกัน
ปล. ช่วงนี้มีเหตุให้เดินทางไกล อาจจะไม่ได้อัปถึงวันที่ยี่สิบกว่าๆ ต้องไปพิโลก...แต่ระหว่างนี้จะแถมบทที่ 8 แบบไม่สมบูรณ์ให้อีก 1 บท ไปก่อนนะครับแล้วเจอกัน...บาย
ความคิดเห็น