ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO]Beauty Poison (LUBAEK)

    ลำดับตอนที่ #2 : Beauty Poison 1:Fate

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 57


     

     

    -1-

    FATE 

     

     ไม่มีความโหดร้ายใดเทียบเท่ากับความโหดร้ายที่มนุษย์กระทำต่อกันเอง

    ไม่มีความอัปยศใดเทียบเท่ากับความอัปยศที่มนุษย์คนหนึ่งหยิบยื่นให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

     

     

    สำนักกีแซงฮันวอล’   มีชื่อเสียงและรู้จักกันอย่างกว้างขวางในกองทัพญี่ปุ่น  เป็นแหล่งรวบรวมสาวงามของเกาหลีและยังเป็นสถานที่อันสามารถแสดงประเพณีเกาหลีได้อย่างโจ่งแจ้งแม้กองทัพญี่ปุ่นออกกฎห้ามประชาชนเกาหลีแสดงออกถึงความเป็นชนชาติของตน  หากที่แห่งนี้คือข้อยกเว้น 

     

    ฮันวอล หรือ พระจันทร์ฤดูหนาว เป็นสำนักกีแซงแห่งเดียวซึ่งเหลือรอดจากการโดนทำลายไปพร้อมกับราชวัง  เหตุผลเพียงเพราะกองทัพญี่ปุ่นต้องการใช้เป็นสถานระบายอารมณ์ใคร่สำหรับพวกนายทหารยศผู้พันขึ้นไปจะได้ไม่ต้องไปใช้สาวชาวบ้านร่วมกับลูกน้องในกองทัพ

     

    กองทัพญี่ปุ่นไม่ได้เห็นหรอกว่าฮันวอลคือแหล่งรวบรวมประเพณีและวัฒนธรรมเกาหลีโบราณ  พวกเขามองว่ามันไม่ได้แตกต่างอะไรไปจาก  ซ่องโสเภณี’   เพียงแต่สำนักกีแซงฮันวอลมีพิธีรีตองมากหน่อยเท่านั้นเอง

     

     

     

     

    แบคฮยอนโดนลากมาเหมือนหมูเหมือนหมา   เขาไม่ได้ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด  ยังคงดิ้นขัดขืนพลางร้องตะโกนขอความช่วยเหลือตลอดทาง  ความโกรธกระอักอยู่ภายในอกของเด็กน้อย  ร่างเล็กถึงกับสบถคำหยาบที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้สรรพสัตว์หยาบคายทั้งหลายจะมีโอกาสได้ออกมาจากปากของเขาคุณหนูคนเล็กแห่งตระกูลพยอนผู้ได้รับการอบรมมาอย่างดี

     

    เพียงแค่ก้าวเท้าเข้ามาในนี้เท่านั้น   กลิ่นฉาวคาวโลกีย์ของสถานที่ต่ำช้าในความคิดทำให้แบคฮยอนขนลุกและอยากอาเจียนด้วยความรังเกียจ   เขาเกิดมาเป็นชายนั้นจริงอยู่หากเขาไม่เคยมีความคิดจะย่างกายเข้ามาในนี้เลยสักครั้ง  

     

    แล้วเหตุใดคนซึ่งไม่คิดแวะเวียนหรือข้องเกี่ยวกับสำนักโสมมแห่งนี้กลับได้เข้ามาเพื่อเป็นกีแซงราวกับถูกโชคชะตากลั่นแกล้ง

     

     “ปล่อย!!!  อย่ามายุ่งกับผม!”แบคฮยอนสะบัดแขนออกจากชายหนุ่มสองคนซึ่งน่าจะอายุไล่เลี่ยกันกับเขา  ทั้งสองคนนั้นอยู่ในชุดซอมซ่อ   ลักษณะคงเป็นคนงานชายในสำนักกีแซงแห่งนี้   น่าแปลกตรงเด็กหนุ่มทั้งสองไม่โดนพวกญี่ปุ่นลากไปรบหรือบังคับใช้แรงงาน 

     

    ก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอก!!!

     

    เซฮุนนา….

     

    ก็มันน่ารำคาญนี่พี่ทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นทองที่พอโดนจับนิดหน่อยแล้วแผ่นทองจะลอกออกมาชายหนุ่มตัวสูงกว่าแบคฮยอนหันไปทำเสียงรำคาญใส่คนอายุมากกว่าอีกคน  ใบหน้าเรียบเฉยดูเหมือนไม่สนใจกับสรรพสิ่งใดบนโลกนี้ใช้สายตามองแบคฮยอนอย่างไม่เป็นมิตรแตกต่างจากอีกคนซึ่งมีใบหน้าอ่อนโยนกว่าและพร้อมจะใจดีกับคนทั้งโลก

     

    คุณหนูต้องไปคำนับนายหญิงก่อนนะครับแล้วหลังจากนั้น…”ชายใบหน้าอ่อนโยนกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงนอบน้อมและสรรพนามที่ใช้เรียกว่า คุณหนู ทำให้เขาอดนึกถึงฐานะของตัวเองเมื่อก่อนนี้ไม่ได้ 

     

    แบคฮยอนเคยเป็นคุณหนู  มีแม่บ้านและพี่เลี้ยงล้อมหน้าล้อมหลัง  มีท่านแม่และพี่สาวเก่งงานบ้านงานเรือนทุกอย่าง    มีพี่ชายซึ่งกำลังจะไปศึกษาต่อในยุโรปและมีคุณพ่อเป็นนายพล  เขาอาศัยอยู่ในบ้านพักหลังใหญ่ประจำตำแหน่งของพ่อ แต่หลังจากกษัตริย์ถูกวางยาพิษ  ประเทศซึ่งตกอยู่ในฐานะเมืองขึ้นอยู่แล้วสั่นคลอนหนักเข้าไปอีกเมื่อขาดเสาหลัก 

     

    เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น….ความสมบูรณ์ทุกอย่างในชีวิตของแบคฮยอนหายไป   หนำซ้ำในตอนนี้เขายังตกอยู่ในฐานะต่ำต้อยเสียยิ่งกว่าทาส

     

    ไม่!!!  ฉันจะไปจากที่นี่แบคฮยอนตวาดกลับก่อนอีกฝ่ายพูดจบ  สาบานได้ว่าเขาไม่ใช่คนก้าวร้าวไม่ว่าจะกับคนอายุมากกว่าหรือเด็กกว่า  หากสถานการณ์ชีวิตบีบบังคับให้เขากลายเป็นคนอารมณ์ร้ายและใช้ความก้าวร้าวป้องกันความอ่อนแอของตนเองและมันได้ผลแค่ภายนอกเท่านั้น  ภายในของแบคฮยอนยังอ่อนแอและหวาดกลัวเช่นเดิม  กลัวจนสั่นไปทั้งตัวหากยังพยายามสบตาสู้กับคนทั้งสอง

     

    พี่จงแดพูดกับคุณไม่รู้เรื่องเหรอ!!  ไปคำนับนายหญิงเดี๋ยวนี้   ไม่งั้นคุณจะถูกหัวหน้ากีแซงโบยหากจะบอกว่าความก้าวร้าวแท้จริงเป็นอย่างไร  มันคงเป็นแบบเซฮุนคนนี้นั้นเอง  เด็กผู้เติบโตมาในฐานะทาสได้รับรู้ความโหดร้ายของโลกอย่างมากมาย   ในชีวิตอันต้องแย่งชิงทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดทำให้เซฮุนเข้มแข็งและโหดร้ายพอสำหรับการยืนบนแผ่นดินนี้ในยุคสงคราม

     

    แบคฮยอนเม้มปากมองคนสูงกว่าด้วยแววตาชิงชังไม่ต่างกันกลับไป  เขาเคยคิดว่าตัวเองไม่สามารถเกลียดขี้หน้าใครได้ตั้งแต่แรกพบโดยเฉพาะกับเด็กรุ่นเดียวกันซึ่งควรจะเป็นเพื่อนกันได้   หากตอนนี้ได้พิสูจน์แล้วว่ามันไม่เป็นความจริง

     

    พอแล้วเซฮุนน้ำเสียงสงบเย็นทำให้แบคฮยอนและเซฮุนหันไปมองยังร่างเพรียวพร้อมกัน   หัวหน้ากีแซงคนที่แบคฮยอนเห็นก่อนหน้านี้เดินเข้ามาห้ามทัพพร้อมกับหญิงสาวแรกรุ่นในชุดฮันบกสองคนขนาบอยู่ด้านหลัง 

     

    เขามองหญิงสาวทั้งสามอย่างพิจารณา  ไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วอยากหัวเราะว่าไหนใครที่บอกว่าเกาหลีอยู่ในยุคสงคราม  อดอยากแห้งแล้ง  ลองเข้ามาในนี้สิ  มีหญิงสาวท่าทางสมบูรณ์พร้อมแต่งกายด้วยชุดฮันบกโบราณงามจับใจ   ใบหน้าผองใสอิ่มเอิบราวกับอยู่คนละโลกกับประชาชนเกาหลีด้านนอกนั้น

     

    จะไปทำอะไรก็ไปเธอไล่เซฮุนซึ่งทำท่าฟึดฟัดใส่แบคฮยอนจนคนเป็นพี่อย่างจงแดส่ายหน้าเอือมระอาในนิสัยชอบตั้งแง่ของน้องชายต่างสายเลือด  จงแดโค้งให้นายหญิงและคุณหนูกีแซงทั้งสอง  เขายิ้มเจื่อนให้แบคฮยอนแต่ร่างเล็กเบือนหน้าหนีไม่รับไมตรีจากเขา  มันเห็นได้ชัดว่าตอนนี้กำแพงของแบคฮยอนสูงเหลือเกิน

     

    สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากเข้ามาเป็นกีแซงที่นี่คือเข้าไปคำนับนายหญิงซึ่งเราจะเรียกท่านว่า แม่

     

    ผมจะออกไปจากที่นี่!!

     

    ได้สิ

     

    จริงเหรอเขาไม่คิดว่ามันจะง่ายดายถึงเพียงนั้น  หากความเป็นเด็กไร้เดียงสาเพิ่งออกมาเห็นโลกแท้จริงนอกรั้วกำแพงบ้านได้ไม่นานกลับเชื่อสนิทใจ  ร่างเล็กยิ้มร่าอย่างมีความหวังโดยไม่ทันสังเกตแววตาเวทนาจากหญิงสาวตรงหน้า

     

    ถ้าเธอหาเงินมาซื้อตัวเองได้ก็จะได้ออกไปราวกับคบเพลิงสว่างจ้าโดนดับไฟให้มอดเหลือเพียงควันจางๆ  แบคฮยอนยิ้มค้างแล้วเปลี่ยนเป็นทำหน้าโกรธเกรี้ยวใส่หญิงสาว  เขานึกอยากหวีดร้องออกมาด้วยความอัดอั้นหากเพียงแค่หายใจอยู่ตอนนี้ยังติดขัดและแทบไม่มีแรงยืนเลย  ดังนั้นเรื่องหวีดร้องออกมาจึงต้องเก็บไว้ก่อน

     

    พ่อของเธอขายเธอให้สำนักในราคาหนึ่งล้านวอน

     

    หนึ่งล้านวอน?”เขาทวนคำด้วยเสียงแหบพร่า  ไม่ถึงช่วงอึดใจเท่านั้น   เด็กเจ้าน้ำตาร้องไห้ออกมาแล้วสะอื้นเสียงดัง   หนึ่งล้านวอน?... นั่นค่าตัวของเขาเทียบเท่าแค่หนึ่งล้านวอนหรอกหรือ 

     

    ชีวิตทั้งชีวิตของแบคฮยอนมีค่าแค่หนึ่งล้านวอนเท่านั้นบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรมากกว่ากัน  ทั้งมึนงงเหมือนโดนทุบด้วยขอนไม้  หน้าชาราวกับโดนตบหน้าสักพันทีติดกัน  หัวใจบีบรัดด้วยความเจ็บปวด

     

    สิ้นสุดเสียแล้วกับชีวิตของแบคฮยอน

     

    นับว่าแพงมากถ้าเทียบกับกีแซงคนอื่นหัวหน้ากีแซงหรือฮโยจินมองแบคฮยอนด้วยสีหน้าเฉยเมยดั่งเช่นในตอนแรก  แม้แววตาแฝงไปด้วยความเอ็นดูและเวทนาอยู่ไม่น้อยหากเธอกลับเลือกถ้อยคำคล้ายดูแคลนเพื่อทำให้เด็กน้อยรู้สถานะของตนเอง

     

    พยอน แบคฮยอน ไม่ใช่คุณหนูคนเล็กตระกูลพยอนอีกต่อไป

     

    พยอน แบคฮยอน เป็นเพียงกีแซงชายคนนึงเท่านั้น

     

    คราวนี้เด็กน้อยซึ่งดูเหมือนจะได้ครองตำแหน่งเป็นกีแซงคนเล็กของสำนักฮันวอลพุ่งเข้าหาฮโยจินแล้วผลักอีกฝ่ายด้วยเรี่ยวแรงน้อยนิด  ฮโยจินเกือบหงายหลังโชคดีได้กีแซงหญิงสองคนที่เดินตามมาด้วยรับไว้ทัน  แบคฮยอนวิ่งไปทางประตูด้านหน้าทางเดียวกับที่เขาโดนลากเข้ามา  อิสรภาพรอคอยอยู่ด้านนอกแม้จะไม่ใช่อิสรภาพอย่างแท้จริงเพราะยังมีกองทัพญี่ปุ่นเดินเป็นพรวนอยู่แบบนั้น  หากอย่างน้อยมันคืออิสรภาพที่เขาไม่ต้องเป็นกีแซง

     

    ไม่ต้องเป็นกีแซงอยู่ในสถานที่น่ารังเกียจนี้!!

     

    จับไว้!!”สิ้นคำสั่ง  แบคฮยอนโดนรวบตัวโดยคนงานชายของสำนักอีกครั้ง  คราวนี้เป็นชายร่างสูงใหญ่เพียงคนเดียวและอุ้มคนตัวเล็กแบบเขาจนเท้าลอยไม่ติดกับพื้น

     

    เพียะ!!

     

    ความรู้สึกชาวาบตรงหน้าตอนนี้ไม่ใช่การคิดไปเองอย่างในตอนแรก   แรงกระทบของฝ่ามือตรงข้างแก้มทำให้เกิดเสียงดังสนั่นอยู่ข้างหูพร้อมกับอาการชาและเจ็บปวดจนเส้นเลือดตรงใบหน้าเต้นตุบๆ

     

    หากยังดื้อรั้นไม่รู้ฐานะของตัวเองอยู่แบบนี้  เธอควรจะได้ไปใช้ชีวิตอาศัยอยู่เยี่ยงสัตว์เลี้ยงจนกว่าเธอจะได้สติและยอมรับเสียทีว่าเธอกลายเป็นกีแซงแล้ว!!!...เอาตัวเด็กคนนี้ไปล่ามโซ่ไว้ในโรงเก็บฟางข้างคอกม้าสิ้นคำประกาศิตของหญิงสาวผู้มีอำนาจเหนือกว่า   แบคฮยอนถึงกับหวีดร้องออกมาเหมือนใจจะขาด   ดวงตาอันเคยสุดใสทอประกายความบริสุทธิ์น่ามองในเมื่อครั้งก่อน   บัดนี้เต็มไปด้วยความคลั่งแค้นและเจ็บปวด

     

    ฮโยจินมองตามด้วยความหนักใจ  สำนักกีแซงฮันวอลไม่เคยมีพวกไม่เต็มใจเป็นกีแซง  ทุกคนเดินเข้ามาที่นี่ด้วยความเต็มใจเพราะต้องการเงิน  ต้องการเสื้อผ้า  ต้องการอาหาร  ต้องการที่อยู่อาศัย  คนเหล่านั้นต่างเห็นว่าการร่อนเร่อยู่ข้างนอกอย่างไม่รู้ชะตากรรมย่อมโหดร้ายกว่าการยอมเป็นกีแซง 

     

    สำนักกีแซงฮันวอลไม่เคยมีตำนานคุณหนูผู้สูงศักดิ์ถูกพ่อของตนเองนำมาขาย  ดังนั้นจึงไม่ได้เรียนรู้วิธีการรับมือกับคนแบบแบคฮยอน  คนชนชั้นสูงที่ยอมตายดีกว่าขายศักดิ์ศรี

     

    ถึงจะน่าชื่นชมสมเป็นลูกของชายชาติทหาร

     

    ถึงจะน่าชื่นชมสมกับตำแหน่งคุณหนูเล็กตระกูลพยอน

     

    แต่แบคฮยอนควรยอมรับชะตากรรมและไม่ควรทำให้สิ่งที่ท่านนายพลคิดเอาไว้ศูนย์เปล่า

     

     

     

     

     

    ทำได้ดีมากลู่หาน  คุณเป็นลูกน้องที่ผมไว้ใจใบหน้าขึ้นริ้วรอยและหยาบกร้านยิ้มภูมิใจกับลูกน้องในปกครองของตน  กำแพงเดียวคือเชื้อชาติไม่อาจทำลายความไว้วางใจหรือทำให้เขากังขาต่อนายทหารหนุ่มรุ่นลูกคนนี้  กลับกัน นายพลโกริคิ ชิมะ ยังนึกเสียดายที่ลู่หานไม่ได้เกิดเป็นชายญี่ปุ่นโดยแท้ไม่เช่นนั้นเขาคงผลักดันมากกว่านี้จนถือยศเป็นผู้การหรือพันตรี

     

    เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับท่านภาษาญี่ปุ่นเปล่งๆ จากปากของคนเกาหลีใต้เต็มตัวเช่นเขาเรียกรอยยิ้มขำกึ่งเอ็นดูจากนายพลยศสูงตรงหน้า  หากเสียงหัวเราะหยันขึ้นจมูกของอีกคนซึ่งอยู่ในห้องด้วยทำให้ลู่หานร้อนวูบวาบในอก  เขาไม่ใช่คนใจเย็นและเกลียดนักเวลาโดนเยาะเย้ยเช่นนี้

     

    แต่ผมกลับมองว่าท่านควรต้องระวังเขามากเป็นพิเศษครับ  เขาไม่ใช่พวกเรา ท่านก็รู้ คาซาว่า ซามะ เป็นนายทหารติดยศเดียวกับลู่หาน   ร่างสูงมองด้วยหางตาและเต็มไปด้วยความชิงชัง   ส่วนหนึ่งเพราะลู่หานคือคนเกาหลี  อีกส่วนหนึ่งเพราะหมั่นไส้นายทหารนอกคอกคนนี้ที่ทำผลงานได้ดีกว่าตนและได้รับคำชมจากท่านนายพลบ่อยๆ

     

    คาซาว่า!!!  เราเพิ่งมีเรื่องดีเพราะจับพวกก่อความวุ่นวายได้  อย่ากวนน้ำให้ขุ่นตอนนี้!”ชิมะรู้ดีถึงความไม่ลงรอยกันของลูกน้องคนโปรดทั้งสอง  หากเขาไม่เคยปรามอย่างจริงจังเพราะเห็นว่าบางครั้งมันก็เป็นการดีเมื่อทั้งสองไม่ชอบถูกกันเพราะมันทำให้ทั้งลู่หานและซามะแข่งกันทำผลงาน

     

    ไม่เป็นไรหรอกครับท่าน  ผมคิดว่าผู้พันคาซาว่าซังคงจะหงุดหงิดเพราะกำลังอยู่ในช่วงขาลง  ล่าสุดเห็นคว้าน้ำเหลวในการไล่จับโจรกระจอกที่ออกปล้นสะดมชาวบ้านแถวกยองแซงลู่หานยิ้มแล้วทำหน้าเห็นอกเห็นใจแต่แฝงความเย้ยหยันไว้ไม่มิดในน้ำเสียง  ยักคิ้วใส่ผู้พันญี่ปุ่นอีกครั้งแล้วหัวเราะลงลำคอ 

     

    สิ่งหนึ่งที่ลู่หานภาคภูมิใจในการเป็นทหารของประเทศญี่ปุ่น  ไม่ใช่เพื่อชาติหรือเพื่อจักรพรรดิดังคำปฎิญาณที่เคยได้กล่าว  เขาภูมิใจเวลาเห็นสีหน้าเจ็บใจแทบกระอักของคาซาว่าต่างหาก  คาซาว่าชอบดูถูกเขาและทุกครั้งเมื่ออยู่ลับหลังท่านนายพล  คาซาว่ามักใช้ถ้อยคำด่าว่าเขาต่างๆ นาๆ แถมยังเปรียบเขาเป็นสัตว์สี่ขาอยู่บ่อยๆ  สิ่งเหล่านั้นทำให้เขามีพลังในการทำงานมากขึ้น….มากขึ้นจนตอนนี้ยศของเขาเทียบเท่ากับคาซาว่าและดูเหมือนว่าเขาจะถูกเพิ่มยศในอีกไม่ช้าด้วย

     

    ไอ้ลู่หาน!!!”คาซาว่าใจร้อน  มุทะลุไม่ต่างกับเขา  เพียงแค่อีกฝ่ายเด็กน้อยเกินไปเพราะชอบแสดงมันออกมาต่อหน้าผู้บังคับบัญชา  ทำให้ภาพพจน์ของคาซาว่าติดลบในขณะที่ลู่หานได้คะแนนบวกเพิ่มเรื่อยๆ

     

    หยุดเดี๋ยวนี้คาซาว่า  ซามะ!!!

     

    เมื่อได้ยินดังนั้น  มือซึ่งกำหมัดเงื้อเตรียมจะชกลงบนใบหน้าของเขาก็ลดลง  คาซาว่าไม่วายทำท่าฮึดฮัด  ส่วนลู่หานเพียงยกยิ้มน้อยๆ อย่างผู้ชนะเมื่อท่านนายพลมองคาซาว่าอย่างผิดหวัง

     

    ออกไปก่อน  ฉันจะคุยกับลู่หานออกไป!”ชิมะสั่งเสียงกร้าวอีกครั้งเมื่อคาซาว่ายืนนิ่งอยู่ที่เดิม  สุดท้ายร่างสูงจำต้องเดินออกไปโดยไม่วายหันมาทิ้งสายตาน่ากลัวให้เขา  หากคนอย่างเขาไม่เคยกลัวกับสายตาข่มขู่ของใครอยู่แล้ว  เขาทำเพียงผงกหัวน้อยๆ ให้คาซาว่าและแอบชูนิ้วกลางใส่

     

    คาซาว่าตาเหลือกแทบคุมตัวเองไม่อยู่หากไม่ติดสายตาของท่านนายพลจับตามอง  เชื่อได้เลยว่าคาซาว่าต้องชักปืนออกมายงเขาแน่ๆ

     

    คาซาว่าทำตัวเหมือนเด็กวัยรุ่น  ทั้งใจร้อน  ทั้งบุ่มบ่ามไม่สมกับเป็นชายชาติทหาร

     

    เขาถึงเหมาะในการลุยแหลกไงครับท่านลู่หานหัวเราะร่วนเสแสร้งทั้งนั้น   เขาไม่ได้รื่นเริงกับคำพูดของตัวเองนักหรอก  ไม่สิ  ลู่หานไม่เคยรื่นเริงกับสิ่งใดหรือเห็นว่าโลกใบนี้มีเรื่องอะไรให้น่าขำ  เขาหัวเราะและยิ้มด้วยความเสแสร้ง 

     

    การเสแสร้งนี้เหละที่ทำให้ลู่หานเหนือคนอื่น….ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วลู่หานคิดอะไร

     

    ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย  รอยยิ้มมุมปากผิดกับดวงตานิ่งสนิท  หรือยามหัวเราะปากกว้างแต่ดวงตาวาวโรจน์อย่างน่ากลัว  ไม่มีใครเข้าใจลู่หานสักคน

     

    ใช่  คาซาว่าเหมาะกับใช้เรื่องใช้กำลัง  เขาน่ะไม่เหมาะกับอะไรที่ใช้สมองหรอกถึงวางแผนการรบไม่ได้เรื่อง  ขนาดวางแผนจับโจรยังคว้าน้ำเหลวนายพลต่อว่าแต่ลู่หานรู้ว่าไม่จริงจังอะไร  นายพลยศสูงคนนี้ให้ความเอ็นดูกับคาซาว่ามากพอสมควร  เหตุผลอาจเป็นเพราะคาซาว่าคือลูกเขยคนโตที่แต่งงานกับมิยากิ  ลูกสาวคนแรกของท่านนานพล

     

    ส่วนลูกสาวคนที่สองของท่านนายพลโกโคริ  อายาเมะ  ยังโสด!

     

    ผู้พันจำอายาเมะ  ลูกสาวจอมแก่นของฉันได้ไหม

     

    ลู่หานกระตุกยิ้มมุปากเพียงเล็กน้อยก่อนรีบปรับสีหน้าให้เรียบเฉยแล้วพยักหน้ารับช้าๆ  แสร้งทำใบหน้างุนงงแม้เข้าใจดีว่าหัวหน้าตระกูลโกโคริมีจุดประสงค์ใดในการพูดถึงลูกสาวคนเล็ก

     

    โกโคริ  อายาเมะ  เด็กสาวหน้าตาสะสวย  เขาเจอครั้งแรกเมื่อต้นปีที่แล้วและท่านนายพลยังชอบพูดถึงลูกสาวคนนี้ให้ฟังอยู่บ่อยๆ  ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยกับหญิงสาวคนนั้นแม้ไม่เคยติดต่อหรือได้พูดคุยกันอย่างจริงจัง 

     

    ตอนนี้อายาเมะเรียนจบแล้วเลยขอตามมาอยู่กับพ่อที่เกาหลีสักพัก  ส่วนฉันก็เห็นว่าผู้พันไม่ได้ไปกินข้าวที่บ้านฉันนานแล้วก็เลยอยากจะถามว่ามะรืนนี้ว่างใช่ไหมฉันอยากเชิญไปงานเลี้ยงรับลูกสาวของฉันน่ะในสายตาของคนเป็นพ่อนั้น  ผู้ชายอย่างลู่หานเหมาะแก่การชักนำให้ลูกสาวของตนที่สุด  เขาคิดว่ารู้จักลูกน้องดีพอ  ทั้งเห็นว่าลู่หานไม่มีอะไรเสียหายตรงไหนนอกจากเป็นคนเกาหลีซึ่งเรียกได้ว่าเจ้าตัวแทบจะไม่เหลือความเป็นเกาหลีอยู่อีกแล้ว  ถ้าจะให้เทียบกับคาซาว่าลูกเขยคนโตเขายังเห็นว่าลู่หานดีพร้อมกว่าเสียด้วยซ้ำและยังมีอนาคตไปได้ไกลในกองทัพญี่ปุ่น

     

    ยินดีครับลู่หานโค้งขอบคุณก่อนเงยหน้าขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม  สำหรับเขาแล้วการสานต่อในสิ่งที่ท่านนายพลปูทางมาให้ช่างง่ายดาย  ความมั่นใจในเสน่ห์แห่งบุรุษเพศของตนทำให้ลู่หานคิดว่าคงไม่นานเกินรอกับการทำให้ปณิธานของท่านายพลเป็นจริง

     

    อันที่จริงมันก็ถือว่าเป็นปณิธานของเขาด้วย  ได้เกี่ยวดองกับนายพลผู้เป็นใหญ่ในกองทัพญี่ปุ่นอย่างโกโคริ ชิมะ  โชคดีกว่าหนูตกถังข้าวสารเสียอีก  ทั้งตัวอายาเมะที่เขาเคยเห็นเมื่อปีที่ไม่ได้ขี้เหร่แถมยังเป็นสาวสวย  น่ารักมากๆ ด้วยซ้ำ ลู่หานจึงเต็มใจกับการเดินเข้าสู่อ้อมกอดของตระกูลโกโคริ 

     

                เพื่ออนาคตของเขา  เพื่อผลประโยชน์และเพื่อความอยู่รอดลู่หานเป็นคนที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเอง

     

     

     

    บ้านไม้สองชั้นกินอาณาเขตเกือบหนึ่งไร่   รอบบริเวณร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่  พันธ์ไม้ดอกไม้ประดับช่วยเพิ่มความสดชื่นทางสายตาให้กับผู้พักอาศัย  โดดเด่นที่สุดคงเป็นต้นซากุระหลายต้นถูกนำมาจากญี่ปุ่นและปลูกแทนต้นโรส  ออฟ ชารอนหรือมูกุงฮวาไม้ประจำชาติของเกาหลีซึ่งถูกถอนทิ้งไปหลังจากเจ้าของบ้านคนเก่าถูกเนรเทศและโดนไล่ล่าอยู่ในขณะนี้

     

    ลู่หานลงจากรถม้าที่เขาโดยสารมาโดยไม่ลืมส่งเบี้ยเพียงน้อยนิดให้เป็นสินน้ำใจ  เสียงรองเท้าคอมแบททหารดังเสียดกับพื้นอย่างเชื่องช้าเพราะคนเป็นเจ้าของไม่ได้รีบร้อนเท่าไหร่นัก  ดวงตาสวยอันสามารถสะกดสายตาของทุกคนได้เสมอกำลังมองเรือนไม้สองชั้นด้วยแววตาสาแก่ใจ  รอยยิ้มร้ายตรงมุมปากไม่เท่าเสียงหัวเราะในลำคอ  เสียงหัวเราะของสัตว์ร้ายผู้กระพือปีกอยู่ในกายของลู่หานและเกาะกินจิตใจจนไม่เหลือเค้ารางความดี

     

    บ้านของพวกมัน แต่ตอนนี้กลายเป็น บ้านของเขา

     

    ผู้พันครับ  เราได้ข่าวพยอนแทซันมาครับชายร่างโปร่งผิวเข้มเป็นคนเกาหลีเพียงคนเดียวที่เขายอมให้อยู่ด้วย  เป็นคนเดียวที่พูดเกาหลีกับเขาแล้วไม่โดนปืนกรอกปาก  คิมจงอิน วิ่งออกมาต้อนรับลู่หานถึงหน้าบ้าน   ใบหน้าเคร่งเครียดของจงอินทำให้อีกฝ่ายขรึมลง

     

     

     

     

     

    ตอนแรกมีข่าวว่าแทซันพาลูกชายคนเล็กหนีไปด้วยแต่ล่าสุดที่เราเห็นเขาอยู่ตรงชายป่าแถววอนจู  คนของเราบอกไม่เห็นลูกชายคนเล็กของเขานะครับ

     

    ลู่หานรับฟังการรายงานของจงอินพร้อมกับมองแผนที่ภูมิศาสตร์เกาหลีบนโต๊ะ  เข็มหมุดสีแดงถูกปักตรงเขตจังหวัดวอนจูตามที่จงอินรายงาน  เขาจ้องมันด้วยสีหน้านิ่งก่อนยิ้มออกมา

     

    มันยังดีอยู่ใช่ไหมจงอิน

     

    ครับ?”

     

    มันยังดีอยู่ที่ลูกสาวกับเมียของแทซันอยู่กับเรา

     

    ….

     

    แต่มันคงดีกว่านี้ถ้าได้ตัวลูกชายคนเล็กที่แทซันหวงนักหนามาทรมานด้วยอีกคนลู่หานกำหมัดแน่น  การควบคุมสีหน้าในเวลานี้ช่างยากเย็นนัก  เขาไม่สามารถทำให้มันเรียบเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไรได้อีกต่อไป  ไม่สามารถเสแสร้งได้ว่าเขาไม่เจ็บปวด

     

    การตามจับตัวพยอนแทซันผู้หลบหนีเข้าไปในป่าไม่ได้ยากเท่ากับการตามหาลูกชายคนเล็กของตระกูลพยอน  ลูกชายคนเล็กคนนี้แทซันหวงนักหนาและไม่ยอมให้ออกจากบ้านเลยด้วยซ้ำ  ดังนั้นคนที่เห็นหน้าคนเล็กของตระกูลจึงมีแค่คนในครอบครัวและคนใช้ไม่กี่คนซึ่งลู่หานเชื่อว่าตายไปหมดแล้ว

     

    อ๊ากกกกกกกกกลู่หานยกมือทั้งสองข้างกุมหัวตัวเองแล้วร้องออกมาสุดเสียง  เขาปวดหัวจนแทบระเบิด  หัวใจเต้นตุบๆ ร้อนวูบวาบทั้งตัวราวกับร่างกายกำลังจะระเบิดออกด้วยความแค้น

     

    ความแค้นที่มีต่อคนตระกูลพยอน

     

    จงอินยืนนิ่งมองอาการของเจ้านายซึ่งเคยเห็นจนชินตา  การระเบิดความโกรธของลู่หานสามารถแสดงออกมาได้มากกว่านี้อีก  คลั่งได้มากกว่านี้อีกและจงอินคิดว่าอย่าให้ลู่หานระเบิดมันออกมาเลยเสียยังดีกว่า

     

    เตรียมรถม้าลู่หานโงหัวขึ้นจากโต๊ะ  ผมซึ่งเคยเรียบเพราะลงน้ำมันอย่างดียุ่งเหยิงไม่เป็นทรงแต่ไม่ยุ่งเท่าใบหน้าของลู่หานในตอนนี้  เขาพักการตามหาลูกชายคนเล็กของแทซันไว้ก่อน  ถึงอย่างไรเสียเขายังมีไพ่ดีอยู่ในมือ  หากเป็นไพ่ที่ต้องอาศัยเวลาสักหน่อยในการเลือกใช้

     

    ฉันเพิ่งนึกได้ว่ามีนัด

     

    ทั้งที่ลืมไปแล้วแต่น่าแปลกเมื่อจู่ๆ นึกถึงเด็กน้อยคนนั้น  ใบหน้าใสซื่อปราศจากการเติมแต่ง  ริมฝีปากบางชมพูอย่างเป็นธรรมชาติ  ความงามของเครื่องหน้าและความบอบบางของร่างกายน่ารังแกนั้นไม่ได้ดึงดูดลู่หานผู้ผ่านสาวงามมามาก   หากมันเป็นดวงตาแดงช้ำผ่านการร้องไห้ให้กับชีวิตอย่างหนักกับแววตาเจ็บปวดเหมือนโลกถล่มตรงหน้า  แววตาแค้นเคืองโกรธเกลียดคนทั้งโลกนั้นต่างหาก

     

    ดวงตาและแววตานั้นทำให้เขาสนใจไม่น้อย  สนใจจนบอกกับตัวเองไม่ได้ว่าจะสนใจไปทำไมกับกีแซงชายคนนึงซึ่งไม่มีอะไรล่อตาล่อใจเท่ากีแซงคนอื่นเลยด้วยซ้ำ

     

     

     

     

     

    ภายในห้องของนายหญิงแห่งสำนักฮันวอลก็มีเรื่องให้หนักใจเช่นกันเมื่อเซฮุนเพิ่งมารายงานว่าผู้ควบคุมดูแลสำนักกีแซงแห่งนี้ได้จองแบคฮยอนเอาไว้  สิ่งน่าวิตกมากกว่าแบคฮยอนจะยอมเป็นกีแซงหรือไม่คือทำอย่างไรให้ลู่หานปล่อยผ่านคืนนี้ไปโดยไม่มีแบคฮยอนรับใช้

     

    เราจะแย่กันนะคะแม่ฮโยจินรินน้ำชาใส่จอกให้หญิงสาวสูงวัยหากยังคงความสง่างามและแต่งองค์เต็มยศด้วยชุดฮันบกสีน้ำเงินคราม  เกล้าผมเปิดหน้าและปักปิ่นหยกอันได้รับการตกทอดมาจากนายหญิงผู้ควบคุมกีแซงรุ่นก่อน

     

    โหดร้ายเกินไปกับคุณหนูชนชั้นสูงคนนั้นคิมชอนซา  นายหญิงแห่งสำนักฮันวอลยกน้ำชาขึ้นมาจิบ  มืออันสั่นเทาไม่ได้เป็นผลพวงจากความชรา  เธอยังไม่แก่ถึงขั้นนั้นหากมันสั่นเมื่อนึกถึงผู้พันหนุ่ม 

     

    เธอเป็นเจ้าของสำนักกีแซงแห่งนี้แต่ในยุคสมัยของการถูกญี่ปุ่นผนวกดินแดนเกาหลีให้เป็นของตนเอง  ทรัพย์สินทุกอย่างของคนเกาหลีจึงตกเป็นของกองทัพญี่ปุ่นรวมทั้งสำนักกีแซงฮันวอลเช่นกัน

     

    ที่นี่โดนลดคุณค่าจากสำนักกีแซงอันเต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์และประเพณีให้เป็นแค่ซ่องโสเภณีที่มีสาวเกาหลีสวมชุดฮันบกต้อนรับแขก   ต้องอยู่ภายใต้การกดขี่อีกชั้นจากนายทหารผู้ดูแลและแสนจะเอาแต่ใจอย่างลู่หานมันยิ่งกว่าคำว่าโหดร้ายเสียอีก

     

    แถมยังโหดร้ายเกินไปสำหรับคนเป็นลูกด้วยค่ะ

     

    ฮโยจิน

     

    เส้นผมบังภูเขา

     

     

    ต้องมีวันที่ลู่หานได้พบกับคุณหนูแน่นอนอยู่แล้ว  ทั้งสองคนอาจไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่สำหรับคนที่รู้ทุกอย่างดีอย่างเราฉันทำใจมองหน้าเด็กคนนั้นไม่ได้หรอกค่ะ

     

    นี่ไงล่ะสิ่งที่เรียกว่าชะตากรรม

     

    ชะตากรรมของเด็กคนนึงที่ไม่รับรู้อะไรด้วยเลยน่ะหรือคะแล้วถ้าลู่หานรู้ว่า….

     

    ฟังนะฮโยจิน  ต่อให้เราต้องตายเพื่อรักษาความลับนี้เราต้องทำ   ลู่หานจะไม่มีวันได้รู้ว่าคุณหนูคือใครและแผนการทุกอย่างจะสำเร็จ

     

    ….

     

    ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยให้สมกับความเสียสละของใครหลายคนคิมชอนซาเต็มไปด้วยความกล้าหาญและใจมีใจเด็ดเดี่ยวเสียยิ่งกว่าฮโยจินเสียอีก  คนชรากว่ามองหน้าฮโยจินผู้เปรียบเสมือนมือขวาของเธอพลางพยักหน้าช้าๆ เพื่อให้กำลังใจ

     

     

     

    กลิ่นสาปของมูลสัตว์ทำให้แบคฮยอนคลื่นเหียนจนอาเจียนออกมาอีกครั้ง  มีเพียงน้ำย่อยสีเหลืองออกมาเท่านั้นเพราะร่างกายของเขาไม่มีอาหารตกถึงท้องมาเกือบสองวันแล้ว 

     

    พื้นดินเปียกแฉะจนเป็นแอ่งโคลนทำให้ตัวของเขามอมแมมไม่ต่างจากลูกหมาจรจัด  ฟางหญ้าแห้งๆ  ปูรองรับร่างเอาไว้แต่เขาไม่นึกขอบคุณเพราะหญ้าแห้งได้ทิ่มแทงทะลุเสื้อผ้ามาโดนเนื้อขาวๆ จนคันไปทั้งตัวและเป็นรอยแดงจากการเกาอย่างรุนแรง

     

    ทั้งหมดนี้ไม่เท่ากับการที่เขาโดนโซ่ล่ามข้อเท้าไว้ข้างหนึ่ง 

     

    คุณพ่อช่วยผมด้วย  คุณพ่อช่วยด้วย  คุณพ่อ….”ทุกครั้งยามร้องไห้หรืออยู่ในสถานการณ์เจ็บตัว  เขาจะเรียกหาวีรบุรุษอันดับหนึ่งในใจเสมอ  นั่นคือพ่อของเขาเอง

     

    ร้องเรียกจนแสบคอกลับไม่ปรากฏร่างของคนเป็นพ่อดั่งเช่นทุกครั้ง  แบคฮยอนกระชากโซ่ที่ล่ามข้อเท้าไว้กับเสาไม้อีกครั้ง  ทำแบบนี้จนมืออันบอบบางแดงช้ำและมีรอยถลอกจนเลือดไหลซิบ

     

    หากยังดื้อรั้นไม่รู้ฐานะของตัวเองอยู่แบบนี้  เธอควรจะได้ไปใช้ชีวิตอาศัยอยู่เยี่ยงสัตว์เลี้ยงจนกว่าเธอจะได้สติและยอมรับเสียทีว่าเธอกลายเป็นกีแซงแล้ว!!!...’

     

    ฮึก….”แบคฮยอนเลิกพยายามในสิ่งไร้ผลและรังแต่จะทำให้เจ็บตัวเพิ่มมากขึ้น   เขายันเข่าทั้งสองข้างขึ้นก่อนฟุบหน้าลงกับเข่าของตัวเอง   ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจจนแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นกับทุกคน  ทุกสิ่ง  ทุกอย่างที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้

     

     

     

     

     

    ไรเตอร์:เดี๋ยวๆ ใจเย็นนะทุกคน  พี่ลู่มาเจอแบคทีจะได้จัดเต็ม จัดเต็มอะไรไม่รู้ แต่ช่วยเม้นหรือสครีมแทก #บตฟพ ลงทวิตนะคะ

                    ขายของไทม์:ซื้อกันยัง #ฟอลบ เปิดจองแล้วนะ  

    *โฆษณา* ใครอยากได้ลองเข้าไปดูเลยจ้า  รีบจองนะ เปิดให้จองตั้งสองเดือน  จองกันเยอะๆ นะ คือของดีแล้วบอกต่อ เครป้ะ นี่ลิ้งค์ http://my.dek-d.com/mymymyme/writer/viewlongc.php?id=1084837&chapter=16

    :-Daisy

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×