ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO]Beauty Poison (LUBAEK)

    ลำดับตอนที่ #1 : Beauty Poison:INTRO

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.1K
      4
      9 มี.ค. 57

     

    INTRO

     

     

    ปี 1910 ญี่ปุ่นได้ทำการรุกรานเกาหลีใต้เป็นครั้งที่สองและได้ผนวกดินแดนเกาหลีเป็นของตน   เกาหลียุคตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศญี่ปุ่นเป็นความบาดเจ็บสาหัสทางประวัติศาสตร์ 

     

    การแสดงออกถึงความเป็นชนชาติเกาหลีถือเป็นความผิดร้ายแรง  ราชวังและหนังสือประวัติศาสตร์เกาหลีถูกทำลาย  ห้ามมีการเรียนการสอนภาษาเกาหลีในโรงเรียน  ชายหนุ่มถูกเกณฑ์ไปรบกับประเทศจีน  หญิงสาวถูกนำไปบำเรอให้แก่กองทัพญี่ปุ่น  ชาวบ้านถูกบังคับให้ทำนาเพื่อส่งข้าวให้ญี่ปุ่นและผลผลิตทางการเกษตรทุกอย่างอันเกิดขึ้นบนแผ่นดินเกาหลีต้องมอบให้แก่ทางการญี่ปุ่นเท่านั้น

     

    ปี 1918 กษัตริย์องค์สุดท้ายของเกาหลีสิ้นพระชนม์ด้วยยาพิษ   การกดขี่ข่มเหงจากญี่ปุ่นรุนแรงขึ้น  ทหารญี่ปุ่นก่ออาชญากรรมสังหารพลเรือนราวกับผักปลา   รวมทั้งยังโจมตีชาวเกาหลีเพื่อฆ่า ข่มขืนและขโมยอย่างทารุณ  คนชนชั้นสูงต้องหนีออกนอกประเทศเพื่อเอาตัวรอด นายทหารระดับสูงถูกตามล่าทั้งครอบครัว   คนเกาหลีต่างมีชีวิตโหดร้ายยิ่งกว่าทาส

     

     

     

     

     

    ปี 1918  กรุงโซล,ประเทศเกาหลี

     

    ไม่!!! ไม่นะ  คุณพ่อฮึกร่างเล็กผอมบางถูกจูงลากมาตามทางถนนลูกรังในตลาดสดโดยชายวัยกลางคน   ร่างเล็กทิ้งตัวลงไปกับพื้นแม้ถูกดึงไปกับพื้นจนเสื้อผ้าขาดรุ่ย  มอมแมม  ใบหน้าเรียวหวานเปรอะเปื้อนด้วยคราบโคลนไคล  ดวงตาเรียวแดงช้ำถูกบดบังด้วยน้ำตาเรียกความเวทนาจากผู้พบเห็น  หากในยามนี้คงไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งกับปัญหาครอบครัวของคนอื่นนักเพราะลำพังกับการกินอยู่ของตัวเองและมีชีวิตรอดให้พ้นวันวันหนึ่งยังถือว่าเป็นเรื่องยากลำบาก

     

    เขาคนนี้ยังดูเด็กนัก  อายุคงไม่ถึงยี่สิบปีกลับถูกลากมายังหน้าเรือนไม้เกาหลีโบราณซึ่งตั้งอยู่ท้ายตลาด  ด้านหน้าของประตูไม้บานใหญ่ประดับด้วยโคมไฟสีเขียวอันเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้

     

    คุณพ่อได้โปรด  ฮืออออ  อย่าขายผม  อย่าขายผมให้ที่นี่  ไม่เอา  ผมไม่เข้าไปในนั้น ฮือออ  คุณพ่อเขาร้องไห้อย่างน่าเวทนา  ทรุดลงคุกเข่าตรงหน้าพ่อแท้ๆ ของตัวเอง  ก้มลงคำนับจนหัวติดพื้น  วอนเว้าขอให้อีกฝ่ายเกิดเมตตาและฉุกคิดถึงสิ่งที่กำลังทำกับลูกชายวัยสิบเจ็ดปี 

     

    แบคฮยอนฟังพ่อนะ  แกต้องมีชีวิตอยู่เพื่อรอพี่ชายของแก  หลังจากสงครามญี่ปุ่นกับจีนสงบพี่ชายของแกจะกลับมาคนเป็นพ่อนั่งลงคุกเข่าในระดับเดียวกับลูก  เขาดึงตัวลูกชายขึ้นมาเพราะไม่อยากให้ใบหน้างดงามของลูกชายเปื้อนฝุ่นโคลนมากไปกว่านี้  ริมฝีปากเอื้อนเอ่ยแต่ละคำออกมาด้วยน้ำเสียงอันเต็มไปด้วยความหวังราวกับเพื่อปลอบประโลมใจแก่ลูกชายผู้เสียขวัญ 

     

    มันคงได้ผลอยู่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น  ลูกชายคนเล็กของบ้านชะงักเพียงชั่วครู่เมื่อนึกถึงพี่ชายคนโตหากแต่มันจะเป็นไปได้หรือไม่เคยมีชายเกาหลีใต้คนใดถูกเกณฑ์ไปรบยังประเทศจีนแล้วรอดกลับมา

     

    ฮึก  คุณพ่อได้โปรดเถอะครับ  ผมขอตายดีกว่าจะต้องมีชีวิตอยู่ในนั้น  ผมจะไปกับคุณพ่อด้วย พยอน แบคฮยอน คว้ามือหยาบกร้านของพ่อมาแนบแก้มแล้วร่ำไห้อย่างน่าเห็นใจ  อ้อนวอนด้วยน้ำเสียงแหบพร่าสั่นเครือ  มองลึกลงไปในดวงตาของพ่อที่รักและบูชายิ่งกว่าสิ่งใดในชีวิต

     

    หวังเพียงพ่อจะเห็นใจเขาบ้าง

     

    แบคฮยอน!!  แกต้องอยู่ที่นี่  ฉันขายแกให้กับหัวหน้ากีแซงไปแล้ว

     

    ไม่!!!!  คุณพ่อ  ฮือออออ  เอาผมไปด้วย….ผมสัญญาว่าจะไม่กินเยอะ  จะไม่ป่วยและจะไม่ดื้อกับคุณพ่อ  ได้โปรด  ฮือออ  อย่าให้ผมเป็นกีแซง  อย่าให้ผมอยู่ที่นี่!!!

     

    พ่อทำเพื่อให้แกมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ต้องกังวลว่าวันไหนแกจะโดนลากไปเป็นทหารแบบพี่ชายของแกหรือโดนพวกมันลากตัวไปบำเรอ  อยู่ในนั้นถึงจะเป็นแค่กีแซง  ถึงจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยการ แลก กับศักดิ์ศรีแต่มันเป็นแห่งสุดท้ายในเกาหลีที่ยังคงปลอดภัย   แกจะได้นอนหลับสบายโดยไม่ต้องออกไปหนีหัวซุกหัวซุนกับพ่อ   แกจะมีอาหารให้กินครบสามมื้อโดยไม่ต้องอดอยากและที่สำคัญแกจะมีชีวิตอยู่เพื่อรอพี่ชายกลับมา  ลูกของฉัน

     

    คุณพ่อ…”แบคฮยอนเรียกพ่อเสียงเบา   ร่างเล็กเข้าใจในเจตนาของคนเป็นพ่อและเข้าใจสถานการณ์ลำบากที่พวกเราทุกคนต้องพบเจอ

     

    เราถูกรุกรานด้วยประเทศแข็งแกร่งกว่า  กษัตริย์องค์สุดท้ายสิ้นพระชนม์เพราะถูกประทานยาพิษจากประเทศผู้บุกรุก  ระบอบต่างๆ ของประเทศพังครืด  เราตกอยู่ในสภาวะสงคราม  อดอยาก  เสียขวัญและไร้ซึ่งอิสรภาพใดๆ

     

    แบคฮยอนลูกรักของพ่อ  ร่างกายของแกเป็นครึ่งหนึ่งของพ่อ  พ่อเลี้ยงแกมาด้วยความรักและทะนุถนอม  พ่อไม่คิดว่าเราจะต้องมีวันนี้  พ่อถูกทางการญี่ปุ่นหมายหัวให้เป็นบุคคลอันตราย  พี่ชายของแกโดนลากไปรบที่จีน  แม่กับพี่สาวของแก ฮึก  โดนพวกมันเอาไปทารุณ  สิ่งสุดท้ายในชีวิตของพ่อที่เหลืออยู่นั่นคือแกพ่อจะไม่ยอมเห็นแกโดนฆ่าตายต่อหน้าหรือเห็นแกโดนพวกมันลากไปปู้ยี่ปู้ยำ

     

    คนเป็นพ่อทวนชะตากรรมอย่างขมขื่น  ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นกลับทำให้นายพลอย่างเขาสูญสิ้นทุกอย่างจนกลายเป็นเพียงคนจรจัด  ทั้งเกียรติยศ  ศักดิ์ศรีถูกพร่าไปสิ้น  เหลือเพียงแค่ชีวิตซึ่งไม่รู้ว่าจะโดนจับไปยิงทิ้งตอนไหน

     

    ฮึก  คุณพ่อได้โปรดเหลือทางเลือกให้ผมบ้าง

     

    พ่อเป็นชายชาติทหาร  สิ่งที่พ่อทำอยู่นี้คือความอัปยศอย่างยิ่งในชีวิตของพ่อ  ได้โปรดเข้าใจเจตนาของพ่อด้วยเถิดลูกรัก

     

    นายพลพยอนแทซัน  ปัดมือลูกชายออกอย่างไม่ใยดี  คนเป็นพ่อมองหน้าลูกชายครั้งสุดท้าย  เป็นการยากเหลือเกินในการหันหลังให้ลูกชายคนเล็กคนนี้

     

    แบคฮยอนเป็นลูกรักของเขา  จะว่าลำเอียงก็ได้แต่เขาเอ็นดูลูกชายคนเล็กนัก  แบคฮยอนทั้งฉลาดและขี้อ้อนสามารถทำให้เขาซึ่งมักวางตัวเป็นพ่อผู้เคร่งขรึมและเจ้าระเบียบตามแบบชายชาติทหารต้องใจอ่อนให้เสมอ  คงเป็นครั้งนี้ที่เขาสามารถปฎิเสธแบคฮยอนได้อย่างเด็ดขาด

     

    พะ  พ่อ  คุณพ่ออออ  อย่าไป!!  อย่าทิ้งผมไว้ที่นี่  ไม่!!!!”แบคฮยอนเอื้อมสุดแขนไขว่คว้าตัวคนเป็นพ่อ  ร่างเล็กลุกขึ้นยืนหมายวิ่งตามแต่ยังไม่ทันก้าว  ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแบคฮยอน  ชายหนุ่มทั้งสองคนเข้ามาจับแขนแบคฮยอนเอาไว้คนละข้าง

     

    ลากตัวเด็กคนนี้เข้าไปหญิงสาววัยสามสิบต้นๆ สวมชุดฮันบกโบราณทอดสายตาเย็นชามายังเด็กชายหน้าตามอมแมม  เสียงหวานช่างแฝงไปด้วยพลังอำนาจและเย่อหยิ่งจนทำให้แบคฮยอนหยุดดิ้นไปชั่วขณะ  เด็กน้อยตะลึงกับความงามของหญิงสาวตรงหน้า  นานแล้วที่ไม่เคยเห็นใครได้แต่งตัวสวยๆ  เช่นนี้แถมเธอยังอยู่ในชุดฮันบกเกาหลีอันเปรียบเสมือนของต้องห้ามสำหรับแผ่นดินของเราในเวลานี้

     

    ปล่อยผม!!!  อย่ามาแตะต้องตัวผม  ปล่อยนะไอ้พวกน่ารังเกียจ  พวกทาสญี่ปุ่น  ปล่อย!!!”แบคฮยอนสงบไม่นานนักหรอก  เขาร้องไห้เสียงดัง  ตะโกนใส่หน้าหญิงสาวด้วยความแค้นเคืองในชะตากรรมชีวิต  เขาถูกขายให้กับสถานที่อันโสมมและน่ารังเกียจ  เขากำลังจะเป็นพวกขายร่างกายเช่นเดียวกับเธอแถมยังขายให้กับพวกศัตรูที่เข้ามารุกรานประเทศของเรา

     

    คำว่า ทาสญี่ปุ่น ทำให้คนได้ยินถึงกับตัวชา   เธอเข้าใจเด็กน้อยกำลังมีโทสะจึงไม่อยากใส่ใจแต่สีหน้ารังเกียจและสายตาแข็งกร้าวของคนอายุน้อยกว่าทำให้เธอหายใจลำบากนัก   เธอเบือนหน้าหนีเพื่อซ่อนความเจ็บปวดทางแววตา   

     

    แบคฮยอนเห็นว่าชายทั้งสองสนใจกับอาการหน้าซีดเผือดของหญิงสาวในชุดฮันบกสวย  เธอดูมีอำนาจมากใน สำนักโคมเขียว หรือเรียกให้ดูดีขึ้นมาหน่อยมันคือ สำนักกีแซง แห่งสุดท้ายของเกาหลีที่เหลือรอดจากการโดนทำลาย   

     

    ร่างเล็กสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม  วิ่งออกไปไม่คิดชีวิตตามรอยเท้าพ่อของตน

     

    ไปตามกลับมาให้ได้  ก่อนที่เด็กนั้นจะถูกพวกนั้นพบเข้าเสียก่อนหญิงสาวมีสีหน้าตะหนก  ยกมือขึ้นทาบอกแล้วออกคำสั่งเสียงสั่น  เธอมองตามแผ่นหลังบางด้วยความกังวลใจ 

     

    ครับ  นายหญิง!!!

     

    เด็กคนนั้นผู้มีสายเลือดของชนชั้นสูง  เป็นลูกชายของท่านายพลพยอนแทซัน  นายทหารระดับสูงในกองทัพและมีแม่เป็นถึงปลายแถวของราชวงศ์  มันไม่ง่ายนักหรอกกับการกำราบคนชนชั้นสูงเช่นนั้นให้ลงมาอยู่ในระดับล่างสุดของชนชั้นในสังคม  อาจเป็นงานยากของเธออยู่สักหน่อยในการทำให้เด็กน้อยยอมเป็นกีแซง

     

     

     

     

     

    จับพวกมันทุกคนที่พูดถึงจักรพรรดิของเรา  ถ้าเป็นชายให้เอาไปทรมานแล้วตัดลิ้นทิ้ง  ส่วนผู้หญิงเอาไปโยนให้ไอ้พวกอดอยากในกองร้อยสี่   พวกมันไม่ได้ปลดปล่อยกันมาสองอาทิตย์แล้ว

     

    ความโกลาหลเกิดขึ้นทันทีกับตลาดสดแผงลอย  ข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด  ชายหนุ่มผู้บ้าอำนาจได้สร้างมันขึ้นมาเพื่อหาความชอบธรรมในการทำลายทุกอย่างให้พินาศ  เสียงหัวเราะเหี้ยมขัดกับใบหน้าหวานดังขึ้นท่ามกลางเสียงกรีดร้อง  เสียงร่ำไห้ขอชีวิตและเสียงสาปแช่ง

     

    ไอ้ลู่หาน  ไอ้คนทรยศขายชาติ  ไอ้ขี้ข้าญี่ปุ่น  แกมันแค่หมาหมาของพวกญี่ปุ่น  ถุ้ย!!!

     

    ลู่หาน หยุดหัวเราะ   ใบหน้ารื่นเริงเมื่อครู่เรียบตึงและค่อยๆ บิดเบี้ยวด้วยความโกรธราวกับเป็นคนละคน   ร่างโปร่งสาวเท้าเดินตรงไปยังชายหนุ่มซึ่งเขาคุ้นหน้าเป็นอย่างดี

     

    ก็แค่เคยเล่นด้วยกันเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก

     

    ปึก!!  ชายหนุ่มสัญชาติญี่ปุ่น  เชื้อชาติเกาหลีผู้ เคยเป็น คนเกาหลีใช้ปืนหวดลงบนหน้าของชายปากดีคนนั้น 

     

    แม่ของแกยังอยู่ดีใช่มั้ย?”

     

    ไอ้ลู่หาน..

     

    น้องสาวของแกอายุเท่าไหร่แล้วล่ะปีนี้

     

    แก

     

    จำได้ว่าน้องแกสวยเสียด้วย

     

    อย่ายุ่งกับฮวาซอง

     

    ฉันไม่  แต่คนอื่นไม่….รู้

     

    ไอ้สารเลว!!  แกเป็นคนเกาหลี  เคยเป็นพวกเรา!!!  ทำไมแกถึงทำเรื่องเลวร้ายกับชาติของบรรพบุรุษ

     

    หุบปาก!!

     

    คนอย่างแกสมควรโดนฉีกร่างให้แหลกเป็นชิ้นๆ

    ปัง!!  ลู่หานจ่อปืนตรงศรีษะของชายคนนั้น  เขาเหนี่ยวไกปืนด้วยสีหน้าสงบ  เลือดจากหัวของชายเคราะห์ร้ายกระเด็นเปื้อนใบหน้าอันงดงาม  ลู่หานยกหลังมือเช็ดเลือดโสโครกของพวกขี้แพ้บนใบหน้าของตนอย่างใจเย็น

     

    เพราะเกาหลีไม่เคยให้อะไรฉันเลย

     

    นั้นคือคำตอบของลู่หาน  คำตอบให้แก่ร่างไร้วิญญาณซึ่งครั้งหนึ่งเคยเคารพนับถือน้ำใจกันมาก่อนแต่นั้นมันนานมาแล้ว

     

    ผู้พันครับเราจับตัวคนทั้งหมดได้ครบแล้วครับ

     

    ยังเหลือคนนึงนอนอยู่ตรงนี้ไง

     

    ….

     

    แต่ตายแล้วลู่หานยักไหล่  เขาเก็บปืนเหน็บลงกับซองซึ่งติดไว้ตรงเข็มขัดด้านหลัง  ร่างโปร่งยกมือโบกให้ลูกน้องของตัวเอง  คนยศน้อยกว่าโค้งคำนับให้แล้วหันไปออกคำสั่งเป็นภาษาญี่ปุ่นแก่นายทหารยศน้อยกว่าอีกระดับให้ต้อนนักโทษกลับไปยังสถานคุมขัง

     

    ลู่หานยืนมองซากความเสียหายของตลาดแผงลอยด้วยสีหน้าเรียบ  ไม่มีความสำนึก  ไม่มีความเสียใจหรือหดหู่  ใบหน้างดงามนั้นยังคงนิ่งสงบเสมือนผิวน้ำนิ่งยามไร้ลม

     

    เขาพากายของตัวเองออกจากตรงนั้น  หันหลังให้กับความพินาศที่สร้างมันเองกับมือ  ก้าวไม่ถึงครึ่งก้าว  ร่างของเขากลับโดนชนจนเซเล็กน้อยผิดกับอีกคนซึ่งล้มลงไปนั่งกับพื้น  คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความหงุดหงิด  เขายืนรอให้อีกฝ่ายก้มหัวขอโทษหากร่างเล็กกลับทำในสิ่งที่ตรงข้ามกันคือกำลังจะวิ่งหนี   ลู่หานจับแขนบางเอาไว้ได้แล้วกระชากเข้ามาหาตัว  

     

    คราบฝุ่นโคลนไม่อาจบดบังความงามของคนตรงหน้า

     

    ดวงตาแดงช้ำไม่ได้ดูน่าเกลียดหากกลับทำให้น่ารังแก

     

    ริมฝีปากบางชมพูคือสิ่งที่สะกดสายตาของลู่หานอยู่ในตอนนี้

     

    ทหารญี่ปุ่น?”แบคฮยอนเบิกตากว้างด้วยความตะหนก  อีกฝ่ายเป็น ศัตรู แสนอันตรายและน่าขยะแขยง   พวก ทหารญี่ปุ่น ช่างน่ารังเกียจสำหรับพวกเรานัก  พวกมันทำครอบครัวของแบคฮยอนต้องพบกับชะตากรรมอัปยศเช่นนี้   พ่อของเขาถูกทางการญี่ปุ่นไล่ล่าจนต้องหนีเอาชีวิตรอดหัวซุกหัวซุน  แม่กับพี่สาวถูกจับไปยับยีจนตอนนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม   พี่ชายคนโตถูกบังคับให้ไปรบที่ประเทศจีน  แถมเขาต้องถูกขายให้กับสำนักกีแซงทุกอย่าง  เป็นเพราะ พวกมัน

     

    อายุเท่าไหร่ลู่หานถามด้วยน้ำเสียงวางอำนาจ   เขาลองประเมินด้วยสายตาคร่าวๆ เด็กคนนี้ไม่น่าเกินยี่สิบ  ส่วนตัวเขาอยู่บนโลกนี้มายี่สิบเจ็ดปีแล้ว

     

     

    ฉันถามว่าแกอายุเท่าไหร่!!

     

    ทำไมพูดเกาหลีได้  เป็นคนเกาหลีนี่!!”แบคฮยอนมองเหมือนเห็นสิ่งแปลกประหลาด  สำเนียงแบบนั้นดูยังไงก็เป็นคนที่เติบโตมาบนแผ่นดินเดียวกับเขาอย่างแน่นอน  หากชายคนนี้กลับสวมชุดทหารญี่ปุ่น  ดาวบนบ่านั้นบอกได้ว่าไม่ใช่นายทหารปลายแถวเช่นกัน

     

    แบคฮยอนเริ่มเข้าใจได้เองในเวลาเสี้ยวนาที  ร่างเล็กหัวเราะลงลำคอพลางมองชายตรงหน้าด้วยความรังเกียจกว่าเดิม  นึกสะอิดสะเอียนและเกลียดชังรุนแรงมากขึ้น

     

    คงเป็นพวก ขายชาติ จนได้ดี

     

    ลู่หานหน้าตึงเมื่อโดนด่าทางสายตา  ลงน้ำหนักมือบีบท่อนแขนของคนตัวเล็กแน่นกว่าเดิมจนสัมผัสได้ถึงกระดูก  สีหน้าแหยแกเพราะความเจ็บปวดนั้นบอกได้ดี

     

    ท่านผู้พันขอรับชายในสำนักโคมเขียววิ่งเข้ามาได้ทันการณ์ก่อนเกิดเรื่องบานปลาย  ทั้งสองคนร้องเรียกยศของร่างโปร่งด้วยความคุ้นเคย

     

    เด็กนั้นมาจากสำนักกีแซงของเราขอรับ  ได้โปรดปล่อยตัวมันมาให้เราเถอะโค้งให้จนหัวแทบติดพื้นด้วยความนอบน้อม  น้ำเสียงละล่ำละลักนั่นบอกได้ดีว่ากลัวจนลนลานแค่ไหน

     

    หน้าตามอมแมมแบบนี้น่ะเหรอนายหญิงของพวกแกมีรสนิยมในการเลือกแย่ลงนะลู่หานทำเสียงดูแคลน  เขาพูดถึงนายหญิงของสำนักกีแซงด้วยความคุ้นเคย  ที่นั้นมีเด็กสาวหน้าตาสะสวยมากมายราวกับมันคือหอปุปผาชาติของกษัตริย์โชซอนและเป็นสถานที่อันมีไว้เพื่อให้บริการนายทหารญี่ปุ่นระดับสูงเช่นพวกเขา

     

    !!!

     

    ฝากบอกนายหญิงของแกด้วยว่าคืนนี้ฉันจะเข้าไปที่นั่นและจองตัวเด็กคนนี้ทั้งคืน

     

    ไม่!!”แบคฮยอนตวาดลั่น  หันไปมองชายจากสำนักกีแซงด้วยแววตาหวาดหวั่นสลับกับหันกลับมามองนายทหารญี่ปุ่นด้วยความชิงชัง!!

     

    แกต้องถูกลงโทษที่วิ่งมาชนฉันทั้งคืนเสียงหัวเราะเหี้ยมในลำคอของชายอายุมากกว่าและยังเป็น ฝ่ายตรงข้ามที่แบคฮยอนเกลียดชังได้สร้างความหวาดหวั่นให้เกิดขึ้นกับหัวใจดวงน้อยๆ  น้ำตาเอ่อท้นตรงขอบตาด้วยความขยาดกลัวก่อนไหลอาบแก้มอีกครั้ง

     

    แบคฮยอนไม่มีแม้แต่โอกาสโต้ตอบกลับไปเพราะถูกชายของสำนักกีแซงเอามือมาปิดปากไว้แล้วหิ้วตัวออกไป  ร่างเล็กดิ้นพล่านเหมือนปลาขาดน้ำ  ดวงตาแดงช้ำมองใบหน้างดงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดของศิลปินชั้นครูในสมัยโชซอน  ใบหน้างดงามนั้นยังคงมองเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งทว่ากลับน่ากลัวอย่างแปลกประหลาด  ร่างเล็กหวีดร้องเหมือนวัวถูกต้อนเข้าโรงเชือด  หากเสียงดังอู้อี้เพราะถูกปิดปากไว้

     

    หากนั้นคือครั้งแรกของการพบกัน  จุดเริ่มต้นที่คนทั้งคู่อยากย้อนเวลากลับมาแก้ไขและคงเลือกเดินไปอีกทาง...เขาทั้งสองคนเลือกที่จะไม่ต้องได้พบกันเลยเสียยังดีกว่า  








    ไรเตอร์:เรื่องเก่ายังไม่จบก็มาโปรยเรื่องใหม่  อย่าตีเค้าน้า  เม้นหรือสครีมแทก #บตฟพ  เป็นกำลังใจให้ไรท์นะคะ

    :-Daisy

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×