ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องห้ามข้ามเวลามาพบเธอ

    ลำดับตอนที่ #2 : พรหมลิขิต(?)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 134
      0
      2 พ.ค. 56

    ในที่สุดฉันก็มาตามที่ขิงขอร้อง(แกมบังคับ)อย่างไม่เต็มใจ เฮ้อ... ฉันเกลียดที่คนเยอะๆแบบห้างสรรพสินค้าจริงๆเลย ความจริงเวลานี้ฉันต้องไปทำสปาโอ้ลัลล้าอยู่สิ ทำไมฉันต้องมาในที่แบบนี้ด้วยก็ไม่รู้  วันนี้ฉันแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำ พร้อมสร้อยคอโซ่สีเงินและจี้ทรงคล้ายๆเหรียญสิบบาทที่สลักอักษรบางอย่างไว้ซึ่งฉันอ่านไม่ออก

                      สาเหตุที่ได้มาเพราะเมื่อหลายปีก่อนมีคนเคยเอามาใส่ไว้ในล็อกเกอร์ของฉัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอามาให้ แต่เพราะรู้สึกถูกโฉลกกับสร้อยคอเส้นนี้อย่างประหลาด ฉันเลยไม่คิดจะตามหาคนที่เอามาให้ และใส่มันติดตัวตลอดเวลาพร้อมเหมารวมว่ามันเป็นสร้อยคอนำโชคของฉันเอง//ขี้ตู่จริงๆ -0- เอาเป็นว่าเรื่องนี้พักไว้ก่อน เพราะท่าทางขิงจะมาถึงแล้วเหมือนกัน


    “เฌอแตม ทางนี้ๆ” ขิงตะโกนพลางโบกมือมาทางฉัน ซึ่งมีเพื่อนห้องข้างๆมาด้วยประมาณสองสามคนซึ่งก็เคยเดินสวนกันในโรงเรียนอยู่บ่อยๆ  ถึงจะไม่สนิทด้วยก็ตาม

    “แกมาสาย” ฉันยืนกอดอกอยู่บริเวณหน้าทางเข้าร้านโบว์ลิ่งพร้อมบ่นยัยขิงตัวดีที่นัดฉันไว้แต่กลับมาสายซะเองไปเกือบสิบนาที

    “โทษทีนะ พอดีฉันรถติดนิดหน่อยน่ะ เอาเป็นว่าพวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ พวกผู้ชายที่เรานัดไว้เข้าไปรอข้างในกันหมดแล้ว”

     “อ่อ...อืม” แล้วฉันก็เดินตามขิงพร้อมกับคนข้างห้องอีก รวมฉันก็มากันห้าคนพอดี แอบกลัวนิดหน่อยแฮะ 
     

    พอฉันก้าวเท้าเข้าไปในลานโบว์ลิ่ง ฉันก็เห็นกลุ่มผู้ชายหน้าตาดีกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ประมาณห้าคน ซึ่งน่าจะเดาได้ว่าเป็นกลุ่มคู่นัดบอดของพวกเรา และฉันก็คาดการณ์ไม่ผิด เมื่อมีผู้หญิงที่เดินเข้ามาด้วยกันคนหนึ่งเข้าไปทักทายหนึ่งในผู้ชายกลุ่มนั้นอย่างสนิทสนม แล้วถ้าให้เดาอีกก็คงคาดว่าผู้หญิงกับผู้ชายที่ทักทายกันอยู่ตอนนี้เป็นแฟนกันและเป็นต้นเหตุให้เกิดงานนัดบอดนี้ขึ้น

    “นี้แฟนฉันเองจ้า เขาเป็นคนเสนอเรื่องนัดบอดนี้ขึ้นมาระหว่างกลุ่มของพวกเรากับกลุ่มของเขาเอง ^^” โอ้ ฉันนี่เดาแม่นจริงๆ  ถ้าซื้อหวยแม่นแบบนี้บ้างคงถูกหลายใบ -*-

    “ว้าว มีแต่หล่อๆทั้งนั้นเลยแก!!! ขิงคนนี้จะเป็นลม >_<”  ขิงกระซิบที่ข้างหูฉัน โรคบ้าผู้ชายของยัยนี่กำเริบอีกแล้ว -0-

    “แก น้ำลายจะหยดแล้ว เก็บอาการหน่อยสิยะ!!

    ระหว่างที่ฉันกำลังบ่นขิงอยู่ก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มคู่นัดบอดของพวกฉัน ราวกับเขามีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ฉันละสายตาไปจากเขาไม่ได้เลย  เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าประกายคมกริบเข้ากับผมสีดำเงาแลดูน่าค้นหา...สำหรับคนอื่นๆ คงมองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาดเพราะหากเขาไม่ได้ใส่คอนแทกเลนส์ก็ต้องเป็นลูกครึ่งทางฝั่งตะวันตกกับเอเชีย แต่ฉันมองเขาด้วยสายตาตกใจ...เพราะคงหาได้ยากหากที่จะเจอผู้ที่มีเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าผมดำเงาเช่นเดียวกับฉันเอง!!!

    “เฮ้ยแก!! ผู้ชายคนนั้นตาสีเดียวกับแกเลย หายากนะเนี่ยที่จะเจอในประเทศไทย สงสัยแกกับเขาคงเป็นเนื้อคู่กันในชาติปางก่อนแน่เลย >_<

    “งี่เง่าน่า มันคงเป็นเรื่องบังเอิญ หรือไม่เขาก็คงแค่ใส่คอนแทกเลนซ์เท่านั้นแหละ” ฉันพูดแย้ง แต่ในใจของฉันกลับรู้สึกแปลกประหลาดที่ได้ยินคำว่า 'เนื้อคู่ในชาติปางก่อน' อย่างบอกไม่ถูก...

    “ไม่ใช่คอนแทกเลนซ์แน่นอน เพราะคริสติน(ผู้หญิงห้องข้างๆ ที่เป็นแฟนของคนเสนองานนัดบอด)เคยเล่าให้ฟังว่ามีผู้ชายนัยน์ตาสีสวยเป็นลูกครึ่งจะมางานนัดบอดกับพวกเราด้วย และผู้ชายที่ยัยนั่นเล่าคงหมายถึงหมอนั่น”

    “แล้วเขาเป็นลูกครึ่งอะไร ชื่ออะไรล่ะ??”

    “ฉันก็ไม่รู้เหมอนกัน แกก็ลองไปถามเขาดูสิ”

    “แกจะบ้าหรอ ฉันยังไม่ได้สนิทกับเขาถึงขนาดไปถามเรื่องส่วนตัวเขาได้นะ”

    “ก็รีบทำให้มันสนิทซะสิ ^^”

    “ฉันไม่ได้อยากรู้อะไรเกี่ยวกับเขาขนาดนั้น”

    “นี่แก งานนัดบอดน่ะมันมีไว้เพื่อให้ 'คนแปลกหน้า' กลายเป็น 'คนรู้ใจ' แกก็ต้องเริ่มทำความรู้จักเขาก่อน  ถ้าเขาใช่ แกก็พูดคุยดูๆ กันไป ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร แถมในงานยังมีผู้ชายเหลืออีกตั้งหลายคน หรือถ้าไม่ถูกใจเลยก็ถือซะว่าเป็นกำไรชีวิต ได้มาเจอผู้ชายหล่อๆ แถมได้รู้จักปาร์ตี้นัดบอด เป็นประสบการณ์ชีวิตวัยรุ่นซักครั้งนะแก”

    “...”

    “จะมีซักกี่คนในประเทศนี้ที่มีสีตาเหมือนกับแก แถมมีบุคลิกน่าค้นหา ฉันเชื่อว่าเขาก็ต้องสนใจแกเหมือนกันแน่ถ้าเขาเห็นแกที่มีสีนัยน์ตาเหมือนกับเขา นี่อาจจะเป็นพรหมลิขิตที่ฟ้ากำหนดให้เนื้อคู่อย่างแกกับเขามาพบกันก็ได้”

    “พรหมลิขิตเนี่ยนะ?? แกอ่านนิยายเยอะไปแล้วมั้ง” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ในใจฉันกลับแอบคิดว่าเรื่องโชคชะตาอาจมีอยู่จริงก็ได้ โดยเฉพาะกับผู้ชายคนนี้...

    “ของแบบนี้ฉันก็ไม่รู้หรอก แต่เชื่อไว้ก่อนดีกว่า ชีวิตโสดของฉันจะได้มีความหวังบ้าง @.@

    “เออ...ก็ได้ๆ ฉันขอร่างสคริปบทพูดกับเขาไว้ในหัวก่อนละกัน ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ฉันจะลองเข้าไปคุยกับเขาดู”

    “นี่แก แค่ทำความรู้จักนะเว้ย ไม่ได้พูดสุนทรพจน์ จะเขียนสคริปไปทำไมยะ -0-”

    “ฉันก็แค่คิด ไม่ได้เขียน แถมอีกอย่างดีกว่าเป็นฝ่ายไปชวนเขาคุย แล้วกลายเป็นไม่มีอะไรจะคุยกับเขา บรรยากาศจะไม่มาคุเอาหรอแก?”

    “เออ งั้นแกก็เชิญตามสบายเถอะ เดี๋ยวฉันขอไปส่องหนุ่มๆ ที่เหลือก่อนนะ นี่เป็นโอกาสทองของฉันที่จะได้คว้าหนุ่มหน้าตาดีจากเอ็ดซาร์นมาเป็นแฟน น้ำขึ้นให้รีบวิด”

    “น้ำขึ้นให้รีบตัก” ฉันแก้

    “ก็วิดมันได้มากกว่าตักนี่ยะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวมาละกัน >_<

    เฮ้อ เชื่อเลยเพื่อนฉัน -*-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×