ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วังวนอสูร

    ลำดับตอนที่ #3 : เกิดอาการ

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 59




                



    “คะ คะ คะ ตามนั้น” สุดท้ายรสินทราก็พยักหน้าตกลงเพราะใจจริงแล้วเธอก็ไม่คิดจะขัดใจหากเขาอยากจะมานอนบ้านเธอ จะยิ่งดีใหญ่ถ้ามานอนห้องเดียวกัน คิดไปคิดมาแล้วแอลก็อดไม่ได้ที่จะเขินได้นอนร่วมชาคาเดียวกับเขาในรอบสามปีแบบนี้เธอคงมีหวังขึ้นมาบ้าง

    ทั้งสามคนแยกย้ายกันเข้าไปห้องนอน เคนจัดแจงให้แอลนอนพักในห้องของพ่อกับแม่ ส่วนตัวเขานั่นนอนในห้องของเธอแทน ขณะที่ลุคไปนอนในห้องรับแขกถึงตอนแรกจะมีขัดใจกันกับลุคบ้างแต่สุดท้ายก็ตามนั้นเพราะแอลไม่ยอมขัดใจพี่ชายที่เธอรัก

    // ก๊อก ก๊อก ก๊อก // เสียงประตูห้องนอนของหญิงสาวถูกเคาะร่างสมส่วน

    ในชุดนอนรีบสวมเสื้อคลุมแล้วไปเปิดประตูทันทีด้วยความดีใจคิดว่าคนที่เธอ

    หมายใจรัก แต่ชายหนุ่มที่อยู่หลังประตู กลับ ลูคัส ในมือของเขาถือแก้วนมมาให้หญิงสาวเหมือนทุกครั้งที่เขาเคยทำเมื่อสมัยตอนอยู่เมืองนอก

    “อ้าว...ลุค ยังไม่นอนเหรอ” รสินทราไม่ได้สนใจมองแก้วนมกลับรู้สึกผิดหวังคิดว่าจะพี่ชายที่แสนดีของเธอแวะมาดูก่อนเข้านอน

    “ยัง ผมเอานมร้อนๆมาให้” ชายหนุ่มเดินเอาแก้วนมมาวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงของหญิงสาวมองดูเธอที่ยิ้มให้เขาตอบกลับมาแต่รอยยิ้มมิตรภาพไม่ใช่รอยยิ้มกินใจเหมือนที่ยิ้มให้กับเคน

    “ยังทำหน้าที่เหมือนเดิมเลยนะ” หญิงสาวกล่าวชมด้วยน้ำเสียงต่ำลึกฝืนเจื่อนๆ เหมือนผิดหวังอะไรสักอย่างหลังจากเปิดประตูรับชายหนุ่มเข้ามา

    “ไม่ใช่หน้าที่ลุคเต็มใจทำ” ลูคัสเดินเข้าประชิดกุมมือบางทั้งสองขึ้นมายิ้มอบอุ่นให้กับเธอพูดนัยกึ่งตอกย้ำให้เธอรู้ว่ายังมีเขาอยู่อีกคน

    “เออ... ขอบใจนะ วันนี้ทำได้ดีมากเลย” รสินทราพยักหน้าหลบสายตาเปลี่ยนเรื่อ งปลีกตัวเดินทอดน่องไปนั่งที่โต๊ะทำงานของบิดาพูดถึงเรื่องที่เธอและลุคนัดแนะว่าจะทำเมื่อมาถึงเมืองไทยโดยไม่รู้ว่าที่ชายหนุ่มเต็มใจทำเพราะมี

    บางอย่างแอบแฝง

    “ก็คงหวงน้องสาวมากกว่า” ชายหนุ่มถอนหายใจพยายามบ่ายเบี่ยงให้หล่อนตีความหมายไปอื่น ไม่อยากให้เธอคิดมีความหวังกับชายอื่นนอกจากเขาคนเดียว

    “ไม่นะ แอลว่าไม่หวงธรรมดาหรอก” หญิงสาวส่ายหน้าเชื่อมั่นในสายตาและความรู้สึกของตนเอง ว่าพี่ชายที่แสนดีนั้นมีอาการแปลกไปตั้งแต่เจอหน้าเธอ และแปลกที่สุดก็ตอนที่มีลุคโผล่มาด้วย

    “เหรอ แต่ลุคว่าก็ธรรมดา” ลูคัสยืนกรานอีกครั้งเดินมานั่งลงที่ปลายเตียงมองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้มีแต่เงาของเคนอยู่ในแววตาคู่สวยของเธอ

    “ไม่หรอก แอลรู้จักพี่เคนดี” แอลส่ายหน้ายิ้มออกอย่างมั่นอกมั่นใจเชื่อว่าความรู้สึกของตนเองนั้นถูกต้องบางอย่างในตัวเธอเปลี่ยนไปและบางอย่างในใจของเคนก็กำลังจะเปลี่ยนตาม

    “หึ...” ชายหนุ่มแทบจะทนเห็นแววตาแห่งความหวังของเธอต่อไปไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะผิดหวังเมื่อพยายามที่จะอยู่ในสายตาหล่อนบ้างสักนิดแต่หล่อนก็ไม่เคยเหลียวมองเขาเลย

    “อะไรรึเปล่าลุค” ความผิดปกติของสีหน้าและแววตาของชายหนุ่มทำให้เธออดไม่ได้ที่เอ่ยถาม ลุคอะไรไปทั้งที่ก่อนนี้มาเมืองไทยยังดีปกติดีอยู่เลย จะว่าไปหากไม่ติดว่าทุกอย่างที่เขาทำนั้นแผนการบางครั้งหล่อนเธออดไม่ได้ที่จะคิดว่าการกระทำของเขานั้นเหมือนกำลังแสดงความเจ้าของเธอ

    “เปล่า...แอลพักผ่อนเถอะ” ชายหนุ่มส่ายหน้าลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปทางประตูห้องของหญิงสาวไม่อยากจะรบกวนอีกเพราะพรุ่งนี้มีเรื่องต้องทำอีกมากและมีศึกให้รบอีกเยอะ

    “อือ...” หญิงสาวพยักหน้าเดินตามไปปิดประตูห้องของตนเองตามปกติ

    “ไนท์นะแอล” ชายหนุ่มหันกลับมาเชยคางหญิงสาวขึ้นมาจุมพิตแผ่วเบาที่มุมปากเหมือนทุกครั้งที่เขาเคยทำก่อนส่งเธอเข้านอน

    “ไนท์เช่นกันคะ ลุค” และมันก็เรื่องปกติของเธอเช่นกันหล่อนจุมพิตแผ่วเบาที่มุมปากของเขาเหมือนเวลาที่พวกฝรั่งเขาทักทายกันอย่างสนิทสนม

    เมื่อชายหนุ่มเดินจากเข้าไปในห้องนอนของตนเองหญิงสาวที่ยังยืนเหมือนรีรอมองหาใครบางคน ใครคนนั้นก็เดินขึ้นมาจากบันไดด้วยสายตาไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไรเพราะการกระทำของทั้งสองอยู่ในสายตาของเขาเพียงแต่หยุดยืน

    มองที่กลางบันไดทำให้ทั้งสองไม่เห็นการมาของเขานั้นเอง

    “แอลนั่นทำอะไร” เคนเอ่ยถมเสียงเครียดเมื่อเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าของน้องสาวสีหน้าแววตาของเขาดูดุดันอย่างเห็นได้ชัดเจน

    “จูบราตรีสวัสดิ์ค่ะ” รสินทรากล่าวเหมือนมันเรื่องไม่ผิดแปลกอะไร พลางมองสิ่งที่ชายหนุ่มถือในมือมันคือแก้วนมแก้วโปรดของเธอ และถ้าเดาไม่ผิดสิ่งที่อยู่ในนั้นคือนมอุ่นๆที่เธอตั้งตารออยู่ รู้สึกหัวใจพองโตที่เขาไม่เคยลืมจะเอามาให้เธอก่อนเข้านอน

    “นั้นนมของแอลใช่ไหมคะ”

    “อือ” ชายหนุ่มพยักหน้าพลางส่งให้เชิงอีกฝ่ายเองก็รับกึ่งดึงไปด้วยความดีใจ เขาไม่ลืมดุน้องสาวที่ทำตัวประเจิดประเจ้อแบบนั้น

    “เป็นสาวเป็นนางเอานิสัยเมืองนอกมาใช้ที่ไทยพี่ว่าไม่เหมาะนะ”

    “โธ่...พี่เคน ทำไมขี้บ่นจังค่ะ” หญิงสาวดื่มนมของชายหนุ่มอึกใหญ่ พลางทำตาค้อนหน่อยที่ถูกเขาดุกับเรื่องที่เธอมองว่ามันไม่เรื่อง

    “พี่ห่วงเรานะ หมอนั้นดูไม่น่าไว้ใจ” คันธารัตน์ยืนกอดอกอยู่ส่ายหน้าหันไปมองตาขวางในประตูห้องของอีกฝ่ายคิดในใจ

    กล้าดียังไงมาจูบน้องสาวในบ้านของเธอนี่ถ้าตนไม่นอนด้วยมีหวังทำอย่างอื่น เพื่อนกันตั้งแต่เด็กแน่เหรอแบบนี้ เพื่อนกันเอากันละสิไม่ว่า

    “ก็ถ้าไม่ไว้ใจนัก พรุ่งนี้อย่าลืมตามไปหัวหินนะคะ ไม่รู้ว่าลับหลังพี่เคน ลุคเขาจะทำอะไรแอลบ้าง พี่เคนพูดมาแบบนี้แอลก็เริ่มหวั่นๆ” แอลฉวยโอกาสปูทางให้ชายหนุ่มตามเธอไปหัวหินทันที

    ชายหนุ่มทำท่าทางคิดหนักคิดมากคิดมายหากตนไม่ตามไปด้วยจะเกิดอะไรขึ้นบ้างขนาดอยู่ในสายตายังขนาดนี้แล้วถ้าไม่อยู่ในสายตาล่ะอะไรจะเกิดขึ้น

    “อย่าคิดมาสิคะ เดี๋ยวผมงอกไวนะ” หล่อนดูหน้าตาของพี่ชายที่กำลังขบคิดหนักก็อดขำไม่ได้เอื้อมมือไปจับผมเขาการล้อเลียนแล้วอยู่ๆความคิดบ้าๆของเธอก็ผุดขึ้นในสมองอย่างกะทันหัน

    “งั้น...แอลจูบราตรีสวัสดิ์พี่ด้วยแล้วกันจะได้เป็นกลาง”

    “เอ๊ะ...” โดยที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวใบหน้าของคนที่คิดว่าน้องสาวตลอดชีวิตก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที เหมือนสายตาของเธอจะมีมนต์สะกดเขาให้ยืนนิ่งไม่ขยับ แล้วริมฝีปากบางสวยก็ประทับลงที่ริมฝีปากอบอุ่นของเขาอย่างแนบแน่นและเนินนาน

    นี่ไม่ใช่จูบทักทายแบบที่ฝรั่งทั่วไปจูบกัน เพราะริมฝีปากของทั้งสองเผยอเปิดรับกันและกันอย่างดูดดื่มความหวานจากปลายลิ้นที่มีรสนมอุ่นๆ จากเธอถูกส่งมายังลิ้นของเขามันรสชาติที่วูบวาบร้อนแผ่วทำเอาชายหนุ่มใจเต้นแรงไม่จังหวะ

    จูบที่น่าหลงใหลและติดตรึงสำหรับเขายิ่งปลายลิ้นเล็กๆไม่ชำนาญเท่าไรนักพยายามควานสำรวจภายในช่องปากของเขาจนเคนอดไม่ได้ที่จะเข้าไปสำรวจในช่องปากของเธอการแลกเปลี่ยนกัน

    มันช่างจูบในฝันของเธอในยามเด็กเหมือนเคยคิดเคยอยากรู้อยากลองว่ารสจูบของเขายังไงถึงตอนนี้ได้รู้แล้วว่ามันน่าหลงใหลแค่ไหนจนไม่อยากจะถอดถอนออกมาเหมือนเด็กน้อยกำลังติดของหวานยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายตอบสนองเชิงสอนให้รู้ว่าจูบที่แท้จริงนั้นยังไง

    หากตอนนี้ในมือข้างหนึ่งของเธอไม่มีแก้วนมอยู่สองมือของเธอก็คงโอบกอดรัดรอบคอของเขาเหนี่ยวรั้งให้เข้ามาภายในห้องเพราะตอนนี้สองมือของเขากำลังโอบลูบแผ่นหลังของเธออยู่อย่างลืมตัว จูบดื่มด่ำของทั้งสองเนินนานจนลืมหายใจ

    “แอล...” จนชายหนุ่มต้องผ่อนใบหน้าออกมาเล็กน้อยกระซิบเสียงต่ำที่ริม

    ฝีปากบางขานเรียกชื่อคนที่คิดว่าน้องสาวมาตลอดชีวิตอยากจะบอกเหลือเกินว่าจูบนี้ของเธอทำให้เขาใจสั่นจนแทบจะละลาย

    “กู๊ดไนท์คะ พี่เคน” รสินทราตัดใจเมื่อเขาขานเรียกชื่อเธอรีบร้อนถอยห่างออกมาแล้วปิดประตูห้องเบาๆเพราะไม่อยากจะทำเหมือนปิดประตูใส่หน้าเขา แล้วยืนหายใจหอบหนักอยู่หลังประตูห้องนอนกับความรู้สึกที่ร้อนวูบวาบไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว

    “เด็กบ้า...” คนถูกทิ้งให้ยืนอย่างโดดเดี่ยวเองก็หายใจหอบไม่แพ้กัน เดินกลับไปยังห้องนอนเหมือนขาแข้งจะไร้แรง รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งเนื้อทั้งตัว สมองคิดหนักสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันคืออะไรกันเนี่ย เธอจงใจหรือแกล้ง หรือตัวเองฉวยโอกาสเพราะรสินทรางามจนไม่อาจจะห้ามสายตาไม่มองเธอ หรือเขาคิดอะไรกับน้องสาวไปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับตนกันแน่

    ยิ่งเมื่อเข้ามาอยู่ในห้องนอนของหญิงสาวก็ยิ่งทำให้เขาฟุ้งซ่านคิดมากไปไกลกว่าเดิมเพราะรสชาติของจูบนั้นมันติดตรึงริมฝีปากจนอดไม่ได้ที่จะกระดกปลายลิ้นขึ้นมาเลียริมฝีปากเพื่อเอาความหวานที่ยังพอติดอยู่กลืนกินเข้าไปอย่างไม่อาจจะห้ามใจ รู้สึกท้องไส้มันปั่นป่วนไปหมดเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาที่สำคัญเกิดอะไรขึ้นกับใจเขามันเต้นรั่วเร็วทุกครั้งที่อยู่ใครหญิงสาวที่คิดว่าน้องสาวมาตลอดเวลา

    ทางด้านหญิงสาวเธอดื่มนมแก้วของเคนเสียจนหมด โดยไม่สนใจแก้วของชายหนุ่มอีกคนซึ่งเอามาให้ก่อนหน้า ด้วยกำลังหลงใหลได้ปลื้มอยู่กับจูบหวานของคนที่ตนเองหลงรัก อดไม่ได้ที่จะคิดหากได้จูบกับเขาต่อคงจะดีไม่น้อย เพราะมันสวยและงดงามกว่าจูบที่เธอเคยวาดฝันเอาไว้

    ดูเหมือนทั้งสองจะนอนไม่หลับเพราะกำลังสับสันกึ่งเสียดายขณะที่อีกคนเองก็นอนไม่หลับเพราะกำลังคิดมากและเสียใจกับสิ่งที่ได้เห็นมาเมื่อครู่...เมื่อตนเองแอบอยู่หลังประตูห้องนอนยืนดูภาพบาดตาบาดใจ

                    เช้าวันต่อมากลิ่นของอาหารเช้าหอมกรุ่นเข้าไปยังห้องนอนของหญิงสาว ร่างสมส่วนรีบลุกขึ้นอาบน้ำอาบท่าเพราะมันกลิ่นหอมที่คุ้นเคยซึ่งเธอห่างเหินมานานหลายปี เสียงดังออกมาจากห้องครัวสองขาเรียวเดินตามไปหาต้นเสียงด้วยใบหน้าระรื่น

    “โอ้โห...อาหารเต็มเลย ไม่ได้กินอาหารเช้าฝีมือพี่เคนมาตั้งนานคิดถึงจัง” หญิงสาวเอ่ยทักทายพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้มองดูไข่เจียวหมูสับ ผัดผักบุ้งไฟแดง ปลาทูทอดกรอบ ยำไข่เค็ม ในหม้อที่เคนกำลังยืนคนอยู่คือข้าวต้มร้อนๆซึ่งเขากำลังตักมาใส่ถ้วยให้หญิงสาว

     “งั้นก็กินเยอะๆสิ พี่เองก็ไม่ทำอาหารเช้าให้ใครกินมานานแล้วเหมือนกันเพราะใครๆก็หนีพี่กันไปหมด” ชายหนุ่มกล่าวราวกับตัดเพ้อที่ตนต้องทำงานหนักอยู่คนเดียวพลางนั่งลงเก้าอี้ข้างๆร่างบางตักข้าวต้มใส่ถ้วยของตนเองบ้างเพื่อจะได้กินพร้อมกัน

    “อยากให้ตื่นมาแล้วพี่เคนทำให้แอลกินทุกเช้าเลยล่ะ” รสินทราไม่ได้พูดเอาใจชายหนุ่มแต่พูดออกไปเพราะจริงจังตามคำพูดของตนเอง

    “จริงรึเปล่า แล้วอย่าเบื่อนะ” ชายหนุ่มตักอาหารใส่ไปในถ้วยข้าวต้มของหญิงสาวรู้ดีว่าเธอชอบยำไข่เค็มมาที่สุดคงจะห่างหายจากอาหารบ้านๆแบบนี้มานานแล้วถึงได้กินอย่างเอร็ดอร่อยขนาดนี้

    “ถ้าพี่เคนแอลไม่มีวันเบื่อหรอกคะ” แอลกลืนอาหารในปากลงคอแล้วหันไปมองสบสายตากับชายหนุ่มข้างกายด้วยแววตาลึกซึ้ง

    คันธารัตน์มองสบสายตากลับคืนภาพจูบของเมื่อคืนผุดขึ้นมาในสมองทันทีความร้อนรุ่มผะผ่าวขึ้นใบหน้าเลือดในกายร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ จะเอ่ยถามความหมายถึงการกระทำของหญิงสาวเมื่อคืนก็กะไรอยู่เพราะตนชายชาตรีจะเอ่ยปากก็ก็เกรงว่าหญิงสาวจะเขินอายเลยได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ภายในใจ

    “จะไม่ตามไปจริงๆเหรอ” หล่อนเห็นเขาเงียบไปก็อดไม่ได้ที่จะลองถามหยั่งใจชายหนุ่มคิดจะตามเธอไปบ้างรึเปล่าแผนการขโมยจูบไปแล้ว แผนการพูดยั่วก็พูดออกไปแล้ว

    “พี่ยังไม่ได้เคลียร์งานเลย” เคนยังให้คำตอบไม่ได้เพราะสองจิตสองใจห่วงน้องก็ห่วงห่วงงานก็ห่วง จะให้ทิ้งงานไปกะทันหันก็คงจะไม่ได้ยังไงก็ต้องไปดูหน้างานก่อนว่ามีอะไรด้วยรึเปล่าถึงจะให้คำตอบได้ชัดเจน

    “ไม่รู้นะ เกิดไปอยู่นู้น เหลือห้องเดียวแอลต้องนอนกับลุคไม่รู้ด้วยล่ะยิ่งช่วงฮายซีซั่นอยู่” รสินทราทำพูดยั่วอีกครั้งเพราะคิดว่าที่พูดไปเมื่อวานคงยังไม่มากพอ

    “นี่แอลตั้งใจจะขู่ให้พี่หวงใช่ไหม คงจะรู้ละสิว่าพี่ไม่ไว้ใจหมอนั่น” ชายหนุ่มหันไปยิ้มกว้างเหมือนจะรู้ทันที่น้องสาวพยายามยั่วให้เขาห่วงอดไม่ได้ที่จะยกมือไปขยี้ผมทำแสดงออกว่าเอ็นดูแต่ภายในใจนั้นสับสนกับคำพูดของเธอมาก

    กว่าเดิม

    “อะไรกันคะ คนกันเองเหมือนพี่น้องกันทั้งนั้น” เมื่อชายหนุ่มรู้เท่าทันแอลก็ถอยคำพูดยั่วยวนออกไปอีกก้าวหนึ่งเพื่อไม่ให้ดูจงใจจนเกินไป

    “พี่ไม่ไว้ใจมัน สายตามันดู...” คันธารัตน์แผ่วเสียงลงพลางหันไปมองว่าคนที่ตนกล่าวถึงนั้นตื่นรึยังแต่ก็ไม่กล้าจะพูดมาเกรงว่าจะถูกมองว่าชายขี้นินทา

    “นี่หวงน้องสาวหรือคะ” หญิงสาวพูดดักทางพี่ชายที่แสนดีด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มดีใจที่เขาหวงและห่วงเธอเกินกว่าหน้าที่ของพี่ชายควรจะทำ

    “อือ” ชายหนุ่มพยักหน้ายอมรับแต่โดยดีแม้ในใจจะกำลังสับสนอยู่ว่าเขาหวง หวงเธอในฐานะไหนกันแน่ยังไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไรเลย

    “หวงแบบนั้นกับพี่เจนด้วยรึเปล่าคะ” รสินทราจี้ถามอยากจะให้ชายหนุ่มยอมมองเธอให้มากกว่าน้องสาวอยากจะจี้หัวใจตอกย้ำหลายๆครั้งจะได้รู้สึกตัวบ้างว่าตอนนี้เธอสาวเต็มตัวแล้ว

    “รายนั้นน่ะเก่งเกินไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงคนอื่นมากกว่า” เคนอดขำไม่ได้เมื่อเอ่ยถึงน้องสาวตัวแสบซึ่งตอนนี้แต่งงานเลี้ยงลูกไปแล้วจะว่าไปก่อนที่จะแต่งกับสามีได้ข่าวมาว่าไปพยศกับอีกฝ่ายพอสมควร ในขณะที่หญิงสาวข้างกายของเขา

    ตอนนี้แตกต่างจากน้องสาวแท้ๆ ของตนมากนัก

    “แต่แอล...”

    “แอลทำไมคะ” ดวงตาคู่สวยของแอลมองสบอย่างไม่หลบเลี่ยงเพราะเชื่อมั่นว่าดวงตาคือหน้าตาของหัวใจหวังอย่างยิ่งว่าเธอจะได้เห็นหัวใจของเขาและอยากจะให้เขามองหัวใจเธอบ้าง

    “อ่อนโยน อ่อนแอ ไม่เคยเจอโลก น่าห่วงกว่าเจนเยอะ” คันธารัตน์สบสายตาตอบกลับ และอีกครั้งที่ใจของเขาสั่นไหวยามมองดูดวงตาคู่นี้

    “เวลาผ่านไปสามปี อ่อนโยนน่ะใช่แต่ไม่อ่อนแอแล้วก็ไม่อ่อนต่อโลกแล้วคะ แอลเข้มแข็งแล้ว” หล่อนยืนกรานหนักแน่นว่าเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน

    “งั้นจะบอกว่าไม่ต้องการให้พี่ดูแลห่วงใยแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มตีตนไปก่อนไข้คิดว่าน้องสาวคนนี้อาจจะไม่ต้องการพี่ชายที่แสนดีแล้ว

    “ใครว่าต้องการมากกว่าเดิมตะหาก” ใจของเธออยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่ต้องการเขาในฐานะพี่ชายแต่ต้องการเขาในฐานะคนรักมากกว่า

    “แอลเปลี่ยนไปมากเลยนะ” แววตาของหญิงสาวที่เคยเด็กสาวตอนนี้ในสายตาของเขาตอนนี้เธอกลับสาวเต็มตัวแล้ว ดูเหมือนจะไม่ต้องการเขาในฐานะ

    ของพี่ชายมาปกป้องดูแล

    “ไม่คะ บางอย่างไม่เปลี่ยนยังคงมั่นคงเสมอมา” แอลส่ายหน้าเพราะสิ่งหนึ่งสำหรับเธอไม่เคยเปลี่ยนคือหัวใจที่มั่นคงต่อเขาเสมอมา

    ขณะที่ทั้งสองคนกำลังมองสบสายตากับอย่างลึกซึ้งเหมือนกำลังจ้องมองหัวใจกันและกัน ชายหนุ่มชาวต่างชาติที่ตื่นได้สักพักแล้ว แต่กำลังยืนแอบฟังและดูลาดราวไปก่อนเพราะหากรีบเสนอหน้าไปก็จะทำให้แอลอาจจะไม่พอใจที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลา

     “อะแฮ่ม...ขอโทษที่ตื่นสาย” เขากระแอมเสียงออกไปดังๆเพราะเริ่มจะอดใจไว้ไม่ไหวหากไม่แสดงตัวออกมาทั้งสองคนลงเอยกันได้ง่ายเกินไปแล้วตนก็จะหมดโอกาส

    “ไงหลับสบายไหม” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกรู้สึกขัดใจนิดหน่อยที่ชายหนุ่มแสดงตัวออกมาเอาตอนที่กำลังได้โอกาสแต่ก็ฝืนหันไปถามตามมารยาของเจ้าของบ้านเพื่อไม่ให้พิรุธกับทุกคน

    “สบายมาก ตั้งใจจะตื่นมาทำอาหารให้แต่เช้าเหมือนทุกวันตอนอยู่ที่นั่น แต่ดันตื่นสายซะได้” ลุคพยักหน้าพลางเดินอ้อมมาจูบหน้าผากเนียนของหญิงสาวการทักทายยามเช้าแต่เจ้าของหน้าผากกลับไม่ค่อยตอบรับสักเท่าไรคงเพราะเกรงใจเคนที่นั่งมองตาขวางอยู่ข้างกายตน

    “คงเหนื่อยจากการเดินทาง แต่ไม่ไรหรอกพี่เคนทำให้แล้วอร่อยเหมือนเดิมด้วย” แอลพยายามทำตัวปกติพูดคุยกับคนเพิ่งตื่นนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะคิดว่าเขาคงทำไปให้เคนหึงตามที่นัดกันเอาไว้

    “กาแฟไหมลุค” คันธารัตน์ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปหยิบถ้วยข้าวต้มส่งให้ แล้วเอ่ยถามตามหน้าที่ของเจ้าบ้านที่ดีซึ่งต้องดูแลแขกที่มาเยือน

    “ขอบคุณครับ” ลูคัสไม่ปฏิเสธเพราะมองอาหารตรงหน้าคิดว่าคงไม่ถูกปากด้วยเพราะไม่เคยชินกับอาหารไทยๆเท่าไรนักแต่ก็ต้องฝืนใจกินพอเล็กน้อยเพื่อเอาใจหญิงสาวข้างกาย

    “เดินทางกันเมื่อไร” พี่ชายที่แสนดีเอ่ยถามน้องสาวตั้งใจว่าหากมีเวลาพอเขาอาจจะออกมาเจอกันก่อนที่เธอจะไปต่างจังหวัดหรืออาจจะได้ไปพร้อมกันก็ได้

    “ก็บ่ายๆคะกะจะไปซื้อข้าวของก่อนไป” แต่ดูท่าทางกำหนดการของหญิงสาวจะกระชั้นชิดเกินไปแค่ครึ่งวันเขาคงหาเวลาออกมาจากที่ทำงานยังไม่ได้

    “ไปห้างของกรานเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยถามสถานที่ไปเพราะตั้งแต่มีน้องเขย

    เจ้าของห้างเขาก็แทบไม่ต้องไปห้างไหนหากไปมีหวังน้องสาวต่อว่าฟืนไฟไปอุดหนุนคู่แข่งทำไมกัน

    “คะ พี่กรานบอกมาแล้วอยากได้อะไรก็ชี้ได้เลย” หญิงสาวทำเสียงระลื่นคิดสนุกเมื่อจะได้ซื้อข้าวของแบบไม่ต้องเสียเงินแม้ทางบ้านเธอจะมีเงินแต่การใช้เงินคนอื่นดูแล้วมันน่าจะสนุกกว่า

    “มีน้องเขยเจ้าของห้างก็ดีแบบนี้แหละ” คันธารัตน์พูดปนหัวเราะไม่ว่าใครรู้ว่าสามีน้องสาวเจ้าของห้างก็ต่างอิจฉากันใหญ่

    “แต่พี่คงไปด้วยไม่ได้นะ ต้องไปเคลียร์งาน ไม่งอนนะ”

    “ไม่งอนค่ะ พี่เคนไปทำงานเถอะ แอล...” รสินทราเข้าใจดีว่าพี่ชายต้องไปทำงานหรือถ้าไปได้หากเคลียร์งานเสร็จเร็วเคนอาจจะได้ไปหัวหินกับเธอ

    “ไม่ต้องห่วงผมไปด้วยแอลจะงอนทำไมเนอะ” โดยที่แอลยังไม่ทันพูดจบลุคก็ทนนั่งฟังสองคนนั้นคุยโดยที่ตนเองไม่ร่วมด้วยไม่ได้ต้องเสนอหน้าว่าตนเองอยู่ด้วยทันที

    “พี่จะไปเคลียร์งานเพื่อตามไปหัวหินเร็วๆดีไหม” ชายหนุ่มเหลือบสายตามองคนพูดแทรกขึ้นมาแวบหนึ่งแล้วก็หันไปมองหน้าหญิงสาวต่อเหมือนไม่ได้

    เสียงพูดเมื่อครู่เช่นเดียวกับแอล

    “จริงเหรอคะ” คนฟังถึงกับหน้าบานยิ้มกว้างออกมาอย่างลืมตัวเมื่อรู้ว่าพี่ชายที่แสนดีพยายามจะหาทางไปหาตนที่หัวหิน

    “จ๊ะ” ชายหนุ่มพยักหน้าเหลือบสายตามองดูชายอีกคน ซึ่งกำลังมองหน้าเขาด้วยสายตาคับแค้น คงกำลังคิดอยู่ในใจว่า

    เขาจะตามไปทำไมกัน

    “ดีจังเหมือนวันเก่าๆเลย” รสินทราเหมือนโล่งใจที่รู้ว่าอีกฝ่ายอาจจะตามมานั่งก้มหน้ายิ้มหวานไปกับถ้วยข้าวต้มรู้สึกเจริญอาหารขึ้นมาทันทีขอข้าวต้มเพิ่มอีกสองถ้วยในขณะที่ชายหนุ่มชาวต่างชาติกับกินแต่กาแฟเพราะรู้สึกเหมือนกระเพาะจะไม่อยากรับอาหารที่ศัตรูหัวใจผู้ทำ

    หลังจากที่ทุกคนกินอาหารเช้าเสร็จแอลและลุคเก็บข้าวของขึ้นรถแล้วเดินทางไปยังห้างใหญ่เพื่อซื้อของ ส่วนเคนก็เดินทางไปทำงานตามปกติ ที่จะไม่ผิดปกติคือจิตใจของเขาตอนนี้กำลังว้าวุ่นเมื่อรู้ว่าน้องสาวของตนออกเดินทางไปหัวหินแล้วตามลำพังกับลูคัส

    “ป่านนี้คงไปถึงกันแล้ว” ชายหนุ่มนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ภายในห้อง

    ประชุม สายตาพะวงอยู่แต่เวลาที่ตอนนี้บอกเวลาเกือบบ่ายสามเข้าไปแล้วแต่เขายังประชุมไม่เสร็จเลย

     “เจ้านายครับตกลงอนุมัติไหมครับ” เสียงของพนักงานชายคนหนึ่งกล่าวถามหลังจากที่มีพนักงานอีกคนเสนองานเสร็จเรียบร้อย

    “หมอนั่นจะทำอะไรแอลรึเปล่านะ แอลนิสัยไม่เหมือนเจน ไม่ทันคนเท่าไร” เคนเอาแต่พึมพำอยู่คนเดียวโดยไม่ได้สนใจมองงานที่เสนออยู่ตรงหน้าตน

    “เจ้านาย...” เลขาสาวที่นั่งอยู่ไม่ห่าง พยายามกระซิบเรียกเจ้านายให้ตื่นจากภวังค์ความคิดของตนเอง แล้วกลับมาสู่งานตรงหน้าก่อนที่ใครจะจับสังเกตเห็นชัดมากไปกว่านี้

    “ถ้ามันเกิดทำอะไรแอลขึ้นมาจะทำยังไง ความผิดเราแน่ๆที่ดูแลน้องไม่ดี” ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกรู้สาขมวดคิ้วหน้าเครียดคิดถึงแต่เรื่องของรสินทราอยู่ในสมองใบหน้างามวนเวียนขึ้นมารสจูบหวานยังติดตรึงที่ปลายลิ้นยกปลายนิ้วขึ้นมาลูบริมฝีปากตัวเองด้วยความลืมตัว

    “คุณเคนครับ...คุณเคน” พนักงานอีกคนพยายามเรียกทักชายหนุ่มอีกแรงเพราะสายตาของเหล่าผู้เข้าร่วมประชุมเริ่มหันมาสนใจอาการแปลกๆ ของเจ้านาย

    แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับจนกระทั่งต้องใช้เสียงที่หนักขึ้นถึงจะรู้สึกตัว

    “คุณเคนครับ”

    “ว่าไง” คันธารัตน์สะดุ้งเล็กน้อยเหมือนเด็กน้อยถูกจำได้ว่าทำความผิด หันมามองหน้าเหล่าผู้เข้าร่วมประชุมมือไม้ควานหาเอกสารงานตรงหน้า

    “งานที่เสนอไปอนุมัติไหมครับ” พนักงานคนที่เรียกเขาเอ่ยถามเสียงหนักๆด้วยใบหน้าอมยิ้มเล็กน้อยเหมือนเพิ่งเคยเห็นเจ้านายเหม่อลอยแบบนี้

    “ไหนล่ะ ผมยังไม่ได้เอกสารเลย” คนใจลอยทำโวยวายรื้อหาเอกสารงานดังกล่าวพร้อมทำสายตาติเตียนลูกน้องที่ถามโดยที่เขายังไม่ดูรายงาน

    “อยู่ในมือคะ” เลขาสาวกล่าวเตือนเสียงแผ่วเบาไม่กล้าพูดดังเพราะเกรงว่าเจ้านายจะอาย เคนรู้สึกตัวว่ากำลังไม่มีสมาธิก็เหลือบตามองคนรอบข้างซึ่งตอนนี้พยายามทำท่าทางแกล้งไม่รู้ ไม่เห็นการกระทำของเจ้านายเพราะไม่เคยเห็นเขาแบบนี้เลยสักครั้งเดียว

    “อ้อ...รอไปก่อนดีกว่า ผมว่าตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีลงทุนอะไรไปความเสี่ยงจะสูง วันนี้พอแค่นี้นะเลิกประชุม ผมมีธุระ” ยังไม่ทันที่เคนจะอ่านเอกสารจบแค่กวาดสายตาดูคราวๆเขาก็รีบตัดบทออกไปเพราะทุกตัวหนังสือในรายงานมีแต่

    ภาพของรสินทราผุดขึ้นมาตลอดเวลาอ่านไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

    “คุณกิ๊บเคลียร์งานให้ผมด้วย ผมจะไม่อยู่สักสองสัปดาห์ไปทำธุระต่างจังหวัด” เมื่อสั่งปิดประชุมก็หันไปสั่งงานกับเลขาด้วยเพราะทนไม่ไหวไม่มีสมาธิจะเคลียร์งานใจจดจ่ออยู่กับหญิงสาววาดภาพไปต่างๆนาๆว่าเธอกำลังหยอกล้อเล่นกับลุคโดยไม่มีเขาคอยปกป้อง

    “เจ้านายลาเหรอไปได้ยังไง” ด้วยความสงสัยทำงานด้วยกันมาหลายปีอดไม่ได้ที่จะพึมพำกระซิบกระซาบกับเพื่อนร่วมงานที่สงสัยไม่แพ้เธอ

    ทางด้านรสินทราและลูคัสมาถึงโรงแรมที่หัวหินทั้งสองก็ต้องเข้าห้องประชุมในทันที ขณะที่ลุคกำลังตั้งใจประชุมแอลกลับเหม่อลอยไม่สนใจงานสักเท่าไรรู้สึกเบื่อหน่ายอยากจะให้เลิกเร็วๆ ใจคิดไปไกลเปิดประตูห้องประชุมออกไปเจอหน้าพี่ชายที่แสนดียืนรออยู่

    ลุค ลุคว่า พี่เคนจะตามมาที่หัวหินรึเปล่า’ หญิงสาวพิมพ์ข้อความถามไปชายหนุ่มด้วยไอแพดที่เอาเข้ามาร่วมประชุมด้วย

    ถามอะไรน่ะแอล ประชุมอยู่นะ’ ชายหนุ่มไม่ตอบแต่ตำหนิหญิงสาวที่ไม่สนใจงานตรงหน้ากลับไปคิดถึงคนที่อยู่ตั้งไกล

    รู้ แต่ก็อดคิดไม่ได้’ แม้จะพิมพ์ตอบแต่หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะทำหน้าเง้างอนให้เขาเห็นที่ไม่ออกความคิดแล้วยังมาต่อว่าเธออีก

    บ้างานขนาดนั้นไม่มาหรอก’ ลุคเลยตอบไปพร้อมเงยหน้าทำสายตาดุๆการเตือนให้สติเธอกลับมาอยู่กับงานตรงหน้า

    ใจร้าย ไม่ให้กำลังใจกันเลย เบื่อๆๆๆ’ หญิงสาวทำหน้าหงิกเข้าไปใหญ่รู้สึกขัดใจที่เขากล่าวหาที่ชายที่รักยิ่งของตนเอง

    งั้นประชุมเสร็จไปว่ายน้ำกันนะ’ เมื่อเห็นเธอแสดงออกว่าไม่พอใจตนเองอย่างชัดเจนชายหนุ่มก็ต้องรีบร้อนเอาใจเธอทันที

    อือ ก็ดีกำลังเซ็งๆ’ ถึงแม้จะอารมณ์ไม่ดีในทันทีแต่อย่างน้อยก็ทำให้หล่อนเลิกชักสีหน้าพยายามหันมาสนใจกับการประชุมมากขึ้น

    กว่าจะประชุมเสร็จเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบหกโมงกว่า ทั้งสองก็แยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ลูคัสล่วงหน้ามาจากห้องพักมายังริมสระน้ำท่ามกลางแสดงแดดยามเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน สระว่ายน้ำขนาดใหญ่หันหน้าออกไปทางทะเลกว้างสามารถมองเห็นวิวของท้องทะเลได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะยามที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน

    ชายหนุ่มจัดแจงทำคอกเทลมาเอาใจหญิงสาวพร้อมด้วยอาหารว่างเล็กน้อยกับแกล้มให้เข้ากับบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติกถ้าไม่คิดว่าจะผิดปกติเกินไปกะว่าจะปิดบริเวณสระให้อยู่กันตามลำพังด้วยซ้ำเพราะคืนนี้เขาตั้งใจว่าจะทำให้มันคืนที่สำคัญคำที่สุดของเธอ ก่อนที่หัวใจดวงเล็กๆที่ฝังอยู่กับชายอื่นจะไม่กลับมาหาตน

    จะว่าไปการที่เธอแอบรักเคนมาตั้งแต่เด็กก็น่าเห็นใจอยู่ แต่เธอจะรู้หรือไม่ว่าขณะเดียวกันก็มีเด็กชายตัวเล็กๆคนนี้แอบหลงรักเธออยู่เพราะความอ่อนแอน่าปกป้องของเธอทำให้เขามองด้วยความห่วงหาอยู่ห่างๆทำให้เธอไม่รู้เลยว่าตนนั้นแอบรักมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×