คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [BangDae] BAP ร้านหนังสือสื่อรัก นิยายรักสื่อหัวใจ 1
B.A.P ร้านหนังสือสื่อรัก นิยายรักสื่อหัวใจ
ในเช้าของวันต่อมาแดฮยอนก็ไม่ผิดสัญญาที่จะมาทำงานแต่เช้า ในวันนี้แดฮยอนรู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษที่ได้ทำงานที่ตนรัก และจะได้มีความสุขกับสิ่งที่ตนใฝ่ฝันมานาน แดฮยอนเอาแต่มองร้านจากทางด้านนอกอยู่ตรงหน้าประตู และส่งยิ้มหวานให้กับร้าน ราวกับจะสื่อว่า ‘ฉันมาได้มาทำงานที่ฉันรักแล้วนะ ร้านหนังสือที่รักของฉัน’ โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่าด้านในนั้นได้มีใครบางคนมองตนอยู่จากทางด้านใน
และเมื่อแดฮยอนกำลังจะเดินเข้าร้านก็ต้องตกใจ ที่เห็นยกกุกที่ยืนเช็ดกระจกอยู่ด้านในมองตนอยู่ โดยที่ตนเองนั้นไม่รู้สึกตัวเลย งั้นก็แสดงว่ายงกุกก็เห็นสีหน้าเขาทุกอย่างตอนที่มองร้านนี้เลยน่ะสิ
เมื่อคิดได้ดัง เขาก็รู้สึกอายตัวเอง และยงกุกเป็นอย่างมาก จึงได้แต่เดินทำเป็นไม่รู้เรื่อง ก่อนที่จะทักทายยงกุกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“นี่ ทำมาเป็นทักอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นหน้าร้านเลยนะ คุณพนักงานคนใหม่”
ยกกุกเอ่ยทัก จนแดฮยอนหน้าแดงเพราะความเขิน ที่อุตส่าห์รักษาฟอร์มทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่ยงกุกกลับไม่ให้ความร่วมมือกับเขาเลยแม่แต่น้อย จึงทำให้แดฮยอนรู้สึกเขินอาย เพราะตนนั้นไม่รู้ตัวเองเลย ว่าในขณะที่ตนมองร้านอยู่ด้านนอกนั้น ยงกุกได้เห็นสีหน้าของตนแบบไหนบ้าง จะมีสีหน้าเอ๋อ หรืออะไรที่ทุเรศๆออกไปบ้างหรือเปล่า
“เงียบไปเลยคุณยงกุก ผมก็อายเป็นนะ ใครจะไปรู้ว่าคุณยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ”
“ขอโทษคร๊าบบ คุณแดฮยอน เดี๋ยวทีหลังถ้าคุณทำหน้าแปลกๆอีก ผมจะรีบบอกคุณนะครับ ว่าผมเห็นนะ ผมอยู่ตรงนี้นะ โอเคไหมครับ คุณแดฮยอน…”
ยงกุกทำเสียงล้อเลียนแดฮยอน ที่ยังคงรู้สึกอายอยู่ จนหน้าแดงเข้าไปใหญ่
“ไม่ต้องดีกว่า”
“แต่ตอนนี้คุณแดฮยอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมาช่วยผมทำงานดีกว่าไหมครับ?”
เพียงเท่านั้น แดฮยอนจึงเลิกเถียง แล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่ยงกุกบอกทันที ก่อนที่จะเดินออกมาพร้อมด้วยเสื้อที่ยงกุกจัดเตรียมไว้ให้ในห้องแต่งตัว เป็นเสื้อสีขาวดูสะอาดบริสุทธิ์พร้อมกับมีกระต่ายปักไว้ตรงอก ซึ่งน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของร้าน เพราะตรงป้ายชื่อร้านด้านนอกก็มีสัญลักษณ์กระต่ายตัวนี้อยู่คู่กับชื่อร้านด้วย ซึ่งชื่อร้านนี้ก็คือ ‘B.A.P’ แดฮยอนได้แต่ยืนยิ้มพอใจกับเสื้อตัวนี้มาก เขารู้สึกเหมือนว่าร้านนี้เป็นร้านที่สร้างมาเพื่อเขาก็ว่าได้
“นี่ ก่อนที่จะมายืนยิ้มพอใจนี่มาช่วยฉันจัดของก่อนดีกว่าไหม? ส่วนฉันจะได้เปิดร้านสักที โอเคไหมครับคุณแดฮยอน”
ยงกุกยังคงกัดอีกฝ่ายเล่นไม่หยุด จนอีกฝ่ายเริ่มคิดว่า ยงกุกนั้นไม่ได้ดูใจดีอย่างที่เขาคิดมากนัก แต่กลับมีแววกวนและจิกกัดเขามากพอสมควร เขาได้แต่คิดอย่างนั้นในใจ ก่อนที่จะเดินไปหยิบลังหนังสือแล้วมาเรียงตามชั้น ตามหมวดของมัน
แต่ลังมันก็ใหญ่เสียเหลือเกินจนเขายกแทบไม่ไหว แต่ก็ฝืนยกมันขึ้นมาจนได้ แต่มันก็หนักเกินกว่าที่แดฮยอนตัวเล็กๆจะรับน้ำหนักของมันไหว และในขณะที่ลังหนังสือนั้นกำลังจะล่วงลงสู่พื้นนั้น
“ระวัง!!”
ในขณะที่ลังหนังสือกำลังจะล่วงลงนั้น ยงกุกที่เพิ่งเปิดร้านเสร็จก็หันมาเจอทันที จึงวิ่งเข้าไปรับลังหนังสือนั่นจากมือแดฮยอนเสียเอง แต่เนื่องจากมุมที่เขามองเห็นนั้นเป็นทางด้านหลังของแดฮยอน เขาจึงเลือกที่จะวิ่งเข้ามาช่วยจากทางด้านหลัง เพราะถ้าวิ่งเข้าไปช่วยรับจากทางด้านหน้า คงไม่ทันแน่ จนตอนนี้ ร่างของทั้งคู่ ไม่ต่างอะไรกับการถูกอีกฝ่ายโอบกอดจากทางด้านหลัง โดยมียงกุกโอบร่างอันบอบบางของแดฮยอนอยู่ ส่วนมือของแดฮยอนและยงกุกก็จับอยู่ที่ลังหนังสือทั้งคู่
แดฮยอนตกใจเป็นอย่างมาก จึงเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่เข้ามาช่วยตน แต่เนื่องจากความใกล้ชิด ที่แทบเรียกว่าเนื้อแนบเนื้อก็ว่าได้ ถ้าหากไม่มีเสื้อผ้าเอาไว้ปิดกั้นไว้ จึงทำให้ริมฝีปากของแดฮยอนนั้นเฉียดแก้มของยงกุกไปเล็กน้อย แดฮยอนรู้สึกเขินอาย และรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่เข้ามาทำงานวันแรก ก็เกิดเรื่องเสียแล้ว จึงพยายามที่จะออกจากอ้อมแขนของยงกุก โดยที่ลืมไปแล้วว่ามีลังหนังสือกันอยู่ด้านหน้า เมื่อแดฮยอนพยายามจะเดินหนีออกมา จึงทำให้ชนกับลังหนังสือที่ยงกุกถือไว้ จนยงกุกเสียหลักล้มลงไปพร้อมกับลังหนังสือและแดฮยอนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา
และในขณะที่ร่างของทั้งคู่จะล่วงลงสู่พื้นไปกระทบกับลังหนังสือด้านล่างนั้น ยงกุกก็ตั้งสติได้พลิกร่างของแดฮยอนให้มาอยู่บนร่างของตนเองเสียเอง เพื่อไม่ให้ร่างของแดฮยอนเจ็บกับการล่วงลงมาโดนลังหนังสือด้านล่าง จนตอนนี้ร่างของแดฮยอนกลับกลายมาเป็นนอนทับร่างของยงกุกเสียเอง โดยมีใบหน้าของแดฮยอนแนบอยู่กับแผ่นอกแกร่งของยงกุก จนแดฮยอนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจยงกุก ที่เต้นแรงผิดปกติราวกับจะหลุดออกมาเสียให้ได้
กรุ๊ง กริ๊ง
อยู่ๆก็มีเสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นมา ซึ่งเป็นสัญญาณว่าได้มีคนเข้ามาในร้าน ซึ่งตอนนี้ร่างของทั้งคู่ก็ยังคงนอนอยู่กับพื้นกันทั้งคู่ โดยที่แดฮยอนยังคงนอนทับร่างของยงกุกอยู่ ชายที่เดินเข้ามาใหม่ตกใจเป็นอย่างมากที่เห็นทั้งคู่นอนทับกันอยู่ด้านล่างแถมเป็นด้านหน้าของร้านด้านในเสียด้วย เขาได้แต่ยืนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ จนแดฮยอนที่รู้สึกอายเข้าไปใหญ่ จนต้องรีบลุกออกจากร่างของยงกุก แล้วขอตัวไปจัดหนังสือด้านใน โดยก้มลงไสลังหนังสือเข้าไปด้านในแทน
“พี่ยงกุก! นั่นใครน่ะ ทำไมถึงลงไปนอนกับพี่แบบนั้นล่ะ อย่าบอกนะว่า…….”
เสียงชายที่เข้าใหม่ถามยกกุกด้วยความตกใจ พร้อมกับทำเสียงล้อเลียนใส่ยงกุก จนยงกุกต้องตบหัวลูกน้องของตัวเองด้วยความคิดทะลึ่งๆของลูกน้อง
“อย่ามาเดามั่วสิเว้ยไอ้ยองแจ นั่นก็แค่พนักงานใหม่ ที่เข้ามาสมัครพนักงานไปเมื่อวานหรอกเฟ้ย!”
“อ้าว! ไหนพี่บอกรับพนักงานไปก่อนแล้วใช่หรือไง แล้วรับมาทำไมอีกล่ะ?”
ยองแจเอ่ยถาม
“ก็นายไม่ใช่หรือไง ที่ไม่ยอมแกะป้ายรับสมัครพนักงานหน้าร้านออกน่ะ”
“อ้าว ถึงผมไม่แกะ แต่ถ้าพี่ไม่รับก็จบไม่ใช่หรือไง เอ๊ะ หรือว่า…..”
“หุบปากไปไอ้ยองแจ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปทำหน้าที่ของตัวเองซะ ไป!!”
ยงกุกก็รู้สึกเขินอยู่ไม่น้อย กับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ แถมยังมีลูกน้องมายืนจับผิดอีก เขาจึงจบปัญหาด้วยการไล่ลูกน้องของตนให้ไปทำงาน ก่อนที่ยองแจจะจับได้ ว่าเขารู้สึกยังไงกับแดฮยอน แต่ก็เหมือนจะสายเกินไปเสียแล้ว
“แน่ะ ยืนยิ้มอะไรอยู่ครับพี่ยงกุก”
“บอกให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ไป๊!!”
“เอ้อ เดี๋ยวๆ วันนี้นายไปทำแผนกเสิร์ฟน้ำนะ”
“ผมรู้นะพี่คิดอะไรอยู่น่ะ ผมจะบอกเค้า หุหุ”
“เดี๋ยวแกได้โดนหักเงินเดือนแน่ ไอ้ยองแจ!!!”
ยงกุกรู้สึกหัวเสียกับลูกน้องของตนเป็นอย่างมาก เขาได้แต่คิดแล้วคิดอีก ว่าจะเอายองแจอยู่ต่อดีไหม? เพราะยองแจนั้นชอบกวนบาทาเขาแทบทุกเวลาที่เจอหน้าหรือเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน จึงทำให้เขาคิดหนักเป็นอย่างมากกับการที่จะมียองแจอยู่ด้วยแบบนี้ แต่ผมก็ไม่สามารถทิ้งเขาไปได้เช่นกัน…
“คุณยงกุกครับ ผมเรียงหนังสือเสร็จแล้ว ให้ผมทำอะไรอีกไหมครับ?”
เสียงของแดฮยอนดังมาจากด้านใน จึงทำให้ยงกุกต้องหันไปมอง พร้อมเดินเข้าไปหาใกล้ๆเพื่อไปดูว่าแดฮยอนนั้นเรียงหนังสือถูกหรือเปล่า
“ผมเรียงถูกไหมครับ?”
“อืม ตรงนี้ยังผิดอยู่นะ หนังสือเล่มนี้ควรอยู่ตรงนี้มากกว่า”
ยงกุกไม่พูดเปล่าแต่เอื้อมมือผ่านร่างบางของแดฮยอนไปทางด้านหลังที่มีหนังสือที่แดฮยอนเรียงผิดอยู่ แต่เนื่องจากช่องระยะห่างของเขากับชั้นหนังสือนั้น มีแดฮยอนกั้นอยู่ตรงกลาง จึงทำให้ยงกุกต้องโน้มใบหน้าเพื่อที่จะดูว่าตนหยิบหนังสืออกมาถูกไหมด้วย จึงทำให้ใบหน้าของยงกุกตอนนี้นั้นอยู่ใกล้รำคอขาวของแดฮยอนเพียงแค่นิดเดียว จนแดฮยอนรู้สึกร้อนผ่าวเมื่อลมหายใจของยงกุกได้รดรินมาที่รำคอของเขา
“อะ เอ่อคุณยงกุก คะ คือผม..”
แดฮยอนไม่รู้จะพูดออกไปว่ายังไงดี จะบอก ผมรู้สึกเสียวนะ มันก็ยังไงอยู่ เขาจึงได้แต่อ้ำๆอึ้งๆไม่กล้าที่จะพูดไป จนอีกฝ่ายพูดขึ้นมาเสียเอง
“แดฮยอน นายจำพี่ไม่ได้จริงๆหรอ?”
“มะ หมายความว่าไงครับ”
แดฮยอนชักจะเริ่มไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งพูด ‘นายจำพี่ไม่ได้จริงๆหรอ?’ อย่าบอกนะ ว่าเขากับบังยงกุกคนนี้ เราเคยเจอกันมาก่อน!! แต่ด้วยความที่ระยะห่างของเขากับยงกุกนั้นใกล้กันเสียเหลือเกินจนลมหายใจนั้นรดใส่กัน แต่เพราะความสงสัยที่มีมากกว่าจึงทำให้เขาไม่ได้ผลักอีกฝ่ายออกไป
“ก็หมายความว่า..”
“ฮั่นแน่! พี่ยงกุกจะทำอะไรแดฮยอนน่ะ ผมรู้นะ!”
ทุกอย่างถึงกับจบลงเมื่อเสียงกวนประสาทที่ยงกุกได้ยินเมื่อไหร่เป็นต้องหัวเสีย ถึงแม้ภายนอกของยองแจนั้นจะเป็นคนที่ดูนิ่งๆ เรียบร้อย ไม่ค่อยพูด แต่ตรงกันข้ามจริงๆ
‘นายต้องมาขัดจังหวะทุกทีสิน่า ไอ้ยองแจ!!’
“มีอะไร!”
ยงกุกถามออกไปอย่างหัวเสีย ส่วนแดฮยอนนั่นเมื่อรู้สึกตัวได้ว่าอยู่ใกล้อีกฝ่ายมากเกินไป แดฮยอนจึงเดินออกห่างจากอีกฝ่ายด้วยความอาย พร้อมทั้งเดินหนีหลบซ่อนความอายไปที่หน้าร้านแทน
“แหมพี่ยงกุกอย่าใส่อารมณ์สิครับ”
“มีอะไรก็บอกมา อย่ามาลีลา” ยงกุกถามอย่างอารมณ์เสีย
“ก็แค่จะบอกว่าจงออบมาแล้วก็เท่านั้นแหล่ะครับ อิอิ ไปดีกว่า..”
พูดจบยองแจก็รีบวิ่งหนีไปทันที เพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อจากนั้น และก็เป็นอย่างที่เขาคิด พลังที่ถูกผนึกได้ถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว!!
“ไอ้ยองแจ!!!!! ตายซะเถอะ!!”
ความคิดเห็น