คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : EP 35 100%
35
“ทะ... ท่านครับ...” เดย์ทั้งอึ้งทั้งช็อคกับภาพที่เห็นถึงแม้ว่าจะมีฉากสวีตให้เห็นบ่อยแต่ก็ไม่เคยจะถึงขั้น...
“ชิ...” เสียงทุ้มสบถอย่างขัดใจหน่อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นมาจัดการกับเสื้อที่หลุดลุ่ยของตัวเอง แล้วดงตาคมก็เหลือบมองร่างบางที่ค้อนขวับๆ ใส่เขาอย่างเอาเป็นเอาตาย “มีอะไรงั้นรึ?”
“เออ...” เดย์อึกอักลืมที่จะพูดไปหมด
“พอดีว่าพวกเราไปเจอหนังสือเล่มนี้เข้าน่ะฮะ” แคทิสตอบแทนเดย์ที่อึ้งค้างไม่หาย “มันเขียนถึงเรื่องที่ยูนกำลังเป็นตอนนี้ด้วยอ่ะฮะ”
“ไหน!?” ร่างสูงรีบถลาเข้ามาหาแคทิสทันที ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าคล้ายแมวอย่างบีบคั้นทำเอาเดย์ต้องรีบดึงเอาคนรักตนไปหลบไว้ข้างหลัง
“มีที่ข้าครับ คุณชาย” เสียงทุ้มเอ่ยปกป้องทันที “อยู่หน้านี้ครับ”
มือหนารับไปอ่านอย่างไม่คิดจะสนใจคนที่หวาดกลัวท่าทางเมื่อครู่อย่างแคทิสที่หลบอยู่หลังเดย์เลยแม้แต่น้อย ยูนที่ยังไม่ทันได้โดนเพียสทำอะไรก็เดินมายืนข้างๆ แล้วเกาะแขนเพื่ออ่านด้วยทำให้มือหนาเปลี่ยนจากจับหนังสือมาโอบเอวบางให้เข้ามาใกล้ๆ แทน
“แม่เฒ่าแห่งกาลเวลางั้นเหรอ?” เสียงหวานพึมพำก่อนจะไล่อ่านใหม่อีกครั้ง
“นั่นแหละที่เป็นปัญหาใหญ่ล่ะ ไม่มีใครรู้ว่าแม่เฒ่าแห่งกาลเวลาอยู่ที่ไหนหรอกนะยูน” เสียงทุ้มบอกก่อนจะวางหนังสือไว้บนโต๊ะเหมือนจะบอกว่าเดี๋ยวจะอ่านใหม่ “ขอบใจเจ้ามากนะ เดย์... แคทิส”
“ครับ” เดย์ก้มหัวรับเบาๆ ก่อนจะดึงเอาคนรักออกมาจากห้องนั้นโดยด่วนก่อนจะโดนกดดันจนทนไม่ไหวเอาซะก่อน “ไม่เป็นไรนะ?”
“อือ” แคทิสรับเบาๆ ก่อนจะซุกหน้ากับอกของร่างสูงแน่น ดวงตาคมเหมือนแมวมีรอยเปื้อนคราบน้ำตาจางๆ
“นี่เพียส ทำไมไปทำหน้าแบบนั้นใส่แคทิสล่ะ” เสียงหวานว่าอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ทำให้ร่างสูงหันมามองพร้อมกับเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“ทำไมล่ะ? เจ้านั่นไม่ใช่เจ้านี่ที่ข้าจะต้องไปใจดีด้วยน่ะ” ร่างสูงยักไหล่อย่างไม่แคร์ก่อนจะเอ่ยเสริมต่ออีกนิด “แล้วเจ้านั่นก็ทำท่ากลัวมากเกินไปเท่านั้นเอง”
“แต่ว่า...” ใบหน้าหวานฉายแววกังวลทำให้ร่างสูงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะประคองใบหน้าหวานสบตาตัวเอง
“เจ้าน่ะ... มองแค่ข้าก็พอแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยราวกับจะสะกดใจของคนฟังแต่ว่าคงจะใช้ไม่ได้สำหรับยูน มือบางทุบหน้าอกแกร่งเบาๆ ก่อนเสียงหวานจะกระแทกออกมา
“แต่ว่าแคทิสเป็นเพื่อนของฉันนี่!”
สรรพนามแทนตัวเองของร่างบางทำให้เพียสต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ ก่อนจะส่งยิ้มไปให้ร่างบางที่ยืนจ้องราวกับรอฟังคำตอบ
“ก็ได้ๆ แค่บางทีนะ”
...ยังจะต่ออีก
ใบหน้าหวานส่ายไปมาเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปทำเอาใบหน้าหล่อเหลาเหวอกิน เพียสรีบเดินตามปรากฏว่าพอพ้นประตูห้องไปร่างบางก็รีบวิ่งตรงไปยังห้องครัวทันที
“เดย์~ ฉันอยากกินเค้ก~” เสียงหวานร้องลั่นทำเอาใบหน้าหล่อเหลาต้องส่ายหน้าเบาๆ เพราะงี้นี่เองถึงได้รีบไป คงรู้ว่าเขาต้องดุแน่ถ้าเกิดบอกอยากกินเค้กอีก
...ก็วันนี้ยูนกินไปแล้วตั้ง 13 จาน!!!
ใบหน้าหวานมองเมนูเค้กที่เดย์เอามาให้เลือกเต็มที่อย่างเลือกไม่ถูก เดย์บอกว่าวันนี้จะให้อีกแค่จานเดียวเท่านั้น แต่ว่า... ยังอยากกินอีกนี่นา!!
ริมฝีปากบางเม้มเข้าอย่างตัดสินใจไม่ถูก แบบนู้นก็น่ากิน แบบนี้ก็น่าอร่อย ถูกใจร่างบางไปหมด แคทิสหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข เพราะดูเหมือนว่าสิ่งที่ร่างบางจะไม่เคยเปลี่ยนไปเลยก็เป็นอาการชอบเค้กแบบที่อดใจไม่อยู่นี่แหละ ความจริงแล้วเดย์โดนเพียสสั่งไว้แล้วว่าให้วันหนึ่งร่างบางกินเค้กไม่เกินสิบจาน แต่ว่านี่แคทิสขอเป็นกรณีพิเศษ เพราะว่าท่าทางมีความสุขแบบนั้นอยากให้อยู่กับร่างบางที่เคยอารมณ์ดีอยู่เป็นนิจนานๆ
“งั้นเอาแบบนี้ก็ได้!” ร่างบางตัดสินใจเลือกเป็นเค้กช็อกโกแล็ตที่รู้สึกอยากกินพอดี
“ครับผม จานสุดท้ายแล้วนะครับ” เดย์ย้ำเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ทำเอาใบหน้าหวายยู่ลงอย่างขัดใจ “ถ้ามากกว่านี้คนที่จะโดนจะเป็นข้านะครับ”
“...ง่ะ ก็ได้” เสียงหวานอู้อี้ตอบกลับอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนักทำให้เดย์ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ
“เล่นกับแคทิสฆ่าเวลาไปก่อนนะครับ เดี๋ยวข้าขอทำแป๊บหนึ่ง”
“อือ!” เสียงหวานรับคำก่อนจะหันมาหาแคทิส ดวงตาใสเหมือนตัดสินใจอะไรสักอย่างได้แล้วก่อนจะกระซิบกับแคทิสเบาๆ เป็นการขอร้องแกมบังคับนิดๆ เพื่อให้อีกฝ่ายยอมโดยดี
“ก็ได้... แต่จะไม่เป็นไรแน่เหรอ?” แคทิสถาม ทำให้ร่างบางพยักหน้าหงึกหงัก
“ป่ะ... ไปกันเถอะ”
แอ๊ด~
ประตูห้องครัวเปิดออกทำให้เดย์หันขวับมามองก็พบว่าเจ้านายของตนเองยื่นหน้าเข้ามาในห้องครัวอย่างสงสัย
“เดย์ ยูนกินเสร็จรึยังน่ะ?” เสียงทุ้มถามทำให้ร่างโปร่งอดยิ้มนิดๆ ไม่ได้
“ยังเลยครับ ข้ายังทำไม่เสร็จน่ะครับ” เดย์ตอบก่อนจะพยักหน้าแทนมือที่ไม่ว่างให้ร่างสูงรู้ “คงอยู่กับแคทิสในห้องนั้นน่ะครับ เพราะว่าข้าให้อยู่คุยกันรอระหว่างทำครับ”
“อืม” ร่างสูงรับคำในลำคอเบาๆ ก่อนจะเดินไปทางห้องที่คนตรงหน้าบอก
เดย์ทำเค้กต่ออย่างตั้งใจ นึกดีใจนิดๆ ที่ว่าวันนี้คงจะไม่ต้องทำเค้กอีก เพราะมันเหนื่อยเหลือเกินเวลาทำเค้กเนี่ย วิธีทำมันยาว
“เฮ้ย!” เสียงของเจ้านายที่รักและเคารพร้องลั่นห้องข้างๆ ทำเอาเดย์ตกใจ “เดย์! ยูนไม่อยู่ในห้องสักหน่อยนี่!”
“เอ๋? ว่าไงนะครับ!?” เดย์สะดุ้งเฮือกก่อนจะวางเค้กที่เสร็จเรียบร้อยแล้วไว้ในตู้เย็นแล้วถลาพรวดเข้าไปในห้องนั้น “หายไปไหนเนี้ย!?”
“ทหาร!” อยู่ดีๆ ร่างสูงก็ตะโกนขึ้นดังลั่นเล่นเอาทหารที่เดินผ่านมาสะดุ้งพรวด “ออกตามหายูนเดี๋ยวนี้เลย~!!!”
แล้ววันนั้นวันทั้งวันก็วุ่นวายไปด้วยเหล่าทหารที่เร่งตามหาเพราะเกรงว่าร่างบอบบางแต่ซุกซนนั้นจะไปติดกับดักอะไรเข้าจนทำให้คุณชายอาละวาทหนักอย่างคราวที่แล้ว
ตกดึกก็ไม่มีท่าทีว่าจะหาร่างบอบบางนั้นพบรวมถึงแมวของเดย์ด้วย แล้วก็มีเนะอีกตนหนึ่งที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ร่างสูงเดินไปมาในห้องนอนกลัวว่าถ้าออกไปตามหาแล้วถ้าร่างบางกลับมาจะเป็นยังไง พยายามใช้จิตตามหาดูก็แล้วยังไงก็หาไม่เจอ
“ท่านครับ! เจอแล้วครับ! เจอทั้งสามตนเลยครับ!” ทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงานด้วยเหงื่อที่ท่วมตัว
“อยู่ที่ไหน!?” ร่างสูงแทบจะถลาเข้าไปเขย่าตัวอีกฝ่ายเพื่อให้บอกออกมาเร็วๆ
“ตอนนี้อยู่ที่ห้องผู้ป่วยครับ”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?” เพียสถามด้วยน้ำเสียงที่กดลงจนต่ำอย่างแข็งกร้าว เล่นเอาแวมไพร์ที่หาร่างบางทั้งสามเจอต้องตัวสั่น
“มะ... ไม่ทราบครับ คือ... พวกเราไปเจอตอนที่สลบอยู่แล้วที่ตรงสวนหลังปราสาทน่ะครับ” ทหารรายงานเสียงสั่นจนแทบจะร้องไห้กับน้ำเสียงที่ยิ่งกว่าโทรศัพท์ไม่มีคลื่น
“งั้นรึ...”
“พวกเจ้าออกไปกันได้แล้ว” เดย์ที่เห็นนายตัวเองจมอยู่ในความคิดก็ไล่ทหารที่แทบจะกราบขอบคุณเขาด้วยความยินดี ก่อนที่จะเร่งฝีเท้าเดินออกจากห้องไปอย่างไม่มีลังเล
“เดย์ เมื่อกี้ข้าลองใช้จิตค้นหาแล้วนะ แต่ว่าในเมืองนี้ หรือว่าปราสาทนี้ข้ากลับไม่พบจิตของยูนเลยแม้แต่น้อย มันเป็นไปได้ยังไงกัน” เพียสพึมพำจะว่าถามก็ไม่ใช่จะว่าพูดกับตัวเองก็ไม่ใช่
“ถ้าหากว่ายูนสลบไปแล้วท่านจะสามารถหาจิตพบงั้นเหรอครับ?” เดย์ถามกลับ
“เจอสิ ถึงจะเป็นตอนสลบก็เถอะ นี่มันอย่างกับว่ามีคนลบจิตของยูนออกไปอย่างนั้นแหละ”
“ใครจะกล้าล่ะครับ?”
“ต้องเป็นใครสักคนนั่นแหละ” เพียสพูดก่อนจะลูบใบหน้าหวานอย่างคิดถึงเพียงแค่ไม่เห็นหน้าไม่กี่ชั่วโมงเขาก็รู้สึกราวกับจะตายเสียให้ได้... นี่เขาอ่อนแอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“อือ...” เสียงหวานครางอือก่อนที่ดวงตาใสจะลืมขึ้นช้าๆ แคทิสสะดุ้งเฮือกมองไปรอบๆ อย่างตกใจก่อนที่ใบหน้าที่นึกถึงก็ปรากฎตรงหน้าให้ร่างบางโผเข้าหาแล้วกอดแน่น
“แคทิส... แคทิส...” เดย์ปลอบเสียงนุ่มก่อนจะกระซิบเสียงเบาๆ “ตั้งสติไว้ก่อนนะ ค่อยๆ เล่าสิว่าเกิดอะไรขึ้น หืม?”
“มัน... น่ากลัว...” ใบหน้าหวานเปื้อนหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ลำตัวบอบบางสั่นระริกอย่างหวาดกลัว ริมฝีปากสั่นระริกทำให้เดย์โอบอีกฝ่ายไว้อย่างสงสารจับหัวใจ ดวงตาของเดย์จับจ้องไปยังใบหน้าของคุณชายที่มองด้วยสายตาเย็นชาเมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แล้วเดย์ก็ต้องถอนหายใจเมื่ออีกฝ่ายไม่ซักถามอะไรเพิ่มอีก ไม่งั้น...
“ขอโทษนะ...” มีเนะที่ตื่นได้สักพักแล้วพูดขึ้นเบาๆ “เดี๋ยว... ข้าจะเป็นคนเล่าเอง...”
แม้เจ้าตัวจะแสดงว่าตัวเองกล้าหาญแค่ไหนแต่เดย์ก็ยังพบว่าหญิงสาวที่บอกว่าจะเล่านั้นตัวสั่นอย่างคนพยายามสะกดกลั้นความหวาดกลัวไว้สุดชีวิต
สายตาเย็นชาของเพียสตวัดมามองแล้วเมินผ่านไปอย่างไม่อยากจะสนใจ แต่ว่าหูของร่างสูงก็ยังคงฟังเพื่อที่จะหาทางช่วยให้ร่างบางฟื้นสักที ทั้งที่อีกสองคนก็ฟื้นแล้ว
“ยูน... ไม่ฟื้นหรอกค่ะ” มีเนะเอ่ยบอกอีกฝ่ายที่เอาแต่จับจ้องใบหน้าหวาน “ไม่ฟื้นแน่นอน”
“..........” ดวงตาคมตวัดมามองอย่างหาเรื่อง
“จริงๆ ค่ะ” มีเนะสั่นหนักขึ้นไปอีก ดวงตาสวยพยายามเลี่ยงที่จะไม่สบตากับอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ด้วยความหวาดกลัว “ฉันกับแคทิสแค่โดนเวทย์ที่ทำให้สลบ แต่ว่า... ยูนน่ะ... ยูนน่ะ...”
คราวนี้เพียสหันมาจับจ้องอีกฝ่ายแทน แต่ว่ามือหนายังคงกุมมือบอบบางของยูนแน่น ริมฝีปากพาลเม้มลงอย่างหวาดกลัวว่ายูนจะเป็นอะไรที่มากกว่าลืมเขาเสียแล้ว
“จากคนๆ นั้น... หญิงชราที่มีดวงตาสีแดงราวกับเพลิงที่คอยเผาผลาญสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้มอดไหม้ มือที่ถือไม้เท้ารูปหัวกะโหลก และ... เสียงที่แหบราวกับคนใกล้ตายนั่น...”
“นั่นล่ะ แม่เฒ่าแห่งกาลเวลาล่ะ”
เม้นจ๋า~ เม้น~
ความคิดเห็น