คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : EP 12 100%
12
“นี่เจ้าเป็นใครกันฮะ!!!”
ประโยคนั่น... ทำให้ชิพที่ยืนอยู่หน้าประตูต้องกุมหัวด้วยความเจ็บจากที่อีกฝ่ายกระชากผมของเขาทันที
“โอ๊ย! จะ... เจ็บนะครับ” ร่างบางครางเสียงอ่อยก่อนจะพยายามแกะมือของหญิงสาวออก
“เฮ้ย! ทีน่า ปล่อยชิพเลยๆ อย่าไปจิกหัวเขาแบบนั่นเซ่!” โมสาร์ทเข้ามาดึงตัวชิพไว้ให้ไปหลบอยู่ด้านหลังของเขา “นี่เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่เนี้ย?!”
“เจ้านี่เป็นนักโทษนะ! พวกเราต้องการแค่เลือดของมันเท่านั้น! ทำไมต้องให้มันมาอยู่ที่ห้องด้วยฮะ! พามันกลับคุกไปเลยนะ!” หญิงสาวร้องกรี๊ดๆๆๆ ก่อนทำท่าจะเข้ามากระชากตัวชิพอีกครั้ง
“หยุดเลย! ทีน่า! ข้าจะเอาชิพไว้ที่ไหนมันก็เรื่องของข้าน่า! เจ้านั่นแหละ! มาทำอะไรที่นี่!” โมสาร์ทถามเสียงขุ่น
“ทำอะไรงั้นเรอะ! เจ้าถามว่าทำอะไรงั้นเรอะ! ข้าเป็นคู่หมั้นเจ้านะ! เจ้าต้องการอะไรข้าก็จะหามาให้! เจ้าต้องการหาตัวน้องชายตัวเองข้าก็ทำให้! แล้วเจ้ากลับมาถามแบบนี้งั้นเรอะ!” หญิงสาวพูดเสียงดังลั่นก่อนที่จะระเบิดน้ำตาร้องไห้โฮออกมา
“ก็เจ้าเป็นซะอย่างเนี้ย! คิดมากไม่เข้าเรื่อง! ข้าพาชิพมาเพื่อที่จะคุยกันเฉยๆ! ไม่ได้คิดจะทำอะไรสักหน่อย” โมสาร์ทพูดแล้วถอนหายใจออกมายาวเหยียด “เจ้าก็อยู่คุยด้วยกันก็ได้นี่ คุยกับชิพแล้วรู้สึกโล่งดีนะ”
“ไม่เอาด้วยหรอก! เป็นเทพแท้ๆ แต่กลับโดนสาป! น่ารังเกียจจะตาย!!” หญิงสาวพูดแล้วลูบแขนตัวเองขึ้นลงเหมือนไม่อยากจะจับต้อง
ใบหน้าหวานของชิพหมองลงอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่หยาดน้ำตาใสจะค่อยๆ ไหลลงอาบแก้มนวล ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นเพื่อกลั้นสะอื้น มือบางพยายามปาดน้ำตาใสทิ้งแต่ไม่ได้ผลเพราะยิ่งปาดทิ้งก็ยิ่งไหลออกมาเรื่อยๆ ขาเล็กสั่นระริกก่อนจะทรุดลงบนพื้นอย่างหมดแรง ก่อนจะปล่อยโฮออกมาเพราะสุดกลั้น
เขาอีกแล้ว... เขาโดนรักเกียจอีกแล้ว... เป็นลูกครึ่งที่น่ารักเกียจยังไม่พอ... ตอนเป็นสัตว์ปีศาจแบบนี้ก็ยังโดนรังเกียจอีก... เขาทุกทีเลย... ทุกครั้ง... เขามัน... เขามันน่ารังเกียจนักเหรอ... เขาที่เลือกเกิดไม่ได้... คนอย่างเขา... คนอย่างเขา...
“ฮือ... ไลน์ครับ... ฟอกซ์ครับ...” ชิพเรียกทั้งสองเขาอย่างแผ่วเบาจนอีกสองคนในห้องที่กำลังโต้เถียงกันอย่างรุนแรงไม่ทันได้ยิน เป็นเสียงที่แผ่วเบาจนแทบจะหายไปกับสายลม แต่กลับสะท้อนความเจ็บปวดออกมาได้มากมายอย่างคาดไม่ถึง
“ชิพ! / ชิพ!”
ทั้งร่างสูงและร่างโปร่งสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะเหมือนจะฝันเห็นภาพของร่างบอบบางที่พวกเขาห่วงนักห่วงหนากำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วเอาหลังพิงต้นไม้ด้วยความเหนื่อยอ่อนที่เดินทางมาทั้งวัน
“เฮ้อ~ อยากจะบ้าตาย ป่านี่มันจะลึกไปถึงไหนกันแน่นะ” ฟอกซ์ขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิดก่อนจะล้มตัวลงนอนกับพื้นอีกครั้ง
“นั่นสินะ แต่... เหมือนเห็นชิพร้องไห้เลยแฮะ” ประโยคสุดท้ายไลน์พูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะมองไปตามทางที่คิดว่าน่าจะไปถึงปราสาท
“เอ๊ะ เจ้าก็เห็นเหรอ?” ฟอกซ์หันขวับมามองทันที ไลน์ที่กำลังนั่งอยู่หันหลังไปมองฟอกซ์ที่นอนแผ่สามสลึงอย่างตกใจ
“อย่าบอกนะ ว่าเจ้าก็เห็น” ไลน์ขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะพูดอีกครั้งด้วยความรู้สึกไม่ดีที่เป็นไปตามลางสังหรณ์ “ข้า... ชักเป็นห่วงหนักขึ้นอีกแล้วสิ”
“โอ๊ยๆๆๆๆ ไม่เอาแล้ววววว ไม่รอแล้ว! ไปมันคืนนี้เลยแล้วกัน!!” ฟอกซ์ตะโกนเสียงดังแล้วกระโดดขึ้นยืนทั้งๆ ที่นอนอยู่
“เจ้าคิดว่าถ้าไปคืนนี้ เกิดชิพเป็นอันตราย แล้วเจ้าจะทำยังไง เจ้ายังเพลียขนาดนั้นอยู่เลย” ไลน์เตือนสติก่อนที่อีกฝ่ายจะทำอะไรวู่วามลงไป
“ก็ข้าเป็นห่วงนี่หว่า!!” ฟอกซ์พูดก่อนจะกระแทกตัวนั่งข้างๆ ไลน์
“ข้าก็เป็นห่วงไม่แพ้เจ้าแหละน่า! แต่ถ้าไปตอนนี้อาจกลายเป็นเป็นชิพต้องตายก็ได้นะ”
“เออ! ก็ได้วะ พรุ่งนี้ก็พรุ่งนี้!”
ร่างบอบบางของคนที่เป็นต้นเหตุให้สองคนที่นอนอยู่ในป่าสะดุ้งตื่นกลับนอนหลับไปพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ยังคงเปื้อนแก้มกับความอ่อนเพลียทั้งร่างกายและจิตใจ
“เจ้าพูดเกินไปแล้วนะ ชิพเองน่ะ ต้องมีเหตุผลที่ตัวเองโดนสาปแน่ๆ อยู่แล้ว อีกอย่างตอนที่ข้าพูดกับชิพน่ะ ข้ารู้สึกได้นะว่าไม่ใช่คนเลวร้าย ออกแนวใสซื่อบริสุทธิ์เกินเหตุซะด้วยซ้ำ”
“ข้าขอโทษ ก็ข้าไม่รู้นี่ว่า... เจ้านี่จะอ่อนไหวขนาดนั้นน่ะ” หญิงสาวพูดเสียงอ่อยก่อนจะเริ่มเช็ดตัวให้ร่างบอบบางได้สบายตัวขึ้น “ข้าแค่เจ็บใจที่เจ้าอยู่กับเจ้านี่เท่านั้นเอง”
“นี่แค่เจ็บใจนะ ยังด่ากราดไม่เลือกหน้าแบบนี้ ถ้าโกรธจริงๆ ข้าไม่ตายเลยรึยังไง” โมสาร์ทประชดใส่คนรักตัวเอง
“อย่าซ้ำเติมให้มากนักจะได้มั้ย!? โอเคๆ ข้าผิดๆ” หญิงสาวเปลี่ยนคำพูดเมื่อคนรักของตัวเองเริ่มจิกสายตา “เอาเป็นว่าเดี๋ยวข้าจะเปลี่ยนแผนการสำหรับพรุ่งนี้ให้ล่ะกัน ชิพจะได้ไม่ต้องตาย แค่เสียเลือดนิดหน่อย เจ้าก็จะได้เบาะแสของน้อชาย โอเคมั้ยล่ะ?”
“โอเค”
แสงแดดสาดส่องมากระทบเปลือกตาของชิพทำให้ต้องลืมตาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อแขนขาของตัวเองโดนโซ่ล่ามไว้กับต้นไม้ใหญ่
“นะ... นี่มันอะไรกันครับ?” ชิพร้องถามโมสาร์ทและทีน่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าใกล้ๆ กับบ่อน้ำทรงกลมแต่มีลวดลายแปลกตาเต็มไปหมด
ทีน่าปรายตามองด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะหันกลับไปราวกับคนข้างหลังเป็นเพียงเศษสวะที่ไม่ควรค่าแก่การสนใจ ส่วนโมสาร์ทนั้นอย่าว่าแต่จะสนใจเลยเพียงแค่มองเขายังไม่ทำเหมือนกับว่าชิพไม่ได้มีตัวตนอยู่ในที่ตรงนั้น
“โมสาร์ทครับ! คุณทีน่า!” ร่างบอบบางพยายามตะโกนเรียกแต่ทั้งสองคนกลับไม่สนใจอีกเลย
ทหารที่ยืนอยู่ล้อมรอบทั้งสามคนไม่มีใครสนใจชิพที่พยายามถามเลยสักนิด ทุกคนมุ่งความสนใจที่สิ่งที่ทีน่ากำลังจะทำเท่านั้น
“กรีดเลือด!” ทีน่าพูดขึ้นก่อนจะคว้ามีดที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ใกล้ไม่ไกลบ่อน้ำแล้วก้าวฉับๆๆ มาที่ชิพที่กำลังยืนอยู่อย่างหวาดกลัว
“กะ... กรีดเลือดอะไรครับ?” ใบหน้าหวานสีเผือดก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อแขนตัวเองถูกกระชากไปอยู่ในมือของทีน่าเรียบร้อยแล้ว
“หยุดนะ!!” เสียงร้องจากทางป่าดังขึ้น ทำให้ทีน่าชะงัก ทุกคน หรือ ตน หันไปมองที่ต้นเสียงทันที
ร่างของสัตว์ปีศาจสองร่างที่แสนคุ้นเคยทำให้ชิพถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ แม้ใบหน้าของทั้งสองจะถูกปิดไว้ด้วยหน้ากากก็ตามที
“มาช่วยเจ้านี่งั้นรึ?!” เสียงโมสาร์ทพูดขึ้นอย่างเหยียดหยามก่อนจะแสร้งปรบมือแบบประชดประชันเต็มที่ “ฉลาดดีนี่ ป่านี้น่ะเป็นป่าที่เต็มไปด้วยพวกภูติที่ชอบหลอกให้สัตว์ปีศาจที่หน้าตาค่อนข้างดีหลงเชื่อแล้วจะลากไปฆ่าทิ้ง แต่วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือใช้หน้ากากปิดเอาไว้ไม่ให้พวกภูติเห็นใบหน้าใช่มั้ยล่ะ?”
“ปล่อยชิพซะ!” ฟอกซ์ตะโกนลั่นก่อนจะทำท่าจะเข้ามาช่วย แต่ไลน์รั้งไว้
“อย่าใจร้อน เดี๋ยวมันจะทำอะไรชิพ” เสียงไลน์เย็นเยียบอย่างน่ากลัว ปกติแล้วไลน์จะใช้น้ำเสียงเรียบๆ ง่ายๆ มากกว่าจะใช้น้ำเสียงที่ชวนเสียวสันหลังแบบนี้
“ทหาร! จับมันสองตนไว้!” โมสาร์ทตะโกนขึ้นก่อนจะสั่งการอีกครั้ง “พิธีการนี้ต้องไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาเห็น! ฆ่ามันซะ!”
ฉึก!
ดาบปลายแหลมสองอันทะลุท้องของคนรักของชิพทั้งสอง ใบหน้าหวานซีดเผือดเมื่อฟอกซ์กระอักเลือดออกมาลิ่มใหญ่ ชิพเริ่มมองไม่เห็น ดวงตาพร่าไปหมด หยาดน้ำตาใสบดบังภาพทั้งหมด ยกเว้นแต่ภาพที่ทั้งสองถูกแทงที่ยังติดตาไม่ยอมหายไปไหน
ตุ้บ~
ร่างของไลน์และฟอกซ์ล้มลง เลือดของทั้งสองทะลักออกจากบาดแผลที่ท้องมากมายจนนองไปทั่วทั้งพื้นรอบๆ นั้น
ชิพถึงกับทรุดลงกับพื้นใบหน้าหวานอาบไปด้วยน้ำตาใสที่ทะลักออกมาไม่มีหยุดหย่อน ไม่แรงแม้แต่จะพูดอะไรออกมา
โมสาร์ทที่แอบเหลียวมามองร่างบางเล็กน้อยก็พอจะรู้ว่าสองคนนั้นคงจะเป็นคนรักของชิพ แต่ช่วยไม่ได้ พิธีนี้ต้องไม่มีคนนอกเข้ามายุ่งเกี่ยว!
“ฮึก! ไม่นะ... อีกแล้วเหรอ... สูญเสียอีกแล้วเหรอ...” ชิพพึมพำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเสียใจ
“ทีน่า! ทำพิธีต่อ!” โมสาร์ทสั่งเสียงเฉียบขาด
หญิงสาวแอบถอนหายใจน้อยๆ ที่ต้องทำกับร่างบอบบางแบบนี้ แต่พิธีการก็คือพิธีการ ต้องทำตามสิ่งที่กำหนดไว้ ทีน่าคว้าข้อมือร่างบางไว้ในมือ
ชิพไม่ได้ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย เพราะแค่แรงที่จะหายใจยังแทบจะเหือดหายไปหมดแล้ว
“เริ่มพิธีการ!” ทีน่าตะโกนเสียงแข็งก่อนจะค่อยๆ กรีดข้อมือชิพเบาๆ ทำให้เลือดทะลักออกมามากมาย
มือของทีน่าหยิบเอาถ้วยมารองเลือดของชิพไว้ให้เต็มก่อนจะค่อยๆ โรยผงภูติบนรอยที่ถูกกรีด แล้วแผลก็กลับมาสมานอย่างเดิมเหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น
ทีน่าเดินมาที่บ่อน้ำเงียบๆ แล้วจึงค่อยๆ เทเลือดของชิพลงในน้ำที่บ่อ ก่อนที่ริมฝีปากสวยของทีน่าจะร่ายคำอวยพรและขอพรให้โมสาร์ทสามารถหาน้องชายเจอ และให้เทพเจ้าช่วย
ภาพป่าที่แสนเลือนรางปรากฏขึ้นจางๆ ในเงาน้ำ โมสาร์ทมองแล้วก็ต้องเอะใจเพราะรูปร่างที่แสนเลือนรางนั้นราวกับป่าของเขา
“ม่ายยยยยย~!!!” อยู่ๆ ชิพก็ร้องขึ้นก่อนที่โซ่จะแตกเปรี๊ยะขาดสะบั้น ทำให้ชิพถลาเข้าไปหาร่างที่ดูราวกับไร้วิญญาณของฟอกซ์และไลน์
“เฮ้ย! โซ่ขาด แย่ละสิ ทหาร ช่วยกันจับชิพเอาไว้” โมสาร์ทละความสนใจก่อน
ทีน่าเองก็แอบหงุดหงิดนิดๆ เพราะสิ่งที่ทำให้ภาพชัดหรือไม่ชัดคืออารมณ์ของเจ้าของเลือด แต่ว่าเพราะชิพกำลังเศร้าถึงขีดสุด และพวกเขาต้องทำตามพิธีการด้วย จึงเลี่ยงไม่ได้
“อย่าตายนะครับ!! อย่าตายนะครับ!!” ชิพกุมมือของทั้งสองแน่นราวกับจะเสียทั้งสองคนไปอย่างไม่มีวันได้กลับคืนมา “ฟอกซ์!! ไลน์!!”
“เฮ้ย!!!”
ความคิดเห็น