คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : [ตอนที่15] :: ทวงคำสัญญาที่เคยให้ไว้ กลับมาเถอะ นามิ!!
ตอนที่15
ทวงคำสัญญาที่เคยให้ไว้ กลับมาเถอะ นามิ!!
“ฉันจะไม่เจอหน้านายอีก... จากกันตรงนี้แหละ... ลูฟี่” ฉันพูดพร้อมเตรียมหันหลังเดินหนี แต่กลับโดนลูฟี่ดึงที่ต้นไหล่เอาไว้ก่อน
“นามิ เธอไปไม่ได้นะ!” ลูฟี่หมุนตัวฉันให้มองหน้าเขาตรงๆ ฉันเลิกคิ้วขึ้นสูงกับคำพูดของลูฟี่
“ทำไมฉันจะไปไม่ได้...” ฉัน
“เพราะเธอเป็นพวกพ้องของฉันไงล่ะ!” ลูฟี่
“พวกพ้อง?... ฉันไม่ได้เป็นพวกพ้องของนายแล้วลูฟี่ พอซะที!” ฉันตะโกนใส่หน้าของลูฟี่ ลูฟี่นิ่งไป ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นอารมณ์โกรธ เขาเขย่าตัวฉันแรงๆ จนฉันเริ่มกลัว
“นามิ เธอจะมาพูดง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง! แล้วต้นหนเรือของเราล่ะ เราจะไม่มีต้นหนเรือ และเธอเป็นคนเดียวที่ทำหน้าที่นี้ได้นะ!!” ลูฟี่
ฉันนิ่งไป... หน้าที่ของฉันมีแค่อุดหน้าที่ของเรือให้ครบเท่านั้นเองงั้นหรอ... ถ้าขาดฉันไปก็จะขาดต้นหน เขาคิดได้แค่นี้จริงๆ อย่างนั้นหรอ!!
“ต้นหนน่ะ หาจากที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นฉันหนิ!!” ฉัน
“มันต้องเป็นเธอเท่านั้นนามิ เธอห้ามออกจากกลุ่มเด็ดขาด ถ้าฉันไม่อนุญาต!!” ลูฟี่พูดพร้อมบีบที่ต้นไหล่ของฉันแรงขึ้น จนเริ่มเจ็บ ฉันพยายามจะดึงมือของเขาออก แต่เขาก็บีบมันแน่นขึ้น
พลัก!!
“นายทำอะไรของนายน่ะ!!” ลูฟี่หันไปพูดกับราชันย์ที่ผลักลูฟี่ออกจากตัวฉัน แล้วเอาตัวบังฉันไว้
“นายจะทำร้ายผู้หญิงคนนี้ไปอีกนานแค่ไหน” ราชันย์พูดเสียงเรียบ ฉันนิ่งไปก่อนจะเอามือลูบที่ต้นไม้ที่เริ่มแดง เพราะแรงบีบ
“ทำร้าย...” ลูฟี่นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ามองมาทางฉัน เขาดูตกใจมากกับสภาพที่แดงเป็นจ้ำๆ ที่แขนของฉัน
“นามิ เธอไปรอที่เรือฉันก่อนแล้วกัน” ราชันย์หันมาพูดกับฉัน ฉันนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ แล้วหันหลังวิ่งออกมา
“เดี๋ยวก่อน นามิ! นามิ!!” เสียงของลูฟี่ดังขึ้นมาจากข้างหลังของฉัน
“นายต้องคุยกับฉัน ฉันไม่มีทางปล่อยให้นายไปหานามิทั้งๆ ที่สติของนายเป็นแบบนี้หรอก!” เสียงของราชันย์ดังตามมา
นี่ฉันคิดถูกแล้วใช่มั้ย ที่วิ่งออกมาแบบนี้... มันคงดีที่สุดแล้ว...
[บันทึกพิเศษ ; ซันจิ]
หลังจากที่ลูฟี่วิ่งตามคุณนามิไป และราชันย์ก็ตามไปด้วย ก็เหลือแต่พวกเราที่ยังยืนอึ้งกันไม่หาย
“จะยืนเอ๋อกันอีกนานมั้ย” เจ้าหัวสาหร่ายพูดขึ้นขัดอารมณ์ แต่มันก็ทำให้เราเริ่มมีสติเลย
“อะ... เออ นั่นสิ เด็กนั้นน่ะ... ทำไมเป็นเด็ก ไม่ใช่ชายตัวเล็กอย่างที่เคยได้ยินมาเลยนะ O_O” อุซปพูดพร้อมมองไปที่เด็กทารกที่นอนอยู่ที่ใบโคลเวอร์
“แล้วเรื่องทองคำ...” ช๊อปเปอร์
“แล้วเรื่องทองคำจะเอายังไงล่ะ” เสียงของลูกเรือของนายราชันย์พูดขึ้น พวกนั้นหันหน้าไปมองกันอย่างคุมคิด
“ไม่รู้สิ กัปตันก็วิ่งตามนามิไปแล้ว เราจะเอาหรือไม่เอาดีเนี่ย =__=” ลูกเรืออีกคนพูดขึ้น
“ราชันย์มันบอกแค่ว่าอยากรู้ว่ามีจริงหรือป่าว แต่มันไม่ได้บอกว่าอยากได้หนิ -___-” ชายที่มีรอยสักอะไรสักอย่างอยู่ที่ใต้ตาข้างซ้ายพูดขึ้น... เรื่องว่าราชันย์เฉยๆ เลยงั้นหรอ แปลว่าจะต้องสนิทกับหมอนั่นแน่ๆ
“ถ่ายรูปไปให้ราชันย์ดูมั้ยล่ะ เหมือนหมอนั่นยังดูไม่เต็มอิ่มเลยนะ” ชายผมสีน้ำตาลอ่อนพูดขึ้น หมอนี่ก็สนิทอย่างนั้นหรอ -___-
“ถ้าถ่ายรูปไปให้เดี๋ยวหมอนั่นก็ยิ่งหดหู่สิ หมอนั่นยิ่งบ้าๆ อยู่นะ” ชายอีกคนพูดขึ้น
“เราก็ไปเอาหม้อทองคำกันเถอะ” โซโลพูดพร้อมเดินตรงไปที่หม้อทองคำ ลูกเรือของราชันย์นิ่งไป แล้วหันมามองโซโลเป็นตาเดียว
เมื่อโซโลเดินไปถึงหม้อทองคำ เตรียมเอื้อมมือไปไปจับที่คำทอง แต่จู่ๆ เด็กทารกที่นอนหลับสนิทอยู่ก็ลืมตาขึ้น โซโลชะงักเลยทีเดียว
“อื้มม...” เด็กคนนั้นยันตัวนั่ง หาวและขยี้ตาไปมา
“เหวอ อะไรน่ะ!” ช๊อปเปอร์
“เด็กไง เด็ก” ผม
โซโลที่นิ่งไปค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบคำทองในหม้อออกมาหนึ่งเหรียญ เด็กทารกคนนั้นมองทุกการเคลื่อนไหวของโซโล เมื่อโซโลดึงเหรียญทองคำออกมาจากหม้อหนึ่งเหรียญเท่านั้นแหละ เด็กคนนั้นก็...
“ฮึก... ฮือ... แง้!!!” เด็กคนนั้นแหกปากร้องแจ้กทันที โซโลเหวอจนทำเหรียญทองคำตก พวกเรารีบวิ่งไปหาโซโลทันที
“แกทำอะไรของแกน่ะ!” ผม
“อะไร ก็ไม่ได้ทำอะไรเลย นายก็เห็นไม่ใช่หรือไง!” โซโล
“แง้!!!” เด็กคนนั้น
“โอ๋ๆๆ อย่าร้องน้า อย่าร้องๆ” อุซปโบกมือไปมาทันที
น้ำตาของเด็กคนนั้นไหลออกมาเหมือนน้ำตก... จริงๆ มันไหลได้น่ากลัวมาก!! น้ำตาของเด็กคนนี้ไหลออกมาจนเริ่มแฉะเท้าของเราแล้ว!
“โอ๋ๆๆ อย่าร้องๆๆ =[]=!!” ช๊อปเปอร์ช่วยอุซปกล่อมเด็กบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ผล
“ทำแบบนี้สิ” โรบินจังเดินมาใกล้ๆ หม้อทองคำ ก่อนจะหยิบทองคำที่โซโลทำตกขึ้นมา แล้วเอาวางไว้ที่เดิมของมัน
“ฮึก...”
ได้ผล =[]=!! เด็กคนนั้นเลิกร้องไห้ทันที
“อะไรเนี่ย...” อุซปพูดอย่างงงๆ
“เขาหยุดร้องไห้แล้วครับ” บรู๊ค
“แปลว่า ถ้าเกิดเราเอาทองคำไปหนึ่งเหรียญเด็กคนนี้ก็จะร้องไห้งั้นสินะ...” โรบินจัง
“แล้วเราจะเอาหม้อทองคำไปได้มั้ยเนี่ย~” ช๊อปเปอร์
“แล้วถ้าลองปล่อยให้เด็กคนนี้ร้องให้ไปล่ะ?” แฟรงกี้พูดพร้อมหยิบเหรียญทองคำออกมา
“แง้!!!”
เด็กคนนั้นร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือดอีกครั้ง
“นายจะแกล้งเด็กงั้นหรอแฟรงกี้ =__=” อุซป
“งั้นจะให้ทำยังไงล่ะ!!” แฟรงกี้
พวกเราเงียบกันไป ก่อนที่ทุกคนจะหันหน้าไปมองทางลุงซามะที่ขีดๆ เขียนๆ สมุดบันทึกอยู่
“ลุง!!” แฟรงกี้เดินไปจับหัวของลุงซามะ ลุงแกเหวอไปเลย
“อ๊ากๆๆๆ >[]<!!” ลุงซามะ
“ลุงรู้วิธีจะเอาหม้อทองคำไปแบบไม่ให้เด็กนี่ร้องไห้มั้ย?” แฟรงกี้
“ไม่รู้ ลุงก็พึ่งเคยเห็นครั้งแรกนะ >[]<!!” ลุงซามะ
“อะไรเนี่ย” แฟรงกี้พูดพร้อมปล่อยหัวของลุงซามะ
“งั้นลองทำแบบนี้สิ” ลูกเรือคนหนึ่งของราชันย์เดินเข้ามา หมอนั่นที่มีรอยสักอยู่ที่ใต้ตาข้างซ้ายชักดาบออกมา แล้วเอาจี้ที่คอของเด็กทารกคนนั้น
“ฆ่าเลย...” หมอนั่นพูดสั้นๆ
“แกจะบ้าเรอะ =[]=!!!” ชายสองคนวิ่งมาดึงตัวนายรอยสักนั้นออกจากทารกคนนั้น
“ทำไมล่ะ!” นายรอยสักคนนั้นพูดขึ้น
“แกจะไปฆ่าได้ยังไง!!” นายหัวสีน้ำตาลพูดขึ้น
“เมื่อกี้แกเรียกใครว่า แก นะ?” นายรอยสักพูดเสียงต่ำ ทั้งสองคนรีบปล่อยมือจากหมอนั่นทันที
“ขอโทษก๊าบ ท่านทัชๆ =[]=;;” นายหัวสีน้ำตาล
ทัช อย่างนั้นหรอ... นายที่มีรอยสักใต้ตาข้างซ้ายชื่อทัชงั้นสินะ...
“ลองใช้วิธีสันติสิ อะนี่ เด็กน้อยกินนี่มั้ย~” นายหัวสีน้ำตาลดึงแอปเปิ้ลในกระเป๋าขึ้นมาจ่อปากเด็กคนนั้น เด็กทารกมองที่แอปเปิ้ลจากงงๆ นัยน์ตาสีฟ้าสดใสของเด็กน้อยมองแอปเปิ้ลตาเป็นมัน ก่อนจะ...
งับ!!
“อ๊ากกกกก มันกินมือฉันแล้วว!!!” นายหัวสีน้ำตาลกรีดร้องทันที ก่อนจะรีบดึงมือออกจากปากของเด็กทารกคนนั้น
“เป็นอะไรมั้ยรีทาวน์” ชายคนที่ดึงตัวของทัชอีกคนหนึ่ง หันมาเป่าๆ มือของนาย... รีทาวน์?
“ไม่เป็นไรหรอกคีฟาร์” รีทาวน์
...ชื่อพวกนี้ทำไมมันดูยุ่งยากจังนะ ทัช รีทาวน์ คีฟาร์ ราชันย์ =__=!!
วิ้งง~
สายรุ้งเริ่มจะจางลงไป พวกเราแต่ละคนเหวอกันไปเลยทันที
“มันจะหายไปแล้วๆๆๆ =[]=!!” ช๊อปเปอร์
“ทำยังไงดี =[]=!!” อุซปเริ่มโวยวายบ้าง
ทั้งช๊อปเปอร์และอุซปเริ่มอยู่กันไม่นิ่ง สองคนนั้นวิ่งไปทั่วอย่างสติแตก
“ลูฟี่บอกต้องการนี่ หยิบเลยย!!~” แฟรงกี้
“นายก็หยิบสิ =[]=!” อุซป
“ทำไมต้องเป็นฉันด้วย =O=” แฟรงกี้
“ถ้าได้หม้อทองคำกลับไปนะ... นามิต้องดีใจแน่ๆ เลย” โรบินจังพูดพร้อมอมยิ้ม
อะ... อะไรนะ... ถ้าได้กลับไป... คุณนามิจะดีใจ...
*จินตนาการเพ้อฝันของซันจิ
“อะฮ่า... คุณนามิ ผมเอาหม้อทองคำมาให้คุณได้แล้วนะครับ~” ซันจิ
“ว้ายยย~ ซันจิคุง เอามาให้ฉันงั้นหรอ เป็นคนดีจริงๆ เลย >__<!!” นามิ
“ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อคุณนามิคร้าบ~” ซันจิ
“น่ารักที่สุดเลย จะให้รางวัลน้า~ kiss~”
แล้วคุณนามิกับเราก็จะ...
Kiss~~ อ๊ากกก~ แค่คิดก็เขินจะแย่แล้ววว!!~
*จบจินตนาการเพ้อฝันของซันจิ
หมับ!!
มือของผมที่เชื่อฟังคำสั่งของหัวใจ คว้าหมับ! เข้ากับหม้อทองคำทันที
“ไปกันเถอะ ♥” ผมพูดแค่นั้น ก่อนจะหอบหม้อทองคำนั้นวิ่งทันที
“แง้!!!” เสียงของเด็กทารกดังขึ้นมาจากข้างหลัง
“นายทำอะไรของนายน่ะซันจิ =[]=!!!” อุซปที่วิ่งตามผมมาเริ่มโวยวายใส่ผมทันที
“อะไรเล่า!!” ผม
“ก็เด็กคนนั้นน่ะร้องไห้ใหญ่แล้วรู้ม้ายย!!~” อุซป
“เจ้าคิ้วม้วน นายทำอะไรของนายน่ะ -___-” ไอ้หัวสาหร่ายวิ่งตามมาทำหน้าตาเบื่อโลกใส่ผม
“ฉันจะเอาหม้อทองคำนี้ไปให้คุณนามิ~” ผม
“แง้!!!~”
“เด็กนั้นแหกปากไม่หยุดเลยนะ =[]=!!” อุซป
“ช่างเส้!” ผม
ครืน!!
พวกเราต้องชะงักเมื่อจู่ๆ ทางที่เราวิ่ง ที่ไม่มีอะไรมาขว้าง กลับมีต้นโคลเวอร์ยักษ์โผล่ออกมาบังทางวิ่งทันที อะไรเนี่ย =[]=!!
“อ๊ากก” อุซปร้องอย่างตกใจ
“อะไรเนี่ย...” โซโล
“ฮืออ แง้!!” จู่ๆ เด็กทารกที่เคยนอนอยู่ข้างหลังของเรา ก็มานั่งอยู่บนโคลเวอร์ที่พึ่งงอกขึ้นใหม่ แล้วแหกปากร้องไห้ทันที
“เขาร้องไห้ไม่หยุดเลยคร้าบ~” บรู๊ค
“นั้นสิ ทำยังไงดี~” ช๊อปเปอร์
แย่แน่ๆ แบบนี้ก็แปลว่า จะตามเราไปทุกที่เลยงั้นหรอ...
“แง้!!!” น้ำตาของเด็กคนนั้นไหลลงมาเหมือนน้ำตก มันไหลลงมารดที่หัวของพวกเราทุกคน... เหวอๆๆ =[]=!!
“ซันจิ วางหม้อคองทำเถอะ T[]T!!” อุซป
“วางได้ยังไง! ฉันต้องเอาไปให้คุณนามินะ =___=!!” ผมหันไปโวยวายใส่อุซป
“งั้นใครก็ได้! ทำให้เด็กนี้เลิกร้องไห้ซะที น้ำตาเด็กคนนี้จะท่วมฉันอยู่แล้ว~” อุซป
“นี่! พวกคุณทำแบบนี้ได้ยังไงกันคะ!”
เสียงที่ไม่คุ้นหู ดังขึ้นมาจากข้างหลังของพวกเรา พวกเราแต่ละคนนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ หันหลังไปมองตามต้นเสียง
“ภะ... ภูติ =[]=...” บรู๊ค
“พวกคุณทำให้เด็กคนนี้ร้องไห้กันได้ยังไงคะ!!”
ภูติตัวเด็ก... ที่มีตัวสีชมพูสวมเสื้อแบบเดียวกับทารกคนนั้น เธอมีปีกเล็กๆ ที่สามารภบินได้ รอบๆ ตัวของเธอจะมีแสงสีชมพูออกมารางๆ
“วางหม้อทองคำของเด็กคนนั้นลงเดี๋ยวนี้เลยนะคะ!” ภูติตัวน้อยชี้มาทางผม ผมที่ตกใจวางหม้อทองคำนั้นลงทันที
“ฮึก...” แล้วเด็กนั้นก็เลิกแหกปากทันที
“ดีมากค่ะ... มนุษย์นะมนุษย์...” ภูติตัวน้อยพูดพร้อมบินไปหาเด็กทารกนั้น แล้วกอดเด็กคนนั้นอย่างรักไคร่
“ขอโทษที่ทิ้งไปน้ามิวน์จัง กลับมาแล้วน้าๆ~” ภูติน้อย
“มิว~” เด็กทารกตัวใหญ่ที่มีชื่อว่า มิวน์ หันไปยิ้มให้กับภูติตนนั้น
“ไม่อยากจะเชื่อว่ามนุษย์จะต้องการหม้อทองคำขนาดนี้ ถึงกับตามมาอยู่ที่เกาะด้วยหรอเนี่ย!” ภูติตัวนั้นเอามือเทวเอวแล้วมองมาทางพวกเรา
“พวกนายนี่มันโลภจริงๆ!”
ภูติตัวนั้นยังไม่หยุดด่าเรา -__- โซโลที่นิ่งทำหน้าบูดเดินเข้าไปหาภูติตัวน้อยนั้นแล้วพูดออกมาด้วยเสียงที่น่ากลัว
“เธอจะด่าเราอีกนานมั้ย ที่เราต้องการคือทองคำ” โซโล
“เจ้าพวกมนุษย์โลภมาก!” ภูติตัวนั้น
“ยังจะพูดมากอีก -___-” โซโลเอามือจับที่ดาบของตัวเอง ช๊อปเปอร์รีบพุ่งตัวเข้าไปดึงโซโลเอาไว้ทันที
“เดี๋ยวก่อนสิโซโล นายจะทำอะไรน่ะห๊ะ >[]<;;” ช๊อปเปอร์
“ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย” โซโลพูดพร้อมปล่อยมือออกจากดาบ
แน่ใจหรอ ว่านายไม่ทำอะไรน่ะ -__-?
“นี่เธอ พวกเราขอโทษที่จะเอาหม้อทองคำของมิวน์นะ” ช๊อปเปอร์หันไปพูดกับภูติตัวนั้น
“ว่าแต่เธอชื่ออะไรอย่างนั้นหรอ” ช๊อปเปอร์ถามขึ้น
“ทำไมเราต้องบอกชื่อของเรากับคนอย่างนาย” ภูติตนนั้นกอดอกและสะบัดหน้าหนี
“ฉันชื่อช๊อปเปอร์!” ช๊อปเปอร์แนะนำตัวของตัวเองไป ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้ถามเลยแม้แต่น้อย =___=;;
“เฮอะ! เราชื่อรีเวอร์” ภูติตนนั้นบอกชื่อของตัวเอง
“รีเวอร์จัง เธอเป็นคนดูแลมิวน์อย่างนั้นหรอ” ช๊อปเปอร์
“เราไม่มีทางบอกนายหรอกว่าใช่น่ะ” รีเวอร์พูดพร้อมสะบัดหน้าหนี
...ก็บอกมาแล้วไม่ใช่หรอนั่นน่ะ =___=
“พวกเราขอหม้อทองคำไปก็แล้วกันนะ” โซโลพูดอย่างไม่รอช้า เอามือคว้าที่หม้อทองคำทันที และมิวน์ก็แหกปากร้องไห้อีกครั้ง โซโลที่ตกใจรีบปล่อยมือของจากหม้อทองคำทันที
“พวกนายจะเอาหม้อทองคำของมิวน์ไปไม่ได้นะ!” รีเวอร์พูดขึ้นพร้อมชี้ไปที่หน้าของโซโล
“ทำไมเราจะเอาไปไม่ได้ -___-” โซโล
“ถ้าพวกนายเอาไป มิวน์จะ!... อุ๊บ! เกือบไปๆ” รีเวอร์รีบเอามือปิดปากของตัวเองทันที
“มิวน์จะทำไมอย่างนั้นหรอ” ผมถามขึ้น
“มนุษย์อย่างพวกนายไม่จำเป็นต้องรู้!!” รีเวอร์
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงพวกเราก็จะเอามันไปล่ะ” โซโลยกหม้อทองคำนั้นขึ้นมาอีกครั้ง
“แง้!!!” มัวน์เริ่มร้องไห้อีกครั้ง แต่ดูเหมือนโซโลจะไม่สนใจเสียงของมิวน์อีกแล้ว หมอนั่แบกหม้อทองคำไปอย่างไม่สนใจโลก
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ... เจ้ามนุษย์! วางหม้อทองคำของมิวน์ลงนะ!!” รีเวอร์โวยวายทันที เธอรีบบินมาดึงหัวของโซโลเอาไว้ แต่มันก็ไม่ได้ผล เพราะตัวของเธอมันเล็กเกินไป -__-
“หยุดนะเจ้ามนุษย์โง่!” รีเวอร์
โซโลไม่หยุดเดิน หมอนั่นไม่สนใจอะไรเลย แม้แต่เสียงร้องไห้ของมิวน์
“ถ้านายไม่หยุด เราจะสาปนายแล้วนะ!!” รีเวอร์ที่ทนไม่ได้ หยุดดึงหัวของโซโลแล้วตะโกนดังก้อง... สะ... สาปได้ด้วยหรอ =[]=!
กึก!
โซโลชะงักไป รีเวอร์ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“งี้สิเจ้ามนุษย์ ^^!” รีเวอร์
“ลองสาปดูสิ...” โซโลหันหน้าไปมองทางรีเวอร์ด้วยสายตาอำมหิต ขนาดพวกเรายังขนลุก รีเวอร์เหวอไปเลย ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ทรุดลงไปนั่งกับพื้น
“พอแล้ว... เราไม่ไหวแล้ว...” รีเวอร์
โซโลหันกลับไปแล้วเดินต่อ แต่ก็ต้องชะงักอีกครั้งเพราะคำพูดของรีเวอร์
“เรามีของเสนอ ถ้านายเอาหม้อทองคำคืนเรา เราจะให้พรนายหนึ่งข้อ” รีเวอร์
“พร?” โซโลหันหน้าไปมองทางรีเวอร์ รีเวอร์ที่นั่งอยู่กับพื้นพยักหน้าเบาๆ
“เธอให้พรคนอื่นเขาได้ด้วยหรอเนี่ย OoO” อุซป/ช๊อปเปอร์
“เราสามารถให้พรได้...” รีเวอร์
“จริงหรอ ว้าวววว!” ช๊อปเปอร์และอุซปมองตาเป็นประกาย
“เราจะให้พรความโชคดีกับนาย นายจะเอามั้ย” รีเวอร์พูดพร้อมหันไปมองทางโซโล โซโลวางหม้อทองคำลงกับพื้น ก่อนจะหันหน้ามามองทางรีเวอร์
“ฉัน... ไม่ต้องการ” โซโล
“อะไรกัน! ไม่มีมนุษย์คนนั้นไม่ต้องการความโชคดี!” รีเวอร์พูดอย่างตกตะลึง
“แล้วเธอจะทำไม -___-” โซโล
วิ้ง~
จู่ๆ ที่ตัวของรีเวอร์ก็เป็นประกายออกมา รีเวอร์ตกใจเล็กน้อย ก่อนจะฉีกยิ้มออกมา
“ฮ่าๆๆ นายเสียโอกาสแล้วล่ะ เจ้ามนุษย์โง่~” รีเวอร์บินขึ้นมาอีกครั้ง เธอหัวเราะชอบใจ ก่อนจะบินไปหามิวน์ที่ตัวมีประกายออกมาเช่นเดียวกัน
“อะไรน่ะ” โรบินจังพูดขึ้นอย่างสงสัย
“หมดเวลาแล้ว สายรุ้งหายไปแล้ว พวกฉันก็ต้องไปแล้ว นั่นก็คือ... นายไม่มีสิทธิ์ได้หม้อทองคำอีกแล้ว ฮ่าๆๆ” รีเวอร์
“อะไรกัน พวกยังดะ...” โซโลที่ตอนแรกจะหันหลังไปคว้าหม้อทองคำ แต่หม้อทองคำก็หายไปแล้ว!!
“ฮี่ๆๆ ฉันบอกพวกนายแล้ว เจ้าพวกมนุษย์โง่ แบร่~” รีเวอร์พูดพร้อมแลบลิ้น พวกเราทุกคนมองเธออย่างตกตะลึง
“จะบอกอะไรดีๆ ให้นะ ในฐานะที่พวกนายเจอหม้อทองคำ หม้อทองคำน่ะ... มีอยู่แค่หม้อเดียวในโลก และก็มีมานานแล้วด้วย และที่มันไม่หายไปซะที... ก็เพราะว่าถึงมนุษย์จะเอามันไปยังไง แต่ถ้าแสงของปลายสายรุ้งหมดไป หม้อทองคำก็จะหายไปเช่นกัน... หรือก็คือ ถึงจะหาให้ตายยังไง ตอนหลังสุดมันก็หายไปอยู่ดี จะบอกให้รู้ไว้นะ เจ้าพวกมนุษย์โง่ ฮี่ๆๆ แบร่~”
เมื่อรีเวอร์พูดจบ ตัวของรีเวอร์กับมินว์ก็หายไปในทันที... ว่าไงนะ... ไม่ว่ายังไงก็จะหายไปอย่างนั้นหรอ!
“อะไรกัน...” แฟรงกี้
“ไม่ว่ายังไงก็จะหายไป งั้นแปลว่า แต่ละคนที่ตามหามันมาตลอด ก็เสียเปล่าหมดเลยน่ะสิ!” อุซป
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้” ผมพูดพร้อมหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ อย่างนี้นี่เองสินะ... ก็ว่าตำนานนี้มันมีอยู่มานานแล้ว แล้วก็มีคนรู้ว่าหม้อทองคำเกิดที่เกาะนี้ด้วย ไม่แปลกที่คนทั้งโลกจะมาตามหา แต่ก็ไม่เคยมีข่าวว่าใครได้มันไปซักคน เพราะเพียงสิ้นแสงของสายรุ้ง... มันก็จะหายไปพร้อมกับหลักฐานทุกอย่าง
“อย่างนี้ราชันย์ฆ่าเราแน่ๆ เลย~” พวกลูกเรือของราชันย์ที่แอบยืนมองอยู่ไม่ไกลพูดขึ้น แอบยืนมองมานานแล้วอย่างนั้นหรอแก =[]=!!
“ไม่ฆ่าหรอก หมอนั่นแค่รู้ว่ามีจริงก็คงพอใจแล้วแหละ” ชายที่ชื่อว่าทัชพูดขึ้น
จริงสินะ... แค่รู้ว่ามีอยู่จริง... แค่นั้นก็วิเศษที่สุดแล้ว ถึงจะไม่ได้มันมา แต่มันคือประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลย... ถือว่าเราก็ใช่ว่าไม่ได้อะไรกลับไปเลย... ดีเหมือนกันแฮะ
“พวกเรา... รีบไปตามหาคุณนามิกันเถอะ!” ผมตะโกนเรียกสติของทุกคน
“จะ... จริงด้วยสิ หายไปทั้งคู่เลยนะ ทั้งลูฟี่ทั้งนามิ” อุซป
“รีบไปตามหากันดีกว่าครับ~” บรู๊ค
“อื้ม!” ทุกคน
แล้วพวกเราก็เริ่มวิ่งตามหาคุณนามิกับลูฟี่ หวังว่า... เรื่องที่คุณนามิพูด... มันจะไม่ใช่ความจริงนะ!
[จบบันทึกพิเศษ ; ซันจิ]
[บันทึกพิเศษ ; ลูฟี่]
ผมที่ตอนนี้ถูกดักไว้โดยราชันย์ ทำไมหมอนี่ไม่ยอมให้ผมตามนามิไปล่ะ!
“นายถอยไปซะ!” ผม
“ผมบอกแล้วไง ว่าผมจะไม่ถอยให้คุณ จนกว่าผมจะเรียกสติของคุณกลับมาได้” ราชันย์พูดประโยคนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้ว ผมที่เริ่มหมดความอดทน พยายามจะวิ่งผ่านราชันย์ไปให้ได้ แต่หมอนั้นก็วิ่งมาดักหน้าได้ตลอด!
“คุณน่ะ ไม่เข้าใจความรู้สึกของนามิเลย” ราชันย์
“นายไม่ต้องมายุ่งน่า ออกไปซะ!” ผมพูดพร้อมพุ่งหมัดเข้าใส่หน้าของราชันย์ แต่หมอนั่นก็เอียงคอหลบได้อย่างสบาย อะไรกัน!!
“นายคิดว่านายจะดูแลนามิได้อย่างนั้นหรอ” ราชันย์ถามผมเสียงเรียบ ผมนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบราชันย์ไปอย่างมั่นใจ
“แน่นอน ฉันสามารถดูแลนามิได้ และฉันจะดูแลทุกคนด้วย!” ผม
“ถ้าดูแลนามิได้ นายต้องเคารพการตัดสินใจของนามิ” ราชันย์
“นายหมายถึงยอมให้นามิออกจากกลุ่มไปแบบนี้น่ะหรอ... นายพูดแบบนี้ ที่จริงก็อยากได้นามิไปเป็นต้นหนเรือใช่มั้ย!!” ผม
“ไม่ใช่ แต่นายควรจะให้เวลานามิคิด” ราชันย์
“คิดอะไร” ผม
“เห็นมั้ย ขนาดให้เวลานามิคิดเรื่องอะไร นายยังไม่รู้เลย” ราชันย์
“นายต้องการจะพูดอะไรกันแน่!” ผม
“ผมก็แค่อยากให้คุณสงบสติอารมณ์และไปขอโทษนามิดีๆ เท่านั้น” ราชันย์
“ฉันก็ขอโทษนามิแล้ว! แต่ยัยนั่นกลับ...” ผมพูดพร้อมกำมือแน่น
ทำไมกัน ทำไมนามิถึงไม่ยอมกลับมา ทั้งๆ ที่ผมก็ขอโทษไปแล้ว ทั้งๆ ที่ผมอยากให้เธอกลับมาขนาดนี้ เธอมองไม่ออกเลยหรือยังไง! ทำไมจะต้องออกจากกลุ่มด้วย แบบนี้ผมรับไม่ได้หรอก!
“ถ้าคุณไม่ยอมรับการตัดสินใจของนามิ ผมว่า คุณน่ะ อย่าไปพบนามิอีกเลยจะดีกว่า”
คำพูดของราชันย์ทำให้อารมณ์ของผมพุ่งขึ้นจนทนไม่ไหว ผมพุ่งหมัดใส่หน้าราชันย์อีกครั้ง แต่หมอนั้นก็แต่เอียงคอหลบแบบง่ายๆ ทำไมกัน! ทำไมหมอนี้ถึงหลบการโจมตีของผมได้ง่ายๆ แบบนี้!!
ผมรัวหมัดเข้าใส่หน้าของราชันย์ แต่หมอนั่นก็ยังหลบได้อีก อะไรกัน!!
“...” ราชันย์ก้มตัวหลบหมัดของผม มือข้างขวาของหมอนั่นกำแน่น แย่ล่ะ แบบนี้จะต้อง...
ผัวะ!!!
ผมกระเด็นไปกระแทกดอกโคลเวอร์หักไปหลายต้น อะไรเนี่ย ทำไมหมอนี่ถึงแรงเยอะแบบนี้!
ผมค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้น บ้าชะมัด!
ผมวิ่งตรงเข้าไปหาราชันย์ มือข้างขวาที่ยืดไปข้างหลังเพื่อที่จะพุ่งหมัดเข้าใส่หน้าของราชันย์ได้อย่างเต็มแรง
“โกมุ โกมุ โน บูเลตโต!!”
ผมพุ่งหมัดขวาเข้าใส่ราชันย์ทันที
หวืดดด!
ราชันย์เบียดตัวหลบแล้ววิ่งตรงมาทางผมอย่างเร็ว
“ผมบอกแล้วใช่มั้ย ว่าให้คุณคุมสติหน่อย!!” ราชันย์
ผัวะ!!!
หมัดของราชันย์ซัดเข้าเต็มหน้าของผมอย่างจัง จนผมกระเด็นไปตามแรงหมัดอีกครั้ง
อะไรกัน! ทำไมหมอนั่นถึงหลบการโจมตีของผมได้ง่ายๆ แบบนี้!!
“คุณน่ะ ถ้าเป็นแบบนี้อยู่... อาจจะไม่ได้มองเห็นหน้าของนามิอีกเลยก็ได้นะ” ราชันย์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของผมพูดขึ้น ผมเงยหน้าของราชันย์อย่างอารมณ์เดือดสุดๆ
“ผมพูดจริงๆ นะ ถึงคุณจะต่อยผมได้สำเร็จ แล้วคุณไปแย่งตัวนามิออกมา ถึงตายยังไงเธอก็จะไม่มีความสุขถ้าอยู่กับคุณ คุณต้องใช้เหตุผลเข้าคุยกับเธอ ไม่ใช่ใช้กำลังและไม่ฟังเหตุผลของเธอ” ราชันย์
“นายอย่าพูดเหมือนรู้จักนามิมาได้ได้มั้ย!!!” ผมตะโกนออกไปอย่างเหลืออด ราชันย์นิ่งไปในทันที
“นายน่ะ ยังรู้จักยัยนั่นได้ไม่นานเอง อย่าพูดเหมือนเข้าใจความคิดของยัยนั้นซะปรุโปร่งได้มั้ย ยัยนั่นน่ะ... ยัยนั่นน่ะ... รู้จักกับฉันมานานกว่านายนะ!!!” ผม
“...คุณคิดได้แค่นี้จริงๆ สินะ” เมื่อราชันย์พูดอย่างนั้น ผมถึงกับนิ่งไปเลย
“ทำไมผมจะไม่เข้าใจความรู้สึกของนามิในตอนนี้ ถึงผมจะรู้จักกับเธอได้ไม่นาน แต่ผมก็รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่ และเธอก็เสียใจ เสียใจที่คุณเป็นแบบนี้ไง!!!” ราชันย์ตะโกนใส่หน้าผม อะไรนะ... นามิ... เสียใจ... ที่ผมเป็นแบบนี้?
“ผมบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าผมจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายนามิอีก คุณน่ะ ทำให้นามิเสียใจขนาดนี้แล้วยังมีน่ามาบอกว่าสนิทกับนามิดีอีกอย่างนั้นหรอ น่าขายหน้าชะมัด!!!” ราชันย์พูดแค่นั้นแล้วก็หันหลังเดินหนีผมไปเลย
ผม... ทำให้นามิเสียใจอย่างนั้นหรอ... แต่ผมก็ขอโทษเธอแล้วหนิ... ทำไมถึงเข้าใจยากอย่างนี้นะ!!
ผมนั่งขยุ้มหัวของตัวเองไปมา อย่างจะบ้าตาย!! แล้วทำไมเธอถึงไม่บอกฉันตรงๆ ล่ะนามิ เธอทำแบบนั้นน่ะ... ใครจะไปรู้ล่ะ!!!
[จบบันทึกพิเศษ ; ลูฟี่]
ฉันที่นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะกลางเรือของราชันย์ ไม่ได้ทำอะไรนอกนากนั่งเฉยๆ คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย... ลูฟี่จะเป็นยังไงบ้างนะ?... เวลาแบบนี้ เรายังไปคิดถึงหมอนั่นอีกหรอเนี่ย!!
“อ้าว นามิ มาอยู่นี่ได้ไง”
ฉันหันไปมองตามต้นเสียง
“รีทาวน์เองหรอ” ฉัน
“อื้ม~” รีทาวน์
“แล้ว... หม้อทองคำล่ะ” ฉันถามพร้อมส่งยิ้มให้กับรีทาวน์ รีทาวน์มองหน้าฉันนิ่งๆ ก่อนจะยิ้มแบบฝืนๆ
“เหอะๆ เรื่องนั้นน่ะหรอ... อดน่ะ” รีทาวน์
“อ้าว? ทำไมล่ะ พวกซันจิได้ไปอย่างนั้นหรอ?” ฉัน
“ซันจิ?” รีทาวน์ทวนคำพูดฉันอย่างงงๆ จริงสินะ พวกนี้ไม่รู้จักพวกซันจินี่หน่า
“พวกเพื่อนๆ ของฉันน่ะ” ฉัน
“อ๋อ ไม่ใช่หรอก ไม่ได้กันทั้งคู่...” รีทาวน์
“ทำไมล่ะ?” ฉัน
“เพราะว่าจู่ๆ ก็มีภูติมาจากไหนไม่รู้ มาบอกกับพวกเราว่า ถึงพวกเราจะได้หม้อทองคำไป แต่ถ้าแสงของสายรุ้งหายไป หม้อทองคำก็จะหายไปด้วยเช่นกันน่ะสิ หลอกหลวงได้ใจมากๆ -O-” คีฟาร์ที่ขึ้นมาบนเรือตอบแทนรีทาวน์ทันที
“แล้วเรื่องเจ้าหมวกฟางที่วิ่งตามเธอไปล่ะ ไม่มาด้วยกันหรอกหรอ” คีฟาร์
ฉันนิ่งไปกับคำถามของคีฟาร์ รีทาวน์ที่เห็นว่าท่าจะไม่ดีรีบเปลี่ยนคำถามทันที
“แล้วราชันย์ล่ะ” รีทาวน์
“ฉันอยู่นี่ๆ~”
ฉันหันไปมองตามต้นเสียงของราชันย์ เขาเดินขึ้นมาบนเรือแล้วฉีกยิ้มให้กับทุกคน... ไม่มี... ลูฟี่งั้นหรอ?
“ไหนล่ะหม้อทองคำน่ะ ฉันเห็นมันไม่นานเอง~” ราชันย์
“เสียใจด้วยนะกัปตันที่รัก เราอดแล้ว” รีทาวน์
“ว่าไงนะ =[]=...” ราชันย์เหวอไปเลยทีเดียว
“ถึงเราได้มาแต่มันก็จะหายไปอยู่ดีแหละราชันย์ ภูติน้อยที่คอยดูแลหม้อทองคำบอกมางี้” รีทาวน์
“ยังไงอะ ได้ไง =[]=” ราชันย์
“ภูติน้อยบอกว่า ถึงเราจะได้หม้อทองคำไป ถ้าแสงของสายรุ้งหายไป หม้อทองคำก็จะหายไปเช่นเดียวกันน่ะสิ” คีฟาร์
“อะไรเนี่ย~ ฉันยังไม่เห็นมันแบบเต็มๆ ตาเลยนะ T__T!!” ราชันย์
“เอาเถอะน่าราชันย์” รีทาวน์เดินมาตบที่ไหล่ของราชันย์อย่างปลอบโยน
“ช่างเถอะ แค่รู้ว่ามันมีอยู่จริงก็ปลื้มสุดๆ แล้วล่ะ~” ราชันย์
“นั่นสิเนอะ~~” รีทาวน์/คีฟาร์
นั่นสิ แค่รู้ว่ามันมีอยู่จริงก็ดีแล้ว ทองคำงั้นหรอ... แค่พูดถึงก็เสียดายจะแย่แล้ว!!~
“แล้วเจ้าหมวกฟางล่ะ” ทัชที่เดินขึ้นมาบนเรือหันหน้าไปถามราชันย์ทันที ฉันที่ค่อนข้างจะสนใจกับเรื่องนี้อยู่ รีบผึงหูฟังทันที
“ก็... นะ ไม่มีอะไรหรอก” ราชันย์พูดพร้อมอมยิ้ม ฉันเม้มปากแน่น... ก็นะ มันหมายความว่ายังไง...
“ทำไมมองฉันอย่างนั้นน่ะนามิ” ราชันย์ที่เห็นฉันมองหน้าเขาถามฉันทันที ฉันเปลี่ยนจากเม้มปากแน่นเป็นยิ้มออกมา แล้วส่ายหน้า
“เธอคิดถึงหมอนั่นรึป่าว” ราชันย์เดินมาใกล้ๆ ฉันแล้วถามขึ้น ฉันนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ ส่ายหัวเบา แล้วเปลี่ยนเป็นส่ายหัวแรงขึ้น
“ไม่... ไม่คิดถึงเลยสักนิด ^^” ฉัน
“หรอ...” ราชันย์
“อื้ม!” ฉัน
“ของพร้อมหมดแล้วกัปตัน~” นาอิตะโกนออกมา
“อะ... อื้ม!” ราชันย์
“นามิ... เธอจะไม่กลับไปหาพวกหมวกฟางแล้วอย่างนั้นหรอ” คีฟาร์ที่หันมาถามฉัน ฉันได้แต่อมยิ้มแล้วส่ายหน้า
“คง... ไม่แล้วล่ะ” ฉัน
“งั้นแปลว่าเราก็ได้สมาชิกเพิ่มขึ้นอีกคนแล้วสิ ว้าวๆ~” รีทาวน์กอดคอกับคีฟาร์แล้วร้องไชโย ฉันยิ้มให้กับสองคนนั้น อื้ม... สมาชิกใหม่...
“นามิ” ราชันย์หันมามองหน้าฉัน
“หืม?” ฉัน
“ฉันเคยบอกกับเธอว่า... ฉันจะไม่พาเธอออกทะเลเด็ดขาดใช่มั้ย?” ราชันย์
“อะ... อื้ม” ฉันตอบอย่างตะกุกตะกัก จริงสินะ ราชันย์บอกว่าจะไม่พาฉันออกทะเลแน่นอนนี่หน่า...
“แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้วล่ะ เธออยากเป็นส่วนหนึ่งบนเรือของพวกเราหรือป่าวล่ะ” ราชันย์พูดพร้อมอมยิ้ม ฉันนิ่งไป
ฉัน... อยากเป็นส่วนหนึ่งของเรือลำนี้หรือป่าวนะ ฉันต้องการหรือป่าวนะ...
“ถ้าลำบากใจก็...” ราชันย์
“ไม่! ฉันอยากเป็นส่วนหนึ่งกับพวกนาย ฉัน... อยากเป็นส่วนหนึ่งกับเรือลำนี้” ฉันพูดอย่างไม่มองหน้าราชันย์
“...ยินดีต้อนรับ ^^” ราชันย์พูดพร้อมส่งยิ้มให้ฉัน ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าราชันย์ และมองไปที่หน้าของทุกคนบนเรือ ทุกคนส่งยิ้มให้ฉันหมด รวมถึงทัชที่ดูจะเย็นชามากๆ ก็ด้วย... ทุกคน... อยากให้เราเข้าร่วมกลุ่มด้วยอย่างนั้นหรอ ดีจัง
“ดีเลย สมาชิกใหม่ๆ~” รีทาวน์วิ่งมากระโดดกอดฉัน
“เราจะออกเรือกันแล้วนะ นามิ” ราชันย์หันมาบอกฉัน ฉันยิ้มน้อยๆ ให้กับราชันย์และพยักหน้า
จะออกทะเลแล้ว... ฉันกำลังอยู่กับคนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ แล้ว...
[บันทึกพิเศษ ; ลูฟี่]
ผมที่ยังนั่งนิ่งคิดอะไรไม่ออก ได้แต่ขยุ้มหัวของตัวเองไปมา จะทำยังไงดี ทำยังไงดี...
“ลูฟี่! นายอยู่นี่เอง!”
ผมหันไปมองตามต้นเสียงทันที
“ทุกคน...” ผมพูดขึ้น... ทุกคนออกตามหาผมจนเจอแล้วหรอเนี่ย
“แล้วคุณนามิล่ะ!” ซันจิพูดพร้อมมองซ้าย ขวา ผมนิ่งไปทันที ก่อนจะก้มหน้ามองที่มือของตัวเอง แล้วฉีกยิ้มออกมา
“ไม่ทันแล้วล่ะ ฉันรั้งยัยนั่นไว้ไม่ได้...” ผม
“ว่าไงนะ!!” ทุกคนประสานเสียงพูดอย่างตกใจ
“ฉันผิดเองแหละ ที่นามิทำแบบนั้นน่ะ ดีแล้ว ให้ยัยนั่นไปอยู่กับคนที่ดีกว่าน่ะ ดีแล้ว” ผมพูดพร้อมเงยหน้าขึ้นมองทุกคน ทุกคนดูเหวอไปมาก แล้วจู่ๆ ซันจิก็เดินมาแล้วกระชากคอเสื้อของผมขึ้น
“นายพูดบ้าอะไรของนายน่ะลูฟี่!!!” ซันจิ
“อะไร...” ผม
“หมายความว่ายังไง! ให้คุณนามิไปอยู่กับคนที่ดีกว่าพวกเราอย่างนั้นหรอ!!” ซันจิ
“มันก็ดีกว่าอยู่กับพวกเราไม่ใช่หรอ” ผม
“มันดียังไง! ทำไมนายถึงปล่อยให้คุณนามิไปง่ายๆ แบบนี้ นายมีหัวคิดหรือป่าว!!!” ซันจิพูดพร้อมเขย่าผมไปมา
“ฉันไม่เข้าใจนามิ ยิ่งยัยนั่นอยู่ ฉันยิ่งทำให้ยัยนั่นเสียใจ ถ้าให้ยัยนั่นไปกับราชันย์ที่เข้าใจยัยนั่นดี... มันยังดีกว่าอยู่กับพวกเราซะอีก...” ผม
ผัวะ!!!
ผมที่ยังพูดไม่จบประโยค ถูกหมัดซัดเข้าที่หน้าจนกระเด็น ซันจิต่อยเข้าเต็มหน้าของผมอย่างเหลืออด
“ทำไมนายคิดอย่างนั้นลูฟี่! นายน่ะ ไม่รู้หรือไง ว่าตอนนี้คุณนามิต้องการอะไรมากที่สุด!!” ซันจิตะโกนใส่ผมที่นั่งนิ่งอยู่กับที่
“คุณนามิน่ะ เห็นอย่างนั้น... แต่คุณนามิก็รักพวกเราทุกคน ที่คุณนามิทำไปอย่างนั้นก็เพราะคุณนามิกำลังเสียใจ ถ้าเราไม่รีบไปหยุดคุณนามิไว้ก่อน คนที่จะเสียใจที่สุดไม่ใช่แค่พวกเรานะ แต่เป็นคุณนามิด้วย!!!” ซันจิ
“!!!” ผมอึ้งไป... ที่เสียใจไม่ใช่แค่พวกเราอย่างนั้นหรอ... แต่เป็นนามิด้วยอย่างนั้นหรอ
“คุณนามิที่ตอนนี้กำลังเสียใจ มันก็เหมือนเดินอยู่ในความมืดนั้นแหละ คุณนามิที่ตอนนี้ไม่รู้ทางจะไป แทนที่นายเป็นคนที่อยู่ใกล้คุณนามิที่สุด ทำไมนายถึงไม่คว้าตัวของคุณนามิเอาไว้ ทำไมนายถึงปล่อยให้คุณนามิเดินไปในที่แบบนั้นคนเดียว!!!” ซันจิ
“งั้นแปลว่า...” ผม
“เราต้องตามหาคุณนามิ แล้วเอาตัวคุณนามิกลับมา!!!” ซันจิ
“...” ผมนิ่งเงียบ มองหน้าซันจิ
“นายมีปัญหาหรือป่าวลูฟี่ หรือนายจะไม่ยอม” ซันจิ
“ใครจะไม่ยอมกันเล่า... ขอบคุณที่เตือนสติฉันนะซันจิ...” ผมพูดขึ้นพร้อมยันตัวลุกขึ้น มือจับที่หมวกฟางของตัวเองแน่น
“เราต้องเอาตัวนามิกลับมา!!” ผม
“...อื้ม!!!” ทุกคน
[จบบันทึกพิเศษ ; ลูฟี่]
“เสบียงพร้อมนะ ทุกคนขึ้นเรือหมดหรือยัง!!” นาอิตะโกนถามคนในเรือทุกคน ทุกคนขานรับว่ามากันครบหมดแล้ว
“เราจะออกทะเลกันแล้ว ถอนสมอ!” นาอิ
“อ่า!!”
“แน่ใจหรอนามิ ที่จะไปกับพวกเราน่ะ” ราชันย์ที่จู่ๆ ก็เดินไปแตะที่ไหล่ของฉัน ฉันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปยิ้มให้กับราชันย์
“อื้ม แน่ใจสิ ^^” ฉัน
“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ -O-” ราชันย์
“นายจะเอาอะไรกับฉันเนี่ยราชันย์ บอกว่าแน่ใจก็แน่ใจสิ =___=” ฉัน
“ฉันก็แค่ไม่อยากให้เธอเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองก็เท่านั้นเอง” ราชันย์
ฉันเบ้ปากใส่ราชันย์ แล้วหันหน้ามองไปที่เกาะคุโดบาระ... เรากำลังจะออกทะเลแล้ว เรากำลังจะจากกับพวกลูฟี่แล้วสินะ... ท้องทะเลไม่ใช่จะเจอกันง่ายๆ
ครืนน...
เรือค่อยๆ ออกเอาช้าๆ สายลมพัดเข้าที่ผมของฉัน ลาก่อนจะเกาะคุโดบาระ สนุกมากเลย...
“นามิกินแอปเปิ้ลมั้ย” ราชันย์เดินมาพร้อมแอปเปิ้ลตะกร้าใหญ่อีกครั้ง
“นายนี่ก็ชอบกินจังเลยนะ แอปเปิ้ลเนี่ย” ฉัน
“แน่นอน มันอร่อยที่สุดเลย~” ราชันย์
แอปเปิ้ลมีประโยชน์นะ... มีมากกว่าเนื้อด้วย... แล้วเราจะคิดถึงเนื้อทำไมเนี่ย -___-!!
“พวกเราจะไปที่ไหนกันดีล่ะกัปตัน~” รีทาวน์วิ่งมาถามราชันย์
“ก็... ไปตามล็อคโพสแล้วกัน” ราชันย์
“อ่าห้ะ~” รีทาวน์
ฟิ้วววว~
“ลมแรงชะมัดเลยแฮะ” ราชันย์พูดพร้อมจับผมของตัวเองเอาไว้ นั่นสิ ทำไมลมแรงจังนะ ฉันเงยหน้ามองดูท้องหน้า... อื้ม... ไม่มีพายุ แต่ลมแรงมากๆ เลยแฮะ
“นามิ กินเหล้าม้ายยย~” คีฟาร์เดินมาพร้อมเหล้าในแก้ว ฉันขมวดคิ้วแล้วเอามือเท้าเอว เตรียมตัวบ่น แต่เอ๊ะ... นี่มันอะไร ฉันเอามือล้วงเข้าไปที่กระเป๋ากระโปรง
นี่มัน...
“หืม? โคลเวอร์งั้นหรอ เอาติดมาด้วยหรอเธอน่ะ~” คีฟาร์
โคลเวอร์... โคลเวอร์สามแฉก... ที่ลูฟี่เคยให้กับฉันไว้...
‘เลือกสิ อันใดอันหนึ่งเท่านั้นนะ’
‘แค่อันเดียวหรอ?’
‘ใช่ ห้ามมากกว่านั้น!’
ลูฟี่...
‘แน่ใจหรอว่าจะเอาดอกนั้น -O-‘
‘ใช่ เอาดอกนี้แหละ’
ภาพเก่าๆ พุ่งเข้ามาที่หัวของฉันทันที ภาพที่ฉันกับลูฟี่... และทุกๆ คน... อยู่ด้วยกัน ฉันคิดดีแล้วอย่างนั้นหรอ...
“กัปตัน! เจ้าหมวกฟางครับ!” นาอิตะโกนพูดกับราชันย์
“หา? หมอนั่นทำไมหรอ?” ราชันย์
“เหมือนจะเรียกพวกเราอยู่ครับ” นาอิ
ราชันย์ลุกขึ้นแล้วเดินไปหานาอิ ก่อนจะมองตามสายตาของนาอิไป
“นี่!!!”
“เจ้าหมวกฟางจริงๆ แฮะ เหมือนหมอนั่นเรียกเราอยู่จริงๆ” ราชันย์
“อะไร!!!” ราชันย์ตะโกนตอบลูฟี่ไป ฉันนั่งนิ่งไม่ขยับ ฉันได้ยินเสียงของลูฟี่นะ... ได้ยินชัดด้วย...
“นามิ!!!”
“หมอนั่นเรียกนามิหรอ?” รีทาวน์เดินไปฟังด้วย
“นามิ!!!”
“เรียกนามิจริงๆ แฮะ นามิ! เธอมาคุยกับเจ้าหมวกฟางหน่อยเร็ว” รีทาวน์
“นามิ กลับมาเถอะ!!!”
“!!” ฉันอึ้งไป ในมือกำดอกโคลเวอร์แน่น น้ำตาเริ่มคลอ... ฉันจะ... ไม่ร้องไห้!
“เธอออกมาคุยกับเจ้าหมวกฟางหน่อยเถอะ” คีฟาร์เดินมาหาฉัน
“นามิ เธอเป็นพวกพ้องของฉันนะ!!!” ลูฟี่
“นามิ...” ราชันย์เดินมาหาฉันบ้าง
“ก็สัญญากันไว้แล้วไม่ใช่หรอ ว่าจะไม่มีทางจากกันไปน่ะ!!!”
“!!!”
ฉันอึ้งไปเป็นอย่างมาก น้ำตาที่ตอนแรกแค่คลอมันเริ่มไหลออกมา... ลูฟี่...
“ก็สัญญากันแล้วนี่ นามิกลับมาเถอะ ฉันขอร้อง!!!”
“ฮึก... ลูฟี่...” ฉันที่ตอนนี้กลั้นน้ำตาไม่ได้อีกแล้ว น้ำตาของฉันไหลออกมาไม่หยุด ฉันควรจะเลือกในสิ่งที่ฉันต้องการที่สุด... ฉันควรเลือกมันด้วยตัวเอง...!!
พรึบ!!
“ลูฟี่!!!” ฉันลุกขึ้นจากที่นั่งแล้ววิ่งไปเกาะที่ขอบเรือตะโกนหาลูฟี่ทันที ลูฟี่ที่ยืนอยู่ที่เกาะคุโดบาระ เราไกลกันมากเลย... แล้วฉันจะไปยังไง
“นามิ กลับมาเถอะ!!!” ลูฟี่
“ฉันว่า... เธอควรจะกลับไปหาเพื่อนๆ ของเธอน่ะ” ราชันย์เดินมาหาฉันแล้วจับที่ไหล่ของฉัน
“ราชันย์...” ฉันหันหน้าไปมองราชันย์ เขาส่งยิ้มให้ฉัน
“รีบกลับไปหาลูฟี่เถอะ ^^” ราชันย์
ฉันนิ่งไป ฉันยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ร้องไห้ แล้วโผเข้ากอดราชันย์ทันที ดูเหมือนราชันย์จะตกใจเอามากๆ
“ขอบคุณ... ที่เคียงฉันนะ ขอบคุณนายมาก ราชันย์... แต่ฉันคงไปกับนายไม่ได้นะ” ฉัน
“รู้อยู่แล้วน่า” ราชันย์
“ฉันต้องกลับไป... ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง” ฉัน
“ไม่เป็นไรหรอก ^^” ราชันย์
“ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยที่ต้อนรับฉัน... แต่ฉันคงอยู่ไม่ได้หรอก ขอบคุณทุกคนจริงๆ นะ” ฉันหันหน้าไปมองทางรีทาวน์และทุกๆ คน
ทุกๆ คนยิ้มให้กับฉัน แล้วพยักหน้า
“นามิ!!!” เสียงของลูฟี่ตะโกนเรียกชื่อของฉัน ฉันหันหน้าไปหาลูฟี่ทันที
“ลูฟี่... ฉันจะกลับไปหานาย!!!” ฉันเอามือป้องปากตะโกนให้ลูฟี่ ลูฟี่นิ่งไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะยืดมือไปข้างหลัง แล้วพุ่งมือมาข้างหน้าอย่างแรง มือของเขายืดมาจนถึงหน้าของฉัน ฉันรีบเอามือคว้าที่มือของลูฟี่ทันที
“ขอบคุณทุกๆ คนนะ” ไม่วาย หันหน้าไปขอบคุณทุกคน แล้วมือของลูฟี่ก็ยืดกลับ ทำให้ฉันถูกดึงไปด้วย
ฟิ้ววววว!!~
“ลูฟี่!!” ฉันร้องเรียกชื่อของลูฟี่แล้วยิ้มกว้าง เมื่อมือของเขายืดกลับสภาพเดิม ฉันก็กระเด็นไปชนกับตัวของลูฟี่เต็มๆ เราทั้งคู่ กระเด็นกันไปคนละทาง
“คุณนามิ!!~” ซันจิคุงวิ่งเข้ามาหาฉันทันที
“ฉันกลับมาแล้ว... ขอโทษที่คิดจะจากไปนะ... ทุกคน” ฉันพูดพร้อมฉีกยิ้ม
“เธอนี่จริงๆ เลยน้า!” ลูฟี่ที่เดินมาหาฉัน เขากอดอกทำหน้าบูดมองหน้าฉัน
“ลูฟี่” ฉันเรียกชื่อของเขาแล้วฉีกยิ้ม ลูฟี่ที่ตอนแรกทำหน้าบูด เปลี่ยนเป็นยิ้มอีกครั้ง
“ดีใจที่เธอกลับมานะ” ลูฟี่
“ดีใจที่ได้กลับมาเหมือนกัน...” ฉันพูดพร้อมกระโดดกอดลูฟี่และทุกๆ คนก็เดินมาที่พวกเรา และพวกเราทุกคนก็กอดกันอย่างคิดถึง
“พวกเราจะไม่มีจากจากกันไปอีก!!” ลูฟี่
“ใช่!” ทุกคน
“เฮ้!! เจ้าหมวกฟาง!!!”
พวกเราถอนกอดกันแล้วหันหน้าไปมองตามต้นเสียง ราชันย์ที่ตอนนี้เริ่มอยู่ไกลแล้วตะโกนเรียกลูฟี่
“ดูแลนามิให้ดีๆ นะ!!!” ราชันย์
ลูฟี่มองไปทางราชันย์แล้วฉีกยิ้มกว้าง
“อันนั้นมัน... แน่นอนอยู่แล้ว!!!” ลูฟี่
พวกเรา... จะไม่จากกันไปอีก พวกเรา... จะต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป... ตลอดไป...
ความคิดเห็น