คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Venture Love 🌺 02 Without You ...100%
2
Without You
(...100%)
เดวิโกเองก็เตรียมพร้อมจะออกไปเจอกับไอ้เฒ่าหัวงูที่มาซื้อบริการจากนักศึกษาของโดโนแวน หลังจากพาลูกสาวเข้านอนอ่านนิทานให้ฟังจนหลับไป คว้าเสื้อสูททับตัวนึกหงุดหงิดที่มีแต่เรื่องไม่รู้จบ มันอาจเป็นผลกรรมที่เคยมั่วผู้หญิงมานักต่อนักเลยมีแต่เรื่องเสื่อมเสียเกี่ยวกับผู้หญิงเข้ามาไม่หยุดหย่อน
เขาให้เฟร็ดล่อซื้อตัวนักศึกษาคนนั้นแล้ว แต่พลาดไปอย่างน่าเสียดาย ทางนั้นบอกว่ามีคนจองเอาไว้ก่อนแล้วและทุ่มเงินให้อย่างหนัก แม้ว่าจะเกเงินทับเข้าเพิ่มเป็นเท่าตัวแล้วก็ยังลากตัวมาไม่ได้ ยิ่งทำให้สงสัยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
จากที่ตั้งใจว่าจะคนสนิทไปจัดการเรื่องเอง แต่ก็ทนอยู่เฉยไม่ไหว อยากจะแก้ปัญหาและรับรู้ปัญหานี้ในมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง
“นายครับได้ชื่อคนที่ซื้อบริการจากนักศึกษาของเราได้แล้วครับ” เฟร็ดที่รอเจ้านายอยู่หน้าห้องนอนขยับตัวทันที เมื่อเห็นว่าร่างสูงของเดวิโกเดินออกมาพร้อมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“มันชื่ออะไร ทำอะไร แล้วมาทำแบบนี้มานานหรือยัง!”
“ชื่อเอกยุทธครับ เป็นนักการเมืองอาวุโสของที่นี่ ดูท่าว่าจะทำมาหลายครั้งแล้ว” คนสนิทรายงาน แต่เดวิโกจับใจความได้แต่ต้นประโยคเท่านั้น
เพราะตกใจที่ได้ยินชื่อของใครบางคนที่คุ้นเคยสนิทสนมกันมากเสียอย่างนั้น
เอกบุรุษ ไอ้เชี่ยเอก! เดวิโกอุทานอยู่ในใจ
เอกบุรุษ ซารีเอล ไมนอฟ คนนี้เป็นทั้งเพื่อนทั้งผัว เอ๊ย ไม่ใช่… เป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งคนสนิทที่สนิทเหมือนพี่น้อง เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่มีดาวเรืองพากันห้าวไปสามโลก ชวนกันฟันฟินกับน้องหนูทั่วราชอาณาจักร กระทั่งว่าทางบ้านยังส่ายหน้าเมื่อรู้ว่าเดฟและเอกออกไปย่ำราตรีด้วยกัน
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขามีลูกสาวที่รักยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจเลยต้องห่าง ๆ จากผัว เอ๊ย เพื่อนคนนี้ แล้วยังไปร่วมงานแต่งงานของมันมาอยู่เลย ก่อนหน้านี้ก็ได้ข่าวว่าแวะมาเมืองไทย คุณพระ ไม่อยากเชื่อว่ามันจะมาซื้อบริการจากนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยของเขา
แล้วแบบนี้จะไม่ให้โกรธได้ยังไงไหว!
“อีเอก!” เดวิโกคำรามออกมาอย่างเหลือทน เฟร็ดก็ขมวดคิ้วอย่างงุนงง คิดไม่ถึงว่าเจ้านายจะรู้จักกับนักการเมืองตัณหากลับคนนี้ด้วย
“เจ้านายรู้จักไอ้ผู้ชายคนนี้เหรอครับ” เลียบเคียงเอ่ยถามไปอย่างหวั่น ๆ
“ทำไมกูจะไม่รู้จักล่ะ รีบพากูไปเดี๋ยวนี้เลย กูจะอาละวาดให้บ้านแตกแน่!” เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ยอมแน่ จะขอไฟต์ให้ตายกันไปข้าง!
ด้านเสี่ยใหญ่เอกยุทธที่ไม่รู้ตัวว่าถูกเดวิโกเข้าใจว่าเป็นเอกบุรุษก็กระหยิ่มยิ้มย่อง มองดูเด็กสาวผิวบางที่หลับสนิทบนเตียงกว้าง ถูมือเข้าหากันอย่างรุนแรง หวังไว้ว่าความหวานที่จะได้รับนั้นคงหวานหยดย้อยอร่อยลิ้นอย่างที่คิดเอาไว้ในใจ
“สวยมาก สวยจริง ๆ…” พูดออกไปเหมือนเพ้อ แทบไม่เห็นเด็กหนุ่มปยุตอยู่ในสายตา
“เสี่ยชอบมากใช่ไหมครับ” ปยุตถาม ดีใจที่แผนการผ่านพ้นไปด้วยดี
“ชอบสิ เด็กคนนี้สเปกเลยละ…” เอกยุทธว่าพลางทำแววตาเป็นประกาย ใช้สายตาลามเลียร่างบางด้วยความหิวกระหาย
“แล้วหนี้ผม…” เด็กหนุ่มเลียบเคียงถาม เพราะจำนวนเงินที่ติดค้างเอาไว้นั้นมีมากจนน่ากลัว และกลัวเรื่องนี้จะรู้ไปถึงคนที่บ้านด้วย
ที่เลือกใช้วิธีขายคนรักก็เพื่อที่จะได้ไม่มีใครรู้ว่าเขาติดหนี้พนันบอลอยู่ห้าแสน ซึ่งเป็นหนี้ที่หนักมากและกลัวว่าชีวิตจะไม่มีความสงบสุขหากถูกรังควานตามทวงหนี้ตลอดเวลา
อีกอย่างกุลฉัตรอยู่ตัวคนเดียว เพื่อนฝูงก็ไม่ค่อยมีมากนัก ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเชื่อว่าเธอคงขอคำปรึกษาจากเขาคนเดียวเท่านั้น ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยก็อายที่จะลุกมาแสดงตัวและปกป้องว่าถูกข่มขืนด้วยกันทั้งนั้น และเขาจะถือโอกาสนี้ช่วยปลอบประโลมขอแต่งงาน ให้ได้อยู่ด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ของตนเองตลอดไป
“เออรู้แล้วน่า… แต่หนี้ของแกน่ะก็มีเยอะเอาเรื่องนี้ คืนเดียวเห็นท่าจะไม่ไหวมั้ง” เอกยุทธว่า แล้วก็สบตากับปยุตเหมือนจะต่อรองอยู่ในที
“หมายความว่ายังไงครับ”
“ก็หมายความว่าต้องให้เด็กผู้หญิงคนนี้อยู่กับฉันสักเดือนน่ะสิ ถึงจะคุ้มเงินที่เสียไป”
ปยุตส่ายหน้าหวือ ใจหายวูบเพราะถ้าแบบนั้นเรื่องราวจะยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่แน่
“แต่เธอยังฝึกงานอยู่นะครับ ยังเรียนไม่จบด้วย!” เขาแย้งไป แล้วก็หน้าเสียเมื่ออีกฝ่ายสวนกลับมาไม่ไว้หน้า
“แล้วหนี้ของแกล่ะ จะว่ายังไง”
“ผม…” เด็กหนุ่มก้มหน้านิ่ง หายใจติดขัดรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย
แต่ยังไม่ทันที่จะมีใครได้พูดอะไร กุลฉัตรก็งัวเงียลุกขึ้นมา ดูยังมึนงงเล็กน้อยเพราะฤทธิ์ยาสลบที่ยังหลงเหลืออยู่
“ป๊อบ…” กุลฉัตรพูดเสียงแผ่วเมื่อเห็นหน้าชายคนรัก แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นผู้ชายวัยกลางคนที่มองมาด้วยสายตากรุ้มกริ่ม มองร่างกายของเธออย่างหยาบคาย
“อะไรน่ะ…” หญิงสาวพยายามกระถดตัวหนี แต่ก็ถูกจับข้อมือไว้แน่นจากเอกยุทธ
“อย่านะ คุณจะทำอะไรน่ะ ป๊อบ ใครน่ะ ช่วยเราด้วย!” กุลฉัตรตกใจจนเหงื่อชุ่ม พยายามร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนชาย แต่ปยุตเองก็ทำอะไรไม่ถูก เขาอยากช่วยเธอพอ ๆ กับอยากให้เอกยุทธช่วยจัดการเรื่องหนี้พนันบอลให้ จึงยืนนิ่งอยู่แบบนั้นเหมือนชั่งใจว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี
“ป๊อบ ช่วยเราด้วย อย่าเข้ามานะ!” รู้แล้วว่าชายแก่คนนี้ไม่ได้ประสงค์ดีด้วย กุลฉัตรเริ่มร้องไห้ดิ้นรนตอนที่ถูกกดตัวลงบนเตียง โดยที่ปยุตอยู่เฉยไม่ยอมเข้ามาช่วย
“กรี๊ด! อย่านะ ป๊อบช่วยเราด้วย ช่วยเราด้วยสิ” น้ำตาของเด็กสาวไหลพราก พยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ก็สู้แรงเอกยุทธไม่ไหว
“มันจะช่วยเธอทำไม ในเมื่อมันเป็นคนขายเธอให้ฉันเองน่ะ…”
คำพูดนั้นทำให้กุลฉัตรตัวเย็นเยียบ น้ำตาไหลพรากเพราะความตกใจ
“ป๊อบ!” เธอครางแล้วหลับตาแน่นเมื่อถูกจับตัวไว้จนขยับตัวไม่ได้
“อีเอก!”
แต่แล้วก็มีเสียงปริศนาดังขึ้นพร้อมกับบานประตูที่ถูกผลักเข้ามาอย่างกะทันหัน ส่งผลให้คนที่อยู่ในห้องพากันสะดุ้งมองที่ประตูและได้เห็นผู้ชายตัวสูงหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน
“อีเลว มีเมียแล้วยังทำตัวเชี่ยอีกนะมึง ไม่สงสารลูกสงสารเมียบ้างรึไง!”
เป็นเดวิโกที่ตามหาชู้รักถึงที่หลังจากที่พาลูกสาวเข้านอนแล้ว ตั้งใจจะทุบผัว เอ๊ย เพื่อนสักทีสองทีให้หายแค้น ทว่าต้องชะงักเพราะคนในห้องที่ทำหน้าตกใจนั้นไม่มีใครคุ้นเคยเลยสักคน
แต่ไม่ใช่ในความรู้สึกของกุลฉัตร เธอส่งเสียงเรียกเดวิโกทันทีที่เห็นหน้าเขา
“คุณเดฟ ช่วยฉันด้วย!”
เดวิโกเมื่อได้ยินคนเรียกตัวเองก็เดินเข้าไปหา เขาอยู่ด้านนอกนานแล้วและได้ยินทุกอย่างที่คนข้างในพูดคุยกันทุกอย่าง เลยได้รู้เหตุผลว่าทำไมถึงมีคนขายตัวในมหาวิยาลัย เข้าใจว่าเป็นยอดชู้ยอดพธูเอกบุรุษ แต่กลายเป็นตาแก่พุงพลุ้ยไปซะได้
“เอ่อ… คุณเดฟ เดวิโก” เสี่ยเอกยุทธครางเสียงสั่น ด้วยรู้จักอีกฝ่ายเป็นอย่างดี เพราะโรงแรมแห่งนี้เจ้าของก็คือโดโนแวนที่ยิ่งใหญ่ เห็นว่าเด็กสาวคนนี้รู้จักเดวิโกด้วยก็เริ่มกลัว ขึงตาใส่ปยุตที่หน้าซีดตัวแข็งทื่อที่ดันไปเอาเด็กในปกครองของเดวิโกมาสังเวยตัวเองซะอย่างนั้น
“คืออย่างนี้นะครับคุณเดฟ… เด็กสองคนนี้ตกลงใจจะทำแบบนี้เอง” เสี่ยใหญ่ยกมือเช็ดเหงื่อบนหน้า จู่ ๆ ก็งานเข้าไม่รู้เนื้อรู้ตัว พยายามบอกว่าตัวเองไม่ผิดทั้งที่หลักฐานก็คาตาอยู่
“คุณเดฟช่วยฉันด้วย” กุลฉัตรลนลานขยับตัวลงจากเตียง เหมือนพระมาโปรดที่เดวิโกเข้ามาทันเวลาพอดี รีบเดินหนีขาสั่นไปซ้อนแผ่นหลังของชายหนุ่มเพื่อขอที่หลบภัย เนื้อตัวของเธอก็สั่นเทาไม่แพ้กัน ทั้งยังมึนหัวเหมือนจะวูบได้ทุกเมื่อ
“ช่วยฉันด้วย…” ว่าแล้วน้ำตาก็ไหล กุลฉัตรไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะถูกหลอกลวงแบบนี้ เสียใจผิดหวังอย่างรุนแรงเมื่อรู้ว่าเพื่อนชายเป็นคนขายเธอให้กับเจ้าหนี้เพื่อชดใช้หนี้สิน โดยที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อมันขึ้นมา ไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วยเลยแม้แต่น้อย
เพิ่งเข้าใจคำว่ารู้หน้าไม่รู้ใจก็วันนี้… วันที่เธอถูกขายทั้งเป็นอย่างเลือดเย็น
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ” เอกยุทธพูดแบบนั้นแล้วก็เดินเลี่ยงหนีออกไปทันที
แต่เฟร็ดเข้ามาขวางไว้ทัน พร้อมกับล็อกตัวให้เดินไปอีกทาง
“ตามผมมาครับเสี่ยเอกยุทธ…”
เหลือเพียงแค่ปยุตที่หน้าซีดเผือด ไม่คิดว่าแผนการที่วางเอาไว้จะล้มครืนจนน่าตกใจขนาดนี้ สายตาของเดวิโกน่ากลัวนักเขม้นมองมาเหมือนจะเผาให้ตายทั้งเป็น
“ออกไปคุยกับคนของฉันข้างนอก เรายังมีเรื่องต้องคุยกันอีกมาก ไม่ต้องคิดจะหนี เพราะหนียังไงก็ไม่พ้นหรอก” เดวิโกพูดเสียงเครียด
จนปยุตเข่าอ่อนคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับยกมือไหว้เพื่อขออภัย
“เฟร็ด เอาตัวหมอนี่ออกไป” เดวิโกออกคำสั่งเสียงห้วน ไม่พอใจอย่างรุนแรงที่ได้ยินเรื่องทั้งหมด ซึ่งเกิดขึ้นเพราะการพนันขันต่อแท้ ๆ
เฟร็ดที่จัดการส่งตัวเอกยุทธให้การ์ดคนอื่นไปแล้ว ก็เข้ามารวบตัวปยุตออกไปอีกคน โดยที่เด็กหนุ่มพูดไม่ออกด้วยความตกใจ ความวุ่นวายทั้งหมดจบลงเมื่อเดวิโกได้อยู่กับกุลฉัตรสองคนในห้อง
นัยน์ตาสีมรกตเข้มของเดวิโกกวาดมองร่างบางด้วยสายตาประเมินใหม่ ผมเผ้าเสื้อผ้าของเธอยุ่งไปหมด หน้าหวานก็เลอะเทอะเปรอะเปื้อนด้วยคราบมาสคาร่าและอายไลเนอร์สีดำ ทำให้เธอดูเหมือนผีซาดาโกะจากหนังผีญี่ปุ่นก็ไม่ปาน จำได้ว่าเธอคือคนที่นอนกับลูกสาวในห้องทำงานนั่นเอง เดวิโกทำหน้าเบ้เมื่อเธอเสยผมขึ้นเผยให้เห็นหน้าที่เป็นคราบด่าง ๆ ดวง ๆ
“เอกอยู่ไหน…” เดวิโกถาม ยังเข้าใจว่าเอกบุรุษอยู่ที่นี่ และคนตรงหน้าอาจจะรับผู้ชายหลายคนควบ ไม่สิ ไอ้ผู้ชายหน้าตัวเมียที่เพิ่งถูกเฟร็ดหิ้วปีกออกไปนั่นต่างหากที่คงรับงานซ้ำซ้อนให้คนตัวเล็กตรงหน้านี้
“เอก… เอกไหนคะ?” กุลฉัตรถามอย่างงุนงง
“ยังจะตีหน้าเซ่อถามอีก ก็เอกผัวฉันไง นายก็เหมือนกัน ทำไมเหมือนผู้หญิงขนาดนี้ ทำไมมีนมด้วย” ถามไม่ถามเปล่า แต่เดวิโกยังยื่นมือไปแตะหน้าอกของคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างลืมตัว
“ว้าว! เหมือนของจริงเลยนะ หมดไปเยอะไหมเนี่ย เอ่อ… โทษทีที่เสียมารยาท แต่อยากลองจับดูน่ะ” เดวิโกทำเสียงรู้สึกผิด
แต่กุลฉัตรอ้าปากค้าง ตกใจอย่างรุนแรงเมื่อเขาขยำหน้าอกเธออีกสองสามทีแล้วก็ปล่อย
“เอ้า! ชมนะเนี่ย แถมเธอยังดูเหมือนผู้หญิงมากเลยด้วย ว่าไง เอาเอกไปไว้ที่ไหน บอกมาเร็ว ๆ!”
หญิงสาวตกใจจนพูดไม่ออก ยกมือขยับเสื้อให้เข้าที่มากขึ้น กลัวนักกับสายตาของชายหนุ่มที่มองมาตาไม่กะพริบ
“ว่าไงละ… โอ๊ย มีเรื่องขายตัวขึ้นในมหา’ลัย คิดว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงมาขายตัว แต่ที่ไหนได้เป็นเด็กผู้ชายหรอกเหรอเนี่ย!” เดวิโกอุทานด้วยความไม่พอใจ นึกอยากตบหัวเอกบุรุษแรง ๆ รักที่เลือกจะมาซื้อบริการจากนักศึกษาชายของโดโนแวนซะได้ ทั้งที่ผู้หญิงสวยเซ็กซี่มีอีกเยอะถมเถบนโลกนี้
คนตัวเล็กยังมึนไม่หาย คิดว่าด้วยฤทธิ์ยาที่ทำให้หลับไปก่อนหน้านี้ทำให้ตัวเองหูเฝื่อนไป แต่เมื่อคิดดูดี ๆ ก็ตกใจ เขาเดวิโกเข้าใจว่าเธอเป็นผู้ชาย และถูกหลอกมาขายบริการ!
ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้คิดอะไรของเขากัน กุลฉัตรอุทานในใจอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้ไม่คิดอะไร บอกตัวเองแบบนั้น เพราะถูกมองเป็นผู้ชายแล้วมันปลอดภัยกว่าอยู่ในร่างผู้หญิง ซึ่งสามารถถูกเอารัดเอาเปรียบได้ตลอดเวลา เหตุการณ์ตัวอย่างก็เกิดขึ้นแล้ว และแทบไม่อยากเชื่อว่าปยุตจะทำร้ายกันได้ลงคอ
“นี่! จะเงียบอีกนานไหม ฉันถามถึงไอ้เอก มันไปไหนแล้วละ” เดวิโกถามซ้ำเมื่อคนตัวเล็กไม่ยอมตอบอะไรทั้งนั้น
ใบหน้าหวานซึ้งของเธอดูสวยเย้ายวน การแต่งหน้าแต่งตัวแบบนี้คือสาวประเภทสองไม่ผิดแน่ เพราะเคยไปดูทิฟฟานีโชว์ที่ภูเก็ตมาแล้ว สาว ๆ ที่นั่นแต่งตัวแต่งหน้าแบบนี้เลย เดฟมั่นใจ!
ด้วยเหตุนั้นจึงเข้าใจว่ากุลฉัตรเป็นชายที่เหมือนผู้หญิงเอามาก ๆ และเหมือนชนิดที่ว่าผู้หญิงมาเห็นยังอาย เพราะเธองดงามจับตา
ที่มั่นใจว่าเป็นชายก็ด้วยความเข้าใจผิด ตอนที่แอบฟังปยุตคุยต่อรองกับอีเสี่ยพุงพลุ้ยนั่นไม่รู้ว่าฟังยังไง ไปมาถึงได้ยินว่าเป็นนักศึกษาชายมาขายตัว และดูเหมือนว่าแฟนหนุ่มของคนตัวเล็กตรงหน้าก็ขายบริการเช่นกัน
รู้มาจากเฟร็ดที่ตามสืบเรื่องอีกนั่นแหละ นอกจากจะมีนักศึกษาหญิงขายบริการแล้ว ยังมีนักศึกษาชายขายตัวอีกด้วย ว่ากันว่าส่วนมากนักศึกษาชายที่ติดหนี้พนันบอลมักจะขายตัวเพื่อหาเงินมาจ่ายพนัน โดยเฉพาะเด็กหนุ่มที่หน้าตาดีเรียนในคณะชื่อดัง
พอจำได้ว่ากุลฉัตรเป็นนักศึกษาฝึกงานจากมหาวิทยาลัยของตนเอง และมาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ เลยปักใจว่านี่แหละ ผู้ชายหน้าสวย…
“ฉันไม่รู้ค่ะว่าคุณหมายถึงอะไร แต่ฉันตื่นมาอีกทีก็อยู่ตรงนี้แล้ว” กุลฉัตรบอกเสียงเครือ กลัวเหมือนกันว่าตัวเองจะตกเป็นเหยื่อของปยุตซ้ำแล้วซ้ำเล่า
น้ำตาของเธอเอ่อซึมและอยู่ในสายตาของเดวิโกทุกอย่าง ชายหนุ่มรู้ดีว่าตอนนี้เธอรู้สึกเช่นไรจึงเอ่ยปลอบใจ
“ไม่ต้องห่วงเรื่องไอ้แก่พุงย้อยนั่น และไม่ต้องกลัวไอ้แฟนหนุ่มของเธอด้วย ฉันให้ลูกน้องจัดการแล้ว รับรองว่าจะไม่มีใครรังแกเธออีก ทีนี้ก็บอกมาว่าไอ้เอกอยู่ไหน” เดวิโกกอดอกทำหน้าเคร่งเครียด จนกุลฉัตรส่ายหน้าหวือ ยืนยันคำพูดเดิมของตัวเอง
“ฉันไม่รู้จริง ๆ ค่ะ… ขอโทษนะคะ”
เดวิโกไม่ยอมเชื่อ แต่พอเห็นน้ำตาและความหวาดกลัวในดวงตาคู่สวยเลยไม่ฝืนใจเอ่ยถามอะไรอีก พยักหน้าให้เธอน้อย ๆ หงุดหงิดตัวเองว่าทำไมถึงได้ใจอ่อนง่ายดายนัก
“งั้นก็มาเถอะ เธอคงไม่อยากอยู่ตรงนี้นานเกินไป”
หน้าหวานของกุลฉัตรเดี๋ยวซีดเดี๋ยวแดงสลับกันแบบนั้นหลายครั้ง เมื่อเห็นสายตาแปลก ๆ ของเดวิโกมองมาทุกการเคลื่อนไหว ไม่รู้หรอกนะว่าเขาคิดยังไงว่าเธอเป็นผู้ชาย แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เธอปลอดภัยได้ ว่าเขาคงไม่คิดจะทำอะไรเหมือนกับผู้ชายคนนั้นที่คิดจะฝืนใจข่มเหงเธอ
“สรุปแล้วเป็นเพราะพนันบอล หมอนั่นเลยขายเธอให้กับแก่พุงพลุ้ย?” เดวิโกถาม แต่กุลฉัตรเองก็ไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจเรื่องอะไรทั้งนั้น เธอสบตากับเขาแล้วก็ทำหน้างุนงงอย่างที่ไม่ได้แสร้งทำมันขึ้นมา
“เอาละ เอาเป็นว่าฉันเข้าใจ แต่แน่ใจนะว่าเธอไม่ได้รู้จักกับอีเอกน่ะ”
“อีเอก” เด็กสาวทวนคำอย่างสงสัย ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาหมายถึงใคร แต่ก็จำได้ราง ๆ ว่าชายแก่ที่ซื้อตัวเธอจากปยุตชื่อเอกยุทธ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าคนเดียวกันหรือเปล่า
“ฉันไม่รู้จักเขาจริง ๆ ค่ะ…”
เดวิโกมองสีหน้าท่าทางของคนตัวเล็กอย่างละเอียด คนตรงหน้าไม่ต่างจากสาวน้อยแสนสวย ไม่ว่าจะเป็นคำพูดคำจาก็ล้วนเหมือนผู้หญิงจริง ๆ อย่างที่ไม่ได้แกล้งทำ คงจะมีจิตใจเป็นหญิงมานานแล้วเลยเป็นแบบนี้ และมันก็ดูสมตัวดี เพราะถึงจะเป็นชายแต่ก็ดูน่ารักอ่อนหวานเหมือนเด็กผู้หญิง
นึกสงสารไม่น้อยเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงอยากเกิดมาเป็นหญิงเต็มตัว ในเมื่อคนเราเลือกเกิดไม่ได้ดังนั้นก็เลยพยายามเข้าใจวิถีชีวิตของเธอแทน
“ว่าแต่เธอชื่ออะไร ปีไหนแล้ว”
“ชื่อฉันกุลฉัตร ปีสามจะขึ้นปีสี่ เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์เอกเคมีค่ะ…” คนตัวเล็กบอกไปแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจจะจำได้ว่าเธอเคยเรียนกับเขา และได้เคยคุยกันหลายครั้งเมื่อตอนที่อยู่ปีหนึ่ง
ทว่า… เดวิโกจำอะไรไม่ได้เพราะเรื่องผ่านมานานแล้ว อีกอย่างก็มีภาระหน้าที่หลายอย่างให้ต้องรับผิดชอบ เลยไม่ได้ฝังใจกับเรื่องหนหลังเท่าไหร่นัก
“ว่าแล้วเชียว เด็กวิศวะฯ นี่เอง” เดวิโกพยักหงึกหงัก ก็ไม่แปลกใจที่เธอจะถูกหลอกมาขาย เพราะเด็กหนุ่มวิศวะฯ หน้าตาดีจากมหาวิทยาลัยดังมักจะมีค่าตัวสูงกับพวกตาแก่ตัณหากลับที่อยากซื้อบริการอยู่แล้ว
ซ้ำคนตรงหน้ายังตัวเล็กเหมือนผู้หญิงแบบนี้ด้วย คนตัวเล็กเลยตกเป็นเป้าหมายง่าย ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
“คะ… ทำไมเหรอคะ” กุลฉัตรไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไม จึงถามไปก่อนจะหนาวเยือกเมื่อได้รับคำตอบ
“ก็ไอ้พวกตาแก่หัวงูมันชอบเด็กวิศวะฯ น่ะสิถามได้”
เธอเงียบกริบไม่กล้าพูดอะไรต่อ กลัวว่าปยุตจะกลับมาทำร้ายอีก อยากเอ่ยถามแทบขาดใจแต่ก็ไม่กล้าปริปาก แต่เดวิโกรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ เห็นคนตัวเล็กไม่สบายใจทุกข์หนักแบบนั้นก็สงสาร พึมพำบอกไปไม่ให้คิดมากอีก
“เรื่องเพื่อนชายของเธอที่หลอกเธอมาน่ะไม่ต้องห่วง ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว คัดชื่อออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว ทางที่ดีอย่าไปติดต่อกับหมอนั่นอีก เพราะไม่อย่างนั้นคนที่จะซวยแล้วไม่มีใครช่วยน่ะคือเธอ…”
เรื่องนี้ไม่ต้องบอกกุลฉัตรก็รู้อยู่แล้ว นึกดีใจที่ตัวเองพักกับหอพักในกำกับมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด ปยุตเลยไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการจูงมือและนั่งกินข้าวด้วยกันเท่านั้น หลายครั้งที่เขาขอให้เธอย้ายออกไปพักด้วยกันข้างนอกก็พยายามบ่ายเบี่ยง ดังนั้นเลยไม่กลัวว่าจะพบเจออีกฝ่ายอีก
ตอนนี้ใกล้จะเรียนจบแล้ว เธอเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งตั้งใจจะหาที่ทำงานดี ๆ สักที่ แล้วก็ออกจากรั้วมหาวิทยาลัยใช้ชีวิตด้วยตัวเอง
ปยุตเองก็คงไม่กล้าพบหน้าเธออีกแล้ว เธอเองก็จะถอยให้ห่างจากชายคนนั้น เชื่อว่าทางเดินคงไม่ได้มาบรรจบพบกันและจากกันไปแต่โดยดี แล้วก็ยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณเดวิโก เพราะหากไม่มีเขาก็ไม่รู้ว่าป่านนี้จะมีชะตากรรมอย่างไรบ้าง
“ไม่ต้องขอบคุณหลายรอบหรอก ครั้งเดียวก็พอแล้ว ว่าแต่เธอแน่ใจนะว่าไม่รู้จักเอกบุรุษน่ะ”
เดวิโกยังไม่ไว้ใจ กลัวเหลือเกินว่ายอดชายเอกบุรุษจะมาทำอะไรเสื่อมเสียกับเด็กของมหาวิยาลัย ถามซ้ำอย่างนั้นซึ่งก็ได้คำตอบเดิม ๆ กลับมา
“งั้นเอางี้… ฉันจะส่งคนคอยดูแลเธอห่าง ๆ ก็แล้วกัน เผื่อว่าหมอนั่นจะย้อนกลับมาอีกครั้ง”
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ” กุลฉัตรห้าม แต่เดวิโกไม่ฟังเสียง
ฉันจะให้คนคอยดูเธอไว้ เผื่อว่าจะเจออีเอกต่างหากล่ะ! เขาคิดอยู่ในใจ เพราะไม่อยากให้เพื่อนมาทำอะไรแบบนี้
เอกบุรุษน่ะแต่งงานมีลูกชายแสนน่ารักไปแล้ว จะมาหาเศษหาเลยเอากับเด็กสาววัยมหา’ลัยไม่ได้ กลัวว่าจะเสียชื่อทั้งเพื่อนทั้งมหาวิทยาลัยของตัวเองจึงตั้งใจจะดักทางเอาไว้ก่อน
ทำให้กุลฉัตรซาบซึ้งใจนักด้วยเข้าใจว่าเขาห่วงเธอซึ่งเป็นเด็กในปกครองถึงเพียงนี้ เมื่อก่อนเขาก็ช่วยเธอหลายเรื่องจึงมองด้วยความขอบคุณจากใจจริง
“ไม่เป็นไร ฉันยังไม่ค่อยไว้ใจน่ะ แล้วเธอมาทำอะไรแถวนี้ แต่งหน้าแต่งตัวแบบนั้นด้วย”
กุลฉัตรก้มมองตัวเองแล้วก็หัวเราะแห้ง ๆ สภาพของเธอยับยุ่งไปทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือหน้าผม แล้วก็เลยเวลาเลี้ยงฉลองบายเนียร์ให้รุ่นพี่นานแล้วด้วย
“มางานเลี้ยงส่งรุ่นพี่น่ะค่ะ แต่ถูกพาตัวมา… เอ่อ ซะก่อน”
ถึงตรงหน้านี้ ใบหน้าหวานของกุลฉัตรเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจจนเดวิโกไม่ซักไซ้อะไรอีก
“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นไปเก็บข้าวของซะ ฉันจะไปส่ง สภาพแบบนี้คงเข้าร่วมงานเลี้ยงไม่ได้แล้วละ” นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองตามร่างบางอีกครั้ง พาให้เจ้าของร่างสั่นสะท้านกับสายตาคู่นั้น ที่มองมาเหมือนจะสำรวจทุกซอกทุกมุมบนร่างกายของเธอ
เดวิโกก็อดทึ่งไม่ได้ที่อีกฝ่ายมีเรือนร่างบอบบางไม่ต่างจากสาวรุ่น แล้วยังดูสวยสะดุดตามากเสียด้วยสิ
กว่าจะได้แบบนี้กินยาคุมหมดไปกี่แผงเนี่ย… อยากจะเอ่ยถามจริง ๆ แต่ก็กลั๊วกลัว กลัวว่าจะถูกตบกลับมาจนหน้าหัน จึงยิ้มให้แทนเมื่อเสียงหวานพึมพำพูด
“งั้นเดี๋ยวฉันไปเก็บของก่อนนะคะ ห้องที่แต่งตัวน่าจะอยู่แถว ๆ นี้”
“งั้นก็ไปด้วยกันเลยดีกว่า” เดวิโกตัดสินใจเดินไปด้วย สำรวจคนตัวเล็กทุกการเคลื่อนไหว
เธอดูกลัวมาก ตัวสั่นเล็กน้อย เรื่องแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็คงตกใจกลัวกันหมดนั่นแหละ ที่จู่ ๆ ก็ถูกหลอกไปขาย เดวิโกมองคนตัวเล็กที่เดินไปห้องพักห้องหนึ่งแล้วก็คว้าเอากระเป๋าถือเล็ก ๆ ติดมือมาด้วย
“ของฉันมีเท่านี้แหละค่ะ…” กุลฉัตรบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
เดวิโกเลยพยักหน้าก่อนจะเดินนำเธอเดินไปขึ้นรถที่จอดรอหน้าโรงแรมเงียบ ๆ จนได้รู้ว่าเธอพักที่หอพักของบริษัทนั่นเอง
สายตาของเดวิโกมองตามไปจนร่างบางลับสายตา ก่อนจะพูดกับคนสนิทอีกครั้งเสียงเข้ม
“จัดการเรื่องไอ้เด็กหนุ่มปยุตนั่นด้วย ใช้หนี้ให้มันซะ แต่ก็ตัดสิทธิ์ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือว่าการทำงานที่กิจการโดโนแวน แล้วก็อย่าให้มันเฉียดใกล้เด็กคนเมื่อกี้นี้ด้วย…”
เฟร็ดรับคำแล้วก็ยิ้มน้อย ๆ ถึงแม้ว่าเดวิโกจะดุดันเข้มงวดแต่ก็มีน้ำใจ อย่างน้อยก็ช่วยจัดการเรื่องหนี้พนันบอลให้เด็กหนุ่มคนนั้นฟรี ๆ หลายแสน ทั้งที่ไม่ช่วยเลยก็ได้ แต่ด้วยความมีน้ำใจแล้วก็เมตตาไม่อยากให้หนึ่งชีวิตต้องสิ้นหวังมากเกินไป
ไม่สิ คงเป็นห่วงกุลฉัตรมากกว่า หากหมดเรื่องหนี้ไปแล้ว ปยุตคงไม่มายุ่งกับเธออีก
แต่ถ้ามีอีกครั้ง ชะตาของเด็กหนุ่มคนนั้นคงไม่เหลือแน่
กุลฉัตรกลับมาถึงหอและโทรกลับบอกเพื่อนที่ยังอยู่ในงานเลี้ยงบายเนียร์ ว่าจู่ ๆ ก็ไม่สบายเลยไปร่วมงานไม่ได้ เนื่องจากว่ามีหลายคนโทรมาหา คงห่วงว่าเธอหายไปเฉย ๆ ไม่ได้บอกอะไรใคร
เช่นเดียวกับปยุตที่หายไปเลย จนหลายคนคิดว่าเธอและชายหนุ่มหนีไปเที่ยวด้วยกันสองคน
“จ้ะ ตอนนี้กลับมาถึงหอแล้ว พรุ่งนี้ต้องเข้าไปทำงานแต่เช้าเลยอยากจะนอนพักน่ะ” กุลฉัตรบอกกับเพื่อน และยืนยันว่าไม่ได้ไปไหนกับปยุตทั้งนั้น
เธอมองตัวเองในกระจกแล้วก็ถอนหายใจ ไม่นึกเลยว่าเพื่อนชายจะคิดร้ายกับตัวเองแบบนั้นถึงกับขนาดขายเธอเพื่อไถ่หนี้พนันได้ลงคอ ไม่คิดถึงความสัมพันธ์ปีกว่าที่มีให้กันเลยสักนิด ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
เดวิโกแม้จะดูใจดีร่าเริงแต่ความจริงแล้วเป็นคนจริงคนหนึ่งแล้วก็น่ากลัวไม่น้อยเลยด้วย เขาคงทำอะไรบางอย่างกับปยุตแน่นอน
“งั้นเรากลับเข้างานก่อนนะ มีแลกของขวัญกันแล้วละ ฉัตรก็นอนพักซะนะ…”
“จ้ะ เดินทางกลับหอดี ๆ นะ” พูดจบกุลฉัตรเพื่อนจากนั้นก็กดตัดสายทิ้ง นึกอยากจะโทรไปด่าว่าปยุตสักครั้งแต่ก็ไม่อยากสร้างเวรกรรมมากไปกว่านั้น จึงตัดสินใจบล็อกเบอร์โทรของชายหนุ่ม และลบทิ้งมันออกจากโทรศัพท์ของตัวเองเงียบ ๆ
ยอมเชื่อคำพูดของเดวิโกว่าเขาจะจัดการเรื่องให้เอง ไม่ต้องห่วงว่าปยุตจะหวนกลับมาทำร้ายอีกครั้ง แม้จะยังไม่ค่อยวางใจนักแต่กุลฉัตรก็พยายามเชื่อ
เมื่อฝึกงานเธอก็มาทำงานในบริษัทวิจัยการผลิตกระจกนิรภัยซึ่งอยู่ในเครือโดโนแวน มีหอพักสวัสดิการให้ด้วย คนนอกไม่สามารถเข้าออกได้หากไม่ได้รับอนุญาต เช่นเดียวกับที่มหาวิทยาลัย เธออยู่หอในมาโดยตลอด ถ้าปยุตถูกไล่ให้พ้นจากสภาพการเป็นนักศึกษาแล้ว ก็เชื่อว่าเขาคงหาทางเข้าใกล้เธอได้ยากแน่นอน
กุลฉัตรถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คิดว่าตัวเองโชคดีหลายครั้ง โดยมีเดวิโกเป็นดาวนำทางให้…
แต่เช้าวันใหม่เธอก็ต้องเปลี่ยนแปลงความคิดของตัวเอง
เมื่อ…
เดวิโกเรียกให้เข้าพบ พร้อมกับถูกถามคำถามแปลก ๆ หลายอย่าง
“ว่าแล้วเชียวว่าทำไมคุ้นหน้านัก ที่แท้ก็คนที่เจอตอนนอนกับดาวเรืองนี่เอง…”
กุลฉัตรอยากถามกลับ ว่าเขาเพิ่งรู้หรือ คิดว่าเขาทราบเรื่องตั้งแต่เมื่อคืนแล้วซะอีก
“นี่เป็นสายให้ไอ้คลาร์กใช่ไหม แล้วก็เป็นกิ๊กกับอีเอกด้วย!”
ต้องใช่แบบนั้นแน่ ๆ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เจอกับเธอบ่อยครั้งอย่างนี้แน่
“ฉันไม่รู้จักใครเลยจริง ๆ นะคะ” เธอแย้ง
นอกจากจะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ชายแล้วยังถูกใส่ความว่าเป็นสายอะไรอีกก็ไม่รู้
“อย่ามาโกหกกันนะ ฉันไม่เชื่อหรอก บอกมาว่าใครส่งเธอมากันแน่ ระหว่างไอ้คลาร์กกับไอ้เอก” เดวิโกยังดื้อดึงไม่เปลี่ยน ทำให้กุลฉัตรถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายที่เขาพูดไม่รู้เรื่องบ้างเลย
“โอ๊ย… ถ้าไม่มีอะไรฉันขอตัวไปทำงานต่อนะคะ มีแล็บที่ต้องตรวจค่ะ…”
เมื่อวานหลงเข้าใจว่าเขาเป็นผู้ชายที่พึ่งพาได้ไปได้อย่างไรกัน ตอนนี้เขาไม่ต่างจากผู้ชายบ้าอำนาจพูดจาไม่รู้เรื่องเลย กุลฉัตรเดินหนีด้วยความปวดหัว แต่เดวิโกก็ยังเดินตามมาตอแย
“นี่ บอกมานะว่าเธอเป็นสายสืบให้ไอ้คลาร์กใช่ไหม!”
ตั้งใจจะรอลิฟต์แต่มันยังไม่ลงมาเสียที กุลฉัตรจึงตั้งใจจะเดินลงบันไดตรงทางหนีไฟแทน เดวิโกยังไม่เลิกราเดินตามหลังและพูดจาวกวนไม่หยุด
“นี่ ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ นอกจากจะแย่งเอกไปจากฉันแล้วเธอยังตั้งใจจะลักพาตัวดาวเรืองไปให้ไอ้คลาร์กมันใช่ไหม!”
“คุณคะ บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้เรื่องจริง ๆ” สาวน้อยแทบจะร้องไห้เพราะเขาไม่ฟังเสียงอะไรเลย
กุลฉัตรรีบเดินหนีไม่อยากทะเลาะกับเขาให้ปวดหัวมากไปกว่านี้ คงเพราะรีบร้อนมากไปหน่อยเลยแทบจะพลัดตกบันได โชคดีที่เดวิโกรั้งเธอไว้ทันก่อนที่จะล้มหน้าทิ่มลงกับพื้น
“ขอบคุณค่ะ…” กุลฉัตรพูดแล้วก็กรี๊ดลั่น เพราะกลายเป็นว่าร่างสูงกลิ้งตกบันไดไปเรียบร้อยแล้ว…
เพราะเป็นต้นเหตุทำให้ท่านประธานตกบันได และเป็นคนเดียวที่อุ้มตัวแม่หญิงดาวเรืองได้ กุลฉัตรเลยต้องอุ้มดารกาที่ร้องไห้โยเยเพราะคุณป๊าครวญครางกุมแขนเข้าโรงพยาบาลอย่างทุลักทุเล ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตช่วงนี้ถึงได้พลิกคว่ำพลิกหงายหายใจหายคอไม่ทัน
“โอ๋ ๆ ไม่เอาไม่ร้องนะคะแม่หญิงดาวเรือง คุณป๊าไม่เป็นไรหรอกค่ะ” พยายามปลอบใจแม่หนูน้อยที่ร้องไห้ไม่หยุดเพราะคิดว่าคุณป๊าจะเป็นอะไรมาก
“คุณป๊าต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลยค่ะ…” แม่ดอกดาวเรืองร้องไห้สะอื้น ช่วงที่กำลังชุลมุนอยู่นั้น นางพยาบาลก็เดินเข้ามาใกล้ และขอให้กุลฉัตรเข้าไปดูอาการของเดวิโกที่ร้องโวยวายไม่ยอมเย็บแผลท่าเดียว
“คุณภรรยาคะ… คุณช่วยเข้าไปดูสามีคุณหน่อยค่ะ เขาบอกว่าจะไม่ยอมทำแผลจนกว่าจะพบคุณค่ะ”
“คะ? ฉัน ฉันน่ะเหรอคะ”
เฮ้ย! เธอไปเป็นเมียของเดฟตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เรื่องนี้มันใช่ซะที่ไหนกันเล่า
นิยายเรื่องนี้หมดสัญญากับทางสำนักพิมพ์แล้ว
มู่เลยนำมาทำ E-Book เองค่ะ
สามารถซื้อ E-Book ได้ที่ Meb เลยนะคะ
กดที่รูปปกใหม่เพื่อนซื้อได้เลยค่ะ
ขอบคุณจากใจมาก ๆ เลยนะคะ
หรือ >>Click!!<<
Song :: 모리(morrie) - Hello, Music
ความคิดเห็น