คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Venture Love 🌺 00 Prologue...
สุภาพบุรุษเสี่ยงรัก
มิรา
แม้นเจ้าจะได้ข้างไหนแน่ ให้ประจักษ์ทักแท้จงหนักหนา
แม้นจะได้ข้างระตูจรกา ให้เทียนพี่ยานั้นดับไป
แม้นจะได้ข้างอิเหนากุเรปัน ให้รัศมีเพลิงนั้นแจ่มใส
ให้เทียนจรกาดับทันใด ขอให้เห็นประจักษ์บัดนี้
อันนางบุษบานงเยาว์ จะได้แก่อิเหนาเป็นแม่นมั่น
จรกาใช่วงศ์เทวัญ แม้นได้ครองกันจะอันตราย
จากวรรณคดีเรื่องอิเหนา ตอนบุษบาเสี่ยงเทียน
Prologue
โทรอนโต[1] แคนาดา
‘คลาร์ก ครอสโนว’ เดินออกจากห้องนอนของตนเองแต่เช้าเพื่อไปยังห้องนอนของลูกสาวที่รักยิ่งกว่าดวงใจ
‘ดารกา แคโรไลน์ โดโนแวน ครอสโนว’ คือชื่อของแม่หนูน้อย ซึ่งทั้งชื่อสกุลนั้นยาวมากเหลือเกิน
ทั้งนี้เนื่องมาจากเรื่องวุ่น ๆ ที่ทำให้ลูกสาวและภรรยาอย่างครีตาต้องไปอยู่กับบ้านโดโนแวน ซึ่งเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมานาน แต่แล้วเพราะแม่ดอก ‘ดาวเรือง’ ตัวน้อยแท้ ๆ ที่ชักพาให้โดโนแวนและครอสโนวได้มาบรรจบกันอีกครั้ง
ลูกสาวของเขามีพ่อสองคน
ใช่… ไม่ผิดหรอก สองคนจริง ๆ
คนหนึ่งก็คือเขา คลาร์ก ครอสโนว คนนี้ และอีกคนหนึ่งหาใช่ใครที่ไหน ถ้าไม่ใช่ ‘เดวิโก โดโนแวน’ ซึ่งเป็นปาป๊าสุดที่รักของแม่หนูดาวเรือง
อ้อ… ชื่อดาวเรืองนี่ก็เป็นชื่อที่เดวิโกตั้งให้ น่ารักน่าเอ็นดูสมตัวไม่ผิด แต่ก็มีใครอีกหลายเรียกชื่อเล่นของดารกาว่าดาร์ลิงเพราะเรียกง่ายกว่า
ซึ่งถ้าหากจะอธิบายความสัมพันธ์ของแม่หนูดาวเรืองว่าทำไมถึงมีพ่อสองคน ก็จะอธิบายสั้น ๆ ได้ว่า
พ่อผู้ให้กำเนิด คือ คลาร์ก ครอสโนว
และพ่อที่ดูแลมาตั้งแต่เกิด คือ เดวิโก โดโนแวน
เช่นนั้นนั่นเอง
หลังจากที่ปรับความเข้าใจกับ ‘ครีตา’ ผู้เป็นภรรยาได้แล้ว คลาร์กก็ปลูกบ้านอยู่ใกล้กับคฤหาสน์โดโนแวนเพราะอยากให้แม่ดอกดาวเรืองได้อยู่ใกล้ชิดทั้งสองบ้าน
ซึ่งแม่หนูดารกานั้นเป็นเหมือนหัวใจของทั้งสองตระกูล ไม่ว่าใครก็ล้วนรักหลงด้วยกันทั้งหมด ลืมความบาดหมางทุกอย่างไปจนสิ้นเพราะความน่ารักน่าเอ็นดูของนางฟ้าตัวน้อย
“ดาร์ลิงลูก…” คลาร์กส่งเสียงเรียกลูกสาว เมื่อคืนนอนกับแม่ของลูกมาทั้งคืนเลยอยากจะนอนกอดลูกสาวบ้าง
ดาวเรืองนั้นมักจะสลับนอนค้างคืนที่บ้านโดโนแวนและครอสโนวหลังละคืน กว่าจะแย่งชิงตัวมาจากอุ้งมือไอ้เดวิโกได้ก็แทบร้องไห้
เพราะเดวิโกรักดารกามาก มากชนิดที่หลายคนก็ไม่คาดคิดมาก่อน คงเป็นเพราะว่าอีกฝ่ายได้เลี้ยงดูแม่หนูน้อยมาตั้งแต่ที่ตัวยังแดง ๆ จึงเกิดความรักความผูกพันแน่นแฟ้น
ทุกอย่างก็เป็นเพราะเขาทำร้ายครีตาไว้สารพัดอย่าง กดดันจนเธอต้องหอบลูกในท้องจากไป กว่าจะรู้ใจตัวเองว่ารักแม่ของดาวเรืองมากแค่ไหน คลาร์กก็แทบไม่เป็นผู้เป็นคน ทนทรมานกับการที่ต้องอยู่โดดเดียวไม่มีนางอันเป็นที่รักอยู่เคียงข้าง
ทุกอย่างผลักดันให้ครีตาต้องไปอยู่กับโดโนแวน ได้เจอกันและได้ผูกพันกันแนบแน่น แม้จะเจ็บใจที่ลูกสาวปันความรักให้คู่แข่งตัวร้าย แต่คลาร์กก็ดีใจที่ครีตาและดารกามีคนดีคอยดูแลตอนที่ไม่ได้อยู่ดูแลด้วยตัวเอง
แน่นอนว่ามันเป็นเพราะความเลวของเขาเองที่ทำร้ายลูกเมีย ฉะนั้นถึงได้ยอมให้แม่หนูดาวเรืองใช้นามสกุลของเดวิโกด้วย
“ดาร์ลิง มาหาแด๊ดดี้หน่อยลูก…” ชายหนุ่มยกมือเคาะประตูห้องนอนลูกสาวที่นอนคนเดียว
ไม่รู้ว่าไอ้เดวิโกมันฝังความคิดอะไรในหัวลูกสาว เมื่อวานก็มาบอกว่าจะนอนคนเดียว เพราะอยากให้เขาได้กอดครีตานอนบ้าง
เล่นเอาครีตาอายม้วนต้วนพูดอะไรไม่ออกเป็นนาน เห็นแล้วก็ทั้งขำทั้งเอ็นดู เมื่อคืนเลยได้เข้านอนกับภรรยาสองคน ให้ลูกสาวนอนคนเดียว เช้ามาเลยรีบมาหาด้วยความคิดถึง กะว่าจะดึงตัวดารกาเอาไว้แล้วค่อยให้เดวิโกมารับตัวเอาตอนเย็น
“ฮันนี่ เปิดประตูให้แด๊ดดี้หน่อยนะคะลูก” เขาตบมือรัวที่ประตู แต่ด้านในไม่มีเสียงใดตอบกลับมาเลย
“แด๊ดดี้เข้าไปนะคะ”
พูดแค่นั้นก่อนจะบิดลูกบิดเข้าไปข้างใน สองเท้าก้าวย่างเข้าไปด้านในมองไม่เห็นร่างเล็กบนเตียงอย่างที่ควรจะเป็น หัวใจของคนเป็นพ่อหล่นวูบ นึกอุทานลั่นในอก
ไอ้เดฟ มึงเล่นกูแล้วไง
“ฮันนี่ อยู่ไหนคะ ห้องน้ำรึเปล่าคะ!” คลาร์กร้องเรียกก่อนจะผลักประตูห้องน้ำเข้าไปแต่ไม่เจอตัว
“ไอ้เดฟ!”
คลาร์กวิ่งกลับเข้าไปยังห้องนอน เห็นครีตานอนคว่ำหน้านอนซบหน้ากับหมอนใบใหญ่ แผ่นหลังเปลือยเปล่าเห็นรอยจ้ำสีกุหลาบประปราย ถ้าปกติคงเข้าไปแกล้งอีกทีแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาทำอย่างนั้น คงต้องไฟต์กับป๋าเดฟของดารกาซะก่อนเพราะตามหาตัวลูกสาวไม่เจอ
เขายกโทรศัพท์ต่อสายหาเดวิโก แล้วได้ยินแค่เสียงบริการรับฝากข้อความเท่านั้น ไม่รู้จะหันไปทางไหนก็ตัดสินใจต่อสายหาบ้านใหญ่โดโนแวนต่อทันที
“ผมคลาร์กครับ” ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไป เมื่อได้ยินเพียงออ[2] คุณย่าของดาวเรืองรับสายแล้ว
“อ้อ จ้ะ ว่ายังไงลูก” เพียงออถามเสียงเรียบ รักเอ็นดูทุกคนเหมือนลูกเหมือนหลานจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือว่าคลาร์กเองก็ตาม
“ดาร์ลิงอยู่ที่นั่นไหมครับ” คลาร์กพยายามระงับความรู้สึกอารมณ์เอาไว้ เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่กว่าแล้วก็เป็นย่าของดารกาด้วย
“อ้าว… เดฟไม่บอกเหรอลูก ว่าจะพาหนูดาร์ลิงไปเที่ยวน่ะ ไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะลูก”
ได้ยินคลาร์กก็ตัวเย็นวูบ ไม่อยากเชื่อว่าเดวิโกจะกล้าขนาดนี้
“ครับ ขอบคุณครับ” หลังจากวางสายแล้วคลาร์กก็กำหมัดแน่นจนตัวสั่นน้อย ๆ ไม่รู้เลยว่าเดวิโกพาลูกสาวตัวน้อยไปที่ไหนกันแน่
ตอนที่กำลังฉุนเฉียว ครีตาก็งัวเงียตื่นขึ้นมาพอดี หญิงสาวเห็นว่าสามีกำลังขบฟันบ่นสบถไม่หยุดปากก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังโมโหอยู่
เรื่องที่ทำให้คลาร์กโกรธได้น่ะ มีไม่กี่เรื่องหรอก แต่เห็นแล้วก็ไม่ค่อยสบายใจจึงเรียกสามี ไม่อยากให้เขาอารมณ์เสียแบบนี้ข้ามวัน คนที่จะพานถูกลูกหลงน่ะ คือเธอคนเดียว
เวลาเขาโกรธ ยิ่งเซ็กซี่มากซะด้วยสิ ครีตาคิดอย่างอาย ๆ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องคิดถึงเรื่องนั้นด้วย
ยามที่คลาร์กโมโห เขามักจะมาระบายอารมณ์กับเธออยู่เสมอ เขากอดจูบลูบไล้ แล้วก็ถาโถมเข้าหาราวกับคนอดอยากปากแห้ง กว่าจะอารมณ์ดีได้ก็ต้องคอยกอดตอบคอยจูบตอบจนตัวอ่อนระทวย
“คลาร์ก…”
เจ้าชื่อหันไปตามเสียง เห็นร่างบางพลิกตัวนอนหงายดึงผ้าห่มมาคลุมกายที่เปลือยเปล่าเอาไว้ ถึงจะเคยเห็นมาหลายครั้งแล้ว แต่ยามที่สาวเจ้าเอียงอายก็ทำให้ตื่นเต้นเหมือนเพิ่งได้เจอกันครั้งแรกอยู่ร่ำไป
“โมโหอะไรคะ…” เธอถาม คลาร์กเองก็พ่นลมหายใจอย่างฉุนเฉียว
“ก็ได้เดฟน่ะสิ เอาดาร์ลิงไปอีกแล้ว ไม่รู้ว่าไปไหนด้วย จะพาตะลอนไปอเมริกาหรือเปล่าก็ไม่รู้!” เขาพูดด้วยความโกรธ ดึงตัวครีตามากอดเอาไว้เพื่อระงับอารมณ์ ได้กอดร่างนุ่มนิ่มเลยช่วยชะลอความแค้นเคืองลงไปได้บ้าง
“ไม่เอาน่า อย่าคิดมากเลยนะคะ คุณเดฟเขาคงคิดถึงยัยหนู” ครีตายิ้มตอนที่อยู่ในอ้อมแขนของสามี
เรื่องจะพูดคุยกันดี ๆ กันน่ะ ไม่มีหรอก ไม่ชกกันก็ดีถมเถไปแล้ว
“มันน่าโมโห อยากมีลูกทำไมมันไม่ทำเอง!”
“น่า นะคะ อย่าคิดมากเลยนะคะ” หญิงสาวยกมือลูบท่อนแขนแข็งแรงของสามีเพื่อปลอบให้อารมณ์เย็นลง
“แล้วนี่ ถ้าเรามีลูกอีกคน มันจะแย่งไปอีกรึเปล่า”
“คุณน่ะ” ครีตาว่าอย่างเขิน ๆ หลับตาลงเมื่อเห็นว่าคลาร์กอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
“คอยดูเถอะ ถ้าดาร์ลิงกลับมาเมื่อไหร่คราวนี้จะลักพาตัวไปเที่ยวบ้าง”
“ไปไหนคะ” คนตัวเล็กช้อนตาถาม เห็นคลาร์กยิ้มที่มุมปากจาง ๆ คราวนี้เลยสบายใจว่าชายหนุ่มคงอารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว
“ไปไหนกันก็ได้ สามคนพ่อแม่ลูก จะว่าไปเรายังไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนด้วยกันเลยนะ”
ครีตาคิดตามแล้วก็ยิ้มที่มุมปากเวลาผ่านอะไรก็เปลี่ยนไป จากคนที่แสนมุทะลุดุดันก็กลายเป็นคนที่มีเหตุผลมากขึ้น ไม่ใช้อารมณ์เป็นใหญ่เหมือนที่ผ่านมาอีก
“ไปฮันนีมูนกัน เผื่อว่าเราจะได้น้องให้ดาวเรืองอีกสักคน”
“…” ครีตาเงียบกริบไม่ได้พูดอะไร เธอถอนหายใจบางเบาเมื่อถูกชายหนุ่มกดร่างให้นอนหงายใต้อาณัติของจอมมารคลาร์กอีกครั้ง
ว่าแล้วเชียว วิธีการคลายเครียดของสามีไม่พ้นวิธีการรังแกเอารัดเอาเปรียบเธอนี่เอง…
จันทบุรี ประเทศไทย
เดวิโกหัวเราะในคออย่างชอบใจอยู่คนเดียว เมื่อมารดาโทรมาบอกว่าคลาร์กหัวเสียที่รู้ว่าเขาพาตัวลูกสาวตัวน้อยหนีมาเที่ยวเมืองไทยกันสองคนจนได้
ตอนนี้แวะมาพักสวนผลไม้ขนาดใหญ่ของประสงค์ ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ของหนุ่ม ๆ สามบุรุษตระกูลไมนอฟ ซึ่งผูกพันสนิทสนมันมานานแล้ว
ประสงค์ต้อนรับขับสู้สองพ่อลูกอย่างดีเพราะเคยเจอกันหลายครั้งแล้ว เห็นหลานตัวเล็ก ๆ ก็นึกเอ็นดูและดีใจที่ตัวเองกลายเป็นคุณปู่แล้ว รวมถึงสามบุรุษ อย่างหนึ่งบุรุษ[3], เอกบุรุษ[4] และ มหาบุรุษ[5] ก็มีหลานตัวเล็ก ๆ ให้เลี้ยงหลายคน ทำเอาสวนผลไม้แห่งนี้วุ่นวายไปเลยทีเดียว
“เอกไม่ยอมรับสายเลย” เดวิโกพึมพำตอนที่มัดผมให้ลูกสาวไปด้วย
“สงสัยว่าคงติดธุระยุ่ง ๆ อยู่ละมั้ง ว่าไงลูก อร่อยไหม” ท้ายเสียงประสงค์เอ่ยถามกับหลานสาวตัวน้อย ที่กำลังเอร็ดอร่อยกับมังคุดที่กินหมดไปแล้วหลายลูก
“อร่อยมากเลยค่า” ดาวเรืองตัวน้อยฉีกยิ้มหวาน นั่งตักบิดานั่งกินขนมผลไม้อย่างมีความสุข แต่เดวิโกนั้นกำลังร้อนใจเพราะติดต่อเอกบุรุษไม่ได้เลย
ตั้งใจจะมาเที่ยวกันสักหน่อย ก่อนหน้านี้ดารกายังเล็กนักเลยกระเตงเที่ยวไม่ได้ แต่กลายเป็นว่าติดต่อหาคู่ขาไม่ได้เสียอย่างนั้น
“คุณปู่จะไปไหนค้า” ดารกาถามประสงค์ที่คว้าหมวกสานทำเหมือนตรงไปทางไหนสักที่
“ปู่จะเข้าสวนค่ะ หนูอยากกินอะไรไหมดาวเรือง”
“อะไรก็ได้ค่า…” สาวน้อยรับคำเสียงหวาน จนคนฟังอดยิ้มตามไม่ได้
“คงโทรไม่ติดแล้วละครับ เดี๋ยวผมว่าจะเข้ากรุงเทพฯ เลยดีกว่า รอแบบนี้คงไม่ได้เจอกันแน่” เดวิโกพูดอย่างตัดสินใจ เพราะเอกบุรุษไม่ยอมรับสายสักที
“งั้นก็ไปดีนะพ่อ แม่หนูดาวเรืองด้วย แล้วแวะมาเยี่ยมปู่ด้วยนะคะ”
“ค่า…”
เดวิโกล่ำลาประสงค์ก่อนจะอุ้มตัวลูกสาวที่หอบมังคุดมาเต็มสองมือออกจากบ้าน ดารกาเองก็ตื่นเต้นดีใจกับบ้านสวนที่มีแต่ของกินอร่อย ๆ ยกมือโบกลาให้กับคุณปู่แสนใจดีแล้วก็กอดคอบิดาขึ้นรถตู้คันใหญ่เพื่อไปเที่ยวที่อื่นต่อ
สองพ่อลูกนิสัยเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน คงเป็นเพราะเดวิโกเลี้ยงดูลูกสาวด้วยตัวเอง แม่หนูน้อยเลยซึมซับเอานิสัยหลายอย่างจากปาป๊ามาเต็ม ๆ แถมเดวิโกก็รักหลงทั้งรักเอาอกเอาใจทุกอย่าง ดารกาเองก็น่ารักนัก ไม่เคยทำนิสัยเสียแม้ว่าจะมีหลายคนรุมรักเอาใจ เป็นเด็กดีว่านอนสอนง่ายใครเห็นใครก็รัก
“ปาป๊าขา เราจะไปไหนกันคะ” ดารกาถามพ่อ มือยังถือมังคุดส่งเข้าปากไม่หยุด จนหน้าเล็กปากจิ้มลิ้มเปื้อนเลอะเทอะไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นลูกสาวคนนี้ก็น่ารักน่าเอ็นดูนักในสายตาของคนเป็นพ่อ
“เราจะไปหาป๋าเอกกันค่ะ”
“ป๋าเอก?” ดาวเรืองตัวน้อยย้อนถามเสียงใส ไม่เคยได้ยินชื่อป๋าเอกมาก่อนเลยไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน
“ใช่ค่ะ ป๋าเอก เป็นป๊ะป๋าของแม่หญิงดาวเรืองอีกคนยังไงละคะ”
เดวิโกยิ้มกว้าง พอลูกสาวโตมากพอที่จะพาเที่ยวด้วยแล้ว ทีนี้ละ ขอเวลาให้เดฟได้แรดสักหน่อยเถอะ เก็บกดมานานต้องปล่อยของให้หมดก๊อก
แน่นอนว่าต้องเที่ยวหลังจากลูกหลับ และกลับก่อนที่ลูกตื่น มันคือคติพจน์ของเดวิโกคนนี้
และผู้ที่จะมีชะตาขาดก็ไม่แคล้วเพื่อนร่วมสุขทุกข์คู่แท้คู่ยากอย่าง เอกบุรุษ ซารีเอล ไมนอฟ หรอก!
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
“ปาป๊า ร้อนจังเลยนะเออ”
เพราะชินกับอากาศเมืองหนาวมาโดยตลอดทำให้ดารกาไม่สบายตัว พาให้คนเป็นพ่อพลอยร้อนรุ่มตามไปด้วย
“งั้นเดี๋ยวเราแวะเข้าไปมหาวิทยาลัยโดโนแวนกันดีไหมคะลูกสาวขา” เดวิโกอุ้มลูกสาวมานั่งตักเช็ดเหงื่อให้อย่างเอาใจ
“มหา… วิดท้ายาลัย” เสียงเล็กที่ขึ้นลงสูง ๆ ทำให้เดวิโกหัวเราะไม่หยุด มีลูกสาวก็ชื่นใจอย่างนี้นี่เอง
“ค่ะ คุณย่าสร้างมหาวิทยาลัยขึ้นมาค่ะ คุณย่าบอกว่าเด็ก ๆ จะได้เรียนหนังสือกันมาก ๆ ป๊ามาดูงานที่นี่พอดีเลย เราแวะไปนั่งพักกันดีกว่าเนาะ”
มหาวิทยาลัยที่ว่า เป็นมหาวิทยาลัยในเครือของโดโนแวนที่มีเพียงที่เดียวคือเมืองไทย ซึ่งการันตีว่าถ้าจบออกไปแล้วทุกคนจะได้งานทำอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกิจการในเครือของโดโนแวนเอง ซึ่งมีคณะสาขาเรียนไม่มาก แต่ก็ครอบคลุมกิจการของที่มีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบริหารธุรกิจ อุตสาหกรรม หรือทางด้านวิศวกรรมศาสตร์
เดวิโกขอมาดูงานที่นี่ ทั้งยังตั้งใจจะมาเป็นอาจารย์สอนคณะวิศวกรรมศาสตร์ด้วยเช่นกัน อยากมาอยู่ไกล ๆ เพราะไม่อยากให้ลูกสาวใกล้ชิดกับคลาร์กมากเกินไปอย่างไรเล่า ฮิ ๆ…
“อีกเดี๋ยวหนูก็จะได้เรียนมหาวิทยาลัยเหมือนกัน ป๊าจะเข้าไปคุยงานแป๊บนึงนะคะลูก หนูอยู่กับคุณลุงเฟร็ดไปก่อนนะคะลูก”
“ได้ค่า…” ดาวเรืองตัวน้อยเข้าใจอะไรง่ายอยู่แล้ว พยักหน้ารับอย่างน่ารัก เดินจูงมือกับลุงเฟร็ดออกไปซื้อไอศกรีมที่ร้านสะดวกซื้อ
ขณะที่เดวิโกก็เลือกที่จะแวะเข้าไปดูงานโดนที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า เพราะตอนที่ดารกาบ่นว่าร้อน รถแล่นผ่านมหาวิทยาลัยโดโนแวนพอดีเลยตัดสินใจเข้ามา
เดวิโกคุยงานกับอธิการบดีของมหาวิทยาลัยไม่นานนัก เพราะตั้งใจจะเข้ามาบอกด้วยตัวเองว่าอีกสองวันจะเข้ามาดูงานอย่างจริงจัง มาครั้งนี้เพราะตั้งใจจะดูบรรยากาศในมหาวิทยาลัยเท่านั้น
แม้จะเป็นมหาวิทยาลัยขนาดกลางแต่โดยรวมแล้วทุกอย่างก็เหมือนกับมหาวิทยาลัยทั่วไป มีชุดเครื่องแบบนักศึกษาเพื่อความเป็นระเบียบ ซึ่งก็คล้ายกับชุดนักศึกษาของไทยทุกอย่าง เว้นแค่เข็มและตราประจำมหาวิทยาลัยเท่านั้นที่ออกแบบเป็นตราของมหาวิทยาลัยของโดโนแวน
เดวิโกเดินลัดเลาะไปแถวสนามกีฬาขนาดใหญ่ พยักหน้าพึงพอใจที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้คึกคักมีชีวิตชีวา
“แต่ก็ร้อนเอาเรื่อง…” บ่นกับตัวเองก่อนจะคลายไทเส้นสวยสีแดงเลือดหมูออกเล็กน้อย พลางถอดสูทออกจากตัวไปด้วย
เสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกชื้นด้วยเหงื่อเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าว มือหนาจับคอเสื้อเขย่าเพื่อไล่เอาไอร้อนออกจากตัว ก่อนจะหันไปตามเสียงเมื่อมีใครคนหนึ่งเรียกจากทางด้านหลัง
“พี่คะ…”
“ครับ?” เดวิโกพูดด้วยภาษาไทยที่ชัดเจน
ช่วยให้สาวน้อยที่หัวใจเต้นตุ้มต่อมยิ้มกว้าง ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้างตอนแรกคิดว่าเขาเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนซะอีก
แต่เมื่อเห็นไทสีน้ำตาลเลือดหมูก็มั่นใจ ว่าคนตรงหน้าเป็นรุ่นพี่คณะวิศวกรรมศาสตร์อย่างแน่นอน เพราะเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงแสล็กสีดำดูเหมือนนักศึกษาทั่วไป หรือไม่ก็อาจจะเป็นรุ่นพี่ปริญญาโทก็ได้
“หนูขอลายเซ็นพี่หน่อยได้ไหมคะ ตอนที่ประชุมเชียร์ พวกพี่ว้าก[6]ให้ล่ารายชื่อรุ่นพี่ให้ได้ครบสองร้อยชื่อน่ะค่ะ”
“รุ่นพี่ พี่ว้าก?”
เดวิโกทวนคำ แอบยิ้มที่ตัวเองดูเหมือนรุ่นพี่มากกว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรืออาจารย์ที่มีลูกสาวแล้วคนหนึ่ง
“เอ่อ แต่…”
แต่เดวิโกอึกอักเพราะตนเองไม่ใช่รุ่นพี่อะไรที่ว่านั่นเลย ยังท้วงไม่จบแม่สาวน้อยผิวขาวร่างบางก็ล้วงเอาสมุดบันทึกขนาดใหญ่ออกมากางตรงหน้าแล้ว
แม้จะไม่ชำนาญภาษาไทยมากนัก แต่เพราะมีมารดาเป็นคนไทยและถูกปลูกฝังความเป็นไทยมาหลายอย่างทำให้พออ่านออกเขียนได้ นัยน์ตาสีเขียวเข้มมองดูกระดาษตรงหน้าก่อนจะกะพริบตาถี่
หือ… อะไรกันน่ะ กระดาษแผ่นใหญ่นี่มันอะไรกัน
“ใบกู้เงิน ทะเบียนสมรส… คืออะไรน่ะ!”
ยังไม่ทันที่เธอจะได้อธิบาย เดวิโกก็ฉีกสมุดของหญิงสาวออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเสียแล้ว
[1] โทรอนโต (Toronto) โทรอนโตเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐออนแทรีโอของแคนาดา ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีหลายเชื้อชาติมากที่สุดเมืองหนึ่ง เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ ศิลปะ วัฒนธรรมของประเทศ รัฐบาลแคนาดาได้จัดให้โทรอนโตเป็นเมืองหลวงวัฒนธรรมของประเทศ
[2] คริสเตียน โดโนแวน และ เพียงออ จากนิยายเรื่อง อริรักจอมมาร เขียนโดย มิรา
[3] หนึ่งบุรุษ ไมนอฟ และ พิมาลัย จากนิยายเรื่อง สุภาพบุรุษซาตาน เขียนโดย มิรา
[4] เอกบุรุษ ไมนอฟ และ จิลลา จากนิยายเรื่อง สุภาพบุรุษอสูร เขียนโดย มิรา
[5] มหาบุรุษ ไมนอฟ และ มลุลี จากนิยายเรื่อง สุภาพบุรุษจอมมาร เขียนโดย มิรา
[6] ระบบว้าก เป็นธรรมเนียมการรับน้องในระดับมหาวิทยาลัย เป็นการสอบความกล้าซึ่งอยู่ไม่มีความรุนแรงอะไรมากนัก
- มหาวิทยาลัยในแคนาดาซึ่งได้รับอิทธิพลจากทั้งอังกฤษที่ปกครองอยู่และสหรัฐที่เป็นเพื่อนบ้านก็รับเอาประเพณีนี้ไปใช้เช่นกัน การว้ากน้องเริ่มจะกลายเป็นประเพณีนิยมในมหาวิทยาลัยในสหรัฐและแคนาดาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2390
-พี่ว้าก ความหมายของพี่ว้ากในชีวิตนักศึกษาคือ คนที่คอยสั่งสอนให้น้องอยู่ในกฎของมหาวิทยาลัย เป็นคนมีเหตุผล ทำตามจุดประสงค์การรับน้องที่ตั้งไว้ ภาพลักษณ์ส่วนมากจะเป็นคนที่ดูดุดัน คอยตะคอกเสียงดังใส่รุ่นน้อง ทำให้ภาพลักษณ์ของพี่ว้ากดูน่ากลัวป่าเถื่อน
นิยายเรื่องนี้หมดสัญญากับทางสำนักพิมพ์แล้ว
มู่เลยนำมาทำ E-Book เองค่ะ
สามารถซื้อ E-Book ได้ที่ Meb เลยนะคะ
กดที่รูปปกใหม่เพื่อนซื้อได้เลยค่ะ
ขอบคุณจากใจมาก ๆ เลยนะคะ
หรือ >>Click!!<<
อยากเจอดาวเรืองไหมคะ จุ๊บุๆ
ดาวเรืองอยากเจอทุกคนเลย
Talk...
Song :: Morrie - One Fine Day
ความคิดเห็น