Legend Of The God Of Light: มหากาพย์เทพแสงครองพิภพ
ชีวิตของเด็กหนุ่มอรุณต้องพลิกผันยามเมื่อถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้แข่งเกมแห่งพระเจ้า ระบบเทพเจ้ามอบพลังให้ทุกคน ทว่าทำไมของเขามัันดันมีแค่พลังทำให้ตัวเรืองแสงล่ะเนี่ย
ผู้เข้าชมรวม
515,528
ผู้เข้าชมเดือนนี้
453
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Suki Pot ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Suki Pot
"Legend Of The God Of Light"
(แจ้งลบ)กาว..คำนิยามสั้นๆของนิยายเรื่องนี้ไม่สิ ตัวเอกเลยและกัน นิยายเรื่องนี้ในช่วงเริ่มแรกภาษาเมากาวมากครับ แบบ..เมืองสมัครเล่น แต่ที่ผมตัดสินใจอ่านนิยายเรื่องนี้คือมันมีระบบที่น่าสนใจ และความเพลินสบายๆอ่านได้ไม่มีเครียดครับ ผมต้องขอชมไรท์เตอร์จากใจเลยที่สามารถเขียนนิยายที่สนุกมากได้ด้วยภาษาที่ผมไม่ค่อยถูกโฉลกด้วยแบบนี้ ต่อมานิยายเรื่องนี้ค่อยๆพัฒนาการเข ... อ่านเพิ่มเติม
กาว..คำนิยามสั้นๆของนิยายเรื่องนี้ไม่สิ ตัวเอกเลยและกัน นิยายเรื่องนี้ในช่วงเริ่มแรกภาษาเมากาวมากครับ แบบ..เมืองสมัครเล่น แต่ที่ผมตัดสินใจอ่านนิยายเรื่องนี้คือมันมีระบบที่น่าสนใจ และความเพลินสบายๆอ่านได้ไม่มีเครียดครับ ผมต้องขอชมไรท์เตอร์จากใจเลยที่สามารถเขียนนิยายที่สนุกมากได้ด้วยภาษาที่ผมไม่ค่อยถูกโฉลกด้วยแบบนี้ ต่อมานิยายเรื่องนี้ค่อยๆพัฒนาการเขียนขึ้นทำให้ภาษาเริ่มอ่านง่ายขึ้นเช่นกัน คาแรดเตอร์ตัวละครก็ค่อยแข็งขึ้นเป็นพัฒนาการที่ดีมากครับและพอผมอ่านไปอีกจังหวะหนึ่ง ผมพบว่านิยายเรื่องนี้เริ่มสนุกขึ้นในการแง่ของการจัดการบริหารในช่วงยุคของการแผ่ขยายผมหวังว่าจะได้อ่านแบบนี้เพิ่มมากขึ้น จุดขายของนิยายเรื่องนี้คือตัวเอกครับ ผมชอบอรุณมาก สกิลดริฟสายฟ้า(แถ)เข้าขั้นเซียนจริงๆ เป็นตัวละครที่มองโลกในแง่ดี ลักษณะของเด็กวัยรุ่นม.ปลายแบบพวกเราทุกคนทำให้เข้าถึงได้ง่าย มีส่วนที่ทำให้ผิดพลาดบ้าง ส่วนที่สำเร็จบ้าง เป็นตัวละครที่มีชีวิตครับ ว่าด้วยสเกลเรื่อง นิยายเรื่องนี้มีสเกลพล้อตเรื่องที่น่าสนใจมาก ด้วยการที่เทพเจ้ามีมากมายที่ควบคุมเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในภายภาคหน้าคงมีสงครามและพันธมิตรเกิดขึ้นมากมายแน่นอน มันจะสร้างความระทึกและอลังการให้กับเรามากแค่ไหนกันเชียวอันนี้ก็คงต้องรอดูกันต่อไป ด้วยการที่เผ่าต่างๆอยู่ในช่วงแรกเริ่มทำให้ไม่ค่อยจะรู้จักอะไรมากนัก เวลาเราอ่านตัวละครเผ่าอื่นๆเราจะรู้สึกว่าเผ่าแต่ล่ะเผ่านั้นว่างเปล่ามากแต่พอไปถึงจุดหนึ่งเราจะรู้เหตุผลที่เผ่านั้นมีพฤติกรรมเช่นนี้ เช่นเผ่าเอลฟ์ ทำไมเอลฟ์ถึงรักธรรมชาติ ทำไมมนุษย์ถึงบูชาเทพ ทำไมสุนักถึงเป็นสหายและมิตรต่อเหล่ามนุษย์ มันคงจะเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจที่ไรท์เตอร์เป็นคนนำเสนอ นิยายเรื่องนี้ผมให้คะแนน8.5นะครับ 6การดำเนินเรื่อง+พล้อต+ความคิดสร้างสรรค์ ภาษา3.5ยังต้องแก้อีกมากมายเลยครับ แต่ผมเชื่อว่ามันจะดีขึ้นอย่างแน่นอน เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ครับ by Mena อ่านน้อยลง
♤Mena♤ | 14 ม.ค. 59
20
1
"กะไว้แล้วเชียว!!"
(แจ้งลบ)(มียาวกว่านี้แต่เอาลงไม่หมด) ก็กะไว้เชียว!!! บทวิจารณ์นี้เขียนขึ้นเพื่อสนองนีตและคันมือยิกๆอย่างพูดยาวๆซะเหลือเกิน มาจะกล่าวบทไป ถึงอรุณเด็กวัยใสใจกล้าหาญ เจอดาวหางพุ่งตกลงกบาล เทพยังรังควาญตามไปเล่นเกม สวัสดีครับผมคือทศเธ และนี่คือบทวิจารณ์ที่ย้ำเลยว่าสปอย์! เพราะจะพูดเรื่องหลังๆ จุดสงสัย วิจารณ์มันหมดนั่นแหละ เรื่องราวโดยย่อคือเด็กติดเกมที่เพ ... อ่านเพิ่มเติม
(มียาวกว่านี้แต่เอาลงไม่หมด) ก็กะไว้เชียว!!! บทวิจารณ์นี้เขียนขึ้นเพื่อสนองนีตและคันมือยิกๆอย่างพูดยาวๆซะเหลือเกิน มาจะกล่าวบทไป ถึงอรุณเด็กวัยใสใจกล้าหาญ เจอดาวหางพุ่งตกลงกบาล เทพยังรังควาญตามไปเล่นเกม สวัสดีครับผมคือทศเธ และนี่คือบทวิจารณ์ที่ย้ำเลยว่าสปอย์! เพราะจะพูดเรื่องหลังๆ จุดสงสัย วิจารณ์มันหมดนั่นแหละ เรื่องราวโดยย่อคือเด็กติดเกมที่เพิ่งปิดเทอมต้องมาผัวพันกับเกมแนวสร้างโลกที่พระเจ้า(?)บังคับให้เล่น โดยเขาต้องสวมบทบาทเป็นเทพเจ้าไปปกครอง แต่อนิจจา! เขาดันกลบายเป็นเทพที่มีดีแค่เปล่งแสงสู้หิ่งห้อยเท่านั้น! ก็นั่นแหละครับ ประการแรกเลย จุกมุงหมายของเรื่อง ที่มักปรากฏขึ้นเป็นอันดับแทบจะแรกๆ อย่างแนวเกมล่าสมบัติก็ต้องมีจุดมุ่งหมายว่าจะมีสมบัติให้ล่า ถ้าเป็นแนวสืบสวนจุดมุ่งหมายหลักก็คือตามหาความจริง ถ้าเป็นความรักจุดมุ่งหมายคือพระเอกได้กับนางเอก แต่นั่นแหละครับมันไม่มีในนิยายเรื่องนี้ จะว่าไม่มีก็ไม่เชิงแต่มันยังขาดเหตุผลซัพพอร์ต อย่างทำไมต้องมาเล่น เล่นแล้วได้อะไร เล่นไปทำไม แล้วไทม์ไลน์ที่อยู่ในเรื่องก็ยาวเป็นเดือน เป็นปี เป็นปีๆๆ นั่นแหละครับ จะใช้มุกนอนหลับก็คงจะโอเวอร์ไปกับการนอนแค่สิบชั่วโมง(เป็นอย่างมาก)กับการมโนทุกๆอย่างในเรื่องเฉลี่ยเรื่องละ1ปี จากมุมมองนักอ่าน ถ้าได้อ่านคำโปรยแล้วถือว่าดึงดูดมากครับ ทำให้ผมต้องคิดตาม เออเป็นเทพที่เปล่งแสงได้มีประโยชน์อันใดกัน แต่พอคิดๆ เออก็หลากหลายนะ ถ้ายิ่งพระเอกมีสกิลการแถเนียนๆความรู้รอยดต๊ะเยอะหน่อยๆก็โม้ได้สบายๆ ซึ่งพระเอกเราก็มีสกิลแบบนี้จริงๆ แถมเกินความคาดหมายไปด้วยซ้ำ นับถือๆ ดังนั้นเพื่อชี้ให้เจาะจงผมขอแยกเป็นภาคๆละกัน เริ่มจากพาร์ทแรก พบเจอพระเจ้า เราได้รู้มาว่าพระเอกชื่ออรุณ ผอมๆนิดหน่อยและหน้าตาบ้านๆ(ซึ่งผมก็ไม่จินตนาการว่าบ้านนะแต่วาดไว้หล่อเลยล่ะ) อยู่ม.ปลายแล้วชอบเล่นเกมที่มักพูดกับเราว่า “เทคโนฯคุณยังไม่ถึงว่ะ” แล้วบังเอิญถูกแจ๊กพอตเป็นได้เล่นเกมของพระเจ้าซึ่งพระเจ้ากับพระเอกมันกวนบาทาดี มีอะไรคล้ายๆกันคือเกรียนมาก ช่วงแรกๆก็บรรยายถึงระบบเกมกับความซวยพระเอกแบบที่หลังๆเจอแยะแล้วแต่ก็ยังมีความฮาให้ได้หัวเราะกัน ดังนั้นใครอ่าน 5-6บทแรกแล้ววางมือถือบ่อยๆเพราะเอือมมุกกับเบื่อพระเอกขี้บ่นผมพอจะเข้าใจ แต่รับรองว่าหลังจากนั้นวางไม่ลงครับ อนึ่งในบทแรกๆยังไม่เห็นอะไรล่อใจให้เล่น ยังไม่เห็นจุดประสงค์ชัดเจน ที่สำคัญคือพระเอกมันไม่คิดถึงบ้าน ไม่เอะใจ ไม่แบบครวญครางอยากกลับบ้านบ้างเหรอวะ! แถมปรับตัวให้เข้ากับยุคหินได้ดีอีกตะหาก ถึงหลายๆอย่างพระเจ้าจะแอบช่วยไว้บ้างแต่ก็เกินไปนิดนึง แถมผมว่าการที่พระเจ้าแบบปรับระบบเกมมันทำให้อะไรๆก็ง่ายๆไปหมด ต่อมาพระเอกก็รู้ความสามารถพวกพ้องว่าแต่ละคนเกรียนแค่ไหน เนื้อเรื่องก็จะกล่าวถึงอะไรก็ตามที่พระเอกนึกออกแล้วเอามาสอน อัพความเจริญก้าวหน้า แถมพระเอกยังใช้พลังเปล่งแสงได้แบบคุ้มค่า+สกิลการแถสดแถเปื่อยที่ไม่เป็นสองรองใครยิ่งทำให้เรื่องมีสีสัน ทำให้วางไม่ลง แต่ที่จะติคือคำผิดครับ เยอะแยะ กระจัดกระจายบางคำก็ผิดแบบไม่เหลือเค้าเดิม แต่เข้าใจครับคนเขียนเป็นพวกมีอะไรในหัวก็ปล่อยออกมาหมด และใจร้อนเลยมีอาการมือกระตุกไปบ้าง(น่าจะดมกาวมาพอสมควรด้วย) และคำบ่นพระเอกเยอะครับ เยอะไปไหน นายเป็นผู้ชายที่ขี้บ่นนะ บ่นซะทุกบรรทัด ชนิดที่ถ้าข้ามสองสามบรรทัดก็ยังอยู่ที่เดิม จำนวนตอนก็ยาวดีครับ กำลังพอดี การเว้นวรรคมีปัญหาเล็กน้อยและการเว้นเรื่องให้เกิดความสงสัยอยากติดตาม การตัดจบแบบค้างคาก็ยังทำได้ดีครับชื่นชมๆ แต่พระเอกมันพูดน้ำท่วมทุ่งจัง อ่ะ แถมๆ คือสรรพนามในการแทนตัวเอง เรียกคนอื่นเปลี่ยนปล่อยนะครับ อย่างพูดๆอยู่ เด่ยวก็ข้า ข้า ข้า พอบรรทัดทัดมาเป็น ฉัน ซึ่งถ้าแทนว่าฉันในความคิดมันไม่เป็นไรครับแต่บังเอิญมันอยู่ในกรอบคำพูดนี่สิ แถมยังมี เธอ เจ้า ข้าน้อยโผล่มาจนสับสนเลยล่ะ ผมว่าควรเลือกนะครับว่าจะใช้สรรพนามคำไหน แล้วก็คนเขียนยังบรรยายในช่วงการใช้เวทได้ไม่ดีนะครับ เพราะว่าอ่านแล้วยังงๆ โดยเฉพาะฉากต่อสู้ ถ้าเป็นต่อสู้แบบคนเดียวบุกจะไม่เป็นอะไร แต่พอมีสองคนอยู่ในที่เดียวกันแล้วนักเขียนเริ่มคุมตัวละครได้ยาก อยากให้เน้นจุดนี้ด้วยนะครับ ต่อมา มิติของตัวละคร คือจะว่าไงดี พระเจ้ามิติมันโอเคครับดูเหมือนคนจริงๆ แต่ก็แค่เหมือนเพราะพระเจ้ามันความลับเยอะ จับทางอะไรไม่ได้ แถมอะไรๆมันก็ดูเหมือนมีแผนมีอำนาจไปซะทุกอย่าง แบบไม่มีความกลัวเลยว่าถ้าเกมดำเนินพลาด เกิดเหตุประหลาด หรือพวกเทพที่ตัวเองให้พลังไปจับมือกันรุมตื้บจะทำยังไง พระเอกก็มีมิติดีครับ ตอนแรกๆอาจแบนๆเพราะบ่นเยอะไป แต่หลังดมกาวมาจนแทบจะลอยออกหน้าจอ ตัวละครในบุคหินมักจะมีคาแรกเตอร์แบบบ้านนอกหน่อยๆ มีคำถามความสงสัยเยอะ แล้วก็ที่อยากพูดคือเทพแสงครับ ทำไมถึงไม่พูดชมกันหน่อยล่ะ บางทีก็เกลียดนะนิสัยขี้เก๊กแบบนี้ ฮ่าๆ ต่อๆที่ประเด็นที่สงสัยคือ ทำไมถึงไม่วางรากฐานกฎหมายครับ อย่ามีตอนนึงที่ทำเครื่องปั้นดินเผาแล้วมาชาวบ้านมาขอเรียนการจุดไฟแล้วเอาไฟโยนลงหลุมจนเกือบไฟไหม้บ้าน นั่นความผิดร้ายแรงเลยนะครับ ใช้ไฟที่เทพแสงให้มา(?)แบบผิดๆแบบนั้นต้องมีการลงโทษบ้าง แถมการที่อยู่ๆมาบอกว่าพระเจ้าลบความรู้สึกอยากกลับบ้านมันไม่โอเคเท่าไหร่ เดาได้ว่าที่ไม่มีใครถามหารางวัลเพราะพระเจ้าเอาความรู้สึกสงสัยไปเก็บแน่ๆ แล้วก็เรื่องการที่มีเอล์ฟหลงเข้ามาในหมู่บ้าน บอกเลยตะหงิดๆ แบบหลอกถามไปแบบนั้นเอล์ฟก็ต้องมีได้ข้อมูลจากเราบ้างนั่นแหละไม่ค่อยไว้ใน แล้วระบบเกมมันก็ยังไม่ชัดเจนมาก แต่ก็ทำให้เข้าใจง่าย ปัญหาเรื่องโรคระบาดก็เช่นกันถึงจะบล็อกเอาไว้แต่ก็ไม่สนุกเลยสิครับ ฮ่าๆ เออแล้วก็หลายๆเรื่องที่อยากพูดแต่ลืมไปแล้วไว้จะเพิ่มเติมทีหลังนะครับ ต่อมาภาคสองพระเอกก็จุติใหม่ที่เมืองที่เขาสร้างในอีก 600 ปีต่อมา นั่นแหละครับปรากฏว่าสภาพสังคมมัน..กึ่งดีกึ่งร้ายอ่ะ สาธารณูปโภคนี่แทบทำเอาผมอ้วกไปแล้ว แถมลูกหลานในอนาคตก็สติไม่ค่อยเต็ม(โดยเฉพาะหลานชาย) โชคยังดีที่พอมีคนใช้การได้ แถมเริ่มเห็นแววตะหงิกมาแต่ไกล แล้วก็ตัวละครหลายๆตัวดูมีมิติดีครับ ชอบมาเลยคนที่ชอบถามคำถาม ตอนนี้จะเห็นได้ว่ามีการสับเปลี่ยนมุมมองให้เรารู้ว่าคนอื่นมองเทพแสงเมากาวแบบไหน ซึ่งชอบนะ แบบได้เห็นสกิลการดิฟจนสีข้างถลอกยาวๆจนเลือดไหลเป็นน้ำตกเลย แล้วคำผิดก็มีประปรายทั้งผิดแบบให้อภัยและไม่น่าให้อภัย และประเด็นสำคัญที่ขาดไม่ได้คือแก่นเรื่อง ผู้เขียนมีความใส่ใจในรายละเอียดครับ มีทั้งแง่คิดที่ผู้เขียนทั้งจงใจและไม่จงใจใส่เอาไว้ ทำให้เรื่องมันดูใกล้ตัวมากๆ อย่าเรื่องการนับถือ การเสียสละ ความเมตตา ความถ่อมตน ประสบการณ์ อารมณ์และความรู้สึกมันส่งผลให้เราคล้อยตามไปได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งแง่คิดหลายๆอย่างที่แทรกไปกับคำบ่นหรือคำพูดเท่ๆของพระเอกนี่ซาบซึ้งมาก และทำให้ได้คิดเช่นกัน และนี่ก็แสดงว่าพระเอกเราไม่ได้โง่!ไม่ไร้เหตุผล! แค่พระเอกเราเมากาวมากไป หาฟินมาสูบเยอะๆนะเจ้าอรุณ!! แต่โดยรวมๆแล้วสนุกครับ วางไม่ลงจริงๆ ผมใช้เวลาอ่านทั้งวัน 60 กว่าตอน เป็นการอ่านที่ทรมาน ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ แต่ก็กลั้นเอาไว้เดี๋ยวคนอื่นหาว่าบ้า มุกช่วงหลังทำได้ดีครับปล่อยออกมาแบบรู้จังหวะจะโคน แต่ติเรื่องตอนปลุกใจชาวเมืองนะยืดไปหน่อยพูดอะไรวนไปมาเยอะไปนะครับ การบรรยายยังไม่ละเอียดนักแต่ก็มองภาพออกเห็นภาพรวมได้ง่าย แต่กว่าผมจะรู้หน้าตาพระเอกชัดเจนก็มาถึงยุคกลางซะแล้ว ฮ่าๆ สำหรับคนอ่านเตรียมใจวางมือถือหรือปิดจอไม่ลงด้วยนะครับ ผมเป็นมาแล้ว ตอนนี้เมากาวสุดต้องขอตัวไปอ่านต่อนะครับ ถ้าจะให้ประเมินคะแนนก็ ภาษา 7/10 เนื้อเรื่อง9.5/10 ตัวละคร 7/10 การบรรยาย 8.5/10 ดำเนินเรื่อง 8/10(หีกที่พระเอกบ่นเยอะไปชิๆ) สรุปคือ...บวกเลขสักครู่..40/50 คะแนนครับ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากกก ใครพลาดตามไปเสพโดยพลัน หวังว่าการวิจารณ์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้เขียนนะครับ อ่านน้อยลง
ทศเธ | 6 ม.ค. 60
9
1
ดูทั้งหมด
"กะไว้แล้วเชียว!!"
(แจ้งลบ)(มียาวกว่านี้แต่เอาลงไม่หมด) ก็กะไว้เชียว!!! บทวิจารณ์นี้เขียนขึ้นเพื่อสนองนีตและคันมือยิกๆอย่างพูดยาวๆซะเหลือเกิน มาจะกล่าวบทไป ถึงอรุณเด็กวัยใสใจกล้าหาญ เจอดาวหางพุ่งตกลงกบาล เทพยังรังควาญตามไปเล่นเกม สวัสดีครับผมคือทศเธ และนี่คือบทวิจารณ์ที่ย้ำเลยว่าสปอย์! เพราะจะพูดเรื่องหลังๆ จุดสงสัย วิจารณ์มันหมดนั่นแหละ เรื่องราวโดยย่อคือเด็กติดเกมที่เพ ... อ่านเพิ่มเติม
(มียาวกว่านี้แต่เอาลงไม่หมด) ก็กะไว้เชียว!!! บทวิจารณ์นี้เขียนขึ้นเพื่อสนองนีตและคันมือยิกๆอย่างพูดยาวๆซะเหลือเกิน มาจะกล่าวบทไป ถึงอรุณเด็กวัยใสใจกล้าหาญ เจอดาวหางพุ่งตกลงกบาล เทพยังรังควาญตามไปเล่นเกม สวัสดีครับผมคือทศเธ และนี่คือบทวิจารณ์ที่ย้ำเลยว่าสปอย์! เพราะจะพูดเรื่องหลังๆ จุดสงสัย วิจารณ์มันหมดนั่นแหละ เรื่องราวโดยย่อคือเด็กติดเกมที่เพิ่งปิดเทอมต้องมาผัวพันกับเกมแนวสร้างโลกที่พระเจ้า(?)บังคับให้เล่น โดยเขาต้องสวมบทบาทเป็นเทพเจ้าไปปกครอง แต่อนิจจา! เขาดันกลบายเป็นเทพที่มีดีแค่เปล่งแสงสู้หิ่งห้อยเท่านั้น! ก็นั่นแหละครับ ประการแรกเลย จุกมุงหมายของเรื่อง ที่มักปรากฏขึ้นเป็นอันดับแทบจะแรกๆ อย่างแนวเกมล่าสมบัติก็ต้องมีจุดมุ่งหมายว่าจะมีสมบัติให้ล่า ถ้าเป็นแนวสืบสวนจุดมุ่งหมายหลักก็คือตามหาความจริง ถ้าเป็นความรักจุดมุ่งหมายคือพระเอกได้กับนางเอก แต่นั่นแหละครับมันไม่มีในนิยายเรื่องนี้ จะว่าไม่มีก็ไม่เชิงแต่มันยังขาดเหตุผลซัพพอร์ต อย่างทำไมต้องมาเล่น เล่นแล้วได้อะไร เล่นไปทำไม แล้วไทม์ไลน์ที่อยู่ในเรื่องก็ยาวเป็นเดือน เป็นปี เป็นปีๆๆ นั่นแหละครับ จะใช้มุกนอนหลับก็คงจะโอเวอร์ไปกับการนอนแค่สิบชั่วโมง(เป็นอย่างมาก)กับการมโนทุกๆอย่างในเรื่องเฉลี่ยเรื่องละ1ปี จากมุมมองนักอ่าน ถ้าได้อ่านคำโปรยแล้วถือว่าดึงดูดมากครับ ทำให้ผมต้องคิดตาม เออเป็นเทพที่เปล่งแสงได้มีประโยชน์อันใดกัน แต่พอคิดๆ เออก็หลากหลายนะ ถ้ายิ่งพระเอกมีสกิลการแถเนียนๆความรู้รอยดต๊ะเยอะหน่อยๆก็โม้ได้สบายๆ ซึ่งพระเอกเราก็มีสกิลแบบนี้จริงๆ แถมเกินความคาดหมายไปด้วยซ้ำ นับถือๆ ดังนั้นเพื่อชี้ให้เจาะจงผมขอแยกเป็นภาคๆละกัน เริ่มจากพาร์ทแรก พบเจอพระเจ้า เราได้รู้มาว่าพระเอกชื่ออรุณ ผอมๆนิดหน่อยและหน้าตาบ้านๆ(ซึ่งผมก็ไม่จินตนาการว่าบ้านนะแต่วาดไว้หล่อเลยล่ะ) อยู่ม.ปลายแล้วชอบเล่นเกมที่มักพูดกับเราว่า “เทคโนฯคุณยังไม่ถึงว่ะ” แล้วบังเอิญถูกแจ๊กพอตเป็นได้เล่นเกมของพระเจ้าซึ่งพระเจ้ากับพระเอกมันกวนบาทาดี มีอะไรคล้ายๆกันคือเกรียนมาก ช่วงแรกๆก็บรรยายถึงระบบเกมกับความซวยพระเอกแบบที่หลังๆเจอแยะแล้วแต่ก็ยังมีความฮาให้ได้หัวเราะกัน ดังนั้นใครอ่าน 5-6บทแรกแล้ววางมือถือบ่อยๆเพราะเอือมมุกกับเบื่อพระเอกขี้บ่นผมพอจะเข้าใจ แต่รับรองว่าหลังจากนั้นวางไม่ลงครับ อนึ่งในบทแรกๆยังไม่เห็นอะไรล่อใจให้เล่น ยังไม่เห็นจุดประสงค์ชัดเจน ที่สำคัญคือพระเอกมันไม่คิดถึงบ้าน ไม่เอะใจ ไม่แบบครวญครางอยากกลับบ้านบ้างเหรอวะ! แถมปรับตัวให้เข้ากับยุคหินได้ดีอีกตะหาก ถึงหลายๆอย่างพระเจ้าจะแอบช่วยไว้บ้างแต่ก็เกินไปนิดนึง แถมผมว่าการที่พระเจ้าแบบปรับระบบเกมมันทำให้อะไรๆก็ง่ายๆไปหมด ต่อมาพระเอกก็รู้ความสามารถพวกพ้องว่าแต่ละคนเกรียนแค่ไหน เนื้อเรื่องก็จะกล่าวถึงอะไรก็ตามที่พระเอกนึกออกแล้วเอามาสอน อัพความเจริญก้าวหน้า แถมพระเอกยังใช้พลังเปล่งแสงได้แบบคุ้มค่า+สกิลการแถสดแถเปื่อยที่ไม่เป็นสองรองใครยิ่งทำให้เรื่องมีสีสัน ทำให้วางไม่ลง แต่ที่จะติคือคำผิดครับ เยอะแยะ กระจัดกระจายบางคำก็ผิดแบบไม่เหลือเค้าเดิม แต่เข้าใจครับคนเขียนเป็นพวกมีอะไรในหัวก็ปล่อยออกมาหมด และใจร้อนเลยมีอาการมือกระตุกไปบ้าง(น่าจะดมกาวมาพอสมควรด้วย) และคำบ่นพระเอกเยอะครับ เยอะไปไหน นายเป็นผู้ชายที่ขี้บ่นนะ บ่นซะทุกบรรทัด ชนิดที่ถ้าข้ามสองสามบรรทัดก็ยังอยู่ที่เดิม จำนวนตอนก็ยาวดีครับ กำลังพอดี การเว้นวรรคมีปัญหาเล็กน้อยและการเว้นเรื่องให้เกิดความสงสัยอยากติดตาม การตัดจบแบบค้างคาก็ยังทำได้ดีครับชื่นชมๆ แต่พระเอกมันพูดน้ำท่วมทุ่งจัง อ่ะ แถมๆ คือสรรพนามในการแทนตัวเอง เรียกคนอื่นเปลี่ยนปล่อยนะครับ อย่างพูดๆอยู่ เด่ยวก็ข้า ข้า ข้า พอบรรทัดทัดมาเป็น ฉัน ซึ่งถ้าแทนว่าฉันในความคิดมันไม่เป็นไรครับแต่บังเอิญมันอยู่ในกรอบคำพูดนี่สิ แถมยังมี เธอ เจ้า ข้าน้อยโผล่มาจนสับสนเลยล่ะ ผมว่าควรเลือกนะครับว่าจะใช้สรรพนามคำไหน แล้วก็คนเขียนยังบรรยายในช่วงการใช้เวทได้ไม่ดีนะครับ เพราะว่าอ่านแล้วยังงๆ โดยเฉพาะฉากต่อสู้ ถ้าเป็นต่อสู้แบบคนเดียวบุกจะไม่เป็นอะไร แต่พอมีสองคนอยู่ในที่เดียวกันแล้วนักเขียนเริ่มคุมตัวละครได้ยาก อยากให้เน้นจุดนี้ด้วยนะครับ ต่อมา มิติของตัวละคร คือจะว่าไงดี พระเจ้ามิติมันโอเคครับดูเหมือนคนจริงๆ แต่ก็แค่เหมือนเพราะพระเจ้ามันความลับเยอะ จับทางอะไรไม่ได้ แถมอะไรๆมันก็ดูเหมือนมีแผนมีอำนาจไปซะทุกอย่าง แบบไม่มีความกลัวเลยว่าถ้าเกมดำเนินพลาด เกิดเหตุประหลาด หรือพวกเทพที่ตัวเองให้พลังไปจับมือกันรุมตื้บจะทำยังไง พระเอกก็มีมิติดีครับ ตอนแรกๆอาจแบนๆเพราะบ่นเยอะไป แต่หลังดมกาวมาจนแทบจะลอยออกหน้าจอ ตัวละครในบุคหินมักจะมีคาแรกเตอร์แบบบ้านนอกหน่อยๆ มีคำถามความสงสัยเยอะ แล้วก็ที่อยากพูดคือเทพแสงครับ ทำไมถึงไม่พูดชมกันหน่อยล่ะ บางทีก็เกลียดนะนิสัยขี้เก๊กแบบนี้ ฮ่าๆ ต่อๆที่ประเด็นที่สงสัยคือ ทำไมถึงไม่วางรากฐานกฎหมายครับ อย่ามีตอนนึงที่ทำเครื่องปั้นดินเผาแล้วมาชาวบ้านมาขอเรียนการจุดไฟแล้วเอาไฟโยนลงหลุมจนเกือบไฟไหม้บ้าน นั่นความผิดร้ายแรงเลยนะครับ ใช้ไฟที่เทพแสงให้มา(?)แบบผิดๆแบบนั้นต้องมีการลงโทษบ้าง แถมการที่อยู่ๆมาบอกว่าพระเจ้าลบความรู้สึกอยากกลับบ้านมันไม่โอเคเท่าไหร่ เดาได้ว่าที่ไม่มีใครถามหารางวัลเพราะพระเจ้าเอาความรู้สึกสงสัยไปเก็บแน่ๆ แล้วก็เรื่องการที่มีเอล์ฟหลงเข้ามาในหมู่บ้าน บอกเลยตะหงิดๆ แบบหลอกถามไปแบบนั้นเอล์ฟก็ต้องมีได้ข้อมูลจากเราบ้างนั่นแหละไม่ค่อยไว้ใน แล้วระบบเกมมันก็ยังไม่ชัดเจนมาก แต่ก็ทำให้เข้าใจง่าย ปัญหาเรื่องโรคระบาดก็เช่นกันถึงจะบล็อกเอาไว้แต่ก็ไม่สนุกเลยสิครับ ฮ่าๆ เออแล้วก็หลายๆเรื่องที่อยากพูดแต่ลืมไปแล้วไว้จะเพิ่มเติมทีหลังนะครับ ต่อมาภาคสองพระเอกก็จุติใหม่ที่เมืองที่เขาสร้างในอีก 600 ปีต่อมา นั่นแหละครับปรากฏว่าสภาพสังคมมัน..กึ่งดีกึ่งร้ายอ่ะ สาธารณูปโภคนี่แทบทำเอาผมอ้วกไปแล้ว แถมลูกหลานในอนาคตก็สติไม่ค่อยเต็ม(โดยเฉพาะหลานชาย) โชคยังดีที่พอมีคนใช้การได้ แถมเริ่มเห็นแววตะหงิกมาแต่ไกล แล้วก็ตัวละครหลายๆตัวดูมีมิติดีครับ ชอบมาเลยคนที่ชอบถามคำถาม ตอนนี้จะเห็นได้ว่ามีการสับเปลี่ยนมุมมองให้เรารู้ว่าคนอื่นมองเทพแสงเมากาวแบบไหน ซึ่งชอบนะ แบบได้เห็นสกิลการดิฟจนสีข้างถลอกยาวๆจนเลือดไหลเป็นน้ำตกเลย แล้วคำผิดก็มีประปรายทั้งผิดแบบให้อภัยและไม่น่าให้อภัย และประเด็นสำคัญที่ขาดไม่ได้คือแก่นเรื่อง ผู้เขียนมีความใส่ใจในรายละเอียดครับ มีทั้งแง่คิดที่ผู้เขียนทั้งจงใจและไม่จงใจใส่เอาไว้ ทำให้เรื่องมันดูใกล้ตัวมากๆ อย่าเรื่องการนับถือ การเสียสละ ความเมตตา ความถ่อมตน ประสบการณ์ อารมณ์และความรู้สึกมันส่งผลให้เราคล้อยตามไปได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งแง่คิดหลายๆอย่างที่แทรกไปกับคำบ่นหรือคำพูดเท่ๆของพระเอกนี่ซาบซึ้งมาก และทำให้ได้คิดเช่นกัน และนี่ก็แสดงว่าพระเอกเราไม่ได้โง่!ไม่ไร้เหตุผล! แค่พระเอกเราเมากาวมากไป หาฟินมาสูบเยอะๆนะเจ้าอรุณ!! แต่โดยรวมๆแล้วสนุกครับ วางไม่ลงจริงๆ ผมใช้เวลาอ่านทั้งวัน 60 กว่าตอน เป็นการอ่านที่ทรมาน ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ แต่ก็กลั้นเอาไว้เดี๋ยวคนอื่นหาว่าบ้า มุกช่วงหลังทำได้ดีครับปล่อยออกมาแบบรู้จังหวะจะโคน แต่ติเรื่องตอนปลุกใจชาวเมืองนะยืดไปหน่อยพูดอะไรวนไปมาเยอะไปนะครับ การบรรยายยังไม่ละเอียดนักแต่ก็มองภาพออกเห็นภาพรวมได้ง่าย แต่กว่าผมจะรู้หน้าตาพระเอกชัดเจนก็มาถึงยุคกลางซะแล้ว ฮ่าๆ สำหรับคนอ่านเตรียมใจวางมือถือหรือปิดจอไม่ลงด้วยนะครับ ผมเป็นมาแล้ว ตอนนี้เมากาวสุดต้องขอตัวไปอ่านต่อนะครับ ถ้าจะให้ประเมินคะแนนก็ ภาษา 7/10 เนื้อเรื่อง9.5/10 ตัวละคร 7/10 การบรรยาย 8.5/10 ดำเนินเรื่อง 8/10(หีกที่พระเอกบ่นเยอะไปชิๆ) สรุปคือ...บวกเลขสักครู่..40/50 คะแนนครับ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากกก ใครพลาดตามไปเสพโดยพลัน หวังว่าการวิจารณ์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้เขียนนะครับ อ่านน้อยลง
ทศเธ | 6 ม.ค. 60
9
1
"Legend Of The God Of Light"
(แจ้งลบ)กาว..คำนิยามสั้นๆของนิยายเรื่องนี้ไม่สิ ตัวเอกเลยและกัน นิยายเรื่องนี้ในช่วงเริ่มแรกภาษาเมากาวมากครับ แบบ..เมืองสมัครเล่น แต่ที่ผมตัดสินใจอ่านนิยายเรื่องนี้คือมันมีระบบที่น่าสนใจ และความเพลินสบายๆอ่านได้ไม่มีเครียดครับ ผมต้องขอชมไรท์เตอร์จากใจเลยที่สามารถเขียนนิยายที่สนุกมากได้ด้วยภาษาที่ผมไม่ค่อยถูกโฉลกด้วยแบบนี้ ต่อมานิยายเรื่องนี้ค่อยๆพัฒนาการเข ... อ่านเพิ่มเติม
กาว..คำนิยามสั้นๆของนิยายเรื่องนี้ไม่สิ ตัวเอกเลยและกัน นิยายเรื่องนี้ในช่วงเริ่มแรกภาษาเมากาวมากครับ แบบ..เมืองสมัครเล่น แต่ที่ผมตัดสินใจอ่านนิยายเรื่องนี้คือมันมีระบบที่น่าสนใจ และความเพลินสบายๆอ่านได้ไม่มีเครียดครับ ผมต้องขอชมไรท์เตอร์จากใจเลยที่สามารถเขียนนิยายที่สนุกมากได้ด้วยภาษาที่ผมไม่ค่อยถูกโฉลกด้วยแบบนี้ ต่อมานิยายเรื่องนี้ค่อยๆพัฒนาการเขียนขึ้นทำให้ภาษาเริ่มอ่านง่ายขึ้นเช่นกัน คาแรดเตอร์ตัวละครก็ค่อยแข็งขึ้นเป็นพัฒนาการที่ดีมากครับและพอผมอ่านไปอีกจังหวะหนึ่ง ผมพบว่านิยายเรื่องนี้เริ่มสนุกขึ้นในการแง่ของการจัดการบริหารในช่วงยุคของการแผ่ขยายผมหวังว่าจะได้อ่านแบบนี้เพิ่มมากขึ้น จุดขายของนิยายเรื่องนี้คือตัวเอกครับ ผมชอบอรุณมาก สกิลดริฟสายฟ้า(แถ)เข้าขั้นเซียนจริงๆ เป็นตัวละครที่มองโลกในแง่ดี ลักษณะของเด็กวัยรุ่นม.ปลายแบบพวกเราทุกคนทำให้เข้าถึงได้ง่าย มีส่วนที่ทำให้ผิดพลาดบ้าง ส่วนที่สำเร็จบ้าง เป็นตัวละครที่มีชีวิตครับ ว่าด้วยสเกลเรื่อง นิยายเรื่องนี้มีสเกลพล้อตเรื่องที่น่าสนใจมาก ด้วยการที่เทพเจ้ามีมากมายที่ควบคุมเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในภายภาคหน้าคงมีสงครามและพันธมิตรเกิดขึ้นมากมายแน่นอน มันจะสร้างความระทึกและอลังการให้กับเรามากแค่ไหนกันเชียวอันนี้ก็คงต้องรอดูกันต่อไป ด้วยการที่เผ่าต่างๆอยู่ในช่วงแรกเริ่มทำให้ไม่ค่อยจะรู้จักอะไรมากนัก เวลาเราอ่านตัวละครเผ่าอื่นๆเราจะรู้สึกว่าเผ่าแต่ล่ะเผ่านั้นว่างเปล่ามากแต่พอไปถึงจุดหนึ่งเราจะรู้เหตุผลที่เผ่านั้นมีพฤติกรรมเช่นนี้ เช่นเผ่าเอลฟ์ ทำไมเอลฟ์ถึงรักธรรมชาติ ทำไมมนุษย์ถึงบูชาเทพ ทำไมสุนักถึงเป็นสหายและมิตรต่อเหล่ามนุษย์ มันคงจะเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจที่ไรท์เตอร์เป็นคนนำเสนอ นิยายเรื่องนี้ผมให้คะแนน8.5นะครับ 6การดำเนินเรื่อง+พล้อต+ความคิดสร้างสรรค์ ภาษา3.5ยังต้องแก้อีกมากมายเลยครับ แต่ผมเชื่อว่ามันจะดีขึ้นอย่างแน่นอน เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ครับ by Mena อ่านน้อยลง
♤Mena♤ | 14 ม.ค. 59
20
1
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น