ขยายความคำคมเชิงพุทธธรรม
พุทธธรรม...หนทางสู่ความสงบและปราศจากทุกข์
ผู้เข้าชมรวม
566
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“เรามีความต้องการมากเท่าใด ความทุกข์ก็มีมากเท่านั้น แต่ถ้าเราบรรเทาความต้องการให้น้อยลงไป ความเบาใจก็เกิดขึ้น”
บางครั้งมนุษย์กับความต้องการเป็นสิ่งที่เกิดมาคู่กัน มนุษย์ทุกคนมีความต้องการด้วยกันทั้งสิ้น แต่จะแตกต่างตรงที่ผู้ใดที่จะสามารถควบคุมความต้องการและกิเลสตัณหาของตัวเองได้ดีกว่ากัน ผู้ที่มีความต้องการมากเพียงใด ความทุกข์ก็ยิ่งประดาถั่งโถมเข้าหาคนนั้นอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากไม่สามารถได้ในสิ่งที่ปรารถนา และมนุษย์จึงสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ละเว้นแม้กระทั่งชีวิตของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาครอบ-ครอง แต่หากผู้ใดที่รู้จักความพอดี มีความต้องการที่เพียงพอกับชีวิตของตนเอง ผู้นั้นจึงสามารถดำรงชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข มีความสบายทั้งทางกายและทางจิตใจ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นความสุขอย่างแท้จริง คือการปราศจากทุกข์ทั้งปวง มีชีวิตตามอัตภาพของตน ไม่เบียดเบียนผู้อื่น และดำรงตนไว้ซึ่งทางสายกลางตามรอยพระพุทธเจ้า เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ไม่หลงใหลไปตามความคิด จะมีเป็น อยู่เป็น ได้เป็น พอเป็น ไม่เป็นทุกข์ มีชีวิตอยู่ด้วยความราบรื่นเบิกบานตามธรรมชาติ ด้วยความสงบสันติสุข ไม่ตื่นเต้นไปกับการโดดเด่นหรือการตกต่ำของชีวิต เพราะเห็นและรู้เท่าทันความคิด รู้จักชีวิตจิตใจและตนเอง
“คนที่เป็นมนุษย์สมบูรณ์นั้นต้องมีความรักเพื่อนมนุษย์ เห็นเพื่อนมนุษย์เป็นมนุษย์เหมือนเรา แล้วก็เห็นเป็นมนุษย์เหมือนกันหมด ไม่มีความแตกต่างกันโดยชั้นวรรณะ โดยผิวพรรณหรืออะไรๆทั้งหมด เราถือว่าเพื่อนมนุษย์เป็นผู้ร่วมเกิด ร่วมแก่ ร่วมเจ็บ ร่วมตายด้วยกัน”
สิ่งสำคัญของการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ คือ การสมบูรณ์ด้วยคุณธรรมอย่างมนุษย์ มีจิตใจสูงส่งและมีปัญญาพิจารณาความผิดชอบชั่วดี นอกจากนี้มนุษย์ควรแลเห็นผู้อื่นเป็นมนุษย์ด้วยเช่นกัน และประพฤติปฏิบัติกับผู้อื่นเช่นเดียวกับที่ผู้อื่นปฏิบัติกับตัวเรา มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาอาจมองดูจากสภาพภายนอกแล้ว คงไม่อาจตัดสินได้ว่าเป็นคนดีหรือคนร้าย และหากมนุษย์ใช้สายตาพิจารณาลักษณะภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ปราศจากการพิจารณาด้วยจิตใจ คงไม่อาจสรุปได้ว่า ผู้นั้นเป็นมนุษย์แน่แท้เพียงใด ทุกชีวิตต่างก็มีความเท่าเทียมกันในความเป็นมนุษย์ ดังนั้นจึงควรถือว่าอย่างน้อยผู้อื่นก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกับตัวเรา และต่างก็อยู่บนเส้นทางวงเวียนแห่งวัฏสงสารด้วยกันทั้งสิ้น
“คนเราถ้ารู้จักตนเองมากขึ้นเท่าใด ชีวิตจะรุ่งเรืองมากขึ้นเท่านั้น ถ้าไม่รู้จักตนเอง ยังมืดมนอยู่ตลอดเวลา”
ไม่มีผู้ใดจะรู้จักตนเองได้ดีเท่ากับตัวเราเอง เรารู้ว่าเราเป็นใคร ทำอะไรและเพื่ออะไร จุดมุ่งหมายในชีวิตย่อมนำพาตัวเราไปสู้ความสำเร็จความเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไม่ยากเกินความสามารถ ในทางกลับกัน คนที่ยังไม่ค้นหาและตอบตวเองได้ว่าเป้าหมายของชีวิตคืออะไร
อีกทั้งยังคงใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายปลายทาง ชีวิตผู้นั้นก็ย่อมตกอยู่ใต้อำนาจฝ่ายต่ำที่คอยควบคุมจิตใจให้ประพฤติปกิบัติในสิ่งที่ไม่ดีงาม
ไม่เป็นมงคลต่อชีวิต มนุษย์ทุกคนตราบที่ยังมลมหายใจกันอยู่ ก็ย่อมค้นคว้าขวนขวายด้วยกันทั้งสิ้น แต่ละวันผ่านไปก็ยังคงยุ่งยากลำบาก
อยู่กับการคิดสารพัด บางคนคิดไม่เคยสำเร็จก็เพราะไม่รู้จักตัวเอง การคิดจึงออกนอกลู่นอกทางตลอดเวลา ท้ายที่สุดชีวิตก็ได้พบแต่ความทุกข์
เพราะขาดเป้าหมายของชีวิตและการดำรงชีวิตด้วยกุศลวิธี
”ทุกคนเป็นนายช่างสร้างชีวิตให้แก่ตนเอง สุขทุกข์ในชีวิตประจำวันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการกระทำของตนทั้งสิ้น”
มนุษย์ทุกคนต่างก็ดิ้นรนกันไปเพื่อความอยู่รอดของชีวิตโดยมีตัวเองเป็นนายจ้าง คอยควบคุมจิตและทิศทางของตนเองให้มุ่งหน้าสู่เป้าหมายและความสำเร็จ บุคคลที่สามารถควบคุมตนเองได้นับว่าเป็นผู้ที่น่าชื่นชม สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมาให้เราได้ประสบพบเจอกันในแต่ละวันนี้
ล้วนแต่เป็นกรรมที่เราได้เคยทำไว้ในอดีตแทบทั้งสิ้น บางคนพบกับสิ่งที่ดีก็เพราะเขาทำแต่ความดี ทำบุญกุศลมาโดยตลอด ในขณะที่บางคน
กลับต้องพบเจอแต่ความทุกข์โทมนัสอยู่เรื่อยไป นั่นก็เป็นเพราะเขาอาจจะทำแต่สิ่งที่เป็นอกุศล โดยขาดการคำนึงถึงอนาคตว่าสิ่งที่เขาจะต้อง
ได้พบนั้นจะเป็นเช่นไร นั่นคือมนุษย์ผู้นั้นขาดปัญญาในการคิดไตร่ตรองการกระทำของตนเอง ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจะได้สุขได้ทุกข์นั้นก็
ขึ้นอยู่กับการกระทำของตนเองทั้งสิ้น การกระทำใดๆก็ตามเป็นผลแห่งชีวิตในอนาคตของคนๆนั้นซึ่งนับว่าเป้น เหตุผลที่ยุติธรรมยอมรับ
กันได้โดยทั่ว คนจะดีจะชั่วก็ขึ้นอยู่กับกรรมของตนทั้งนั้น
”คนเราที่ได้เสียผู้เสียคนไปนั้น ก็เพราะปล่อยตัวปล่อยใจเกินไป ไม่มีการชำระสะสางตัวเองเสียบ้าง คือไม่ได้พิจารณาตัวเองและไม่ได้แก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น ความยุ่งยากก็เกิดขึ้นไม่รู้จักจบไม่รู้จักสิ้น”
การควบคุมจิตใจและความต้องการของตนเองนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ไม่ควรปล่อยปละละเลย หากขาดซึ่งการควบคุมที่ดี ชีวิตทั้งชีวิตของคนๆนั้นอาจจะล่มสลายได้อย่างง่ายๆ เสียคนเป็นได้อย่างแน่นอน เพราะมนุ๋ย์เราต่างๆก็มีกิเลสมากยากเกินกว่าที่จะควบคุมได้ทั้งหมด
หากขาดความพอดี ไม่คิดพิจารณาในสิ่งที่กระทำให้ดีเสียก่อน ผลกรรมแห่งการกระทำนั้นย่อมส่งผลต่อผู้ก่อกรรมอย่างแน่นอน มนุษย์บางคนปล่อยใจ ปล่อยตัว คิดอยากจะทำอะไรก็ได้โดยปราศจากปัญญาพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนแล้ว มนุษยืผู้นั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์พร้อมเพราะมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้นต้องประกอบด้วยปัญญาแห่งการพิจารณา รวมทั้งคุณธรรมและจริยธรรมแห่งความเป็นมนุษย์ หากผู้ใดปราศจากสิ่งเหล่านี้แล้วและยังไม่แก้ไขตนเอง ชีวิตก็ย่อมดำเนินไปด้วยความยุ่งยาก เกิดความทุกข์และความสับสนต่างๆนานาในชีวิต กลายเป็นชีวิตที่ไม่รู้จักสงบ ต้องดำรงไปตามผลกรรมที่ได้กระทำไว้ในอดีต
**************************
ป.ล.บทความนี้ได้รับแนวคิดมาจากการเรียนการสอนวิชา มน102 มนุษย์กับการใช้เหตุผลและจริยธรรม
ผลงานอื่นๆ ของ ^[นายจันทร์เจ้า]^ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ^[นายจันทร์เจ้า]^
ความคิดเห็น