ขยายความคำคมเชิงพุทธธรรม - ขยายความคำคมเชิงพุทธธรรม นิยาย ขยายความคำคมเชิงพุทธธรรม : Dek-D.com - Writer

    ขยายความคำคมเชิงพุทธธรรม

    พุทธธรรม...หนทางสู่ความสงบและปราศจากทุกข์

    ผู้เข้าชมรวม

    566

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    566

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 พ.ค. 49 / 17:50 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เรามีความต้องการมากเท่าใด   ความทุกข์ก็มีมากเท่านั้น   แต่ถ้าเราบรรเทาความต้องการให้น้อยลงไป   ความเบาใจก็เกิดขึ้น

                  บางครั้งมนุษย์กับความต้องการเป็นสิ่งที่เกิดมาคู่กัน  มนุษย์ทุกคนมีความต้องการด้วยกันทั้งสิ้น  แต่จะแตกต่างตรงที่ผู้ใดที่จะสามารถควบคุมความต้องการและกิเลสตัณหาของตัวเองได้ดีกว่ากัน  ผู้ที่มีความต้องการมากเพียงใด  ความทุกข์ก็ยิ่งประดาถั่งโถมเข้าหาคนนั้นอยู่ตลอดเวลา  เนื่องจากไม่สามารถได้ในสิ่งที่ปรารถนา  และมนุษย์จึงสามารถทำได้ทุกอย่าง  ไม่ละเว้นแม้กระทั่งชีวิตของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาครอบ-ครอง  แต่หากผู้ใดที่รู้จักความพอดี  มีความต้องการที่เพียงพอกับชีวิตของตนเอง  ผู้นั้นจึงสามารถดำรงชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข  มีความสบายทั้งทางกายและทางจิตใจ  ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นความสุขอย่างแท้จริง  คือการปราศจากทุกข์ทั้งปวง  มีชีวิตตามอัตภาพของตน  ไม่เบียดเบียนผู้อื่น  และดำรงตนไว้ซึ่งทางสายกลางตามรอยพระพุทธเจ้า เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ไม่หลงใหลไปตามความคิด จะมีเป็น อยู่เป็น ได้เป็น พอเป็น ไม่เป็นทุกข์ มีชีวิตอยู่ด้วยความราบรื่นเบิกบานตามธรรมชาติ ด้วยความสงบสันติสุข ไม่ตื่นเต้นไปกับการโดดเด่นหรือการตกต่ำของชีวิต เพราะเห็นและรู้เท่าทันความคิด รู้จักชีวิตจิตใจและตนเอง

       
      คนที่เป็นมนุษย์สมบูรณ์นั้นต้องมีความรักเพื่อนมนุษย์   เห็นเพื่อนมนุษย์เป็นมนุษย์เหมือนเรา  แล้วก็เห็นเป็นมนุษย์เหมือนกันหมด  ไม่มีความแตกต่างกันโดยชั้นวรรณะ  โดยผิวพรรณหรืออะไรๆทั้งหมด  เราถือว่าเพื่อนมนุษย์เป็นผู้ร่วมเกิด  ร่วมแก่  ร่วมเจ็บ  ร่วมตายด้วยกัน

                  สิ่งสำคัญของการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์  คือ  การสมบูรณ์ด้วยคุณธรรมอย่างมนุษย์  มีจิตใจสูงส่งและมีปัญญาพิจารณาความผิดชอบชั่วดี  นอกจากนี้มนุษย์ควรแลเห็นผู้อื่นเป็นมนุษย์ด้วยเช่นกัน  และประพฤติปฏิบัติกับผู้อื่นเช่นเดียวกับที่ผู้อื่นปฏิบัติกับตัวเรา  มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาอาจมองดูจากสภาพภายนอกแล้ว  คงไม่อาจตัดสินได้ว่าเป็นคนดีหรือคนร้าย  และหากมนุษย์ใช้สายตาพิจารณาลักษณะภายนอกเพียงอย่างเดียว  แต่ปราศจากการพิจารณาด้วยจิตใจ  คงไม่อาจสรุปได้ว่า  ผู้นั้นเป็นมนุษย์แน่แท้เพียงใด  ทุกชีวิตต่างก็มีความเท่าเทียมกันในความเป็นมนุษย์  ดังนั้นจึงควรถือว่าอย่างน้อยผู้อื่นก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกับตัวเรา  และต่างก็อยู่บนเส้นทางวงเวียนแห่งวัฏสงสารด้วยกันทั้งสิ้น

       
      คนเราถ้ารู้จักตนเองมากขึ้นเท่าใด  ชีวิตจะรุ่งเรืองมากขึ้นเท่านั้น  ถ้าไม่รู้จักตนเอง  ยังมืดมนอยู่ตลอดเวลา

                  ไม่มีผู้ใดจะรู้จักตนเองได้ดีเท่ากับตัวเราเอง  เรารู้ว่าเราเป็นใคร  ทำอะไรและเพื่ออะไร  จุดมุ่งหมายในชีวิตย่อมนำพาตัวเราไปสู้ความสำเร็จความเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไม่ยากเกินความสามารถ  ในทางกลับกัน  คนที่ยังไม่ค้นหาและตอบตวเองได้ว่าเป้าหมายของชีวิตคืออะไร

      อีกทั้งยังคงใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายปลายทาง  ชีวิตผู้นั้นก็ย่อมตกอยู่ใต้อำนาจฝ่ายต่ำที่คอยควบคุมจิตใจให้ประพฤติปกิบัติในสิ่งที่ไม่ดีงาม

      ไม่เป็นมงคลต่อชีวิต  มนุษย์ทุกคนตราบที่ยังมลมหายใจกันอยู่  ก็ย่อมค้นคว้าขวนขวายด้วยกันทั้งสิ้น  แต่ละวันผ่านไปก็ยังคงยุ่งยากลำบาก

      อยู่กับการคิดสารพัด  บางคนคิดไม่เคยสำเร็จก็เพราะไม่รู้จักตัวเอง  การคิดจึงออกนอกลู่นอกทางตลอดเวลา  ท้ายที่สุดชีวิตก็ได้พบแต่ความทุกข์

      เพราะขาดเป้าหมายของชีวิตและการดำรงชีวิตด้วยกุศลวิธี


      ทุกคนเป็นนายช่างสร้างชีวิตให้แก่ตนเอง  สุขทุกข์ในชีวิตประจำวันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการกระทำของตนทั้งสิ้น

              มนุษย์ทุกคนต่างก็ดิ้นรนกันไปเพื่อความอยู่รอดของชีวิตโดยมีตัวเองเป็นนายจ้าง  คอยควบคุมจิตและทิศทางของตนเองให้มุ่งหน้าสู่เป้าหมายและความสำเร็จ  บุคคลที่สามารถควบคุมตนเองได้นับว่าเป็นผู้ที่น่าชื่นชม  สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมาให้เราได้ประสบพบเจอกันในแต่ละวันนี้

      ล้วนแต่เป็นกรรมที่เราได้เคยทำไว้ในอดีตแทบทั้งสิ้น  บางคนพบกับสิ่งที่ดีก็เพราะเขาทำแต่ความดี ทำบุญกุศลมาโดยตลอด  ในขณะที่บางคน

      กลับต้องพบเจอแต่ความทุกข์โทมนัสอยู่เรื่อยไป  นั่นก็เป็นเพราะเขาอาจจะทำแต่สิ่งที่เป็นอกุศล  โดยขาดการคำนึงถึงอนาคตว่าสิ่งที่เขาจะต้อง

      ได้พบนั้นจะเป็นเช่นไร  นั่นคือมนุษย์ผู้นั้นขาดปัญญาในการคิดไตร่ตรองการกระทำของตนเอง  ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจะได้สุขได้ทุกข์นั้นก็

      ขึ้นอยู่กับการกระทำของตนเองทั้งสิ้น  การกระทำใดๆก็ตามเป็นผลแห่งชีวิตในอนาคตของคนๆนั้นซึ่งนับว่าเป้น  เหตุผลที่ยุติธรรมยอมรับ

      กันได้โดยทั่ว  คนจะดีจะชั่วก็ขึ้นอยู่กับกรรมของตนทั้งนั้น


      คนเราที่ได้เสียผู้เสียคนไปนั้น  ก็เพราะปล่อยตัวปล่อยใจเกินไป  ไม่มีการชำระสะสางตัวเองเสียบ้าง  คือไม่ได้พิจารณาตัวเองและไม่ได้แก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น  ความยุ่งยากก็เกิดขึ้นไม่รู้จักจบไม่รู้จักสิ้น

              การควบคุมจิตใจและความต้องการของตนเองนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ไม่ควรปล่อยปละละเลย  หากขาดซึ่งการควบคุมที่ดี  ชีวิตทั้งชีวิตของคนๆนั้นอาจจะล่มสลายได้อย่างง่ายๆ  เสียคนเป็นได้อย่างแน่นอน  เพราะมนุ๋ย์เราต่างๆก็มีกิเลสมากยากเกินกว่าที่จะควบคุมได้ทั้งหมด

      หากขาดความพอดี  ไม่คิดพิจารณาในสิ่งที่กระทำให้ดีเสียก่อน  ผลกรรมแห่งการกระทำนั้นย่อมส่งผลต่อผู้ก่อกรรมอย่างแน่นอน  มนุษย์บางคนปล่อยใจ ปล่อยตัว  คิดอยากจะทำอะไรก็ได้โดยปราศจากปัญญาพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนแล้ว  มนุษยืผู้นั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์พร้อมเพราะมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้นต้องประกอบด้วยปัญญาแห่งการพิจารณา  รวมทั้งคุณธรรมและจริยธรรมแห่งความเป็นมนุษย์  หากผู้ใดปราศจากสิ่งเหล่านี้แล้วและยังไม่แก้ไขตนเอง  ชีวิตก็ย่อมดำเนินไปด้วยความยุ่งยาก  เกิดความทุกข์และความสับสนต่างๆนานาในชีวิต  กลายเป็นชีวิตที่ไม่รู้จักสงบ ต้องดำรงไปตามผลกรรมที่ได้กระทำไว้ในอดีต


      **************************

      ป.ล.บทความนี้ได้รับแนวคิดมาจากการเรียนการสอนวิชา มน102 มนุษย์กับการใช้เหตุผลและจริยธรรม

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×