..............คุณๆใครๆแม่งก็คงมีความทรงจำกันทั้งนั้น ก็มีสมองกันทุกคนจะไม่มีความทรงจำได้ไงเนอะ
แต่ที่ผมกำลังจะเอ่ยมันคือความทรงจำวัยเด็กที่แม่งเด็กสัสๆ ยังเรียกไม่ได้ว่าขวบอะ แค่9เดือนได้มั้ง
หลายความทรงจำมันเน่าเฟะโดนแทะด้วยความโหดร้ายของเวลาเป็นสิบๆปี
และโดนทับถมๆๆๆด้วยวีถีชีวิต ประสบการณ์ ความทรงจำใหม่ๆ ที่มากมายไม่แพ้จำนวนเวลาสิบๆปีที่ย่อยออกมาเป็นวินาที
........มันคงแทบไม่เหลือเศษซากความทรงจำในวัยเด็กที่หมดสิ้นหลักฐาน
เพื่อมากระตุ้นมันให้มีลมหายใจท่ามกลางสภาพความโหดร้ายที่กล่าวมาได้
ถ้าแม่งไม่เป็นฉากหรือภาพที่เจ๋งจริงๆอะ แม่งอยู่ไม่ได้แน่ แต่มันจะมีไม่กี่ภาพอะ ที่แม่งอยู่ได้จนปัจจุบัน แปลว่าแม่งแน่โคดๆ
.........คือภาพตู้เซฟของผมไง แม่งมีภาพเดียวจริงๆอะ มันกระแทกหน้าผมชัดๆทุกครั้งยามโดนกระตุ้นถึงวัยเด็ก
มันเป็นภาพตู้เซฟเก่าๆสีเทาทึบสลับสีเงินเงาๆประปรายๆเหมือนโดนสภาพอากาศกัดเซาะมานาน
เอาเป็นว่าพ่อผมคลอดมันก่อนผมเกิด7-8ปีได้ อายุมันคงประมานเกือบ30ได้ .....คงพอรู้อายุผมแล้วหละสิ
...............แต่มันมีความน่าสนใจที่แทบหาอะไรมาตอบไม่ได้ว่า
อะไรคือเกราะป้องกันมันจากมรสุมเวลาเป็นสิบๆปี เพื่อให้ภาพมันยังชัดเจนจนปัจจุบัน
ผมนั่งขุดหาหลักฐานจากซากทับถมอันมหึมามหาศาลยังไง แม่งก็ไม่พบคำตอบพอที่จะตอบเพื่อที่จะประทังให้หายคาใจได้
แม่ทัก.........ลูกๆมืงนั่งเพ้อเจ้อไรอยู่ค่ะ......ผมนั่งคิดถึงตู้เซฟเล่นๆแก้เซงหว่ะแม่.....อ๋อที่มืงชอบไปหมุนเล่นทั้งที่ไม่มีกุญแจหรอลูกแม่ มืงนี่มันโง่ตั้งแต่เด็กจริงๆเล.........ฯลฯ
...........ผมปล่อยให้เสียงแม่ลอยผ่านหูเหมือนเสียงนกเหมือนกาไป เพราะสะดุดกับคำที่แม่บอกว่า"ที่มืงชอบหมุนเล่น"
เออใช่!! ไอตู้เซฟเหี้_นี่แหล่ะ ที่ผมช้ำใจที่ไม่เคยหมุนเปิดแม่งได้ตั้งแต่อายุ 9เดือนยันขวบ เพราะมัน
อ๋อ......สงสัยผมฝังใจที่เปิดแม่งไม่ได้ ภาพแม่งเลยติดตาจนทุกวันนี้
.........ตำแหน่งของตู้เซฟตู้นี้ ตอนนี้มันอยู่ห้องนอนพ่อผม ที่มีนิสัยหวงความเป็นส่วนตัวชิบหาย ผมเลยไม่คิดที่จะไปยุ่งกับมันหรอกนะตอนนี้
..............มันเกิดเป็นข้อสงสัยที่คาใจต่อมาว่า ไอเซฟเหลี่ยมมืงมีอะไรอยู่ข้างในวะ
ด้วยความที่ทำไรไม่ได้ยิ่งกว่าการแก้ปัญหาความวุ่นวายบ้านเมืองในไทยตอนนี้
ผมเลยมานั่งคิดจินตนาการโง่ๆเอา คาดเดาไป เผื่อแม่งอาจจะไขข้อสงสัยได้บางแหล่ะ
..........เอ๊ะ!! แล้วถ้าเกิดกูเปิดมันได้อะ แล้วข้างในแม่งเป็นเงินแบ้งพันกองพูนอัดเต็มเซฟอะ.....แต่ผมก็หยุดชะงัก เพราะบ้านกูไม่รวยขนาดน๊านนนน แต่ผมก็คิดไหลต่อไปอีกว่า ถ้าแม่งเป็นภาพเงินจริงๆอะ ตอนนี้กุคงอาจเรียนบริหารธุรกิจเพื่อหาเงินเป็นแสนๆหย่อนใส่ธนาคาร เพื่อแดกดอกเบี้ยอันหอมฉุยยิ่งกว่าดอกมะลิวันแม่
.........บางคนแม่งคงสวนมาว่าภาพในวัยล่ะอ่อนไร้สาระขนาดนั้นมันจะมีผลกับชีวิตมืงขนาดนี้ได้ไง.......แต่มันก็ไม่แน่นะมืง!!
...............หรือบางทีกูอาจจะไม่เป็นนักบริหารธุรกิจก็ได้ กูอาจจะตามรอย สืบนาคะเสถียร เป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติสัสๆ
เกลียดเม็ดเงินเกลียดทุนนิยมโคดๆ ที่แม่งต้องตามมาด้วยอุตสาหกรรม ที่แดกต้นไม้ไม่หยุดเหมือนความเจริญที่ไม่เคยพอ.....
............ดูท่าผมจะไปไกลล่ะ แต่ผมจะไม่หยุด เพราะความเพ้อเจ้อขี้สงสัยไปเรื่อยนี่แหล่ะสันดานกู
ผมคิดจินตนาการไปเรื่อยอย่างเพลิดเพลิน สุขใจยิ้มแก้มฉีกเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์
........กูได้คำตอบของคำถามที่น่าสงสัยล่ะ ว่าอะไรคือคำตอบของตู้เซฟใบนั้น
ตู้เซฟใบนั้นแหล่ะแม่งคือคำตอบ.......เพราะความสุขของกูคือการสงสัยและคิดหาคำตอบเพราะตู้เซฟใบนั้น
...........ความสุขที่ผมหรือใครที่แม่งมองหาในตู้เซฟ คาดหวังว่าในนั้นแม่งจะมี เงินทองมากมาย ชื่อเสียง อาชีพยอดนิยม ฯลฯ
ที่จะบันดาลความสุขให้คุณ
ทั้งที่บางคนไม่เคยตั้งคำถาม ตั้งข้อสงสัยกับตัวเอง ถามใจตัวเองเลยจริงๆว่าต้องการอะไร
.........เราโดนสังคมกดดันทางความคิดว่าในตู้เซฟนั่นอะแม่งตัวจริงของความสุข
บางคนได้เสียเวลาวิ่งหามันไประยะทางเป็นลี้ๆด้วยความเหน็ดเหนื่อยกาย
แต่ที่สำคันมันเหน็ดเหนื่อยใจและไม่มีความสุขตอบแทนกลับมามาบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยนั้นเลย
.............แต่ถ้าคุนลองเสียเวลาสร้างความคิดของคุณเอง เป็นกบฎกับความคิดคนอื่นบ้าง และตั้งคำถาม ถามมันด้วยใจตัวเอง
คุณอาจจะวิ่งมันด้วยความเหน็ดเหนื่อกายและเหน็ดเหนื่อยใจบ้าง
..............คุณๆใครๆแม่งก็คงมีความทรงจำกันทั้งนั้น ก็มีสมองกันทุกคนจะไม่มีความทรงจำได้ไงเนอะ
แต่ที่ผมกำลังจะเอ่ยมันคือความทรงจำวัยเด็กที่แม่งเด็กสัสๆ ยังเรียกไม่ได้ว่าขวบอะ แค่9เดือนได้มั้ง
หลายความทรงจำมันเน่าเฟะโดนแทะด้วยความโหดร้ายของเวลาเป็นสิบๆปี
และโดนทับถมๆๆๆด้วยวีถีชีวิต ประสบการณ์ ความทรงจำใหม่ๆ ที่มากมายไม่แพ้จำนวนเวลาสิบๆปีที่ย่อยออกมาเป็นวินาที
........มันคงแทบไม่เหลือเศษซากความทรงจำในวัยเด็กที่หมดสิ้นหลักฐาน
เพื่อมากระตุ้นมันให้มีลมหายใจท่ามกลางสภาพความโหดร้ายที่กล่าวมาได้
ถ้าแม่งไม่เป็นฉากหรือภาพที่เจ๋งจริงๆอะ แม่งอยู่ไม่ได้แน่ แต่มันจะมีไม่กี่ภาพอะ ที่แม่งอยู่ได้จนปัจจุบัน แปลว่าแม่งแน่โคดๆ
.........คือภาพตู้เซฟของผมไง แม่งมีภาพเดียวจริงๆอะ มันกระแทกหน้าผมชัดๆทุกครั้งยามโดนกระตุ้นถึงวัยเด็ก
มันเป็นภาพตู้เซฟเก่าๆสีเทาทึบสลับสีเงินเงาๆประปรายๆเหมือนโดนสภาพอากาศกัดเซาะมานาน
เอาเป็นว่าพ่อผมคลอดมันก่อนผมเกิด7-8ปีได้ อายุมันคงประมานเกือบ30ได้ .....คงพอรู้อายุผมแล้วหละสิ
...............แต่มันมีความน่าสนใจที่แทบหาอะไรมาตอบไม่ได้ว่า
อะไรคือเกราะป้องกันมันจากมรสุมเวลาเป็นสิบๆปี เพื่อให้ภาพมันยังชัดเจนจนปัจจุบัน
ผมนั่งขุดหาหลักฐานจากซากทับถมอันมหึมามหาศาลยังไง แม่งก็ไม่พบคำตอบพอที่จะตอบเพื่อที่จะประทังให้หายคาใจได้
แม่ทัก.........ลูกๆมืงนั่งเพ้อเจ้อไรอยู่ค่ะ......ผมนั่งคิดถึงตู้เซฟเล่นๆแก้เซงหว่ะแม่.....อ๋อที่มืงชอบไปหมุนเล่นทั้งที่ไม่มีกุญแจหรอลูกแม่ มืงนี่มันโง่ตั้งแต่เด็กจริงๆเล.........ฯลฯ
...........ผมปล่อยให้เสียงแม่ลอยผ่านหูเหมือนเสียงนกเหมือนกาไป เพราะสะดุดกับคำที่แม่บอกว่า"ที่มืงชอบหมุนเล่น"
เออใช่!! ไอตู้เซฟเหี้_นี่แหล่ะ ที่ผมช้ำใจที่ไม่เคยหมุนเปิดแม่งได้ตั้งแต่อายุ 9เดือนยันขวบ เพราะมัน
อ๋อ......สงสัยผมฝังใจที่เปิดแม่งไม่ได้ ภาพแม่งเลยติดตาจนทุกวันนี้
.........ตำแหน่งของตู้เซฟตู้นี้ ตอนนี้มันอยู่ห้องนอนพ่อผม ที่มีนิสัยหวงความเป็นส่วนตัวชิบหาย ผมเลยไม่คิดที่จะไปยุ่งกับมันหรอกนะตอนนี้
..............มันเกิดเป็นข้อสงสัยที่คาใจต่อมาว่า ไอเซฟเหลี่ยมมืงมีอะไรอยู่ข้างในวะ
ด้วยความที่ทำไรไม่ได้ยิ่งกว่าการแก้ปัญหาความวุ่นวายบ้านเมืองในไทยตอนนี้
ผมเลยมานั่งคิดจินตนาการโง่ๆเอา คาดเดาไป เผื่อแม่งอาจจะไขข้อสงสัยได้บางแหล่ะ
..........เอ๊ะ!! แล้วถ้าเกิดกูเปิดมันได้อะ แล้วข้างในแม่งเป็นเงินแบ้งพันกองพูนอัดเต็มเซฟอะ.....แต่ผมก็หยุดชะงัก เพราะบ้านกูไม่รวยขนาดน๊านนนน แต่ผมก็คิดไหลต่อไปอีกว่า ถ้าแม่งเป็นภาพเงินจริงๆอะ ตอนนี้กุคงอาจเรียนบริหารธุรกิจเพื่อหาเงินเป็นแสนๆหย่อนใส่ธนาคาร เพื่อแดกดอกเบี้ยอันหอมฉุยยิ่งกว่าดอกมะลิวันแม่
.........บางคนแม่งคงสวนมาว่าภาพในวัยล่ะอ่อนไร้สาระขนาดนั้นมันจะมีผลกับชีวิตมืงขนาดนี้ได้ไง.......แต่มันก็ไม่แน่นะมืง!!
...............หรือบางทีกูอาจจะไม่เป็นนักบริหารธุรกิจก็ได้ กูอาจจะตามรอย สืบนาคะเสถียร เป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติสัสๆ
เกลียดเม็ดเงินเกลียดทุนนิยมโคดๆ ที่แม่งต้องตามมาด้วยอุตสาหกรรม ที่แดกต้นไม้ไม่หยุดเหมือนความเจริญที่ไม่เคยพอ.....
............ดูท่าผมจะไปไกลล่ะ แต่ผมจะไม่หยุด เพราะความเพ้อเจ้อขี้สงสัยไปเรื่อยนี่แหล่ะสันดานกู
ผมคิดจินตนาการไปเรื่อยอย่างเพลิดเพลิน สุขใจยิ้มแก้มฉีกเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์
........กูได้คำตอบของคำถามที่น่าสงสัยล่ะ ว่าอะไรคือคำตอบของตู้เซฟใบนั้น
ตู้เซฟใบนั้นแหล่ะแม่งคือคำตอบ.......เพราะความสุขของกูคือการสงสัยและคิดหาคำตอบเพราะตู้เซฟใบนั้น
...........ความสุขที่ผมหรือใครที่แม่งมองหาในตู้เซฟ คาดหวังว่าในนั้นแม่งจะมี เงินทองมากมาย ชื่อเสียง อาชีพยอดนิยม ฯลฯ
ที่จะบันดาลความสุขให้คุณ
ทั้งที่บางคนไม่เคยตั้งคำถาม ตั้งข้อสงสัยกับตัวเอง ถามใจตัวเองเลยจริงๆว่าต้องการอะไร
.........เราโดนสังคมกดดันทางความคิดว่าในตู้เซฟนั่นอะแม่งตัวจริงของความสุข
บางคนได้เสียเวลาวิ่งหามันไประยะทางเป็นลี้ๆด้วยความเหน็ดเหนื่อยกาย
แต่ที่สำคันมันเหน็ดเหนื่อยใจและไม่มีความสุขตอบแทนกลับมามาบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยนั้นเลย
.............แต่ถ้าคุนลองเสียเวลาสร้างความคิดของคุณเอง เป็นกบฎกับความคิดคนอื่นบ้าง และตั้งคำถาม ถามมันด้วยใจตัวเอง
คุณอาจจะวิ่งมันด้วยความเหน็ดเหนื่อกายและเหน็ดเหนื่อยใจบ้าง
แต่ในเส้นทางนั้นมันมีสีรุ้งและระอองความสุขของคุณเปล่งประกายออกมาให้คุณบรรเทาทุกข์และเสวยอย่างยั่งยืนแต่ที่ผมกำลังจะเอ่ยมันคือความทรงจำวัยเด็กที่แม่งเด็กสัสๆ ยังเรียกไม่ได้ว่าขวบอะ แค่9เดือนได้มั้ง
หลายค..............คุณๆใครๆแม่งก็คงมีความทรงจำกันทั้งนั้น ก็มีสมองกันทุกคนจะไม่มีความทรงจำได้ไงเนอะ
แต่ที่ผมกำลังจะเอ่ยมันคือความทรงจำวัยเด็กที่แม่งเด็กสัสๆ ยังเรียกไม่ได้ว่าขวบอะ แค่9เดือนได้มั้ง
หลายความทรงจำมันเน่าเฟะโดนแทะด้วยความโหดร้ายของเวลาเป็นสิบๆปี
และโดนทับถมๆๆๆด้วยวีถีชีวิต ประสบการณ์ ความทรงจำใหม่ๆ ที่มากมายไม่แพ้จำนวนเวลาสิบๆปีที่ย่อยออกมาเป็นวินาที
........มันคงแทบไม่เหลือเศษซากความทรงจำในวัยเด็กที่หมดสิ้นหลักฐาน
เพื่อมากระตุ้นมันให้มีลมหายใจท่ามกลางสภาพความโหดร้ายที่กล่าวมาได้
ถ้าแม่งไม่เป็นฉากหรือภาพที่เจ๋งจริงๆอะ แม่งอยู่ไม่ได้แน่ แต่มันจะมีไม่กี่ภาพอะ ที่แม่งอยู่ได้จนปัจจุบัน แปลว่าแม่งแน่โคดๆ
.........คือภาพตู้เซฟของผมไง แม่งมีภาพเดียวจริงๆอะ มันกระแทกหน้าผมชัดๆทุกครั้งยามโดนกระตุ้นถึงวัยเด็ก
มันเป็นภาพตู้เซฟเก่าๆสีเทาทึบสลับสีเงินเงาๆประปรายๆเหมือนโดนสภาพอากาศกัดเซาะมานาน
เอาเป็นว่าพ่อผมคลอดมันก่อนผมเกิด7-8ปีได้ อายุมันคงประมานเกือบ30ได้ .....คงพอรู้อายุผมแล้วหละสิ
...............แต่มันมีความน่าสนใจที่แทบหาอะไรมาตอบไม่ได้ว่า
อะไรคือเกราะป้องกันมันจากมรสุมเวลาเป็นสิบๆปี เพื่อให้ภาพมันยังชัดเจนจนปัจจุบัน
ผมนั่งขุดหาหลักฐานจากซากทับถมอันมหึมามหาศาลยังไง แม่งก็ไม่พบคำตอบพอที่จะตอบเพื่อที่จะประทังให้หายคาใจได้
แม่ทัก.........ลูกๆมืงนั่งเพ้อเจ้อไรอยู่ค่ะ......ผมนั่งคิดถึงตู้เซฟเล่นๆแก้เซงหว่ะแม่.....อ๋อที่มืงชอบไปหมุนเล่นทั้งที่ไม่มีกุญแจหรอลูกแม่ มืงนี่มันโง่ตั้งแต่เด็กจริงๆเล.........ฯลฯ
...........ผมปล่อยให้เสียงแม่ลอยผ่านหูเหมือนเสียงนกเหมือนกาไป เพราะสะดุดกับคำที่แม่บอกว่า"ที่มืงชอบหมุนเล่น"
เออใช่!! ไอตู้เซฟเหี้_นี่แหล่ะ ที่ผมช้ำใจที่ไม่เคยหมุนเปิดแม่งได้ตั้งแต่อายุ 9เดือนยันขวบ เพราะมัน
อ๋อ......สงสัยผมฝังใจที่เปิดแม่งไม่ได้ ภาพแม่งเลยติดตาจนทุกวันนี้
.........ตำแหน่งของตู้เซฟตู้นี้ ตอนนี้มันอยู่ห้องนอนพ่อผม ที่มีนิสัยหวงความเป็นส่วนตัวชิบหาย ผมเลยไม่คิดที่จะไปยุ่งกับมันหรอกนะตอนนี้
..............มันเกิดเป็นข้อสงสัยที่คาใจต่อมาว่า ไอเซฟเหลี่ยมมืงมีอะไรอยู่ข้างในวะ
ด้วยความที่ทำไรไม่ได้ยิ่งกว่าการแก้ปัญหาความวุ่นวายบ้านเมืองในไทยตอนนี้
ผมเลยมานั่งคิดจินตนาการโง่ๆเอา คาดเดาไป เผื่อแม่งอาจจะไขข้อสงสัยได้บางแหล่ะ
..........เอ๊ะ!! แล้วถ้าเกิดกูเปิดมันได้อะ แล้วข้างในแม่งเป็นเงินแบ้งพันกองพูนอัดเต็มเซฟอะ.....แต่ผมก็หยุดชะงัก เพราะบ้านกูไม่รวยขนาดน๊านนนน แต่ผมก็คิดไหลต่อไปอีกว่า ถ้าแม่งเป็นภาพเงินจริงๆอะ ตอนนี้กุคงอาจเรียนบริหารธุรกิจเพื่อหาเงินเป็นแสนๆหย่อนใส่ธนาคาร เพื่อแดกดอกเบี้ยอันหอมฉุยยิ่งกว่าดอกมะลิวันแม่
.........บางคนแม่งคงสวนมาว่าภาพในวัยล่ะอ่อนไร้สาระขนาดนั้นมันจะมีผลกับชีวิตมืงขนาดนี้ได้ไง.......แต่มันก็ไม่แน่นะมืง!!
...............หรือบางทีกูอาจจะไม่เป็นนักบริหารธุรกิจก็ได้ กูอาจจะตามรอย สืบนาคะเสถียร เป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติสัสๆ
เกลียดเม็ดเงินเกลียดทุนนิยมโคดๆ ที่แม่งต้องตามมาด้วยอุตสาหกรรม ที่แดกต้นไม้ไม่หยุดเหมือนความเจริญที่ไม่เคยพอ.....
............ดูท่าผมจะไปไกลล่ะ แต่ผมจะไม่หยุด เพราะความเพ้อเจ้อขี้สงสัยไปเรื่อยนี่แหล่ะสันดานกู
ผมคิดจินตนาการไปเรื่อยอย่างเพลิดเพลิน สุขใจยิ้มแก้มฉีกเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์
........กูได้คำตอบของคำถามที่น่าสงสัยล่ะ ว่าอะไรคือคำตอบของตู้เซฟใบนั้น
ตู้เซฟใบนั้นแหล่ะแม่งคือคำตอบ.......เพราะความสุขของกูคือการสงสัยและคิดหาคำตอบเพราะตู้เซฟใบนั้น
...........ความสุขที่ผมหรือใครที่แม่งมองหาในตู้เซฟ คาดหวังว่าในนั้นแม่งจะมี เงินทองมากมาย ชื่อเสียง อาชีพยอดนิยม ฯลฯ
ที่จะบันดาลความสุขให้คุณ
ทั้งที่บางคนไม่เคยตั้งคำถาม ตั้งข้อสงสัยกับตัวเอง ถามใจตัวเองเลยจริงๆว่าต้องการอะไร
.........เราโดนสังคมกดดันทางความคิดว่าในตู้เซฟนั่นอะแม่งตัวจริงของความสุข
บางคนได้เสียเวลาวิ่งหามันไประยะทางเป็นลี้ๆด้วยความเหน็ดเหนื่อยกาย
แต่ที่สำคันมันเหน็ดเหนื่อยใจและไม่มีความสุขตอบแทนกลับมามาบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยนั้นเลย
.............แต่ถ้าคุนลองเสียเวลาสร้างความคิดของคุณเอง เป็นกบฎกับความคิดคนอื่นบ้าง และตั้งคำถาม ถามมันด้วยใจตัวเอง
คุณอาจจะวิ่งมันด้วยความเหน็ดเหนื่อกายและเหน็ดเหนื่อยใจบ้าง
แต่ในเส้นทางนั้นมันมีสีรุ้งและระอองความสุขของคุณเปล่งประกายออกมาให้คุณบรรเทาทุกข์และเสวยอย่างยั่งยืนวามทรงจำมันเน่าเฟะโดนแทะด้วยความโหดร้ายของเวลาเป็นสิบๆปี
และโดนทับถมๆๆๆด้วยวีถีชีวิต ประสบการณ์ ความทรงจำใหม่ๆ ที่มากมายไม่แพ้จำนวนเวลาสิบๆปีที่ย่อยออกมาเป็นวินาที
........มันคงแทบไม่เหลือเศษซากความทรงจำในวัยเด็กที่หมดสิ้นหลักฐาน
เพื่อมากระตุ้นมันให้มีลมหายใจท่ามกลางสภาพความโหดร้ายที่กล่าวมาได้
ถ้าแม่งไม่เป็นฉากหรือภาพที่เจ๋งจริงๆอะ แม่งอยู่ไม่ได้แน่ แต่มันจะมีไม่กี่ภาพอะ ที่แม่งอยู่ได้จนปัจจุบัน แปลว่าแม่งแน่โคดๆ
.........คือภาพตู้เซฟของผมไง แม่งมีภาพเดียวจริงๆอะ มันกระแทกหน้าผมชัดๆทุกครั้งยามโดนกระตุ้นถึงวัยเด็ก
มันเป็นภาพตู้เซฟเก่าๆสีเทาทึบสลับสีเงินเงาๆประปรายๆเหมือนโดนสภาพอากาศกัดเซาะมานาน
เอาเป็นว่าพ่อผมคลอดมันก่อนผมเกิด7-8ปีได้ อายุมันคงประมานเกือบ30ได้ .....คงพอรู้อายุผมแล้วหละสิ
...............แต่มันมีความน่าสนใจที่แทบหาอะไรมาตอบไม่ได้ว่า
อะไรคือเกราะป้องกันมันจากมรสุมเวลาเป็นสิบๆปี เพื่อให้ภาพมันยังชัดเจนจนปัจจุบัน
ผมนั่งขุดหาหลักฐานจากซากทับถมอันมหึมามหาศาลยังไง แม่งก็ไม่พบคำตอบพอที่จะตอบเพื่อที่จะประทังให้หายคาใจได้
แม่ทัก.........ลูกๆมืงนั่งเพ้อเจ้อไรอยู่ค่ะ......ผมนั่งคิดถึงตู้เซฟเล่นๆแก้เซงหว่ะแม่.....อ๋อที่มืงชอบไปหมุนเล่นทั้งที่ไม่มีกุญแจหรอลูกแม่ มืงนี่มันโง่ตั้งแต่เด็กจริงๆเล.........ฯลฯ
...........ผมปล่อยให้เสียงแม่ลอยผ่านหูเหมือนเสียงนกเหมือนกาไป เพราะสะดุดกับคำที่แม่บอกว่า"ที่มืงชอบหมุนเล่น"
เออใช่!! ไอตู้เซฟเหี้_นี่แหล่ะ ที่ผมช้ำใจที่ไม่เคยหมุนเปิดแม่งได้ตั้งแต่อายุ 9เดือนยันขวบ เพราะมัน
อ๋อ......สงสัยผมฝังใจที่เปิดแม่งไม่ได้ ภาพแม่งเลยติดตาจนทุกวันนี้
.........ตำแหน่งของตู้เซฟตู้นี้ ตอนนี้มันอยู่ห้องนอนพ่อผม ที่มีนิสัยหวงความเป็นส่วนตัวชิบหาย ผมเลยไม่คิดที่จะไปยุ่งกับมันหรอกนะตอนนี้
..............มันเกิดเป็นข้อสงสัยที่คาใจต่อมาว่า ไอเซฟเหลี่ยมมืงมีอะไรอยู่ข้างในวะ
ด้วยความที่ทำไรไม่ได้ยิ่งกว่าการแก้ปัญหาความวุ่นวายบ้านเมืองในไทยตอนนี้
ผมเลยมานั่งคิดจินตนาการโง่ๆเอา คาดเดาไป เผื่อแม่งอาจจะไขข้อสงสัยได้บางแหล่ะ
..........เอ๊ะ!! แล้วถ้าเกิดกูเปิดมันได้อะ แล้วข้างในแม่งเป็นเงินแบ้งพันกองพูนอัดเต็มเซฟอะ.....แต่ผมก็หยุดชะงัก เพราะบ้านกูไม่รวยขนาดน๊านนนน แต่ผมก็คิดไหลต่อไปอีกว่า ถ้าแม่งเป็นภาพเงินจริงๆอะ ตอนนี้กุคงอาจเรียนบริหารธุรกิจเพื่อหาเงินเป็นแสนๆหย่อนใส่ธนาคาร เพื่อแดกดอกเบี้ยอันหอมฉุยยิ่งกว่าดอกมะลิวันแม่
.........บางคนแม่งคงสวนมาว่าภาพในวัยล่ะอ่อนไร้สาระขนาดนั้นมันจะมีผลกับชีวิตมืงขนาดนี้ได้ไง.......แต่มันก็ไม่แน่นะมืง!!
...............หรือบางทีกูอาจจะไม่เป็นนักบริหารธุรกิจก็ได้ กูอาจจะตามรอย สืบนาคะเสถียร เป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติสัสๆ
เกลียดเม็ดเงินเกลียดทุนนิยมโคดๆ ที่แม่งต้องตามมาด้วยอุตสาหกรรม ที่แดกต้นไม้ไม่หยุดเหมือนความเจริญที่ไม่เคยพอ.....
............ดูท่าผมจะไปไกลล่ะ แต่ผมจะไม่หยุด เพราะความเพ้อเจ้อขี้สงสัยไปเรื่อยนี่แหล่ะสันดานกู
ผมคิดจินตนาการไปเรื่อยอย่างเพลิดเพลิน สุขใจยิ้มแก้มฉีกเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์
........กูได้คำตอบของคำถามที่น่าสงสัยล่ะ ว่าอะไรคือคำตอบของตู้เซฟใบนั้น
ตู้เซฟใบนั้นแหล่ะแม่งคือคำตอบ.......เพราะความสุขของกูคือการสงสัยและคิดหาคำตอบเพราะตู้เซฟใบนั้น
...........ความสุขที่ผมหรือใครที่แม่งมองหาในตู้เซฟ คาดหวังว่าในนั้นแม่งจะมี เงินทองมากมาย ชื่อเสียง อาชีพยอดนิยม ฯลฯ
ที่จะบันดาลความสุขให้คุณ
ทั้งที่บางคนไม่เคยตั้งคำถาม ตั้งข้อสงสัยกับตัวเอง ถามใจตัวเองเลยจริงๆว่าต้องการอะไร
.........เราโดนสังคมกดดันทางความคิดว่าในตู้เซฟนั่นอะแม่งตัวจริงของความสุข
บางคนได้เสียเวลาวิ่งหามันไประยะทางเป็นลี้ๆด้วยความเหน็ดเหนื่อยกาย
แต่ที่สำคันมันเหน็ดเหนื่อยใจและไม่มีความสุขตอบแทนกลับมามาบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยนั้นเลย
.............แต่ถ้าคุนลองเสียเวลาสร้างความคิดของคุณเอง เป็นกบฎกับความคิดคนอื่นบ้าง และตั้งคำถาม ถามมันด้วยใจตัวเอง
คุณอาจจะวิ่งมันด้วยความเหน็ดเหนื่อกายและเหน็ดเหนื่อยใจบ้าง
แต่ในเส้นทางนั้นมันมีสีรุ้งและระอองความสุขของคุณเปล่งประกายออกมาให้คุณบรรเทาทุกข์และเสวยอย่างยั่งยืนน
ความคิดเห็น