Memories of love. รักนิรันทร์ - นิยาย Memories of love. รักนิรันทร์ : Dek-D.com - Writer
×

    Memories of love. รักนิรันทร์

    เรื่องราวเกี่ยวกับหนุ่มสาวในวัยเรียนที่มีความรู้สึกดีต่อกันจนกระทั่งได้พัฒนาความสัมพันธ์แล้ววันนึงเขาทั้งสองก็ต้องแยกจากกันจนมาเจอกันอีกครั้งเมื่อทั้งสองโตขึ้นและต่างมีคนรักของตัวเองเขาและเธอจะทำเช่นไร

    ผู้เข้าชมรวม

    72

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    72

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  30 มิ.ย. 56 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Memories of love. รักนิรันทร์
    ตอนที่ 1

     

    เสียงเอะอะในห้องเรียนเงียบลงทันทีเมื่อเห็นอาจารย์สาวสุดสวยก้าวเข้ามายังห้องเรียนด้วยท่าทีไว้ตัว กวาดสายตามองนักเรียนทั่วห้องด้วยสายตาเฉียบคมแฝงความเบื่อระอากับการที่ต้องมาพบปะกับเจ้าพวกทะโมนทั้งหลาย

    สวัสดีค่ะอาจารย์/สวัสดีครับอาจารย์

    เสียงนักเรียนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

    “นั่งลงได้” ครูสาวพูดพลางทำมือไขว้หลังไว้เพื่อให้ตนดูน่าเกรงขาม

    บรรยากาศในห้องเรียนดูตึงเครียด นักเรียนทุกคนไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ต่างก้มหน้ากันแทบจะจรดกับโต๊ะ ในโรงเรียนนี้ไม่มีใครกล้าแหยมกับครูสาวคนนี้ ด้วยท่าทางไว้ตัว หยิ่ง บวกกับความเก่งที่ครูสาวมักจะเหยียดๆครูคนอื่นอยู่บ่อยครั้งถึงจะเป็นครูที่สอนในระดับม.ปลาย แต่ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนในระดับชั้นไหนก็ต่างเกรงใจครูคนนี้เป็นพิเศษยิ่งเด็กม.ต้นล่ะก็วิ่งจ้ำอ้าวกันแทบไม่ทัน

    “ครูมีเพื่อนใหม่มาแนะนำเขาเพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนในต่างจังหวัด”เข้ามาสิ”ครูสาวพูดพลางมองไปที่ประตูเพื่อเรียกนักเรียนใหม่เข้ามาในห้อง เด็กสาวก้าวเข้ามาอย่างช้าๆด้วยกิริยาเรียบร้อยจนมาหยุดอยู่ที่ข้างครูสาว

    นักเรียนทุกคนที่แต่เดิมนั้นนั่งจนน่าจะหลอมรวมกับโต๊ะต่างเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองเด็กใหม่ทันใดความกลัวครูสาวหายไปชั่วขณะ พลันก็เกิดเสียงซุบซิบๆ ขึ้น   ปั้ง!!!เสียงแปรงลบกระดานกระทบกับโต๊ะพักครูเข้าอย่างจัง

    “เงียบ”นักเรียนทุกคนในห้องต่างนั่งก้มหน้านิ่งอยากมองหน้าเด็กใหม่ก็อยากมองกลัวก็กลัวแต่ก็ได้แต่นั่งก้มหน้าเพราะความกลัวอยู่เหนือกว่าความอยากรู้(เฉพาะตอนนี้)

    “แนะนำตัวซะสิ”

    เด็กสาวกระถดตัวอย่างช้าๆเพื่อนเลื่อนขึ้นมาข้างหน้า

    “สวัสดีค่ะ ชื่อนราทิพย์นะคะ หรือเรียกว่า น้ำใสก็ได้คะ “เธอไปนั่งตรงนั้นน่ะ”ครูสาวชี้ไปยังโต๊ะเรียนที่ว่างเด็กสาวมองตามมือเรียวสวยชี้ไปยังโต๊ะที่ว่าง แล้วจึงค่อยเดินไปนั่งที่ตามที่ครูสาวบอก

    “ฝากเพื่อนใหม่ด้วย เขาเพิ่งย้ายมาใหม่อาจจะยังไม่รู้กฎระเบียบของที่นี่มีอะไรก็ช่วยเขาด้วยละกัน  วันนี้ครูมีแค่นี้แหละ”

    เสียงเคลื่อนโต๊ะดังทั่วห้องเพื่อจะทำความเคารพ  แต่ครูสาวรีบจ้ำอ้าวเดินออกจากห้องไปก่อนโดยไม่รีรออะไรทั้งนั้นปล่อยให้นักเรียนในห้องยืนอ้าปากค้าง   พลันมีเสียงซุบซิบๆดังขึ้นมาจากการกระทำของครูสาวสุดสวยเมื่อครู่   ทันใดนั้นเสียงในห้องก็ดังขึ้นยิ่งกว่าเดิมและต่างวิ่งมารุมล้อมเด็กใหม่ยิ่งกว่าเห็นดารา ฮอลลีวู้ด เสียอีก

    “โห...น่ารักเว่อร์  ใสสมชื่อเลยอ่ะ นี่มีแฟนยังจ๊ะ ถ้ายังไม่มีเค้ายังว่างนะสนใจมาเป้นหุ้นส่วนหัวใจกันมะ” เด็กหนุ่มคนหนึ่งในห้องเอ่ยขึ้นพร้อมกับทำหน้าเก็กเต็มที่

    “แหวะ  อย่างแกใครจะเอาถึงน้ำใสเค้าจะมีหรือไม่มีหุ้นส่วนหัวใจยังไงเค้าคงไม่มองแกหรอกย่ะ” เพื่อนสาวค้อน  ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกับมีเสียงโห่ตามมา    เด็กหนุ่มทำหน้าบึ้งอย่างหัวเสีย...ก่อนที่จะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

    “หึงอ่ะดิ” เด็กหนุ่มทำลอยหน้าลอยตายั่ว

    “บ้า!!!ใครหึงป่าวหึงสักหน่อยฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายจะหึงนายไปทำไม” เด็กสาวขึ้นเสียงก่อนแก้มจะเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ และมี เสียงแซวดังไม่เลิก เด็กสาวเดินไปหยิบไม้กวาดที่วางอยู่ตรงมุมห้องยิ้มอย่างมีแผนแล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม ก่อนที่จะเงื้อขึ้นสุดแขน

    “ไอ้บ้า อ๋อง แกตายแน่”

    “เห้ย!!”เด็กหนุ่มร้องเสียงหลง “นี่เธอจะทำอะไรของเธอยัยแต”เด็กหนุ่มพูดเสียงสั่น

    “ก็จะฆ่าแกไง” เด็กสาวตอบด้วยน้ำเสียงโมโห เพื่อนในห้องเห็นท่าไม่ดีต่างเข้ามาห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล

    “นี่ฉันล้อเล่นนิดเดียวเองนะ  ถ้ามันไม่จริงจะโกรธทำไมเล่า” เด็กสาวได้ยินถึงกับเขวี้ยงไม้กวาดลงกับพื้นแล้วเดินปรี่เข้าไปหมายบีบคอเด็กหนุ่ม

    “ช่วย!!ค๊อกๆแค๊ก ปล่อย” เสียงหัวเราะดังลั่นห้องเมื่อห้ามแล้วไม่เป็นผลก็ปล่อยให้ตีกันซะเลย

    “หยุดเดี่ยวนี้นะ”เสียงเด็กสาวที่นั่งข้างเด็กใหม่ร้องขึ้นทำให้เสียงในห้องเงียบลง แล้วเดินก้าวฉับๆไปหาเพื่อน ทั้งสองที่บัดนี้ยังตีกันไม่หยุด “นี่หยุดนะ” ไม่มีสัญญาณตอบรับอะไรจากคนทั้งสองนอกจากกองเชียร์ด้านข้างที่ต่างเงียบเป็นเป่าสาก “หยุดดดดดดด!!!!!”ทั้งสองชะงักค้างและยอมแยกออกจากกัน

    “ถ้าจะตีกันก็ออกไปตีกันข้างนอกนี่มันห้องเรียน น่ารำคาญชะมัด”

    “ก็อ๋องมันมาว่าฉันก่อนนี่”เด้กสาวทำหน้าบึ้ง “นี่พูดให้มันถูกหน่อยจะได้มั้ย เธอเป็นคนว่าฉันก่อนต่างหาก” เด็กหนุ่มได้ที่ก็ค้อนเพื่อนสาววงใหญ่

    “เธอก็รู้ว่าอ๋องเขาปากหมาอย่างนี้มานานแล้วจะไปสนใจเขาทำไม...หมากัดก็อย่ากัดกับหมาไม่งั้นมันก็จะกลายเป็นหมากันไปทั้งคู่”

    “อู้ววว..แรงส์”เสียงเด็กหนุ่มใส่แว่นที่ยืนถือตำราเรียนอยู่พูดขึ้น สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่ชายใส่แว่นเป็นตาเดียวก่อนที่เจ้าตัวจะรู้สึกแล้วสะดุ้งสุดตัว “อุ้ยย  ขอโทษฉันนนน..ไปอ่านหนังสือก่อนนะ” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงหวาดๆ

    “เดี๋ยวก็โดนอีกคนหรอก ตี๋  รู้เวลาซะมั่ง”เพื่อนสาวกระซิบก่อนที่เด็กหนุ่มจะหันมามอง”ทำไงอ่ะแก้ว มันลืมตัวอ่ะ”

     “อ้าววพูดอย่างนี้ก็สวยดิเหมย อยู่ดีๆมาว่าเราเป็นหมาได้ไง” อ๋องค้อน ก่อนที่เพื่อนสาวจะหันมา

    “หรือจะเอาล่ะ” เหมยพูดเสียงแข็ง ทำให้เพื่อนชายที่อ้าปากกำลังจะพูดต่อถึงกับหุบปากเงียบเลยทีเดียว

    “เอ้า แยกย้ายกันไปนั่งที่ได้แล้ว” ทุกคนในห้องต่างทำตามที่เพื่อนสาวสั่ง แต่อ๋องกับแตที่ยังถลึงตาใส่กันอยู่เดินหน้างอกลับไปนั่งที่

    “ทำไมฉันต้องมานั่งใกล้นายด้วยนะ” แตบ่นพึมพำ

    “ทำอย่างกับว่าฉันอยากนั่งใกล้เธอตายล่ะ” อ๋องพูดพลางยื่นหน้าเข้ามา  เด็กสาวสะบัดแล้วนั่งลงกับที่

    “ดูเพื่อนๆในห้องจะเกรงใจเธอมากเลยนะ”เด็กใหม่พูด

    “ไม่รู้สิ....คงเป็นเพราะฉันเป็นหัวหน้าห้องมั้ง” เด็กสาวหันมาตอบก่อนจะนั่งลงและส่งยิ้มอันเป็นไมตรีให้แกเด็กใหม่

    “แต่ฉันว่าคงเป็นเพราะเธอเป็นป้าแก่จอมโหดมากกว่า”แก้วพูดพลางเหล่ตามองเพื่อนสาวที่บัดนี้ทำหน้าขมวดคิ้วจนติดกันแล้วหัวเราะเพื่อนสาวเบาๆ “บ้า” เหมยพูดแก้เขิน

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะน้ำใส คงจะได้ยินชื่อเราแล้วนะ” เหมยพูดพลางเอื้อมมือเข้าไปหาเด็กใหม่

    “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันจ้ะ” เด็กสาวทั้งสองยื่นมือสัมผัสกันพร้อมด้วยรอยยิ้มแสนอบอุ่น

    “กริ๊งงงงงงง”  เสียงออดบอกเวลาพักเที่ยงทำให้คนในห้องต่างแยกย้ายกันไปพักกลางวัน เสียงเก้าอี้โต๊ะดังครืนๆเพราะคนในห้องต่างก็เตรียมตัวไปรับประทานอาหาร

    “ไปกินข้าวกัน” เหมยพูดพลางลุกขึ้นเพื่อนำพาเพื่อนสาวคนใหม่ไปโรงอาหาร

    “จ้ะ”น้ำใสส่งยิ้มให้พลางลุกขึ้นตามเพื่อนสาว

    “โอ๊ยยยหิวจัง เหมยจะไปกินข้าวเหรอรอด้วยฉันเก็บของแปปนึง”เพื่อนสาวพูดพลางเก็บของอย่างรีบร้อนแล้วเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาเพื่อนสาวก่อนจะยื่นมือไปจับแขนของเพื่อนสาวสุดห้าว

    “ปะ ไปกินข้าวกัน”แตพูดพลางรุนหลังเหมยให้รีบเดินอย่างหิวจัด  

     กรี๊ดดดดดด!!!!!!!เสียงดังแหลมแสบแก้วหูของสาวๆในโรงเรียนต่างส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดให้หนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆในโรงเรียน ขณะที่หนุ่มสุดหล่อพร้อมแก๊งเดินมาอย่างภาคภูมิราวกับพึ่งรับรางวัลสตาร์อวอร์ดมาก็ไม่ปาน

    “เอาอีกแล้ว.ไอ้พวกนี้มันไม่มีอะไรทำนอกจากมาเดินให้เขากรี๊ดหรือไงนะ   พวกนี้ก็กรี๊ดกันจังก็คนเหมือนกันแหละวะ”                           เหมยพุดอย่างรำคาญที่เห้นผู้หญิงในโรงเรียนพากันรุมกรี๊ดให้เพื่อนหนุ่มร่วมห้อง                                                                      

    “เอาเถอะน่า  เหมยช่างเขาเถอะจ้ะ”เด็กใหม่พูดพลางหัวเราะ   

    “ไอ้พวกนี้มันก็มากะล่อนไปวันๆเท่านั้นแหละ อย่าไปซีนักเลยไม่ใช่เรื่องของเราสักหน่อย    นี่อารมณ์เสียบ่อยๆระวังแก่เร็วนะแค่นี่ยังแก่ไม่พออีกเหรอ”แตพูดกลั้วหัวเราะ  “ยัยแต  แกว่าฉันแก่เหรอ” เหมยทำหน้าบึ้ง

    “ก็มันจริงมั้ยล่ะ”แตพูดแล้วยื่นหน้าเข้ามาล้อเลียนเหมย  ก่อนจะโดนฝ่ามืออรหันต์ฟาดเผี๊ยะลงที่ท่อนแขน

    “โอ๊ยยยย  เจ็บนะ”  

    “จะกินมั้ยข้าวน่ะห้ะ  หรือจะไปยืนกรี๊ดกับเขา”  

    “พอเถอะน่าไปกินข้าวดีกว่านะ ปะ แต เหมย”น้ำใสพูดพลางอมยิ้มกับกิริยาไม่พอใจของเหมยที่ทำท่าว่าจะงอนแต

    “อย่างอนเลยนะ อย่างอนเลยนะ  ดีกันๆ ”

    “เออ”

    เด็กสาวทั้งสามต่างพากันเดินไปเอกซื้ออาหารแล้วมานั่งที่โต๊ะยาวในโรงอาหารพร้อมด้วยของกินพะรุงพะรังเต็มไปหมด

    “ซื้อมาเยอะขนาดนี้จะกินหมดเหรอ เหมย”  น้ำใสพูดแล้วมองถุงที่เต็มไปด้วยอาหาร

    “โอ๊ยย นี่น้ำใสนี่เธอคงมารู้ล่ะสิว่าแตมีตั้งแปดกระเพาะเลยนะ แค่นี้ยังไม่ถึงครึ่งกระเพาะหรอก”

    “นี่แต พูดมากนักนะ จะกินหรือปล่าวซื้อมาก็กินๆไปเหอะน่าวัยอย่างเราเนี่ยมันต้องกินเยอะๆกินได้เท่าไหร่ก็ยัดๆมันไปจะได้มีแรงเรียนไงเล่า”

    “เหรอ”แตกับน้ำใสพูดประสานเสียงพร้อมกันอย่างไม่เชื่อที่เพื่อนสาวพูดเท่าไรนัก

    “สามสาวจ๊ะ นี่วันนี้ว่างรึปล่าว ”  เสียงเพื่อนร่วมห้องอีกคนเอ่ยทักด้วยเสียงระรื่น

    “ไม่ว่าง” แตกับเหมยพูดพร้อมกันเพราะเป็นอันรู้ว่าเพื่อนสาวนั้นมีจุดมุ่งหมายอะไร

    “หืมมม พร้อมกันเชียวนะ น้ำใสวันนี้ตอนเย็นว่างหรือปล่าวไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”

    “ไปไหนเหรอ”

    “ก็ไปดูไอ้หน้าวอกห้อง 6 ซ้อมบอลไง ไปได้ทุกวันฉันไม่ยอมให้น้ำใสเป็นเหยื่อแกอีกคนหรอกย่ะ”

    “ยัยเหมย” แก้วทำสายตาค้อนใส่แล้วทำหน้าบึ้ง

    “ว่างสิฉันไปเป็นเพื่อนเธอได้” น้ำใสตอบแล้วยิ้ม อย่างเป็นมิตร
    "เย้   น้ำใสใจดีจังเลย  ฉันไม่ง้อพวกเธอแล้วย่ะ งั้นตอนเย็นเจอกันนะ"แก้วพุดพลางส่งยิ้มให้กับเพื่อนสาวด้วยแววตาเป็นประกายก่อนจะเดินไปนั่งกินข้าวพร้อมทั้งทำท่าทางเพ้อฝัน   ทั้งสามหัวเราะในท่าทีของแก้วอย่างตลกๆ

    http://upic.me/i/yn/1236905_5796343.gif http://upic.me/i/uo/1189009671.gif http://upic.me/i/df/1_080805_darak_d_o_cola71a.gf http://upic.me/i/n9/1_20080822dantrip_d_o_cola71a.gif http://upic.me/i/gg/ljvs8.gif

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น