Memories of love. รักนิรันทร์
เรื่องราวเกี่ยวกับหนุ่มสาวในวัยเรียนที่มีความรู้สึกดีต่อกันจนกระทั่งได้พัฒนาความสัมพันธ์แล้ววันนึงเขาทั้งสองก็ต้องแยกจากกันจนมาเจอกันอีกครั้งเมื่อทั้งสองโตขึ้นและต่างมีคนรักของตัวเองเขาและเธอจะทำเช่นไร
ผู้เข้าชมรวม
72
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Memories of love. รักนิรันทร์
ตอนที่ 1
เสียงเอะอะในห้องเรียนเงียบลงทันทีเมื่อเห็นอาจารย์สาวสุดสวยก้าวเข้ามายังห้องเรียนด้วยท่าทีไว้ตัว กวาดสายตามองนักเรียนทั่วห้องด้วยสายตาเฉียบคมแฝงความเบื่อระอากับการที่ต้องมาพบปะกับเจ้าพวกทะโมนทั้งหลาย
สวัสดีค่ะอาจารย์/สวัสดีครับอาจารย์
เสียงนักเรียนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
“นั่งลงได้” ครูสาวพูดพลางทำมือไขว้หลังไว้เพื่อให้ตนดูน่าเกรงขาม
บรรยากาศในห้องเรียนดูตึงเครียด นักเรียนทุกคนไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ต่างก้มหน้ากันแทบจะจรดกับโต๊ะ ในโรงเรียนนี้ไม่มีใครกล้าแหยมกับครูสาวคนนี้ ด้วยท่าทางไว้ตัว หยิ่ง บวกกับความเก่งที่ครูสาวมักจะเหยียดๆครูคนอื่นอยู่บ่อยครั้งถึงจะเป็นครูที่สอนในระดับม.ปลาย แต่ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนในระดับชั้นไหนก็ต่างเกรงใจครูคนนี้เป็นพิเศษยิ่งเด็กม.ต้นล่ะก็วิ่งจ้ำอ้าวกันแทบไม่ทัน
“ครูมีเพื่อนใหม่มาแนะนำเขาเพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนในต่างจังหวัด”เข้ามาสิ”ครูสาวพูดพลางมองไปที่ประตูเพื่อเรียกนักเรียนใหม่เข้ามาในห้อง เด็กสาวก้าวเข้ามาอย่างช้าๆด้วยกิริยาเรียบร้อยจนมาหยุดอยู่ที่ข้างครูสาว
นักเรียนทุกคนที่แต่เดิมนั้นนั่งจนน่าจะหลอมรวมกับโต๊ะต่างเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองเด็กใหม่ทันใดความกลัวครูสาวหายไปชั่วขณะ พลันก็เกิดเสียงซุบซิบๆ ขึ้น ปั้ง!!!เสียงแปรงลบกระดานกระทบกับโต๊ะพักครูเข้าอย่างจัง
“เงียบ”นักเรียนทุกคนในห้องต่างนั่งก้มหน้านิ่งอยากมองหน้าเด็กใหม่ก็อยากมองกลัวก็กลัวแต่ก็ได้แต่นั่งก้มหน้าเพราะความกลัวอยู่เหนือกว่าความอยากรู้(เฉพาะตอนนี้)
“แนะนำตัวซะสิ”
เด็กสาวกระถดตัวอย่างช้าๆเพื่อนเลื่อนขึ้นมาข้างหน้า
“สวัสดีค่ะ ชื่อนราทิพย์นะคะ หรือเรียกว่า น้ำใสก็ได้คะ “เธอไปนั่งตรงนั้นน่ะ”ครูสาวชี้ไปยังโต๊ะเรียนที่ว่างเด็กสาวมองตามมือเรียวสวยชี้ไปยังโต๊ะที่ว่าง แล้วจึงค่อยเดินไปนั่งที่ตามที่ครูสาวบอก
“ฝากเพื่อนใหม่ด้วย เขาเพิ่งย้ายมาใหม่อาจจะยังไม่รู้กฎระเบียบของที่นี่มีอะไรก็ช่วยเขาด้วยละกัน วันนี้ครูมีแค่นี้แหละ”
เสียงเคลื่อนโต๊ะดังทั่วห้องเพื่อจะทำความเคารพ แต่ครูสาวรีบจ้ำอ้าวเดินออกจากห้องไปก่อนโดยไม่รีรออะไรทั้งนั้นปล่อยให้นักเรียนในห้องยืนอ้าปากค้าง พลันมีเสียงซุบซิบๆดังขึ้นมาจากการกระทำของครูสาวสุดสวยเมื่อครู่ ทันใดนั้นเสียงในห้องก็ดังขึ้นยิ่งกว่าเดิมและต่างวิ่งมารุมล้อมเด็กใหม่ยิ่งกว่าเห็นดารา ฮอลลีวู้ด เสียอีก
“โห...น่ารักเว่อร์ ใสสมชื่อเลยอ่ะ นี่มีแฟนยังจ๊ะ ถ้ายังไม่มีเค้ายังว่างนะสนใจมาเป้นหุ้นส่วนหัวใจกันมะ” เด็กหนุ่มคนหนึ่งในห้องเอ่ยขึ้นพร้อมกับทำหน้าเก็กเต็มที่
“แหวะ อย่างแกใครจะเอาถึงน้ำใสเค้าจะมีหรือไม่มีหุ้นส่วนหัวใจยังไงเค้าคงไม่มองแกหรอกย่ะ” เพื่อนสาวค้อน ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกับมีเสียงโห่ตามมา เด็กหนุ่มทำหน้าบึ้งอย่างหัวเสีย...ก่อนที่จะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“หึงอ่ะดิ” เด็กหนุ่มทำลอยหน้าลอยตายั่ว
“บ้า!!!ใครหึงป่าวหึงสักหน่อยฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายจะหึงนายไปทำไม” เด็กสาวขึ้นเสียงก่อนแก้มจะเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ และมี เสียงแซวดังไม่เลิก เด็กสาวเดินไปหยิบไม้กวาดที่วางอยู่ตรงมุมห้องยิ้มอย่างมีแผนแล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม ก่อนที่จะเงื้อขึ้นสุดแขน
“ไอ้บ้า อ๋อง แกตายแน่”
“เห้ย!!”เด็กหนุ่มร้องเสียงหลง “นี่เธอจะทำอะไรของเธอยัยแต”เด็กหนุ่มพูดเสียงสั่น
“ก็จะฆ่าแกไง” เด็กสาวตอบด้วยน้ำเสียงโมโห เพื่อนในห้องเห็นท่าไม่ดีต่างเข้ามาห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล
“นี่ฉันล้อเล่นนิดเดียวเองนะ ถ้ามันไม่จริงจะโกรธทำไมเล่า” เด็กสาวได้ยินถึงกับเขวี้ยงไม้กวาดลงกับพื้นแล้วเดินปรี่เข้าไปหมายบีบคอเด็กหนุ่ม
“ช่วย!!ค๊อกๆแค๊ก ปล่อย” เสียงหัวเราะดังลั่นห้องเมื่อห้ามแล้วไม่เป็นผลก็ปล่อยให้ตีกันซะเลย
“หยุดเดี่ยวนี้นะ”เสียงเด็กสาวที่นั่งข้างเด็กใหม่ร้องขึ้นทำให้เสียงในห้องเงียบลง แล้วเดินก้าวฉับๆไปหาเพื่อน ทั้งสองที่บัดนี้ยังตีกันไม่หยุด “นี่หยุดนะ” ไม่มีสัญญาณตอบรับอะไรจากคนทั้งสองนอกจากกองเชียร์ด้านข้างที่ต่างเงียบเป็นเป่าสาก “หยุดดดดดดด!!!!!”ทั้งสองชะงักค้างและยอมแยกออกจากกัน
“ถ้าจะตีกันก็ออกไปตีกันข้างนอกนี่มันห้องเรียน น่ารำคาญชะมัด”
“ก็อ๋องมันมาว่าฉันก่อนนี่”เด้กสาวทำหน้าบึ้ง “นี่พูดให้มันถูกหน่อยจะได้มั้ย เธอเป็นคนว่าฉันก่อนต่างหาก” เด็กหนุ่มได้ที่ก็ค้อนเพื่อนสาววงใหญ่
“เธอก็รู้ว่าอ๋องเขาปากหมาอย่างนี้มานานแล้วจะไปสนใจเขาทำไม...หมากัดก็อย่ากัดกับหมาไม่งั้นมันก็จะกลายเป็นหมากันไปทั้งคู่”
“อู้ววว..แรงส์”เสียงเด็กหนุ่มใส่แว่นที่ยืนถือตำราเรียนอยู่พูดขึ้น สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่ชายใส่แว่นเป็นตาเดียวก่อนที่เจ้าตัวจะรู้สึกแล้วสะดุ้งสุดตัว “อุ้ยย ขอโทษฉันนนน..ไปอ่านหนังสือก่อนนะ” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงหวาดๆ
“เดี๋ยวก็โดนอีกคนหรอก ตี๋ รู้เวลาซะมั่ง”เพื่อนสาวกระซิบก่อนที่เด็กหนุ่มจะหันมามอง”ทำไงอ่ะแก้ว มันลืมตัวอ่ะ”
“อ้าววพูดอย่างนี้ก็สวยดิเหมย อยู่ดีๆมาว่าเราเป็นหมาได้ไง” อ๋องค้อน ก่อนที่เพื่อนสาวจะหันมา
“หรือจะเอาล่ะ” เหมยพูดเสียงแข็ง ทำให้เพื่อนชายที่อ้าปากกำลังจะพูดต่อถึงกับหุบปากเงียบเลยทีเดียว
“เอ้า แยกย้ายกันไปนั่งที่ได้แล้ว” ทุกคนในห้องต่างทำตามที่เพื่อนสาวสั่ง แต่อ๋องกับแตที่ยังถลึงตาใส่กันอยู่เดินหน้างอกลับไปนั่งที่
“ทำไมฉันต้องมานั่งใกล้นายด้วยนะ” แตบ่นพึมพำ
“ทำอย่างกับว่าฉันอยากนั่งใกล้เธอตายล่ะ” อ๋องพูดพลางยื่นหน้าเข้ามา เด็กสาวสะบัดแล้วนั่งลงกับที่
“ดูเพื่อนๆในห้องจะเกรงใจเธอมากเลยนะ”เด็กใหม่พูด
“ไม่รู้สิ....คงเป็นเพราะฉันเป็นหัวหน้าห้องมั้ง” เด็กสาวหันมาตอบก่อนจะนั่งลงและส่งยิ้มอันเป็นไมตรีให้แกเด็กใหม่
“แต่ฉันว่าคงเป็นเพราะเธอเป็นป้าแก่จอมโหดมากกว่า”แก้วพูดพลางเหล่ตามองเพื่อนสาวที่บัดนี้ทำหน้าขมวดคิ้วจนติดกันแล้วหัวเราะเพื่อนสาวเบาๆ “บ้า” เหมยพูดแก้เขิน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะน้ำใส คงจะได้ยินชื่อเราแล้วนะ” เหมยพูดพลางเอื้อมมือเข้าไปหาเด็กใหม่
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันจ้ะ” เด็กสาวทั้งสองยื่นมือสัมผัสกันพร้อมด้วยรอยยิ้มแสนอบอุ่น
“กริ๊งงงงงงง” เสียงออดบอกเวลาพักเที่ยงทำให้คนในห้องต่างแยกย้ายกันไปพักกลางวัน เสียงเก้าอี้โต๊ะดังครืนๆเพราะคนในห้องต่างก็เตรียมตัวไปรับประทานอาหาร
“ไปกินข้าวกัน” เหมยพูดพลางลุกขึ้นเพื่อนำพาเพื่อนสาวคนใหม่ไปโรงอาหาร
“จ้ะ”น้ำใสส่งยิ้มให้พลางลุกขึ้นตามเพื่อนสาว
“โอ๊ยยยหิวจัง เหมยจะไปกินข้าวเหรอรอด้วยฉันเก็บของแปปนึง”เพื่อนสาวพูดพลางเก็บของอย่างรีบร้อนแล้วเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาเพื่อนสาวก่อนจะยื่นมือไปจับแขนของเพื่อนสาวสุดห้าว
“ปะ ไปกินข้าวกัน”แตพูดพลางรุนหลังเหมยให้รีบเดินอย่างหิวจัด
กรี๊ดดดดดด!!!!!!!เสียงดังแหลมแสบแก้วหูของสาวๆในโรงเรียนต่างส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดให้หนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆในโรงเรียน ขณะที่หนุ่มสุดหล่อพร้อมแก๊งเดินมาอย่างภาคภูมิราวกับพึ่งรับรางวัลสตาร์อวอร์ดมาก็ไม่ปาน
“เอาอีกแล้ว.ไอ้พวกนี้มันไม่มีอะไรทำนอกจากมาเดินให้เขากรี๊ดหรือไงนะ พวกนี้ก็กรี๊ดกันจังก็คนเหมือนกันแหละวะ” เหมยพุดอย่างรำคาญที่เห้นผู้หญิงในโรงเรียนพากันรุมกรี๊ดให้เพื่อนหนุ่มร่วมห้อง
“เอาเถอะน่า เหมยช่างเขาเถอะจ้ะ”เด็กใหม่พูดพลางหัวเราะ
“ไอ้พวกนี้มันก็มากะล่อนไปวันๆเท่านั้นแหละ อย่าไปซีนักเลยไม่ใช่เรื่องของเราสักหน่อย นี่อารมณ์เสียบ่อยๆระวังแก่เร็วนะแค่นี่ยังแก่ไม่พออีกเหรอ”แตพูดกลั้วหัวเราะ “ยัยแต แกว่าฉันแก่เหรอ” เหมยทำหน้าบึ้ง
“ก็มันจริงมั้ยล่ะ”แตพูดแล้วยื่นหน้าเข้ามาล้อเลียนเหมย ก่อนจะโดนฝ่ามืออรหันต์ฟาดเผี๊ยะลงที่ท่อนแขน
“โอ๊ยยยย เจ็บนะ”
“จะกินมั้ยข้าวน่ะห้ะ หรือจะไปยืนกรี๊ดกับเขา”
“พอเถอะน่าไปกินข้าวดีกว่านะ ปะ แต เหมย”น้ำใสพูดพลางอมยิ้มกับกิริยาไม่พอใจของเหมยที่ทำท่าว่าจะงอนแต
“อย่างอนเลยนะ อย่างอนเลยนะ ดีกันๆ ”
“เออ”
เด็กสาวทั้งสามต่างพากันเดินไปเอกซื้ออาหารแล้วมานั่งที่โต๊ะยาวในโรงอาหารพร้อมด้วยของกินพะรุงพะรังเต็มไปหมด
“ซื้อมาเยอะขนาดนี้จะกินหมดเหรอ เหมย” น้ำใสพูดแล้วมองถุงที่เต็มไปด้วยอาหาร
“โอ๊ยย นี่น้ำใสนี่เธอคงมารู้ล่ะสิว่าแตมีตั้งแปดกระเพาะเลยนะ แค่นี้ยังไม่ถึงครึ่งกระเพาะหรอก”
“นี่แต พูดมากนักนะ จะกินหรือปล่าวซื้อมาก็กินๆไปเหอะน่าวัยอย่างเราเนี่ยมันต้องกินเยอะๆกินได้เท่าไหร่ก็ยัดๆมันไปจะได้มีแรงเรียนไงเล่า”
“เหรอ”แตกับน้ำใสพูดประสานเสียงพร้อมกันอย่างไม่เชื่อที่เพื่อนสาวพูดเท่าไรนัก
“สามสาวจ๊ะ นี่วันนี้ว่างรึปล่าว ” เสียงเพื่อนร่วมห้องอีกคนเอ่ยทักด้วยเสียงระรื่น
“ไม่ว่าง” แตกับเหมยพูดพร้อมกันเพราะเป็นอันรู้ว่าเพื่อนสาวนั้นมีจุดมุ่งหมายอะไร
“หืมมม พร้อมกันเชียวนะ น้ำใสวันนี้ตอนเย็นว่างหรือปล่าวไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
“ไปไหนเหรอ”
“ก็ไปดูไอ้หน้าวอกห้อง 6 ซ้อมบอลไง ไปได้ทุกวันฉันไม่ยอมให้น้ำใสเป็นเหยื่อแกอีกคนหรอกย่ะ”
“ยัยเหมย” แก้วทำสายตาค้อนใส่แล้วทำหน้าบึ้ง
“ว่างสิฉันไปเป็นเพื่อนเธอได้” น้ำใสตอบแล้วยิ้ม อย่างเป็นมิตร
"เย้ น้ำใสใจดีจังเลย ฉันไม่ง้อพวกเธอแล้วย่ะ งั้นตอนเย็นเจอกันนะ"แก้วพุดพลางส่งยิ้มให้กับเพื่อนสาวด้วยแววตาเป็นประกายก่อนจะเดินไปนั่งกินข้าวพร้อมทั้งทำท่าทางเพ้อฝัน ทั้งสามหัวเราะในท่าทีของแก้วอย่างตลกๆ
ผลงานอื่นๆ ของ ธารา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ธารา
ความคิดเห็น