ม่วงจะไปญี่ปุ่นเด้อ(เอาจิงๆ) - ม่วงจะไปญี่ปุ่นเด้อ(เอาจิงๆ) นิยาย ม่วงจะไปญี่ปุ่นเด้อ(เอาจิงๆ) : Dek-D.com - Writer

    ม่วงจะไปญี่ปุ่นเด้อ(เอาจิงๆ)

    ไม่มีไร ไม่ต้องเข้าก็ได้ เรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้อะ

    ผู้เข้าชมรวม

    584

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    584

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ผจญภัย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ก.พ. 51 / 00:55 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    อะไรคือข้อมูลเบื้องต้นฟระ
    ..
    เอาเถอะ จิงๆเนื้อหาก็ไม่มีอะไรซีเรียสอะนะ ไปขำๆ (เฮ้ย)
    ไป 30 มีนาแล้วก็กลับ 10 พฤษภาอ้ะ (เดือนฝ่าๆเอ๊ง..บ่อจี๊)
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ไปเรียนที่โอซาก้า ตั้งแต่ 30 มีนาถึง 10 พฤษภา (ไม่กี่วันหรอกน่า)
      แต่กว่าจะได้ไป...

      มาดูกันว่าเราเจออะไรมั่ง

      ตอนแรกที่ขออนุญาตโรงเรียนไปเรียน 1 เดือนช่วงปิดเทอม แบบไม่ขอรับเงินเดือน
      และไปด้วยทุนส่วนตัว
      โรงเรียนบอกว่าให้ไปไม่ได้
      เพราะอ.ที่ทำงานไม่ถึง 1 ปีห้ามลาไปเรียนต่างประเทศ (และห้ามลาป่วย+ลากิจ)
      ไอ้ครั้นจะแอบไปก็ไม่ได้อีก
      เพราะต้องไปเซ็นชื่อที่โรงเรียนทุกวัน
      ส่วนปีที่แล้วที่สอนไปเต็มๆ 1 ปีเนี่ย ไม่นับ เพราะคุณเป็นอาจารย์พิเศษ
      (แล้วฉันไม่ได้สอนให้คุณรึไงฟะ)

      สรุป โรงเรียนก็เลยให้ทำเรื่องลาออกซะ
      โดยโรงเรียนจะคิดเงินค่าสอนให้ถึงวันที่ 26 มีนา
      ที่เหลืออีก 3 วันถือว่าโดดงาน จำเป็นต้องหักเงินเดือน รวม 450 บาท

      ออกก็ออกเด้

      27-28 กลับบ้านไปเตรียมของ (24-26 สัมมนาอาจารย์ที่ประจวบ) กลับบ้านเรยดีกว่า
      ยังไงก็ผ่านอยู่แล้วนี่
      29 วันเสาร์
      30 ฉันจะบินนนนน
      31 วันจันทร์อยู่ญี่ปุ่นแล้วจะมาเซ็นชื่อได้ไงเนอะ

      ออกก็ออกเด้ .. แต่อย่าเอางานของเทอมหน้ามาให้ตรูทำตอนนี้เด้ .. ทั้งที่ตังก็ไม่ได้เพิ่มอ้ะ .. เว้ยยยย

      กว่าจะได้ไปก็เป็นเรื่องขนาดนี้
      ตอนจะกลับมาทำงานก็ยังเป็นเรื่องอีก...

      มันคืออะไรน่ะรึ
      วันเริ่มทำงานไง
      โรงเรียนเปิดวันที่ 26 พค. โรงเรียนเริ่มจ้างเราวันไหนรุมั้ย?
      วันที่ 26 พค.นี่แหละ ที่เริ่มทำงานวันแรก 
      (ตารางสอนตรูยังไม่รุเลยแล้วจะให้สอนอะไรใครที่ไหนเมื่อไหร่ฟระ)

      อะ อิ อุ เอะ โอะ...สวรรค์บันดาล 
      (จะอุทานว่าอะไรดีฟะ)

      ไม่ทราบว่าคุณธุรการเอาสมองส่วนไหนคิดกันแน่นะ?
      รึว่านึกว่าเราเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการเหมือนคุณถึงได้ทำงานวันไหนก็ได้

      อีกอย่าง
      วันที่ 23 พค. ครูประจำชั้นพบนักเรียน และเราก็อุตส่าห์มีหน้าที่ครูประจำชั้นกะเค้าด้วย
      แล้วจะให้มา 26 เนี่ยนะ 
      จะให้ฉันไปทำงานเพื่อการกุศลรึไง?
      ไม่ไปรึก็จะโดนคน(ที่ไม่รู้)เขาว่าเอาครูอะไรไม่รับผิดชอบ เฮ้อ

      คิดมั่งดิ สอนญี่ปุ่นหลักเด็กม4 ม5 ม6 นะเฟ่ย

      ก็เลยเลื่อนวันทำงานให้เป็นวันที่ 22 พค (ให้เวลาเตรียมสอนเยอะโคดๆ)
      ก็เลยคิดมีวิธีการรับมือ 2 อย่าง
      1. เตรียมสอนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (ทั้งที่ยังทำคะแนนเด็กไม่เสร็จ)
      2. กลับมาทำงานเพื่อการกุศลตั้งแต่วันที่ 15 พค.
      ..อะนะ..
      ยังไงก็ต้องทำทั้ง 2 ข้อ 
      ถ้ายังเป็นห่วงเด็กน้อยตาดำขำ ที่มีตูข้าเป็นอาจารย์สอนญี่ปุ่นเพียงคนเดียวในโรงเรียน 
      (เดอะ ลาส ซามุไรชัดๆ)

      คุณธุรการนี่ค่อนข้างฉลาดทีเดียว
      ในการใช้คนทำงานให้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินซักแดง

      นึกถึงตอนดูดวงตะหิดๆ
      เค้าว่าถ้าไม่ทำงานต่างประเทศสบายๆก็ต้องทำงานหนักไปทั้งชีวิต (เริ่มเห็นแววแระ)

      แล้วเรากะลังทำอะไรอยู่เนี่ย?
      ทำไปเพื่ออะไร...
      เพื่อใคร...
      ให้มันได้อะไร..
      แล้วจะอยู่ไปทำไม...
      ...

      ..เริ่มหลุดประเด็น

      และอีกอย่าง
      (เรากำลังพูดถึงการกลับมาทำงานในเดือน พค อยู่นะ)
      วันที่ 15 พค
      อิฉันต้องมายื่นใบสมัครเป็นครู และสอบสัมภาษณ์ในวันและเวลาเดียวกัน
      ทำไมอ้ะ?
      คำตอบคือ - เพราะคุณจะมาทำงานที่นี่ จึงต้องสมัครเป็นบุคลากรใหม่ ..ไงล่ะ
      ตามระเบียบอะไรก็ไม่รุ

      อะ อิ อุ อุ อุ...โอ้กกกกก
      ไร้คำบรรยาย..เฮ้อ 
      ไม่คิดว่าชีวิตวัยรุ่นมันจะวุ่นวายวกวนกะคนแก่(และเด็ก)ได้ถึงขนาดนี้..
      รู้สึกเหมือนอาสาสมัครดูแลสังคมเด็กและคนชรายังไงยังงั้น
      ไม่มีใครขอให้ทำ รร ไม่ได้ง้อ ตรูทำตรูเอ๊งงงง
      สงสารเด็กมัน

      เอานะ ต่อ
      เอกสารในการสมัคร - ใบสมัคร (อันนี้ไม่เท่าไหร่ เขียนใหม่ก็ได้)
                                      - แฟ้มประวัติแสดงผลงานที่ผ่านมา (ทำอะไรมั่งคุณเองก็น่าจะรู้นี่นา ) 
      ครือ เรื่องของเรื่องตัวเองลืมไปแล้วว่าพาเด็กไปแข่งวันอะไรมั่งนี่สิ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดก็อยุ่ที่คุณธุรการนั่นแหละ 
      แล้วคุณจะเอาอะไรกับโผมมมม
                                     - หนังสือรับรองการทำงานที่ผ่านมา กับ ทรานสคริป...ยังต้องใช้อีกมั้ยเนี่ย 
      ข้อนี้เขียนไว้งั้นๆ คิดเอาเอง..ถ้าเอาจิง ป่านนี้ มหาลัยจะยังมีให้มั้ยน้อ

      ทั่นแม่บอกว่า
      กลับมาจากญี่ปุ่นแล้วก็น่าจะพักผ่อนซักอาทิตย์เถอะนะ...

      หลังจากที่บอกว่า
      ไม่ต้องไปทงไปทำมันแล้ว โรงเรียนแบบนี้

      หลังจากที่เรา
      มีอาการอยู่ดีๆก็ โอ๊ย เจ็บทุกส่วนของร่างกาย
      (จับตรงไหนก็เจ็บ หวีผมก็เจ็บ ล้างหน้าก็เจ็บ อยู่เฉยๆก็เจ็บ)
      แล้วก็เลย
      เข้าโรงบาลด้วยโรคปลายประสาทอักเสบ
      ไม่ได้นอนโรงบาลหรอก
      แค่หมอให้ยาบำรุงสมองกะยานอนหลับ
      กิน 2 อาทิตย์
      เท่านั้นแหละ

      เพื่อนๆระวังนะ (เครียด+นอนน้อย+ไม่ออกกำลังกาย)
      ถ้าเป็นแบบนี้แร้วละก็ต่อไปไม่พ้นอัมพาต100%นะคับ..
      บอกกับทั่นแม่ว่า
      อยากสอนให้จบครบ 1 รุ่นก่อนแล้วค่อยไป
      (อาจจะงง เพราะประโยคขยายมันไกลไปหน่อย อนุญาตให้กลับไปอ่านทวนอีกรอบ)

      ..

      ..
      สองจิตสองใจวุ้ย
      คุณแม่ขอร้องอ้ะ
      ..
      วุ้ย
      ..
      เพื่อนๆเข้าใจอารมณ์คนกลุ้มมะ
      ..
      วุ้ย
      ..
      งานก็หนัก เงินก็น้อย แถมเลิกยากอีก
      ..
      จบแระ

      ขออภัยมันเป็นอารมณ์ชั่ว..วูบ ที่นึกถึงก็วูบเลย
      ทำให้บางทีก็ใช้คำรุนแรง..(รึเปล่าเนี่ย ตอบด้วยนะ)
      เอาเป็นว่า ถ้าคิดว่ามันรุนแรงก็ขออภัยละกัน

      รึเราจะทำให้เพื่อนๆเกิดอารมณ์ ?

      เกิดไม่เกิดเดี๋ยวรุ้กันในเม้น
      555

      รัก(เพื่อนๆ+ดิว)นะจุ๊บๆ
      ///>3<///

      ปล.ดิวบวชวันที่ 2 - 17 มีค

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×