Siam Cultural Park - อุทยานหุ่นขึ้ผึ้งสยาม - Siam Cultural Park - อุทยานหุ่นขึ้ผึ้งสยาม นิยาย Siam Cultural Park - อุทยานหุ่นขึ้ผึ้งสยาม : Dek-D.com - Writer

    Siam Cultural Park - อุทยานหุ่นขึ้ผึ้งสยาม

    อาทิตย์ที่ผ่านมา ไปเที่ยวแถวราชบุรีกับพ่อแม่มา แล้วก็แวะไปที่อุทยานหุ่นขึ้ผึ้งสยามมา ดีมากๆเลย อยากให้ไปเที่ยวกัน...

    ผู้เข้าชมรวม

    1,065

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    14

    ผู้เข้าชมรวม


    1.06K

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 พ.ค. 50 / 23:12 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เวลาพูดถึงหุ่นขึ้ผึ้ง หลายคนคงจะนึกถึง พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่นครปฐม
      แต่ว่าที่จังหวัดราชบุรีก็มี เราเพิ่งมีโอกาสได้ไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
      ประทับใจ เลยอยากมาเล่าให้ฟัง

      อุทยานหุ่นขึ้ผึ้งสยาม อ.บางแพ จ. ราชบุรี เริ่มก่อตั้งโครงการในปี 2540 โดยมี
      เป้าหมายที่จะเป็นที่ "พักใจ" ให้กับคนทั่วไปในสังคมที่แข่งขันกันในปัจจุบัน
      พร้อมทั้งเสนอแง่มุ่มด้านศิลปะ วัฒนธรรม และวิธีความเป็นอยู่ที่งดงานในสังคมพุทธศาสนา เพื่อสืบทอดความดีงามแบบไทยให้อยู่สืบไป

      เมื่อไปถึงด้านหน้าทางเข้า หลังจากเสียค่าเข้า 50 บาทแล้ว ก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ อาคารแรกที่จะเจอคือ อาคารเชิดชูเกียรติ เป็นอาคารที่นำเสนอเรื่องราว
      รูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสของบุคคลสำคัญทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิเช่น
      ม.ล.ปิ่น มาลากุล (เด็กทับแก้วต้องไปนะเนี่ย)  ครูมนตรี  ตราโมท สัญญา ธรรมศักดิ์ สืบ นาคเสถียร   แม่ชีเทเรซา เติ้งเสี่ยวผิง เหมาเจ๋อตุง และ โฮจิมินห์
      ( พูดไปพูดมา เกือบครบแล้วนะเนี่ย)

      เมื่อออกจากอาคารเชิดชูเกียรติ ก็จะเจอกับ ลาน พระ 3 สมัยเป็นประติมากรรม
      พระพุทธรูป 3 สมัย ได้แก่ สุโขทัย  สมัยอยุทธยา และทวารวดี (ต้องขออภัยด้วยไม่แน่ใจว่าสมัยสุดท้ายใช่ทวารวดีรึป่าว หรือเป็นสมัยรัตนโกสินทร์ เพราะตอนไป
      ฝนใกล้ตก ก็เลยต้องรีบเดิน )

      ถัดจากลานพระ 3 สมัย ก็จะเป็นถ้ำชาดก ภายในถ้ำจะมีหุ่นขึ้ผึ้งบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องพระเวสสันดรชาดก ทำได้สวยดี แต่บรรยากาศถ้ำมืดๆ แอร์เย็นๆ
      ก็แอบดูน่ากลัวนิดนึง โดยเฉพาะฉากชูชกท้องแตกตาย 

      ถัดมาเป็น กุฏิพระสงฆ์ อันนี้ไม่ได้เข้าไปดู เพราะว่าอยากที่บอก ว่าตอนนั้นฝนใกล้ตก แล้วแม่คิดว่าคงไม่มีอะไร เลยไม่ได้ขึ้นไปดูบนเรือน แต่ดูจากโบชัวร์ ก็มีหุ่นขี้ผึ้งของพระสงฆ์ที่เป็นที่รู้จัก

      ถัดมาเป็นบ้านไทยสี่ภาค ก็จะมีเรือนภาคกลาง ภาคเหนือ ภาตใต้ ภาคอีสาน
      ภายในก็จะมีหุ่นขี้ผึ้งที่แสดงวิถีชีวิของชาว้านในภาคนั้น

      หลังจากเรือนไทย 4 ภาค ก่อนจะถึงทางออก ก็จะเจอกับ
      ลานพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ที่จำลองมาจากงานประติมากรรมศิลปะ
      ราชวงศ์ซ้อง ประเทศจีน 

      แล้วก็จะเป็นทางออก เมื่อเดินมาถึงที่ขายตั๋วเราสามารถเขียนคำแนะนำติชมได้

      สิ่งที่เราประทับใจที่นี่คือ พนักงานอัทยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ยกเว้นพนักงานที่ร้านขายของที่ระลึก สถานที่จัดดี ร่มรื่น ระหว่างทางมีร้านขายน้ำ ขายขนม ให้คนได้นั่งพักเหนื่อย มีตั้ง 2 ที่ เวลาเดินขึ้นบนอาคารหรือเรือนไทย 4 ภาค ต้องถอดรองเท้า แต่ก็มีที่จัดวางรองเท้าให้ดี  สรุปแล้วเราประทับใจ และอยากกลับไปอีก อยากไปดูกุฏิพระสงฆ์ ที่ยังไม่ได้ไปดู
       
      ถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ website: www.scppark.com

      เดือนพฤษภาคม เป็นเดือนที่มีวันหยุดเยอะ ถ้าว่างก็ลองไปกันดูนะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×