คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 ความทรงจำกลางสายฝน
เพราะผมคงลืมเธอไม่ได้
ทั้งความอ่อนโยน ความร้อน ความเปราะบางของเธอ...
...มันทำให้ผมลืมเธอไม่ลง...
-3-
"ตื่น..."
แว่วเสียงนุ่มราบเรียบที่ริมโสต ทำให้ร่างงามขยับเล็กน้อย พร้อมดวงตาสองสีที่ปรือเปิดขึ้น
สิ่งแรกที่เห็นคือร่างสูงของผู้จัดการหนุ่มในชุทสูทสีดำที่รับกับสีผม ต่อมาจึงเบือนไปมองนาฬิกาซึ่งชี้เวลาเจ็ดโมงห้าสิบสามนาที
"วันนี้ไม่มีงานไม่ใช่หรอครับ"เสียงที่ติดจะงัวเงียเอ่ยถาม พร้อมร่างเพรียวที่พลิกตัวไปอีกทาง ดวงหน้าสวยซุกลงกับหมอน ตั้งท่าจะหลับต่อเต็มที่
"แล้วแกไม่คิดจะไปเรียนหรอไง"คนปลุกพูดเสียงเข้มกับนายแบบหนุ่มในปกครอง พร้อมมือขาวที่กระตุกเส้นไหมสีน้ำเงินนั้นเบาๆ
"ก็วันนี้ผมอยากอยู่กับเคียวยะมากกว่า"มุคุโร่พูดพร้อมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะย้ายศรีษะไปหนุนตักผู้จัดการของตนแทน
"ถ้าไม่อยากไปเรียนก็รีบๆเรียนให้จบสิ"
ประโยคเรียบๆที่พูดง่ายแต่ทำยาก มือเรียวเอื้อมไปแตะใบหน้าคมคายของคนฉลาดที่อายุเท่าเขาแท้ๆ แต่กลับเรียนจบ
ตั้งแต่ปีที่แล้ว
"เคียวยะนี่...พูดจาแล้งน้ำใจจังนะครับ" พูดจบ เขาก็โอบคอคนตัวสูงลงมา เสนอจุมพิตที่คนผมสีดำไม่ปฏิเสท ลิ้นร้อนทั้งสองจึงเกี่ยวกระหวัด แลกเปลี่ยนลมหายใจอย่างดุเดือดราวกับศึกที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมแพ้
นิ้วเรียวขยุ้มเส้นผมสีนิลนุ่มนวลดุจขนแมวที่จัดทรงเรียบร้อยจนมันเริ่มยุ่ง ไม่สนใจสายตาดุๆที่มองมาอย่างไม่ชอบใจนัก หากแต่ดวงตาสีไม่เข้าคู่กลับทอประกายยั่วเย้า
"เคียวยะ?!"นายแบบหนุ่มร้องออกมาอย่างตกใจน้อยๆ เมื่อร่างของเขาถูกช้อนขึ้นอุ้ม หากแต่เสียงทั้งหมดกลับกลืนหายไปในลำคออย่างรวดเร็วเมื่อริมฝีปากร้อนลุกล้ำลงมาอีกครั้งอย่างร้อนแรงจนราวกับเรี่ยวแรงของเขาถูกสูบไปจนหมด
"ไปเรียนได้แล้ว"คนเข้มงวดว่า ก่อนจะวางร่างงามขาวโพลนลงในอ่างจากุชซี่หรู
"เคียวยะใจร้ายเป็นบ้า"เสียงนุ่มพูดอย่างงอนๆ พร้อมเรียวปากสีชาดสดที่ขยับยิ้มขี้เล่น
"ทำให้ผมมีอารมณ์แล้วยังไล่ไปเรียนอีกนะครับ"
ประโยคทีเล่นทีจริงที่ทำให้รอยยิ้มเย็นปรากฏบนมุมปากของคนยิ้มยาก พร้อมดวงหน้าคมที่โน้มลงมาใกล้ ก่อนจะกระซิบเบาที่ริมหูขาว
"เรื่องนั้นไว้คืนนี้ละกัน"
สิ้นเสียง ร่างสูงก็เดินออกจากห้องน้ำไป
"จะพูดแบบนั้นทำไมนะ..."ดวงตาสองสีปรือปิดลง เรียวปากงามแย้มยิ้มที่ปนเประหว่างเย้ายวนและขำขันอยู่ในที
"คุณพูดแบบนั้น.... ผมก็ยิ่งมีอารมณ์น่ะสิครับ"
********
แฟร์เลดี้สีดำสนิทเคลื่อนมาจอดในที่จอดรถของมหาลัยเอกชนหรูค่าเทอมมหาโหด เรียกให้สายตาของนักศึกษาทั้งหลายให้มองมาเป็นตาเดียว ด้วยต่างรู้ว่าเจ้าของรถคือใคร
ร่างสูงติดจะเพรียวบางใต้เสื้อเชิ้ตขาวซึ่งปลดกระดุมลงมาสองเม็ด เผยให้เห็นแผงอกขาวอยู่ร่ำไร เส้นผมสีน้ำเงินเข้มแสกซิกแซกซอยทรงสับประรด รับกับต่างหูเงินและจี้กางเขนคล้องโซ่ที่กลัดประดับอยู่บนปกเสื้อ ดูอย่างไรก็หาจุดเหมือนนักศึกษาไม่ได้ แต่เหมือนนายแบบหนุ่มมาถ่ายนิตยาสารแฟชั่นซะมากกว่า
"ไม่ได้มาเรียนซะนานเลยแหะ..."เสียงนุ่มๆดังขึ้น ในยามที่มือเรียวถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นดวงตาสีผิดแผกไม่เข้าคู่ที่แลดูเปี่ยมเสน่ห์
"อ้าว มุคุโร่"เสียงหนึ่งดังทักขึ้น เรียกให้นัยน์ตาคู่สวยเบือนไปมอง
"ยามาโมโตะ..."นายแบบหนุ่มเอ่ยชื่อคนทักที่เป็นเพื่อนสนิท พร้อมเรียวปากที่แย้มยิ้มอ่อนจาง
"ไม่เห็นโทรมาบอกก่อนเลยว่าวันนี้จะมาเรียน"เสียงสบายๆของหนุ่มนักกีฬาถามขึ้น ในขณะที่ทั้งสองเดินไปยังตึกวิศวะ
"ผมก็เพิ่งโดนไล่ให้มาเรียนเมื่อเช้านั่นแหละครับ"คำตอบที่เรียกเสียงหัวเราะจากยามาโมโตะ ดวงตาสีอำพันเหลือบมองเสี้ยวหน้าสวยราวอิสตรีของคนข้างกาย ก่อนพูดขึ้น
"แต่นายเนี่ยหัวดีน่าดูเลยนะ ขนาดไม่ค่อยมาเรียนยังเกรทไม่ตกสักนิด"
"เพราะมีคนช่วยติวให้น่ะสิครับ"พูดจบนัยน์ตาสีประหลาดก็ปรือลง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา
"ครอบครัวผม.... เป็นยังไงบ้าง"
เขากับยามาโมโตะบ้านอยู่ใกล้กัน เลยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก จนถึงเมื่อหกปีก่อนที่เขาตัดสินใจย้ายออกมาอยู่คนเดียว
ย้ายออกมาจากบ้านที่มีแต่คนเกลียดชังเขา...
"พวกท่านก็ยังสบายดีล่ะนะ"คนบ้าเบสบอลตอบสั้น เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้อ่อนไหวมากสำหรับเพื่อนคนนี้ ก่อนจะรีบพูดเปลี่ยนเรื่อง
"จริงสิ คราวก่อนนายบอกว่าย้ายไปอยู่กับคนรู้จักแล้วหรอ"
และดูเหมือนว่ามุคุโร่จะรู้ว่าเขาจงใจเปลี่ยนเรื่อง รอยยิ้มแปลกๆจึงผุดขึ้นที่มุมปาก
"ใช่... ตอนนี้ผมอยู่กับผู้จัดการส่วนตัวน่ะ
เค้าว่ามันสะดวกเวลาทำงาน"
ประโยคของนายแบบคนดัง ทำให้เขาอดแซวเพื่อนสนิทที่นานๆที่ดรอปไปนานไม่ได้
"ฮ่ะๆๆ นายนี่ดังใหญ่แล้วนะ Sakura ouji(เจ้าชายซากุระ)"
"ก็ไม่เท่านายมั้งครับ พ่อคนดาร์คเนียน" คนถูกแซวหยอดกลับนิ่มๆพร้อมยิ้หวาน
นานๆที... มาเรียนบ้างก็ดีเหมือนกัน...
อย่างน้อย การได้อยู่กับเพื่อน มันก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ กว่าการอยู่ในวงการมายาที่หาความจริงใจได้ยากเหลือเกิน...
*******
ทีกล่าวกันว่า... ยิ่งมีคนรักมาก ก็ย่อมมีคนเกลียดมาก...มันคงเป็นเรื่องจริง
ดวงตาสองสีมองดูลูกสาวคนสวยอย่างแฟร์เลดี้ที่บัดนี้ยางทั้งสี่เส้นถูกปล่อยลมออกจนหมด
"ให้ตายสิน่า..."นัยน์ตาคู่สวยเหลือบมองนาฬิกาGucciที่แสดงเวลาสี่โมง
เพราะโดนเรียกไปคุยเรื่องดรอปเรียนตอนนี้จึงเย็นมากแล้ว ไม่มีใครอยู่เลยสักคน...
ยามาโมโตะก็กลับไปแล้วด้วย...
ซ่าาา
สายพิรุณสาดกระหน่ำเทลงมาอย่างโหดร้าย หยาดน้ำเย็นเฉียบที่ทำให้ร่างงามเปียกปอน
"แล้วจะกลับยังไงล่ะเนี่ย..."เอ่ยกับตนเอง กระนั้นเรียวปากงามก็ยังคงแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มบาง
รอยยิ้มที่ราวกับจะเย้ยหยันตนเอง...
สายฝนยังคงกระหน่ำเท ทำให้แขนเรียวโอบกอดตัวเอง แม้ว่ามันจะไม่ทำให้อุ่นขึ้นเลยสักนิด
"แกมายืนทำอะไรตรงนี้"แว่วเสียงของคนที่ไม่น่าจะมาอยู่ตรงนี้มากที่สุดดังขึ้น ทำให้ดวงหน้างามหันขวับ
"คุณเคียว..."หากแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยชื่อจนจบ นัยน์ตาสองสีก็ต้องเบิกกว้าง เมื่อร่างสูงรวบร่างของเขามากอด ร่มสีดำถูกปล่อยทิ้งลงพื้นอย่างไม่กลัวเปียก
"ทำไมถึงไม่โทรเรียกฉัน"เสียงนุ่มฟังดูดุๆกระซิบถาม ทำให้เรียวปากสีสดขยับยิ้มดวงหน้างามซบลงกับไหล่กว้าง
"ก็ผมไม่อยากรบกวนคุณ..."
คำตอบที่เรียกคำสบถจากฮิบาริ พร้อมอ้อมกอดที่กระชับแน่นขึ้น
"อย่าทำให้ฉันเป็นห่วงนักได้มั้ย"
ประโยคที่ทำให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง
ทำไม...กันนะ...
ทั้งความอบอุ่นจากร่างที่โอบกอดเขาไว้ และเสียงเข้มๆแต่แฝงความอ่อนโยนนั้น มันทำให้น้ำตาใหลออกมาโดยไม่รู้ตัว....
"ขอโทษ... ที่ทำให้เป็นห่วงนะครับ"
หยาดพิรุณยังคงสาดซัด ทว่าตอนนี้เขากลับไม่รู้สึกหนาวเลยสักนิด...
มันช่างเหมือนตอนนั้นเสียจริง
เหมือนวันแรกที่เขาได้พบกับฮิบาริ เคียวยะ
******
1ปีก่อน
ซ่าาาา
สายฝนห่าใหญ่จากผืนฟ้าสาดกระหน่ำลงมาราวกับไม่ปราณีมนุษย์ตัวเล็กๆบนพื้นโลกแม้แต่น้อย
"ให้ตายสิ"เสียงสบถจากโรคุโด มุคุโร่ คุณชายตระกูลดังที่มองดูอีโวคันงามของเขาด้วยสีหน้าปั้นยาก
หลังจากที่เขาโดนอาจารย์เรียกไปบ่นเรื่องต่างๆนาๆตามแบบฉบับคนถูกอาจารย์หมันไส้จนต้องกลับเย็นเป็นรอบที่สามของสัปดาห์ ก็ต้องมาเจอการแกล้งปัญญาอ่อนอย่างปล่อยลมล้ออย่างนี้อีกหรอ
คิดอย่างกลุ้มๆแม้เรียวปากจะยังคงมีรอยยิ้มที่มักประดับอยู่บนดวงหน้างามเป็นนิจ
"ยามาโมโตะก็ดันมีธุระด่วนวันนี้อีก"บ่นเบาๆ ก่อนจะหลับตาลง
จะโทรให้คนของพ่อมารับก็ใช่ที่ เพราะเขาก็ย้ายออกมาอยู่คนเดียวนานแล้ว
ครั้นพอนึกถึงเรื่องครอบครัว รอยยิ้มบนใบหน้าก็พลันหายไป...
ถึงแม้ว่าเขาจะเกิดมาในตระกูลมั่งคั่งอย่างโรคุโด แต่กลับถูกพ่อแม่รังเกลียด
เพียงเพราะเกิดมามีตาสองสี...
สีแดงก่ำฉานที่เกินมาจากสีน้ำเงินที่ควรมี ตาสีไพลินแห่งโรคุโด
ดังนั้น พออายุได้สิบห้า เขาก็ตัดสินใจย้ายออกมาอยู่คนเดียว....
ที่เขานึกขอบคุณพ่อแม่ ก็มีแค่การยอมให้เขาใช้นามสกุลนี้ และเงินจำนวนมากที่ถูกส่งมาให้ใช้ทุกเดือนเท่านั้น...
มือเรียวยื่นออกไปรองน้ำฝน ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่หยาดน้ำที่เกาะพราวบนแพขนตาสวย
สงสัยคงต้องรอฝนหยุดตกก่อนล่ะมั้ง
คิดอย่างปลงๆ ก่อนจะเสยเส้นผมสีน้ำเงินที่ตกลงมาปรกหน้าออก
"มาทำอะไรตรงนี้"แว่วเสียงเย็นราบเรียบ ทำให้เขาหันไปมอง
ภาพของชายหนุ่มผมสีดำในชุดนักศึกษาที่เจ้าตัวจะใส่เป็นวันสุดท้ายยืนมองมาทางเขาด้วยสายตาไร้ความรู้สึก
อัจฉริยะคนดังของมหาลัยที่เรียนจบภายในครึ่งปีอย่างไม่คิดรอชาวบ้าน ฮิบาริ เคียวยะ
"รู้มั้ยว่ามันเกะกะ"เสียงเรียบกล่าว ดวงตาสีนิลสบลงกับดวงตาสองสีแปลกประหลาดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
"ขอโทษครับ"คนเกะกะพูดอย่างสุภาพ ซึ่งมันดูรกหูรกตาอย่างแรงในสายตาของคนมอง นัยน์ตาคู่คมกลับจ้องมองตาสีประหลาดอย่างสนใจ
"ตาของแก..."
คำถามที่ถูกถามอย่างกระทันหัน ทำให้นิ้วเรียวแตะลงบนเปลือกตาของตน พร้อมยิ้มออกมาจางๆ
"น่าเกลียด... ใช่มั้ยละครับ"
สีที่แสนจะโสมม...
"สวยดี"หากแต่คำพูดตรงๆจากเสียงเรียบๆซึ่งไม่รู้ว่าจะเรียกว่าคมชมได้รึเปล่านั้น ทำให้คนผมสีน้ำเงินแทบจะขอให้พูดซ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้หูฝาดไป
ดวงตาสองคู่สบผ่านม่านของสายฝน ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน
"แกมันรกหูรกตาจริงๆ"
ประโยคที่เรียกรอยยิ้มขำบนเรียวปากงามที่เริ่มซีดด้วยความหนาว
"มันไม่ใช่ความผิดผมสักหน่อย"
ซ่า...
พิรุณยังคงซัดสาด ท่ามกลางความเงียบที่เริ่มโรยตัว
หากแต่ ความเงียบนั้นกลับถูกทำลายลงด้วยเสียงถอนหายใจของคนผมสีดำ
"ฉันจะไปส่ง"
เป็นอีกครั้งที่มุคุโร่นึกว่าตัวเองหูฝาดไป
คนอย่างฮิบาริ เคียวยะ เนี่ยนะ จะออกปากช่วยคนอื่น!?
แต่แล้ว ความสงสัยก็ได้รับคำตอบ เมื่อคนตรงหน้าพูดเสียงเรียบ
"แต่แกต้องมาทำงานกับฉัน"
นั่น... ทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
ก็นึกแล้วว่าคนๆนี้ไม่เคยคิดช่วยใครฟรีๆ
งานหรอ...
มันก็... น่าสนุกไม่เลวเหมือนกันนะ
นัยน์ตาสองสีทอประกายระยับ พร้อมรอยยิ้มที่ผุดพรายบนเรียวปาก
"ก็เป็น... ข้อตกลงที่น่าสนุกไม่เลวนะครับ"
คุณน่ะ...
มักจะปรากฏ ในตอนที่ไม่มีใครสักคนอยู่ข้างผมเสมอเลยนะครับ...เคียวยะ
Chapter 3-fin-
เลี่ยน...
ไม่ชินกับฉากหวาน*ร้องไห้*
พยายามเเต่งต่อไป~~~~
ความคิดเห็น