...ลมเย็นๆที่พัดมาปะทะใบหน้ากับภาพของการจากลาพวกนั้น เห็นแล้วมันชวนน้ำตาไหลจริงๆ...
.
.
.
.
ท้องฟ้าในค่ำคืนนี้ดูเหน็บหนาวและมืดครึ้มกว่าทุกๆวัน ราวกับรัตติกาลนี้จะไม่หายไป ราวกับเช้าวันใหม่จะไม่ปรากฏ ราวกับหมอกในใจจะคงอยู่ตลอดไป
ในห้องเล็กๆที่แสนจะเงียบสงัดห้องหนึ่งในคฤหาสน์ที่ถูกสร้างแบบญี่ปุ่นโบราณ เด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งกำลังนั่งเผชิญหน้ากับหญิงชราอีกคนหนึ่ง พวกเขาทั้งสองสนทนากันเงียบๆภายใต้รัตติกาลสีดำกับเสียงน้ำไหลที่ดังมาจากสวนซึ่งกั้นจากห้องนี้ด้วยประตูกระดาษบางๆ
การสนทนาที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น
“เธอมีหน้าที่สำคัญอยู่เข้าใจไหม อุสึมากิซัง” เสียงของหญิงชราท่าทางน่าเกรงขามพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมทั้งๆที่คู่สนทนาของเธอเป็นเพียงเด็กหญิงตัวน้อยๆเท่านั้น
อุสึมากิ คุชินะ พยักหน้ารับรู้อย่างเสียไม่ได้ก่อนจะเบือนหน้าไปมองทางอื่นเสีย
เกลียดพวกมัน
เกลียดพวกหมู่บ้านนั่น
ฉันเกลียดหมู่บ้านโคโนฮะที่สุด!!!
“ข้าหวังว่าพรุ่งนี้เราจะเจอกันนะ” หญิงชรากล่าวก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องนี้ไป แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวเท้าออกจากห้องเสียงพึมพำเบาๆแต่กลับแจ่มชัดในยามวิกาลที่เงียบสงัดเช่นนี้ก็ดังขึ้น
“ข้าหวังว่าพวกโคโนฮะจะตายในเร็ววันเช่นกัน”
หญิงชราผู้นั้นนิ่งค้างอยู่กับที่ชั่วอึดใจก่อนจะกระแอมเสียงดัง
“ข้าว่าเจ้าควรจะไปฝึกมารยาทเสียใหม่ด้วยนะ”
เด็กน้อยหันไปสบตากับหญิงชราช้าๆก่อนจะพยักหน้าอย่างหมดรูป
ตอนนี้เธอพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แล้วจริงๆ
หลังจากเสียงปิดประตูเงียบลง ความเงียบสงัดก็เข้ามาแทนที่ เด็กน้อยลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปเปิดประตูที่เชื่อมต่อกับสวนออก ข้างนอกนั่นมีทางเดินที่แสนจะเงียบสงัดและทอดตัวไปยังอีกฝั่งหนึ่งของคฤหาสน์อยู่ เด็กน้อยส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินไปนั่งที่ทางเดินนั้น
ถ้าเป็นเวลาปกติท่านแม่คงจะดุด่าเธอแน่ๆ แต่ในเวลานี้ ในเวลาที่ทุกคนกำลังหลับสนิทแบบนี้ ใครกันจะอยากมาดุด่าเธอ
หมู่บ้านน้ำวนของเธอถูกทำลายไปแล้ว หมู่บ้านที่เธอรักเหลือเกิน หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเพื่อนพ้อง หายไปกับสงครามเสียแล้วเมื่อคิดถึงตรงนั้นน้ำตาก็พาลจะไหลลงมาเสียดื้อๆ ตอนนี้เธอจะต้องจากหมู่บ้านนี้ไปจริงๆแล้ว ไปยังหมู่บ้านโคโนฮะ หมู่บ้านใบไม้ในแคว้นแห่งไฟ
ถึงแม้ว่าหมู่บ้านน้ำวนจะล้มสลายจนครอบครัวของเธอรวมถึงคนอื่นๆในหมู่บ้านที่ยังเหลืออยู่ก็ได้พากันมาตั้งรกรากที่หมู่บ้านในแคว้นแห่งดาว ถึงแม้จะไม่มีหมู่บ้านแต่ก็ยังมีทุกคน แต่ตอนนี้เธอกลับต้องจากทุกคนไป เพื่อทำหน้าที่สำคัญบ้าบออะไรสักอย่างที่พวกโคโนฮะบอกมา เธอเกลียดจริงๆกับคำว่าสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างตระกูลของเธอกับหมู่บ้านนั่น
...เกลียดจริงๆ...
“พี่ฮะ พี่ไม่เป็นไรนะ” เสียงเล็กๆที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร อุสึมากิ ซาบาคุโร่ น้องชายสุดรักของเธอนั่นเอง
ซาบาคุโร่กับเธอเกิดห่างกันสามปี ผมสีเงินเป็นประกายที่ให้ความรู้สึกสงบใจเหมือนผู้เป็นพ่อของหมอนั่น ช่างแตกต่างกับผมสีแดงเพลิงของเธอที่เหมือนกับแม่ราวฟ้ากับดิน ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลจ้องมองเธออย่างโศกเศร้าทั้งๆที่ปกติแล้วนัยน์ตานั่นมักจะฉายประกายความสุขแท้ๆ อีกอย่างตอนนี้หมอนั่นก็ยังเด็กมากๆอยู่เลยแท้ๆ ยังจะริอาจนอนดึกอีกนี่แหละที่ให้อภัยไม่ได้
“คนอย่างคุชินะซะอย่างจะเป็นอะไรล่ะ ว่าแต่เราเถอะทำไมไม่นอน” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะร่าอย่างที่เคยทำ แต่ครั้งนี้เธอกลับรู้สึกว่าเสียงหัวเราะพวกนั้นช่างฝืดเหลือเกิน
“ผมนอนไม่หลับ เราใกล้จะต้องจากกันจริงๆแล้วใช่ไหมฮะ” เด็กชายตัวน้อยถามขึ้นด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า คุชินะคือพี่สาวคนเดียวของเขา
พี่สาวที่เขารักเหลือเกิน
“อือ แต่...พวกเราก็ยังเป็นพี่น้องกันนะ” เด็กหญิงพูดก่อนจะเอามือลูบหัวน้องชายเบาๆ
“ผมเกลียดหมู่บ้านนั่น มันแย่งพี่ผมไป!!” เด็กชายตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาเป็นสายอย่างน่าเวทนา
ภาพนั้นทำเอาเด็กหญิงกลั้นน้ำตาไม่อยู่ไปด้วย ครอบครัวของเธอ เพื่อนพ้องของเธอ จะต้องจากกันแล้วจริงๆซินะ
“ฮึก พี่ยังไม่ได้ลาทุกๆคนเลยนะ” ซาบาคุโร่พูดพลางปาดน้ำตา เขาจะอ่อนแอไม่ได้ เขาคือผู้สืบทอดตระกูลในอนาคต เขาจะอ่อนแอไม่ได้ เด็กชายคิดพลางปาดน้ำตา
“นั่นสินะ แต่ดูเหมือนจะช้าไปแล้วรึเปล่าที่มาคิดเอาตอนนี้น่ะ” เด็กสาวพูดกลั้วหัวเราะก่อนจะเงียบไปเสียเฉยๆ เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างจุกอยู่ที่คอ ตั้งแต่เกิดมาเธอไว้ใจซาบาคุโร่มากที่สุด เขาเป็นน้องชายที่เธอรักมากที่สุด พวกเธอมีกันและกันมาตลอด แต่หลังจากนี้อะไรๆก็จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
“อย่ามองกลับมานะพี่” จู่ๆเด็กชายก็พูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“อะไรน่ะ” คุชินะถามอย่างงุนงง น้องชายเธอมีเรื่องให้แปลกใจได้เสมอจริงๆ
“มองไปแต่ข้างหน้าก็พอ ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน อย่ามองอดีตหรืออนาคต ถ้าทำแบบนั้นล่ะก็อาจจะเจ็บน้อยลงก็ได้” เด็กชายพูดอย่างจริงจัง
คุชินะมองหน้าน้องชายของเธอก่อนจะพยักหน้า น่าทึ่งจริงๆที่นี่คือความคิดของเด็กวัยห้าขวบ ความทรงจำจางๆของพวกเธอและเพื่อนๆหวนกลับมาอีกครั้ง ความทรงจำในฐานทัพลับของพวกเรา
‘นี่ๆ ตอนนี้หมู่บ้านกำลังแย่เลย เราจะทำยังไงกันดีล่ะ’ ซาโตชิ เด็กชายใส่แว่นผู้ทรงวิชาการและขี้กลัวที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้นในเช้าวันหนึ่งที่ฐานทัพลับของพวกเธอนั่นเอง
‘จะทำอะไรได้ ปล่อยมันไปเถอะ’ มาโกโตะ เด็กชายผู้แสนจะเย็นชาและมีความอัจฉริยะในทุกๆด้านเอ่ยเสียงเรียบพลางกวาดตาอ่านคัมภีร์ในมือไปด้วย
‘แต่ว่านะ ฉันน่ะอยากจะสร้างหมู่บ้านขึ้นมาใหม่ให้ได้ล่ะ ฉันรู้ว่าหมู่บ้านของเราน่ะต้องล่มสลายแน่ๆ แต่เราก็สร้างมันขึ้นมาใหม่ได้ใช่ไหมล่ะ’ เมโกะ เด็กหญิงตัวน้อยผู้มีจินตนาการล้ำเลิศที่สุดกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้น
‘เพ้อเจ้อ’ มาโกโตะส่งเสียเฮอะขึ้นจมูกก่อนจะอ่านคัมภีร์ของเขาต่อไป
‘นายมันพวกไม่มีความหวังในชีวิตย่ะ’ เมโกะพูดพลางแลบลิ้นใส่คนเย็นชาของกลุ่ม
‘ฉันมีนะ แต่บังเอิญมันไม่เพ้อเจ้อ ฉันหวังในสิ่งที่เป็นไปได้เท่านั้นแหละ’ มาโกโตะตอบอย่างไม่แยแส
‘แล้วแบบนั้นมันจะเรียกว่าความหวังเรอะ อีตาบื้อ!!!’เมโกะพูดพร้อมยกกำปั้นอย่างโกรธเกรี้ยว
‘พอแล้วน้า พวกนายนี่นะ’ คุชินะกล่าวปราบเบาๆเมื่อเห็นว่าเมโกะใกล้จะเข้าไปต่อยมาโกะโตะแล้ว
‘แต่ผมว่าเมโกะก็พูดถูกนะ เราสร้างมันมาใหม่ได้นี่นา’ ซาโตชิพูดอย่างตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
‘งั้นพวกเราต้องมาสาบานกันว่าถ้าใครได้เป็นนินจาผู้ยิ่งใหญ่แล้วล่ะก็ จะต้องมาสร้างหมู่บ้านน้ำวนขึ้นใหม่ให้ได้ นายสนใจร่วมวงไหม ซาบาคุโร่’ คุชินะพูดอย่างร่าเริงเฉกเช่นปกติ
‘ฮะ’ เด็กชายวัยสี่ขวบตอบอย่างร่าเริง
แล้วความทรงจำก็หายไป
คุชินะคลี่ยิ้มเมื่อนึกถึงสัญญาในวันเก่า เธอเอามือลูบหัวซาบาคุโร่เบาๆก่อนจะพูดช้าๆ
“อือ นายก็เหมือนกันอย่าให้ใครมาทำอะไรกับตระกูลของเราได้ อย่าหวั่นไหวกับอำนาจมืด ที่สำคัญปกป้องพ่อกับแม่ให้ดีนะ ถ้าไม่มีพี่อยู่ นายมันก็ชอบเงอะงะไปเรื่อย อย่าฉี่รดที่นอนตอนกลางคืนล่ะอายคนอื่นเขา ที่สำคัญทำการบ้านให้เสร็จก่อนออกไปเล่นรู้ไหม หมั่นฝึกฝนวิชาให้แข็งแกร่งแล้วสร้างหมู่บ้านน้ำวนขึ้นมาใหม่ให้ได้เข้าใจไหม”
ไม่มีคำตอบจากเด็กชายตัวน้อยมีเพียงเสียงสะอื้นไห้ที่ดังออกมาพร้อมๆกับการพยักหน้าเท่านั้น
“ดูแลหมู่บ้านของเราให้ดีนะ ซาบาคุโร่”
และแล้วเธอก็มายืนอยู่ตรงนี้ ในหมู่บ้านโคโนฮะพร้อมกับหน้าที่ใหญ่หลวงที่ต้องแบกรับเอาไว้
ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นร่างสถิตของปีศาจร้าย
ไม่ง่ายเลยที่จะสร้างเพื่อนใหม่ที่นี่
ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ทุกๆคนยอมรับ
ไม่ง่ายเลยที่จะลืมภาพในวันวานเหล่านั้น
...ไม่ง่ายเลย...
และแล้ววันหนึ่งในห้องเรียนเล็กๆห้องหนึ่งในโรงเรียนนินจาของหมู่บ้านโคโนฮะ คำพูดของคนๆหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกว่าคนที่คิดแบบเธอก็ยังคงหลงเหลืออยู่
“ฉันจะต้องให้คนในหมู่บ้านรู้จักชื่อฉันและฉันต้องเป็นโฮคาเงะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ให้ได้” คำพูดที่แสนจะมุ่งมั่นของเด็กชายตัวเล็กๆที่มีผมสีทองระยิบระยับดังขึ้นท่ามกลางห้องเรียนเล็กๆแห่งนี้
นามิคาเสะ มินาโตะ เด็กชายผู้มีใบหน้าสวยหวานกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก เขาดูมุ่งมั่น ดวงตานั่นก็ระยิบระยับราวกับดวงดาวของหมู่บ้านแห่งดวงดาวไม่มีผิด
ทุกๆสายตาจ้องมองไปยังเด็กชายตัวเล็กๆคนนั้น บางคนก็หัวเราะ บางคนก็ยิ้มอย่างให้กำลังใจ แต่ฉัน อุสึมากิ คุชินะที่ภายนอกกำลังจ้องมองเด็กชายคนนั้นอย่างสมเพช แต่ในใจกลับกำลังร้องไห้อยู่เงียบๆ
ซาบาคุโร่ เธอคิดว่าพี่จะไว้ใจคนๆนี้ได้ไหมนะ...
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณงามๆเลยที่เข้ามาอ่านแล้วช่วยคอมเมนต์ให้ ปลื้มสุดๆเลย 555
สำหรับเรื่องสั้นเรื่องนี้คงไม่มีต่อแล้ว ขอโทษด้วยจริงๆเลย
ไว้ผู้เขียนว่างงานเมื่อไหร่จะกลับมาแต่งแฟนฟิคให้อ่านกันอีกนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
มีต่ออีกมั้ยยยยยยยย
นี่คือความรู้สึกตอนที่อ่านมาถึงบรรทัดสุดท้าย
คือไม่ัยังอยากให้จบ 555
กำลังอินและสนุกได้ที่ :3
ชอบฟิคนี้มากขอรับอยากให้มีต่อ :)
ข้าน้อยเชียร์สุดใจเน้อ~
แต่เราก็ชอบเพราะท่านมาอยู่ที่หมู่บ้านโคโนะฮะมาแต่งงานกับมินาโตะท่านพ่อสุดที่รักของเรา
และให้กำเนิดนารุโตะเด็กน้อยที่น่ารักน่ากอดที่สุดในโลกให้กับเรา เพราะงั้นเราถึงชอบท่านแม่คุชินะที่สุด
ปล.ของคู่นารุโตะกับพี่น้องอุจิวะได้มั้ย ไม่เอาแนววายนะ
ป.ล.จบคู่นี้ขอคู่เนจิกับเท็นเท็นนะคะ ^^