โสภาพรรณ...ชื่อนั้นมิมีลืม... - โสภาพรรณ...ชื่อนั้นมิมีลืม... นิยาย โสภาพรรณ...ชื่อนั้นมิมีลืม... : Dek-D.com - Writer

    โสภาพรรณ...ชื่อนั้นมิมีลืม...

    ....หนูรักครูค่ะ...

    ผู้เข้าชมรวม

    838

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    838

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 มิ.ย. 54 / 00:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     



    ขอบคุณค่ะครู...ขอบคุณจริงๆ





    nu
    eng

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

             “ปาเจรา จริยา โหนติ คุนุตรา นุสา สกา...” เสียงเอื้อนหวานๆของรุ่นพี่ในชมรมประสานเสียงในโรงเรียนยังดังก้องอยู่ในหูเสมอแม้เวลาจะผ่านมานานร่วมห้าปีแล้วก็ตาม ความทรงจำในวันเก่าๆยังมีให้คิดถึงไม่รู้จบในทุกทุกวัน... ถ้าให้กล่าวถึงคุณครูในดวงใจแล้วล่ะก็ ฉันคงจะตอบว่าในใจของฉันมีคุณครูทุกท่านอยู่ภายใน แต่ถ้าถามว่าคุณครูท่านไหนคือคุณครูที่ฉันยกย่องและนับถือมากที่สุดล่ะก็ ฉันคงไม่ลังเลเลยที่จะตอบว่า 'คุณครูโสภาพรรณ' คือคุณครูท่านนั้น...แสงอาทิตย์อุ่นๆในช่วงเช้าของวันสาดส่องผ่านประตูกระจกสีใสของห้องเรียนเข้ามาให้ความอบอุ่นแก่นักเรียนซึ่งกำลังนั่งท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษกันอย่างขะมักเขม้น คุณครูรูปร่างสูงที่มีใบหน้าคมเข้มอย่างสตรีไทยรับกับทรงผมสั้นซอยเหนือใบหูสีเทาแซมขาว กำลังเดินวนรอบห้องเรียนอย่างช้าๆ พิจดูนักเรียนทุกคนด้วยใบหน้าขึงขึง ในมือกำไม้บรรทัดพลาสติกประหลาดที่ยืดหยุ่นได้เหมือนเยลลี่หรืออะไรสักอย่าง เหวี่ยงมันขึ้นลงช้าๆเนิบๆ ทว่าทำให้นักเรียนที่กำลังนั่งท่องคำศัพท์อยู่รู้สึกเกรงกลัวอย่างประหลาด ใครใครก็กลัวไม้บรรทัดอันนั้น ฉันมั่นใจ ไม้บรรทัดที่ครูเรียกมันว่า “น้องเจล” โดนทีนี่ทั้งเจ็บทั้งแสบ ไม่แปลกที่นักเรียนจะหวั่นใจทุกครั้งที่เห็นน้องเจลอยู่ในมือของคุณครูโสภาพรรณ

             คุณครูโสภาพรรณเป็นคุณครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ ฉันมีโอกาสได้เป็นศิษย์ของคุณครูเมื่อคราวที่ฉันอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ห้า คุณครูเป็นครูที่ดุมาก เจ้าระเบียบที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของความสะอาด เมื่อสมัยนั้น ในโรงเรียนจัดประกวดโครงการ “ห้องสวยด้วยมือเรา” คือเป็นการประกวดความสะอาดของห้องเรียนนั่นเอง แน่นอนว่าผู้ชนะในทุกๆการประกวดคือห้องที่คุณครูโสภาพรรณประจำอยู่ ซึ่งตอนนั้นฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นโชคดีหรือคราวเคราะห์ที่ได้ตกกระไดพลอยโจนไปเป็นนักเรียนในสังกัดของครู [แต่ในตอนนี้ตระหนักแล้วว่า การที่คุณครูโสภาพรรณมาเป็นครูประจำชั้นในสมัยนั้นคือความโชคดีที่สุดในชีวิต] นอกจากความจู้จี้ในเรื่องของความสะอาดแล้ว มารยาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คุณครูโสภาพรรณให้ความสำคัญมาก ฉันยังจำได้ดีสมัยเป็นนักเรียนตัวกะเปี๊ยก ผูกผมเปียสองข้าง ใส่เสื้อนักเรียนเอวจั๊มกับกระโปรงสีกรมท่าห้าจีบ ถูกคุณครูจับนั่งหลังตรง สอนมารยาทในการรับประทานอาหารให้ “ตักอาหารคำเล็กๆ ใส่ปาก แล้วเคี้ยวช้าๆยี่สิบครั้งต่อคำ” ฉันจำได้แม่น “แนบแขนไว้ข้างตัว อย่ายกศอกขึ้นมา...นั่งหลังให้ตรง” คุณครูสอนแกมสั่งในเวลาเดียวกัน เห้อ! สมัยนั้นใครใครก็คิดว่าเรื่องที่คุณครูโสภาพรรณสอนเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่ใครจะรู้ว่า เรื่องที่เคยน่าเบื่อเหล่านั้นกลับเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการใช้ชีวิตเมื่อเราเติบโตขึ้น อีกเรื่องหนึ่งที่คุณครูสอนซึ่งติดแน่นอยู่ในใจของฉันก็คือเรื่องของการไหว้ คุณครูโสภาพรรณเป็นครูที่ไหว้สวยมาก ดังนั้นแล้วคุณครูจึงเจ้ากี้เจ้าการเรื่องการไหว้ของพวกเราเสมอ เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติตอนเช้า หากใครพนมมือสวดมนต์ไม่สวย คุณครูก็จะฝากรอยจากน้องเจลไว้บนมือเป็นสัญลักษณ์ให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ถูกต้อง คุณครูบอกว่าการไหว้มีที่มามาจากการที่พุทธศาสนิกชนใช้ดอกบัวเป็นดอกไม้บูชาพระพุทธเจ้า ดังนั้นแล้วเวลาเรายกมือไหว้ใครหรืออะไร เราต้องทำดอกบัวของเราให้สวย อย่าให้เป็นดอกบัวช้ำเน่าเพราะไม่มีใครหรอกที่จะพิสมัยกับดอกบัวดอกนั้น เช่นนั้นแล้ว ฉันที่ได้รับการปลูกฝังมาอย่างดีจากคุณครูจึงไม่เคยทำให้ดอกบัวของตัวเองอัปลักษณ์หรือพิกลพิการเลย

               ยังมีเรื่องอื่นๆอีกมากมายที่คุณครูโสภาพรรณได้สอนลูกศิษย์ของท่านซึ่งถ้าให้กล่าวจนหมดคงจะเกินหนึ่งหน้ากระดาษไปไกลเป็นแน่ [ซึ่งฉันก็น้อยใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงให้เขียนเพียงหน้าเดียว ฮ่าๆ] สุดท้าย ฉันอยากจะขอบคุณคุณครูมากที่ทำให้ฉันมีวันนี้ ทำให้ฉันยืนอยู่ในสังคมได้อย่างมั่นใจและภาคภูมิใจจากทุกคำสอนของครู วันนี้...ฉันอยู่ในที่ที่ห่างออกไปจากคุณครูกว่าแปดพันกิโลเมตร รู้อยู่เต็มอกว่าคุณครูไม่อาจได้ยินคำขอบคุณจากศิษย์คนนี้ แต่ก็เถอะ ยังไงฉันก็จะขอพูดคำเดิมๆที่น่าเบื่อทว่าจริงใจอย่างคำว่าขอบคุณอีกครั้ง...ขอบคุณจริงๆค่ะคุณครู

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×