ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปมฆาตกรรม

    ลำดับตอนที่ #2 : 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 190
      0
      21 ก.ค. 54

    1

     

    ฝูงชนที่กำลังยืนมุงอยู่หน้าห้องภายในอาคารที่พักอาศัยสร้างความหนักใจต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนนอกเครื่องแบบสองนายเป็นอย่างมากจนถึงขนาดที่พวกเขาต้องระบายลมหายใจออกมาค่อนข้างแรง

    แบบนี้จะไปเหลือร่องรอยอะไร

    หนึ่งในนั้นเปรยอย่างเบื่อหน่าย เพื่อนที่มาด้วยกันอมยิ้ม

    ทำใจเถอะน่าเจ้าชัย เรื่องแบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นกันทุกวัน คนก็เลยให้ความสนใจ มันเป็นเรื่องธรรมดา

    เจ้าชัยหรือร้อยตำรวจเอกกฤตชัย สันติบำรุง ส่ายหน้าช้าๆอย่างไม่เห็นด้วยเพราะประสบการณ์จากการทำงานที่ผ่านมาทั้งในและนอกประเทศ คดีฆาตกรรมมีให้เห็นกันทุกวันและดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น ผู้คนที่เข้ามามุงดูก็มาจากความอยากรู้อยากเห็นแต่ไม่เคยให้ประโยชน์อะไรนอกจากจะทำลายสถานที่เกิดเหตุ หลายครั้งที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานต้องเสียเวลาไปกับการปัดฝุ่นหารอยนิ้วมือและพบในภายหลังว่าส่วนใหญ่มาจากพวกไทยมุง เจ้าพนักงานด้วยกันเอง นักข่าวหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ยังไม่นับรอยเท้า น้ำลาย เหงื่อ เศษขยะ ก้นบุหรี่ที่ถูกทิ้งในที่เกิดเหตุอีกนับไม่ถ้วน แม้เดี๋ยวนี้จะมีการคาดแถบพลาสติกกั้นบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุแต่ก็ไม่ได้ประโยชนอะไรนักเพราะผู้คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ บางคนสนุกกับการแอบย่องเข้าไปบันทึกภาพแล้วนำไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตด้วยซ้ำ ดูเหมือนเพื่อนที่มาด้วยกันจะเดาความคิดของกฤตชัยออก เขาตบบ่าเบาๆพร้อมกับพูด

    เอาน่า มีหน้าที่ก็ทำกันไปอย่าคิดมาก

    นี่มันคดีฆาตกรรมนะเจ้าวิน กฤตชัยชัยแย้งเสียงดุแต่กวินกลับอมยิ้มและเดินนำเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุ แม้จะดูไม่จริงจังกับการทำงานเท่าไหร่นักแต่กฤตชัยก็รู้ดีกว่าภายใต้ใบหน้าเปื้อนยิ้มกับนิสัยขี้เล่นของเพื่อนเต็มเปี่ยมไปด้วยความเอาใส่ใจต่อหน้าที่ กวินเคยตามสืบคดีฆาตกรรมรัดคออย่างเอาเป็นเอาตายชนิดไม่ได้หลับได้นอนเกือบอาทิตย์เพียงเพื่อหาหลักฐานซึ่งก็คือเชือกเพียงเส้นเดียวจนสามารถนำไปสู่ตัวฆาตกรได้ ยังไม่นับความกล้าบ้าบิ่นที่กระโดดเข้าไปขวางทางปืนของคนเมายาบ้าที่เล็งมายังตัวเขา แต่ที่กฤตชัยประทับใจในตัวเพื่อนคนนี้มากที่สุดก็คือการจับกุมฆาตกรฆ่าหั่นศพ ตอนนั้นมีเพียงเขากับกวินเท่านั้นที่วิ่งไล่ตามคนร้ายซึ่งเป็นถึงอดีตทหารรับจ้างทัน เหตุการณ์ในครั้งนั้นนับเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่หนักหนาสาหัสที่สุดเพราะตัวของเขาเองถูกคนร้ายกระหน่ำแทงจนจมกองเลือดและคงตายไปแล้วหากกวินไม่เข้าไปช่วย ตลอดเวลาเกือบสองเดือนที่เขาอยู่ในโรงพยาบาลกวินก็คอยไปเยี่ยมและให้กำลังใจเขาเสมอมาจนกระทั่ง

    กฤตชัยสามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้ง ในสายตาของคนอื่นกวินเป็นนักสืบที่ทำอะไรเป็นเล่นไปเสียหมดแต่สำหรับตัวของเขาเองแล้ว กวินคือเพื่อนที่เขาไว้วางใจมากที่สุด

                คิดอะไรอยู่อีกล่ะ เสียงกวินดึงความคิดของกฤตชัยให้กลับมายังเหตุการณ์ปัจจุบันอีกครั้ง เขายิ้มน้อยๆที่มุมปาก

                คดีเก่าๆ    

                อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ลืมๆมันไปซะบ้างเถอะเพื่อนกวินพูดและสบถออกมาเบาๆขณะแหวกฝูงชนที่ยืนออกันอยู่แถวบันได ชายคนหนึ่งหันมาตะคอกด้วยความรำคาญ

                จะเบียดทำไมกันนักหนาวะ...

                คำพูดถูกกลืนหายไปในลำคอแทบจะทันทีเมื่อร้อยตำรวจเอกหนุ่มยื่นตราไปข้างหน้าจนแทบจะยัดเข้าไปในเบ้าตาของเขา ชายคนนั้นพึมพำขอโทษพร้อมกับหลีกทางให้อย่างลนลาน กวินหันมาหลิ่วตาให้กับกฤตชัยก่อนจะเดินตรงไปยังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นอยู่ท้ายสุดของอาคาร เมื่อทั้งคู่ไปถึงหน้าห้อง พลตำรวจซึ่งคอยเฝ้าระวังที่เกิดเหตุรีบยกมือห้าม

                เข้าไปไม่ได้ครับ

                กฤตชัยขมวดคิ้วแต่ไม่ได้ตอบอะไร เขาไล่สายตามองผ่านตำรวจตรงหน้าเลื่อนเข้าไปในห้องและหยุดตรงร่างที่ถูกคลุมด้วยผ้าขาวบนเตียงในขณะที่กวินชูตราขึ้นพร้อมกับแนะนำตัว

                ร้อยตำรวจเอกกวิน กิตติกวินกับร้อยตำรวจเอกกฤตชัย สันติบำรุงจากสันติบาล

                คำพูดของเขาได้ยินไปถึงร้อยเวรที่อยู่ด้านใน เขาหันไปมองผู้บังคับบัญชาซึ่งกำลังยืนฟังรายงานจากแพทย์ชันสูตรอยู่ภายในห้องและพูดอะไรสองสามคำ นายตำรวจใหญ่หันหน้ามามองสองสันติบาลหนุ่มพร้อมกับผงกศีรษะเป็นเชิงอนุญาตและพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายไม่พอใจเมื่อทั้งคู่เข้าไปด้านใน

                ไม่ยักรู้ว่าสันติบาลสนใจคดีแบบนี้ด้วย

                เราสนใจทุกคดีครับ แต่จะไม่เข้ามายุ่งจนกว่าจะมีกรณีที่ท้องที่ไม่สามารถคลี่คลายคดีได้

                กวินตอบอย่างสุภาพ สารวัตรใหญ่มองหน้าเขา

                คดีนี้เพิ่งเกิดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา คุณนับเป็นคดีที่ไม่สามารถคลี่คลายได้ด้วยหรือ

                ถึงจะเพิ่งเกิดแต่ทางเราสงสัยว่าการกระทำของคนร้ายมีลักษณะแบบเดียวกัน

    ยังไง สารวัตรใหญ่ถามเสียงห้วน กฤตชัยซึ่งยืนนิ่งฟังอยู่ข้างหลังจึงพูด

    สภาพของเหยื่อถูกทำร้ายอย่างหนักและโดนทารุณกรรมทางเพศอย่างรุนแรงหลายครั้ง มีบาดแผลถูกแทงบริเวณหน้าอกไม่ต่ำกว่าห้ารอยแต่บาดแผลที่เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตคือการถูกแทงตรงหัวใจสี่ครั้ง อาวุธที่คนร้ายใช้ก็คือมีดทำอาหารของผู้เสียชีวิต

    แพทย์ชันสูตรรวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิยืนอ้าปากค้างเพราะในขณะนั้นพวกเขาได้นำผ้ามาคลุมศพไว้เรียบร้อยแล้วแต่สิ่งที่กฤตชัยพูดออกมาทั้งหมดตรงกับสภาพศพของผู้เสียชีวิตทุกอย่าง สารวัตรสอบสวนมองหน้านายตำรวจหนุ่มนิ่งพูดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งจึงเลื่อนสายตากลับมาที่กวิน

    คุณรู้รายละเอียดพวกนี้ได้ยังไง 

    มีข้อมูลว่าคนร้ายเคยก่อเหตุแบบนี้มาแล้วสามครั้ง คนละท้องที่และไม่เคยทิ้งอะไรไว้ในที่ก่อเหตุเลยแม้แต่รอยนิ้วมือ ทางสันติบาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญจึงให้ดำเนินการสืบสวนอย่างเร่งด่วนที่สุดซึ่งคงต้องขอความกรุณาจากท่านและหวังว่าทางท้องที่จะร่วมมือด้วย

    กวินหยอดคำหวานปิดท้ายสารวัตรใหญ่นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะผงกศีรษะและหันไปทางร้อยเวร

    เอารายละเอียดของคดีให้พวกเขา

    และช่วยปิดสถานที่เกิดเหตุด้วย ห้ามใครเข้าออกนอกจากผมกับกวินและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผมไม่อยากเสียเวลากับรอยมือรอยเท้าของคนเป็นกองทัพ กฤตชัยสั่งขณะที่กำลังโน้มตัวลงพิจารณาสภาพศพของผู้เคราะห์ร้ายบนเตียง กวินยืนยิ้มในหน้าส่วนสารวัตรประจำสถานีขมวดคิ้วเล็กน้อย

    เจ้าของอาคารคงไม่ยอมให้เราทำแบบนั้นแน่

    งั้นก็บอกเขาว่าเราจะปิดอาคารทั้งหมดและสอบสวนผู้พักอาศัยทีละห้องโดยเฉพาะเจ้าของกับคนเฝ้าเพราะพวกเขาสามารถเข้าถึงทุกคนที่อยู่ที่นี่

    กฤตชัยพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ดูจริงจัง สารวัตรใหญ่ทำสีหน้าเหมือนกำลังลำบากใจกวินจึงรีบพูดแทรกขึ้นมา

    เอาเป็นว่าปิดห้องนี้เอาไว้ก่อน เดี๋ยวผมจะไปคุยกับเจ้าของให้เอง

    สารวัตรประจำท้องที่พยักหน้าอย่างโล่งใจและหันไปสั่งร้อยเวรที่กำลังจดบันทึกข้อมูลมือเป็นระวิง

    ปิดกั้นที่เกิดเหตุ กันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด

    มีอีกเรื่องที่ผมอยากให้ระวัง กฤตชัยเงยหน้าขึ้นและหันมาพูด อย่าบอกนักข่าวเรื่องบาดแผลในตำแหน่งสำคัญบนตัวศพ ผมไม่อยากให้คนร้ายรู้ตัว

    บาดแผลในตำแหน่งสำคัญ สารวัตรใหญ่ทวนคำอย่างงุนงง นักสืบหนุ่มจึงชี้ไปที่บาดแผลสี่รอยบนหน้าอกด้านซ้ายของผู้ตาย อีกฝ่ายขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

    มันสำคัญยังไงเหรอ

    ถ้าสื่อมวลชนรู้ว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยบาดแผลแบบเดียวกันถึงสี่รายก็จะโยงให้เป็นเรื่องเดียวกันและจะพูดเน้นย้ำว่าเกิดจากฝีมือคนร้ายรายเดียวกันซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการสืบสวน

    กฤตชัยอธิบาย สารวัตรใหญ่เหลือบตามองไปทางประตูห้องซึ่งมีนักข่าวยืนออกันเต็มไปหมดก่อนจะตวัดกลับมาที่นายตำรวจหนุ่มอีกครั้งพร้อมกับถาม

    ทำไม

    คนร้ายอาจหยุดลงมือหรือเปลี่ยนวิธีการ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าเราต้องเริ่มหาข้อมูลกันใหม่ทั้งหมด เอาล่ะครับยิ่งพูดก็ยิ่งเสียเวลา รีบจัดการตามที่บอกดีกว่าครับ

    คราวนี้กวินเป็นคนพูดขึ้นมาแทน สารวัตรประจำสถานีจึงผงกศีรษะและหันไปกำชับร้อยเวรเรื่องการปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุอีกครั้งก่อนจะเดินไปตอบคำถามนักข่าวที่หน้าประตู หลังจากพูดไปได้สองสามนาทีเขาจึงกล่าวเป็นเชิงว่าจะอธิบายรายละเอียดทั้งหมดที่ด้านล่างซึ่งดูเหมือนจะได้ผลเพราะนักข่าวเริ่มทะยอยออกไปทีละคนจนในที่สุดสถานที่เกิดเหตุจึงเหลือแต่เจ้าหน้าที่มูลนิธิสองคนกับแพทย์ชันสูตรกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเท่านั้น

    เมื่อทุกอย่างสงบลง กฤตชัยจึงเพ่งสมาธิไปที่ร่างของเหยื่ออีกครั้งโดยกวินเดินพิจารณาข้าวของเครื่องใช้ของผู้เคราะห์ร้ายอย่างละเอียด หลังจากตรวจจนพอใจแล้วกฤตชัยจึงถอดถุงมือยางออกและผงกศีรษะเป็นเชิงอนุญาตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำศพออกไป กวินซึ่งสอบถามเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเสร็จพอดีจึงเดินเข้ามาหา

    เป็นไง

    เหมือนกับสามคดีที่ผ่านมา เหยื่อถูกซ้อมอย่างรุนแรงก่อนจะโดนฆ่า แต่ที่ฉันไม่เข้าใจก็คือทุกคนไม่ได้ถูกมัด พวกเขายอมให้คนร้ายลงมือโดยไม่มีการต่อสู้ขัดขืนได้ยังไง

    คนร้ายอาจจะมีปืน แต่ก็นะผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียวแค่เห็นมีดก็คงจะกลัวจนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกแล้ว

    กวินพูดพลางมองเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานที่กำลังหย่อนอาวุธสังหารลงในถุงพลาสติกและถอนใจ

    ฉันเคยทำคดีโหดๆมาหลายครั้งแต่ไม่เคยเจออะไรที่มันน่ากลัวขนาดนี้ มันรุนแรงเหมือนคดีฆาตกรรมของต่างประเทศเลย   

    เขาพูดพร้อมกับทำหน้าเหมือนกำลังพบกับเรื่องที่น่าสยดสยอง กฤตชัยมองร่างในห่อผ้าขาวที่กำลังถูกนำออกไปจากห้องพร้อมกับพูดเสียงเรียบ

                ความรุนแรงมันมีอยู่ทุกที่กวิน เพียงแต่เราจะให้ความสนใจและแก้ไขหรือปล่อยผ่านเลยไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเท่านั้นเอง

                นายตำรวจหนุ่มก้าวออกจากห้องเมื่อพูดจบ กวินรีบเดินตามและถามด้วยความแปลกใจ

                นายจะไปไหน

                สถานีตำรวจ ฉันอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้นในท้องที่ย้อนหลังไปซักหกเดือน ส่วนนายตามศพไปที่นิติเวช

                ให้ฉันไปที่นั่นทำไม

                กวินถามด้วยความสงสัยกฤตชัยจึงหันมาตอบ

                ตามผลตรวจสารพิษจากเลือดของผู้เคราะห์ร้าย ฉันรู้ว่ามันต้องใช้เวลาแต่ถ้าไม่มีคนคอยกระตุ้นก็ต้องรออีกสองหรือสามวันถึงจะรู้ผล

                เหตุผลของเพื่อนทำให้กวินเบ้หน้า

                ฉันจะเอาอะไรไปบังคับพวกเขา

              กฤตชัยมองอีกฝ่ายด้วยสายตารู้เท่าทันก่อนจะหันไปเปิดประตูรถพร้อมกับพูด

                รอยยิ้มของนายไง

              คำพูดเชิงหยอกจากคนที่แทบไม่ค่อยจะได้ยิ้มอย่างกฤตชัยทำให้กวินขำจนอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขายืนมองรถของเพื่อนที่กำลังเคลื่อนห่างออกไปก่อนจะหันกลับไปที่รถของตัวเอง เมื่อเข้าไปนั่งและติดเครื่องยนต์แล้วชายหนุ่มจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสารพิษ หลังจากนัดแนะเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาจึงเดินทางออกจากที่นั่นมุ่งหน้าตรงไปยังสถาบันนิติเวชซึ่งอยู่กลางเมือง

     

    */*/*/*/*

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×