Let me take care you! [TiwaxGiyul] - Let me take care you! [TiwaxGiyul] นิยาย Let me take care you! [TiwaxGiyul] : Dek-D.com - Writer

    Let me take care you! [TiwaxGiyul]

    เพราะข้าวเหนียวหมูทอดที่ทำจากใจของเธอ กลับกลายทำให้เขาต้องเข้าโรงพยาบาลซะนี่

    ผู้เข้าชมรวม

    1,668

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.66K

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    14
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 เม.ย. 58 / 21:13 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

     

    ฟิคสั้นหลังจากห่างหายจากวงการแต่งนิยายมานานTT

    ถือว่าเป็นการปัดฝุ่นฝีมือก่อนเริ่มเรื่องยาวของคู่นี้นะก๊ะ

    ไรเตอร์ชื่อมุก อายุ18ปีจ้า/แก่จัง- -

    ยินดีที่ได้รู้จักกับผู้อ่านทุกท่านนะฮ๊าฟฟฟ

    © themy  butter
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Let  me take care you

      TiwaXGiyul

      *อ้างอิงเนื้อเรื่องจากลาฟลอร่า ฮันนี่แรลลี่ เล่ม8 ประกวดงานฝีมือเลื่องลือหัตถศิลป์

       

                  “อ๊ากกกกก ทำไมมันยากนักนะ”เสียงบ่นออกจากปากเด็กสาวที่ทำท่าจะคว่ำโต๊ะตรงหน้าอย่างหัวเสียง เธอคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกลนอกจาก ทิวา สาวน้อยสัญชาติไทยที่ดันพลาดปากไปท้าสู้กับเจ้าหญิงแห่งอาณามิเอเล่เพื่อคฑาแห่งพรอบโพลิส หัวใจที่รักความยุติธรรมอย่างทิวาที่ทนสู้มาตลอดจะยอมให้คนมาตัดหน้าแย่งไปง่ายๆอย่างนั้นหรือจะมียอม แต่โชคร้ายที่โจทย์ในการแข่งขันครั้งนี้กลับเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากความสามารถของเธอยิ่งนัก

                  “ช่วยไม่ได้นะ งานฝีมือไม่ใช่ของถนัดของเธอเลย อดทนหน่อยนะทิวา”

                  “อย่าเพิ่งท้อนะ พวกเราทีมเดียวกัน ฉันเชื่อว่าทีมของเราจะชนะ”

                  “มนุษย์อย่างเราสามารถทำได้ทุกอย่างถ้าได้ฝึกฝนมันอย่างดี  กระผมเชื่อว่าคุณทิวาจะทำมันได้สำเร็จแน่นอนครับ”

      เสียงพูดปลอบใจจากเพื่อนร่วมทีมอย่างโรซารี่และซิงซิง รวมทั้งฮอรัสที่มาสอนร้อยลูกปัดก็พอจะสร้างกำลังใจให้คนอย่างทิวาอยู่ได้บ้าง ตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมาสำหรับการฝึกงานฝีมือ ไม่ว่าจะเป็น แกะสลักผลไม้ ตัดกระดาษแบบจีน ถักนิตติ้งโครเชต์ และร้อยลูกปัดแบบอียิปต์ ก็ยังไม่มีสิ่งไหนที่ทิวาจะทำได้ดีซักอย่าง  แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มหัวเราะให้กับคนรอบข้าง แต่หารู้ไม่ว่าในใจของทิวานี่กลับท้อและห่อเหี่ยวแบบสุดๆ

                  “ว่าแต่ อากียุลจะเป็นยังไงบ้างน่อ ล้มไปอย่างงั้นจะซี๊ไหมน่อ”

                  ประโยคคำถามของเหมยฮัวที่กล่าวถึงบุคคลที่3อย่างกียุลนั้นทำให้ทิวาถึงกับชะงัก  ก็แน่หล่ะ เขาต้องถูกหามเข้าโรงพยาบาลก็เพราะข้าวเหนียวหมูทอดของเธอนะซิ

                  “เห็นว่าอาหารเป็นพิษน่ะครับ  มีไข้ด้วย ตอนนี้ก็ให้อเล็กเซไปเฝ้าอยู่ครับ”

                  “อาหารของยัยลิงนี่น่ากลัวที่สุด  ดีนะที่ฉันไม่กินเข้าไป  โชคร้ายของหมอนั้นสุดๆ” ทุกคนได้ยินคำตอบของฮอรัสก็ล้วนสยองในความโหดร้ายของอาหารที่ทิวาทำ  เจ้าตัวต้นเหตุก็ได้แต่ก้มหน้างุดอยู่อย่างนั้น ใครจะไปคิดแหละว่าอาหารที่เธอทำมันจะอันตรายขนาดนั้น ทั้งๆที่มีเจตนาดีแท้ๆกลับกลายเป็นเธอจะได้ฆ่าคนแล้วหรือเนี่ยยย

                  “ก็ใครจะคิดว่าตานั้นจะกินเข้าไปแหละ....”

                  “อย่างน้อยก็ไปดูอาการคุณกียุลหน่อยไม่ดีหรอค่ะคุณทิวา”

                  “ให้ฉันไปเยี่ยมตาขี้เก๊กนั้นนะหรอ?.....”

       

                  สองขาเล็กๆของเธอพาตัวเองมาอยู่หน้าโรงพยาบาลในตัวเมืองของอาณาจักรพรอบโพลิส สองมือของทิวาที่เต็มไปด้วยของเยี่ยมจากเพื่อนๆสุดที่รักที่ฝากไปให้กียุล ข้าวของที่เยอะเกินความจำเป็นทำเอาทิวาถึงกับปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้า  แม้ว่าเธอจะชวนใครมาด้วยแต่สุดท้ายก็ได้คำตอบที่ว่า...

                  ลื้อเป็นต้นเหตุน่ออาทิวา

                ทิวาได้แต่ยิ้มอ่อน(?)ให้กับเพื่อนๆของเธอที่ล้วนปฏิเสธการมาโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเธอ ถึงอยากจะตะโกนด่ากลับแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้กียุลเข้าโรงพยาบาลจริงๆ  กว่าจะได้หยุดพักจากการฝึกงานฝีมือทั้งหลายก็เล่นเอาซะเกือบค่ำ  ถึงจะเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ทิวาก็เลือกที่จะมาโรงพยาบาลในคืนนี้ทันที

                  “ถือซะว่าเป็นการขอโทษตานั่นก็แล้วกันนะ...”        

                 

                  พยาบาลเดินนำมาห้องผู้ป่วยก่อนจะโค้งเดินจากไป ทิ้งให้ทิวายืนมองประตูห้องที่แขวนป้ายชื่อผู้ป่วย คิม กียุลไว้  เธอได้แต่ทำท่าลังเลอยู่นานก่อนจะสูดหายใจเต็มปอดแล้วเคาะประตูตามมารยาท

                  ก๊อก ก๊อก

                  ...ไม่มีเสียงตอบรับจากคนในห้อง อเล็กเซก็กลับที่พักไปแล้ว หรือว่าหลับอยู่นะ

                ทิวาถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปทันที ภาพเบื้องหน้าคือห้องพักผู้ป่วยสีขาวสะอาดที่มีเตียงคนไข้อยู่กลางห้อง ทิวารีบวางของเยี่ยมไว้บนโต๊ะรับแขกก่อนจะเดินไปที่เตียงคนไข้  ใบหน้าซีดเซียวและสายน้ำเกลือที่ผูกโยงของกียุลทำเอาทิวาใจหายวูบ

                  “นี่นายหลับอยู่หรอ ฉันมาเยี่ยมนายแล้วนะ”

      ทิวาพูดเสียงเบาราวกับกระซิบเพราะกลัวจะทำให้คนป่วยนั้นตื่น เธอเดินไปยกเก้าอี้มานั่งข้างเตียงพร้อมหยิบส้มมาปลอกกิน(เดี๋ยวนะ นั่นมันของเยี่ยมนะทิวา- -) แม้จะเป็นของเยี่ยมเธอก็ไม่สนเพราะคนที่ต้องกินดันหลับอยู่ จะเก็บไว้ก็กลัวเสียของ สู้มาเติมพลังให้ทิวาจะดูมีประโยชน์กว่า ถึงแม้มือจะแกะส้มแต่สายตาของเธอกลับจดจ้องอยู่กับคนที่อยู่บนเตียงแทน

      .....ตอนหลับก็ดูหล่ออยู่นะตานี่-/////-

      ก่อนที่ความคิดจะไปไกลกว่านี้ ทิวาเลยเก็บสายตาของตัวเองกลับมาหาส้มที่อยู่ในมือ ความเงียบของห้องพักบวกกับความเหนื่อยที่สะสมมาทั้งวันทำเอาทิวาหลับฟุบลงไปกับเตียงคนไข้ที่อยู่ตรงหน้าทันที (โถถถ ส้มยังไม่ได้กินเลยนะทิวา)  กียุลที่หลับอยู่ถึงกับรู้สึกตัว เขาค่อยลืมตาขึ้นก่อนจะยกตัวขึ้นมานั่ง มือหนาเอื้อมไปเขย่าร่างเล็กที่ฟุบทับตัวเขาอยู่

      “น..นี่ยัยลิง...”เสียงที่แหบแห้งของคนป่วยอย่างกียุลไม่มีทางผ่านเข้าไปในหูของลิงขี้เซาอย่างทิวาเป็นแน่  เขาจึงเพิ่มแรงเขย่าขึ้นเรื่อยๆ

      “ย..ยัยลิง...ตื่น...”

      โคร้มมมม

      “โอ๊ยยยยยยยย”  เพราะนั่งไม่ดี สุดท้ายทิวาก็ร่วงตกเก้าอี้จนตื่น  เล่นเอาซะเธอตาสว่างทันที

      “ตื่นแล้วหรอยัยลิงขี้เซา”

      “โอ๊ยยยย นี่นายผลักฉันใช่ไหม”

      “ถ้าเธอคิดว่าคนป่วยอย่างฉันมีแรงขนาดนั้นก็แล้วแต่นะ แค่กๆๆๆ- -“  

                  ใบหน้าที่ซีดขาวพร้อมเสียงไอของกียุลทำให้ทิวาถึงกับหยุดโวยวาย เธอยกเก้าอี้ขึ้นและไม่ลืมจะหยิบส้มลูกเดิมที่ร่วงขึ้นมาด้วย นิสัยชั่งกินนี่ทำให้เธอเป็นคนขี้เสียดายของกินซะด้วย

                “ของมันตกพื้นแล้วก็อย่ากินเลย ไปเอาลูกใหม่มากินซะยัยลิง” แม้จะเป็นคนป่วยแต่นิสัยชั่งห่วงของเขาก็ไม่ได้น้อยลงเลย ทิวาทำหน้าเสียอารมณ์กับคำพูดของคนป่วย แต่สุดท้ายก็ยอมลุกไปหยิบลูกใหม่มากิน ท่าทางของคนตรงหน้าทำเอากียุลอดยิ้มไม่ได้ แม้ตาของเขาจะพร่ามัวเพราะพิษไข้ก็ตาม

                  “พูดได้เยอะขนาดนี้นี่หายแล้วใช่ไหม” ทิวากลับมานั่งที่เดิมพร้อมส้มเต็มมือ  เธอวางกองส้มไว้บนเตียงก่อนจะเอามือรวบผมหน้าม้าของตนพร้อมยื่นหน้าไปใกล้อีกคน มืออีกข้างก็ยื่นไปเปิดผมหน้าม้าของคนป่วย หน้าผากทั้งสองแตะเข้าหากัน  จมูกเล็กเฉียดใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกคน ดวงตาสีน้ำเงินเบิกกว้าง หัวใจเขาเต้นระรัว ไม่รู้ว่าพิษไข้หรือคนตรงหน้ากันแน่ที่ทำให้หน้าที่ซีดขาวของเขาขึ้นสีแดงได้ขนาดนี้ กียุลรีบยกมือดันหัวอีกคนออกไปก่อนที่เสียงหัวใจเขาจะดังเกินไปว่านี้

                “ทะ  ทะ ทำอะไรของเธอน่ะ”

                  “ก็วัดไข้ไง  นายตัวร้อนจี๋เลย... นี่หน้าแดงด้วย ดูท่าไข้จะขึ้นนะตาแว่น”

                  “ยะ ยะ ยากับน้ำอยู่ที่โต๊ะ”

                  กียุลรีบหันหน้าหนีอีกคนทันที ทิวาเดินไปยกถาดยากับเหยือกหน้ามาให้ เธอรินน้ำใส่แก้วพร้อมยื่นยาให้อีกคน   กียุลรับยามาอย่างว่าง่าย เขารีบกลืนยาลงคอพร้อมดื่มน้ำตาอย่างรวดเร็วก่อนจะเอนตัวลงนอนทันที  พยายามข่มตาหลับเพื่อสงบเสียงหัวใจที่เต้นเร็วของเขาด้วย  ทิวากลับออกมาจากห้องน้ำพร้อมอ่างน้ำและผ้าขนหนู  มือเล็กหยิบผ้าจุ่มน้ำแล้วบิดพอหมาด ก่อนจะเอาไปวางไว้บนหน้าผากของคนป่วยพร้อมรอยยิ้ม

                  “นายนอนซะเถอะตาแว่น  ฉันไม่กวนแล้ว....”

                     

                      เพราะพิษไข้หรือคนเฝ้าคืนนี้ทำให้คนป่วยอย่างกียุลนอนไม่หลับ ไม่ต้องบอกว่าเขาดีใจแค่ไหนที่ได้ยัยลิงมาเยี่ยม แต่นั่นก็ทำให้เขาไข้ขึ้นด้วยเช่นกัน กียุลยันตัวลุกขึ้นนั่ง ภายในห้องพักที่มืดมีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาพอให้แสงสว่าง  เขาเอื้อมมือไปลูบหัวทิวาที่หลับอยู่ตักเขา

      ...สุดท้ายก็ฟุบหลับคาเตียงไข้คนจนได้ แทนที่จะไปนอนที่โซฟาดีๆ

                  กียุลพอจะรู้ว่าตอนนี้ทิวาต้องฝึกทำงานฝีมือตามโจทย์แข่งขันรอบนี้ ตอนได้รู้ว่าหัวข้อการแข่งขันคืองานฝีมือเขาแทบจะกระชากสายน้ำเกลือแล้วออกไปแข่งแทนทิวาให้รู้แล้วรู้รอด เพราะเขารู้ว่าลิงกังกับความละเอียดอ่อนมันไปด้วยกันไม่ได้!!!!  พอได้เห็นมือเล็กที่เต็มไปด้วยพลาสเตอร์ยาติดอยู่ยิ่งทำให้เขารู้สึกอดห่วงไม่ได้จริงๆ แม้ว่าสุดท้ายจะรู้ว่ายังไงทิวาก็ต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน  กียุลจับมือเล็กนั้นก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงเป่ามนต์วิเศษแบบที่เด็กๆชอบทำกันลงที่มือนั้น

                  “ฉันเชื่อว่าเธอทำได้นะยัยลิง”

                  มือหนาที่มือสายน้ำเกลือติดอยู่ได้แต่ลูบนิ้วเรียวเล็กก่อนจะลูบหัวของคนตรงหน้าที่หลับอยู่อย่างเบามือ แสงจันทร์ส่องใบหน้าของทิวาให้กียุลได้เห็นอย่างเด่นชัด ยัยลิงที่ขี้โวยวายเมื่อหมดฤทธิ์ก็กลายเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาที่ออกจะน่ารักซะด้วยซ้ำ  แววตาคมจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเรียวเล็กนั้น กียุลโน้มตัวยื่นใบหน้าไปใกล้ ริมฝีปากสัมผัสหน้าผากมนก่อนจะถอนออกพร้อมรอยยิ้ม มีเพียงเขาและดวงจันทร์เท่านั้นที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้......

       

                  หลายวันล่วงเลยผ่านไปจนถึงกำหนดวันแข่งขันแต่กียุลก็ยังต้องนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลอยู่ดี ไม่ใช่ว่าอาการจะทรุดลงแต่ก็อยู่ในระดับทรงตัว หลังจากได้คนเยี่ยมชั้นดีอย่างทิวามาดูแลอยู่หนึ่งคืน ไข้ก็ไม่ขึ้นสูงอีกเลย ไม่รู้ว่าเพราะยาดีหรือคนดูแลดีกันแน่

                  “กียุลคิดว่าใครจะชนะครับ? อีกฝ่ายเป็นถึงเจ้าหญิงของอาณาจักรนี้เลยนะครับ” อเล็กเซที่วันนี้ผลัดเวรมาเฝ้าไข้นั่งเฝ้าอยู่หน้าจอโทรทัศน์ที่วันนี้มีการถ่ายทอดการแข่งขันลาฟลอร่าฮันนี่แรลลี่รอบพิเศษ กล้องถ่ายทอดจับอยู่ที่หัวหน้าทีมทั้งสองฝั่ง แววตาสีทับทิมส่องประกายมุ่งมั่นทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้อย่างกียุลกระตุกยิ้มมุมปากอย่างไม่รู้ตัว

                  “ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเจ้าหญิงว่าที่องค์รัชทายาทของอาณาจักรนี้ก็เถอะ ยังไงซะ เจ้าหญิงลิงกังของฉัน ก็ไม่มีทางแพ้หรอก นายเชื่อฉันไหม....อเล็กเซ”

                 

       

      การแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของทิวาตามที่กียุลพูดไว้ ดวงตาสีน้ำเงินหม่นลงเพราะความอ่อนล้า ภาพของคนตัวเล็กที่โยนขึ้นจากกลุ่มคนที่เข้ามาแสดงความดีใจฉายอยู่หน้าจอโทรทัศน์ ความกังวลในใจคนป่วยนั้นหมดสิ้นเพียงได้ให้รอยยิ้มที่สดใสนั้น กียุลทรุดตัวลงนอนเป็นเตียงนั้นดวงตาคมหลับลง และเขาก็พลาดเรื่องราวต่อจากนั้น....

       

      จบแล้ว55555555555555

      เนื้อเรื่องต่อจากนี้ก็ตามในหนังสือนะก๊ะ55555555555

      คนเม้นไม่มีเลย กำลังใจหดหายสุดๆ อย่างงี้จะเปิดเรื่องยาวดีไหม5555

      ยังไงก็จะเปิดเรื่องยาวแน่นอน รอติดตามกันด้วยนะเคอะ

      ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า>< 

                  

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×