Secret love 1
ณ ตึก VTC ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศ บริษัทพ่อพันธุ์ผู้ผลิตนักร้องไอดอลทั้งหนุ่มและสาวชื่อดังมากมายผู้ประสบความสำเร็จระดับโลก
น้ำขุ่น กำบัตรพนักงานในมือไว้แน่น เรียวตาคู่สวยแหงนมองไปยังยอดสูงสุดของตึก เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะแสกนบัตรและเดินเข้าประตูด้วยความมั่นใจ
หลังจากได้มีการเผยแพร่รูปภาพของเธอบางส่วนออกไปยังโลกออนไลน์ ชาวเน็ตแห่กันให้ความสนใจเธอกันอย่างล้นหลามในฐานะ ศิลปินน้องใหม่ของค่าย เธอถูกเปิดตัวให้เป็นหนึ่งในสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปด้วยภาพลักษณ์สาวเท่และอ่อนหวานซึ่งได้แสดงให้เห็นผ่านซิงเกิ้ลแรก อย่าง crazy to hot ที่ประสบความสำเร็จและทำลายสถิติเป็นสี่สาวรุกกี้ที่ยอดวิวสูงสุดใน24ชั่วโมง และได้รับรางวัลถ้วยแรกเร็วที่สุดภายในระยะเวลา1สัปดาห์ ดันราคาหุ้นของVTC พุ่งสูงขึ้นมากกว่า20%
เป็นเวลา2เดือนผ่านไปแล้วที่เธอทำงานราวกับมาราธอน ต้องตื่นมาพบกับตารางงานที่แน่นฉ่ำๆเป็นกิจวัตรประจำวัน เจ็ดโมงถ่ายแบบ บ่ายสองอัดโชว์เคส ห้าโมงถึงสองทุ่มถ่ายวาไรตี้ สามทุ่มลากยาวถึงเที่ยงคืนนั่งหลังขดอยู่ในห้องอัด และวันนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในวันที่เธอยังต้องทำงานอยู่ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ทำให้ ใต้ตาที่ถูกบำรุงอย่างดีคล้ำลงได้
น้ำขุ่นแต่งตัวด้วยลุคสบายๆ ในชุดสายเดี่ยวมีระบายสีขาวสวมทับด้วยคาดิแกนไหมพรมสีม่วงกับกางเกงยีนส์ตัวโปรด ไหล่สวยประดับด้วยกระเป๋าไหมพรมพร้อมพวงกุญแจดอกไม้สีขาวเข้าชุด รองเท้าคล็อกสีขาวตกแต่งด้วยจิ๊บบิทซ์สีสดใสพาเท้าคู่เล็กรีบเดินเข้าไปยังลิฟต์ที่กำลังจะปิดอยู่ตรงหน้า ในขณะที่ลิฟต์กำลังจะปิดนั้น ก็ได้ชายหนุ่มรุ่นพี่รั้งประตูเอาไว้ น้ำขุ่นรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อไม่ให้เจ้าของมือขาวนั้นรอนาน
"พี่ดีน สวัสดีค่ะ" เสียงหวานเอ่ยพร้อมฉีกยิ้มให้กับรุ่นพี่หนุ่มที่ปกติแทบจะไม่ได้เฉียดมาใกล้กันด้วยตารางงานของทั้งคู่ที่ต้องโยกย้ายสถานที่ทุกสองชั่วโมง แต่ทว่าวันนี้มีข้อความจากผู้บริหารสูงสุดหรือประธานเสให้ศิลปินในสังกัดทุกคนเข้าประชุมเพื่อวางแผนโปรเจ็กต์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
"มาเช้าจังนะครับน้องขุ่น"
"พอดีว่าวันนี้ตื่นเร็วน่ะค่ะหรือไม่ได้นอนก็ไม่รู้พี่ดีนทานข้าวหรือยังคะ" เธอตอบกลับอย่างติดตลกด้วยความคุ้นเคย ดีน เป็นหนึ่งในสมาชิกวงบอยแบรนด์ที่เธอตกหลุมรัก และเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอสมัครออดิชั่นเข้ามาที่นี่ แถมรุ่นพี่หนุ่มมักจะซื้อของอร่อยๆมาแบ่งปันรุ่นน้องอย่างพวกเธออยู่เสมอ และเพราะคำแนะนำของดีน จึงทำให้เธอผ่านความยากลำบากของการเป็นศิลปินในช่วงแรกมาได้อย่างสวยงาม
"เรียบร้อยแล้วครับ พี่ซื้อชานมไข่มุกมาเอาไว้ดื่มตอนฟังประทานเสบ่นนะ"
"ฮู้ยย ขอบคุณค่ะ พี่ดีนนี่ใจดีตลอดเลย"
เธอรับแก้วชานมร้านดังเอาไว้ในมือ และบทสนทนาของทั้งสองก็จบลงเมื่อลิฟต์เปิด ดีนเดินนำน้ำขุ่นเข้าไปยังห้องประชุมที่อยู่ด้านในสุดของทางเดิน ระหว่างนั้นดีนก็ไม่ลืมแจกน้ำให้กับศิลปินท่านอื่นที่เดินสวนกันมาพอดี
เมื่อเปิดประตูก็พบกับห้องขนาดใหญ่ที่จุคนได้มากถึง40คน ผนังห้องถูกทาเป็นสีดำ ตกแต่งด้วยฝ้าหลุมที่ซ่อนไฟLEDสีฟ้าเอาไว้ ตรงกลางประดับด้วยไฟเล็กๆ พอให้มีแสงสลัวๆสไตล์เจ้าของตึก โต๊ะและเก้าอี้ถูกจัดเป็นรูปแบบของตัวU หันไปทางหน้าห้องโดนเว้นจุดกึ่งกลางเอาไว้เพื่อไม่อึดอัดจนเกินไป น้ำขุ่นเดินเข้าไปนั่งกับสมาชิกที่มาถึงก่อนหน้าแล้ว
"มาแล้วหรอคะลูกสาว" มายด์ พี่ใหญ่ตำแหน่งนักร้องหลักเอ่ยทักเมื่อน้องเล็กน้ำขุ่นนั่งลงข้างๆ
"มาแล้วค่ะคุณแม่ แล้วก็ไม่ลืมซื้อครัวซองชีสที่คุณแม่ชอบมาฝากด้วย" น้ำขุ่นหยิบซองกระดาษออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้พี่สาวที่ผันตัวมาเป็นแม่ แต่แล้วก็ไม่พ้นสายตาของพี่คนรองอย่างไอริน
"นี่ไอเด็ก แล้วของพี่ล่ะ"
"ไม่มีค่ะ เพราะขุ่นไม่ได้ซื้อมา" น้ำขุ่นหันมาตอบด้วยรอยยิ้ม ไอรินเป็นพี่สาวขี้แกล้งและมักจะหยอกเล่นกับน้องเล็กเป็นประจำ เธอดึงดูดผู้คนด้วยเสียงแร็ปและเพอร์ฟอร์มสุดเท่ขัดกับลุกสาวสวยจมูกพุ่งที่น่าถนุถนอม
"ก็เข้าใจแหละว่าไม่ได้ชื่อมายด์"
"แหม ไม่ต้องเลย ทำอย่างกับพี่ไอรินกินข้าวเช้าอย่างงั้นแหละ"
ใช่..ไอรินเป็นคนไม่กินข้าวเช้าและจะดื่มแค่อเมริกาโน่เย็นหนึ่งแก้วเท่านั้น ส่วนพี่อีกคนอย่างอันปันแค่ให้ตื่นนอนยังยาก เพราะทุ่มเทพลังงานไปกับการทำงานทั้งหมดแล้ว
"ก็วันนี้พี่อยากกิน"
"งั้น..เดี๋ยวขุ่นลงไปซื้อกาแฟให้ดีไหมคะ จะได้สดชื่น" น้ำขุ่นคว่ำปากแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงประชด
"เอาสิ"
"นี่ๆ พอเลยไอรินอย่าแกล้งน้อง" และก็เป็นมายด์อีกครั้งที่คอยห้ามปรามศึกระหว่างพี่น้อง
บรรยากาศภายในห้องกลับมาเงียบอีกครั้ง เมื่อผู้บริหารและเหล่าโปรดิวเซอร์ทยอยเดินเข้ามา ตามด้วยศิลปินรุ่นพี่ที่มีกระแสโด่งดังมากๆในตอนนี้ น้ำขุ่นละสายตาจากไอรินและมายด์มองไปยังกลุ่มคนผู้มาใหม่ จนกระทั่งพวกเขานั่งลงประจำที่ของตัวเอง เธอก็ยังคงมองหาใครบางคนที่ไม่ได้มาพร้อมกับกลุ่มคนเหล่านั้น
แรงบัลดาลใจที่ทำให้เธอรักในการร้องเพลง คนที่ทำให้เธอตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อที่อยากให้เขาคนนั้นเห็นเธอในร่างศิลปินที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ถึงแม้จะเดบิ้วมาได้2เดือนแล้ว ก็ยังไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอได้พูดคุยกับรุ่นพี่คนนั้นเลยสักครั้ง เธอได้มีโอกาสเจอเขาตามงานประกาศรางวัลแต่ก็ทำได้เพียงมองอยู่ห่างๆ
"วันนี้พี่ธามม์ไม่มาหรอคะ" เมื่อเห็นใบหน้าสวยของน้องสาวหงอยลง คนเป็นพี่ผู้รู้ทุกอย่างอย่างไอรินจึงเอ่ยถาม
"นั่นสิ นายรู้ไหมว่าเขาไปไหน ริว " ประธานเส ได้ยินเสียงของไอรินจึงหันไปถามริวที่นั่งถัดไปจากตน ชายหนุ่มหน้าหวานผมสีบลอนด์หนึ่งในสมาชิกคนสนิทของธามม์
"ไม่รู้สิครับ เห็นว่าไม่สบายไม่แน่ใจว่าจะเข้ามารึปล่าว" เรียวปากชมพูสุขภาพดีเอ่ยตอบกลับเจ้านายตนเป็นภาพที่งดงามดั่งเจ้าชายในนิยายที่ผู้หญิงหลายคนใฝ่ฝั่น
"งั้นหรอ ถ้าไม่สบายก็ไม่ต้องตาม ให้เขาพักผ่อนไปเถอะ"
"ดีน หลังจบประชุมนายก็ช่วยไปบอกเขาหน่อยละกัน" ประโยคหลังประธานเสก็ได้หันไปพูดกับพี่ใหญ่ที่พ่วงตำแหน่งหัวหน้าวงอย่างดีน
"ครับ"
สิ้นเสียงตอบรับของชายหนุ่ม โปรเจคเตอร์หน้าห้องก็ได้สว่างขึ้น ปรากฏเป็นข้อความที่ถูกตกแต่งอย่างมีสีสัน ประธานเสก็ได้ลุกขึ้นสาธยายถึงจุดประสงค์ของการรวมตัวกันในครั้งนี้ในหัวข้อ Family concert
"เนื่องจากมีกระแสเรียกร้องจากแฟนคลับหลายๆท่านถึงการจัดเวิล์ดทัวร์ของศิลปินในค่ายเรา ฉันคิดว่ามันน่าสนใจก็เลยได้มีการหาลือกับโปรดิวเซอร์หลายๆท่านแล้วทุกคนก็เห็นดีด้วย วันนี้จึงอยากมาแจ้งให้ทุกคนทราบ ถึงการจัดคอนเสิร์ตรวมโดยจะจัดขึ้นในวันครบรอบวันเกิดค่ายในเดือนมิถุนายนของปีหน้า"
น้ำขุ่นได้ยินดังนั้นก็หันไปจับมือดีใจกับพี่ๆ ในตอนที่เธอเป็นแค่เด็กฝึกเธอเคยคิดถึงภาพที่ตัวเองได้ร่วมงานกับศิลปินรุ่นพี่คนอื่นๆในค่ายราวกับว่าความฝันของเธอกำลังจะเป็นจริง เธอและมายด์ยิ้มให้กันก่อนหันไปฟังริวที่กำลังพูดขึ้น
"ผมเห็นด้วยนะครับ จัดคอนเสิร์ตด้วยกันเยอะๆสนุกดี"
"ผมด้วย อยากร่วมงานกับน้องๆมานานแล้ว"
ทันบีเอ่ยสมทบหลังจากที่นั่งฟังมานานและหันไปยิ้มสดใสให้กับรุ่นน้องฝั่งตรงข้ามทำเอาเหล่าศิลปินสาวๆในห้องคนอื่นๆบิดตัวเขิน
"เราจะมีเวลาแค่3เดือนในการซ้อมการแสดงทุกอย่าง มันอาจจะเร็วไปหน่อยแต่ก็ฝากทุกคนด้วย ผมจะให้เมเนเจอร์ของทุกคนจัดสรรเวลางานให้ตรงกันมากที่สุด เพื่อที่จะสะดวกต่อการซ้อม "
ประธานเสพูดขึ้นอธิบายต่อ เนื่องจากเป็นการตัดสินใจที่กระชั้นชิดมาก ทำให้อะไรหลายๆอย่างรวดเร็วไปหมด แต่เขาก็ยังเชื่อในความสามารถของศิลปินคุณภาพทุกคนว่าจะทำการแสดงออกมาได้อย่างดี
"งั้นก็จบประชุมแค่นี้ ขอบคุณทุกคนมาก"
เสียงเก้าอี้ขยับดังครืกคราก หลังประธานเสกล่าวลาและเดินนำออกจากห้องไป คนอื่นๆก็ทยอยเดินตามออกไปด้วย น้ำขิงลุกขึ้นเก็บของใส่กระเป๋า กับซองขนมที่กินขณะประชุมใส่ถังขยะ พี่มายด์ก็พยักหน้าพร้อมเดินออกไปแต่ขาที่กำลังก้าวเดินก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของทันบีดังขึ้น
"เดี๋ยวก่อนนะทุกคน พี่ว่าวันนี้เราไปกินหมูกระทะกันดีกว่า" "เดี๋ยวพี่ริวเลี้ยงเอง" แขนขาวโอบไหล่คนเป็นพี่ หมูกระทะหัวละไม่กี่ร้อยทำอะไรขนหน้าแข้งพี่ชายเขาไม่ได้หรอก
ถ้าจะพูดออกจากปากตัวเองคนก็จะหาว่าอวยเกินไป แต่วงพวกผมนี่ต้องยอมรับว่าเป็นศิลปินอันดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้ เป็นวงที่มียอดสตรีมเพลงในสปอดิฟายสูงที่สุด และรางวัลอีกมากมายนับไม่ถ้วน รายการวาไรตี้ทั้งในและนอกประเทศต่างก็ต้องการตัว แถมยังได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอีกด้วย
"เฮ้ย ได้ดิ" คนรวยอย่างริวตอบรับอย่างไม่ต้องคิด
"ฮู้ย ป๋าริว รวยจังเลยนะครับ" พี่ดีนเอ่ยแซวก่อนจะหันไปหาร่างสูงอย่าง คัง ที่นั่งนิ่งเงียบไม่ปริปากพูดอะไรตั้งแต่เข้าห้องมาจนจบการประชุม
"เอาไงไอเสือ ไปด้วยมั้ยเรา"
"ไม่..ง่วง"
เป็นคำตอบที่คาดเดาได้ไม่ยากของคัง น้ำขุ่นเฝ้ามองไอดอลในดวงใจของเธออยู่ห่างๆพรางอมยิ้ม พี่คังในภาพจำของเธอเมื่อครั้งยังเป็นเด็กเป็นคนอ่อนหวานมาก ยิ้มหวาน เป็นหนุ่มอบอุ่นของเหล่าแฟนคลับ แต่หลังกล้องพี่เขาไม่ยิ้มและแทบจะไม่พูดอะไรเลย แต่เธอก็สัมผัสได้ว่าพี่ตังเป็นคนใจดี
"งั้นพวกเราไปกันเถอะ" ริวหันมาพูดกับพวกเธอและเดินนำออกไป เมื่อลิฟต์พาคนทั้งแปดคนลงมายังชั้นล่างของตึก คังและอันปันก็ขอตัวแยกออกไปคนละทาง แต่น้ำขุ่นกลับไม่ได้สนใจทั้งสองคนที่เดินจากไป หัวใจแอบเต้นระรัวเร็วขึ้นหลายจังหวะเมื่อได้ยินบทสนทนาของรุ่นพี่ทั้งสองคน
"ริว นายลองชวนธามม์ด้วยสิ เผื่อมันจะมา" ดีนที่เดินประกบคู่กับทันบีหันมาพูดกับริว ถามว่าทำไมเขาถึงไม่โทรเอง เพราะว่าไม่มีเบอร์โทรศัพท์หมอนั่นน่ะสิ
น้ำขุ่นเฝ้ารอคำตอบจากริวอย่างคาดหวัง
"ผมแชทถามแล้ว มันบอกไม่ไป" เหมือนหัวใจหดตัวลงเมื่อรุ่นพี่หนุ่มพูดจบ วันนี้เธอก็ยังคงไม่มีโอกาสเจอเขาสินะ
ดีน อาสาที่จะเป็นคนขับรถเองเพราะเห็นว่าคบจะสะดวกกว่าหากนำรถส่วนตัวไปเพียงคันเดียว
"ไง หน้าบูดเป็นตูดลิงเลยนะไอเด็ก อยากเจอพี่เขาหรอ"
"พี่ไอริน เดี๋ยวพวกพี่เขาก็ได้ยินหรอก" น้ำขุ่นหันไปมองค้อนคนสนิทข้างกาย ในขณะที่ทุกคนกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังโรงรถที่อยู่ชั้นใต้ดิน
"ไม่มีใครสนใจหรอกหน่า" ไอรินเข้าไปกอดคอน้องพร้อมพูดตอบ น้ำขุ่นตีไปที่แขนของไอรินเบาๆอย่างคนหมั่นไส้ ก่อนจะควานหามือถือสีชมพูคู่ใจ แต่ทว่าหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
"เฮ้ย เดี๋ยวนะ" เธอหยุดเดินก่อนจะตั้งใจหาดีๆ แต่โทรศัพท์ตัวดีกลับไม่โผล่ออกมาให้เห็น เธอคงจะลืมไว้ข้างบนจริงๆ เห้อ น้ำขุ่นยัยคนซื่อบื้อ
"มีอะไรกันหรอ" มายด์ที่เดินนำหน้าไปก่อนหันมามองน้องอย่างงุนงงก่อนจะเดินเข้ามาหา
"เหมือนว่าขุ่นจะลืมโทรศัพท์ไว้ข้างบนน่ะค่ะ" เธอตอบพร้อมทำหน้าเศร้า
"ยังไง ให้ไปเป็นเพื่อนไหม" ไอรินถาม
"ไม่เป็นไรค่ะ พวกพี่ไปก่อนเลยขุ่นจะรีบวิ่งลงมา ฝากบอกรุ่นพี่ด้วยนะคะ"
เมื่อเธอเห็นพี่ทั้งสองคนพยักหน้ารับคำตอบของเธอ ขาคู่เรียวสวยก็หันตัววิ่งกลับเข้าไปยังตัวตึก กระเป๋าสีน่ารักดูพลุงพลังทันทียามเมื่อแขนสวยกดปุ่มเรียกลิฟต์ด้วยความรีบรน เกรงว่ารุ่นพี่หนุ่มจะรอนาน เธอรีบพุ่งตัวออกมาทันทีเมื่อลิฟต์พาเธอมายังชั้นที่หมาย แต่ด้วยความไม่ระวังขณะที่วิ่งอยู่นั้น ร่างเล็กของน้ำขุ่นชนเข้าอย่างจังก็ชายหนุ่มที่เปิดประตูสวนกันมาพอดี แขนแกร่งกำยำคว้าตัวหญิงสาวเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างคนตกใจ
"พะ พี่ธามม์!"
????????????????????????????????????????????????????????????
สวัสดีค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ เรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นแรกของมุก ฝากทุกคนเอ็นดูด้วยนะคะ สามารถคอมเม้นท์ติชมกันได้เลยนะคะ เพื่อเป็นความรู้ให้กับมุกได้พัฒนาต่อไป
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น